View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 03/06/2014 7:24 pm Post subject: |
|
|
แนะคสช.3เงื่อนไขก่อนปัดฝุ่นรถไฟความเร็วสูง
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 3 มิถุนายน 2557 14:19
อดีตประธานกรรมาธิการการเงินฯ วุฒิสภาแนะ 3 เงื่อนไขก่อนคสช. ปัดฝุ่นโครงการรถไฟความเร็วสูง
นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตส.ว.สรรหา ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คว่าถ้าคสช.จะฟื้น 'รถไฟด่วนความเร็วสูง' จากโครงการ 2 ล้านล้านที่ตกไปก็ไม่ว่ากัน เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยคัดค้านตัวโครงการ แม้จะไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด เนื่องจากต้องการให้การคัดค้านโฟกัสอยู่ที่ประเด็นหลักที่สำคัญที่สุดคือวิธีการใช้เงินกู้นอกงบประมาณโดยการออกกฎหมายพิเศษ ซึ่งก็เป็นจุดยืนเดิมที่คัดค้านมาตั้งแต่โครงการไทยเข้มแข็งแล้ว
แต่ถ้าจะเป็น 'รถไฟด่วนความเร็วสูง' ขอให้อยู่ใน 3 เงื่อนไขเรียงลำดับจากง่ายไปยากดังนี้
1. ให้โครงการอยู่ในกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปรกติ และให้คำนึงถึงวิธีการอื่นนอกเหนือไปจากลงทุนเองทั้งหมดด้วย
2. ทำเฉพาะสายกรุงเทพ-หนองคาย เพื่อเชื่อมโยงต่อไปยังลาวและจีน อันจะเป็นการประสานกับจีนที่จะลงทุนสร้างในลาว
3. ออกกฎหมายเก็บภาษีลาภลอย หรือ Windfall (Profit) Tax เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเป็นธรรมให้สังคม
ส่วนรถไฟทางคู่นั้นแทบทุกคนเห็นด้วยอยู่แล้ว
ส่วนจะเรียกใครมาคุยเรื่องโครงสร้างคมนาคมพื้นฐาน ก็ขอให้คิดให้รอบคอบโดยคำนึงถึงภาพลักษณ์และความรู้สึกของประชาชนด้วย
อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่ความคิดริเริ่มของนักการเมือง เพียงแต่นักการเมืองไปหยิบสารพัดโครงการที่ระบบราชการประจำทำไว้อยู่แล้วมาใช้วิชาการตลาดปัดฝุ่นปรับแต่งให้ดูหรูเลิศเท่านั้น
ถ้าจะเรียกคุย ก็เรียกข้าราชการประจำถ้าจะเรียกนักการเมือง ก็ควรเรียกทุกฝ่ายให้เสมอภาคกัน เพราะสมัยรัฐบาลก่อนหน้ารัฐบาลที่ถูกควบคุมอำนาจบริหารก็เคยมีนโยบายมาแล้วแต่คนละรูปแบบ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44739
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 03/06/2014 12:08 pm Post subject: |
|
|
'คสช.' ปัดเชิญ 'อดีต รมต.' ให้ข้อมูล 'โครงการรถไฟฯ'
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 มิ.ย. 2557 11:55
"วินธัย สุวารี" รองโฆษก ทบ. แจงรถไฟฟ้าความเร็วสูง ยังไม่อยู่ในกรอบหารือเร่งด่วน ชี้สื่อเสนอคลาดเคลื่อน ปัดเชิญอดีต รมต.รับฟัง-ให้ข้อมูล ยัน คสช. ใช้กลไกปกติเป็นหลัก
วันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีสื่ออาจนำเสนอคลาดเคลื่อนไปเรื่องการสานต่อโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงว่า ขอเรียนว่า ขณะนี้โครงการขนาดใหญ่ยังไม่อยู่ในกรอบหารือเร่งด่วน ในขณะนี้ปัจจุบันเน้นงานโครงการที่ยังคงค้างอยู่ ถ้าไม่รีบดำเนินการอาจส่งผลกระทบกับประชาชนและระบบการบริหารงบประมาณ
โดยเฉพาะมีสื่อมวลชนได้นำเสนอว่า คสช.จะเชิญอดีตรัฐมนตรีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มารับฟังความคิดและให้ข้อมูลเกี่ยวกับ โครงการพัฒนาระบบรถไฟไทยนั้น ยืนยันเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนแผนงานหรือโครงการใดๆ คสช. ยังคงใช้กลไกปกติของส่วนราชการ กระทรวง ทบวงกรม หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นหลัก. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 02/06/2014 12:48 pm Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.จะขอความชัดเจนจาก คสช.การเดินหน้ารถไฟความเร็วสูง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2557 12:48 น.
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันนี้ จะขอความชัดเจนเรื่องการปรับแบบก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เพราะปัจจุบันผู้รับเหมาก่อสร้างยังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างเต็มที่ เพราะต้องรอให้มีการอนุมัติปรับแบบให้แล้วเสร็จก่อน หากดำเนินการล่าช้าก็จะส่งผลกระทบถึงระยะเวลาการแล้วเสร็จที่กำหนดไว้ในสัญญาการก่อสร้างด้วย
ส่วน คสช.จะดำเนินโครงการการก่อสร้างรถไฟทางคู่ถือเป็นเรื่องดี เพราะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพบริการประชาชนให้ดียิ่งขึ้น หลังจากรถไฟไทยไม่ได้พัฒนามานาน และไม่สามารถนำเงินจาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มาพัฒนาโครงการต่อไปได้ ส่วนแนวทางจะมีความชัดเจนแค่ไหนคงต้องรอฟังการประชุมร่วมระหว่างหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกับ คสช.
