รฟท.คาดมีกำไรปี 2556 หลังปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

Wisarut

รฟท.คาดมีกำไรปี 2556 หลังปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

Bangkokbiznews 7 กันยายน 2549 14:41 น.

กระทรวงการคลัง-สศช.จับมือผ่าตัดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ให้คลังรับหนี้ 37,000 ล้านบาท แลกกับการได้สิทธิโอนที่ดิน รฟท.ที่รัฐเช่าทั้งหมดมาให้กรมธนารักษ์

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ส่วนหนี้เบี้ยบำนาญกว่า 50,200 ล้านบาท ให้ รฟท.ตั้งบริษัทบริหารทรัพย์สินขึ้นมาบริหาร พร้อมปรับโครงสร้างใหม่และตั้งบริษัทลูกขึ้นมาจัดการทรัพย์สินในอนาคต คาดมีกำไรครั้งแรกในปี 2556

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และตัวแทน รฟท. ถึงแผนการฟื้นฟูกิจการ รฟท. ซึ่งครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย เพื่อสรุปผลเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและ ครม. ภายในเดือนกันยายนนี้

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท.มีหนี้สินรวมกว่า 42,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นหนี้สินเงินกู้ แผนการแก้ปัญหานี้ได้ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้รับภาระหนี้สินในส่วนของระบบโครงสร้าง 15,000 ล้านบาท และหนี้สินจากเงินชดเชยผลการขาดทุนที่รับค้างจ่าย 18,000 ล้านบาท โดย รฟท.ต้องโอนที่ดินของ รฟท.ที่ให้หน่วยงานรัฐเช่าอยู่ขณะนี้มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลัง เพื่อโอนต่อให้กรมธนารักษ์ เพื่อนำเงินมาชดเชยภาระหนี้สินแทน รฟท. ทำให้กระทรวงการคลังรับภาระหนี้ทั้งหมด 37,000 ล้านบาท โดยแผนการปรับโครงสร้างครั้งนี้ทำให้ รฟท. มีภาระหนี้ลดลง เหลือ 5,700 ล้านบาท

ส่วนภาระหนี้เบี้ยบำนาญ ซึ่งมีวงเงินสูงถึง 50,200 ล้านบาท ที่ประชุมได้กำหนดให้ รฟท. ตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนเพื่อมาดูแล และให้นำรายได้จากการจัดหาประโยชน์จากที่ดิน และนำที่ดินมาจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยเร่งรัดให้จัดทำโครงการหาประโยชน์จากที่ดิน ที่ย่านมักกะสัน และย่านพหลโยธินทั้งหมด และที่ดินริมน้ำบริเวณช่องนนทรี มาตั้งเป็นกองทุนฯ คาดว่ากองทุนจะตั้งได้แล้วเสร็จใน 6 เดือนนี้ และคาดว่าจะหารายได้มาชดเชยภาระหนี้ที่เหลือได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากการแก้ปัญหาด้านการเงินแล้ว รฟท.ต้องมีการปรับปรุงการบริหารองค์กร โดยแยกโครงสร้างองค์กรออกเป็น 2 ส่วน คือ

1. ระบบโครงสร้างพื้นฐาน

2. การบริหารจัดการเดินรถ ซึ่ง รฟท. มีหน้าที่บริหารงานเดินรถให้มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย โดยรัฐต้องเป็นผู้ลงทุนในระบบโครงสร้างทั้งหมด หรือระบบรางต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้นกับ รฟท.ในอนาคต ในขณะเดียวกัน รฟท.จะมีการพัฒนา การบริการด้านการขนส่งสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้ด้วย ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ให้มีการตั้งบริษัทลูกอีก 3 แห่ง คือ

1. บริษัทขนส่งผู้โดยสาร เป็นผู้ทำหน้าที่บริหาร แอร์พอร์ตเรลลิงก์ หรือโครงการรถไฟฟ้าสายมักกะสัน –สุวรรณภูมิ

2. บริษัทขนส่งสินค้า

3.บริษัทซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน ซึ่งจะมีการจัดตั้งให้เสร็จภายใน 2 เดือน

