Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 04/03/2024 5:46 am Post subject:
จ่ายหนี้บีทีเอส-เคทีขอผ่อน
Source - ข่าวสด
Monday, March 04, 2024 04:50
กทม. - นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวความคืบหน้าการชำระหนี้ เพื่อรับมอบงานทรัพย์สินระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) หรือมูลหนี้ E&M โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง- สมุทรปราการ มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาทว่า สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้มอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที ไปเจรจากับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี เรื่องขั้นตอนและวิธีการชำระหนี้ อีแอนด์เอ็ม ตามวงเงินมูลค่าหนี้ดังกล่าว จากรายงานล่าสุดขณะนี้ผลการเจรจารายละเอียดต่างๆ ยังไม่ได้ข้อยุติ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมี.ค.นี้ ก่อนครบกำหนดการขยายเวลาพักหนี้ส่วนนี้ ในเดือนเม.ย.2567
นายวิศณุกล่าวต่อว่า หลังจากได้ข้อสรุปแล้วจะต้องเสนอ คณะกรรมการควบคุมการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ. 2567 จำนวน 23,488,692,200 บาท สำหรับการรับมอบ การเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ มี นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานพิจารณาอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนการชำระหนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม กทม.ยืนยันที่จะชำระหนี้ส่วนนี้แน่นอน โดยสภากทม.ให้ความ เห็นชอบเรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวจากกทม. แจ้งว่า ในการเจรจาเพื่อชำระหนี้ อีแอนด์เอ็ม ระหว่างเคที กับ บีทีเอสซี ยังมีความเห็นต่างเรื่องวิธีการชำระหนี้ส่วนนี้ โดย เคทีได้เสนอแนวทางการชำระหนี้ โดยขอแบ่งชำระเป็น งวดๆ เนื่องจากเงินของกทม.จากการจัดเก็บรายได้ส่วนต่างๆ มีการแยกฝากไว้หลายบัญชีตามระบบบริหารจัดการด้านการเงิน หากจะมีการเบิกมาใช้จ่ายต้องแยกทำแต่บัญชี จึงไม่สามารถ นำเงินมาชำระหนี้ได้ทั้งก้อน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาท ในครั้งเดียวได้ ขณะที่บีทีเอสซีอยากให้ชำระหนี้เป็นเงินก้อนมากกว่า เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน หลังจากแบกรับภาระหนี้มานาน
บรรยายใต้ภาพ
วิศณุ ทรัพย์สมพล
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 4 มี.ค. 2567
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44876
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 13/03/2024 2:03 pm Post subject:
"ราชกิจจาฯ" ประกาศ "กทม." จ่ายหนี้ 2.3 หมื่นล้าน ให้ "บีทีเอส" มีผลทันที
Source - เว็บไซต์สยามรัฐ
Wednesday, March 13, 2024 13:47
เมื่อวันที่ 13 มี.ค.67 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อใช้จ่ายหนี้ให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานและให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือ รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
มีเนื้อหาว่า โดยที่กรุงเทพมหานคร มีความจำเป็นต้องจ่ายรายจ่ายพิเศษจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 97 และมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ประกอบกับข้อ 12 แห่งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
เรื่อง เงินสะสม พ.ศ. 2562 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินสะสม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 กรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบของสภากรุงเทพมหานคร จึงตราข้อบัญญัติ กรุงเทพมหานครขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้เรียกว่า "ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2567"
ข้อ 2 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. 2567 ให้ตั้งเป็นรายจ่ายพิเศษจำนวน 23,488,692,200 บาท ตามรายละเอียดเอกสารงบประมาณ โดยจำแนก ดังนี้
งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ
สำนักการจราจรและขนส่ง รวม 23,488,692,200 บาท
งบประมาณภารกิจประจำพื้นฐาน 23,488,692,200 บาท
ผลผลิตระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ 23,488,692,200 บาท
ข้อ 4 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครควบคุมการใช้จ่ายเงินและการบริหารงบประมาณตามรายการ และจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้
ข้อ 5 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรักษาการตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้
ประกาศ ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/22269.pdf
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 13/03/2024 2:29 pm Post subject:
มหากาพย์หนี้บีทีเอส 10 ปี กทม.จ่ายหนี้ 23,000 ล้านบาท
โดย PPTV Online
เผยแพร่ วันพุธ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 11:14น.