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการกำหนดแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยยังขาดความเข้าใจอยู่ โดยเฉพาะสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เช่น กรณีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่นำเรื่องของการจัดหาระบบรถไฟฟ้าไปผูกไว้กับช่วงบางซื่อ-รังสิต ดังนั้น เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจึงไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เพราะต้องรอให้ช่วงบางซื่อ-รังสิตก่อสร้างเสร็จก่อน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีก 4-5 ปี จึงสามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้ ร.ฟ.ท.ต้องสูญเสียงบประมาณบำรุงรักษาโครงสร้างช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน มูลค่ามหาศาล |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 30/05/2014 1:39 pm Post subject: |
|
|
เดินหน้าไฮสปีดเทรน
เดลินิวส์
วันศุกร์ 30 พฤษภาคม 2557 เวลา 03:00 น.
คมนาคมเร่งทำข้อมูลไฮสปีดเทรน เตรียมพร้อมเสนอ คสช.รับแผนแม่บทเศรษฐกิจ
นายพีระพล ถาวรเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนข.ได้ศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูงในบางเส้นทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างยื่นรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) และกำลังรอดูการแถลงแผนแม่บทเศรษฐกิจของประเทศ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันที่ 6 มิ.ย.นี้ก่อนว่ามีนโยบายไปทิศทางใด หากมีความชัดเจนที่จะเดินหน้า สนข.ก็พร้อมเสนอเรื่องเพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บท
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน)จะต้องรอความชัดเจนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเป็นแผนแม่บทเศรษฐกิจประเทศในภาพรวม แต่ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมมีความพร้อมเร่งดำเนินการทุกโครงการที่ คสช. เห็นว่ามีความสำคัญอย่างเต็มที่
ด้านแหล่งข่าวจาก สนข. แจ้งว่า สนข.ได้ยื่นทำอีไอเอโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงแล้ว 2 เส้นทาง คือ
1. เส้นทางสายเหนือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะแรกกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ระยะทาง 382 กม. และ
2. เส้นทางสายใต้ กรุงเทพฯ-หัวหิน-ปาดังเบซาร์ ระยะแรกกรุงเทพฯ-หัวหิน 225 กม.
ส่วนเส้นทางสายอีสาน กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย ระยะแรกกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 256 กม. อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบเพื่อจัดทำรายละเอียดสรุปข้อมูลก่อนยื่นอีไอเอต่อไป
สำหรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ ระยะที่ 2 จากพิษณุโลก-เชียงใหม่ ระยะทาง 287 กม.ที่ปรึกษาอยู่ระหว่างจัดทำรายงานการศึกษาความเหมาะสมเพื่อเตรียมยื่นอีไอเอเช่นเดียวกัน
ส่วนสายอีสาน ระยะที่ 2 จากช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. อยู่ระหว่างขอผูกพันงบประมาณประจำปี 58 เพื่อใช้จัดจ้างที่ปรึกษา
ขณะที่รถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพ-ปาดังเบซาร์ ระยะที่ 2 จากหัวหิน-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 757 กม. จะต้องของบประมาณปี 58 เพื่อเป็นค่าจ้างที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาและออกแบบระบบรถไฟความเร็วสูง
ส่วนรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก กรุงเทพฯ-พัทยา-ระยอง ระยะทาง 221 กม.อยู่ในความรับผิดชอบการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) โดยได้ลงนามว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสม สำรวจและออกแบบรายละเอียดไปแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 57 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 29/05/2014 10:31 am Post subject: |
|
|
ประจิน ขอ 2 สัปดาห์ชี้ชะตารถไฟความเร็วสูง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2557 20:01 น.