ในขณะเดียวกันจะมีการส่งเสริมภาคเอกชนในร่วมกันจัดทำระบบโลจิสติกส์ “แผนงานทั้งหมดจะสรุปส่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีนโบบายเร่งรัดให้แก้ปัญหา รฟท. และจะนำเข้า ครม.ประมาณปลายเดือนนี้ หากเป็นไปตามแผน ภายในปี 2556 รฟท.จะมีผลประกอบการที่เป็นบวก หรือมีกำไรเป็นครั้งแรก โดยคาดหมายจะมีรายได้จากการขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 7,000 ล้านบาท รายได้จากค่าโดยสารเพิ่มเป็น 6,400 ล้านบาท” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

black_express · Posted: 07/09/2006 6:02 pm Post subject:

หวังว่าคงไม่สะดุดโต๊ะ ครม.ก่อนนะครับ Laughing

ice · Posted: 07/09/2006 6:03 pm Post subject:

เป็นข่าวที่ ดีมากเลยครับ Very Happy

ภาครัฐบาลจะร่วมงาน กับเอกชน ซึ่งจะทำให้ รฟท.มีกำไร ในการชำระหนี้สิน ด้วย

" แล้วระบบ โลจิสติกส์ คือ อะไร ครับ" ผมสงสัย! Wink

ขอบคุณครับ

nathapong · Posted: 07/09/2006 7:43 pm Post subject:

Nakhonlampang · Posted: 08/09/2006 1:03 am Post subject:

เข้าใจง่ายๆก็คือ กระบวนการที่ทำให้สินค้าจากผู้ผลิตเคลื่อนย้ายไปสู่ผู้บริโภคในขั้นสุดท้ายอย่างถูกที่ ถูกเวลา ในราคาที่เหมาะสม

กระบวนการของโลจิสติกส์ ไม่ใช่แค่การขนส่งอย่างที่หลายๆคนเข้าใจผิดไป แต่จะรวมกระบวนการทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต การเก็บและพักสินค้า การจัดจำหน่าย การดำเนินการทั้งหมดจะเป็นการมองโดยรวมทั้งกระบวนการ ไม่ใช่เป็นการมองแยกทีละส่วน เพื่อให้กระบวนการทั้งหมดสอดคล้องกันอย่างพอเหมาะพอดี

กระบวนการโลจิสติกส์หนึ่ง อาจมีกระบวนการโลจิสติกส์ย่อยๆแฝงอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกระบวนการโลจิสติกส์ย่อยเหล่านั้นจะต้องมีความสอดคล้องต้องกันเพื่อให้กระบวนการทั้งหมดมีประสิทธิภาพสูงสุด

tongchit · Posted: 08/09/2006 6:58 am Post subject:

ขอบคุณครับป๋าณัฐ สำหรับข้อมูลผมเองก็สงสัยมานานแล้ว คิดว่าเป็นแค่"ระบบขนส่งอย่างเดียว"หูตาสว่างขึ้นแล้วขอบคุณครับ Laughing

jibjib · Posted: 08/09/2006 1:33 pm Post subject:

เหมือนจะเป็นการแปรรูปหรือเปล่านี้... Sad

ขายกินให้หมด โถ ฐ- าล. Crying or Very sad

black_express · Posted: 08/09/2006 1:36 pm Post subject:

ไม่ได้ขายครับ อยากเรียกว่า " แตกตัว " มากกว่า...

Rakpong · Posted: 08/09/2006 6:08 pm Post subject:

แนวคิดการจัดการขนส่งระบบราง คงเน้น การ ขนของ( ของท่าน) มากกว่า ขนคน แบบเรา ไปก่อนมั้งครับ

Nakhonlampang · Posted: 08/09/2006 11:51 pm Post subject:

การขนส่งสินค้ามีความชัดเจนในเรื่องความแตกต่าง operating cost ระหว่างรถยนต์กับรถไฟมากกว่ากรณีรถโดยสารครับ เพราะฉะนั้นเวลานี้รถโดยสารคงต้องอาศัยใบบุญของรถสินค้าในการพัฒนากิจการรถไฟในภาพรวมนะครับ