สุดชายแดนสยามตะวันตก ที่ บางสะพาน

ksomchai · Posted: 15/07/2011 4:14 pm Post subject:

จากฐานปฏิบัติการบ้านคลองคลอย ต้องเดินเท้าหรือขับมอเตอร์ไซดืประเภทวิบากเข้าไปอีกประมาณ ๑ ก.ม.
ก็จะถึงเขตแดนประเทศไทย-พม่า เลยจากเขตแดนไปอีก ๑ ก.ม.ก็จะถึงด่านพม่า ครับ
จากด่านพม่าไปอีกประมาณ ๑๐ ก.ม.ก็ถึงหมู่บ้าน น้ำเย็น เป็นหมู่บ้านแรก และเป็นหมู่บ้านที่มีเชื้อสายเป็นคนไทย ครับ
ทางช่วงชายแดนไทย-พม่าเป็นแบบนี้ ผมเดินลึกเข้าไปประมาณ ๒๐๐ เมตร ครับ ไม่กล้าเดินเข้าไปอีก เกรงไม่ปลอดภัย
ถ้าจะเข้าไปให้ถึงชายแดนจริง ๆ ต้องให้ ตชด.ที่ฐานนำไป แต่เนื่องจากวันนี้ตะวันบ่ายคล้อยมากแล้ว
นัดกันไว้วันหน้าจะขอความอนุเคราะห์ให้เจ้าหน้าที่นำไป ให้ถึงชายแดนจริง ๆ

ผืนบริเวณไทย-พม่าบ้านคลองลอย มองจากฐานปฏิบัติการบ้านคลองลอย
มีไม้ผลปลูกปะปนกันกับป่าไม้ใหญ่ แต่ถ้าเป็นฝั่งด้านพม่า จะเป็นป่าไม้ทั้งหมด ครับ

ธงชาติไทยผืนสุดท้าย ก่อนเข้าประเทศพม่า ณ ฐานปฏิบัติการบ้านคลองลอย ครับ

_________________

ksomchai · Posted: 15/07/2011 6:15 pm Post subject:

การเดินทางข้ามไปฝั่งพม่าที่บ้านคลองลอยนี้แต่ก่อนสามารถขับรถยนต์ข้ามไปได้ และเส้นทางนี้ไม่ลาดชันเหมือนที่ด่านสิงขร
แต่เนื่องจากด่านถูกปิดหลายปี ไม่มีรถยนต์เข้าไปนาน ทำให้ต้นไม้เจริญเดิบขึ้นรกมาก แต่ประชาชนยังสามารถข้ามไปมาหาสู่กันได้
โดยการเดินเท้าหรือไม่ก็รถมอเตอร์ไซด์ประเภทวิบาก จากการบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ ประจำฐานที่นี่ บอกว่า ชาวบ้านฝั่งพม่า จะข้ามมาซื้อสินค้าที่บ้านคลองลอย
หรือไม่ก็โทรสั่งสินค้าให้พ่อค้านำมาส่งที่จุดนี้
ประชาชนทั้งสองหมู่บ้านคือ คือคลองลอย ฝั่งไทย และบ้านน้ำเย็นฝั่งพม่า ส่วนหนึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน พูดภาษาเดียวกัน
ภาษาที่พูดก็เหมือนภาษาบางสะพาน คือ ใช้คำกลางแต่สำเนียงใต้ ดูไม่ออกว่าเป็นคนไทยหรือคนพม่า
ซึ่งตามประวัติศาสตร์ ดินแดนฝั่งพม่าแถบนี้ก็เคยเป็นของไทยมาก่อน แต่ต้องสูญเสียดินแดนให้กับอังกฤษไป

เส้นทางจากหมู่บ้านคลองลอยสู่ชายแดนพม่า จากGoogle Earth ครับ

จากฐานปฎิบัติการบ้านคลองลอยหน้าเสาธง ซึ่งอยู่บนเนินเขาลูกสุดท้ายก่อนจะออกจากเขตไทย มองลงมาข้างล่าง ครับ

ฐานปฏิบัติการบ้านคลองลอย อยู่ในความรับผิดชอบของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๔๗ อ.บางสะพาน นี่คือวิสัยทัศน์ ครับ

เป็นอันสิ้นการเดินทางสู่ สุดชายแดนสยาม ตะวันตกบ้านคลองลอย ครับ

ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง บนเส้นทางสายนี้ คือน้ำตก ธารสวรรค์ ซึ่งจะต้องหาโอกาสไปเยือนสักครั้ง ครับ
_________________