ประจิน ยันเดินหน้างานคมนาคมที่ไม่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ สิ่งแวดล้อม และข้อกฎหมาย เน้นโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเดินทาง ขนส่งสินค้า สะดวก รวดเร็ว ส่วนรถไฟความเร็วสูงขอเวลา 2 สัปดาห์ศึกษารายละเอียดก่อน ย้ำต้องดูมีข้อขัดข้องตรงไหนต้องแก้ไขให้ได้ก่อนหนุนเดินหน้าสุวรรณภูมิเฟส 2 และขยายดอนเมือง จ่อรื้อบอร์ดรัฐวิสาหกิจ เรียกประชุม 31 พ.ค.นี้ก่อนตัดสินใจ
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดูแลงานด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและให้นโยบายแนวทางการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมวันนี้ (28 พ.ค.) ว่า ภาพรวมยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคมนั้นสอดคล้องกับแนวทางของ คสช. ซึ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ซึ่งเป็นจุดแข็งทางภูมิศาสตร์ของประเทศ ให้สามารถรองรับการเดินทาง และการขนส่งสินค้า ให้มีความสะดวกรวดเร็วและสร้างจุดเชื่อมต่อที่สะดวกกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน
โดยโครงการเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมซึ่งพบว่าที่ผ่านมาการดำเนินงานมีความล่าช้าเนื่องจากติดขัดในเรื่องงบประมาณ หรืออยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดนั้นจะเดินหน้าต่อ โดยจะสรุปปัญหาอุปสรรคนำเสนอหัวหน้า คสช.พิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อขออนุมัติการดำเนินงานโครงการในสัปดาห์ต่อไป
สำหรับโครงการตามแผนแม่บท เช่น การก่อสร้างโครงสร้างรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนการใช้เงินกู้ตาม พ.ร.บ.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลชุดที่แล้วนั้น โครงการที่มีความพร้อมในเรื่องงบประมาณ และไม่มีปัญหาในข้อกฎหมาย ที่ดิน สิ่งแวดล้อมจะต้องเดินหน้าต่อแน่นอน ส่วนโครงการที่อาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมและต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จะต้องพิจารณาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ในภาพรวม เช่น รถไฟความเร็วสูง สายเหนือ (กรุงเทพฯ-เชียงใหม่) และสายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพฯ-หนองคาย) ที่วางแนวเส้นทางไว้แล้ว ต้องพิจารณาว่ามีอะไรเป็นข้อขัดข้องบ้าง ต้องแก้ไขให้เรียบร้อยก่อน โดยขอเวลาพิจารณารายละเอียดแต่ละโครงการประมาณ 2 สัปดาห์
โครงการไหนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ประชาชนได้ประโยชน์ต้องทำก่อนเน้นเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่ามีปัจจัยที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการตัดสินใจด้วย ทั้งการต้องเสนอ ครม.พิจารณา การกู้เงินมาดำเนินการ ส่วนโครงการที่มีงบประมาณหรือมีความพร้อมในเรื่องการลงทุนอยู่แล้วก็สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องทันที เช่น การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 เพื่อขยายการรองรับเป็น 60 ล้านคนต่อปี และการขยายท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อรองรับเป็น 30 ล้านคนต่อปี โดย คสช.จะหาทางแก้ปัญหาอุปสรรคเพื่อกระตุ้นให้เดินหน้าได้รวดเร็วขึ้น พล.อ.อ.ประจินกล่าว
สำหรับมาตรการลดค่าครองชีพ ทั้งรถไฟฟรี รถเมล์ฟรีนั้น ทาง คสช.จะพิจารณาเมื่อกระทรวงคมนาคมนำเสนอไปตามขั้นตอน พร้อมกันนี้ได้กำชับให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ยังล่าช้ากว่าแผน โดยกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ครบภายในไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2557 ส่วนงบประมาณปี 2558 ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เสนอขอไว้มากขึ้นประมาณ 3 เท่านั้น ทางสำนักงบประมาณได้เร่งพิจารณาส่วนจะได้แค่ไหนต้องดูภาพรวมประกอบกันทั้งหมด โดยยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2557 และเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการปรับเปลี่ยนผู้บริหารหน่วยงานและคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจกระทรวงคมนาคมนั้น ในส่วนของหน่วยงานคงไม่มีการปรับเปลี่ยน ส่วนรัฐวิสาหกิจ เช่น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นั้นจะเรียกประชุมในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ที่สโมสรกองทัพบก เพื่อพิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 16/05/2014 3:25 pm Post subject: |
|
|
ตั้งงบ1.3ล้านล้าน ชงรบ.ใหม่ดันไฮสปีดเทรน
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ข่าวหน้า1 -
คอลัมน์ : ข่าวหน้า1
ออนไลน์เมื่อ วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10:26 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,948 วันที่ 15 - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
โครงการรถไฟความเร็วสูงยังไม่ตกราง สนข.จัดงบไฮสปีดเทรนใหม่ 3 เส้นทางรวมกว่า 1.3 ล้านล้าน เตรียมชงรัฐบาลชุดใหม่เร่งผลักดัน หนุนกู้เงินในประเทศเหตุเงินล้นคลัง ล่าสุดเร่งขออีไอเอเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน ส่วนเส้นทางอีสานจ่อคิวต่อไป ภาคเอกชนไม่เชื่อว่าโครงการเกิดขึ้นได้จริง
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงอนาคตของโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้ง 3 เส้นทาง คือ
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่,
กรุงเทพฯ-หนองคาย และ
กรุงเทพฯ-หัวหินว่า
ต้องรอดูนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะขับเคลื่อนโครงการต่อไปหรือไม่ และจะใช้งบประมาณจากแหล่งใด จะใช้วิธีการกู้หรือใช้จากงบประมาณปกติ ซึ่งตามผลศึกษาได้กำหนดกรอบวงเงินในเบื้องต้นเอาไว้แล้ว หากจะก่อสร้างจริงคงต้องมีลงลึกในรายละเอียดงบประมาณที่แท้จริงในขณะนั้นอีกครั้ง