[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=TminFyFXGqs [/youtube]
ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ กทม.ต้องจ่ายหนี้ บีทีเอส ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 23,000 ล้านบาท
ย้อนรอยไปดูมหากาพย์หนี้บีทีเอสที่ยืดเยื้อยาวนานนับ 10 ปี จนวันนี้ 13 (มี.ค.67 ) ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 จำนวน 23,488,692,200 บาท เพื่อใช้จ่ายหนี้ให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานและให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 สภากรุงเทพมหานคร ได้ลงมติ 44 เสียง เพื่ออนุมัติจ่ายเงินภายใน 2 เดือน ซึ่ง กทม.จะนำเงินสะสมจ่ายขาดที่มีอยู่ 4-5 หมื่นล้านบาท มาชำระ 1.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199 ล้านบาท (ดอกเบี้ยยังไม่เป็นปัจจุบัน) และ 2.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786 ล้านบาท (ดอกเบี้ยยังไม่เป็นปัจจุบัน)
หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ในสมัยที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้เซ็นขยายสัญญาสัมปทานให้กับบีทีเอส ไปอีก 30 ปี แต่ความพัวพัน และจุดเริ่มต้นของหนี้ก้อนใหญ่กลับอยู่ที่การก่อสร้างส่วนต่อขยายที่ล้ำเข้าไปในปริมณฑล และการจ้างเดินรถที่ถูกโอนมาให้ กทม.ทั้งหมดแบบสมบูรณ์ภายใต้การใช้กฎหมาย ม.44
หลังจากที่ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-อ่อนนุช รถไฟฟ้าสายแรกของกรุงเทพฯ ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน รัฐบาลจึงมีแนวคิดในการก่อสร้างส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งยื่นเข้าไปในจ.ปทุมธานี และแบริ่ง-สำโรง ที่กินพื้นที่เข้าในจ.สมุทรปราการ ซึ่งส่วนต่อขยายที่เพิ่มเติมมานี้เองเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ กทม. ต้องแบกภาระหนี้ก่อนใหญ่
เนื่องจากที่ผ่านมา กทม. ติดเงื่อนไขไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการในพื้นที่จังหวัดปริมณฑลได้ รัฐบาลจึงมีมติให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างแทน แต่เมื่อการก่อสร้างระบบโครงสร้างเสร็จสิ้น ประชาชนต้องเปลี่ยนขบวนระหว่างจุดต่อขยาย ในปี 2558 คสช. มีมติให้ กทม.เป็นผู้เดินรถ เพื่อความต่อเนื่องในการให้บริการ และนี่คือจุดเริ่มต้นในการแบกรับหนี้สินก้อนโต
ประมาณกลางปี 2565 บีทีเอสเดินหน้าฟ้องศาลปกครอง เพื่อทวงหนี้ กทม. 41,710 ล้านบาท หลังจากนั้น นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ออกมาทวงหนี้อย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรกผ่านการเผยแพร่คลิปวีดิโอ หลังจากที่ กทม.ค้างจ่ายเงินมานานกว่า 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2562-2565 พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยร้องขอให้มีการต่อสัญญาสัมปทาน 30 ปี เพียงแต่ต้องการให้ ลูกหนี้จ่ายหนี้คืนเท่านั้น
และในปี 2566 พนักงานบีทีเอสยังได้รวมตัวกันเดินทางไปติดตามทวงนี้ถึงทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับขู่ว่าจะหยุดเดินรถ เพื่อประท้วงที่รัฐบาล และกทม.ไม่ยอมชำระหนี้ที่ค้างอยู่ และต้องการให้รัฐบาลดำเนินการชำระหนี้ที่ค้างจ่ายค่าเดินรถให้ก่อน เพราะที่ผ่านมา บีทีเอสเดินรถเพื่อให้บริการประชาชนมาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่ได้รับค่าจ้างใดๆ
