View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42777
Location: NECTEC
|
Posted: 19/08/2011 8:46 am Post subject: |
|
|
^^^
จอมพลถนอมมาก่อน เมื่อต้นปี 2501 พอจอมพลสฤษดิ์ได้รับการพักฟื้นการผ่าตัด ที่วอเตอร์รีด จนพอรับงานได้ก็มาเชิญให้จอมพลถนอมลงจากตำแหน่ง แล้วแต่งตั้งให้เป็นรองนายกฯ แทน เมื่อปลายปี 2501 เพราะเวลานั้นสภาปั่นป่วนมาก กว่าจอมพลถนอมจะได้กลับมาเป็นนายก ก็ต้องรอจอมพลสฤษฏ์ถึงแก่กรรม ปลายปี 2506
//--------------------------------------------------------
รถไฟเล็กหัวหวาย - ท่าตะโก ตอนแรกรับแค่ฟืน แต่ต่อมาปี 2476 ขนทั้งข้าวและหมูไปส่งที่หัวหวายและรับผู้โดยสารด้วย ต่อมาปี 2482 มติ ครม.ทำให้มีการขยายรางเป็นราง 1 เมตร ซึ่งในการขยายรางนั้นดูท่าทีแล้วมีการแปลงโค้งให้กว้างขึ้น ทำให้รับพิกัดความเร็วได้ดีกว่าเดิม แต่ทำได้ไม่เท่าไหร่ก็เลิก คงเพราะรางขาดมือ กระมัง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/08/2011 9:08 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับพี่ตึ๋งและคุณวิศรุต ที่ช่วยสอบทานและให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ปริศนาที่ต้องไขก็คือ
1. การแก้รางจาก 60 cm เป็น 1 เมตรนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่
- ถ้าจริง แก้ในสมัยใด เพราะจากการที่พี่เบียร์สอบถามคนรุ่นเก่า ทำให้ทราบว่ามีเส้นทางรถไฟขนฟืนที่กลายเป็นถนนไปในปัจจุบันอยู่หน้าสถานีหัวหวายพอดี โดยแยกออกจากรางที่สาม ด้านใต้ของสถานีหัวหวาย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แสดงว่าเคยมีราง 1 เมตรสำหรับขนฟืน สร้างทับราง 60 cm ในอดีตด้วย
- ถ้าไม่จริง ก็คงเป็นการสร้างทางรถไฟขนาด 1 เมตร ในแนวใหม่ ส่วนแนว 60 cm เก่าก็รื้อรางออก ใช้เป็นถนนแทน
2. เส้นทางรถไฟขนาด 1 เมตร สายหัวหวาย-ท่าตะโก ที่แยกออกจากย่านสถานีหัวหวายทางด้านเหนือ แล้วโค้งออก ความยาว 19 กม. และ ครม.มีมติให้ยกเลิกในปี 2512 นั้น สร้างขึ้นเพื่ออะไร เกี่ยวข้องอย่างใดกับทางรถไฟเล็ก 60 cm สำหรับขนฟืน
3. สายหัวหวาย-ท่าตะโก (ที่สร้างได้แค่ 19 กม.) กับ เส้นทางรถไฟเล็ก 28 กม. ใช้คันทางร่วมกัน (บางส่วนหรือทั้งหมด) จริงหรือ
4. เหตุใดต้องเวนคืนที่เพื่อสร้างเส้นทางสายหัวหวาย-ท่าตะโกอีก ทั้ง ๆ ที่มีเส้นทางรถไฟเล็กเดิมอยู่แล้ว เกี่ยวข้องกับปัญหาการบุกรุกป่าหรือไม่
ฯลฯ
คำถามเหล่านี้ ผมจะพยายามไขปริศนาโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศปี 2496-2498 ครับ
เส้นทางรถไฟที่วาดโดยพี่เบียร์ ที่เป็นจุดกำเนิดในการไขปริศนาครั้งนี้ครับ
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 19/08/2011 9:25 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณเฮียวิศครับ ที่ช่วยเพิ่มเติมข้อมูลให้
