ย้อนรอยที่หมวดศิลาบ้านหมี่ (ก่อนที่จะเลือนหายไป)

KTTA-50-L · Posted: 06/06/2011 1:07 pm Post subject:

ใกล้ๆกันมีแบบจำลองโรงโม่หินตั้งอยู่ด้วยครับ

เมื่อระเบิดหินแล้วก็ใส่ตามรางมายังเครื่องโม่ (สีเทาๆ)

เมื่อโม่แล้วจะมีเครื่องแยกหินครับ เป็น หินใหญ่ หินเล็ก ตามขนาดกันไป
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 06/06/2011 1:08 pm Post subject:

มีประวัติของหมวดศิลาบ้านหมี่ด้วยครับ

"ที่ดินของหมวดศิลาบ้านหมี่ ตั้งอยู่บริเวณ หมู่ที่ 4,5,9 ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ตามหนังสือสัญญาหลวงเลขที่ 456/2502 มีเนื้อที่ 284 ไร่ 2 งาน 24 ตารางวา ได้มาตามพระราชกฤษฎีกาจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างทางรถไฟสายเหนือ ร.ศ. 121 ที่ดินดังกล่าวจึงเป็นของกรมรถไฟและเป็นที่ดินตามความหมายของพระราชบัญญัติจัดวางทางรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 และโอนมาเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494

กรมรถไฟและการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการระเบิดหินและย่อยหินเพื่อใช้ในการก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือ รวมทั้งใช้โรยทางรถไฟตามปกติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งการรถไฟฯ เป็นผู้ดำเนินการระเบิดหินและย่อยหินเอง แต่เนื่องจากการระเบิดหินและย่อยหินของการรถไฟฯ มีต้นทุนการผลิตสูง เพราะเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆรวมทั้งโรงโม่หินไม่ทันสมัย ต้องใช้แรงงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งต้องมีสวัสดิการต่างๆเพราะเป็นพนักงานของรัฐ ในปี พ.ศ. 2525 จึงได้ว่าจ้างเอกชนเข้ามาดำเนินการระเบิดและย่อยหินต่างๆส่งให้การรถไฟฯแทนจนถึงปัจจุบัน รวม 2 บริษัท คือ

1. ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิระพันธ์หินไทย ทำการระเบิดย่อยหินด้านตะวันตก
2. บริษัท โรงโม่หินบุญเจริญศิลาทอง จำกัด ทำการระเบิดย่อยหินด้านตะวันออก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 ทางราชการได้ออกกฎกระทรวงฉบับที่ 77 (พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 กำหมดให้หินปูนเป็นหินอุตสาหกรรม เป็นแร่ การรถไฟฯ จึงต้องขอประทานบัตรทำเหมืองหินตามระเบียบ โดยได้ขอประทานบัตรมีกำหนด 10 ปี บนเนื้อที่ 196 ไร่ 2 งาน 67 ตารางวา ระหว่างรอประทานบัตร ฉบับถาวร ทางการได้ออกประทานบัตรชั่วคราวมีกำหนดครั้งละ 1 ปี ให้ก่อน เนื่องจากการระเบิดและย่อยหินมักส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมทั้งด้านฝุ่นละออง เสียง และแรงสั่นสะเทือน ต่อประชาชนบริเวณข้างเคียง ทั้งยังส่งผลกระทบต่อลักษณะทางกายภาพ ชีวภาพ นิเวศวิทยา และคุณภาพชีวิต ของชุมชนโดยรอบโครงการ ดังนั้นสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมจึงได้กำหนดให้โครงการระเบิดและย่อยหินต้องทำการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขั้นตอนขอประทานบัตร การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ศึกษาและวิเคราะห์ผลต่อสิ่งแวดล้อมในโครงการนี้ การรถไฟฯได้ยุบเลิกหมวดศิลาบ้านหมี่ เมื่อปี พ.ศ. 2553"
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

Mongwin · Posted: 06/06/2011 1:21 pm Post subject:

headtrack · Posted: 06/06/2011 2:26 pm Post subject:

เข้ามาติดตาม...รอชม "โรงปูน" ที่ท่านเจฟแจ้งไว้ขอรับ...

...หากถามคนหมวดศิลาที่มีอายุหน่อย...จะทราบตำนานของ "นายใบ้"
พนักงานหมวดศิลาสมัยยังใช้ "ค้อนและสกัด" อยู่...

สมัยก่อน (ประมาณก่อน พ.ศ.2515) ที่ ร.ฟ.ท. ดำเนินการเองอยู่นั้น การระเบิดหิน
มีพนักงานโรยตัวจากหน้าผา ใช้ค้อนตีเจาะสกัด รูกว้างประมาณฝ่ามือ ลึกประมาณศอก
ใช้เวลาประมาณครึ่งวันต่อรู เพื่ออัดดินระเบิด...

