View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 23/04/2013 12:43 am Post subject: ผู้ว่าประพัทธ์ค้านการตั้งกรมขนส่งทางรางในรุปแบบที่คมนาคมคิด |
|
|
ประภัสร์ชี้ตั้งกรมฯรางแก้ปัญหาไม่ตรงจุด นโยบายผิดพลาดทำร.ฟ.ท.สูญพันธุ์ได้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 เมษายน 2556 23:28 น.
ประภัสร์ค้านตั้งกรมขนส่งทางราง ยันไม่ได้แก้ปัญหาร.ฟ.ท.จริงและจะทำให้องค์กรสูญพันธุ์ ชี้สาเหตุที่ร.ฟ.ท.มีหนี้มากเพราะนโยบายของรัฐบาลทุกยุค ไม่ใช่ร.ฟ.ท.บริหารผิดพลาดเอง ยันหากยังอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กรมรางไม่มีทางเกิด แนะตั้งกรมรถไฟ ปรับเป็นหน่วยราชการ โอนผลตอบแทนเศรษฐกิจ (IRR) มาหักลบเหมือนกรมทางหลวง
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของกระทรวงคมนาคมที่จะจัดตั้งกรมการขนส่งทางรางขึ้นมากำกับดูแลงานโครงสร้างพื้นฐานทางราง โดยแยกงานก่อสร้างออกจาก ร.ฟ.ท.เพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน เนื่องจากหนี้สินของร.ฟ.ท.ที่เกิดขึ้น สาเหตุไม่ได้เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของ ร.ฟ.ท.แต่เกิดจากนโยบายของรัฐบาลแต่ละสมัยที่ผ่านมาที่ไม่ให้ปรับขึ้นค่าโดยสารตามต้นทุน รวมถึงนโยบายเชิงสังคมต่างๆ เช่นรถไฟฟรี และได้หารือเบื้องต้นกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งยืนยันว่ายังไม่อนุมัติเรื่องตั้งกรมการขนส่งทางราง และให้ร.ฟ.ท.หารือกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ให้มีความชัดเจนก่อน
ส่วนแนวคิดที่จะให้กรมขนส่งทางราง ก่อสร้างโครงการบนที่ดินของ ร.ฟ.ท.โดยเจรจาแลกกับหนี้สินของร.ฟ.ท.ยิ่งไม่ถูกต้อง เพราะหากไม่มีที่ดิน ร.ฟ.ท.ก็จะไม่เหลืออะไรเลย และถ้าจะให้ทำหน้าที่เดินรถเพียงอย่างเดียวโดยต้องแข่งขันกับเอกชนในการยื่นขอใบอนุญาต หรือประมูลเส้นทาง ร.ฟ.ท.ไม่สามารถแข่งขันได้ เพราะเสียเปรียบเอกชน
เนื่องจากร.ฟ.ท.มีต้นทุนการบริหารงานสูงกว่าเพราะมีพนักงานมากกว่า 10,000 คน ขณะที่เอกชนอาจมีพนักงานเพียง 200 คน ร.ฟ.ท.ไม่สามารถกำหนดราคาประมูลที่ต่ำกว่าเอกชนได้แน่นอน
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ผมไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการและจัดตั้งส่วนราชการระดับกรมหรือองค์กรอื่นที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาระบบการขนส่งและการเดินทางทางราง โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เพราะไม่มีการแจ้งให้เข้าร่วมประชุม แต่ยืนยันว่าวันที่ 29 เม.ย.ซึ่งคณะกรรมการฯจะประชุมอีกครั้ง ผมจะเข้าร่วมแน่นอนเพื่อคัดค้านเรื่องดังกล่าว หากแนวคิดดังกล่าวแก้ปัญหาร.ฟ.ท.ได้จริง ก็ยินดี แต่การตั้งกรมขนส่งทางราง ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องและจะยิ่งเป็นการทำให้ร.ฟ.ท.สูญพันธุ์ไปเลย ผมยืนยันว่าตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.จะไม่มีกรมขนส่งทางรางเกิดได้แน่นอนนายประภัสร์กล่าว
โดยวิธีแก้ปัญหา ร.ฟ.ท.ที่ควรนำไปพิจารณา คือ ปรับองค์กรจากรัฐวิสาหกิจกลับมาเป็นราชการเช่น กรมรถไฟหลวงเหมือนสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากหน่วยงานราชการจะไม่มีบัญชีหนี้สินหรือขาดทุน เช่นเดียวกับกรมทางหลวงที่มีหน้าที่ลงทุนสร้างถนนแต่ไม่มีหนี้ เพราะรัฐบาลเป็นผู้แบกรับ ในขณะที่ รัฐบาลให้ร.ฟ.ท.รับผิดชอบงานก่อสร้างระบบรางที่บรรจุอยู่ใน พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาทเพราะอ้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) ในการลงทุน มิใช่ผลตอบ แทนทางการเงิน (FIRR) แสดงว่ารัฐบาลไม่สนใจเรื่องรายได้มากไปกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ และควรให้นำตัวเลข EIRR ของแต่ละโครงการมาบันทึกในบัญชีการลงทุนเพื่อหักหนี้สินได้ ดังนั้นการลงทุนโครงการเพิ่มจะไม่มีภาระหนี้เพิ่ม |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44954
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44954
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 19/12/2013 8:13 am Post subject: |
|
|
สภาที่ปรึกษาฯสนับสนุนตั้งกรมขนส่งทางราง หวังเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
เดลินิวส์ วันพุธ 18 ธันวาคม 2556 เวลา 18:18 น.