จากนั้นนายคีรีจึงเข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อตกลงจะใช้เงินสำรองตัดจ่ายของกทม.มาใช้เฉพาะหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงจำนวนกว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนหนี้สินอีกกว่า 30,000 ล้านบาท ค่าติดตั้งไฟฟ้าและเครื่องกล นั้น ต้องรอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถูกตีตก 3-4 ครั้ง นำวาระเข้า-ออก เหตุผลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่เห็นด้วย อาจเพราะมีประเด็นเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่สมปรารถนา
ส่วนหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้กรุงเทพมหานครและบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นตามสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยาย โดยมีมูลหนี้แบ่งเป็น
1.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199 ล้านบาท
2.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786 ล้านบาท
https://www.youtube.com/watch?v=TminFyFXGqs
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
Posted: 18/03/2024 10:46 am Post subject:
จับตาสถานีต่อไป!ลุ้นหลังกทม.ล้างหนี้ BTS ก่อนหมดสัญญาปี 2572
หน้าโลกธุรกิจ
วันอาทิตย์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09.09 น.
17 มีนาคม 2567 นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โพสต์เฟซบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte ดังนี้...
ลุ้น ! กทม. ล้างหนี้ BTS ก่อนหมดสัญญาปี 2572
น่าดีใจที่ กทม. เตรียมจ่ายหนี้งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลให้ BTS ประมาณ 2.3 หมื่นล้าน จากหนี้ทั้งหมดถึงวันนี้ประมาณ 5.3 หมื่นล้าน ไม่รวมหนี้ค่าจ้างเดินรถที่จะเกิดขึ้นจากวันนี้ไปจนถึงวันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 อีกก้อนใหญ่ หาก กทม. สามารถล้างหนี้ได้ก่อนหมดสัญญา หรือหาก กทม. ไม่สามารถล้างหนี้ได้ อะไรจะเกิดขึ้น ?
1. ถึงวันนี้ กทม. เป็นหนี้ BTS เท่าไหร่ ?
ถึงวันนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นหนี้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย รวมดอกเบี้ยประมาณ 5.3 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยหนี้งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M หรือ Electrical and Mechanical) เช่น อาณัติสัญญาณ สื่อสาร ระบบตั๋ว และประตูกั้นชาลา เป็นต้น ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงรักษา (O&M หรือ Operation and Maintenance) รวมค่าเช่าขบวนรถไฟฟ้า ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
หนี้ E&M เริ่มมีตั้งแต่ปี 2559 และได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อขยายเส้นทางยาวขึ้น ส่วนหนี้ O&M เริ่มมีตั้งแต่ปี 2560 เมื่อเปิดเดินรถช่วงสถานีสำโรง-สถานีปู่เจ้าสมิงพราย ในวันที่ 3 เมษายน 2560 และหนี้ได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเปิดเดินรถจากสถานีปู่เจ้าสมิงพราย-สถานีเคหะสมุทรปราการ ในวันที่ 6 ธันวาคม 2561 ตามด้วยการเปิดเดินรถจากสถานีหมอชิต-สถานีห้าแยกลาดพร้าว ในวันที่ 9 สิงหาคม 2562 และจากห้าแยกลาดพร้าว-สถานีคูคต ในวันที่ 16 ธันวาคม 2563
2. ความเป็นไปได้ในการจ่ายหนี้โดย กทม.
