View previous topic :: View next topic
Author
Message
umic2000
2nd Class Pass Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
Posted: 30/11/2011 1:01 am Post subject:
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์เอก
บริเวณหมู่อาคารหลังคาสีแดงในภาพนั้นคือ "วัดท่าตะโก" และ "โรงเรียนวัดท่าตะโก" ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 30/11/2011 8:53 am Post subject:
อย่างนี้นี่เอง
ขอบคุณมาก ๆ ครับคุณเอก umic2000
ก่อนหน้านี้น้ำคงท่วมร่องรอยคันทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโกทั้งหมดเลยนะครับ
Back to top
umic2000
2nd Class Pass Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
Posted: 30/11/2011 1:36 pm Post subject:
ปีนี้คันทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโกไม่มีน้ำท่วมสักจุดเลยครับอาจารย์
ส่วนใหญ่ปีนี้แถว อ.ท่าตะโกที่ถูกท่วมคือตำบลที่อยู่รอบๆบึงบอระเพ็ำด แถว ต.พนมเศษและ ต.วังมหากรครับ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 30/11/2011 2:33 pm Post subject:
นึกว่าจะโดนน้ำท่วมหนักเสียอีก เพราะได้ยินจากข่าวว่าท่าตะโกน้ำท่วม
เลยเข้าใจผิดว่าท่วมทั้งอำเภอครับ
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/05/2020 6:30 pm Post subject:
ทางแยกหัวหวาย - ท่าตะโก
ในอดีต สถานีรถไฟหัวหวายเคยเป็นต้นทางของทางรถไฟขนฟืน สายหัวหวาย-ท่าตะโก ที่เปิดใช้งานเมื่อปี พ.ศ. 2450 โดยเมื่อแรกเริ่มใช้ทางกว้างขนาด 0.60 เมตร ปลายทางอยู่ที่ บ้านปลายราง ตำบลอุดมธัญญา อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ระยะทางประมาณ 21 กม.โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดป่าเข้าไปตัดฟืนและลำเลียงไปใช้ยังสถานีต่างๆในทางสายเหนือ ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นเส้นทางขนส่งคนและสินค้าจากพื้นที่ อำเภอท่าตะโก และอำเภอใกล้เคียงในขณะนั้นด้วย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2483 จึงได้ปรับปรุงเป็นทางกว้างขนาด 1.00 เมตรและเปลี่ยนแนวและปลายทางเดิมจาก บ้านปลายราง ไปเป็นตัวตลาดท่าตะโก ใน อำเภอท่าตะโก โดยได้มีการถมคันทางจนแล้วเสร็จถึงบริเวณวัดท่าตะโก บ้านท่าตะโก ตำบลท่าตะโก อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ และได้ดำเนินการวางรางจนถึงบริเวณ บ้านหลักสิบเก้า ตำบลอุดมธัญญา อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องงบประมาณเรื่อยมา จนในปี พ.ศ. 2507 ก็ได้มีการประกาศยกเลิกการเดินรถและมีการส่งมอบพื้นที่ให้แก่หน่วยราชการอื่นต่อไป
ปัจจุบันแนวคันทางรถไฟสายนี้ได้กลายเป็นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3329 และบางส่วนของถนนสาย บ้านทำนบ - บ้านท่าตะโก โดยยังมีซากคันทางให้เห็นบริเวณประแจด้านเหนือของสถานีหัวหวาย และบริเวณสามแยกวัดทำนบ ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงชื่อหมู่บ้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทางรถไฟสายนี้ เช่น บ้านหัวประแจ บ้านหลักสิบเก้า และ บ้านปลายราง
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/4271208579559841
https://www.youtube.com/watch?v=Dd3YuK2ECC8
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/05/2020 6:34 pm Post subject:
เปรียบเทียบภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2498 กับปัจจุบันครับ
แนวคันทางรถไฟเล็ก ปัจจุบันเป็นทางดินลูกรังผ่านไร่อ้อย ไม่เหลือสภาพป่าแล้ว
