ความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานีกลางบางซื่อและรถไฟฟ้า

Wisarut · Posted: 19/04/2021 2:51 am Post subject:

ร.ฟ.ท.เปิดสถานีบางซื่อ 5G ต้นแบบแห่งแรกในอาเซียน
18 เมษายน 2564
กำหนดเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการในเดือน ก.ค. - พ.ย.นี้ และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์กลางเดือน พ.ย.2564 สำหรับสถานีกลางบางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และบางซื่อ - ตลิ่งชัน

ซึ่งหลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดพิธีเปิดการทดลองเพื่อเดินรถเสมือนจริง รถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และบางซื่อ - ตลิ่งชัน ไปเมื่อวันนี้ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากความทันสมัยด้านสถาปัตยกรรมของสถานีกลางบางซื่อ และความน่าตื่นเต้นของบริการรถไฟฟ้าสายใหม่ในไทยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ได้เห็นในสถานีกลางบางซื่อ คือ เทคโนโลยี 5G อำนายความสะดวกให้แก่ผู้เข้าใช้บริการ

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เผยว่า สถานีกลางบางซื่อจะเป็นต้นแบบสถานีอัจฉริยะ 5G แห่งแรกของไทยและอาเซียน โดยตัวสถานีแห่งนี้ จะมีการยกระดับให้บริการด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ทั้งบริการข้อมูลการเดินทาง นำทางในสถานี แนะนำสถานที่ และเส้นทางการท่องเที่ยวแก่ผู้โดยสาร โดยหุ่นยนต์เหล่านี้สามารถตอบได้หลายภาษา ให้บริการช่วยเหลือผู้โดยสาร เช่น การนำทางภายในสถานี การช่วยเหลือฉุกเฉิน เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายในสถานียังมีปัญหาประดิษฐ์เพื่อความปลอดภัยพร้อมส่งสัญญาแบบ Real-Time โดยระบบตรวจจับคนเดินล้ำเส้นเหลือง เพื่อป้องกันผู้โดยสารตกลงไปในรางรถไฟ รวมทั้งมีระบบวิเคราะห์ผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงจะเกิดอุบัติเหตุ เช่น เดินโซเซ มีอาการชัก หรือจะเป็นลม

อีกทั้ง ยังมีระบบตรวจจับใบหน้า เพื่อวิเคราะห์และบันทึกข้อมูลผู้โดยสารแต่ละคน ระบบวิเคราะห์วัตถุอันตราย และแอพพลิเคชั่นให้ข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง เช่น ตั๋วโดยสาร ตารางการเดินรถ การนำทางผู้โดยสารทุพพลภาพไปยังที่นั่ง เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ร.ฟ.ท.ยังเตรียมรถเข็นอัจฉริยะ เพื่อผู้สูงอายุและผู้ทุพพลภาพไว้ให้บริการ ซึ่งรถเข็นดังกล่าวมมีระบบแนะนำเส้นทางและระบุจุดหมายการนำทาง สามารถเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่เป้าหมายอัตโนมัติ สามารถกลับมายังที่เก็บหรือจุดที่รับบริการได้เอง และยังมีระบบควบคุมการเคลื่อนที่จากห้องบังคับการ

รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท.เผยว่า ในพิธีเปิดทดลองเดินรถเสมือนจริง รถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และบางซื่อ - ตลิ่งชัน เมื่อ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้นำเทคโนโลยี 5G เข้ามาทดสอบให้บริการผู้โดยสาร เพื่อรับฟังผลการใช้บริการ โดยมีเป้าหมายจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาให้บริการภายในสถานีกลางบางซื่อ เพื่อผลักดันให้สถานีแห่งนี้เป็นสถานีอัจฉริยะแห่งแรกของไทยและอาเซียน ซึ่งเบื้องต้น ร.ฟ.ท.จะต้องเปิดประมูลจัดหาบริษัทเข้ามาบริการระบบ 5G ดังกล่าว โดยมั่นใจว่าจะนำมาให้บริการทันเปิดให้บริการ พ.ย.นี้