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้จัดทำข้อเสนอแนะถึงกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อนำไปพิจารณา แม้ว่าล่าสุดกฎหมายกู้เงินลงทุนจะไม่สามารถผลักดันได้เสร็จในรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยตามข้อเสนอเห็นว่า หากรัฐบาลจะผลักดันโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการก่อนคือ กระทรวงคมนาคมต้องตั้งกรมขนส่งทางรางขึ้น เพื่อให้การขนส่งทางรางสามารถแข่งขันกับการขนส่งทางถนนได้ โดยให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่า แต่ละพื้นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอะไรบ้าง โดยเฉพาะกรอบระยะเวลา โครงการใดที่ยังอยู่นอกแผน หรือยังไม่ชัดเจนก็ต้องกำหนดให้ชัดเจน และควรแก้ไขกฎระเบียบ-ข้ออำนวยความสะดวกทางการค้า-บริการ โดยเฉพาะส่วนที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานและงานสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ต่างๆ รวมถึงสนับสนุนจัดทำแผนส่งเสริมให้มีการลงทุนตามเส้นทาง และต้องพัฒนาสถานีรถไฟ และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการจ้างงาน และการสร้างมูลค่าเพิ่ม
ขณะเดียวกันยังต้องบูรณาการเชื่อมโยงระบบถนนเข้ากับระบบราง เร่งการก่อสร้างรางเพื่อเชื่อมโยงกับการขนส่งทางรางเข้าไปสู่ท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากสนามบินของจังหวัดที่รถไฟความเร็วสูงผ่าน และพัฒนาลานจอดรถรองรับรถไฟความเร็วสูง รวมถึงมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีให้ประชาชนในชนบทสามารถเข้าถึงประโยชน์จากระบบขนส่งมวลชนรถไฟความเร็วสูงได้ พร้อมจัดระบบขนส่งและจราจร รวมทั้งด้านความปลอดภัยในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่างรวมทั้งชายฝั่งทะเล รวมทั้งการป้องกันสารปนเปื้อนลงไปในลำน้ำ
นอกจากนี้ควรสร้างจุดพักรถสำหรับรถบรรทุก พร้อมกับกำหนดระยะเวลาที่พนักงานขับรถจะต้องจอดพัก เช่น ทุก 250 กิโลเมตร ทั้งรถบรรทุกและรถโดยสาร เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งศึกษาผลกระทบจากการเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ของภูมิภาค เพราะจะมีสินค้าขนส่งผ่านแดนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย และผ่านจากประเทศไทยไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศที่สามเพิ่มขึ้นอย่างมาก อีกทั้งให้ชะลอการบังคับใช้ผังเมืองจังหวัดใหม่ เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับระบบโครงสร้างพื้นฐานใหม่ และการทบทวนเมืองศูนย์กลางด้วย
ทั้งนี้ยังต้องกำหนดให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ โดยระบุไว้ในทีโออาร์ให้ผู้รับเหมา หรือ ผู้บริหารโครงการ ขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต้องให้ความสำคัญต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น การปรับปรุงถนนสายหลัก ตั้งแต่สุไหงโกลก นราธิวาส ยะลา ปัตตานี และสายเบตง-ยะลา ควรเป็นถนนคอนกรีต 4 ช่องจราจร เพื่อให้เป็นเส้นทางขนส่งและมีความปลอดภัยจากการก่อการร้าย และพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์ยางพาราแปรรูปในการก่อสร้างระบบรางทางคู่ โดยใช้ยางสำหรับทำรอยต่อของรถไฟ
