View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 17/03/2011 11:45 pm Post subject: เรื่องน่ารู้จาก สนข. : แผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูง |
|
|
สวัสดีทุกท่านครับ...
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ มีข่าวความเคลื่อนไหวด้านต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาและปรับปรุงกิจการรถไฟอยู่หลายประการ ทำให้ผมนึกหวนไปถึงช่วงเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ได้รับแผ่นพับเผยแพร่สรุป แผนแม่บทเพื่อพัฒนาระบบรางและรถไฟความเร็วสูง (Railways Development Master Plan : RMAP) ซึ่งจัดทำโดย สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม และ ป๋าณัฐ (Nathapong) นำมาแจกในขบวนรถไฟพิเศษสาย แก่งคอย - คลองสิบเก้า - บ้านพลูตาหลวง - มาบตาพุด และหลายท่านคงได้รับและอ่านไปแล้ว
แต่ยังมีหลายๆ ท่านที่ยังไม่เคยเห็นแผ่นพับฉบับนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกิจการรถไฟที่น่าสนใจหลายอย่าง รวมถึงโครงการทางรถไฟความเร็วสูงที่กำลังฮ์อฮาอยู่ในขณะนี้ ผมจึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อเนื่องผ่านทางเว็บไซต์ Rotfaithai.Com สำหรับผู้ที่สนใจได้ติดตามต่อเนื่องว่า แผนแม่บทดังกล่าวนั้น มีการวางแผนไว้อย่างไรบ้าง ได้ดำเนินงานต่อเนื่องไปแล้วเท่าใด และมีอุปสรรคข้อขัดข้องเช่นไร ?
เนื่องจากเอกสารฉบับดังกล่าวมีความกว้างเกินมาตรฐานเว็บไซต์ที่กำหนด จึงขออนุญาตท่าน วมต. เพื่อนำเสนอด้วยขนาดกว้างกว่ามาตรฐาน เพื่อความชัดเจนของภาพด้วยครับ
เรื่องนี้ค่อนข้างยาว จึงขอนำเสนอไปเรื่อยๆ ตามแต่เวลาเจ้าของกระทู้จะอำนวยให้ และหากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์แล้ว ขอเชิญร่วมวงนำเสนอได้เลยครับ
Last edited by black_express on 11/05/2011 9:56 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 17/03/2011 11:52 pm Post subject: |
|
|
เนื้อหาในลำดับต่อไป จะเป็น แผนงานระยะเร่งด่วน (พ.ศ.2553 - 2557) ซึ่งเกี่ยวกับ การปรับปรุงพัฒนา สภาพงานทาง ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบรถจักรและล้อเลื่อน ครับ
สำหรับท่านที่เข้าวัยอาวุโส มองตัวอักษรในภาพไม่ชัด ผมขอคัดมาให้เห็นชัดๆ คงจะอ่านได้สะดวกขึ้นนะครับ
(1) ปรับปรุงความแข็งแรงของทางรถไฟ และระบบอาณัติสัญญาณ
- ปรับปรุงความแข็งแรงของทาง ระยะทาง 2,272 กิโลเมตร
- เปลี่ยนไม้หมอนรองรางเป็นหมอนคอนกรีต ระยะทาง 1,382 กิโลเมตร
- เปลี่ยนรางให้เป็นขนาด 100 ปอนด์ ระยะทาง 2,835 กิโลเมตร
- ก่อสร้างสะพานรองรับน้ำหนักลงเพลา 20 ตัน/เพลา จำนวน 1,434 แห่ง
- เปลี่ยนประแจเป็นประแจกลหมู่ไฟฟ้า 233 สถานี
- เปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณไฟสี 224 สถานี
- แก้ไขปัญหาจุดตัด โดยก่อสร้างสะพาน/ทางลอดต่างระดับ 114 แห่ง ลดจำนวนจุดตัดและทางลักผ่าน
- ติดตั้งเครื่องกั้นอัตโนมัติ 1,284 แห่ง
- ติดตั้งโครงข่ายระบบโทรคมนาคมของ รฟท. ทั่วประเทศ
ในส่วนของงานด้านการโยธา และอาณัติสัญญาณ มีเพียงเท่านี้ล่ะครับ
(2) พัฒนาหัวรถจักรและเครื่องกล
* เร่งรัดปรับปรุงฝูงหัวรถจักร
1. จัดหาหัวรถจักรใหม่ทดแทนหัวรถจักรเก่า จำนวน 77 คัน
- รถจักรดีเซลไฟฟ้า (20 ตัน/เพลา) 7 คัน
- รถจักรดีเซลไฟฟ้า (15 ตัน/เพลา) 7 คัน
- รถจักรดีเซลไฟฟ้า (20 ตัน/เพลา) 13 คัน
- รถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน GE 50 คัน
2. ซ่อมบำรุงขนาดใหญ่ (Refurbish) หัวรถจักร Alsthom 56 คัน
