ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่และเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ

[Wisarut]

รถไฟฟ้าสีม่วงโหรงเหรงเล็งลดราคาดึงคน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 17 สิงหาคม 2559 เวลา 19:20:08 น.

เปิดหวูดรถไฟฟ้าสายสีม่วงไม่เปรี้ยง ผู้โดยสารหลุดเป้าจาก 7.3 หมื่นคน เหลือแค่ 2 หมื่นคน/วัน เตรียมจัดโปรโมชั่น ตั๋วรายวัน รายเดือน เหมาจ่ายตลอดสาย บัตร 10 ปีขึ้นได้ ไม่อั้น ยอมรับขาดทุน 11 ปี

รถไฟฟ้าสายสีม่วงไม่เปรี้ยง ผู้โดยสารไม่ถึงเป้า จ่อปรับการตลาดใหม่
By Coconuts Krungthep August 17, 2016 / 11:05 ICT

[Wisarut]

ชาวนนท์ฟังไว้!! กฎจราจรใหม่ห้ามจอดรถแนวรถไฟฟ้า มีผลพรุ่งนี้
โดย MGR Online
18 สิงหาคม 2559 17:43 น. (แก้ไขล่าสุด 18 สิงหาคม 2559 19:15 น.)


เผยข้อบังคับจราจรนนทบุรีใหม่ แก้ปัญหารถติดหลังรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิด ห้ามจอดรถ ถ.กาญจนาภิเษก ตั้งแต่แยกบ้านกล้วย - แยกแคลาย 6 โมงเช้า - 10 โมงเช้า และ 4 โมงเย็น - 4 ทุ่มทุกวัน เว้นหน้าโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ - ธนาคารไทยพาณิชย์ รัตนาธิเบศร์ ห้ามตลอดเวลา ส่วน ถ.ติวานนท์ ห้ามจอด แยกแคลาย - แยกติวานนท์ 6 โมงเช้า - เที่ยงคืน ขณะที่ ถ.กรุงเทพ - นนทบุรี ห้ามจอดตลอดเวลาตั้งแต่ แยกติวานนท์ - สะพานข้ามคลองบางเขน มีผลพรุ่งนี้

วันนี้ (18 ส.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนนทบุรีว่าด้วยการห้ามจอดรถทุกชนิด ในเขตจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2559 โดยระบุว่า ด้วยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีกําหนดเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงบางใหญ่ - เตาปูนอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 สิงหาคม 2559 เป็นต้นไปนั้นประชาชน อาจจะนํารถยนต์และรถจักรยานยนต์มาจอดริมถนนเพื่อเดินทางสัญจรโดยรถไฟฟ้า ประกอบกับสภาพการจราจรในเขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรีมีการจราจรคับคั่งปริมาณรถมีจํานวนมากเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรในถนนกาญจนาภิเษก ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนติวานนท์ และถนนกรุงเทพ - นนทบุรี ซึ่งเป็นแนวถนนใต้ทางรถไฟฟ้า อีกทั้งประกาศ ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนนทบุรีที่เคยประกาศไว้ไม่สอดคล้องกับสภาพการจราจรในปัจจุบัน จึงเห็นสมควรปรับปรุงการห้ามจอดรถทุกชนิดในเขตจังหวัดนนทบุรี ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดที่จะเกิดขึ้น

ฉะนั้น เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการจราจร จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 139 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ในฐานะเจ้าพนักงานจราจร และคําสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 387/2541 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2541จึงออกข้อบังคับต่อไปนี้
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนนทบุรี ว่าด้วยการห้ามจอดรถทุกชนิด ในเขตจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2559” ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ข้อ 3 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนกาญจนาภิเษก ขาออก ตั้งแต่ต่างระดับบางใหญ่ ถึงสะพานคลองพระพิมล ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 10.00 น. และเวลา 15.00 น. ถึงเวลา 22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ข้อ 4 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า ตั้งแต่สะพานคลองพระพิมล ถึงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สาขารัตนาธิเบศร์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 10.00 น. และเวลา 15.00 น. ถึงเวลา 22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ข้อ 5 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนกาญจนาภิเษก ขาเข้า ตั้งแต่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สาขารัตนาธิเบศร์ ถึงถนนรัตนาธิเบศร์ขาเข้า หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัตนาธิเบศร์ตลอดเวลา ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ข้อ 6 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนรัตนาธิเบศร์ ขาออก ตั้งแต่แยกแครายถึงต่างระดับบางใหญ่ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 10.00 น. และเวลา 15.00 น. ถึงเวลา 22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ข้อ 7 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนรัตนาธิเบศร์ ขาเข้า ตั้งแต่ หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัตนาธิเบศร์ ถึงแยกแคราย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 10.00 น. และเวลา 15.00 น. ถึงเวลา 22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

