เรื่อยเปื่อยวันสงกรานต์ (พะโต๊ะ-ระนอง)

KTTA-50-L · Posted: 22/04/2011 4:27 pm Post subject:

จากนั้นออกมาหาที่นั่งฟังเพลงครับ ใช้มือถือถ่าย (เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี อย่าเลียนแบบนะะครับ อิๆๆ) ระหว่างนั่งฟังเพลง ก็ทำให้รู้ว่าสาวระนองสุโค่ยมาก ตรงสเป็คหลายคนมาก
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 22/04/2011 4:38 pm Post subject:

กว่าจะกลับก็ดึกครับ ตื่นมาตอนเกือบๆ 9 โมงเช้า เจ้าบ้านพาออกไปในเมืองอีกครับเพื่อหามื้อเช้าทานกัน

ลักษณะบ้านในเมืองระนองบางจุดก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรโตกีสที่เหมือนที่ภูเก็ตที่ผมไปมาเมื่อดือน พ.ค. 53 เลยครับ >>> กุ้งเสียบทัวร์ (รถไฟ รถเมล์ เครื่องบิน ขาดแต่เรือ)

ตึกทรงแปลกๆก็มีครับ
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 22/04/2011 4:45 pm Post subject:

เจ้าบ้านพามาที่ร้านท่าเมืองติ่มซำครับ ไม่ได้ทานมาตั้งนานละติ่มซำ

ลูกค้าร้านนี้เยอะมากๆครับ

มื้อเช้าของผมในวันนั้น อิๆๆ
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 22/04/2011 4:52 pm Post subject:

ติ่มชำจะอยู่ที่หน้าร้านครับ อยากทานอะไรหยิบใส่ถาดมาทานที่โต๊ะเลยครับ

น้องคนโต๊ะใกล้ๆกัน ทานอย่างเดียวเลยครับ อิๆๆ ท่าทางน่าอร่อย

คุกๆๆๆๆ 55555
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

Mongwin · Posted: 22/04/2011 6:01 pm Post subject:

^^^
คุกๆๆๆๆ คุณเจฟเดินทางบ่อย อากาศเปลี่ยน เป็นหวัดได้ง่าย พกยาแก้ไอติดตัวไปด้วยนะครับ Idea

pattharachai · Posted: 22/04/2011 7:49 pm Post subject:

ในเมืองระนอง หาร้านติ่มซำยากมากครับ แม้กระทั่งชาวระนองเองยังบอกว่าที่ระนองไม่ค่อยนิยมกัน (ซึ่งก็ผิดแผกไปจากเมืองในปักษ์ใต้อื่นๆที่มีคนเชื้อสายจีนอยู่มาก ที่มีร้านติ่มซำโดยทั่วไป) ร้านเดียวที่เจอ(จากการถามทางคนแถวนั้น) ก็คือร้านเดียวกับที่เจฟไปกินตามภาพนั่นหละครับ

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่กินติ่มซำในปักษ์ใต้มา ผมชอบติ่มซำเมืองตรังมากที่สุดครับ

heerchai · Posted: 22/04/2011 9:21 pm Post subject:

ติ๋มฃ่ำ อาหารยอดฮิตปักษ์ใต์ พลาดไม่ได้ทุกทริป

แต่ว่า ไปดริ๊งที่ผับ น่าสนใจมาก ผมไม่ได้ไปนานมากแล้ว น่าเปลี่ยนบรรยากาศเสียจริง

KTTA-50-L · Posted: 26/04/2011 12:44 pm Post subject:

มาต่อกันครับ

เมื่อทานติ่มซำแล้ว เจ้าบ้านพาไปยังร้านตรงข้ามครับ เป็นร้านบะหมี่ (ขออภัยครับ จำชื่อร้านไม่ได้ อยู่ตรงข้ามกันเลย) มาทานเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง 30 บาทต่อชาม

จากนั้นก็กลับมาที่รีสอร์ทครับ ระหว่างทางเจอรถสองแถวไม้ สัญลักษณ์ของเมืองระนองครับ

มาถึงรีสอร์ทก็มานั่งเล่นที่ล๊อบบี้ครับ ฟังเพลง เล่นเน็ต ลมธรรมชาติพัดโชย น่าพักผ่อนเป็นอย่างยิ่งครับ
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 26/04/2011 12:54 pm Post subject:

นั่งเล่นไปเรื่อยๆ จนประมาณบ่ายสองโมง ก็เดินทางย้อนเข้าไปในเมือง มุ่งหน้าสู่บ่อน้ำร้อนรักษะวารินครับ

บ่อน้ำร้อน สวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินี้มีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนแห่งนี้ได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยา ศาสตร์บริการว่าประกอบด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์สามารถรับทานได้จากแหล่ง กำเนิด โดยไม่ต้องผ่านการกลั่น กรองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นน้ำบริสุทธิ์จึงเป็นแหล่งหนึ่ง ที่นำไปผ่าน พิธีพุทธาภิเษก ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภายในบริเวณบ่อน้ำร้อนมีบริการอาบน้ำแร่บำบัด รักษาสุขภาพ่ที่ สยามฮอทสปา ผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยการบำบัดจากน้ำแร่ ด้านนอกมีบริการแช่เท้าฟรีเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้บริเวณใกล้ ๆ บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะ "รักษะวาริน" มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย

ที่มา

http://www.paiduaykan.com/76_province/south/ranong/ruksavarin.html

ช่วงนั้นยังอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่พอสมควรครับ

รถสองแถวไม้และตู้ไปรษณีย์บริเวณร้านขายของฝาก
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 26/04/2011 1:02 pm Post subject:

ยืนยันครับว่ามาจริง ไม่ได้เอารูปคนอื่นมาลง อิๆๆ

บ่อพ่อ เป็นบ่อปูนซีเมนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาบ่อน้ำร้อนทั้งสามบ่อ มีลักษณะเป็นบ่อวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง ของบ่อ ขนาด 2.80 เมตรสูงจากผิวดิน 0.80 เมตร ลักษณะของน้ำร้อน น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใสมีฟองก๊าช คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ที่ผุดขึ้นมาจากก้นบ่อสู่ผิวน้ำค่อนข้างน้อย ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ไม่มีสาหร่ายน้ำร้อนจะไหลล้น ออกนอกบ่อตลอดเวลา ทำให้บริเวณบางส่วนของปากบ่อและผนังบ่อน้ำด้านนอกมีการสะสมตัวของแร่แคลไซต์ ซึ่งเป็นแร่ที่มีขนาดผลึกละเอียดมาก แร่ชนิดนี้เป็นแร่อัลเทอร์เรชั่น ที่สำคัญชนิดหนึ่ง อุณหภูมิของน้ำร้อนวัดได้ 65 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดด่า วัดได้ประมาณ 8 อัตราการไหลของน้ำร้อนที่บ่อพ่อวัดได้ประมาณ 3.5 ลิตร/วินาที หรือประมาณ 12.6 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง แสดงลักษณะของบ่อน้ำพุร้อน (บ่อพ่อ) รายล้อมด้วยสวน หย่อมและพุ่มไม้

ที่มา

http://www.paiduaykan.com/76_province/south/ranong/ruksavarin.html
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com