"ต้องรอดูทิศทางของรัฐบาลชุดใหม่ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจขับเคลื่อน แต่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามผลการศึกษาและออกแบบรายละเอียดของเส้นทางต่างๆซึ่งพอจะทราบกรอบงบประมาณโดยคร่าวๆแล้ว หากจะมีการก่อสร้างคงต้องมีการปรับวงเงินงบประมาณให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในขณะนั้นอีกครั้ง"
ด้านดร.พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวว่าทางสนข.อยู่ระหว่างการเร่งจัดทำงบประมาณก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้ง 3 เส้นทาง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในรัฐบาลชุดใหม่เร่งผลักดันหรือจัดหาแหล่งทุนก่อสร้างโครงการดังกล่าว
alt "ต้องจับตาหลังจากตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วโครงการเหล่านี้จะถูกนำออกมาผลักดันให้เกิดขึ้นหรือไม่
ดร.พิเชฐ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับงบประมาณค่าก่อสร้างของโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้ง 3 เส้นทางที่สนข.รับผิดชอบ ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่วงเงิน 4.27 แสนล้านบาท ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ 12.56% ระยะเวลาเดินทางตั้งแต่ 1.45-3.07 ชั่วโมง ค่าโดยสารช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลกตั้งแต่ 640-1,700 บาท/เที่ยว ช่วงสุโขทัย-เชียงใหม่ ตั้งแต่ 1,100-2,900 บาท/เที่ยว เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย วงเงิน3.51 แสนล้านบาท
ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ 11.45% ระยะเวลาเดินทางตั้งแต่ 1.12-2.40 ชั่วโมง ค่าโดยสารช่วงดอนเมือง-นครราชสีมา 569 บาท/เที่ยว ช่วงบัวใหญ่-หนองคาย 1,217 บาท/เที่ยว และ
เส้นทางกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ วงเงิน 5.25 แสนล้านบาท ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ 12.76% ระยะเวลาเดินทาง 1.17-4.53 ชั่วโมง ค่าโดยสารช่วงนครปฐม-หัวหิน ตั้งแต่ 385-1,040 บาท/เที่ยว และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ปาดังเบซาร์ ตั้งแต่ 1,526-4,000 บาท/เที่ยว
สำหรับความคืบหน้ากรณีการยื่นขอรับรองผลการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ของโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้ง 3 เส้นทางนั้น เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ได้ยื่นขอไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ซึ่งพบว่ามีการขอแก้ไขปรับปรุงข้อมูลด้านสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่แนวเส้นทางกรณีสถิติโรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น โดยแจ้งกลับภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และในส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะยื่นขออีไอเอ และเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมาจะทยอยขอเป็นคิวต่อไปประมาณมิถุนายน-กรกฎาคมนี้
ด้านนายกฤช หิรัญกิจ ประธานที่ปรึกษา สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวราคาที่ดิน จากกระแสที่ กระทรวงคมนาคม ผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ นครราชสีมาอีกครั้งว่า ขณะนี้ยังไม่มีความเชื่อมั่น เพราะที่ผ่านมา ขนาดรัฐบาลชุดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีแผนลงทุนที่ชัดเจนจาก เงินกู้ 2ล้านล้านบาท ยังล่มได้ ยิ่งปัจจุบัน ไม่มีงบประมาณอีกทั้งการเมืองไม่สงบ เศรษฐกิจค่อนข้างแย่ โครงการดังกล่าวจึงไม่สามารถกระตุ้นความสนใจของคนในพื้นที่ได้โดยเฉพาะการซื้อขายที่ดินตามแนวรถไฟความเร็วสูง ยังคงปรับตัวลดลง เฉลี่ย 10-20% และเริ่มมีการวิ่งเต้นระบายที่ดินในมือออก ซึ่งมีทั้งนักการเมืองและนักเก็งกำไรซึ่งราคาที่ดินติดริมถนนมิตรภาพทางไปถนนธนะรัชต์ ราคาไร่ละ 40ล้านบาทลดลงเหลือกว่า 30ล้านบาท/ไร่ ถนนธนะรัชต์ บริเวณกม.15 ราคา ไร่ละ 10-12ล้านบาท ลดลงเหลือ 6-8ล้านบาท/ไร่ เป็นต้น
สอดคล้องกับนายเฉลิมชาติ นครังกุล ประธานหอการค้าจังหวัด เชียงใหม่ เปิดเผยว่าปัจจุบันการขยับขึ้นของราคาที่ดิน เป็นเพราะอานิสงส์ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ไทวัสดุ บุญถาวรเข้ามาซื้อที่ดินลงทนในพื้นที่ เพื่อรองรับกลุ่มพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร โดยไม่ต้องอาศัยรถไฟความเร็วสูง อย่างไรก็ดีหากบ้านเมืองสงบ เศรษฐกิจไม่ตกต่ำไปกว่านี้และ มีการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงอย่างเป็นรูปธรรม ถึงเวลานั้นเชื่อว่า ราคาที่ดินจะกลับมาเคลื่อนไหวได้อีก
เช่นเดียวกับนายนครินทร์ คีรีเพชร หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สำนักงานที่ดินจังเพชรบุรี สาขา ชะอำ กล่าวว่าที่ผ่านมาโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ- ชะอำ- หัวหิน ไม่มีผลต่อการปรับขึ้นของราคาที่ดินแต่อย่างใด แม้แต่ งบ2ล้านล้านบาทคราวที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจุดนี้ต่างหากที่ดันราคาขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางนุชจรินทร์ ศรีทองพนาบูลย์ ประธานหอการค้าจังหวัด พิษณุโลกให้มุมมองว่า แม้ว่าภาครัฐจะผลักดันโครงการขึ้นมาอีก แต่มองว่า ไม่น่าจะส่งผลต่อราคาที่ดินที่ขยับขึ้นในเวลานี้ เพราะปัญหาใหญ่คือ เศรษฐกิจ การเมืองที่ไม่ดีในขณะนี้ อย่างไรก็ดีผลพวงจากโคราการรถไฟความเร็วสูงล่มทำให้ โครงการต่างๆโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมขายได้ช้า ขณะที่นักเก็งกำไรที่ร้อนเงินก็ต้องการขายถูกๆ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 09/04/2014 9:16 pm Post subject: |
|
|
โมเดล "เมืองใหม่" ไม่ล้ม ลุยต่อรับรถไฟ "ทางคู่-ไฮสปีดเทรน"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
9 เมษายน 2557 เวลา 12:14:27 น.