ข้อ 8 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนติวานนท์ ขาเข้า ตั้งแต่แยกแคราย ถึงแยกติวานนท์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 24.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ข้อ 9 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนติวานนท์ ขาออก ตั้งแต่แยกติวานนท์ ถึงแยกแคราย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 24.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ข้อ 10 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนกรุงเทพ - นนทบุรี ขาเข้า ตั้งแต่ แยกติวานนท์ ถึงสะพานข้ามคลองบางเขน ตลอดเวลา ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ข้อ 11 ห้ามจอดรถทุกชนิดในถนนกรุงเทพ - นนทบุรี ขาออก ตั้งแต่ สะพานข้ามคลองบางเขน ถึงแยกติวานนท์ ตลอดเวลา ไม่เว้นวันหยุดราชการ

ข้อ 12 ข้อบังคับนี้มิให้ใช้บังคับกับรถเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่หรือรถที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร
ข้อ 13 บรรดาข้อบังคับ ประกาศ ระเบียบใด ที่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ ให้ยกเลิก โดยใช้ข้อบังคับฉบับนี้แทน
ประกาศ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 พลตํารวจตรี สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนนทบุรี

[Mongwin]

เตรียมลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง
Thai PBS News Published on Aug 18, 2016

รฟม.เตรียมพิจารณาลดราคาค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน เพื่อจูงใจให้ผู้โดยสารใช้บริการหลังผู้โดยสารน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้


https://www.youtube.com/watch?v=qSedO1mI9p8

[Mongwin]

เตรียมเฮ! รฟม.เล็งลดค่าโดยสารสายสีม่วง ดึงคนใช้เพิ่ม หลังมีผู้โดยสารแค่2หมื่นคน/วัน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 19 ส.ค. 2559 เวลา 16:25:00 น.

นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ผู้ว่า รฟม.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงในปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 20,000 คนต่อวันต่ำกว่าที่ตั้งเป้าหมายที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 60,000-70,000 คนต่อวัน โดยปัจจัยที่ทำให้จำนวนผู้โดยสารมีน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับตัวของประชาชนในเรื่องการเดินทางรูปแบบใหม่ รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูน-บางซื่อ ทำให้ประชาชนบางส่วนไม่เลือกที่จะเดินทางตรงนี้ ทางรฟม.จึงมีแผนที่ทำกลยุทธ์จูงใจประชาชน อาทิ การลดราคาค่าโดยสาร เพื่อให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมว่าจะจัดทำในรูปแบบใด และในส่วนการบริการรถเมล์เสริมระหว่างสถานีเตาปูน-บางซื่อ ตั้งแต่ให้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย 12,000 คนต่อวัน รฟม.ร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มีแผนที่จะเพิ่มรถเมล์บริการอีก 3 คัน รวมเป็น 18 คัน จากปัจจุบันที่มีรถให้บริการ 15 คัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้า เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

นายพีระยุทธกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีแนวทางที่จะปรับเส้นทางรถเมล์ให้เสริมกับรถไฟฟ้า หรือการเพิ่มจำนวนรถเมล์ตามแนวถนนที่ต่อเชื่อม อาทิ แยกบางใหญ่ คลองบางไผ่ โดยจะหารือร่วมกับขสมก.และกรมการขนส่งทางบก เพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงให้มากขึ้น รวมถึงการแก้ไขจุดบกพร่องของระบบการเดินรถตามที่มีผู้โดยสารร้องเรียนเข้ามา ร่วมกับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลารวบรวมจุดบกพร่องต่างๆ และคาดว่าจะแก้ไขให้เร็วที่สุดได้ภายใน 1-2 เดือนหลังจากนี้

[Mongwin]

สายสีม่วงไม่บูม! ผู้โดยสารยังน้อย รฟม.เล็งลดค่าโดยสารจูงใจ
โดย MGR Online 19 สิงหาคม 2559 18:14 น. (แก้ไขล่าสุด 19 สิงหาคม 2559 19:07 น.)

