ข่าวทางด่วนศรีรัช-วงแหวนบนเขตทางรถไฟบางซื่อ-ตลิ่งชัน

[Mongwin]

6 ชุมชนแนว "เวนคืน" ทางด่วน "ศรีรัช-วงแหวน" รวมตัวขอความเป็นธรรม กทพ. โดนไล่รื้อซ้ำซาก
มติชนออนไลน์ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 19:31:54 น.

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ชาวชุมชนแขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ชุมชนภักดี ชุมชนเคหสถานเจริญชัย ชุมชนพร้อมใจพัฒนา ชุมชนสวนผัก ชุมชนไทรคู่ และชุมชนไพฑูรย์นิเวศน์ ได้เปิดเวทีชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมรับฟังความคิดเห็น และทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ให้คนในชุมชนได้รับทราบ ถึงผลกระทบที่จะได้รับในการถูกเวนคืนที่ดิน จากกรณีที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีโครงการก่อสร้างทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก และได้ออกประกาศพระราชกฤษฎีกา(กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีคนในชุมชนกว่า 200 ร่วมรับฟังคำชี้แจง

นายเกียรติศักดิ์ มีสมพร ประธานสหกรณ์ชุมชน เคหสถานเจริญชัย กล่าวว่า ตอนนี้หลังจากที่ทางชุมชนได้รับเอกสาร พ.ร.ฎ เวนคืนฯ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ หลังจากที่เดิม กทพ. บอกว่าชาวชุมชนแถบนี้จะไม่ถูกเวนคืน หรือโดนแค่บางส่วนเท่านั้น แต่เมื่อ พ.ร.ฎ.ออกมา ก็พบว่าชุมชนอยู่ในแนวที่จะถูกเวนคืนทั้งหมด ผิดกับข้อมูลที่เคยบอกไว้ วันนี้จึงเกิดการรวมตัวกันขึ้น เพื่อหาทางออกร่วมกัน ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"คนในชุมชนเคยมีประสบการณ์จากการไล่รื้อเพื่อสร้างทางด่วนมาแล้ว แต่ตอนนั้นเราบุกรุกเขาอยู่บ้าง เช่าเขาอยู่บ้าง แต่วันนี้เมื่อย้ายออกมา ได้มาซื้อที่ดินเอง เป็นที่ดินแปลงเล็ก ๆ ในกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นที่ซุกหัวนอน วันนี้ก็มาโดนซ้ำซากอีก เรื่องนี้ต้องคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ทางพี่น้องประชาชนที่นี่ไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อต้านกฎหมาย แต่เราต้องการขอความยุติธรรม ขอความเป็นธรรมกับการทางพิเศษฯ กระทรวงคมนาคม รวมถึงรัฐบาล" นายเกียรติศักดิ์ กล่าว

[kikoo]

ตราบใดที่ระบบผังเมืองยังย่ำแย่ ก็คงต้องประสบปัญหาการเวนคืนที่ยุ่งยากต่อไป
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618

[Mongwin]

เล็งสร้างสะพานข้ามเจ้าพระยา 11 แห่งใน 20 ปี
แนวหน้า 5 มี.ค. 55

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้เสนอร่างแผนแม่บท สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาจราจร ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบันที่ติดขัดเนื่องจากโครงข่าย ถนนและช่องทางเดินทางระหว่าง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เพียงพอต่อปริมาณการจราจรที่มีการเดินทางมากถึง 2.7 ล้านเที่ยว/วัน ใน 19 สะพานพื้นที่กทม.และ ปริมณฑล และคาดว่าใน 10 ปีข้างหน้าจะมีการ เดินทางมากขึ้นถึง 3.5 ล้านเที่ยว/วัน

จึงมีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวง ชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานครขึ้น 2 ครั้ง จัดทำร่างแผนแม่บทสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงแผนการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายสะพานในปัจจุบัน โดยพิจารณาความเหมาะสมจากปัจจัยหลัก 3 ด้าน คือ วิศวกรรม เศรษฐศาสตร์ และผลกระทบสิ่งแวดล้อม ร่วมกับความเป็นไปได้และความพร้อมของโครงการ