สำหรับความคืบหน้าของการจัดหาเอกชนเข้ามาให้บริการร้านค้า ร้านอาหาร ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ ร.ฟ.ท.ได้รับนโยบายจากกระทรวงคมนาคมในการเปิดประมูลจัดหาเอกชนร่วมทุน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบร่วมลงทุน โดยระหว่างนี้เพื่อให้การเปิดให้บริการมีความสะดวกต่อผู้โดยสาร และผู้ที่เข้ามาใช้งานสถานีกลางบางซื่อ ร.ฟ.ท.จะดำเนินการประกวดราคา ในสัญญาระยะสั้น เพื่อจัดหาเอกชนเข้ามาให้บริการร้านค้า ร้านอาหาร ในลักษณะร้านค้าขนาดเล็กรูปแบบคีออส

ขณะที่โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง กระทรวงฯ มีนโยบายให้ลงทุนในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย

1. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงรังสิต - ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) วงเงินโครงการ 6.57 พันล้านบาท
2.โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงตลิ่งชัน - ศาลายา) วงเงิน 1.02 หมื่นล้านบาท
3.โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงตลิ่งชัน - ศิริราช) วงเงิน 6.64พันล้านบาท และ
4. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ - หัวลำโพง และช่วงบางซื่อ - หัวหมาก) วงเงิน 4.41 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ จากนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนรูปแบบพีพีพี ส่งผลให้ ร.ฟ.ท.ต้องเริ่มดำเนินการศึกษารายละเอียดความเหมาะสม เพื่อจัดทำรายงานพีพีพี ปรับปรุงจากผลการศึกษาเดิมที่ ร.ฟ.ท.จะประมูลจัดหาเอกชนรับเหมางานโยธาเท่านั้น เบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้เวลาศึกษารายละเอียดประมาณ 3 ปีแล้วเสร็จ เพื่อเริ่มกระบวนการประกวดราคาในปี 2567

Wisarut · Posted: 21/04/2021 10:49 pm Post subject:

เตรียมพร้อมกับการเปิดให้บริการ "สถานีกลางบางซื่อ" ภายในปลายปี 2564 กับศูนย์กลางระบบรางแห่งใหม่ของประเทศไทยที่จะรวมรถไฟในทุกๆระบบไว้ด้วยกัน
https://www.facebook.com/RenderThailand/posts/320140586132159

Wisarut · Posted: 24/04/2021 9:50 pm Post subject:

เตรียมพร้อมสถานีกลางบางซื่อ
https://www.youtube.com/watch?v=ad2gfG4MW7o

Wisarut · Posted: 01/05/2021 12:07 am Post subject:

Wisarut · Posted: 01/05/2021 11:57 pm Post subject:

เช็กความพร้อม! เปิดสายสีแดงก.ค.นี้&สถานีกลางบางซื่อสิ้นปี
*ศักดิ์สยามสั่งขสมก.-ขบ. ปรับเส้นทางรถเมล์เชื่อม
*เก็บค่าโดยสารเหมาะสมตั๋วร่วม EMVแจ้งเกิด ธ.ค.
*ตั้งแฟนเพจ"Bang sue Grand Station"รับทัวร์ลง
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/2893739540847545

การรถไฟเตรียมเปิดประมูลจ้าง รปภ. และแม่บ้าน #สถานีกลางบางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้า #สายสีแดง มูลค่ากว่า 581 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 3 ปี ใช้เจ้าหน้าที่กว่า 730 คน!!!!
วันนี้เอาความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อม ที่จะเปิดให้บริการ สถานีกลางบางซื่อ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งจะเปิดบริการปลายปี 64 นี้!!!
ซึ่งล่าสุดการรถไฟได้เปิดร่าง #TOR เพื่อเตรียมเปิดประมูล การจัดจ้างเหมา รปภ. และแม่บ้าน สำหรับใช้ในการให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ทั้งโครงการ
ตลอดระยะเวลา 3 ปี ก่อนจะเข้าช่วง PPP ให้เอกชนมาบริหารโครงการต่อในอนาคต ตามลิก์ต่อไปนี้:

ชื่อเรื่อง : จ้างทำความสะอาดอาคารและบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน ๑๒ สถานี
วงเงินงบประมาณ/ราคากลาง : 198,816,000.00 บาท
http://procurement.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=642233865

ชื่อเรื่อง : จ้างทำความสะอาดอาคารและบริเวณสถานีกลางบางซื่อ
วงเงินงบประมาณ/ราคากลาง : 128,304,000.00 บาท
http://procurement.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=641712130