รฟม.ยอมรับผู้โดยสารสายสีม่วงพลาดเป้ามาก เผยใช้บริการวันละ 2 หมื่นคน ขณะที่เป้าตั้งไว้ถึง 6-7 หมื่นคน/วัน เล็งลดค่าโดยสารจูงใจ พร้อมหารือ ขบ.-ขสมก.จัดระบบฟีดเดอร์เข้าสถานีให้สะดวกมากขึ้น รอประเมิน ผู้โดยสาร 1-2 เดือนก่อน ขณะที่เตรียมนำร่องแนวคิดจัดรูปที่ดินกับผู้ถูกเวนคืนตามแนวรรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) พัฒนาเชิงพาณิชย์สร้างมูลค่าทั้งรัฐและผู้ถูกเวนคืน

พีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างประกวดราคาขณะนี้ คือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร, รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร วงเงิน 56,691 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร เงินลงทุน 54,644 ล้านบาท โดยสีชมพูและเหลืองจะให้เอกชนยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนในวันที่ 7 พ.ย. 2559 เปิดซองข้อเสนอในวันที่ 17 พ.ย. 2559 คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ในเดือน เม.ย. 2560 เปิดให้บริการในปี 2563

ส่วนโครงการที่เสนอไปกระทรวงคมนาคมเพื่อขออนุมัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว คือ สายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงินลงทุนรวม 131,171.94 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ในเดือน ต.ค.นี้ หลังจาก ครม.เห็นชอบจะใช้เวลา 2 เดือนจัดทำราคากลางเสนอบอร์ด รฟม. คาดว่าจะเปิดประมูลได้ต้นปี 2560

นอกจากนี้จะมีโครงการที่อยู่ในแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ปี 2560 อีก 4 สาย คือ สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งเสนอกระทรวงคมนาคมแล้ว, สายสีเขียว ช่วงคูคต-ลำลูกกา, สายสีเขียว ช่วงสมุทรปราการ-บางปู อยู่ระหว่างปรับปรุงแบบให้มีความทันสมัยต่อกายภาพที่เปลี่ยนไป โดยจะแล้วเสร็จปลายปี 2559, สายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จะเสนอบอร์ด รฟม.ขออนุมัติในเดือน ก.ย.นี้

ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ มีความก้าวหน้าโดยรวมร้อยละ 80.86 (ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559) โดยช่วงหัวลำโพง-บางแค คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2562 และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2563 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ มีความก้าวหน้างานโยธาร้อยละ 90.85 (ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2561 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีความก้าวหน้างานโยธา ร้อยละ 10.46 (ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2559) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2563

“การลงทุนรถไฟฟ้าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ซึ่ง รฟม.จะพัฒนาบริการให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ซึ่งรถไฟฟ้ามีผู้ดำเนินการและรับสัมปทานหลายราย ค่าโดยสารแยกออกจากกัน ดังนั้น การพัฒนาระบบตั๋วร่วมที่เป็นรูปธรรมบูรณาการทุกสาย จะทำให้อัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าในภาพรวมถูกลง เป็นประโยชน์ทั้งผู้เดินรถและประชาชน” นายพีระยุทธกล่าว

นอกจากนี้ การพัฒนาเชิงพาณิชย์ พื้นที่สถานีและแนวสายทางจะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้รถไฟฟ้า แต่ยังติดขัดข้อกฎหมายเวนคืนที่กำหนดวัตถุประสงค์นำที่ดินเวนคืนมาใช้ในการก่อสร้างเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขอยู่ ขณะที่จะนำแนวคิดการจัดรูปที่ดินเข้ามาใช้ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อทำให้ผู้ถูกเวนคืนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่ดินที่ถูกเวนคืน ซึ่ง รฟม.จะใช้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) เป็นโครงการนำร่อง โดยจากการลงพื้นที่เจรจากับเจ้าของที่ดิน แนวเขตทาง ได้รับการตอบรับที่ดีและเห็นด้วย เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาบนได้ประโยชน์มากกว่าถูกเวนคืนอย่างเดียว