ถาม กันมาก "เมืองใหม่" 17 แห่งในแนวรถไฟความเร็วสูง 4 สายทางในเฟสแรก จะยังได้รับการผลักดันให้ไปต่อ หรือจะเป็นได้แค่โครงการขายฝันให้กับนักลงทุนและคนในพื้นที่ 4 ภูมิภาคได้ตื่นตาตื่นใจกันเล่น ๆ ซึ่งตลอดปี 2556 ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก สระบุรี ปากช่อง นครราชสีมา นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี หัวหิน ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และระยอง ที่เป็นจุดจอดของสถานีไฮสปีดเทรน มีบรรยากาศการลงทุนคึกคัก โดยเฉพาะราคาที่ดินดีดรับโปรเจ็กต์นี้จนพุ่งเกินความเป็นจริง
แต่ เมื่อร่างเงินกู้ 2 ล้านล้านไม่มี คนคิดโมเดล "เมืองใหม่" อย่างกรมโยธาธิการและผังเมือง จะมีท่าทียังไง และผังเมืองรวมจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดที่จะปรับใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาโปรเจ็กต์ 2 ล้านล้านจะชะลอไปด้วยหรือไม่
"มณฑล สุดประเสริฐ" อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กรมยังเดินหน้าปรับปรุงผังเมืองรวมจังหวัดทุกจังหวัด แม้ว่าเงินกู้ 2 ล้านล้านจะไม่มีแล้ว แต่การวางผังพัฒนาเมืองเป็นเรื่องการกำหนดทิศทางการพัฒนาระยะยาวไป 5 ปี 10 ปี 20 ปี ยังไงโครงการโครงสร้างพื้นฐานยังอยู่ในแผนการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ จะต้องกำหนดไว้ในร่างผังเมืองรวม
"แผนโครงการยังมีอยู่ แต่ยังไม่เกิดตอนนี้เท่านั้นเอง เพราะไม่มีเงินลงทุนก่อสร้าง ซึ่งทางจังหวัดที่กำลังจัดทำร่างผังเมืองจะใส่โครงการเข้าไปด้วย เพราะเราวางแผนพัฒนาเมืองระยะยาว ในผังเมืองรวมจังหวัดทุกจังหวัดต้องปรับปรุงให้ล้อตามไปด้วย"
สำหรับ "เมืองใหม่" นั้น อธิบดีกรมโยธาฯกล่าวว่า ยังเดินหน้าศึกษาและออกแบบอยู่ ปัจจุบันรอความชัดเจนเรื่องตำแหน่งที่ตั้ง 3 สถานี คือ พิษณุโลก พัทยา นครปฐม จากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะผู้ศึกษาโครงการ ส่วนที่เหลือมีความเห็นตรงกันแล้ว จะเตรียมความพร้อมรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาพิจารณา ยังไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
"ถามว่าเมืองใหม่ที่จะเกิด บ้านเราจะง่ายหรือยาก ต้องบอกว่าที่ผ่านมาทำได้ยาก ติดเรื่องกรรมสิทธิ์ของพื้นที่ ต้องใช้วิธีการแบบจัดรูปที่ดินเข้ามาช่วย เจ้าของที่ดินจะแชร์ที่ดินร่วมกัน ก็จะทำให้เกิดขึ้นได้เหมือนที่ ต่างประเทศ หากเป็นคอนเซ็ปต์ย้ายเมืองไปที่ใหม่เลยคงจะเป็นไปได้ยาก ที่ผ่านมาเคยคิดจะทำที่นครนายกและท่าตะเกียบแต่ไม่สำเร็จ"
ถึงนาที นี้จะยังไม่ชัดเจน แต่ "อธิบดีกรมโยธาฯ" ระบุว่า เมืองที่อยู่ในแนวโครงการเส้นทางโลจิสติกส์เดิมที่อยู่ใน 2 ล้านล้านบาท มีโอกาสที่จะเกิดชุมชนใหม่ จะเกิดเมืองรอบสถานี ทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง
"เรื่องของเมืองใหม่รอบสถานีรถไฟ ความเร็วสูง เราขายความคิดว่า เมื่อรัฐลงทุนรถไฟความเร็วสูงน่าจะได้ประโยชน์จากการลงทุน อย่างน้อยที่สุดก็ผลตอบแทนคืนมาให้รัฐเพื่อลดต้นทุนของค่าก่อสร้าง กรมเลยขายไอเดียว่าจะนำการจัดรูปที่ดินเข้าไปช่วยพัฒนาโดยรอบสถานีรถไฟ รัฐจะได้ที่ดินมาหาประโยชน์ ทำเป็นศูนย์การค้า พาณิชยกรรม"
สุดท้าย "มณฑล" ย้ำว่า โครงการ 2 ล้านล้านเป็นแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น การทำผังเมืองรวมจังหวัดยังไงก็ต้องเดินหน้า ทุกจังหวัดต้องปรับปรุงหมด เนื่องจากผังเมืองรวมจังหวัดเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2549 ตอนนี้ 8 ปีแล้ว สภาพเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ต้องทำให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 08/04/2014 7:49 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมชงของบปี 58 สูงปรี๊ด 3 แสนล้าน อัดลงทุนระบบรางชดเชยแทนกู้ 2 ล้านล้านไม่ได้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2557 10:53 น.