Mongwin · Posted: 15/07/2011 7:03 pm Post subject:

ตอนเด็ก ๆ เคยเรียนแค่ว่า ประจวบคีรีขันธ์มีด่านสิงขรเพียงด่านเดียวที่ทะลุไปพม่าได้
ส่วนชุมพร เพชรบุรี ราชบุรี มีเทือกเขาตะนาวศรีกั้น ไม่มีทางเข้าไปพม่าได้เลย

เพิ่งทราบจากพี่สมชายครับ ว่าที่บ้านคลองลอยก็เข้าไปพม่าได้
น่าเสียดายที่ในปัจจุบัน เราไม่สามารถไปเที่ยวพม่าในตอนกลาง คือ ย่างกุ้ง หงสาวดี มัณฑะเลย์ โดยไปจากไทยทางรถยนต์ (หรือรถไฟ) ได้เลย

พม่า ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้กรุงเทพมาก เลยเหมือนอยู่ไกลยิ่งกว่ากัมพูชาอีกครับ

ksomchai · Posted: 15/07/2011 7:31 pm Post subject:

@ อาจารย์เอก(Mongwin)

ที่คลองลอยนี้สามารถข้ามข้ามไปฝี่งพม่าได้ไม่ยาก ครับ เนื่องจากเส้นทางไม่สูงชัน ผมไปพบกับคนไทยพลัดถิ่น
ซึ่งปัจจุบันได้บัตรประชาชนเป็นคนไทยแล้ว แต่มีบ้านอยู่บ้านน้ำเย็น เขาขับรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาทานก๋วยเตี๋ยวที่ฝั่งไทย
เขาบอกว่าจากบ้านน้ำเย็นซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนไปประมาณ ๑๐ ก.ม. มีถนนอย่างดีเข้าไปถึง จ.มะริด ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับจ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงด่านสิงขร
ที่บ้านน้ำเย็นอุดมสมบูรณ์มาก เป็นหมู่บ้านที่คนไทยอาศัยอยู่มาก มีขนบธรรมเนียมประเพณีเหมือนกับฝั่งไทย และมีญาติพี่น้องอยู่ฝั่งไทยด้วย

และที่ประทับใจอย่างหนึ่งที่ คนไทยพลัดถิ่นท่านนี้เล่าให้ฟังคือ บ้านที่เป็นคนไทย จะมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์บองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ ติดไว้ประจำบ้านด้วย ครับ

คนไทยพลัดถิ่น พม่าไม่ยอมรับว่าเป็นประชากรของประเทศเขา เรื่องราวของคนไทยพลัดถิ่นเป็นเรื่องที่น่าศึกษามาก ครับ
ท่านที่สนใจลองเข้าไปดูได้นะครับ เวปไซด์ ไทยพลัดถิ่น http://www.thaipladthin.org/

แผนที่แสดงหมู่บ้านคนไทย ฝั่งพม่า ที่อยู่ตรงข้ามกับ บ้านคลองลอย อ.บางสะพาน ครับ

จากเวปไซด์ ไทยพลัดถิ่น http://www.thaipladthin.org/autopage/show_page.php?h=30&s_id=5&d_id=5&page=3&start=1
_________________

ksomchai · Posted: 15/07/2011 8:55 pm Post subject:

ปิดท้ายกระทู้นี้ ด้วยงาน"วันทุเรียนหมอนทองคลองลอย" ครับ งาน"วันทุเรียนหมอนทองคลองลอย" จัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านคลองลอย
ซึ่ง อบต.ร่อนทอง ร่วมกับเทศบาล ตำบลร่อนทอง เป็นผู้จัดงานครั้งนี้ เมื่อวันที่ ๔ - ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ซึ่งปีนี้จัดงานเป็นปีแรก ครับ
มีกิจกรรมมากมาย แต่วันที่ผมไปชมงาน คือวันที่ ๕ ซึ่งเป็นที่ ๒ ของงาน

นี่คือ กำหนดการ จัดงานตลอด ๓ วัน ครับ แต่ผมไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ ตั้งใจจะมากกินทุเรียน คลองลอยมากกว่า

กิจกรรมที่ผมให้ความสนใจมากที่สุด ครับ Laughing

ปรกติก็ชอบทานทุเรียนอยู่แล้ว

กิจกรรมนี้ต้องซื้อบัตรใบละ ๑๐๐ บาท รับประทานผลไม้ทุกชนิดที่มีอยู่ที่บ้านคลองลอย
นอกจากนี้ยังค่ารถเข้าชมสวนผลไม้ ตามเส้นทางจนถึงด่าน คลองลอย ครับ