ผู้โดยสารสายสีม่วงต่ำเป้า จ่อโปรฯ ลดค่าโดยสารจูงใจ

สำหรับการเปิดเดินรถสายสีม่วง (คลองบางไผ่-เตาปูน) นั้น มีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ย 2 หมื่นคนต่อวัน ยังต่ำกว่าประมาณการที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารที่ 6-7 หมื่นคนต่อวันในปีที่เปิดให้บริการ ซึ่งอาจจะมาจากการปรับตัวของประชาชนในการเดินทางรูปแบบใหม่ ปัญหาการเชื่อมต่อ 1 สถานี (เตาปูน-บางซื่อ) ทำให้บางส่วนยังไม่เลือกใช้รถไฟฟ้าเดินทาง ซึ่งในส่วนของชัตเติลบัสเชื่อม 1 สถานีนั้นมีผู้ใช้บริการประมาณ 1.2 หมื่นคนต่อวัน ซึ่ง รฟม.ได้เพิ่มจำนวนรถเมล์ในชั่วโมงเร่งด่วนจาก 15 คันเป็น 18 คัน ในภาพรวมยังเพียงพอต่อความต้องการ ส่วนข้อบกพร่องในการเดินรถสายสีม่วงในเชิงเทคนิคยังมีอยู่บ้างซึ่ง รฟม.น้อมรับและได้เร่งให้ทางบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ปรับปรุงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ รฟม.จะพิจารณากลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อจูงใจให้มีผู้ใช้บริการสายสีม่วงเพิ่มขึ้น เช่น การทำโปรโมชันปรับลดค่าโดยสารลง โดยจะต้องพิจารณาอัตราที่จะจูงใจ และรายได้ที่จะเข้ามาเพียงพอต่อการจ่ายค่าจ้างเดินรถให้ BEM ด้วย เนื่องจากเป็นสัญญา PPP Gross Cost รวมถึงหารือกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อจัดระบบฟีดเดอร์จากชุมชนไปยังสถานีของสายสีม่วงให้มีความสะดวกมากขึ้น ขณะที่หากสามารถเชื่อมต่อ 1 สถานีได้คาดว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 1 แสนคนต่อวัน

“ปัจจุบันผู้โดยสารของสายเฉลิมรัชมงคลมีประมาณ 2.6-2.7 แสนคนต่อวัน บางวันสูงสุดที่ 3 แสนคน โดยมีผู้โดยสารสายสีม่วง ป้อนเข้ามาเพิ่มอีกเกือบ 1 หมื่นคนต่อวัน แม้ว่าจะยังไม่เชื่อมต่อ 1 สถานี โดย รฟม.จะประเมินจำนวนผู้โดยสารของสายสีม่วงอีกประมาณ 1-2 เดือนจากนี้ ก่อนที่จะกำหนดมาตรการและกลยุทธ์ต่างๆ เพิ่มเติม” ผู้ว่าการ รฟม.กล่าว

นัดถก กก.ร่วมมาตรา 43 และมาตรา 35 เดินรถสีน้ำเงิน สัปดาห์หน้า

นายภคพงษ์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. กล่าวว่า การเดินรถส่วนสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ตามคำสั่ง ม.44 นั้น บอร์ด รฟม.ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์และเสนอไปยังนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา คาดว่า รมว.คมนาคมจะเห็นชอบเร็วๆ นี้ โดยคณะกรรมการมาตรา 43 ของรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล และคณะกรรมการมาตรา 35 ของสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะประชุมร่วมนัดแรกในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือถึงที่มา การดำเนินการโครงข่าย ปัญหาข้อกฎหมาย เป็นต้น เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนต่อไป โดยมีเวลาพิจารณา 30 วัน จากนั้นจะเชิญ BEM มาเจรจา มีเวลาอีก 30 วัน และในทางคู่ขนานบอร์ด รฟม.ได้อนุมัติให้ทำสัญญาจ้าง BEM แบบชั่วคราวในการเข้าไปติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณในส่วนของ 1 สถานีก่อน โดยได้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.โดยคาดว่าจะเร่งเปิดเดินรถ 1 สถานีได้ในต้นปี 2560

[Wisarut]

[Wisarut]

นายกฯ สั่งเร่งแผนเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีม่วง-สีน้ำเงิน
INN News
21 สิงหาคม 2559

บิ๊กตู่ สั่งเร่งแผนเชื่อม รถไฟฟ้า สายสีม่วง-สีน้ำเงิน ขอ รฟม.ดูค่าโดยสารและคำนึงถึงความสะดวกของประชาชน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากมีคำสั่ง คสช.ตามมาตรา 44 ในการเร่งรัดเจรจา เพื่อคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้ามาบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ รวมทั้งการเชื่อมต่อ 1 สถานีระหว่างสถานีบางซื่อ (สายสีน้ำเงิน) กับสถานีเตาปูน (สายสีม่วง) นั้น


ขณะนี้ คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. กำหนดหลักเกณฑ์ส่วนแบ่งรายได้ค่าโดยสาร และการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 1 สถานี และรับฟังความเห็นของ สศช.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และกรรมการป้องกันการทุจริต เพื่อเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว

ทั้งนี้ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้ขอให้เร่งรัดทุกขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้คำนึงถึงความสะดวกของประชาชนเป็นอันดับแรก และขอให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่า รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขเรื่องการเชื่อมต่อ 1 สถานี แม้ปัญหาจะมาจากการทำสัญญาเดิมก่อนรัฐบาลนี้ก็ตาม จึงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ ที่จะต้องดูทั้งเรื่องกฎหมายและการเจรจากับเอกชน ให้เกิดความรอบคอบและคุ้มค่าที่สุด

พล.ต.สรรเสริญ ยังกล่าวถึง กรณีที่รถไฟฟ้าสายสีม่วง มีผู้ใช้บริการไม่เป็นไปตามเป้า หลังเปิดเดินรถเมื่อ 6 สิงหาคม ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มองเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนกำลังปรับตัวและวางแผนการเดินทาง จึงอาจใช้เวลาบ้าง

ทั้งนี้ ได้ฝากให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. หาวิธีการดึงดูดให้มีผู้โดยสารมากขึ้น อาทิ การปรับราคาค่าโดยสาร หรือจัดรถให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูน กับสถานีบางซื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน

[Wisarut]

“สมคิด” เร่งเชื่อม 1 สถานีแก้สีม่วงคนใช้น้อย รฟม.ของบหนุนขาดทุนอย่างน้อย 11 ปี
โดย MGR Online
22 สิงหาคม 2559 16:46 น. (แก้ไขล่าสุด 22 สิงหาคม 2559 17:18 น.)

คนใช้น้อยต่ำกว่าเป้า!! 'สมคิด' สั่งเร่งเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีม่วง-น้ำเงิน
โดย ไทยรัฐออนไลน์
22 สิงหาคม 2559 2559 16:42

“สมคิด” กำชับ “คมนาคม-รฟม.” เร่งหาทางออกแก้ปัญหาผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงน้อย พร้อมเร่ง เดินรถเชื่อมต่อ 1 สถานีเร็วที่สุด ด้าน “อาคม” ระบุช่วงแรกเปิดรถไฟฟ้าผู้โดยสารน้อยเป็นเรื่องปกติ ขณะที่อัตราค่าโดยสารไม่ใช่ปัจจัยหลักคนใช้น้อย เร่งชง ครม.อนุมัติจ้าง BEM แบบชั่วคราวติดระบบอาณัติสัญญาณช่วง 1 สถานีโดยต้องไม่ผูกพันกับเจรจาเดินรถส่วนต่อขยาย ด้าน รฟม.รู้อยู่แล้ว สีม่วงขาดทุนอย่างน้อย 11 ปี เสนอแผนของบหนุนรายปี

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยถึงกรณีรถไฟฟ้าสายสีม่วง (คลองบางไผ่-เตาปูน) มีผู้ใช้บริการน้อยกว่าเป้าหมายว่า ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งหาจุดที่เป็นปัญหาเพื่อพิจารณาแนวทางที่จะจูงใจให้ประชาชนมาใช้บริการมากขึ้น เช่น ไม่ทราบข้อมูลหรือยังไม่ต้องการใช้บริการเพราะสาเหตุใด หรือมาจากประเด็นรอยต่อกับสายสีน้ำเงินระยะทาง 1 กม. ช่วง “เตาปูน-บางซื่อ” ที่ยังไม่มี ซึ่งทาง รฟม.และกระทรวงคมนาคมต้องเร่งรัดส่วนนี้โดยเร็วเพื่อให้สีม่วงวิ่งไปถึงบางซื่อได้ ส่วนช่วงระหว่างนี้กำชับให้จัดรถเมล์เชื่อมสถานีเตาปูน-บางซื่อให้พอ ไม่ให้ประชาชนรอนานต้องได้ขึ้นทันที

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รฟม.ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงทำให้ผู้ใช้บริการสายสีม่วงน้อย หากเป็นเรื่องเชื่อม 1 สถานี รฟม.จัดบริการฟรีอยู่แล้ว ซึ่งต้องประชาสัมพันธ์มากขึ้น ส่วนค่าโดยสารนั้นอาจจะไม่ใช่ปัจจัยหลักหรือสาเหตุเสมอไป เพราะโดยปกติการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าระยะแรกจะมีผู้ใช้น้อย เพราะประชาชนอาจจะยังไม่เข้าใจระบบการเดินทาง อย่างไรก็ตาม จะเร่งรัดการเชื่อมต่อ 1 สถานี ซึ่ง รฟม.ได้เสนอเรื่องการจ้างบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นสัญญาชั่วคราวเพื่อเข้าติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณช่วง 1 สถานีก่อน โดยไม่มีเงื่อนไขผูกพันกับงานเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน โดยทางกระทรวงคมนาคมจะเร่งนำเสนอ ครม.โดยเร็ว ส่วนของการเดินสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะเร่งปฎิบัติตามคำสั่งมาตรา 44 ซึ่งคณะกรรมการมาตรา 43 ของรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล และคณะกรรมการมาตรา 35 ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจะเร่งประชุมและเจรจากับเอกชนต่อไป

