View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 27/05/2014 2:45 am Post subject: |
|
|
รฟม.ปรับทีโออาร์หมอชิต-คูคต กลางปี59 เปิดให้บริการสายสีม่วง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
26 พฤษภาคม 2557 เวลา 10:55:07 น.
น.ส.รัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร มูลค่า 5.8 หมื่นล้านบาท ที่ประชุมบอร์ด รฟท.ล่าสุด มีมติเห็นชอบให้มีการปรับแก้รายละเอียดร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติและการให้คะแนน เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้ง 4 สัญญา และเป็นการเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ตามที่คณะกรรมการประกวดราคาโครงการฯเสนอ
น.ส.รัชนีกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการประกวดราคาฯจะมีการพิจารณาปรับแก้ไขรายละเอียดทีโออาร์ประมาณ 15 วัน จากนั้นจะประกาศขายเอกสารประกวดราคารอบ 2 อีก 90 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อเอกสารในรอบแรกสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาข้อเสนอ และประกาศผู้ได้รับคัดเลือก ประมาณปลายปี 2557 ซึ่งจะทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไปอย่างน้อย 3 เดือน โดยการดำเนินงานทั้งหมดเพื่อความรอบคอบและเป็นธรรม ไม่ปิดกั้นเอกชนรายใดรายหนึ่ง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2558 และเปิดให้บริการปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562
"แนวสายทางจะต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีหมอชิต วิ่งไปตามเกาะกลางของถนนพหลโยธิน ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ผ่านแยกรัชโยธิน แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปจนถึงพหลโยธินซอย 66 แนวเส้นทางจะเบี่ยงออกไปด้านซ้าย ไปจนถึงอนุสาวรีย์หลักสี่ แล้ววกกลับมาอยู่บนเกาะกลางถนนพหลโยธิน ตรงไปจนสิ้นสุดเขตกองทัพอากาศ แล้วเลี้ยวขวาตัดเข้าถนนลำลูกกา จนสิ้นสุดปลายทางที่คูคต บริเวณลำลูกกาคลอง 2 " น.ส.รัชนีกล่าว
น.ส.รัชนีกล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากบริษัทผู้จัดทำระบบรถไฟฟ้า ว่าจะสามารถส่งมอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ให้ รฟม.ได้ก่อนกำหนดเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือไม่เกินเดือนธันวาคม 2558 ซึ่ง รฟม.จะใช้เวลาทดสอบ 6 เดือน ก่อนเปิดให้บริการประมาณกลางปี 2559 ได้แน่นอน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 09/06/2014 10:09 am Post subject: |
|
|
กทม.เล็งขอ คสช.ทำรถไฟฟ้าไปสะพานใหม่แทน รฟม
ข่าวกทม. เดลินิวส์
วันอาทิตย์ 8 มิถุนายน 2557 เวลา 18:00 น.
กทม.เล็งขอ คสช.ทำรถสายไฟฟ้าสีเขียว ต่อจากบีทีเอสหมอชิตไปสะพานใหม่ โว3ปีเสร็จทำได้เร็วกว่ารฟม.
นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม. ไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต -สะพานใหม่ ระยะทาง 8 กิโลเมตรเพื่อเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอนุมัติให้กทม.กลับมาเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการดังกล่าว ซึ่งเดิมเมื่อปี 44คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยอนุมัติให้ กทม. ดำเนินการก่อสร้าง และบริหารจัดการ แต่ต่อมาเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลโครงการถูกโอนไปให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ดำเนินการก่อสร้าง มาถึงสมัยรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ได้อนุมัติให้กทม.เป็นผู้บริหารจัดการ สุดท้ายเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลอีกครั้งครม.ก็ได้อนุมัติให้ รฟม.เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ทั้งการก่อสร้างและบริหารจัดการโดยขยายเส้นทางไปจนถึงอ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แต่จนถึงขณะนี้แนวทางการก่อสร้างก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเชื่อมสถานีจากสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ(บีทีเอส) หรือจะเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้ามหานคร (ใต้ดิน) ที่สถานีพหลโยธิน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทม.ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว และเสร็จตามเวลาที่กำหนดทั้งในส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า กทม.จึงต้องการให้คสช.พิจารณาอีกครั้ง หาก คสช.อนุมัติให้กทม. ดำเนินการคาดว่าจะสามารถก่อสร้างให้เสร็จได้ภายใน 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมากทม.เคยศึกษาแนวทางในการก่อสร้างไว้แล้ว แต่ถ้ากทม.ได้กลับมาดำเนินโครงการนี้ก็ยินดีที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่ รฟม.ได้ลงทุนไปแล้วและพร้อมที่จะนำแนวทางที่ รฟม.ได้วางไว้มาใช้ด้วย นอกจากนี้หากประชาชนและ คสช.ยังต้องการให้ขยายเส้นทางไปจนถึงอ.ลำลูกกากทม.ก็พร้อมพิจารณา ซึ่งคาดว่าน่าจะก่อสร้างได้จนถึงอนุสรณ์สถานแห่งชาติสำหรับงบประมาณในการดำเนินการทั้งหมดประมาณ 8,000 ล้านบาทแบ่งเป็นค่าก่อสร้างประมาณ 7,000ล้านบาท และค่ารื้อย้ายสาธารณูปโภคประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในการก่อสร้างนั้นไม่จำเป็นต้องสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอีกเนื่องจากมีอยู่แล้วที่หมอชิต สำหรับโครงการขนมวลชนขนาดเบา(โมโนเรล )ดินแดง - ซอยโยธี ที่ กทม.เคยขออนุมัติเส้นทางจากรัฐบาลชุดเก่าไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จึงอาจจะต้องขออนุมัติไปอีกครั้งเนื่องจากเป็นโครงการที่จำเป็นในการรองรับการย้ายศาลาว่าการกทม. ไปที่ดินแดงเพื่อการแก้ไขปัญหาการจราจรในบริเวณดังกล่าว
//----------------------
กทม.เตรียมชง คสช.ทำรถไฟฟ้าไปสะพานใหม่แทน รฟม.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2557 19:00 น.
นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักการจราจร และขนส่ง (สจส.) กทม. ไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต -สะพานใหม่ ระยะทาง 8 กิโลเมตร เพื่อเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอนุมัติให้กทม.กลับมาเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง และบริหารจัดการโครงการดังกล่าว ซึ่งเดิมเมื่อปี 2544 คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยอนุมัติให้ กทม. ดำเนินการก่อสร้าง และบริหารจัดการ แต่ต่อมาเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลโครงการถูกโอนไปให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการก่อสร้าง มาถึงสมัยรัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้อนุมัติให้ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการ สุดท้ายเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลอีกครั้ง ครม.ได้อนุมัติให้ รฟม.เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ทั้งการก่อสร้างและบริหารจัดการโดยขยายเส้นทางไปจนถึง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แต่จนถึงขณะนี้แนวทางการก่อสร้างยังไม่มีความชัดเจนว่า จะเชื่อมสถานีจากสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ(บีทีเอส) หรือจะเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้ามหานคร (ใต้ดิน) ที่สถานีพหลโยธิน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทม.ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว และเสร็จตามเวลาที่กำหนดทั้งในส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง และสะพานตากสิน-บางหว้า กทม.จึงต้องการให้ คสช.พิจารณาอีกครั้ง หาก คสช.อนุมัติให้ กทม. ดำเนินการคาดว่า จะสามารถก่อสร้างให้เสร็จได้ภายใน 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมา กทม.เคยศึกษาแนวทางในการก่อสร้างไว้แล้ว แต่ถ้ากทม.ได้กลับมาดำเนินโครงการนี้ยินดีที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายที่ รฟม.ได้ลงทุนไปแล้ว และพร้อมที่จะนำแนวทางที่ รฟม.ได้วางไว้มาใช้ด้วย
นอกจากนี้ หากประชาชนและ คสช.ยังต้องการให้ขยายเส้นทางไปจนถึง อ.ลำลูกกา กทม.พร้อมพิจารณา ซึ่งคาดว่าน่าจะก่อสร้างได้จนถึงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ สำหรับงบประมาณในการดำเนินการทั้งหมดประมาณ 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้างประมาณ 7,000 ล้านบาท และค่ารื้อย้ายสาธารณูปโภคประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในการก่อสร้างนั้น ไม่จำเป็นต้องสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอีก เนื่องจากมีอยู่แล้วที่หมอชิตสำหรับโครงการขนมวลชนขนาดเบา(โมโนเรล )ดินแดง - ซอยโยธี ที่ กทม.เคยขออนุมัติเส้นทางจากรัฐบาลชุดเก่าไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จึงอาจจะต้องขออนุมัติไปอีกครั้งเนื่องจากเป็นโครงการที่จำเป็นในการรองรับการย้ายศาลาว่าการ กทม.ไปที่ดินแดง เพื่อการแก้ไขปัญหาการจราจรในบริเวณดังกล่าว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 18/06/2014 10:54 am Post subject: |
|
|
ชงบอร์ดประมูลสีเขียวรอบ 2 รฟม.ขอประกาศขายซอง-เล็งยื่นประกวดราคา 29 ก.ย.นี้
โดย ทีมข่าว กทม.
ไทยรัฐ
18 มิถุนายน 2557 05:01
ยื่นซอง29ก.ย.เริ่มสร้างปีหน้า+รถไฟฟ้าสายสีเขียวไปคูคต
เดลินิวส์
วันพุธ 18 มิถุนายน 2557 เวลา 10:07 น.