นายอุทัย กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยังต้องส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เพื่อให้เป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และออกมาตรการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบด้านสังคม เช่น ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย ควรจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการพัฒนาพื้นที่ ควรพิจารณาประเด็นเชิงสังคม ถึงผลกระทบในแหล่งทำกิน และหรือที่อยู่อาศัยของชุมชนด้อยโอกาสเหล่านั้น และจัดให้มีกลไกในการแก้ปัญหาความขัดแย้งเชิงพื้นที่ รวมถึงให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการท้องถิ่นได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวอย่างแท้จริงด้วย |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 19/12/2013 8:47 am Post subject: |
|
|
คงเป็นความฝันต่อไป เพราะ ครม.แค่รักษาการณ์เท่านั้น |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44954
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/06/2014 4:12 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมเตรียมเสนอคสช.ยกร่างพ.ร.บ.ขนส่งใหม่ คาดใช้บังคับทัน AEC
ข่าวหุ้น วันพุธที่ 25 มิถุนายน 2557 เวลา 15:47:22 น.
กระทรวงคมนาคมเร่งยกร่าง พ.ร.บ.บริหารการขนส่งฉบับใหม่ ให้เป็นกฎหมายกลางที่ทันสมัย และบูรณาการบังคับใช้ครอบคลุมการขนส่งทุกรูปแบบ โดยเตรียมสรุปเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาอนุมัติ หวังดำเนินการให้แล้วเสร็จบังคับใช้ได้ทันเปิดรับ AEC
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า กฎหมายด้านการขนส่งส่วนใหญ่ใช้มานานแล้ว ไม่สอดคล้องกับปัจจุบันที่สภาพเปลี่ยนแปลงไป การยกร่างใหม่และยกเลิกกฎหมายเดิมจะมีปัญหา เพราะมีกฎหมายลูกประกอบเกือบพันฉบับ จึงร่างกฎหมายกลางฉบับใหม่ขึ้นเป็นเครื่องมือเสริมกฎหมายเก่า หน่วยงานสามารถใช้กฎหมายใหม่ได้หากกฎหมายเดิมที่มีไม่ครอบคลุม
โดยร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.50 และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายอื่น โดยจะมีคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติเป็นผู้กำกับดูแลและบริหารนโยบาย มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนการกำกับดูแลจะมีคณะกรรมการในแต่ละกลุ่มคือคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบการขนส่งทางราง, ทางน้ำ ,ทางอากาศ,การขนส่งมวลชน
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งกรมรางนั้น ขณะนี้ได้เสนอเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการคู่ขนานไปกับ พ.ร.บ.บริหารการขนส่ง โดยหลักการกรมรางจะทำหน้าที่ลงทุนด้านทางและรางเพื่อให้รัฐเป็นผู้รับภาระหนี้สินแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งจะทำหน้าที่ให้บริการเดินรถเพียงอย่างเดียว โดยมีรถไฟและที่ดินเป็นทรัพย์สิน ส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์นั้นจะมีการแยกออกจาก ร.ฟ.ท.โดยให้กระทรวงการคลังเข้ามาถือหุ้นแทน โดยรถไฟฟ้าจะเป็นทรัพย์สินของแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนโครงสร้างรางจะเป็นทรัพย์สินของรัฐ จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการมากกว่าปัจจุบัน
สำหรับการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.บริหารการขนส่ง ในวันนี้จะได้ข้อสรุปและนำเสนอ คสช.ต่อไป ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องรอเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะมีการจัดตั้งขึ้นก่อนประกาศใช้ต่อไป และโดยหลักการ พ.ร.บ.บริหารการขนส่งนี้จะไม่ซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่ แต่จะเป็นกฎหมายใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้น เพื่อเป็นกฎหมายกลางที่มีความครอบคลุมและบังคับใช้กับทุกกิจกรรมการขนส่ง และรองรับกับการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) ในปี 58 ซึ่งจะมีรถและผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศมากขึ้น ดังนั้นจะต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องทุกเรื่องให้เป็นสากล และบังคับใช้
ขณะที่ นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีนโยบายให้บูรณาการระบบบริหารจัดการด้านการขนส่งที่กระจายอยู่ในกฎหมายต่างๆ ให้มีกฎหมายกลางที่จะบริหารจัดการ จัดกลุ่มภารกิจด้านนโยบาย การกำกับดูแล และการประกอบการให้ชัดเจน เพื่อสามารถให้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการขนส่งได้ทุกกิจกรรมที่เพิ่มเติมจากกฎหมายเดิมที่มีอยู่ รวมถึงการวางกรอบในการดำเนินกิจการขนส่งที่มีลักษณะเป็นพันธะในการให้บริการสาธารณะและการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมในโครงสร้างพื้นฐานและการประกอบการกิจการขนส่งที่ปรับโครงสร้างได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ซึ่งจะสร้างความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย การบริการ และการสร้างบรรยากาศในการแข่งขันของผู้ประกอบการที่โปร่งใสและเป็นธรรม |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 25/06/2014 5:24 pm Post subject: |
|
|
เวอร์ชัน ASTV เป็นแบบนี้ครับ
คมนาคมชง คสช.คลอด พ.ร.บ.บริหารขนส่งฯ รับเปิด AEC ยันตั้งกรมรางแยกแอร์พอร์ตลิงก์ออกจาก ร.ฟ.ท.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2557 16:49 น.
คมนาคมเร่งยกร่าง พ.ร.บ.บริหารการขนส่ง พ.ศ....ฉบับใหม่ เป็นกฎหมายกลางที่ทันสมัย และบูรณาการบังคับใช้ครอบคลุมทุกกิจกรรมการขนส่ง เตรียมสรุปเสนอ คสช.เห็นชอบ ผอ.สนข. หวังบังคับใช้ได้ทันเปิด AEC ชี้กฎหมายปัจจุบันล้าสมัยไม่เป็นมาตรฐานสากล พร้อมเดินหน้าตั้งกรมรางลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแทน ร.ฟ.ท.ที่จะทำหน้าที่เฉพาะเดินรถ
นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อ ร่างพระราชบัญญัติบริหารการขนส่ง พ.ศ. .... วันนี้ (25 มิ.ย.) ว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้บูรณาการระบบบริหารจัดการด้านการขนส่งที่กระจายอยู่ในกฎหมายต่างๆ ให้มีกฎหมายกลางที่จะบริหารจัดการ จัดกลุ่มภารกิจด้านนโยบาย การกำกับดูแล และการประกอบการให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการขนส่งได้ทุกกิจกรรมที่เพิ่มเติมจากกฎหมายเดิมที่มีอยู่ รวมถึงการวางกรอบในการดำเนินกิจการขนส่งที่มีลักษณะเป็นพันธะในการให้บริการสาธารณะและการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมในโครงสร้างพื้นฐานและการประกอบการกิจการขนส่งที่ปรับโครงสร้างได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ซึ่งจะสร้างความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย การบริการ และการสร้างบรรยากาศในการแข่งขันของผู้ประกอบการที่โปร่งใสและเป็นธรรม