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 14 สูงสุด 42 บาท สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายเฉลิมมหานครที่สถานีบางซื่อ โดยจัดรถเมล์ Shuttle Bus ระหว่างสถานีเตาปูน-สถานีบางซื่อ ไว้บริการฟรี โดยใช้บัตร MRT Plus ไม่ต้องจ่ายค่าแรกเข้า โดยอัตราค่าโดยสารตลอดสาย จากสายสีม่วง (คลองบางไผ่) - สายเฉลิมรัชมงคล (สถานีหัวลำโพง) ไม่เกิน 70 บาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ รฟม.ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธานได้ เห็นชอบหลักการตามที่ รฟม.เสนอ เรื่องขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง เนื่องจากการประเมินผลประกอบการพบว่า รฟม.จะมีรายได้ต่ำกว่ารายจ่าย หรือขาดทุนในช่วง 11 ปีแรก และจะเริ่มมีกำไรตั้งแต่ปีที่ 12 สามารถบริหารจัดการได้เอง โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วง รฟม.ได้ทำสัญญากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ว่าจ้างให้เป็นบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงในรูปแบบ PPP-Gross Cost หรือจ้างบริหารเดินรถ พร้อมทั้งยกเว้นค่าแรกเข้าของสายเฉลิมรัชมงคล ที่ 16 บาทกรณีผู้โดยสารใช้สีม่วงเชื่อมต่อไป โดย รฟม.จะรับภาระจ่ายให้ BEM แทนประชาชน

[Wisarut]

รถไฟฟ้าสายสีม่วงมาหา(ไม่ถึง)นะเธอ!! ผู้โดยสารเมิน! ตั๋วแพง แถมไม่เชื่อมต่อ
โดย ผู้จัดการรายวัน
22 สิงหาคม 2559 20:23 น. (แก้ไขล่าสุด 22 สิงหาคม 2559 20:29 น.)

รฟม.ถึงกับเหงื่อตก หลังการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วง “บางใหญ่-เตาปูน” ได้เพียง 2 สัปดาห์ พบปัญหาขาดทุนยับวันละกว่า 3 ล้านบาท เพราะคนใช้บริการไม่ถึงเป้า แถมสถานีไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้ผู้โดยสารยังต้องต่อรถอีก เล็งเชื่อมต่อให้ทันต้นปี 60

ขนหน้าแข้งร่วง ขาดทุนวันละ 3 ล้านบาท!!

ผ่านไปกว่า 2 สัปดาห์แล้ว กับการเปิดรางให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งหวังจะช่วงอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางจากชานเมืองเข้าสู่กรุง แต่กลับต้องสะดุดเมื่อเส้นทางที่เชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ไปยังรถไฟฟ้าเตาปูนหายไป 1 สถานี แถมค่าโดยสารที่แพงหูฉี่ ทำให้ประชาชนเลือกที่จะไปให้บริการขนส่งประเภทอื่นแทน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ รฟม.สูญเสียรายได้ตกวันหลายล้านบาท


ปัญหาของรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้ ถูกเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝ่ายโยธาและจราจร ถึงสถานการณ์อันน่าเป็นห่วงของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ที่หลังจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วง เส้นทางบางใหญ่ - เตาปูนไปแล้ว กลับมีผู้มาใช้บริการไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดการไว้คือ 7 หมื่นคนต่อวัน แต่มีเพียง 2 หมื่นคนต่อสัน ทำให้ขณะนี้ประสบปัญหาขาดทุนกว่าวันละ 3 ล้านบาท

ดร.สามารถ ชี้แจงถึงค่าใช้จ่ายที่ รฟม.แบกรับไว้ ทั้งการจ้างบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษากว่า 1,327.5 ล้านบาท หรือคิดเป็นวันละประมาณ 3.6 ล้านบาท แต่ทาง รฟม.เก็บค่าโดยสารได้เพียงวันละ 6 หมื่นบาท จึงต้องแบกภาระขาดทุนวันละ 3 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมค่าก่อสร้างที่มีมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จึงเห็นได้ชัดว่าการประกอบการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะไม่สามารถมีรายได้จ่ายค่าก่อสร้างได้ เนื่องจากมีรายได้น้อยมาก น้อยเสียจนไม่พอจ่ายแม้เพียงแค่ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงรักษา

นอกจากนี้ ดร.สามารถ ยังได้เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ทาง รฟม. พิจารณา 5 ประการ ดังนี้ 1. เร่งเปิดให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนกับสถานีบางซื่อโดยเร็วที่สุด 2. ปรับลดค่าโดยสารลง 3. ปรับลดค่าจอดรถที่อาคารจอดลง 4. ร่วมมือกับผู้ประกอบการเดินรถโดยสารในพื้นที่ต่างๆ ตลอดเส้นทางรถไฟฟ้าขนผู้โดยสารจากบ้านมาส่งที่สถานี และจากสถานีไปส่งที่ทำงาน และ 5.ควบคุมให้ BEM ซึ่งเป็นผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าให้รถเข้าออกสถานีตรงเวลา ไม่จอดแช่ ประตูชานชาลา และประตูรถจะต้องเปิดทุกสถานี และจอดรถตรงตามจุดที่กำหนดให้ผู้โดยสารเข้าออก

“หากรฟม.เร่งแก้ไขตามข้อเสนอแนะดังกล่าว ผมมั่นใจว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงจะมีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นแน่ครับ” อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวทิ้งท้าย

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีผู้คนบนโลกโซเชียลฯ ที่ได้ลองใช้บริการรถไฟฟ้าเส้นทางนี้แล้ว เข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกัน ถึงเรื่องความไม่สะดวกสบายในการใช้บริการ เพราะต้องลงจากอีกสถานีหนึ่งต่อรถไปยังสถานีหนึ่ง ทำให้เสียเวลา อีกทั้งราคาค่าโดยสารที่แพง เมื่อเทียบกับการเดินทางประเภทอื่นอย่างรถเมล์หรือรถตู้ ผู้คนจึงเลือกที่จะใช้บริการรถโดยสารสาธารณะประเภทหลังมากกว่า และบรรทัดต่อจากนี้คือความคิดเห็นบนโลกโซเชียลฯ ที่มีต่อเหตุการณ์นี้

“รอให้เชื่อมกันก่อนค่อยใช้ ยิ่งเชื่อมกันช้าคนก็จะน้อยลง อาจประสบปัญหาขาดทุนได้นะคะ ระหว่างรอให้เชื่อมนี่กรุณาช่วยดูแลทางเท้าด้านล่างสถานีให้ผู้คนเดินอย่างปลอดภัยก็จะดี บางคนไม่ทันรถขนส่งระหว่างสถานีต้องเดินเลียบไปเองนี่ลำบากมากจนทำให้ไม่อยากใช้บริการได้นะคะ แถมรถก็ติดไม่ได้ช่วยให้การเดินทางเร็วขึ้นหรือสะดวกมากขึ้นเลย อีกทั้งค่าโดยสารที่สูงกว่าการเดินทางปกติด้วย”
“ดึงเอารถปรับอากาศสายที่วิ่งรับคนแถวย่านนั้นไป เช่นสาย 50,66,70 ทำให้คนที่เขาใช้รถสายพวกนี้ รอรถกันนานมาก เพราะธรรมดาก็นานอยู่แล้ว ยิ่งช่วงเย็น-ค่ำ รอสาย 70 จากสถานีเป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆ กว่ารถจะมา”

“ถ้าไปแล้วมันลำบากขึ้น ราคาแพงขึ้น เดินทางต่อลำบากขึ้น ใครจะใช้”
“แพงมาก พระนั่งเกล้า-บางใหญ่ 30 ผมนี่ลองนั่งครั้งเดียวพอ ไปรถตู้ดีกว่าเผลอๆ ไวกว่าอีก 15 บาทเอง”
“ค่ารถ ไป กลับ ค่าจอดรถส่วนตัว แพงเกินไป เทียบกับขับรถไปเองแล้วประหยัดกว่า แถมไม่เชื่อมต่อกับโครงข่ายในเมือง แค่นี้คิดไม่ได้” ฯลฯ

อย่างไรก็ตามทางขณะนี้ทาง รฟม. ได้มีการพิจารณาเตรียมปรับลดค่าโดยสารลงแล้ว รวมไปถึงการเร่งให้การเชื่อมต่อของ 2 สถานีนี้เสร็จให้ทันภายในต้นปี 60 ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ามาตรการนี้จะทำให้ประชาชนหันกลับมาให้บริการมากขึ้นหรือไม่

ขอแก้ตัวอีกรอบ ปี 60 จะเชื่อมสถานีให้!!

