View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
|
Back to top |
|
|
pasakorn
2nd Class Pass
Joined: 06/01/2009 Posts: 671
Location: ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ., หลักสี่
|
Posted: 17/08/2011 12:30 pm Post subject: |
|
|
ผมเห็นด้วยกับคำแนะนำของสมาชิกหลายๆท่านนะครับ ที่ให้ขับรถลงมาด้วยตนเองจะสะดวกกว่า โดยให้หยุดแวะพักระหว่างทางเป็นช่วงๆ ซึ่งผมเข้าใจว่าคุณ voravut คงอยากจะขนส่งรถยนต์ไปกับขบวนรถไฟในลักษณะอย่างนี้รึเปล่าครับ...
Thankyou for reference photo from http://www.railpictures.net/viewphoto.php?id=318819&nseq=362
ซึ่งโดยส่วนตัวของผมแล้ว อยากให้มีการขนส่งรถยนต์ทางรถไฟในลักษณะอย่างนี้จริงๆครับ ซึ่งมีผลดีหลายอย่าง ลดความแออัดในการจราจรบนทางหลวง (โดยเฉพาะช่วงเทศกาล) และประหยัดพลังงานได้อย่างมากทีเดียวครับ
Thankyou for reference photo from http://www.railpictures.net/viewphoto.php?id=307685&nseq=454 _________________ ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ก่อนที่ท่านจะลงจากขบวนรถ โปรดตรวจสอบสัมภาระของท่านที่นำติดตัวมา นำลงให้ถูกต้องครบถ้วนด้วยครับ....
|
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 17/08/2011 12:51 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณ คุณ pasakorn มากครับ ที่นำภาพมาลงให้ชม สนับสนุนแนวคิดนี้ ครับ
การรถไฟน่าจะนำมาเป็นจุดขาย นะครับ ให้บริการช่วงเทศกาล ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงาน
เมื่อไปถึงปลายทางก็มีรถใช้ คิดว่าประหยัดค่าใช้จ่าย ด้านพลังงานได้มากกว่าขับรถไปเอง
ไม่มีปัญหารถติดในช่วงเทสกาลด้วย _________________
|
|
Back to top |
|
|
suphisan
3rd Class Pass
Joined: 02/08/2006 Posts: 50
Location: กทม.
|
Posted: 17/08/2011 2:31 pm Post subject: |
|
|
ถ้ายังมีความจำเป็นต้องขนส่งมิร่าคันนี้มากรุงเทพ
ผมขอแนะนำว่าเป็นรถสไลด์ออน(รถบรรทุกรถยนต์) ที่สามารถดึงรถยนต์ขึ้นมาบนตัวรถบรรทุกได้เลยครับ น่าจะทำเวลาได้ดีพอสมควร อย่างมากก็แค่ 1 คืน(เชียงใหม่-กรุงเทพ)
ดีไม่ดี เค้าอาจจะไปส่งยังจุดหมายปลายทางที่คุณต้องการเลยก็ได้ครับ
เบอร์ติดต่อน่าจะหาไม่ยากครับ เซิร์ทหาก็น่าจะเจอ
รับรองว่ามิร่าไม่ช้ำแน่นอนครับ
ส่วนค่าใช้จ่ายไม่ทราบเรทราคาจริงๆ ครับผม
ขอบคุณครับผม
เดฟ |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 17/08/2011 3:57 pm Post subject: |