* เร่งรัดจัดหาระบบล้อเลื่อน
1. จัดหารถโบกี้บรรทุกสินค้า 308 คัน
2. จัดหารถโดยสารเชิงพาณิชย์ 115 คัน
3. จัดหารถโดยสารดีเซลปรับอากาศ ? 20 ขบวน
4. จัดหารถดีเซลรางธรรมดา 58 คัน
เป็นภาระของการรถไฟฯ ในการจัดหา เข้าใจว่ามีอุปสรรคด้านข้อกฎหมายที่ต้องฝ่าฟันให้ลุล่วงอีกด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
boatteam
2nd Class Pass (Air)
Joined: 05/04/2010 Posts: 910
Location: แจ้งวัฒนะ หลักสี่ ปากเกร็ด
|
Posted: 18/03/2011 7:16 am Post subject: |
|
|
ดูจากข้อมูลทั้งหมดแล้ว
รฟท.คงใช้เงินลงทุนมหาสารเลยนะเนี่ย _________________ สถานีบ้านเกิดอรัญประเทศ สุดเขตแดนสยามฝั่งตะวันออก |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 18/03/2011 9:02 am Post subject: |
|
|
^
^
เอ้อ....คำที่ถูกต้อง ต้องเขียนว่า มหาศาล นะครับ
ในส่วนของการจัดหาหัวรถจักรใหม่แทนของเดิม ทราบข่าวคืบหน้าจากสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการ รฟท.มีมติให้ยกเลิกการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าขนาดเพลาสูงสุดไม่เกิน 20 ตัน จำนวน 7 คัน วงเงิน 1,050 ล้านบาทไปแล้ว ซึ่งในการประกวดราคาใหม่ รฟท.จะเปิดประกวดราคาแบบนานาชาติหรือ INTERNATIONAL BIDDING ตามมติ ครม. จากเดิมที่ประกวดราคาแบบ LOCAL BIDDING ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E - auction และจะจัดหารถจักรในคราวเดียว 20 คัน ส่งผลให้วงเงินโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท
การเปิดประกวดราคาจัดหารถจักรในคราวเดียว 20 คัน จากเดิมที่แบ่งประกวดราคา จะส่งผลให้เอกชนเข้าร่วมการประกวดราคาเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคา ขณะที่ รฟท.จะมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น และการซื้อรถจักรยี่ห้อเดียวกัน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา การซ่อมบำรุง รวมทั้งค่าอะไหล่
ส่วนขั้นตอนการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักร 20 คันนั้น ทาง รฟท.จะประกาศเชิญชวนโดยทำหนังสือเชิญชวนแจ้งไปยังสถานทูตประเทศที่ผลิตรถจักร เช่น ญี่ปุ่น จีน สหรัฐ เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ซึ่งเอกชนผู้ยื่นประกวดราคาต้องยื่นข้อเสนอเรื่องแหล่งเงินกู้ เพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณา และเลือกข้อเสนอทางการเงินที่ดีที่สุด แต่รัฐจะใช้เงินกู้จากแหล่งเงินดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ โดยจะให้เวลาจัดทำข้อเสนอประมาณ 45-60 วัน
คาดว่าจะสรุปผลการประกวดราคาได้ในเดือน พ.ค.นี้ และลงนามสัญญาในเดือน มิ.ย.2554 |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 18/03/2011 11:34 am Post subject: |
|
|
black_express wrote: | ^
^
เอ้อ....คำที่ถูกต้อง ต้องเขียนว่า มหาศาล นะครับ
ในส่วนของการจัดหาหัวรถจักรใหม่แทนของเดิม ทราบข่าวคืบหน้าจากสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการ รฟท.มีมติให้ยกเลิกการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าขนาดเพลาสูงสุดไม่เกิน 20 ตัน จำนวน 7 คัน วงเงิน 1,050 ล้านบาทไปแล้ว [color=red]ซึ่งในการประกวดราคาใหม่ รฟท.จะเปิดประกวดราคาแบบนานาชาติหรือ INTERNATIONAL BIDDING ตามมติ ครม.จากเดิมที่ประกวดราคาแบบ LOCAL BIDDING ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E - auction และจะจัดหารถจักรในคราวเดียว 20 คัน ส่งผลให้วงเงินโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท
การเปิดประกวดราคาจัดหารถจักรในคราวเดียว 20 คัน จากเดิมที่แบ่งประกวดราคา จะส่งผลให้เอกชนเข้าร่วมการประกวดราคาเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคา ขณะที่ รฟท.จะมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น และการซื้อรถจักรยี่ห้อเดียวกัน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา การซ่อมบำรุง รวมทั้งค่าอะไหล่
ส่วนขั้นตอนการประกวดราคาโครงการจัดหารถจักร 20 คันนั้น ทาง รฟท.จะประกาศเชิญชวนโดยทำหนังสือเชิญชวนแจ้งไปยังสถานทูตประเทศที่ผลิตรถจักร เช่น ญี่ปุ่น จีน สหรัฐ เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ซึ่งเอกชนผู้ยื่นประกวดราคาต้องยื่นข้อเสนอเรื่องแหล่งเงินกู้ เพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณา และเลือกข้อเสนอทางการเงินที่ดีที่สุด แต่รัฐจะใช้เงินกู้จากแหล่งเงินดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ โดยจะให้เวลาจัดทำข้อเสนอประมาณ 45-60 วัน
คาดว่าจะสรุปผลการประกวดราคาได้ในเดือน พ.ค.นี้ และลงนามสัญญาในเดือน มิ.ย.2554 |
คงเป็นเรื่องการปฏิบัติให้เป็นไปตามมติ ครม กับการดำเนินการทางกฎระเบียบ ...... ก็ว่ากันไป
หลังจากการเปิดซอง จนถึงการได้รับมอบรถ อีกราว ๆ 18 เดือน คงได้เห้นหน้าค่าตารถรุ่นนี้เสียที เฮ้อ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 18/03/2011 11:42 am Post subject: |
|
|
ผมรอดูข้อ 2 อ่ะป๋า....จะได้วางแผนการหารายได้จากไอ้รถเชิงพาณิชย์ 115 คัน กับดีเซลรางอีก 78 ขบวนนี้ซะหน่อย _________________
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42793
Location: NECTEC
|
Posted: 18/03/2011 12:24 pm Post subject: |
|
|
^^^
ส่วนใหญ่รถโดยสาร ร้อยสิบห้าหลัง น่าจะเป็นรถ บนทป. เพราะ เป็นตัวทำเงินทำทอง
ส่วนรถ ดีเซลติดแอร์ จำนวนยี่สิบ ชุดรถ ก็คงไม่พ้นแบบเดียวกะแดวู แต่ ก็คอยดูกันว่าใครจะทำให้ เรา ที่น่าสนใจคือที่พม่าเล่นสั่งรถดีเซลรางมือ สอง จากญี่ปุ่นแทนที่จะสั่งจากจีนแดง น่ากลัวว่าคุณภาพคงไม่น่าไว้ใจจริงๆ ไม่เหมือนกะรถจักรที่ถึงไม่น่าไว้ใจเพียงไหนแต่ก็ซ่อมจนคุ้นมือและสั่งเป็นจำนวนมากก็เลยไม่มีปัญหามากเท่า เช่นเดียวกันกับรถดีเซลรางไม่ติดแอร์ ที่สั่งมาเพื่อ จัดการโละ เจ้า ฮิตาชิ รุ่นปี สองห้าหนึ่งสี่ออกไปได้เสียที |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 18/03/2011 4:04 pm Post subject: |
|
|
สาธุให้มาเถอะเฮียหมี....ตอนนี้หมีโดนัทนั่งเลียลิ้นแผลบๆ รอตั้งริ้วเฉพาะกิจไปวิ่งเล่นแล้ว _________________
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 18/03/2011 9:43 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจเรื่องนี้ครับ รู้สึกว่าจะมีแผนการเด็ดๆ ตั้งไว้รอรับกันแล้ว
คราวนี้ก็กล่าวถึงเรื่องการขยายโครงข่าย หรือการพัฒนาทางรถไฟสายใหม่ ที่เราต่างรอกันมานานแสนนานว่ามีเส้นทางใหม่ๆ ที่จะก่อสร้างตามแผนแม่บทบ้าง ?
ขอแบ่งแผ่นพับนี้เป็นส่วนๆ เพื่อความสะดวกในการรับชมนะครับ โดยในส่วนแรกจะเป็นแนวเส้นทางในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 4 เส้นทางหลัก คือ
โครงการที่แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2557
1. เส้นทางสายเด่นชัย - เชียงราย โดยมีเส้นทางแยกจากเชียงราย ไปยัง อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ ระยะทาง 309 ก.ม.