กำหนดเป็นแผนแม่บทในระยะเวลา 20 ปี ซึ่งจะมีการเปิดใช้สะพานเพิ่มขึ้น 11 แห่ง โครงการระยะเร่งด่วน 5 ปี 2 สะพาน เริ่มสร้างในปี 2555 และ2556 คือ สะพานนนทบุรี 1 และสะพานเกียกกาย โครงการระยะ 10 ปี 8 สะพาน ได้แก่ สะพานปทุมธานี 3, สะพานสามโคก, สะพานท่าน้ำนนท์, สะพานสมุทรปราการ, สะพานจันทร์-เจริญนคร, สะพาน ลาดหญ้า-มหาพฤฒาราม, สะพานราชวงศ์-ท่าดินแดง และสะพานพระราม 2 โครงการระยะ 20 ปี 1 สะพาน คือ สะพานสนามบินน้ำ

นอกจากนี้ยังมีสะพานที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ทางพิเศษอีก 3 แห่ง คือโครงข่ายทางพิเศษศรีรัช-ดาวคะนอง โครงข่ายทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และสะพานถนนวงแหวนรอบที่ 3 ด้านใต้ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงโครงข่ายจราจรของสะพานในปัจจุบันโดยเฉพาะบริเวณจุดตัดทางแยกปลายสะพาน ทางขึ้นลงหรือทางเชื่อมสะพานด้วย จากนี้จะเร่งสรุป แผนดังกล่าวให้เสร็จในเดือนมิถุนายน 2555 และนำส่ง กระทรวงคมนาคมรายงาน คณะกรรมการจัดการจราจร ทางบก (คจร.) ก่อนนำเข้า ครม.พิจารณาต่อไป

ในส่วนของกรุงเทพมหานครมี 4 สะพาน ที่รับผิดชอบ คือ สะพานเกียกกาย, สะพานลาดหญ้า, สะพานจันทร์ และสะพานราชวงศ์ ส่วนสะพาน พระราม 2 ยังไม่ได้รับมอบจากรัฐบาล โดยเริ่มดำเนินการ ก่อสร้างสะพานเกียกกายก่อนตามความเร่งด่วนเพื่อให้ สอดคล้องกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาที่จำเป็นต้อง เตรียมการรองรับเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่จะเกิดขึ้นให้ทันไม่ให้กระทบกับประชาชนโดยรอบ ซึ่งนอกจากจะก่อสร้างสะพานแล้วจะต้องมีการพัฒนาโครงข่ายถนนโดยรอบเชื่อมการเดินทางกับถนนสายต่างๆ ด้วย ขณะนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และการเวนคืนที่ดิน ประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น รวมค่าก่อสร้างสะพาน พัฒนาโครงข่ายถนนเชื่อมทางขึ้น-ลง และเวนคืนรวมประมาณ 11,000 ล้านบาท ซึ่งจะยื่นของบประมาณปี 2556 คาดเริ่มก่อสร้างได้กลางปี 2556 ใช้เวลาก่อสร้าง 3.5 ปี

สำหรับสะพานเกียกกายรวมถึงโครงข่ายทางขึ้น-ลงเชื่อมถนนสายต่างๆ มีระยะทางรวมทั้งหมดประมาณ 5.90 กิโลเมตร จุดขึ้น-ลง 9 แห่ง และสะพานข้ามแม่น้ำ 1 แห่ง ดังนี้ 1.จุดขึ้น-ลงบริเวณ จุดเริ่มต้นโครงการบนถนนคู่ขนานทางรถไฟสายใต้ เป็นถนนระดับดิน 2.จุดขึ้น-ลงบนถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นถนนระดับดิน 3.บริเวณจุดข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 4.จุดขึ้น-ลงบริเวณถนนสามเสน/ประชาราษฎร์ สาย 1 ซึ่งมีทางลงเข้ารัฐสภาแห่งใหม่ด้วย 5.จุดขึ้น-ลงบนถนนทหาร (หน้าพล ปตอ.) 6.จุดขึ้น-ลงบนถนนประดิพัทธ์ โดยขึ้น-ลง ตรงกลาง 7.จุดขึ้น-ลงบนถนนกำแพงเพชร ใกล้กับถนนพระรามที่ 6 8.จุดขึ้น-ลงบนถนนกำแพงเพชร ใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วน 9.จุดขึ้น-ลงบนถนนกำแพงเพชร 2 (จตุจักร) และ 10.จุดทางลงปลายทางบนถนนพหลโยธิน