ตามความเข้าใจของผม คล้ายกับเฮียวิศตรงที่เส้นทางสายนี้ ในช่วงแรกสร้างเพื่อขนฟืนโดยเป็นเส้นทางขนาด .60 เมตร แต่มีชาวบ้านแถว อ.ท่าตะโก ซึ่งอยู่ห่างเส้นทางรถไฟขออาศัยมาด้วย จึงได้ขยายเส้นทางเป็นขนาด 1.000 เมตร และสร้างต่อไปอีกเพื่อให้ถึง อ.ท่าตะโก
อาจเป็นว่า ขาดแคลนวัสดุก่อสร้างและรางเหล็กในช่วงนั้น หรือจำนวนผู้โดยสารอาจมีน้อยเกินกว่าที่คาดก็ได้ โครงการก่อสร้างเลยร้างไปจนกระทั่งรัฐบาลได้มีมติยกเลิกเส้นทางสายนี้ครับ
ถ้าหากมีผู้โดยสารเพียงพอแล้ว เราน่าจะได้เห็นเส้นทางรถไฟสายท่าตะโกยังคงอยู่พร้อมๆ กับยังคงเห็นชุมทางหัวหวายก็ได้ (คิดกันเล่นๆ นะครับ) |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/08/2011 2:27 pm Post subject: |
|
|
มาติดตามแนวเส้นทางในอดีตกันต่อครับ แล้วค่อยหาข้อสรุปกันว่าตกลงแล้วความเป็นมาของทางรถไฟสายนี้เป็นอย่างที่เราคิดกันหรือเปล่านะครับ
มาถึง กม. 20 แล้วครับ
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/08/2011 5:00 pm Post subject: |
|
|
เส้นทางมุ่งขึ้นไปทางทิศเหนือเรื่อย ๆ ครับ มาถึง กม.22 แล้ว
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/08/2011 5:39 pm Post subject: |
|
|
ที่ กม.21 นี้ มองข้ามไปไม่ได้เลยครับ เพราะมีหลายอย่างน่าสนใจมาก มาดูกัน
<21 ที่ กม.21 เป็นจุดที่ทางรถไฟเล็ก 60 cm ตัดกับแนวคันทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก (เป็นคันทางเปล่า ยังไม่ได้วางรางครับ)
A B C D คือ แนวคันทางสายหัวหวายท่าตะโก (คันทางเปล่า ไม่เคยมีราง)
C คือ บริเวณที่คันทางสูญหายไป น่าจะเกิดจากน้ำหลาก อุทกภัย หรือเจตนาขุดออกเพื่อระบายน้ำ
ตอนแรกที่เห็นในภาพถ่ายดาวเทียม นึกว่าชาวไร่อ้อยเอารถแทรกเตอร์ไถคันทางออก
ที่ไหนได้ พอดูในภาพถ่ายปี 2498 ถึงรู้่ว่า คันทางพังไปก่อนหน้านั้นแล้วครับ
ที่ กม. 21+300 มีทางแยกไปด้านทิศตะวันออกครับ
โปรดสังเกตว่าทางแยกเป็นแบบเข้าได้ทั้งด้านเหนือและด้านใต้ ลักษณะเดียวกับสามเหลี่ยมจิตรลดาครับ
ปัจจุบันคันทางรถไฟเล็ก 60 cm บริเวณนี้ ด้านใต้กลายเป็นคลองส่งน้ำ ด้านเหนือกลายเป็นทางหลวง 3329 ไปเรียบร้อยครับ
http://map.longdo.com/?gmap=1&hybrid=1&gmap=1&lat=15.485052281278147&long=100.4357242444421&res=65536&map=epsg3857&locale=th |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44733
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/08/2011 11:12 pm Post subject: |
|
|
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงปลายราง สุดทางรถไฟเล็กขนฟืนตำบลหัวหวายครับ
ปลายรางอยู่ห่างจาก กม.ที่ 27 ประมาณ 300-400 เมตร