|
|
ก็นั่นละครับ กระผมสนับสนุนให้ขับรถยนต์ลงมาเองนะครับ ซึ่งหากมาถามเหตุผลว่าทำไมในตอนนั้นที่บ้านผมเขาจึงต้องใช้วิธีการขนส่งรถยนต์กันทางรถไฟไปอำเภอหาดใหญ่ด้วย
ทั้งๆที่ก็สามารถขับรถยนต์จากกรุงเทพไปเองได้ ที่ตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะ
1.สภาพของรถยนต์ที่จะนำมาให้กระผมได้ใช้ที่อำเภอหาดใหญ่นั้น สภาพก็เก่ามาก อายุการใช้งานก็ร่วม 25 ปี (ที่บ้านของผมได้รถคันนี้มาก็ราวปี 2511) แล้วนะครับ ซึ่งแน่นอนเครื่องยนต์ก็คงเก่าไปด้วย โดยขืนเอามาวิ่งระหว่าง กรุงเทพถึงหาดใหญ่ก็คงไม่ไหวเป็นแน่
2.การส่งรถยนต์ในครั้งนั้น ก็ส่งให้กระผมนำไปใช้งานกันที่อำเภอหาดใหญ่นะครับ ซึ่งในตอนนั้นกระผมก็ยังเพิ่งได้ใบขับขี่มาใหม่ๆ ซึ่งๆซะด้วยนะครับ
3.หากขับรถคันนี้ไปเองคงจะต้องมีการซ่อมรถยนต์คันนี้เป็นแน่ในระหว่างทางนะครับ เพราะรถยนต์มันเก่ามากๆ
ซึ่งได้พิจารณาแล้ว จึงได้ตัดสินใจ ขนส่งโดยทางรถไฟ ซะเลยนะครับ
ส่วนรูปของตู้รถไฟที่ใช้บรรทุกรถยนต์ที่คุณภาสกรนำมาแสดงนั้น คำตอบก็คือ การรถไฟบ้านเราไม่มีตู้รถไฟดังกล่าวใช้งานอยู่นะครับ จะมีก็แต่เพียงรถ ขต. บขต. หรือ บขน. ในการใช้งานเท่านั้นนะครับ
ซึ่งครั้งหนึ่งในราวปี 2540 ที่ตอนนั้น เขามีการรณรงค์กันในเรื่องของการห้ามบรรทุกเกินน้ำหนักในรถบรรทุกทั่วประเทศ เนื่องจากกำลังเป็นข่าวในเรื่องของส่วยทางหลวงทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งอยู่นั้น เขาก็ได้มีการจุดเอาประเด็นของทางออกที่ว่า หากไม่ต้องการให้ถนนหลวงนั้นต้องมีการซ่อมกันอยู่เรื่อย ก็ให้หันเอารถบรรทุกเหล่านี้มาขนส่งกันทั้งคันไปบนรถไฟเลยสิครับ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองนะครับเนื่องจากเวลาที่ใช้ในการขนส่งกันทางรถไฟนั้นจะใช้เวลาที่นานพอสมควร (ซึ่งกรณีของกระผมนั้นก็ใช้เวลาร่วม 4 วันเต็มๆ กว่าจะเสร็จสิ้นการขนส่ง โดยนับตั้งแต่เอารถยนต์ถอยขึ้นรถไฟที่ย่านพหลฯ จนเอารถยนต์ถอยลงจากรถไฟกันที่สถานี 2 หาดใหญ่นะครับ)
โดยหากเอารถยนต์บรรทุกมาถอยขึ้นถอยลงรถไฟเช่นนี้ โดยแลกกับการเสียเวลาร่วม 4 วันในการขนส่งนั้น ก็คงไม่มีใครต้องมาทำเช่นนี้กันแน่นะครับ หรือการที่จะต้องมาใช้วิธีการโดยที่ให้มีการนำเอาสินค้าเพียงอย่างเดียวมาบรรทุกไปบนรถไฟ แล้วค่อยนำสินค้านั้นไปถ่ายออกกันที่สถานีปลายทางเหมือนในอดีตนั้น ก็คงจะไม่เหมาะสมแล้วในปัจจุบันนี้นะครับ ซึ่งนั่นก็ทำให้การขนส่งรถบรรทุกทั้งคันโดยทางรถไฟนั้น ไม่ได้รับการตอบสนองกันแต่อย่างใดนะครับ