ส่วนสะพานลาดหญ้าจะดำเนินการต่อจากสะพานเกียกกาย เพื่อให้สอดคล้องกับระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส สำหรับสะพานจันทร์ และสะพานราชวงศ์ อยู่ในขั้นพิจารณาความสำคัญก่อนหลัง

[suraphat]

เท่าที่ดูมานี้จะเป็นการเวนคืนเอาตามแนวทางรถไฟสายสีแดงนี้เสียมากกว่า ในลักษณะที่มีทางพิเศษวิ่งขนานไปกับทางรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยมีประกาศที่จะขอเวนคืนเพิ่มเติมเอาในบริเวณจุดขึ้นสงทางพิเศษสายที่ว่านี้เท่านั้นนะครับ

[Mongwin]

กทพ. แจงกรณีแนวเขตตาม พ.ร.ฎ.เวนคืน ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนฯ
วันจันทร์ที่ 05 มีนาคม 2012 เวลา 18:12 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ

ตามที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืน เพื่อการก่อสร้างทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ในท้องที่ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางซื่อ และเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 129 ตอนที่ 16 ก เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 และให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ต่อมาฝ่ายกรรมสิทธิ์ที่ดิน กทพ. ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตทีจะดำเนินการในบริเวณแนวสายทางพิเศษ จำนวน 20 ป้าย ซึ่งทำให้ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยในแนวเขตที่ระบุในป้ายประกาศ พ.ร.ฎ. เกิดความวิตกกังวล

ดังนั้น กทพ. จึงขอแจ้งว่า แนวเขตที่ระบุในป้ายดังกล่าวเป็นเพียงแนวคร่าว ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสำรวจในเบื้องต้น ไม่ใช้แนวเขตเวนคืนทั้งหมด ซึ่งแนวเขตที่ใช้สำหรับทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่ของการถไฟแห่งประเทศไทย (ตามแนวทางรถไฟสายใต้) ดังนั้น กทพ. จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในแนวเขตตาม พ.ร.ฎ. ตรวจสอบแนวเขตเวนคืนและสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 0 2641 5355-9 ต่อ 3316, 3317 หรือที่เบอร์ 0 2246-9251-2

ทั้งนี้ข้อมูลที่ท่านต้องเตรียมไว้เพื่อใช้ในการสอบถาม ได้แก่ เลขที่โฉนด, ใบระวาง, เลขที่ดินและหน้าสำรวจ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบ”

------------


ด่วนใหม่ศรีรัชฯต้นทุนพุ่ง3พันล้าน วงเงินเดิม1.7หมื่นล."บีอีซีแอล"ลุ้นกทพ.ไฟเขียว
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 06 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 07:09:38 น.

"บี อีซีแอล" ลุ้นคณะกรรมการ มาตรา 13 เคาะแผนลงทุน 30 ปีสร้างทางด่วนใหม่ "ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก" หลังต้นทุนก่อสร้างพุ่งอีก 3,000 ล้านบาท เกินจากกรอบวงเงินเดิม 17,458 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าก่อสร้างทันทีหลังได้ข้อสรุปเดือน พ.ค.นี้ เปิดแผนปี"55 ทุ่ม 200 ล้านสร้างทางเชื่อมต่อทางด่วนกับถนนจตุรทิศ หนุนคนใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์และระบายการจราจรบริเวณโดยรอบ โชว์ผลประกอบการปี"54 ลดฮวบ 4.4% เหลือ 7,652 ล้านบาท กำไรแตะ 1,408 ล้านบาท หลังส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางลดลงเหลือ 40% ปี"55 ตั้งเป้ารายได้โตแค่ 3-4% ตามปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น

นาง พเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีซีแอล เปิดเผยว่า บริษัทได้รับคัดเลือกเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการทางด่วนใหม่สายศรีรัช-วง แหวนรอบนอกด้านตะวันตก ระยะทาง 16.5 กิโลเมตร กรอบค่าก่อสร้าง 17,458 ล้านบาท อายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี โดยบริษัทได้เสนอวงเงินลงทุนรวมไปหมดแล้ว คาดว่าจะเกินจากกรอบวงเงินของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพราะคิดไว้หลายปีแล้ว ปัจจุบันมีทั้งวัสดุก่อสร้างและอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว

ล่าสุด อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ มาตรา 13 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 เรื่องผลตอบแทน ซึ่งบริษัทไม่สามารถบอกได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่แตกจากรูปแบบสัมปทานเดิมจะได้ข้อสรุปในเดือนพฤษภาคมนี้

"หลัง ทราบผลเราพร้อมจะเดินหน้าโครงการทันที เพราะการเวนคืนที่ดินทาง กทพ.กำลังเร่งดำเนินการ ในส่วนของแหล่งเงินทุนที่จะนำมาก่อสร้างนั้นจะมาจาก 2 ทางคือ เงินกู้จากสถาบันการเงิน และระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ"

นาง พเยาว์กล่าวว่า สำหรับสัญญาสัมปทานเดิมของทางด่วนขั้นที่ 2 จะครบกำหนดในปี 2563 นี้ หรือเหลืออีก 7-8 ปี บริษัทจะเสนอขอต่ออายุสัญญาสัมปทานออกไปอีก โดยตามสัญญาระบุไว้ 20 ปี ซึ่งบริษัทยินดีจะเจรจาทุกรูปแบบ เช่น ยุติข้อพิพาทต่าง ๆ ที่มีกับ กทพ. หรือเจรจารวมกับสัมปทานโครงการใหม่ด้วยก็ได้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กทพ.

สำหรับแผนการลงทุนในปี 2555 บริษัทจะสร้างทางเชื่อมต่อทางด้านถนนจตุรทิศกับทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) มูลค่าก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อระบายการจราจรด้านถนนจตุรทิศ เพราะสภาพปัจจุบันมีปริมาณจราจรหนาแน่นมาก และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่ สถานีมักกะสันด้วย

นอกจากนี้ จะเจรจากับบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ สร้างทางเชื่อมกับทางด่วน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการทั้ง 2 ระบบ

"ที่ผ่านมาได้พูด คุยกันบ้างแล้วกับโทลล์เวย์ว่ามีจุดไหนบ้างที่จะเชื่อมร่วมกันได้บ้าง เพื่อสร้างเครือข่ายการให้บริการได้ครอบคลุมมากขึ้น แนวคิดนี้น่าจะทำให้มีผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต"

ส่วนผล ประกอบการของบริษัทในปี 2554 มีรายได้รวม 7,652 ล้านบาท ลดลง 4.4% จากปี 2553 ที่มีรายได้รวม 8,004 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,408 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 1,803 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากผลกระทบน้ำท่วมช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าผ่านทางจาก กทพ.ลดลงเหลือเพียง 40% จากปีก่อนที่เคยได้รับ 50%

ด้านปริมาณผู้ใช้ทางด่วนโดยรวม มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว 1.03 ล้านคัน/วัน ปัจจุบันอยู่ที่ 1.067 ล้านคัน/วัน สังเกตได้จากจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุด โดยวันเสาร์เพิ่มขึ้นจาก 75% เป็น 90% และในวันอาทิตย์เพิ่มจาก 65% เป็น 80% เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจ, สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเริ่มนิ่งขึ้น และได้รับอานิสงส์จากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล

กรณีที่กระทรวง คมนาคมมีแผนจะยกเลิกการจัดเก็บค่าประกันบัตรอีซี่พาสจำนวน 800 บาท/รายนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเจรจากับ กทพ. แต่เชื่อว่าสามารถทำได้หากเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมให้ประชาชนหันมา ใช้บัตรอีซี่พาสเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดปัญหาจราจรที่ติดขัดบริเวณด่านจ่ายเงิน ในเร็ว ๆ นี้คงต้องมีการเจรจาเรื่องนี้อีกครั้ง ทางบริษัทพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ โดยในปัจจุบันได้มีการติดตั้งระบบรองรับไว้แล้ว

รายงานข่าวจาก กทพ.กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการปรับรูปแบบการก่อสร้างโครงการทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก บริเวณบางกรวย ที่ใช้พื้นที่รวมกับรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท ทำให้การเจรจาการลงทุนก่อสร้างโครงการนี้กับบีอีซีแอลต้องล่าช้าออกไป เพราะเมื่อต้นทุนก่อสร้างเพิ่มทำให้ต้องเจรจาเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนกันใหม่

[suraphat]

ร.ฟ.ท.สะดุ้งด่วนศรีรัชเวนคืนกม.11 หวั่นทุบแผนลงทุนคอมเพล็กซ์ยักษ์ 359 ไร่ 1.3 แสนล.
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 09:10:58 น.