รฟม.ชงบอร์ดเห็นชอบขายซองประกวดราคาทำรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รอบ2 กำหนดยื่นซอง29ก.ย. เริ่มสร้างได้ต้นปีหน้า
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ น.ส.รัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานบอร์ด รฟม. ได้กำหนดประชุมบอร์ด รฟม.ประจำเดือน มิ.ย. ซึ่งจะมีการติดตามการดำเนินการประกวดราคาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กม. หลังจากบอร์ด รฟม.มีมติเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้มีการปรับแก้รายละเอียดในทีโออาร์ใหม่ ก่อนเปิดขายเอกสารประกวดราคาอีก 90 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนที่ไม่ได้ซื้อเอกสารประกวดราคารอบแรกมีสิทธิเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่ง รฟม.จะเสนอกรอบขั้นตอนและแผนการประกวดราคางานโยธาให้บอร์ดพิจารณาเห็นชอบใหม่ ดังนี้ ประกาศขายเอกสารประกวดราคารอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 20-30 มิ.ย.2557 โดยให้เวลาเอกชนที่ซื้อเอกสารการประกวดราคาไปจัดทำข้อเสนอการประกวดราคาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-28 ก.ย.2557 กำหนดให้เอกชนยื่นเอกสารประกวดราคาวันที่ 29 ก.ย. คณะกรรมการประกวดราคาพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประกวดราคา (ซองที่ 1) ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-31 ต.ค. คณะกรรมการฯ ประเมินข้อเสนอด้านเทคนิค (ซองที่ 2) ระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย. หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนประเมินผลและเจรจาต่อรองราคา ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.2557-15 ก.พ.2558 จากนั้นรายงานผลการประกวดราคาให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือน มี.ค.2558 จากนั้นจะลงนามสัญญาจ้างกับผู้รับเหมา ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีมูลค่าโครงการ 26,569 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด (Provisional Sum) อีก 2,656 ล้านบาท รวมเป็น 29,225 ล้านบาท แบ่งเป็น 4 สัญญา
สัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ มูลค่างาน 14,021 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 งานโยธา ช่วงสะพานใหม่-คูคต มูลค่างาน 6,126 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 ก่อสร้างงานโยธา ศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาและอาคารจอดรถ มูลค่างาน 3,709 ล้านบาท และ
สัญญาที่ 4 งานออกแบบ จัดหาและติดตั้ง งานระบบรางรถไฟฟ้า มูลค่างาน 2,609 ล้านบาท. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44777
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/06/2014 8:03 pm Post subject: |
|
|
ประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) สะดุด เหตุต้องรอตั้งประธานบอร์ดใหม่ก่อน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มิถุนายน 2557 17:08 น.
ยงสิทธิ์ เผย รฟม.ไร้ประธานบอร์ดประชุมต่อไม่ได้ ทำการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-คูคต มูลคา 2.6 หมื่นล้านบาทต้องล่าช้าไปอีกมากกว่า 3 เดือนแน่นอน เหตุแก้ทีโออาร์ และขายซองประมูลรอบสองสะดุด ต้องรอบอร์ดใหม่มาพิจารณาเห็นชอบ
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงกรณีที่นางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ได้แจ้งต่อที่ประชุมวันนี้ (19 มิ.ย.) เรื่องลาออกจากประธานบอร์ดนั้น ทำให้บอร์ดที่เหลือได้มีการหารือกันว่าจะสามารถเลือกประธานคนใหม่ได้หรือไม่รวมทั้งสามารถประชุมต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งตาม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 2543 ระบุไว้แต่กรณีที่ประธานบอร์ดครบวาระว่าให้ประธานบอร์ดปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการตั้งประธานคนใหม่ เพื่อไม่ให้งานสะดุด แต่ไม่ได้เขียนไว้ในกรณีที่ประธานบอร์ดลาออก จึงเห็นว่าไม่เหมาะสมหากบอร์ดจะประชุมต่อไป ส่วนบอร์ดที่เหลือจะลาออกหรือไม่เป็นสิทธิส่วนตัว โดยส่วนใหญ่เป็นกรรมการจากผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีบอร์ดในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน
ทั้งนี้ การที่ประธานบอร์ด รฟม.ลาออกได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการประกวดราคาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กม. มูลค่าโครงการ 26,569 ล้านบาท ที่จะต้องล่าช้าออกไปอีกจากปัจจุบันที่ล่าช้ากว่าแผนแล้วกว่า 3 เดือน เนื่องจากได้กำหนดว่าจะเสนอขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมบอร์ดในวันที่ 19 มิถุนายน ในการปรับปรุงรายละเอียดเงื่อนไขทีโออาร์ใหม่ แต่เมื่อบอร์ดไม่มีการประชุมเรื่องจึงต้องระงับและต้องรอจนกว่าจะมีการแต่งตั้งประธานบอร์ดคนใหม่