ค่าโดยสารที่แพงถือได้ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนไม่นิยมใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้ แต่อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนไม่เลือกใช้บริการก็คือ ความไม่สะดวกสบายในการในการสัญจร เนื่องจากสถานีบางซื่อไม่ได้เชื่อมต่อกับสถานีเตาปูน เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ผู้โดยสารจึงจำเป็นต้องใช้บริการขนส่งรูปแบบอื่นเพื่อไปยังสถานีเตาปูนให้วุ่นวายอีก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตกันว่า เพราะเหตุใดจึงไม่มีการเชื่อมต่อให้แล้วเสร็จก่อนถึงค่อยมีการเปิดให้ใช้บริการ

ปัญหา 1 สถานีที่หายไปนี้ เกิดจาก รฟม. ไม่สามารถเจรจาหาข้อตกลงร่วมกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในการว่าจ้างให้บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงในรูปแบบ PPP-Gross Cost หรือจ้างบริหารเดินรถ จนกลายเป็นปัญหายืดเยื้อ เมื่อถึงวันเปิดให้บริการจริงแล้ว ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนทำให้มีประชาชนมาใช้บริการน้อยและไม่เป็นไปตามคาด

แต่ความหวังที่จะได้ใช้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบขึ้นเริ่มมี เพราะขณะนี้งานโยธาในส่วนของรางวิ่งรถไฟฟ้า งานวางราง รางรถไฟและรางจ่ายไฟฟ้า ของทางสถานีเตาปูนก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงระบบควบคุมการเดินรถเท่านั้น ซึ่งงานส่วนที่เหลือจะอยู่ในผู้รับสัมปทานการเดินรถคือ BEM กำลังเร่งดำเนินการอยู่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560

การแก้ปัญหาเบื้องต้นของการไม่เชื่อมต่อนี้ เบื้องต้นทาง รฟม.จึงใช้การร่วมมือกับ องค์การขนสงมวลชน(ขสมก.) ในการจัดรถเมล์ Shuttle Bus เป็นบริการเสริม ระหว่างสถานีเตาปูน-สถานีบางซื่อ มีจุดให้บริการรับส่งที่สถานีเตาปูน บริเวณทางออกที่ 1, 4 และสถานีบางซื่อ บริเวณทางออกที่ 2 เส้นทางเดินรถจากสถานีเตาปูน ไปสถานีบางซื่อ จัดเดินรถทางเดียว จะใช้เวลาประมาณ 7 นาที ส่วนขากลับจะต้องเดินรถอ้อมไปเข้าถนนเทอดดำริ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที


อีกทางคือการใช้รถไฟฟรี ที่ให้บริการระหว่างสถานีบางซ่อน-สถานีบางซื่อ-สถานีบางซ่อน โดยใช้ตู้โดยสารแบบปรับอากาศ จำนวน 3 ตู้ รองรับผู้โดยสาร จำนวน 100 คนต่อตู้ ในวันจันทร์-วันศุกร์ ช่วงเช้าเวลา 06.30-09.30 น. และช่วงเย็นเวลา 16.30-20.30 น. ความถี่ในการให้บริการ 15 นาทีต่อขบวน มีจุดให้บริการที่สถานีบางซ่อน บริเวณทางออกที่ 5 และสถานีบางซื่อ บริเวณทางออกที่ 2 โดยในช่วงเร่งด่วนจะปรับขบวนรถไฟให้ตัดกระแสการจราจรน้อยที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าว

ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์”
ขอบคุณภาพประกอบ : ภาพยนตร์ “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ”

[Wisarut]

สำนักข่าวอิศรา เปิดประเด็นเรื่องรถไฟฟ้า

รถไฟฟ้าสีม่วง กับอีกมุมมองสะท้อน กรุงเทพเมือง (ไม่) ทั่วถึง
เขียนโดยisranews
วันอังคาร ที่ 23 สิงหาคม 2559 เวลา 12:10 น.

ต่อให้เรามีบีทีเอสหรือรถไฟฟ้าใต้ดินหรืออีกหลายสาย แต่คนยังเลือกนำรถส่วนตัวมาทำงานอยู่ดี พบว่า 97% ของคนกรุงเทพฯ เลือกเดินทางโดยไม่ใช้รถไฟฟ้าเพราะค่าบริการรถไฟฟ้าในแต่ละเที่ยวนั้น เท่ากับ 30% ของค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว หาเงินมาเท่าไร ก็หมดไปกับค่าเดินทางไปทำงาน