คมนาคม เสนอของบปี 58 จำนวน 3 แสนล้าน ชดเชยไม่ได้กู้ 2 ล้านล้าน โยกระบบราง รถไฟฟ้า, รถไฟทางคู่ใช้งบประจำปี ผอ.สนข. เผยตั้ง รบ.ใหม่ช้ากระทบเป็นลูกโซ่ หวั่นงบประจำปีดีเลย์ไปด้วย ยอมรับต้องชะลอรถไฟความเร็วสูง หวั่นดันทันรับเดินหน้าพลอยกระทบโครงการอื่นไม่ได้เกิด แต่ไม่ล้มเตรียมเปิดเวทีให้ข้อมูลคนกรุงเทพฯ
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยถึงการจัดทำงบประมาณปี 2558 ของกระทรวงคมนาคมว่า ได้เตรียมเสนอของบประมาณรวม 3 แสนล้านบาท จากปี 2557 ที่เสนอขอ 1.3 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการโยกโครงการสำคัญที่เคยบรรจุไว้ในแผนการใช้เงินตามพระราชบัญญัติการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท มาใช้งบประมาณปกติปี 2558 แทน จึงทำให้งบประมาณที่เสนอขอในปี 2558 มีวงเงินค่อนข้างสูง
โดยต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เมื่อใด เนื่องจากการจัดทำงบประมาณประจำปีตามปกติจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนของทุกปี โดยรัฐบาลต้องเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายของปีถัดไปต่อรัฐสภา แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้าทำงานในเดือนพฤษภาคมนี้ หากเป็นจริงตามนั้น การใช้งบประมาณปี 2558 ก็จะล่าช้าออกไป
โดยโครงการที่โยกจาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทมาบรรจุในงบประจำปี 2558 เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายทาง คือ สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยต้องของบประมาณมาเพื่อเริ่มการเวนคืน สายสีส้มเฟสแรก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ซึ่ง 2 สายทางนี้ต้องเสนอ ครม.เพื่อขออนุมัติโครงการ พร้อมของบประมาณเวนคืน ซึ่งปี 2558 มีความเป็นไปได้ว่าจะสามารถเปิดประกวดราคาสายสีเขียวและสีส้มเฟสแรกได้
นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง คือ
1. ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
2. สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
3. สายลพบุรี-ปากน้ำโพ
4. สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน และ
5. สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 3 เส้นทาง คือ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา สายบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี และสายชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการล้มเลิกโครงการ แม้อาจต้องชะลอออกไปจากกำหนดเดิม ซึ่งเบื้องต้น สนข.จะปรับกลยุทธ์ใหม่โดยให้ความรู้ความเข้าใจแก่คนกรุงเทพฯ มากขึ้น เพราะผู้ที่คัดค้านส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพฯ ซึ่งการชะลอโครงการเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นจนกระทบต่อโครงการอื่นๆ ที่เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเหมือนกัน โดยในปลายเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดสัมมนาใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนและต้องการให้ข้อมูลแก่คนกรุงเทพฯ ที่ส่วนใหญ่คัดค้านเพราะค่อนข้างมีฐานะและใช้รถส่วนตัวเดินทางไปต่างจังหวัดไม่นิมยมนั่งรถไฟ จึงอาจไม่ทราบว่ารถไฟความเร็วสูงสำคัญต่อการพัฒนาประเทศมาก และประเทศไทยไม่ได้พัฒนาได้เฉพาะกรุงเทพฯ เท่านั้นส่วนที่อื่นไม่ต้องทำ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 04/04/2014 12:14 pm Post subject: |
|
|
'ชัชชาติ'ดิ้นสานต่อ2ล้านล. รมีลุ้นสบน.-คลังเคาะความชัดเจนแหล่งทุน
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 01 เมษายน 2014 เวลา 14:17 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,936 วันที่ 3 - 5 เมษายน พ.ศ. 2557
คมนาคมเร่งจัดระบบแหล่งทุนสานต่อโครงการ 2 ล้านล้าน เผยระบบราง-งานถนน-รถไฟฟ้ายังฮอต แต่ยังดองยาวไฮสปีดเทรน มีลุ้นสบน.-คลังเคาะความชัดเจน "ชัชชาติ" เผยเน้นผลักดันโครงการหลักที่มีความพร้อมจริงๆก่อนบรรจุไว้ในงบประมาณประจำปี 2558 ส่วนปลัดคมนาคมเตรียมต่อยอดเพื่อจัดระบบงบประมาณได้อีกหลายโครงการ สนข.เผยผลหารือร่วมสบน.เตรียมตั้งคณะกรรมการคัดเลือกโครงการที่พร้อมใช้งบประมาณภายใน 7 เดือน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแนวทางการขับเคลื่อนโครงการตามร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งพ.ศ ...หรือร่างพ.ร.บ.2ล้านล้านบาท ที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาว่าขัดรัฐธรรมนูญไปแล้วนั้นว่าได้สั่งให้แต่ละหน่วยกลับไปจัดทำรายละเอียดในโครงการต่างๆให้พร้อมเพื่อนำเข้าสู่การหารือร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาหาแหล่งทุนสนับสนุนโครงการต่างๆให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ว่าโครงการใดจะนำไปจัดไว้แหล่งทุนจากการใช้งบประมาณประจำปีหรือจากการกู้เงินตามแผนบริหารหนี้สาธารณะ รวมถึงงบประมาณเพื่อกรณีโครงการเร่งด่วน และการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPPs) ในวันที่ 31 มีนาคม 2557ที่ผ่านมา