ดังนั้น จึงเท่ากับว่าในขณะนี้ยังไม่มีการรับรองการปรับแก้ทีโออาร์ การประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ตามที่บอร์ด รฟม.มีมติในการประชุมครั้งที่แล้ว และ รฟม.ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีโออาร์ที่ได้ประกาศไว้เดิมแต่อย่างใด รวมถึงกรณีที่จะเปิดขายซองประมูลในรอบสองก็จะยังไม่มีผลเช่นกัน ซึ่งในการกำหนด ทีโออาร์ของ รฟม.ที่ผ่านมา ในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเฉลิมรัชมงคล สายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) สายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) เป็นการประมูลแบบนานาชาติ และยึดตามหลักขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ที่กำหนดมาตรฐานและคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูลค่อนข้างสูงเพื่อวัตถุประสงค์ที่ความสำเร็จของงาน ไม่ให้เกิดการทิ้งงาน ซึ่งจะมีผู้รับเหมาเข้าร่วมประมูลได้น้อย 8-10 ราย ไจก้าจึงปรับลดเกณฑ์ลงบ้างแต่ยังอยู่ในระดับที่เป็นมาตรฐาน โดยหลังเปิดขายซองสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต มีผู้รับเหมาซื้อเอกสารไปมากถึง 31 ราย
นายยงสิทธิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องค้างที่ต้องรอบอร์ดชุดใหม่พิจารณา คือ การประเมินผลการทำงานของผู้ว่าฯ รฟม. และนายธนสาร สุรวุฒิกุล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน (CFO) ในรอบ 6 เดือน (กันยายน 2556-มีนาคม 2557) อีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม บอร์ด รฟม.ได้ประชุมและมีมติให้ รฟม.ไปปรับแก้ทีโออาร์ การประมูลสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต ใหม่ในหลักเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติและการให้คะแนน ในส่วนของข้อกำหนดรายได้เฉลี่ยจากการก่อสร้างของผู้เสนอราคาย้อนหลัง 3 ปี (Tureover) ในอัตรา 2.5% ของมูลค่าแต่ละสัญญาเหมือนกันทุกสัญญา จากเดิมที่ใช้หลักนี้เฉพาะสัญญาที่ 1 และหากคำนวณมูลค่างานย้อนหลังในอัตรา 2.5% แล้วมีเศษ ให้ปัดเศษนั้นขึ้นเป็นจำนวนเต็มหลักร้อยล้านบาทจากเดิมปัดใช้หลักพันล้านบาท เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งการปรับแก้ดังกล่าวเกิดจากมีผู้รับเหมาได้ทำหนังสือร้องเรียนมาที่ รฟม. กรณีกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขทีโออาร์ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกสัญญา และทำให้เอื้อประโยชน์ต่อผู้รับเหมารายใดรายหนึ่ง แต่การปรับทีโออาร์ยังไม่มีผลเนื่องจากบอร์ดไม่มีการประชุม |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44777
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 10/07/2014 12:51 pm Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้าสายสีเขียวคืบหน้า ช.การช่างขยายแนวก่อสร้างจากตลาดสำโรงเชื่อมแบริ่ง
ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวกทม. 10 ก.ค. 2557 05:15
พ.ต.ต.สาธิต สมานภาพ สว.จร.สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ช.การช่าง จำกัด ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ได้ปิดจุดกลับรถบริเวณใต้สะพานข้ามคลองสำโรง ถนนสุขุมวิท โดยให้ไปกลับที่แยกเทพารักษ์แทน เพื่อก่อสร้างเสาตอม่อทางวิ่งรถไฟฟ้าบริเวณร่อง กลางสะพาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2557 นั้น
จากการประเมินผลกระทบด้านการจราจรในช่วง 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา พบว่าการจราจรบริเวณตลาดสำโรง มีปริมาณรถหนาแน่น แต่สามารถเคลื่อนตัวได้ตลอดเวลา โดยมีการปรับลดจังหวะสัญญาณไฟที่แยกเทพารักษ์ เหลือเพียง 2 จังหวะ จากเดิม 3 จังหวะ โดยจังหวะแรกสำหรับให้รถด้านถนนเทพารักษ์ เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าตลาดสำโรง อีก 1 จังหวะสำหรับปล่อยรถทางตรงบนถนนสุขุมวิททั้งสองฝั่ง ส่วนรถฝั่งขาเข้า จะห้ามเลี้ยวขวาเข้าถนนเทพารักษ์ ให้ตรงไปกลับหน้า สภ.สำโรงเหนือ วนกลับมา ในช่วงแรกอาจจะมีปัญหาติดขัดมาก เพราะอยู่ในช่วงระหว่างการปรับตัว ขณะนี้ผู้ใช้รถเริ่มคุ้นเคยเส้นทางแล้วทำให้ปัญหาการจราจรน้อยกว่าประเมินไว้
พ.ต.ต.สาธิตกล่าวว่า สำหรับการก่อสร้างเสาตอม่อบริเวณกลางสะพานข้ามคลองสำโรง จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน จากนั้นผู้รับเหมาจะเริ่มทยอยเข้าพื้นที่ก่อสร้างบริเวณเกาะกลางถนนสุขุมวิท ทางด้านทิศเหนือจนเต็มพื้นที่ต่อจากสะพานข้ามคลองสำโรง เรื่อยมาจนถึงจุดเชื่อมต่อสถานีแบริ่ง อาจจะมีการปรับจุดกลับรถ พร้อมแนะนำเส้นทางลัดเพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงรองรับไว้แล้ว ส่วนการก่อสร้างทางด้านใต้ มุ่งหน้าไปสมุทรปราการ งานโครงสร้างฐานรากและเสาตอม่อคืบหน้าไปมาก บางช่วงอยู่ระหว่างวางคานและขึ้นโครงสร้างตัวสถานีบ้างแล้ว เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าการจราจรถนนสุขุมวิทจะดีขึ้น เพราะส่วนหนึ่งจะหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าแทนรถยนต์ส่วนตัว.