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการ ร่างพระราชบัญญัติบริหารการขนส่ง พ.ศ. ....ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2550 แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ....ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายอื่น โดยการสัมมนาครั้งนี้จะได้ข้อสรุปและนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะมีการจัดตั้งขึ้นก่อนประกาศใช้ต่อไปโดยหลักการ พ.ร.บ.บริหารการขนส่ง พ.ศ. .... นี้จะไม่ซ้ำซ้อนหรือขัดแย้งกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่ แต่จะเป็นกฎหมายใหม่ที่เพิ่มเติมขึ้น เพื่อเป็นกฎหมายกลางที่มีความครอบคลุมและบังคับใช้กับทุกกิจกรรมการขนส่ง และรองรับกับการเปิดเสรีอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งจะมีรถและผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศมากขึ้น ดังนั้นจะต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่เกี่ยวข้องทุกเรื่องให้เป็นสากล และบังคับใช้
กฎหมายด้านการขนส่งส่วนใหญ่ใช้มานานแล้วไม่สอดคล้องกับปัจจุบันที่สภาพตลาดเปลี่ยนแปลงไป การยกร่างใหม่และยกเลิกกฎหมายเดิมจะมีปัญหาเพราะมีกฎหมายลูกประกอบเกือบพันฉบับ จึงร่างกฎหมายกลางฉบับใหม่ขึ้นเป็นเครื่องมือเสริมกฎหมายเก่า หน่วยงานสามารถใช้กฎหมายใหม่ได้หากกฎหมายเดิมที่มีไม่ครอบคลุม นายจุฬากล่าว
สำหรับ พ.ร.บ.บริหารการขนส่ง พ.ศ. ....นี้จะมีคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติบริหารนโยบาย มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนการกำกับดูแลจะมีคณะกรรมการในแต่ละกลุ่ม คือ คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบการขนส่งทางราง, ทางน้ำ, ทางอากาศ, การขนส่งมวลชน
ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งกรมรางนั้น ขณะนี้ได้เสนอเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการคู่ขนานไปกับ พ.ร.บ.บริหารการขนส่ง พ.ศ....โดยหลักการกรมรางจะทำหน้าที่ลงทุนด้านทางและรางเพื่อให้รัฐเป็นผู้รับภาระหนี้สินแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งจะทำหน้าที่ให้บริการเดินรถเพียงอย่างเดียว โดยมีรถไฟและที่ดินเป็นทรัพย์สิน
ส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์นั้นจะมีการแยกออกจาก ร.ฟ.ท.โดยให้กระทรวงการคลังเข้ามาถือหุ้นแทน โดยรถไฟฟ้าจะเป็นทรัพย์สินของแอร์พอร์ตลิงก์ ส่วนโครงสร้างรางจะเป็นทรัพย์สินของรัฐ จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการมากกว่าปัจจุบัน
Last edited by Wisarut on 06/08/2014 10:25 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44954
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/08/2014 7:25 am Post subject: |
|
|
'วิษณุ'ชี้ตั้ง'ก.ทรัพยากรน้ำ-กรมขนส่งทางราง'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 5 สิงหาคม 2557 15:34