alt "กำชับให้ทุกหน่วยดูการจัดลำดับความสำคัญ วงเงินที่มีอยู่ว่าจะสามารถจัดลงในโครงการใดได้บ้าง โดยวงเงินเหล่านั้น สบน.จะแจ้งให้ทราบ ให้สอดคล้องกับกรอบวงเงินเพื่อเตรียมนำเสนอรัฐบาลชุดใหม่พิจารณาซึ่งในเบื้องต้นจะให้ความสำคัญเท่ากันทั้งหมดทุกโครงการ เพียงแต่ว่าโครงการไหนมีความพร้อมมากกว่าเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นจึงจะนำงบประมาณประจำปีเข้าไปเสริมกับโครงการหลักจึงจะขับเคลื่อนอย่างสอดคล้องกัน"
สอดรับกับที่นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปหารือร่วมกับสบน. กระทรวงการคลัง ว่าจะสามารถบริหารจัดการงบประมาณปี 2558 ได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะโครงการตามร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท บรรจุไปไว้ในงบประมาณประจำปีได้อย่างไร
ทั้งนี้คาดว่าภายหลังการหารือน่าจะบ่งบอกได้หลายโครงการว่าจะไปใช้แหล่งทุนในรูปแบบใดได้บ้าง ซึ่งแต่ละหน่วยจัดลำดับรองรับไว้แล้ว สิ่งสำคัญไม่ทิ้งโครงการในงบตามพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทยังคงขับเคลื่อนต่อไป เพียงแต่จะนำโครงการไหนไปบรรจุไว้ในงบประมาณประจำปีเท่านั้น ซึ่งในเบื้องต้นยังคงเป็นงานโครงสร้างพื้นฐานกลุ่มโครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย งานด้านถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท งานด้านรถไฟฟ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
"โดยแต่ละหน่วยจะเป็นผู้นำเสนอขึ้นมาให้พิจารณาเพื่อเตรียมเข้าสู่การหารือร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งการขับเคลื่อนยังคงต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองที่จะสามารถตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาพิจารณาโครงการปี 2558 ได้รวดเร็วหรือล่าช้าไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งยังต้องติดตามว่าจะสามารถบรรจุเข้ากรอบวงเงินกู้ได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร ซึ่งหลังจากนี้การจัดระบบงบประมาณปี 2558 น่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น"
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่าผลของการหารือร่วมระหว่างสบน. สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ได้มีการเสนอตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อพิจารณาคัดเลือกโครงการที่มีความพร้อมดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดงบประมาณประจำปี 2558 ซึ่งขณะนี้มีเวลาอีกเพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น ทั้งนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีสบน.ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ โดยจะมีหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ อาทิ สนข. สภาพัฒน์ (สศช.) สำนักงบประมาณ เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองโครงการต่างๆ หลังจากได้ตัวคณะกรรมการครบถ้วนแล้วจะมีการประชุมเพื่อลงลึกในรายละเอียดต่างๆของแต่ละโครงการต่อไป
"ในหลักการคือว่าโครงการตามร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทและพ.ร.บ.หนี้สาธารณะจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาว่าจะต้องใส่งบประมาณลงไปในแต่ละโครงการจำนวนเท่าใด ซึ่งน่าจะจบภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 นี้ซึ่งจะมีเวลาเพียงแค่ 7 เดือน ดังนั้นโครงการที่จะนำบรรจุไว้ในงบประมาณประจำปี 2558 จึงต้องมีความพร้อมจริงๆเท่านั้นที่จะใช้จ่ายเงินภายใน 7 เดือนนี้เท่านั้น" |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42782
Location: NECTEC
|
Posted: 03/04/2014 10:32 pm Post subject: |
|
|
ร่างพ.ร.บ.2ล้านล.ล้ม แต่เดินหน้าแข่งดีไซน์สถานีไฮสปีดเทรน พิษณุโลก-ลำปาง-เชียงใหม่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
3 เมษายน 2557 เวลา 14:28:18 น.
