เหตุระทึกที่หัวลำโพง เมื่อขบวน 279 เกยชานชาลา (27/08/53)

iton · Posted: 27/08/2010 9:32 pm Post subject:

ผมอยู่ในที่เกิดเหตุพอดีเลยครับ เลิกเรียนเสร็จแล้ว พอดีวันนั้นไปส่งแม่ไปหาดใหญ่ กับ ข35 ตอนเกิดเหตุเวลาบ่ายครึ่งกว่าๆ ผมอยู่ในชานชาลาที่ 5 เวลานั้นทางสถานีประกาศให้ผู้โดยสารที่รอรถอยู่ในบริเวณชานชาลาที่ 10 ให้ระวังอันตรายจากการเข้าเทียบของรถ หลังจากนั้นผมได้ยินเครื่องดีเซลรางกำลังเข้ามาจอดไม่เอะใจอะไรทุกอย่างปกติ กระทั่งได้ยินเสียงดังเหมือนกระเบื่องล่วงลงมาแตกกับพื้น เสียงสนั่นพอควร ผมเห็นผู้คนวิ่งแตกตื่นไปยังต้นตอของเสียงชุลมุนน่าดู ที่แรกนึกว่ากระเบื้องล่วงจึงเฉยๆ แล้วได้ยินพนักงานบริเวณนั้นบอกว่า เสยเข้าเต็มๆ ผมเลยข้ามไปดู ดังภาพ (ภาพอาจไม่ชัดนะครับขออภัยด้วย)

Uploaded with ImageShack.us

Mongwin · Posted: 27/08/2010 9:46 pm Post subject:

เห็นภาพจากคุณเต้ยและคุณ iton แล้ว หวาดเสียวมากครับ ที่มีเหล็กเสียบเข้าไปในห้องขับด้วย

มีข่าวเพิ่มเติมครับ

รฟท.ตั้ง คก.สอบอุบัติเหตุรถไฟเกยชานชาลา

กรุงเทพฯ 27 ส.ค.53 - นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยหลังเดินทางกลับจากจีน ว่า ในเบื้องต้นรับทราบเหตุอุบัติเหตุเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ ที่รถไฟดีเซลราง 279 กทม.-อรัญประเทศ เกิดอุบัติเหตุ ลงห้ามล้อไม่ทำงาน เป็นเหตุให้ขบวนรถพุ่งเข้าชนชานชาลาที่ 10 สถานีรถหัวลำโพง

“สาเหตุที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นเป็นไปได้ 2 แบบคือ เกิดจากคน และการบกพร่องของเครื่องจักร โดยขบวนรถดังกล่าวมี 5 คัน อาจเป็นได้ว่ามีคันใดคันหนึ่งลงห้ามล้อค้างไว้ ซึ่งเมื่อพนักงานขับลงห้ามล้อ ทำให้ไม่มีแรงที่ไปหยุดปั๊มลม เบรก และเบรกไม่อยู่” ผู้ว่า รฟท.กล่าว

ผู้ว่า รฟท.กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ระหว่างคนกับเครื่องจักร เพราะตามปกติก่อนรถวิ่งให้บริการ พนักงานต้องตรวจสอบความปลอดภัยตามมาตรฐานทั้ง 10 รายการ ซึ่งเรื่องนี้ยังโชคดีที่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงพนักงานขับรถบาดเจ็บ หากผลตรวจสอบพบเป็นความบกพร่องของพนักงาน อาจจะถูกลงโทษด้วยการลดเงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาได้กำชับฝ่ายช่างกล รฟท.ให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่ประมาทในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งยึดถือมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ตามยอมรับว่าช่วงหลัง รฟท. เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง. - สำนักข่าวไทย

suraphat · Posted: 27/08/2010 9:46 pm Post subject:

งานนี้กระผมว่าต่อให้แป้นปะทะนั้นดีเพียงใด หรือมีตัวห้ามล้อมือติดตั้งไว้ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรกับการเกิดเหตุการณ์นี้แล้วนะครับ ว่าแต่ว่าหากเหตุการณ์นี้เกิดกับขบวนรถที่ใช้รถจักรทำการคงจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เพราะตัวรถจักรกับจุดเกิดเหตุที่ท้ายขบวนมันอยู่ไกลกันอีกทั้งในตอนที่ถอยรถเพื่อตั้งขบวนนั้น ก็จะไม่ได้ต่อเข้ากับหัวรถจักรที่วิ่งสับเปลี่ยนในย่านนี้แต่อย่างใดนะครับ Question