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44777
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/07/2014 1:24 pm Post subject: |
|
|
รฟม.คิดซื้อรถไฟฟ้าและซิกแนลลิ่งเดินรถสายแบริ่ง-สมุทรปราการเอง
22/07/57 ไทยรัฐ (กรอบบ่าย)
สแกนโดยคุณหนุ่มเมืองใต้
----
บีทีเอสจ่อประมูลรถไฟลอยฟ้าที่ปักกิ่ง มั่นใจคว้าส่วนต่อขยายสีเขียว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กรกฎาคม 2557 15:51 น.
บีทีเอสเล็งประมูลโครงการเดินรถไฟฟ้ายกระดับที่ปักกิ่ง แต่ขอพิจารณารายละเอียด หลังพลาดโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินเนื่องจากเสนอราคาสูงกว่าคู่แข่ง ด้านส่วนต่อขยายสายสีเขียว เชื่อ รฟม.คงไม่ทำเอง และบริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะได้ทำโครงการนี้
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)(BTS) เปิดเผยความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลโครงการสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงปักกิ่งว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ร่วมกับ CITIC Construction จัดตั้งกิจการร่วมค้าคอนซอเตียมเพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการเดินรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงปักกิ่งสาย 16 ระยะทาง 50 กิโลเมตรนั้นพบว่า ทางคู่แข่งได้เสนอราคาที่ถูกกว่าบริษัทฯ และได้สิทธิเจรจาต่อรองกันอยู่ หากการเจรจากับผู้เสนอราคาต่ำสุดไม่สำเร็จ ก็จะเจรจากับบริษัทฯ เป็นรายถัดไป
อย่างไรก็ตาม ทางกรุงปักกิ่งยังอยากให้บริษัทฯ เข้ามาดำเนินการเดินรถไฟฟ้าแบบยกระดับลอยฟ้าเหมือนรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเปิดประมูลโครงการดังกล่าวในอนาคตต่อไป ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียที่บริษัทฯ จะออกแบบ รวมทั้งให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงด้วยนั้น ปัจจุบันโครงการดังกล่าวต้องชะลอไป เนื่องจากที่ผ่านมาอยู่ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เชื่อว่าหลังจากได้รัฐบาลใหม่มาแล้วก็คงมีการพิจารณาทบทวนแก้ไขโครงการนี้ใหม่เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากรายละเอียดการสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลเดิมไม่คุ้มการลงทุน
ขณะนี้บีทีเอสให้ความสำคัญการลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด โดยบริษัทฯ มีเงินสดประมาณ 3 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าได้ 3 เส้นทาง โดยบริษัทฯ สนใจที่จะยื่นประมูลโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว สายสีชมพู และสีเทา ซึ่งบริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะชนะประมูล เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมในทุกด้านทั้งการเงิน และประสบการณ์
ส่วนกรณีที่ รฟม.จะลงทุนจัดซื้อระบบและรถไฟฟ้าเองในส่วนต่อขยายสายสีเขียวนั้น เชื่อว่า รฟม.คงไม่ทำเอง แต่ถ้าให้บีทีเอสดำเนินการจะถูกกว่า เพราะไม่ต้องลงทุนทำศูนย์ซ่อมบำรุง และมีรถไฟฟ้าพร้อมวิ่งได้อยู่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะได้ทำโครงการดังกล่าวอย่างแน่นอนหากรัฐคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี) กล่าวว่า ในปี 2557-2558 บริษัทตั้งเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสจะโตขึ้น 5-7% จากปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันปกติ 6.4 แสนคน/วัน และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ 3.8-5 แสนคน และรายได้จะโตในอัตราใกล้เคียงกัน เนื่องจากปีนี้จะไม่มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารหลังจากเพิ่งปรับขึ้นมา
ส่วนการพัฒนาที่ดินบริเวณจัตุจักร และพญาไทของบริษัทฯ ที่มีมูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาทนั้น บริษัทฯ ตัดสินใจแน่นอนว่าจะไม่พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อขาย แต่จะเน้นการลงทุนระยะยาว โดยอาจจะสร้างโรงแรม อาคารสำนักงาน หรือเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44777
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/08/2014 6:56 pm Post subject: |
|
|
รฟม.จ่อประมูลรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม หมอชิต-คูคต คาดสิ้นปีได้ผู้รับเหมา
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 4 ส.ค. 2557 16:02
รฟม.เตรียมออกทีโออาร์ ประมูลรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต คาดสิ้นปีนี้ได้ผู้รับเหมา ขณะที่งานโยธา สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายคืบหน้ากว่า 50% บอร์ดมีมติให้บีเอ็มซีแอลเดินรถ เพื่อประหยัดงบ...