"วิษณุ"ชี้ช่องปฏิรูปราชการ แนะตั้ง"ก.ทรัพยากรน้ำ-กรมขนส่งทางราง"ให้ทบทวน"ดีเอสไอ-ก.ท่องเที่ยวฯ" ควรมีหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการของตัวเอง คือ รายการ "อาทิตย์สโมสรกับวิษณุ" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง TNN24 ตอน"สภาปฏิรูปจะปฏิรูปอะไรบ้าง" ว่า ช่วงนี้มีการพูดถึงการปฏิรูปด้านต่างๆของประเทศมากพอสมควร ซึ่งมีการพูดกันพอสมควรแล้วว่าใครจะเป็นผู้เสนอแนวทางในการปฏิรูปคำตอบก็คือ "สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)" เป็นแกนหลัก โดยไม่ได้ตัดสิทธิของประชาชนในการออกความคิดความเห็นที่สามารถส่งไปตามช่องทางต่างๆ แต่คำถามคือจะปฏิรูปอะไรกัน เพราะเวลาพูดถึงความไม่พออกพอใจความเดือดร้อนจากกิจการของรัฐด้านต่างนั้นมีมากมายจนไม่รู้จะปฏิรูปเรื่องใดก่อน
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ในรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว)พ.ศ.2557 กำหนดให้มีการปฏิรูป11ด้านเป็นอย่างน้อย ซึ่งสามารถเสนอแนวทางปฏิรูปเรื่องอื่นด้านที่12 13 14 ก็สามารถทำได้ แต่ด้านที่จะมีการปฏิรูปการเมือง ที่จะรวมถึงเรื่องกฎเกณฑ์ กติกา มารยาททางการเมือง และการปฏิรูประบบราชการน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะถูกพูดถึงมากที่สุดนับจากนี้ไป
นายวิษณุ กล่าวว่า การปฏิรูประบบราชการ ซึ่งระบบราชการเป็นระบบที่มีขนาดใหญ่มีงบประมาณมากกว่าระบบอื่นในประเทศ และมีอำนาจมากในการกำหนดกฎเกณฑ์ให้คนปฏิบัติ อำนาจปกครองบังคับบัญชาและอำนาจการอนุมัติ ซึ่งเป็นอำนาจที่อาจจะทำให้คนจนลงและรวยขึ้นก็ได้ เช่นมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องภาษีก็ย่อมกระทบบความเป็นอยู่ของคน
" เมื่อระบบราชการมีความใหญ่โตมีอำนาจมากและมีผู้คนมากปานนี้ มีงบประมาณเอาไว้หมุนเวียนใช้จ่ายมากปานนี้ แถมยังเป็นระบบที่เก่าแก่นานกว่าระบบใดทั้งหมดของประเทศด้วยซ้ำไป คือเกิดขึ้นมาพร้อมกับการมีประเทศไทยหรือสยามหรือกรุงศรีอยุธยา กรุงสุโขทัยเลยทีเดียวก็ว่าได้ ก็กลายเป็นระบบที่มีปัญหามากเพราะเกี่ยวพันกับชีวิตประชาชนมากในทุกอณูของชีวิตประจำวัน " นายวิษณุ กล่าว
ที่ปรึกษาคสช. กล่าวอีกว่า เมื่อเราเข้าไปเกี่ยวกันกับระบบราชการแล้วเราไม่พอใจ เช่น อาจพบเจ้าหน้าที่พูดจาไม่สุภาพ มีการเรียกเงินทองเงินสินบน เงินกินเปล่า เงินใต้โต๊ะ ซึ่งบางทีไม่ใช่เรื่องจุกจิกน่ารำคาญแต่มันเป็นเรื่องใหญ่โต เช่นการจะเข้าไปประมูลรับการจัดซื้อจัดจ้างก็ลำบากยากเย็น หลลายคนบ่นว่าแข่งกับคนอื่นไม่กลัวใครดีใครได้ แต่แข่งกับคนที่เส้นใหญ่ให้สินบนเงินทอนเงินกินเปล่าก็สู้ไม่ไหว และบางการไปขอรับการอนุมัติก็ใช้เวลายาวนานและคำตอบออกมาว่าไม่อนุมัติ ด้วยเหตุนี้จึงมีการพูดถึงเรื่องของการปฏิรูประบบราชการ เพราะมีการพูดถึงเรื่องสองมาตรฐานซึ่งจะเท็จหรือจะจริงนั่นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตราบใดที่มีคนบ่นอย่างนี้ยังเกิดความไม่พอใจไม่สบอารมณ์ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของระบบราชการ รวมถึงมีการพูดเรื่องระบบนิติธรรมหรือการใช้กฎหมายเป็นใหญ่ก็มีการเรียกหาระบบนิติธรรมนิติรัฐก็แสดงว่ายังไม่พอใจอะไรบางอย่าง
นายวิษณุ กล่าวว่า การปฏิรูประบบราชการหมายถึงการปฏิรูปตำรวจ ฝ่ายปกครอง ศาล อัยการ หรือแม่แต่กิจการราชทัณฑ์ ทนายความและงานที่เกี่ยวกับการให้บริการภาครัฐจะเป็นหัวข้อใหญ่ในการถกแถลงกันยาวนาน