ชื่อเรื่อง : จ้างบริการรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจรบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน ๑๒ สถานี
วงเงินงบประมาณ/ราคากลาง : 173,600,000.00 บาท
http://procurement.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=641833924

ชื่อเรื่อง : จ้างบริการรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจรบริเวณสถานีกลางบางซื่อ
วงเงินงบประมาณ/ราคากลาง : 80,360,000.00 บาท
http://procurement.railway.co.th/auction/tor/detailtor.asp?codetor=641993049

https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1182329838872160

Mongwin · Posted: 10/05/2021 3:49 pm Post subject:

ทอท.จ่อดันบริษัทลูกลุยประมูลงานสถานีกลางบางซื่อ
กรุงเทพธุรกิจ 10 พฤษภาคม 2564

ทอท.จ่อดันบริษัทลูกลุยประมูล หลังการรถไฟฯ อัดงบ 580 ล้านบาท ประเดิมงานจ้าง รปภ. - แม่บ้าน เตรียมความพร้อมเปิดสถานีกลางบางซื่อ และรถไฟชานเมืองสายสีแดง ก.ค.นี้

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทอท.มีบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบริการและการรักษาความปลอดภัย คือ บริษัท รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AVSEC และบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ซึ่งแผนของบริษัทจะเข้าไปประมูลงานในหน่วยงานอื่นๆ เพื่อหารายได้

สำหรับกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างประกาศประกวดราคางานจ้างทำความสะอาดและบริการรักษาความปลอดภัยนั้น ทอท.จะศึกษารายละเอียดก่อน โดยเบื้องต้นมองว่า AVSEC มีความพร้อมที่จะเข้าไปร่วมประมูล เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว ส่วนงานจ้างทำความสะอาด ที่อาจเกี่ยวเนื่องกับ AOTGA ขณะนี้ขอประเมินรายละเอียด ความต้องการจำนวนพนักงานในประกาศประกวดราคาก่อน เนื่องจากปัจจุบัน AOTGA ยังมีบุคลากรจำนวนไม่มาก

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เผยว่า ขณะนี้ ร.ฟ.ท.เตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อและรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยได้นำร่องประกาศเอกสารประกวดราคางานจ้างทำความสะอาดและจ้างบริการรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ และบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 12 สถานี วงเงินรวมกว่า 580 ล้านบาท ระยะ 3 ปี เพื่อเร่งรัดจัดหาเอกชนให้ทันต่อการเปิดทดลองเดินรถในเดือน ก.ค.นี้

“ตอนนี้แม้ว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 ที่กระทบต่อการเปิดให้ประชาชนเข้าไปทดลองระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง แต่การรถไฟฯ โดยทีมแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ก็ยังเข้าไปทดลองเดินรถทุกวัน พร้อมทั้งยังกำหนดจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปทดลองใช้บริการฟรีในเดือน ก.ค.นี้ ก่อนจะเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย.2564”

อย่างไรก็ดี การประกวดราคางานจ้างทำความสะอาดและจ้างบริการรักษาความปลอดภัยนั้น ร.ฟ.ท.ดำเนินการจ้างเอกชนแยกออกเป็น 4 สัญญา คือ 1.การจ้างทำความสะอาดอาคารและบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 12 สถานี วงเงิน 198 ล้านบาท 2.งานจ้างทำความสะอาดอาคารและบริเวณสถานีกลางบางซื่อ วงเงิน 128 ล้านบาท 3. จ้างบริการรักษาความปลอดภัยและการจัดการจราจรบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 12 สถานี วงเงิน 173 ล้านบาท และ 4.จ้างบริการรักษาความปลอดภัยและจัดการจราจรบริเวณสถานีกลางบางซื่อ วงเงิน 80 ล้านบาท

นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างเร่งศึกษารายละเอียดเพื่อจัดทำร่างสัญญาประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนรัฐ (พีพีพี) พื้นที่สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 52,375 ตารางเมตร โดยรวมถึงการให้บริการในส่วนของศูนย์อาหาร และร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นในการเดินทาง อายุสัญญาเช่า 15 – 20 ปี

ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอีก 12 สถานี เบื้องต้นสำรวจพบว่ามีพื้นที่ 4,626 ตารางเมตร และพื้นที่โฆษณา จำนวน 2,407 ตารางเมตร ผลการศึกษา ร.ฟ.ท.จะออกประกาศเชิญชวนเอกชนประกวดราคาเช่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยคาดว่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนภายในเดือน มิ.ย. นี้ ลงนามสัญญาในเดือน ส.ค.2564 และเปิดให้บริการปลายปี 2564

Wisarut · Posted: 10/05/2021 4:24 pm Post subject:

Mongwin · Posted: 12/05/2021 6:41 am Post subject:

เล็งใช้สถานีรถไฟกลางบางซื่อ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีน กทม.
ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 - 22:27 น.

คณะอนุกรรมการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด 19 มีมติปรับแผนการกระจายวัคซีน ใช้กลยุทธ์ฉีดปูพรมในพื้นที่ระบาด กทม.และปริมณฑล เดินหน้าฉีดเชิงรุกนอกโรงพยาบาล เตรียมใช้พื้นที่สถานีรถไฟกลางบางซื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีน

วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด 19 ในการปรับแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทย โดยระบุว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกคนในประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด 19 ตามความสมัครใจ ซึ่งประชากรทั้งคนไทยและต่างชาติในประเทศไทยมีประมาณ 70 ล้านคน การรับวัคซีนครอบคลุมให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ คือ ร้อยละ 70 ของประชากร เท่ากับประมาณ 50 ล้านคน โดยใช้วัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส ตั้งเป้าฉีดให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2564

ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดในขณะนี้ ยังอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นหลัก ดังนั้น คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติเห็นชอบการปรับแผนการกระจายวัคซีนโควิด 19 ด้วยกลยุทธ์ “ฉีดปูพรม” (Mass Vaccination) ในพื้นที่ระบาด

นอกจากนี้ ยังเร่งรัดให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการฉีดเชิงรุกนอกโรงพยาบาล ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เสนอให้ใช้พื้นที่สถานีรถไฟกลางบางซื่อ เพื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีน ซึ่งมีความกว้างขวางและรองรับคนได้จำนวนมาก รวมถึงการให้ประชาชนสามารถเดินมารับวัคซีนได้

ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด 19 กล่าวว่า กลยุทธ์การปูพรมฉีดวัคซีนใน กทม.และปริมณฑล จะมีทั้งวัคซีนของซิโนแวกและแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากในเดือนพฤษภาคมจะมีวัคซีนซิโนแวกเข้ามาอีก 2.5 ล้านโดส และวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่คาดว่าจะส่งมอบช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้อีก 1.7 ล้านโดส

โดยในส่วนของ กทม.ตั้งเป้าจะฉีดให้ได้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร คือ 5 ล้านคน ภายใน 2 เดือน โดยฉีดให้แก่ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ เร่งรัดการฉีดวัคซีนในพื้นที่ระบาดโดยเพิ่มจุดบริการนอกโรงพยาบาล เช่น สนามกีฬา มหาวิทยาลัย ศูนย์การประชุม หรือศูนย์การค้า เป้าหมายฉีดให้ได้ 1 แสนโดสต่อวัน

Wisarut · Posted: 16/05/2021 6:36 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 21/05/2021 1:59 pm Post subject:

สถานีกลางบางซื่อพร้อม 100% ดีเดย์ 24 พ.ค.”ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด” เริ่มคนภาคคมนาคมขนส่ง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 เวลา 13:55 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 เวลา 13:55 น.

“อนุทิน”ควง”ศักดิ์สยาม”เช็กความพร้อมสถานีกลางบางซื่อ จัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 จัดพื้นที่ 1.4 หมื่นตร.ม. ระดมเจ้าหน้าที่ ฉีดได้ 900 คน/ชม.หรือ 10,000 คน/วัน ดีเดย์ 24 พ.ค. ฉีดคนในภาคขนส่งก่อน “อนุทิน”ลั่นวัคซีนเพียงพอ จัดรถ Shuttle Bus 3 เส้นทาง ” อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ,เซ็นทรัลลาดพร้าว ,MRT จตุจักร,BTS หมอชิต