เวลานี้ กทม. มีความพร้อมที่จะจ่ายหนี้ก้อนแรกค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้ค่าจ้างเดินรถที่ถึงเวลานี้มีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท กทม. ยังไม่จ่าย เนื่อง
จากยังมีคดีค้างอยู่ที่ศาลปกครอง นอกจากนี้ ยังมีหนี้ค่าจ้างเดินรถที่จะเกิดขึ้นจากวันนี้ไปจนถึงวันสิ้นสุดสัญญาในปี 2572 อีกก้อนใหญ่ ถ้า กทม. ไม่สามารถจ่ายได้ รัฐบาลจะช่วย กทม. หรือไม่ ?
โอกาสที่จะเกิดขึ้นในการชำระหนี้มีดังนี้
(1) กทม. จะสามารถล้างหนี้ได้ก่อนหมดสัญญาปี 2572
หาก กทม. สามารถชำระหนี้ได้หมดโดย กทม. เอง หรือโดยความช่วยเหลือจากรัฐบาล กทม. ก็ไม่จำเป็นจะต้องขยายสัมปทานให้ BTS แต่ กทม. จะต้องจ้าง BTS ให้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมทั้งซ่อมบำรุงรักษาไปจนถึงปี 2585 ตามสัญญาจ้างระหว่าง กทม. กับ BTS ที่ทำกันมาหลายปีแล้ว การว่าจ้างส่วนต่อขยายบางช่วงเริ่มตั้งแต่ปี 2555-2585 บางช่วงเริ่มตั้งแต่ปี 2559-2585 และที่สำคัญ ได้ว่าจ้างให้เดินรถส่วนหลักด้วยหลังจากสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 จนถึงปี 2585
กรณี กทม. จ้าง BTS ให้เดินรถและซ่อมบำรุงรักษา กทม. จะสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารได้เอง เป็นอิสระจาก BTS ค่าโดยสารอาจจะถูกลงก็ได้ ทั้งนี้ กทม. ควรเก็บค่าโดยสารให้มีรายได้พอที่จะเลี้ยงตัวเอง นั่นคือพอเพียงกับค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงรักษา รวมทั้งค่าซ่อมบำรุงรักษาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ค่าเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้งานมานานหลายปี
(2) กทม. ไม่สามารถล้างหนี้ได้ก่อนหมดสัญญาปี 2572
ในกรณีที่ กทม. ไม่สามารถชำระหนี้ได้หมดภายในปี 2572 กทม. จะต้องเจราจากับ BTS ให้รับหนี้ที่เหลือแทน ซึ่ง กทม. อาจจะต้องขยายสัมปทานให้ BTS ออกไปตามระยะเวลาที่เหมาะสมกับมูลค่าหนี้ อัตราค่าโดยสาร รวมทั้งผลตอบแทนที่ กทม. จะได้รับจาก BTS
3. สรุป
การแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งยืดเยื้อมานานหลายปี ถึงเวลานี้พอจะมีความหวัง ไม่ว่า กทม. จะสามารถชำระหนี้ได้หมดก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 หรือไม่ BTS ก็จะยังคงมีบทบาทในรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อไป
หาก กทม. สามารถชำระหนี้ได้หมด BTS ก็จะเป็นผู้รับจ้างเดินรถไปจนถึงปี 2585 กทม. จะสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารได้เอง รายได้ทั้งหมดจะเป็นของ โดย กทม. จะต้องแบกรับความเสี่ยงเองทั้งหมด
หาก กทม. ไม่สามารถชำระหนี้ได้หมด กทม. อาจจะต้องขยายสัมปทานให้ BTS โดย BTS จะต้องรับภาระหนี้แทน กทม. และจะต้องแบกรับความเสี่ยงเองทั้งหมด
อีกไม่นานก็คงรู้ว่า BTS จะมีบทบาทในรถไฟฟ้าสายสีเขียวในฐานะผู้รับจ้างเดินรถ หรือผู้รับสัมปทานแบบเดิมต่อไป
https://www.facebook.com/Dr.Samart/posts/976725497153553?ref=embed_post
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group