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 01/03/2022 1:57 pm Post subject:
#วันนี้ในอดีต 1 มีนาคม 2467
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้รถไฟสายหัวหวาย - ท่าตะโก เปิดบริการรับ-ส่งสินค้าเพื่อประโยชน์แก่สาธารณะชน
🚂รถจักรไอน้ำของประเทศไทยนั้นใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงหลัก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการลำเลียงไม้ที่ตัดจากป่ามายังสถานีรถไฟ ด้วยเหตุนี้จึงมีการสร้างทางรถไฟเพื่อขนไม้ฟืนจากป่าในบริเวณข้างเคียงมายังสถานีรถไฟที่อยู่บนเส้นทางหลัก สถานีรถไฟหัวหวายก็เป็นหนึ่งในสถานีนั้น ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 41 น่า 305 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2467 ประกาศพระบรมราชโองการ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ใช้รถไฟหลวงทางขนาดย่อมที่ตำบลหัวหวาย อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อรับส่งสินค้า (สมัยรัชกาลที่ 6) ได้ให้รายละเอียดว่าเดิมเป็นทางรถไฟขนาดรางกว้าง 60 เซนติเมตร ระยะทางยาวถึง 28 กิโลเมตร จากเดิมที่ใช้เฉพาะการรถไฟเพื่อบรรทุกไม้ฟืน ก็อนุญาตให้ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าด้วย เส้นทางนี้ในหนังสือของ B.R. Whyte ระบุว่าสร้างและเปิดใช้ในปี ค.ศ.1907 (พ.ศ.2450 หรือปลายรัชกาลที่ 5)
ทางสายนี้ได้ก่อสร้างโดยการเริ่มจากได้แก้ไขปรับปรุงเส้นทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก ซึ่งเดิมเป็นทางเล็กใช้ลำเลียงฟืนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450 เป็นขนาดทาง 1.00 เมตร เมื่อปี พ.ศ. 2483 โดยรัฐบาลได้ประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินบริเวณที่จะเวนคืน เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2484 แต่ยังไม่ได้ออกพระราชบัญญัติเวนคืนเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียก่อน
หลังสิ้นสุดสงครามโลก ครั้งที่ 2 รัฐบาลได้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2489 จวบจนปี พ.ศ. 2490 กรมรถไฟจึงได้เริ่มสร้างทางรถไฟขึ้นใหม่ในสายนี้แยกจากสถานีหัวหวาย ที่ กม.204/320 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร และรัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติเวนคืนเพิ่มเติมภายหลังเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2496 การเวนคืนได้กระทำแล้วเสร็จตลอดแนวเมื่อ 9 กันยายน 2497
สำหรับการก่อสร้างกระทำได้ถึงบริเวณ "บ้านปลายราง" (กม. 223/700) ระยะทาง 19.380 กม.เท่านั้น เนื่องจากงบประมาณน้อย ทางช่วงต่อจากนั้นได้ถมดินคันทางไว้ถึงอำเภอท่าตะโก เป็นระยะทาง 35.464 กม. รวมระยะทางตลอดเส้นทาง 54.844 กม.
ต่อมาการรถไฟฯได้ยกเลิกกิจการรถไฟสายนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 และมอบที่ดินให้กระทรวงการคลัง เมื่อ 21 เมษายน 2513 ที่จังหวัดนครสวรรค์
ปัจจุบันแนวคันทางรถไฟสายนี้ได้กลายเป็นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3329 และบางส่วนของถนนสาย บ้านทำนบ - บ้านท่าตะโก โดยยังมีซากคันทางให้เห็นบริเวณประแจด้านเหนือของสถานีหัวหวาย และบริเวณสามแยกวัดทำนบ ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงชื่อหมู่บ้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทางรถไฟสายนี้ เช่น บ้านหัวประแจ บ้านหลักสิบเก้า และ บ้านปลายราง
https://www.facebook.com/pichet.chamneam/posts/5651107324903286
Back to top