แต่นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรถดีเซลรางที่มีความยาวเพียง 3 ตู้ ซึ่งธรรมดาสามารถหยุดรถได้ในระยะอันใกล้อีกด้วยเนื่องจากมีการใช้เบรคในระบบลมอัด(Air Break)นะครับ Wink

iton · Posted: 27/08/2010 9:49 pm Post subject:

อันที่จริงตอนนั้นผู้คนมุงดูเยอะมาก ถ่ายรูปกันก็เยอะ เจ้าหน้าที่ลำบากในการเข้าไปบริเวณจุดเกิดเหตุ ผมจึงรีบๆถ่ายและหามุมที่ไม่ขวางทางเจ้าที่มากครับ พอถ่ายเสร็จก็ต้องรีบไปให้พ้นแถวนั้นเลย

ภาพนี้ด้านหน้าตัวรถครับ

Uploaded with ImageShack.us

ภาพนี้มีสิ่งที่คล้ายๆเหล็ก เสียบเข้าไปในหน้าต่างด้านหน้า กระจกแตกหมด น่ากลัวนะครับ

Uploaded with ImageShack.us

iton · Posted: 27/08/2010 10:00 pm Post subject:

ดูระยะไกลนะครับ ปกติผมชอบถ่ายวีดีโอแต่วันนั้นไม่ได้ถ่าย ถ้างั้นคงได้เห็นภาพเคลื่อนไหว

Uploaded with ImageShack.us

uranus · Posted: 27/08/2010 10:00 pm Post subject:

น่ากลัวแทนผู้โดยสารที่เดินผ่านไปผ่านมาจริงๆ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า สาเหตุจริงเกิดจากอะไรก็คงจะต้องรอการสอบสวนต่อไป และก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก

chairat · 1st Class Pass (Air) Joined: 02/04/2008 Posts: 1023

ดูจากภาพแล้วเสียวแทนพขร.เลยนะครับ โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
_________________
Click on the image for full size

alderwood · Posted: 27/08/2010 10:19 pm Post subject:

นอกจากแป้นปะทะแบบซับแรงกระแทกที่น้องบอลเอามาให้ชมกัน ผมก็คิดถึงอุปกรณ์ตัวนึง แต่ก่อนจะไปพูดถึงอุปกรณ์ตัวนี้ ผมขอถามก่อนว่า หน้ากว้างของตัวล้อนั้น ไม่ว่าจะใช้งานมาขนาดไหน ขนาดหน้ากว้างจะยังคงเท่าเดิม หรือใกล้เคียงความกว้างเดิมใช่หรือไม่ครับ ถ้าใช่ ผมก็นึกถึงเจ้าตัวนี้ ผมก็เรียกชื่อไม่ถูกว่าจะเรียกมันว่าอะไรดี
Click on the image for full size

แต่มันก็ใหญ่เกินกว่าจะติดตั้งที่ปลายชานชาลาได้ อีกทั้งมีคนเดินข้ามไปมาอีก อาจจะพลาดโดนหนีบได้ ถ้าเกิดมีคนทำให้มันเล็กลง ออกแบบใหม่ไม่ซับซ้อนล่ะ ที่ผมนั่งคิด (แต่ออกแบบไม่เป็น) มี 2 แบบครับ

แบบแรก ก็คล้ายๆกัน แต่จะเล็กกว่า ใช้น้ำหนักรถที่กดบนราง เป็นตัวดันให้แขนทั้ง 2 ข้างบีบล้อเข้ามา เพื่อเพิ่มแรงเสียดทาน ลดความเร็วของรถก่อนจะถึงแป้นปะทะ

แบบที่สอง ลองนึกถึงรางที่กันบังใบล้อบริเวณประแจครับ
Click on the image for full size