วันที่ 21 พ.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ณ สถานีกลางบางซื่อ ถนนกำแพงเพชร ซึ่งได้วางแผนในการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะรองรับเป็นการฉีดให้กับบุคลากรหน่วยงานคมนาคมขนส่งและผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เริ่มตั้งแต่ 24 พ.ค. -6 มิ.ย. 2564 ช่วงที่ 2 จะเป็นประชาชนทั่วไป ซึ่งรอนโยบายศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศบค.) ต่อไป โดยจะเปิดบริการ 09.00 น.-20.00 น. มีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนได้ประมาณ 10,000 คนต่อวัน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังตรวจการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ที่สถานีกลางบางซื่อ ว่า ขณะนี้สถานที่ถือว่ามีความพร้อมและเหมาะสมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคมได้ร่วมกันบูรณาการให้เป็นสถานีฉีดวัคซีนที่เป็นรูปธรรม โดยจะสามารถฉีดได้ประมาณ 10,000 คนต่อวัน โดยจะเริ่มจากกลุ่มบุคลากรด้านการคมนาคมขนส่งสาธารณะ ที่มีอยู่ประมาณ 300,000 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากในการให้บริการ ต้องสัมผัส พบปะกับประชาชนจำนวนมาก จะทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้บริการขนส่งธารณะ ตามเจตนารมณ์ของกระทรวงคมนาคม

และหลังจากนั้น จะให้หน่วยงานราชการต่างๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นลักษณะกลุ่มองค์กรต่อไป ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และจะเป็นจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่จะช่วยความแออัดและภาระในสถานที่ ฉีดวัคซีนโควิด-19 จุดอื่นๆ อีกด้วย

“ยืนยันวัคซีนมีเพียงพอ เพราะมีการสั่งซื้อสำรอง จากต่างประเทศและผลิตในประเทศ ไว้อย่างเพียงพอกับจำนวนประชากร ซึ่งกรณีฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มแรกกับเข็มที่สอง มีระยะห่าง 3 สัปดาห์ กรณีฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรกกับเข็มที่สอง มีระยะห่าง 16 สัปดาห์ และวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อได้รับการยืนยันว่าสามารถฉีดได้ครอบคลุมทุกอายุ “นายอนุทินกล่าว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมกล่าวว่า บุคลากรด้านคมนาคมขนส่งทั้งหมดมีประมาณ 352,784 คน โดยอยู่ในกทม.และปริมณฑล 59,729 คนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะให้ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางซื่อ ซึ่งขณะนี้สถานที่มีความพร้อม 100% มีการจัดระบบตั้งแต่เข้ามาจุดที่1 จนถึงจุดพักคอยดูอาการ กรณีที่ลงทะเบียนมาก่อน จะมี QR code แสกนลงทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว รองรับได้ชั่วโมงละ 900 คน โดยเวลาในการเข้าฉีดวัคซีนประมาณ 15 นาที และรอดูอาการหลังฉีด 30 นาที รวมประมาณ 45 นาทีต่อคน ส่วนบุคลากรในภูมิภาคยังมีอีกจำนวน 1574,000 คน จะประสานกับจังหวัดให้ดำเนินการ ซึ่งหากเป็นไปตามแผน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ2-3 เดือนในการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรคมนาคมขนส่งได้ครบ
“วันที่ 24 พ.ค.จะเริ่มฉีด จะดูว่า สามารถฉีดได้ตามเป้าหมายหรือมีข้อปรับแก้จุดใดบ้าง ส่วนผู้ประกอบการรถสาธารณะ คนขับแท็กซี่ รถรับจ้างต่างๆ จะเข้ารับการฉีดเช่นกัน โดยให้กรมการขนส่งทางบก รวบรวมข้อมูล เพื่อทำแผนการฉีดต่อไป"

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานอำนวยการบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์โควิดในระบบขนส่งมวลชน กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะเจ้าของพื้นที่ และกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดเตรียมพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ สำหรับเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมด 14,294 ตร.ม.หรือเกือบ 85% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยมีโถงชั้นล่าง 2 โถง พื้นที่ 6,758 ตร.ม.ชั้นลอย พื้นที่ 4,170 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บวัคซีน และพื้นที่สำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอีกด้วยโดยได้เตรียมโต๊ะจำนวน 250 ตัว เก้าอี้ 4,000 ตัว ทีวีชนาดใหญ่ 8 เครื่อง พัดลมแบบตั้งพื้น 20 ตัว เพื่อถ่ายเทอากาศกรณีที่มีประชาชนจำนวนมาก และรถพยาบาลจาก โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร การรถไฟฯและพร้อมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กรณีฉุกเฉิน