เมื่อถึงเวลาระเบิด (โดยมากประมาณเย็น) ก็ลั่นระฆังและเปิดหวอสัญญาณ แล้วจุดระเบิด
เมื่อระเบิดแล้ว ก็ลงมาเปนก้อนใหญ่เล็กปะปนกัน หลุดจากผามาเปนแผ่นๆ ไหลมาตามลาด
แล้วกระแทกกันแตกเมื่อตกสู่พื้นด้านล่าง (Sequence นี้เคยเห็นเองในยุคต่อมา) ...

ส่วนมากเหลือเปนก้อนใหญ่ประมาณรถเก๋ง ก็ใช้สกัด/ระเบิด ย่อยแยกพอให้ขนเข้าไปยัง
เพิงย่อยได้ จากนั้นก็จะมีชุดย่อย โดยใช้ระบบ "แฮนด์เมด" จัดการต่อเปนทอดๆ ตามขนาดหิน

จึงสันนิษฐานว่า เปนอีกสาเหตุสำคัญที่ยุคก่อน อาคารคอนกรีตใช้งบประมาณสร้างสูงกว่าอาคารไม้
เพราะการย่อยหินใช้แรงงานเปนหลัก และอุตสาหกรรมปูนก็มีกำลังการผลิตไม่สูงมากเท่าปัจจุบัน

มีฉายาสำหรับผู้ที่ทำงานด้านนี้ว่า "กุลีอีเต้อ" ดังภาพที่ปรากฏบนอนุเสาวรีย์ที่หมวดศิลา
*อีเต้อ คือเครื่องมือสำหรับขุด/เจาะหิน ดินแข็ง หรือคอนกรีต มักเห็นเป็นเครื่องมือหลัก
ในการซ่อมบำรุงทางรถไฟ...ทางเหนือเรียก อีปิก"
_________________

Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow

Jakkapat · 3rd Class Pass Joined: 03/06/2011 Posts: 37

จะคอยติดตามชมนะครับ Razz

KTTA-50-L · Posted: 06/06/2011 4:53 pm Post subject:

มาต่อกันอีกเล็กน้อยครับ

ป้ายสถานีที่ตัวอาคารสถานี

ด้านหน้าอาคารสถานี

ในย่านมีรถข้างต่ำ (ขต.) จอดไว้ครับ ไว้สำหรับขนหินจากหมวดศิลา แต่สภาพดูแล้วไม่ได้ใช้งานมานาน
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 06/06/2011 5:00 pm Post subject:

เรามาเริ่มสำรวจกันดีกว่าครับ เดินทางจากสถานีมายังทางทิศใต้ด้านฝั่งไปทางสถานีหนองทรายขาวครับ

มาเจออาคารไม้อยู่เหมือนเป็นโกดังเก็บสินค้าในสมัยก่อนเลยครับ

บพต. รถโบกี้พื้นต่ำ คันเดียวของ รฟท. ก็ยังจอดนิ่งอยู่นะที่จึดเดิมครับ

เลยเสาสัญญาณออกมาแล้วก็จะมาเจอกับทางตัดผ่านครับ
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 06/06/2011 5:10 pm Post subject:

ระหว่าง สทล.160/11 ถึง สทล.160/12 เป็นจุดนึงที่ผมสงสัยจะเป็นมุมเดียวกับรูปของคุณพี่ Bigboy ครับ

Click on the image for full size

รูปของคุณพี่ Bigboy ปี 2500

ห่างจากทางตัดผ่านไม่ไกลนัก

จากจุดนี้มาไม่ไกลจะเจอกับสะพานแห่งหนึ่งครับ

เนมเพลตของสะพานนี้ครับ

ปล. สทล.xxx/xx จะกลับมาแก้ไขเป็นตัวเลขในวันรุ่งขึ้นครับ เนื่องจากจดไว้ที่บ้าน
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 06/06/2011 5:17 pm Post subject:

เป็นสะพานข้ามคลองระบายน้ำขนาดเล็กครับ

จุดสงสัยที่ 2 ที่ผมว่าอาจจะมุมเดียวกับรูปของคุณพี่ Bigboy อยู่ระหว่าง สทล. 159/16 - 160/1

Click on the image for full size

รูปของคุณพี่ Bigboy ปี 2500 (อีกครั้ง)

ปล. สทล.xxx/xx จะกลับมาแก้ไขเป็นตัวเลขในวันรุ่งขึ้นครับ เนื่องจากจดไว้ที่บ้าน
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com

KTTA-50-L · Posted: 06/06/2011 5:22 pm Post subject:

ยังไม่ถึงทางแยกเข้าหมวดศิลาบ้านหมี่ครับ ต้องเดินต่อไปอีกพักใหญ่ๆ

เริ่มจะเห็นแนวคันทางเข้าหมวดศิลาบ้านหมี่แล้วครับ

ระหว่างนั้นก็มีขบวนรถสินค้าที่ 637 แม่น้ำ - บึงพระ วิ่งสวนเข้ามาครับ
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com