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นายยงสิทธ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า เตรียมออกหนังสือกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) และเปิดรับซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กิโลเมตร จำนวน 4 สัญญา วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท หลังขออนุมัติจากคณะกรรมการ รฟม. ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ จากที่ได้ดำเนินการแก้ไขรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในปลายปีนี้จะได้ผู้รับเหมาโครงการดังกล่าว รวมทั้งน่าจะเซ็นสัญญาในปลายปีนี้ด้วย แต่หากราคาประมูลสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ จะนำเสนอขอวงเงินเพิ่มเติมกับคณะรัฐมนตรี แต่คาดว่าคงไม่ล่าช้าไปมาก
สำหรับสัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ มูลค่างาน 14,021 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งานโยธา ช่วงสะพานใหม่-คูคต มูลค่างาน 6,126 ล้านบาท สัญญาที่ 3 ก่อสร้างงานโยธา ศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาและอาคารจอดรถ มูลค่างาน 3,709 ล้านบาท และสัญญาที่ 4 งานออกแบบ จัดหาและติดตั้ง งานระบบรางรถไฟฟ้า มูลค่างาน 2,609 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีการกำหนดค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด (Provision Sum) อีกราว 2.6 พันล้านบาท
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กิโลเมตรนั้น คณะกรรมการ รฟม.เห็นด้วยกับการศึกษาในปี 53 ที่ว่าควรจะใช้วิธีเจรจาให้ผู้ประกอบการรายเดิมเป็นผู้เดินรถ เพื่อประหยัดงบลงทุน ประหยัดเวลา และเกิดความสะดวกแก่ผู้โดยสาร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการมาตรา 13 ที่จะประชุมหารือกันในสัปดาห์หน้า จากนั้นส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ (สศช.) และกระทรวงการคลังพิจารณา จึงจะเสนอ คสช.อนุมัติ ทั้งนี้ ตามแผนกำหนดเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินปลายปี 60 ซึ่งขณะนี้งานโยธาก้าวหน้าไปกว่า 50% แล้ว
ด้านนายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) กล่าวว่า บริษัทได้แจ้งความจำนงแล้วว่า ต้องการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย เพื่อจะได้ช่วยประหยัดงบลงทุน และลดต้นทุนของโครงการดังกล่าว เนื่องจากไม่ต้องลงทุนศูนย์จอดรถอีก รวมการซ่อมบำรุงก็ลดลง และสามารถให้บริการได้ต่อเนื่องจากเส้นทางปัจจุบันที่ BMCL ให้บริการอยู่แล้วช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ระยะทาง 20 กิโลเมตร ดังนั้น หาก BMCL เป็นผู้เดินรถมั่นใจว่าจะได้ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย จะใช้รถไฟฟ้า 28 ขบวนๆ ละ 3 ตู้ ซึ่ง รฟม.เป็นผู้ลงทุน แต่ให้บริษัทจัดหาให้ก่อน เหมือนการจ้างการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง.