ภายในพื้นที่แบ่งเป็น 4 จุด โดยจุดอรกเป็นที่พักคอย รองรับได้ 1,400 ที่นั่ง จุดที่ 2 เป็นพื้นที่ลงทะเบียนข้อมูลเซ็นใบยินยอม รองรับได้ 179 โต๊ะ จุดที่ 3 จุดฉีดวัคซีน รองรับได้ 100 โต๊ะ จุดที่ 4 จุดพักรอสังเกตอาการ มีประมาณ 800 ที่นั่ง

ในด้านการขนส่งรองรับการเดินทางมายังสถานีกลางบางซื่อนั้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดหารถ Shuttle Bus ปรับอากาศบริการใน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. ท่าน้ำบางโพ -สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน (สายสีม่วง) เพื่อเดินทางโดยMRT มายังสถานีบางซื่อ 2. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สถานีกลางบางซื่อ 3. เส้นทางวงกลม จากหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว -MRT จตุจักร /BTS หมอชิต -สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ(จตุจักร ) หมอชิต 2 นอกจากนี้ ยังจัดรถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้า (EV) จำนวน 3 คัน บริการรับ-ส่ง โดยรอบสถานีกลางบางซื่อ

นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ณ สถานีกลางบางซื่อนั้น ก.สาธารณสุข ได้จัดบุคลากรจากกรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง และสถาบันเด็กและจะมีนักเรียนพยาบาล และครูพยาบาล สภาการพยาบาล จัดบุคลากรมาช่วยในการฉีดวัคซีน โดยจะมีอัตราการฉีดได้ประมาณ 900 คนต่อชั่วโมง การบริการ 10 ชั่วโมงต่อวัน จะรองรับได้ 9,000 คน หรืออาจมากถึง 10,000 คน

ซึ่งการลงทะเบียนการฉีด 3 ระบบ คือ 1. นัดหมายเป็นองค์กร 2. นัดหมายระบบหมอพร้อม 3. ลงทะเบียน ณ จุดฉีด ซึ่งกรณีที่วัคซีนไม่เพียงพอในวันนั้น จะได้ลงวันนัดล่วงหน้า ทั้งนี้เพื่อจัดเตรียมวัคซีนได้อย่างเพียงพอตามที่ต้องการ

รายงานข่าวแจ้งว่า ข้อมูลจำนวนบุคลากรคมนาคม ทั้งประเทศ ทั้งภาครัฐและบุคลากรขนส่งภาคเอกชน(คนขับรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถร่วมบริการ ขสมก. บขส. เป็นต้น) ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง มีจำนวนทั้งสิ้น 352,784 คน โดยเป้าหมายที่จะให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่สถานีกลางบางซื่อ คือบุคลากรในพื้นที่กทม.และปริมณฑล จะมีจำนวน 183,814 คนนั้น แบ่งเป็นบุคลากรหน่วยงานรัฐ จำนวน 47,179 คน แจ้งขอรับวัคซีนแล้ว 45,542 คน บุคลากรขนส่งภาคเอกชน จำนวน 138,272 คน แจ้งรับวัคซีนแล้ว 22,003 คน หรือเท่ากับเบื้องต้นมีการยืนยันเข้าฉีดวัคซีน จำนวน 67,545 คน ส่วนที่เหลือ จะทยอยเข้าลงทะเบียนต่อไป
อย่างไรก็ตาม บุคลากรด้านคมนาคมขนส่งสาธารณะนั้น มีบางส่วนที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว เช่นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงและกลุ่มผู้ปฏิบัติหน้าที่ในงานแนวหน้า (Front Line)

สถานีกลางบางซื่อพร้อมฉีดวัคซีน 24 พ.ค.นี้/ประชาชนออนไซต์เริ่ม 7 มิ.ย.
วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.12 น.