ทาง สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่รองรับประตูการค้าสู่ทางใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้งบลงทุน 33.435 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2.080 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 392.500 ตัน/ปี มีค่า EIRR 15.77 %
2. เส้นทางสายบัวใหญ่ - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม ระยะทาง 368 ก.ม.
ทาง สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเช่นกันครับว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่รองรับประตูการค้าสู่ สปป.ลาว ใช้งบลงทุน 45.191 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3.560 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 476.500 ตัน/ปี มีค่า EIRR 14.91 %
โครงการที่จะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2562
3. เส้นทางสายอุบลราชธานี - ช่องเม็ก ระยะทาง 79 ก.ม.
สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่รองรับประตูการค้าสู่ สปป.ลาว ใช้งบลงทุน 10.481 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 260 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 82.100 ตัน/ปี มีค่า EIRR 10.40 %
4. เส้นทางสายหัวดง - กำแพงเพชร - ตาก ระยะทาง 166 ก.ม.
สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่รองรับการเดินทางโดยทางรถไฟ ใช้งบลงทุน 21.813 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1.110 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 923.400 ตัน/ปี มีค่า EIRR 6.27 %
ขอนำเสนอเพียงเท่านี้ก่อนครับ เพราะพรุ่งนี้เช้า ต้องเตรียมตัวไปเมืองสุพรรณบุรี |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 24/04/2011 11:21 am Post subject: |
|
|
ขออภัยที่ค้างไว้นานครับ งานช่วงนี้กำลังชุก ต้องเคลียร์กันอุตลุด เฮ้อ...
มาต่อด้วยภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม 4 เส้นทางนะครับ ดูกันว่ามีโครงการพัฒนาเส้นทางใดบ้าง แต่ให้เข้าใจกันไว้ก่อน แผนก็คือแผน อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมเข้ามาอีกเมื่อใดก็ได้
โครงการที่แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2562
5. เส้นทางสายบ้านภาชี - สุพรรณบุรี โดยมีเส้นทางแยกจากชุมทางบ้านภาชี ไปยัง จ.สุพรรณบุรี ระยะทาง 70 ก.ม.
ทาง สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่เชื่อมโยงเส้นทางรถไฟสายเหนือ สายตะวันตก และสายใต้ ใช้งบลงทุน 13,437 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,180 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 1,309,600 ตัน/ปี มีค่า EIRR 9.76 %
6. เส้นทางสายมาบตาพุด - ระยอง ระยะทาง 24 ก.ม. โดยขยายเส้นทางจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไปตัวจังหวัดระยอง เพื่อให้เต็มตามโครงการเดิมที่ถูกตัดงบประมาณไป
ทาง สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่รองรับการขนส่งสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรม ใช้งบลงทุน 5,739 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 670 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 1,417,600 ตัน/ปี มีค่า EIRR 20.45 %
โครงการที่จะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2575
7. เส้นทางสายน้ำตก - ด่านเจดีย์สามองค์ ระยะทาง 135 ก.ม. แต่เส้นทางสายนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวเส้นทางใหม่จาก อ.ท่าม่วง ไปยังเมืองทะวาย ซึ่งมีระยะทางสั้นกว่า
สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่รองรับประตูการค้าสู่ประเทศสหภาพพม่า ใช้งบลงทุน 23,487 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,080 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 794,000 ตัน/ปี มีค่า EIRR 5.47 %
8. เส้นทางสายระยอง - จันทบุรี - ตราด ระยะทาง 147 ก.ม. โดยขยายเส้นทางไปจนสุดชายฝั่งทะเลตะวันออก
สข.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ว่า เป็นการพัฒนาเส้นทางสายใหม่รองรับการให้บริการผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าผลไม้ ใช้งบลงทุน 26,038 ล้านบาท สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 6,660 คน-เที่ยว/วัน รองรับปริมาณขนส่งสินค้าได้ 309,800 ตัน/ปี มีค่า EIRR 6.28 %
เห็นช่วงระยะเวลาที่จะดำเนินการตามแผนงานแล้ว ผมคงแก่เกินกว่าจะขึ้นรถไฟไปเที่ยวเส้นทางสายด่านเจดีย์สามองค์ กับสายจันทบุรี แล้วกระมัง ? |
|
Back to top |
|
|
|