โครงการคอมเพล็กซ์ยักษ์ ร.ฟ.ท. มูลค่ากว่า 1.33 แสนล้านบริเวณ กม.11 แจ็กพอต กทพ.เวนคืนที่ดินตัดด่วนใหม่ "ศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก" เฉือนที่ดินโครงการหายไปบางส่วนจากทั้งหมด 359 ไร่ "คมนาคม" สั่งเอกซเรย์ด่วนหวั่นกระทบชิ่งมูลค่าโครงการลดลง "บิ๊ก ร.ฟ.ท." ชี้ไม่กระทบมากนัก เดินหน้าลงทุนต่อ เตรียมเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.เคาะแผนลงทุน พ.ค.นี้ คาดปีนี้เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอได้ ให้เช่าระยะยาว 30 ปี

นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่โครงการพัฒนาที่ดินย่านพหลโยธินบริเวณ กม.11 ด้านหลังอาคารศูนย์พลังงานแห่งชาติ (เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์) เนื้อที่ 359 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 1.33 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่ปรึกษาได้ออกแบบรายละเอียดเสร็จแล้ว

บิ๊ก ร.ฟ.ท.ยันไม่ชะลอโปรเจ็กต์

ทั้งนี้ เนื่องจากทางคณะกรรมการของกระทรวงคมนาคมที่มีนายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ รองปลัดและรักษาการปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ได้มีข้อท้วงติงหลังการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะสร้างทางด่วนสายใหม่สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ระยะทาง 16.7 กิโลเมตรในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะมีการขอใช้ที่ดินของ ร.ฟ.ท.บริเวณดังกล่าวด้วย

ดังนั้น ร.ฟ.ท.จะต้องพิจารณาเพิ่มเติมว่าจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการหรือไม่ เพราะอาจจะทำให้สร้างตึกสูงไม่ได้ รวมถึงมูลค่าการลงทุนจะลดลงหรือไม่ จากเดิมที่ศึกษาไว้อยู่ที่ประมาณ 1.33 แสนล้านบาท

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.คงไม่ชะลอการโครงการ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเรื่องโครงสร้างทางด่วนเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ภายในปีนี้ ร.ฟ.ท.จะนำโครงการนี้ออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนที่สนใจเข้ามาพัฒนาโครงการในรูปแบบเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นการหารายได้เพิ่มให้กับองค์กร ซึ่งปัจจุบันได้รายงานความคืบหน้าและผลการศึกษาขั้นสุดท้ายให้กับกระทรวงคมนาคมรับทราบแล้ว เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา

"ล่าสุดอยู่ระหว่างดำเนินการ ในเบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา รูปแบบเดิมออกแบบไว้โดยที่ไม่มีโครงการทางด่วน แต่เมื่อ กทพ.จะสร้างทางด่วนตัดผ่านพื้นที่ กม.11 ก็ยังคิดว่าไม่น่าจะกระทบมากนัก เพราะรูปแบบที่เราออกไว้เป็นแค่ตุ๊กตา เอกชนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนต้องเป็นผู้เสนอรูปแบบการพัฒนาและวงเงินลงทุนมาอยู่แล้ว ที่สำคัญยังไม่รู้ว่า กทพ.จะขอใช้ที่ดินเท่าไหร่ในบริเวณนี้"

ชงบอร์ดเคาะ พ.ค.นี้

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โครงการเปิดประมูลที่ดินแปลงนี้ ตามแผนคาดว่าจะนำเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.พิจารณาได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ก่อนเสนอให้กระทรวงคมนาคมอนุมัติ เพื่อนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการต่อไป

และเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.การเข้าร่วมการงานของภาครัฐและเอกชน พ.ศ. 2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ในการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 13 มาพิจารณาผลตอบแทนและรูปแบบการพัฒนาของเอกชนที่เสนอเข้ามา

เบื้องต้น ที่ดินแปลงนี้จะให้เอกชนเช่าเพื่อจัดหาประโยชน์ระยะยาว 30 ปี ขณะที่การดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ดังนั้น ในปีนี้จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด

ทำเลมีศักยภาพสูง

ปัจจุบันที่ดินแปลงนี้อยู่บนทำเลที่มีศักยภาพมาก เพราะสภาพพื้นที่โดยรอบมีการพัฒนาเกิดขึ้นมาก ตั้งอยู่ใกล้แหล่งความเจริญและการคมนาคมสะดวก โดยทิศเหนือจดแนวลำรางสาธารณะและถนนวิภาวดีรังสิตจนถึงถนนกำแพงเพชร 2 ทิศใต้จดสวนรถไฟ ทิศตะวันออกจดพื้นที่อาคารสำนักงานใหญ่ ปตท. และบริษัทในเครือยาวไปถึงถนนวิภาวดี ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว

ทิศตะวันตกจดถนนกำแพงเพชร 2 เชื่อมไปยังสถานีขนส่งหมอชิตและใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช (ขั้นที่ 2) ในอนาคตจะมีรถไฟชานเมืองสายสีแดงทั้งสายบางซื่อ-ตลิ่งชันและสายบางซื่อ-รังสิต และบริเวณบางซื่อในอนาคตจะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทาง ยิ่งทำให้ทำเลนี้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครกำหนดให้ย่านนี้เป็นพื้นที่สีแดง (พาณิชยกรรม) สามารถพัฒนาได้เต็มที่ ทั้งโครงการที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์

สภาพปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณนี้หลายส่วน มีทั้งเป็นที่อยู่อาศัยพนักงาน ร.ฟ.ท. ประกอบด้วยที่อยู่อาศัยประเภทแฟลต 983 ครอบครัว บ้านเดี่ยว 72 ครอบครัว และเรือนแถว 876 ครอบครัว ที่ทำการลานอเนกประสงค์ อาคารเรียนสำหรับเด็กอ่อน คลับเฮาส์ สนามซ้อมกอล์ฟพื้นที่ 35 ไร่ ฝ่ายบริหารงานบุคคลด้านฝึกอบรม บริเวณสำนักงานฝึกอบรมและพัฒนา รวมทั้งโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟพื้นที่ 58 ไร่

[Mongwin]

ชง ครม.สัมปทานด่วนศรีรัช
ไทยรัฐออนไลน์ 25 พฤษภาคม 2555, 05:00 น.

การทางพิเศษแห่ประเทศไทย ชง ครม. ให้สัมปทานเอกชนลงทุนก่อสร้างทางพิเศษศรีรัช-ถนนวงแหวนรอบนอก วงเงิน 23,000 ล้านบาท กำหนดอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี ...



นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางพิเศษศรีรัช-ถนนวงแหวนรอบนอกว่า โครงการดังกล่าวจะใช้รูปแบบการลงทุนแบบ PPP โดยให้สัมปทานเอกชนลงทุนก่อสร้างโครงการทั้งหมด ซึ่งบอร์ดเห็นชอบตามคณะกรรมการพิจารณาเอกชนร่วมลงทุน เสนอบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด เป็นผู้รับสัมปทานก่อสร้างโครงการ วงเงิน 23,000 ล้านบาท โดยการทางพิเศษฯได้เสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบแล้ว สำหรับเงื่อนไขการลงทุนตามสัญญาสัมปทาน กำหนดอายุสัญญาสัมปทาน 30 ปี เอกชนจะรับผิดชอบจัดหาแหล่งเงินทุน ออกแบบการก่อสร้าง โดยได้รับความเห็นชอบจากการทางพิเศษฯ การติดตั้งระบบควบคุม ระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ ส่วนการทางพิเศษฯมีหน้าที่จัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อส่งมอบให้กับเอกชนดำเนินการก่อสร้างเท่านั้น ทั้งนี้ หลังจากหมดสัญญาสัมปทานแล้ว การทางพิเศษฯจึงจะได้รับสิทธิ์เข้าไปบริหารจัดการโครงการต่อจากเอกชน

สำหรับโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายโครงข่ายของทางพิเศษในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในทางทิศตะวันตกเพื่อแบ่งเบาปริมาณจราจรระดับดิน และระบายการจราจรทางด้านทิศตะวันตก ระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร แนวสายทางเริ่มต้นที่ทางพิเศษศรีรัช โดยมีจุดเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชบริเวณด้านเหนือของสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) จากนั้นแนวสายทางจะไปทางทิศตะวันตก โดยใช้พื้นที่เขตทางรถไฟสายตะวันตก (สายใต้เดิม) ตั้งแต่บริเวณบางซื่อ และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 6 หลังจากนั้นแนวสายทางยังคงไปตามเขตทางรถไฟ โดยขนานไปกับถนนบรมราชชนนีจนถึงถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ด้านตะวันตก) ระยะทางรวมประมาณ 16.7 กิโลเมตร.