สถานีกลางบางซื่อพร้อมมาก!! เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 วันแรก 24 พ.ค.นี้ ประเดิมกลุ่มแรกบุคลากรด่านหน้าบริการขนส่ง-คมนาคม 6 หมื่นคน ก่อนเปิดให้ประชาชนออนไซต์ 7 มิ.ย.นี้ “อนุทิน” ยันมีวัคซีนเพียงพอ ขณะที่ “ศักดิ์สยาม” สั่งจัดรถเมล์รับ-ส่งอำนวยความสะดวกประชาชน 3 เส้นทาง

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่สถานีกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังตรวจความพร้อมการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ณ สถานีกลางบางซื่อว่า กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนดังกล่าวขึ้น ซึ่งมีความพร้อมที่จะให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว โดยจะสามารถรองรับการฉีดวัคซีนได้ 900 คนต่อชั่วโมง หรือเป้าหมายสูงสุด 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งในวันที่ 24 พ.ค.นี้ จะเริ่มฉีดวัคซีนให้บุคลากร และผู้ให้บริการด่านหน้าในระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทที่ลงทะเบียนผ่านกระทรวงคมนาคมเป็นส่วนแรก จากนั้นจะขยายเปิดบริการให้กับหน่วยงาน หรือองค์กรอื่นๆ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอ และปัจจุบันยังมีแผนนำเข้าวัคซีนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานใดมีสถานที่ขนาดใหญ่เหมือนที่สถานีกลางบางซื่อ ขอให้แจ้งเข้ามา เพื่อจะได้ปรับพื้นที่เป็นสถานที่บริการฉีดวัคซีน จะทำให้การฉีดวัคซีนรวดเร็ว และรองรับประชาชนได้มากขึ้น

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า กระทรวงคมนาคมมีบุคลากรของรัฐ และบุคลากรภาคเอกชนที่ให้บริการขนส่งสาธารณะ รวมทั่วประเทศ ประมาณ 3.5 แสนคน แบ่งเป็น ขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 6 หมื่นคน ซึ่งจะได้รับการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.64 เป็นต้นไป ส่วนบุคลากรที่เหลืออยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด จะประสานสาธารณสุขในพื้นที่ดำเนินการฉีดวัคซีนต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าสถานที่สถานีกลางบางซื่อมีความพร้อม 100% ช่วงแรกจะนำร่องฉีดในกลุ่มของคมนาคมก่อน จากนั้นจะใช้พื้นที่ให้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ รองรับประชาชนทั่วไปตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ขั้นตอนการฉีดวัคซีนจะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที จากนั้นเฝ้ารอดูอาการอีก 30 นาที รวมแล้วจะใช้เวลาการเข้ารับวัคซีนคนละประมาณ 45 นาที ซึ่งการเข้ารับวัคซีนจะเป็นแบบวันเวย์ เข้าและออกอีกทาง ไม่ต้องเดินสวนกัน ในส่วนของการเดินทางมายังสถานีกลางบางซื่อ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับความสะดวก เพราะได้จัดเตรียมรถโดยสารประจำทางฟรี อำนวยความสะดวกรับ-ส่งประชาชนที่จะเดินทางมารับวัคซีน ไว้ 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางเชื่อมระบบโดยสารทางน้ำ จากท่าเรือบางโพ - สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน - สถานีกลางบางซื่อ 2. เส้นทางใจกลางเมือง เริ่มจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - สถานีกลางบางซื่อ และ 3. เส้นทางเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้า เริ่มต้นสถานีห้าแยกลาดพร้าว ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว - สถานีรถไฟฟ้าจตุจักร - ตลาด อตก. - สถานีกลางบางซื่อ

ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า สถาบันโรคผิวหนังเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่จะเข้ามาให้บริการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เบื้องต้นกำหนดแผนฉีดวัคซีน แบ่งเป็น ระยะที่ 1 ให้บริการบุคลากรจากระทรวงคมนาคม ประมาณ 6 หมื่นคน เริ่มต้นฉีดวัคซีนวันที่ 24 พ.ค.นี้ คาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนแล้วเสร็จในวันที่ 6 มิ.ย.ส่วนระยะที่ 2 ให้บริการ 3 กลุ่ม รวม 1 หมื่นคนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นไป คือ
1.กลุ่มองค์กรที่ประสานมายังสาธารณสุข จำนวน 3 พันคนต่อวัน
2.กลุ่มประชาชนทั่วไป ลงทะเบียน ณ จุดบริการ หรือ On-site Registration (ออนไซต์) จำนวน 2 พันคนต่อวัน และ
3.กลุ่มประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านเครือข่าย และแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม 5 พันคนต่อวัน
โดยกลุ่มที่ 3 นี้ ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายโทรคมนาคม อาทิ ดีแทค เอไอเอส และทรู ซึ่งจะติดต่อไปยังผู้ใช้บริการเครือข่ายมือถือ และให้กรอกข้อมูลลงทะเบียนจองรับวัคซีน...