_________________

ksomchai · Posted: 15/07/2011 9:20 pm Post subject:

เดินเข้าชมงาน ครับ ผ่านร้านค้าผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลผลิตที่ชาวสวนนำมาขายให้ผู้บริโภค โดย ตรง ครับ

ผลิตภัณฑ์ที่นักเรียนโรงเรียนบ้านคลองลอย ผลิตมาจำหน่าย ครับ

_________________

ksomchai · Posted: 15/07/2011 9:52 pm Post subject:

ทุเรียนประยุกต์

แผ่นป้ายประวัติ บ้านคลองลอย
บ้านคลองลอยเดิมเป็นส่วนหนึ่งของ หมู่ที่ ๕ บ้านเนินกรวด ต่อมาปี ๒๕๓๐ ได้แยกเป็น หมู่ที่ ๘ บ้านคลองลอย
ตั้งอยู่ห่างจาก อำเภอบางสะพานไปทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ ๒๓ กิโลเมตร มีประชากรจำนวน ๖๑๐ หลังคาเรือน จำนวน ๑,๔๘๒ คน
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเชิงเขา ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยาง ทำไร่สับปะรดรับจ้างและสวนผลไม้ เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียน ฯ

ที่มาความอร่อยทุเรียน คลองลอย
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเชิงเขา มีต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบกับมีการสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านคลองลอย มีความจุประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ ลบ.ม.
อยู่ทางทิศตะวันตกมางเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล พื้นที่ใต้อ่างเก็บน้ำคลองลอย เป็นดินทรายสีดำ
หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าดินทรายขี้เป็ด มีคุณสมบัติไม่อมน้ำ และไม่ไหลลงสู่ชั้นดินจนเร็วเกินไป ทั้งนี้ชาวเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน
ต้องดูแลรดน้ำ เอาใจใส่เป็นประจำ ทำให้เกษตรที่ปลูกทะเรียน ได้ทุเรียนที่มีรสชาติดีเป็นเอกลักษณ์
_________________

heerchai · Posted: 15/07/2011 11:19 pm Post subject:

ผมไปเที่ยวที่ ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์มาแล้ว ชึ่งมีที่ทำการอาคารด่านถาวร ผมเข้าใจเวลานั้นว่า ด่านสิงขร เป็นด่านสุดชายแดนไทย-พม่า ภูมิประเทศเป็นป่าเขาเหมือนที่ บ้านตลองลอย ไม่ผิดแปลกแตกต่างกันไป ไปถ่ายภาพอาคารบริเวณนั้นหลายต่อหลายภาพ

เจ้าหน้าที่ด่านสิงขรบอกกล่าวมาว่า ที่นี่ยังไม่ใช่สุดชายแดน ต้องเลยจากที่ด่านนี้ ขึ้นเนินสูงลาดยางอย่างดีไป 10 กม.จนถึงฐาน ตชด.บนเนินสันปันน้ำ ที่นั้นคือสุดชายแดนไทย-พม่า

เท่าที่ทราบมาว่า ชายแดนไทย-พม่า ยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนแน่ชัดตรงงจุดไหน อาศัยหลักภูมิประเทศแบ่งเขตสันปันน้ำเป็นแนวทางชั่วคราว เป็นที่ตั้งฐาน ตชด.ไทย

Mongwin · Posted: 16/07/2011 8:26 am Post subject:

ขอบคุณพี่สมชายกับเฮียใช้มากครับที่ให้ความรู้เพิ่มเติม
ทุเรียนประยุกต์อย่างไร ก็สู้ทุเรียนสดไม่ได้จริง ๆ ครับ Very Happy

ถ้าปัจจุบันเมืองมะริด ทวาย ตะนาวศรี ยังเป็นดินแดนไทยอยู่ คงเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและการท่องเที่ยวที่ทำรายได้ให้ประเทศไทยอีกมหาศาลเลยครับ
แต่สิ่งแวดล้อมก็อาจจะถูกบุกรุก ทำลายมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้

เรื่องการปักปันเขตแดน คงยังไม่ชัดเจนอย่างที่เฮียใช้บอก ทั้งนี้ก็คงเพราะยังไม่มีความจำเป็นต้องทำเร่งด่วน เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าเขานะครับ

RORONOA · 2nd Class Pass Joined: 06/12/2007 Posts: 705