http://map.longdo.com/?gmap=1&hybrid=1&gmap=1&lat=15.526436677835823&long=100.47108648808944&res=65536&map=epsg3857&locale=th
สุดปลายรางที่บ้านปลายราง ต.อุดมธัญญา อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์
เขตติดต่อกับบ้านหนองหลวง ต.หนองหลวง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์
ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเกี่ยวกับบ้านปลายรางครับ
ที่มา : ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านปลายราง
Quote: | บ้านปลายราง แต่ก่อนขึ้นอยู่กับ ตำบลหัวหวาย อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ แต่เดิมบ้านปลายรางเป็นพื้นที่ที่มีป่าไม้หนาแน่น ไม่มีบ้านคนอาศัยอยู่ จนมีชาวจีนอพยพเข้ามาอาศัยเป็นบางส่วน ชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ มีอาชีพเผาถ่านขาย ซึ่งตัดไม้ในพื้นที่ นำไปขายตามบ้านและในตัวอำเภอ การคมนาคมในสมัยนั้น ในพื้นที่บ้านปลายรางจะมีรางรถไฟ ซึ่งเป็นรางรถไฟที่มาจากตาคลี แล้วสิ้นสุดที่บ้านปลายราง ต่อมาทางรถไฟสายนี้ก็เลิกใช้ โดยไปใช้สาย ตาคลี หนองปลิงแทน ทำให้ทางรถไฟที่เข้ามาในหมู่บ้านว่างจากการใช้งานชาวจีนที่เผาถ่านขายจึงใช้ทางรถไฟในการขายถ่าน โดยการนำถ่านที่เผาเสร็จแล้วขึ้นบนรถรางแล้วโยกรถรางนำถ่านไปขาย
ที่มาของบ้านปลายราง คือ เป็นหมู่บ้านที่เป็นจุดสิ้นสุดของรางรถไฟ ที่วิ่งมาจากตาคลี ต่อมา บ้านปลายรางได้ขึ้นกับ ตำบลอุดมธัญญา อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ และได้มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก ชื่อนายเป่ง ก้อนทอง เป็นบ้านเลขที่ 1
เมื่อได้เสียชีวิต จึงมีการเลือกผู้ใหญ่บ้านมาเรื่อย ๆ ผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน คือ นางสาวลำพึง โตส้ม
นับได้เป็นเวลานานกว่า 100 ปีมาแล้ว ในอดีตได้มีโรงเรียนหนึ่งอาคารเรียน มีนักเรียนเรียนอยู่จำนวนมาก แต่หลังจากที่จำนวนนักเรียนลดน้อยลง จึงได้ยุบโรงเรียนลง เด็กในชุมชนจึงไปเรียนที่โรงเรียนบ้านหนองหลวง อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียงกัน |
ระยะทางที่วัดได้จากภาพถ่ายทางอากาศ ประมาณ 27.300 กม.
ใกล้เคียงกับที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไหมครับ
ประกาศพระบรมราชโองการ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ใช้รถไฟหลวงขนาดย่อมที่ตำบลหัวหวาย เพื่อรับส่งสินค้า ประกาศ ณ วันที่ 26 ม.ค. 2467
----------------------------
จบไปแล้วสำหรับทางรถไฟเล็กขนฟืนตำบลหัวหวาย
ยังเหลืออีก 2 เส้นทางคือ
1. ทางแยกที่ กม.21 ของทางรถไฟเล็กขนฟืนตำบลหัวหวาย
2. ทางรถไฟขนาดราง 1 เมตร สายหัวหวาย-ท่าตะโก
ไว้พรุ่งนี้ มาสำรวจกันต่อครับ |
|
Back to top |
|
|
|