เนรมิต “สถานีกลางบางซื่อ” จุดฉีดวัคซีน ลอตแรก 6.7 หมื่นคน เริ่ม 24 พ.ค.64
อสังหาริมทรัพย์
วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564 เวลา 13:47 น.

“ภูมิใจไทย” เสก “สถานีกลางบางซื่อ” เป็นจุดฉีดวัคซีน เน้นหน่วยงานราชการ-ด่านหน้าขนส่งสาธารณะ ประเดิมลอตแรก 6.7 หมื่นคน ระดมฉีดเริ่ม 24-31 พ.ค.นี้ ต่างจังหวัดประสานผู้ว่าฯ-สาธารณสุขจังหวัดระดมฉีด คาด 3 เดือนเคลียร์จบ 3.5 แสนคนตามเป้า

วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่สถานีกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมและเตรียมความพร้อมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ

ประเดิม 6.7 หมื่นคน เริ่ม 24 พ.ค.
โดยนายอนุทินกล่าวว่า ตามแผนที่วางไว้ สถานีกลางบางซื่อจะจัดไว้เป็นจุดฉีดวัคซีนสำหรับบุคลากรในกระทรวงคมนาคมและพนักงานภาคเอกชนที่มีความเสี่ยงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 67,545 คนก่อน โดยจะทยอยฉีดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. 2564 ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2564 ซึ่งศักยภาพตอนนี้ สามารถฉีดได้วันละ 10,000 คน และการฉีดวัคซีน 1 ครั้ง จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที

หลังจากนั้นจะเปิดให้หน่วยงานราชการอื่น ๆ ทั้งกระทรวง ทบวง กรม จัดกลุ่มมาฉีดวัคซีนที่นี่ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลและจุดฉีดวัคซีนต่าง ๆ รวมปัญหาจราจรด้วย ซึ่งทราบว่าทางกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่ออยู่

3.5 แสนคน เป้าคมนาคม
ด้านนายศักดิ์สยามกล่าวว่า สำหรับกระทรวงคมนาคม มีจำนวนบุคลากรและกลุ่มผู้เสี่ยงสูงจำพวกผู้ขับขี่และให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีน 352,784 คน แบ่ง 2 ส่วน 1. สัดส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 185,451 คน และ 2.สัดส่วนภูมิภาค จำนวน 167,333 คน โดยในลอตแรกจะเริ่มฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 67,545 คนก่อน โดยจะฉีดให้ครบตามที่รองนายกฯ ระบุไป

แอสตร้าเซนเนก้า-ซิโนแวก ผสมผสาน
ส่วนวัคซีนที่จะใช้ฉีดจะผสมผสานทั้งซิโนแวกและแอสตร้าเซนเนก้า โดยจะนำเรื่องเรียนกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุม ศบค. วันนี้ (21 พ.ค. 2564)

ต่างจังหวัดประสานผู้ว่าฯ
ขณะที่บุคลากรในต่างจังหวัด จะแจ้งไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เพื่อประสานกับสาธารณสุขของแต่ละพื้นที่ ทำการนัดหมายฉีดวัคซีนในลำดับถัด ๆ ไป โดยคาดว่าทั้ง 352,784 คน จะทยอยฉีดให้ครบภายใน 2-3 เดือน

สำหรับการใช้พื้นที่สถานีกลางบางซื่อสำหรับฉีดวัคซีน จะใช้พื้นที่ของสถานี 14,294 ตารางเมตร แบ่งเป็น โถงชั้นล่าง 2 โถง 6,758 ตารางเมตร, ชั้นลอย 4,170 ตารางเมตร, พื้นที่ฉีดวัคซีนของกระทรวงคมนาคม 812 ตารางเมตร, พื้นที่เก็บยาและวัคซีน 234 ตารางเมตร และพื้นที่ Rest Area ของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข 2,320 ตารางเมตร

และยังได้จัดเตรียมรถ EV Bus รับส่งใน 3 เส้นทาง ได้แก่
1.ช่วงท่าเรือบางโพ – MRT เตาปูน – สถานีกลางบางซื่อ
2.ช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – บางซื่อ และ
3. ช่วงเซ็นทรัลลาดพร้าว – BTS หมอชิต – ตลาด อ.ต.ก. – บางซื่อ – หมอชิต 2