ซึ่งนั่นก็เป็นคำตอบที่ว่าทำไมการขนส่งส่งสินค้ากันทางรถไฟในปริมาณมากเป็นคันรถบรรทุกเช่นนี้จึงไม่ได้รับความนิยมกันในบ้านเรานะครับ ซึ่งลองคิดดูสิว่าหากเราต้องการขนส่งเฟอร์นิเจอร์จำพวกโต๊ะเตียงซัก 5 ชุดโดยขนส่งจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ซึ่งหากขนส่งกันทางรถไฟก็จะพอดีกับรถ ตญ. 1 ตู้ และสามารถขนส่งไปได้อย่างสบายๆ แต่เนื่องจากกระบวนการนับตั้งแต่นำเอาสินค้าไปที่สถานี จนถึงการนำเอาสินค้าลงที่สถานีปลายทางนั้น ต้องใช้เวลาที่นานนะครับ(ร่วม 4 วันเป็นอย่างน้อย) เพียงเท่านี้หากผมต้องการขนส่งสินค้ากันอย่างนี้ ก็คงไม่เลือกขนส่งกันทางรถไฟกันอย่างแน่นอนนะครับ
แต่ในทางตรงกันข้ามหากผมมีความต้องการขนส่งสินค้าที่ว่านี้กันเป็นประจำเช่นทุกสัปดาห์โดยขนส่งกันเป็นจำนวนมากเช่นราว 5 ตู้ ตญ. ขึ้นไปเช่นนี้แล้ว ก็คงจะตัดสินใจขนส่งกันทางรถไฟแล้วนะครับ โดยคงจะจัดส่งให้เหมือนกับในอดีตไปเลย กล่าวคือจะต้องมีการก่อสร้างโกดังกันที่สถานีปลายทางเพื่อรอรับสินค้าที่ขนส่งมาโดยทางรถไฟนะครับ เนื่องจากการขนส่งสินค้ากันทางรถไฟนั้นจะเป็นการประหยัดกว่ามากนั่นเองนะครับ
ซึ่งนั่นละครับที่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมรถ ตญ. หรือ บตญ. บ้านเราจึงไม่ถูกนำมาใช้งานกันอย่างเต็มที่ แต่จะเห็นว่ามีการจอดทิ้งกันตามที่ต่างๆกันเป็นจำนวนมาก หรือรถสินค้าชนิดอื่น(เช่นรถ รส. ถค.) ก็คงถูกเลิกใช้งานกันไปในที่สุดนะครับ |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
|
Back to top |
|
|
voravut
3rd Class Pass
Joined: 02/09/2009 Posts: 93
|
Posted: 17/08/2011 8:09 pm Post subject: |
|
|
ผมต้องขอบพระคุณอย่างสูง ทุกข้อความที่เสนอแนะเข้ามาทุกท่านเลยนะครับ ขอบคุณครับ |
|
Back to top |
|
|
wiriya_aek
2nd Class Pass
Joined: 02/11/2009 Posts: 527
Location: สายสงขลา
|
Posted: 18/08/2011 12:50 am Post subject: |
|
|
alderwood wrote: | kikoo wrote: | ใช้ บรล. น่าจะใช้ได้นะครับ(แต่ไม่รู้ว่ายังมีให้ใช้อีกหรือเปล่า?) |
บรล. ใช้ในการขนส่งพัสดุของฝ่ายการช่างกลฯครับ เช่น ล้อ, TM เป็นต้นครับ |
มีใช้อยู่ครับ บรล.1 วันนี้เจอที่สถานีชุมทางหาดใหญ่
_________________ :: ร่วมปลุกเส้นทางสายสงขลาให้กลับมามีชีวิตชีวา ในโอกาสที่จะใกล้ครบ 100 ปี หลังจากหลับใหลไปในความทรงจำกว่า30 ปี :: http://www.facebook.com/songkhlastation |
|
Back to top |
|
|
|