ขบวน 78 พุ่งชนต้นไม้ที่ขวางทาง ที่ท่าพระ (12/10/53)

theconandoi · Posted: 13/10/2010 4:13 pm Post subject:

สะเทือนใจข้าน้อยอีกแล้วT^T...THNอีกแล้ว...ดีเซลรางอันเป็นทีรัก Crying or Very sad

ทำไม...ทำไม...แล้วไม้นั้นขนาดมันเท่าไรล่ะถึงทำให้ตกรางและเอียงขนาดนั้น...
_________________
ซักวันผมจะเข้า วรฟ.ให้พี่ๆได้ภาคภูมิใจ จะเป็น พขร.ดั่งใจหวัง Evil or Very Mad

Wisarut · Posted: 13/10/2010 4:46 pm Post subject:

พายุถล่มต้นไม้ล้มขวางทางทำรถไฟขอนแก่นตกราง - หมอเร่งผ่าหญิงท้องแก่ เด็กปลอดภัย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ตุลาคม 2553 14:34 น.

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เผยเหตุพายุฝนกระหน่ำ พัดต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทางรถไฟที่ขอนแก่นช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นเหตุให้รถไฟดีเซลรางโดยสารปรับอากาศ สาย “อุดรธานี-กรุงเทพฯ” ตกราง ล่าสุด ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน ปลอดภัยกลับบ้านได้ เหลือรอผ่าตัด 1 ราย และหญิงท้องแก่ที่แพทย์ต้องนำเข้าผ่าตัดฉุกเฉิน คลอดบุตรชายปลอดภัยทั้งแม่และลูก ตั้งชื่อเล่น “น้องปู๊นปู๊น” โดยการรถไฟดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนการกู้รถไฟและซ่อมแซมไม้หมอนรางคาดจะแล้วเสร็จทันขบวนรถไฟเที่ยวแรกหนองคาย-กรุงเทพฯ ที่จะผ่านขอนแก่น 21.00 น.คืนนี้

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (13 ต.ค.) หลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุรถไฟตกรางบริเวณ ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสมคิด ฤาชา ผู้อำนวยการศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่การรถไฟได้เดินทางไปโรงพยาบาลขอนแก่น นำกระเช้าของขวัญเข้าเยี่ยม นางอนงค์ พะโส อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ซึ่งเดินทางไปกับขบวนรถไฟดีเซลรางโดยสารปรับอากาศสายอุดรธานี-กรุงเทพฯ ขบวนที่ 78 และเกิดอุบัติเหตุตกราง กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ต.ค.) บริเวณบ้านหนองแวงสักหลัก ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น เนื่องจากมีพายุฝนกระหน่ำจนต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางทางรถไฟ เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย

สำหรับนางอนงค์ ซึ่งท้องแก่ถูกแรงกระแทกจนเกิดอาการเจ็บครรภ์ เจ้าหน้าที่การรถไฟเร่งประสานแพทย์นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น แพทย์ต้องทำการผ่าตัดคลอดฉุกเฉิน เมื่อเวลา 02.39 น. โชคดีนางอนงค์ มีอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ เด็กทารกจึงร่างกายสมบูรณ์ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก โดยแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่การรถไฟได้ให้กำลังใจนางอนงค์ พร้อมกับช่วยกันตั้งชื่อเล่นเด็กว่า “น้องปู๊นปู๊น” น้ำหนักแรกคลอด 2,920 กรัม

นายสมคิด กล่าวว่า ทางการรถไฟฯให้เจ้าหน้าที่ประสานกับทางโรงพยาบาลในการดูแลนางอนงค์และน้องปู๊นปู๊นอย่างดี ซึ่ง นางอนงค์ ใช้สิทธิประกันสังคม ได้รับบริการพิเศษจากประกันสังคมนำเงินสงเคราะห์ค่าทำคลอดมาให้ถึงโรงพยาบาล พร้อมทั้งไม่ต้องหักค่าผ่าตัดทำคลอด เนื่องจากทางการรถไฟฯจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และดูแลจนกว่าแม่และเด็กจะร่างกายแข็งแรงออกจากโรงพยาบาล พร้อมกับจัดบริการรถพากลับไปกรุงเทพมหานคร

นางอนงค์ เล่าว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับ นายกิตติศักดิ์ เกลื่อนรัตน์ สามี และลูกชายคนโตวัย 3 ขวบครึ่ง ซึ่งตนและสามีอยู่ระหว่างลางานกลับไปเยี่ยมมารดาที่บ้านเกิดจังหวัดสกลนคร โดยจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เนื่องจากตนและสามีทำงานที่นั่น โดยตนอายุครรภ์ 7 - 8 เดือน ได้ลาหยุดเพื่อเตรียมตัวรอคลอดที่โรงพยาบาลซึ่งฝากครรภ์ไว้ คือ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ปทุมธานี แต่เกิดเหตุขึ้นก่อน