[black_express]

นี่เขาเรียกว่า เป็นการบริหารงานแบบบูรณาการหรือเปล่าหนอ ?

คิดกันง่ายๆ เหมือนสร้างกลางป่า กลางบึง ที่ว่างเปล่า ประมาณนั้น

[Mongwin]

ในที่สุด สหภาพฯ ก็ออกมาเสียทีครับพี่ตึ๋ง

-----------------

เกรียงศักดิ์ยื่นหนังสือชัจจ์เคลียร์ที่เวนคืน
INN News วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2555 11:03 น.

สหภาพการรถไฟฯ ยื่นหนังสือ "ชัจจ์" 11.00 น. วันนี้ ให้พิจารณา กทพ.เวนคืนที่ดินสร้างทางด่วนวงแหวนฯ ห่วง กระทบแผนพัฒนาที่ดิน แนะ ใช้พื้นที่ ร.ฟ.ท.จุดอื่นแทน

นายเกรียงศักดิ์ อยู่คง รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้เวลา 11.00 น. ตัวแทนสหภาพแรงงาน ประมาณ 10 คน จะเดินทางไปยื่นหนังสือกับ พ.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่กำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องขอให้การรถไฟพิจารณาเรื่องที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ออกประกาศพระราชกฤษฎีกา เวนคืนที่ดินก่อสร้างทางด่วน สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 16.7 ก.ม. ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นพื้นที่ของการรถไฟ กว่า 300 ไร่ โดยถ้าเรื่องดังกล่าวมีการดำเนินการจริง จะส่งผลให้โครงการที่การรถไฟได้วางแผนโครงการในการใช้พื้นที่ไว้ก่อนหน้านี้ ต้องยกเลิก ทำให้การรถไฟต้องเสียพื้นที่ในการทำโครงการไป และคิดว่านอกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว การรถไฟยังมีพื้นที่ว่างอื่นอีก ที่สามารถจะใช้ในการดำเนินการดังกล่าวได้ และความคืบหน้าเรื่องสัญญาระหว่างฝ่ายบริหารทรัพย์สินของการรถไฟ กับ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เพื่อทำฐานข้อมูลพื้นที่ของการรถไฟทั้งหมด ตั้งแต่เมื่อปี 2553 แต่ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น

^^^
อย่าว่าแต่ฐานข้อมูลที่ว่าจะทำตั้งแต่ปี 53 เลยครับ รายงานประจำปี 49 ออกหรือยังครับ ไม่เคยเห็นเลย

[Mongwin]

สหภาพฯ ร.ฟ.ท. เลื่อนยื่นหนังสือไม่มีกำหนด
INN News วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2555 11:26น.

สหภาพฯ ร.ฟ.ท. เลื่อนยื่นหนังสือไม่มีกำหนด หลัง "รมช.ชัจจ์" อ้าง ป่วย ห่วง กทพ.เวนคืนที่สร้างทางด่วน กระทบแผนพัฒนาที่ดินร.ฟ.ท.

นายเกรียงศักดิ์ อยู่คง รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้เวลา 11.00 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือกับ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วนการยื่นหนังสือในวันนี้ จำเป็นต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีปัญหาด้านสุขภาพ จึงจำเป็นต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ขอให้การรถไฟพิจารณาเรื่องที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ออกประกาศพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินการสร้างทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 16.7 กิโลเมตร ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟ กว่า 300 ไร่ โดยถ้าเรื่องดังกล่าวมีการดำเนินการจริง จะส่งผลให้โครงการที่การรถไฟได้วางแผนโครงการในการใช้พื้นที่ไว้ก่อนหน้านี้ ต้องยกเลิก ทำให้การรถไฟต้องเสียพื้นที่ในการทำโครงการไป และความคืบหน้าเรื่องสัญญาระหว่างฝ่ายบริหารทรัพย์สินของการรถไฟและสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เพื่อทำฐานข้อมูลพื้นที่ของการรถไฟทั้งหมด ตั้งแต่ปี 2553 แต่ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น