ถึงร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านจะอวสานไป แต่โครงการ "ไฮสปีดเทรน" โปรเจ็กต์ไฮไลต์ ยังคงดำเนินการต่อไปให้จบกระบวนการ
ล่า สุด "สนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร" หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดึงมวลชนคนในพื้นที่ไฮสปีดเทรนสายเหนือ "กรุงเทพฯ-เชียงใหม่" จัดประกวดการออกแบบภายในสถานี
โดยจัดแข่งขัน ดีไซน์รูปแบบสถานีในระยะที่ 2 จาก "พิษณุโลก-เชียงใหม่" ที่อยู่ระหว่างคัดเลือกแนวเส้นทาง จะสร้างเกาะไปตามแนวเดิมของ "รถไฟสายเหนือ" หรือจะตัดผ่านจังหวัดสุโขทัย เพื่อเปิดพื้นที่พัฒนาใหม่และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่อุทยานศรีสัชนาลัย
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 หลังครั้งแรกจัดแข่งขันและได้ผู้ชนะมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในสายใต้ "กรุงเทพฯ-หัวหิน" จำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี และหัวหิน
สำหรับการออกแบบสถานีช่วง "พิษณุโลก-เชียงใหม่" ทาง "สนข." คัดสรรสถานี ต้นแบบมานำร่อง 3 สถานี มีตำแหน่งที่ตั้งชัดเจน ประกอบด้วย สถานีพิษณุโลก ลำปาง และเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด "อัตลักษณ์สร้างคุณค่า" หรือ Identity Create Value ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท
"สมชัย ศิริวัฒนโชค" ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประกวดออกแบบภายในรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะที่ 2 จากพิษณุโลก-เชียงใหม่ จะเปิดให้ท้องถิ่นมาร่วมออกแบบว่าอยากจะตกแต่งภายในสถานีรถไฟเป็นแบบไหน จะเน้นคุณค่าเอกลักษณ์เป็นหลัก รวมถึงเรื่องความสวยงาม ความโดดเด่นด้านคุณค่าทางการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และความเป็นไทย
สำหรับ รายละเอียดการนำเสนอชิ้นงาน "ปลัดสมชัย" อธิบายว่า จะประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
1) แนวคิดออกแบบภายในของสถานี จะมีผังภายใน หรือแบบ Plan และรูปตัดภายในสถานี (Elevation or Section) อย่างน้อย 3 รูป
2) ภาพทัศนียภาพ (Perspective) อย่างน้อย 3 พื้นที่ คือโถงจำหน่ายตั๋วและพักคอยสำหรับผู้โดยสาร (Concourse Area) โถงชานชาลาของรถไฟความเร็วสูง (Platform Area) และพื้นที่พาณิชยกรรมใน สถานี (Commercial Zone) เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบ ผู้ส่งผลงานสามารถดัดแปลง ต่อเติม หรือปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกอาคารได้ แต่ต้องไม่กระทบกับโครงสร้างที่มีอยู่
สำหรับเกณฑ์การตัดสินผลงานจะ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ
ระดับอาชีพ เช่น สถาปนิก มัณฑนากร นักออกแบบ ทั้งอิสระ กลุ่มบุคคล และบริษัท และระดับสมัครเล่น เช่น นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ส่วนเงินรางวัลนั้น ล่อตาล่อใจพอสมควร
ขณะที่ "รางวัล" แบ่งเป็นระดับละ 12 รางวัล รวม 3 สถานี สถานีละ 4 รางวัล ได้แก่
รางวัลที่ 1 รางวัลละ 40,000 บาท
รางวัลที่ 2 รางวัลละ 25,000
รางวัลที่ 3 รางวัลละ 15,000 บาท และ
รางวัล Popular Vote 3 รางวัล (สถานีละ 1 รางวัล) รางวัลละ 10,000 บาท
รวมมูลค่าเงินรางวัลทั้งสิ้นถึง 510,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและสมัครผ่านเว็บไซต์ http://www.thaihispeedtrain.com/chiangmai_phase2 ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 เม.ย. 2557 หมดเขตส่งผลงานในวันที่ 30 พ.ค. 2557
กิจกรรมครั้งนี้ นอกจากผู้ชนะจะได้รางวัลที่เป็นตัวเงินแล้ว ผลงานที่ชนะทาง "สนข." จะนำไปต่อยอดออกแบบสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายนี้ เพื่อก่อสร้างได้จริงในอนาคต
//--------------------
ดูความเห็นแล้วมีจำนวนไม่น้อยที่พยายาม ให้ไปตามทางเดิม เป็นเหมาะ แถมบอกว่าสถานี นครลำปางสำหรับรถไฟความไวสูงไปไว้ที่หนองวัวเฒ่าหรือบ่อแฮ้วเป็นเหมาะ - แนวทางที่ 3 ที่ผ่านสุโขทัยและศรีสัชนาลัยเวนคืนหนักไป รับไม่ไหว และ คนเมืองแพร่ตั้งข้อรังเกียจอย่างหนักเพราะไม่ผ่านเด่นชัย แต่บางท่านก็ยืนยันให้ไปตรงจากพิษณุโลกไปยังศรีสัชนาลัยเลยมี เพื่เปิดพื้นที่ใหม่ - ส่วนรายที่ต้องการทางเก่า ให้ช่วงพิษณุโลก ไป อุตรดิตถ์ลอยฟ้าไป ที่แปลกก็เรื่องไม่อยากให้มีสาถานีที่ลำพูนเพราะ ใกล้เขียยงใหม่ไป และ ไม่เอาสถานีเชีรยงใหม่ที่มีอยู่เดิมเป็นปลายราง
http://www.thaihispeedtrain.com/chiangmai_phase2/file/S1_2_570303.pdf |
|
Back to top |
|
|
|