นางอนงค์ เล่าอีกว่า ตนอยู่ในโบกี้ที่ 2 ขณะเกิดเหตุรู้สึกตกใจมาก เพราะเป็นห่วงลูก ซึ่งโชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุสามีได้ลุกมาโอบร่างทั้งสองแม่ลูกไว้ ทำให้แรงกระแทกถูกร่างตนลดลง แต่ก็เกิดอาการเจ็บครรภ์จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งได้รับการส่งตัวมาผ่าตัดคลอดที่โรงพยาบาลขอนแก่น

สำหรับขบวนไฟที่เกิดเหตุ มีผู้โดยสารนั่งมาในขบวนกว่า 200 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสิรินธร 9 คน ล่าสุด ปลอดภัยเดินทางกลับบ้านได้หมดแล้ว ส่วนผู้ที่ได้รับการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเหลือ 2 คน คือนางอนงค์ ที่เข้าผ่าตัดทำคลอด และนายวัชรศักดิ์ ประทุม อายุ 22 ปี ชาวขอนแก่น ซึ่งใบหน้าฟกช้ำ มีบาดแผลศรีษะแตก และต้องผ่าตัดกระดูกนิ้ว โดย นายสมคิด พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำกระเช้าไปเยี่ยมนายวัชรศักดิ์ด้วย

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการดูแลผู้โดยสารที่ตกค้าง ซึ่งประสงค์เปลี่ยนเดินทางโดยรถทัวร์ ทางการรถไฟฯได้บริการนำส่งที่สถานีขนส่งจนสามารถเดินทางต่อไปได้แล้ว ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟ ทางการรถไฟก็จัดจุดบริการดูแล จนกว่ารถไฟเที่ยวแรกจะมาถึง

พร้อมทั้งได้เร่งกู้ขบวนรถไฟและซ่อมแซมไม้หมอนรางรถไฟ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น.นี้ ให้ทันขบวนรถไฟเที่ยวแรก คือรถด่วนหนองคาย - กรุงเทพฯ ออกจากหนองคายเวลา 18.20 น.ที่จะต้องผ่านขอนแก่นในช่วงเวลาประมาณ 21.10 น.คาดว่า จะไม่มีปัญหาใดๆ

อย่างไรก็ตาม นายสมคิด ได้กล่าวถึงมาตรการป้องกันเหตุเช่นเดียวกันนี้ซึ่งได้สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของการรถไฟ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เร่งสำรวจตลอดเส้นทาง เพื่อตรวจสอบดูแลความปลอดภัย เนื่องจากในช่วงนี้มีพายุฝนต่อเนื่อง ซึ่งหากเตรียมการป้องกันตลอดเส้นทาง จะเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน

Mongwin · Posted: 13/10/2010 10:07 pm Post subject:

เร่งกู้รถไฟตกรางที่ขอนแก่น คาด 6 โมงเย็นวันนี้เปิดเส้นทางได้

ชมวิดีโอคลิปข่าวได้ที่นี่ครับ

http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/114346.html

ขอนแก่น 13 ต.ค.53 - การรถไฟฯ เร่งกู้โบกี้รถไฟออกจากราง หลังเกิดอุบัติเหตุที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อคืนนี้ คาด 18.00 น.วันนี้ จะเปิดเส้นทางได้ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมดปลอดภัย

เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยต้องใช้รถยกกู้โบกี้รถไฟดีเซลรางโดยสารปรับอากาศ สายอุดรธานี – กรุงเทพฯ ที่ประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ที่ล้มกีดขวางทางจากพายุฝน จนรถไฟลื่นไถลตกรางที่บริเวณบ้านหนองแวง ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น เพื่อเปิดเส้นทาง คาดจะเดินรถได้ตามปกติในเวลา 18.00 น.วันนี้ แต่จะยังไม่สามารถวิ่งได้เต็มความเร็ว

ตรวจสอบเบื้องต้น รถไฟเสียหาย 6 โบกี้ รางรถไฟเสียหาย 124 เมตร ด้านผู้บาดเจ็บกลับบ้านแล้ว 18 คน ส่วนอีก 2 คนที่เหลือ แม้จะยังต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น แต่อาการปลอดภัย โดย น.ส.อนงค์ พะโส อายุ 26 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ 9 เดือน แพทย์ผ่าตัดทำคลอดให้แล้ว ปลอดภัยทั้งแม่และลูก โดยได้ลูกชาย ล่าสุดตัวแทนของการรถไฟฯ ได้เข้าเยี่ยมและช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล.-สำนักข่าวไทย

bleach · Posted: 13/10/2010 11:01 pm Post subject:

ขอให้ผู้โดยสารทุกๆท่านปลอดภัยนะครับ

ขอแสดงความเสียใจกับผู้ประสบเหตุทุกๆท่านนะครับ

อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน แต่ก็สามารถป้องกันได้

สวสารคนท้องแก่ มากๆครับ

Ariya_4543 · Posted: 13/10/2010 11:42 pm Post subject:

^
^
อ่านแล้วรู้สึกแปลก ๆ แฮะ หรือคิดไปเองหว่า Shocked

_________________
Ariya_4404@hotmail.co.th // Ariya_Watthanarungsun (Ariya_4543)

Click on the image for full size

KT-Station · Posted: 14/10/2010 1:32 am Post subject:

สวัสดีครับ คืออยากจะทราบหลายครั้งแล้วว่า

1.เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบนี้แล้ว นอกเหนือจากนำรถทัวร์มารองรับผู้โดยสารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ทางด้านการรถไฟฯ จะมีแผนรองรับอื่นๆอย่างไร

2.ผู้โดยสารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ทางการรถไฟฯจะมีค่าทำขวัญให้หรือไม่ ถ้ามี เท่าไหร่ครับ

3.แล้วขบวนที่ตามหลังมา จะต้องมีการยกเลิก และ/หรือเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร ณ สถานีใดสถานีหนึ่งหรือไม่ (กรณีเมื่อเกิดกับขบวนอื่นหรือสายอื่นด้วย)

4.เป็นไปได้หรือไม่ถ้าจะนำอีกขบวนมาใช้สำรองผู้โดยสารไปก่อน หรือรอเปลี่ยนขบวนหลังที่ตามมาทั้งเที่ยวขึ้น-ลง โดยเปลี่ยนถ่ายโอนผู้โดยสารไปยังอีกขบวนหนึ่ง ระหว่างจุดเกิดเหตุนั้นๆ สามารถทำได้ไหมครับ

ขอถามเพื่อเป็นวิทยภูมิให้กับกระผมและสมาชิกท่านอื่นๆ บางท่านที่อาจจะอยากทราบแค่นี้ครับ

ขอขอบพระคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าครับ

Compressor · Posted: 14/10/2010 1:47 am Post subject:

ขอตอบเฉพาะข้อสามและสี่นะครับ

ต้องดูเป็นเคสๆไป ซึ่งจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ด้วยว่า หากรถตกราง จะเปิดทางได้เร็วเพียงใด

ซึ่งในกรณีในข่าว ดีเซลรางตกราง 4 คัน ถึงแม้ DRC จะน้ำหนักเบา เครนไอน้ำโคราช ก็ยกได้ แต่ก็ใช้เวลานาน เพราะมีตะแคงข้างก็มี ข้ามศูนย์ข้ามคืน

เหตุนี้ ส่งผลให้ ต้องขนถ่ายผู้โดยสารขบวน 70 และ 134 โดยรถยนต์ เพราะโดนกักที่สถานีท่าพระ และขอนแก่นตามลำดับ

แต่ถ้าเป็นเคสที่แดวูตกรางที่บุฤๅษี (เดือนเมษายน) ซึ่งตกรางเพียงแคร่เดียว สามารถยกรถได้ภายในเที่ยงคืน ก็จะไม่มีการขนถ่ายครับ เปิดทางได้ก็วิ่งล่อง กท. ตามกันเป็นพรวนไป

ส่วนกรณีขนถ่ายผู้โดยสารระหว่างจุดเกิดเหตุ อย่างในกรณีที่รถแดวูตกรางที่บุฤๅษีนั้น ใช้วิธีการขนถ่ายผู้โดยสารระหว่างชุดขบวน 427 และ 422 ที่จุดเกิดเหตุเลยครับ ซึ่งลักษณะเช่นนี้แล้ว สามารถขนถ่าย ณ จุดเกิดเหตุได้ แต่ต้องมีชุดรถทั้งสองฝั่งนะครับ Razz

KTTA-50-L · Posted: 14/10/2010 7:11 am Post subject:

เปิดทางแล้วครับ 06.25 น.
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

suraphat

black_express · Posted: 14/10/2010 8:57 pm Post subject:

สถานีเชียงราก มีรางประธานแค่ 3 ราง ที่เหลือเป็นรางหลีก และรางตันในย่านสถานีครับ

หากเป็นรางคู่ ใหม่ๆ ทั่วประเทศแล้ว ก็ดีใจจะแย่แล้วล่ะ Laughing