รูปโดยพี่บอมบ์

หลักการคล้ายๆกับแบบแรก เพียงแต่จะไม่ได้ใช้น้ำหนักรถเป็นตัวบีบ จะถูกติดตั้งให้เพิ่มแรงเสียดทานระหว่างล้อกับรางตั้งแต่แรกเลย จะติดตั้งให้บีบชิดเข้ามามากกว่ารางกันตกราง เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานด้านใน และติดตั้งด้านนอก เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานด้านนอกเช่นกันครับ โดยด้านเข้า ปากจะกว้างกว่าด้านแป้นปะทะ ระยะติดตั้งไม่ต่ำกว่า 5 เมตร เพื่อลดความเร็วของรถได้ในระดับนึง ก่อนที่จะชนแป้นปะทะ หรือเหยียบตัวจีมล้อครับ

Click on the image for full size

ถ้าเกิดบังเอิญหลุดเข้าไป และไปอยู่ที่อุปกรณ์ที่ว่านี้พอดี จะหลุดเข้าไปอย่างมากก็ไม่เกิน 1 แคร่ หรือ 4 ล้อครับ และเมื่อนำขบวนออก ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดแรงดึงกลับขณะที่รถจักรลากออกไป นึกถึงว่าเวลาพขร.เร่งเครื่องออกแล้วห้ามล้อยังไม่คลายครับ คล้ายๆกัน เนื่องจากแรงเสียดทานบริเวณด้านแป้นปะทะจะมากกว่าด้านที่รถเข้ามา เพราะว่ารางที่ติดตั้งเพื่อลดความเร็วนั้น จะมีลักษณะค่อยๆบีบเข้าครับ

*อุปกรณ์ที่ว่านี้ ในความคิดผมคือ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำให้รถหยุดในบริเวณนั้นทันที แต่เพื่อลดความเร็ว หากต้องเข้ามา และลดความรุนแรงในการชนแป้นปะทะครับ

ถ้าหากไม่เห็นภาพ ก็ขอความอนุเคราะห์ท่านที่พอออกแบบได้ ลองวาดรูปให้หน่อยครับ

ปล.เป็นแค่แนวความคิดของคนที่ไม่รู้ครับ แต่ก็ไม่รู้จะพอมีประโยชน์อะไรไหม Embarassed

_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

iton · Posted: 27/08/2010 10:58 pm Post subject:

สองภาพนี้สุดท้ายครับ ผมเพียงคนเดียวถ้าเข้าไปวุ่นวายนานๆเข้า มันจะเป็นการขวางทางเจ้าหน้าที่เปล่าๆ แทนที่จะปฎิบัติงานให้เร็วกลับยิ่งช้าไปใหญ่

Uploaded with ImageShack.us

ถอยหลังมาอีกครับ

Uploaded with ImageShack.us

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปกับ ขบวน 279 ขบวนรถได้เปลี่ยนไปเทียบชานชาลาที่ 6 แทน และได้ใช้ชุดรถใหม่ บชส
อุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งแรกแต่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว แตกต่างกันที่ประเภทรถ ชานชาลา และเวลา ผมว่าการที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นข้อเท็จจริงย่อมมีอยู่แล้วแต่ถ้าจะให้หาคนผิดผมว่ามันคงไม่ถูกเท่าไหร่ เพราะผมเชื่อว่าเจ้าที่ก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ถูกที่สุดและก็ไม่มีใครอยากให้มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้น แต่อาจจะเป็นเพราะความบกพร่องของตัวรถเองหรือไม่ก็ปัจจัยอื่นๆ อุบัติเหตุเมื่อมันจะเกิดใครก็ห้ามไม่ได้ มีแต่ป้องกันไม่ให้ขยายวงและเกิดความเสียหายมากขึ้น ดังนั้นคงห้ามให้เกิดไม่ได้แต่ถ้ารู้ถึงปัญหาก็ควรไปแก้ไขที่ต้นเหตุมากกว่า ดีกว่าจะต้องหาตัวว่าใครถูกใครผิด

milkonline · Posted: 27/08/2010 10:58 pm Post subject:

น่ากลัวจริงๆ

ดูแล้ว เหมือนกับว่า แป้นปะทะถูกชนจนยกตัวขึ้นมา แล้วตีลังกาเสยเอาตัวรถลอยขึ้นไปเลยครับ...

คงต้องมีการปรับปรุง เจ้าแป้นปะทะใหม่แล้วละมั้ง Question