----
เตรียมออกTORรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 4 สิงหาคม 2557 15:08
รฟม.เตรียมออก TOR โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม 4 สัญญา หลังบอร์ดไฟเขียว 19 ส.ค.นี้
นายยงสิทธ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.เตรียมออกหนังสือกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา(TOR) และเปิดรับซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กิโลเมตร จำนวน 4 สัญญา วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท หลังขออนุมัติจากคณะกรรมการ รฟม.ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ จากที่ได้ดำเนินการแก้ไขรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าในปลายปีนี้จะได้ผู้รับเหมาโครงการดังกล่าว รวมทั้งน่าจะเซ็นสัญญาในปลายปีนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากราคาประมูลสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ก็จะนำเสนอขอวงเงินเพิ่มเติมกับคณะรัฐมนตรี(ครม.)แต่คาดว่าคงไม่ล่าช้าไปมาก
สัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ มูลค่างาน 14,021 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งานโยธา ช่วงสะพานใหม่-คูคต มูลค่างาน 6,126 ล้านบาท สัญญาที่ 3 ก่อสร้างงานโยธา ศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาและอาคารจอดรถ มูลค่างาน 3,709 ล้านบาท และสัญญาที่ 4 งานออกแบบ จัดหาและติดตั้ง งานระบบรางรถไฟฟ้า มูลค่างาน 2,609 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีการกำหนดค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด(Provision Sum) อีกราว 2.6 พันล้านบาท
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กิโลเมตร นั้นคณะกรรมการ รฟม.เห็นด้วยกับการศึกษาในปี 53 ที่ว่าควรจะใช้วิธีเจรจาให้ผู้ประกอบการรายเดิมเป็นผู้เดินรถ เพื่อประหยัดงบลงทุน ประหยัดเวลา และเกิดความสะดวกแก่ผู้โดยสาร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการมาตรา 13 ที่จะประชุมหารือกันในสัปดาห์หน้า จากนั้นส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ(สศช.) และกระทรวงการคลังพิจารณา จึงจะเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(ศสช.)อนุมัติ
ทั้งนี้ ตามแผนกำหนดเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินปลายปี 60 ซึ่งขณะนี้งานโยธาก้าวหน้าไปกว่า 50% แล้ว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 12/08/2014 7:11 pm Post subject: |
|
|
รฟม.ยันไม่ปรับ TOR ประมูลสายสีเขียว ชี้คำสั่งบอร์ดเดิมยังไม่มีผล
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 สิงหาคม 2557 09:12 น.
ยงสิทธิ์ ชงบอร์ด รฟม. 19 ส.ค.นี้ ขอเดินหน้าใช้ TOR เดิมประมูลก่อสร้างสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) 2.65 หมื่นล้าน ยันเงื่อนไขเดิมดีอยู่แล้ว ชี้มติบอร์ดชุดเก่าให้ปรับปรุงใหม่ไม่จบ ไม่มีผล ด้านอดีตบอร์ด รฟม.เผยเงื่อนไขเดิมเกณฑ์พิจารณาแต่ละสัญญาไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันจริง แถมมีร้องเรียน
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มี พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ เป็นประธาน ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ จะเสนอที่ประชุมพิจารณาการเปิดประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงินค่าก่อสร้างงานโยธา 26,569 ล้านบาท โดยใช้ร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เดิมที่เหมาะสมอยู่แล้วเพื่อเดินหน้าการประกวดราคาต่อไป ส่วนการที่บอร์ด รฟม.ชุดก่อนหน้านี้ที่มีนางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล เป็นประธานเคยให้ รฟม.ปรับ TOR นั้นยังไม่เป็นผล เนื่องจากบอร์ดยังไม่รับรองผลการปรับTOR ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนบอร์ดไปก่อน ดังนั้น รฟม.จะเสนอเดินหน้าตามเดิม
การพิจารณาของบอร์ด รฟม.ชุดเดิมนั้นจบไม่ลง ก็ยังคงถือว่า รฟม.ต้องทำตาม TOR เดิม ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ดีอยู่แล้ว และหากบอร์ดใหม่พิจารณาให้ทำตามเดิม รฟม.จะกำหนดให้ผู้ที่ซื้อซองเอกสารทั้ง 31 รายมายื่นข้อเสนอในช่วงปลายเดือนกันยายน 2557 โดยไม่มีการเปิดซองในรอบ 2 จะไม่มี นายยงสิทธิ์กล่าว
แหล่งข่าวจากอดีตบอร์ด รฟม.กล่าวว่า บอร์ดมีมติให้ปรับปรุงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติ และการให้คะแนน การประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ใหม่ เนื่องจากเห็นว่ากำหนดเกณฑ์การพิจารณาในแต่ละสัญญาไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันจริง ซึ่งมีผู้รับเหมาร้องเรียนเข้ามาด้วย ส่วนบอร์ดชุดใหม่จะเห็นชอบตามที่ รฟม.ยังยืนยันเสนอ TOR เดิมขึ้นกับบอร์ดใหม่ ซึ่งต้องยกเลิกมติเดิม และคงต้องคำนึงว่าจะมีร้องเรียนอีกหรือไม่
ทั้งนี้ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร้องเรียนว่า TOR ประมูลสายสีเขียวนั้น มีการกำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขด้านเทคนิคลักษณะกีดกันให้มีผู้ยื่นแข่งขันได้น้อยราย ไม่เป็นธรรมโดยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการประกวดราคา และการให้คะแนนที่กำหนดรายได้เฉลี่ยจากการก่อสร้างของผู้เสนอราคาย้อนหลัง 3 ปี(Tureover) ไม่อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน โดยสัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่มูลค่างาน 14,021 ล้านบาท กำหนดรายได้เฉลี่ยจากการก่อสร้างของผู้เสนอราคาย้อนหลัง 3 ปีที่ 10,000 ล้านบาท เท่ากับ 2.5 เท่าของมูลค่างาน แต่สัญญาที่ 2, 3, 4 ไม่ได้ใช้เกณฑ์ 2.5 เท่า
ซึ่งบอร์ดชุดเดิมได้มีมติให้กำหนด Tureover ย้อนหลัง 3 ปี ในอัตรา 2.5% ของมูลค่าแต่ละสัญญาเหมือนกันทั้ง 4 สัญญา และหากคำนวณมูลค่างานย้อนหลังในอัตรา 2.5% แล้วมีเศษให้ปัดเศษนั้นขึ้นเป็นจำนวนเต็มหลักร้อยล้านบาท จากเดิมใช้หลักพันล้านบาท ตามหลักเกณฑ์ขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและสามารถอธิบายได้ และหลังปรับปรุง TOR เสร็จให้ รฟม.ประกาศขายเอกสารรอบ 2 อีก 90 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่ซื้อเอกสารในรอบแรกสามารถซื้อได้ โดยระบุว่าต้องยอมให้โครงการต้องล่าช้าออกไปอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อความรอบคอบและเป็นธรรม ไม่ปิดกั้นรายใดรายหนึ่ง |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44777
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/08/2014 7:16 pm Post subject: |
|
|
ข่าวต้นฉบับพิมพ์ผิด น่าจะเป็น Turnover นะครับ (การหมุนเวียนเปลี่ยนมือ หรือผลประกอบการ) ไม่ใช่ Tureover |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 14/08/2014 10:00 am Post subject: |
|
|
รฟม.ลงทุนสร้างทางวิ่งเชื่อมบีทีเอสสำโรง-แบริ่ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 สิงหาคม 2557 23:35 น.
รฟม.จ่อควักกระเป๋าสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าเชื่อมสำโรง-แบริ่ง เผยอนาคตแนวโน้มสูง จ้างบีทีเอสวิ่งส่วนต่อขยายสายสีเขียว เหตุผู้โดยสารสะดวกมากที่สุด ด้านทช.ไม่ขัดข้อง กรณี กทม.ขอใช้ที่สร้างรถไฟฟ้าบางหว้า-ตลิ่งชัน
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ได้รายงานความก้าวหน้าการก่อสร้างโดยเตรียมขยายพื้นที่ก่อสร้างบนถนนสุขุมวิทจากสถานีสำโรง ซึ่งเป็นสถานีต้นทางของโครงการ มาต่อเชื่อมกับสถานีแบริ่งของโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนรูปแบบการต่อเชื่อมระหว่างสถานีทั้ง 2 แห่ง ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างโครงการของ รฟม. กับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น จากการหารือร่วมกันได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว โดย รฟม.จะรับผิดชอบก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้า พร้อมติดตั้งระบบรางต่อจากสถานีสำโรง มาเชื่อมต่อกับสถานีแบริ่ง ของกทม. เพื่อให้รถไฟฟ้าบีทีเอสสามารถวิ่งมารับส่งผู้โดยสารที่สถานีสำโรงได้ โดยจะมีที่กลับรถไฟฟ้าให้ด้วย แต่ในทางกลับรถไฟฟ้า รฟม. จะไม่สามารถวิ่งมารับส่งผู้โดยสารที่สถานีแบริ่งได้ เพราะไม่มีที่กลับรถ
ส่วนการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการนั้น เบื้องต้นมี 2 แนวทางคือ
แนวทางแรก รฟม.จ้างบีทีเอส เดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ข้อดีก็คือ รฟม.ลดต้นทุนการซ่อมบำรุง ประชาชนจะได้รับความสะดวก ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายรถ นั่งจากหมอชิตถึงสมุทรปราการ
อีกแนวทางคือ รฟม.เดินรถเอง ข้อเสียก็คือ ประชาชนอาจไม่รับความสะดวกจะต้องเปลี่ยนถ่ายรถ
สำหรับแนวทางแรกมีความเป็นไปได้มากขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด ซึ่งวันที่ 15 สค. นี้ จะเชิญสื่อมวลชนเดินทางไปตรวจดูความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ด้านนายสุรพล ศรีเสาวชาติ วิศวกรใหญ่ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กทม.ได้ทำหนังสือถึง ทช.เพื่อประสานขอใช้พื้นที่ถนนราชพฤกษ์ สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายจากสถานีบางหว้า ถนนเพชรเกษม ถึง ตลิ่งชัน ให้ทราบแล้ว ซึ่งในเบื้องต้น ทช. ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด เพียงแต่ กทม. จะต้องส่งแบบและรายละเอียดการใช้พื้นที่มาให้พิจารณาก่อนโดยเฉพาะการกำหนดตำแหน่งสถานี และการออกแบบระบบเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า สถานีรถไฟฟ้าสายตากสิน-บางหว้า หลายแห่งมีปัญหาเรื่องขนาดทางเท้าไม่เพียงพอ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกต้องแก้ปัญหาโดยสร้างสกายวอล์กให้คนเดินแทน |
|
Back to top |
|
|
|