" เชื่อเถอะครับว่าจากนี้ไปเราจะได้ยินเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างของระบบราชการ กระทรวงบวงกรมต่างๆ วิธีทำงานของข้าราชการ ว่าทำอย่างไรหนอให้คนที่ทำงานราชการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและบริการประชาชนอย่างอุทิศกายและใจ ทำราชการด้วยความรวดเร็วว่องไวใให้ความสะดวกไว้เนื้อเชื่อใจแก่ประชาชนที่มาติดต่อราชการ รวมทั้งต้องพูดถึงเรื่องอัตรากำลังที่ไม่ให้ระบบราชการใหญ่โตเทอะทะ เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหรือว่าทำงานทั้งวันได้พันห้าเดินไปเดินมาได้ห้าพันอย่างที่เพลงร้องประชดกัน ทำอย่างไรให้ข้าราชการมีค่าตอบแทนที่เพียงพอ " นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า ในอดีตโครงสร้างระบบราชการเป็นแบบจตุสดมภ์แบ่งออกเป็น4กรม เวียง วัง คลัง นา จากนั้นตั้งเป็นกระทรวงโดยระยะแรกมี12กระทรววง และปัจจุบันเรามีกระทรวงทั้งหมด20กระทรวง 20กระทรวงมากไปหรือน้อยไป และที่สำคัญหลายกระทรวงมีเหตุมีผลในการตั้งขึ้นมาเพียงพอหรือไม่ เราได้ทดลองกันมา10กว่าปี ถึงเวลาแล้วหรืออยังที่ต้องปรับโครงสร้างเสียใหม่ เพราะฉะนั้นช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีการพูดกันมาก เช่น มีการพูดถึงเรื่องว่าน่าจะตั้งกระทรวงทรัพยากรน้ำ เอาหน่วยงานที่เกี่ยวกับน้ำทั้งหมดมาไว้ด้วยกัน เพราะบทเรียนมหาอุทกภัยที่ผ่านมาหน่วยงานน้ำยังกระจัดกระจายกันอยู่ หากนำมารวมกันแล้วบริหารจัดการให้ดีก็น่าจะได้ประโยชน์ มีการพูดกันว่าอาจจะมีการตั้งกรมขึ้นมาสักกรมหนึ่ง เช่น กรมขนส่งทางราง กิจการที่ไม่ได้ขนส่งทางบกแต่เป็นการขนส่งทางราง หมายถึงรถไฟรางเดี่ยว รางคู่ แม้กระทั่งรถไฟความเร็วสูง หรือรถราง รถไฟฟ้า รถลอยฟ้า รถใต้ดิน น่าจะมารวมกันที่กรมขนส่งทางราง โดยรัฐดูแลออกแบบวางมาตรฐาน ก่อสร้างดูเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการเดินรถก็ให้เอกชนรับช่วงต่อ
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เจตนารมณ์ของการตั้งขึ้นไม่ได้คิดเลยว่าจะให้เป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติแห่งที่2ไม่เช่นนั้นก็จะซ้ำซ้อนกันหรือแย่งกันทำงาน แต่เขาออกแบบให้ทำ "คดีพิเศษ" ที่ตำรวจปกติจะรับมือได้ยาก ไม่ใช่คดีอาชญากรรมธรรมดาหรืออาชญากรรมตามท้องถนน(Street crime) เช่นอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาชญากรรมที่มีความสลับซับซ้อนมาก แต่เมื่ออยู่ไปหรืออยู่มากรมนี้มักจะเหมาเอาหลายคดีเข้ามาเป็นคดีพิเศษ จนกระทั่งไปถึงคดีที่ดูแสนจะธรรมดาก็ระดับเป็นคดีพิเศษเพื่อจะเอามาทำ
" คงต้องคิดกันเสียใหม่แล้วครับว่าตกลงกรมสอบสวนคดีพิเศษตั้งขึ้นมาเพื่อจะทำอะไรแน่ " นายวิษณุ กล่าว
ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวิษณุ กล่าวว่า ย้อนไป10ปีที่ผ่านมาอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องนำมาไว้ในกระทรวงเดียวกัน แต่ตอนนี้คงต้องทบทวนแล้วว่า "ท่องเที่ยว" และ "กีฬา" อยู่ในกระทรวงเดียวกันได้หรือไม่ เพราะในที่สุดข้าราชการในกระทรวงนี้ต้องแบ่งภาคความชำนาญยากมาก เพราะจะไปด้านการท่องเที่ยวหรือด้านกีฬากันแน่ เพราะด้านหนึ่งคือด้านของเศรษฐกิจอีกด้านเป็นเรื่องของนันทนาการ สุขภาพและอนามัย และความเข้มแข็งของคนในชาติ นี่ก็เป็นเรื่องที่ต้องทบทวนกัน
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า พอมาถึงหัวข้อที่2ที่เขาจะต้องพูดถึงหากมีการปฏิรูป คือวิธีทำงานและปฏิบัติราชการ ซึ่งปัญหาใหญ่คือการทุจริตประพฤติมิชอบของวงราชการ เรื่องความล่าช้าในการให้บริการ เจ้าหน้าที่ของรัฐบางฝ่ายบางแผนกมีดุลพินิจมาก และอยู่โดยไม่มีธรรมาภิบาล
" ธรรมาภิบาลคือทำอะไรต้องยึดตัวบทกฎหมายคือกติกาเป็นหลัก สองคือทำอะไรต้องโปร่งใส สามทำอะไรต้องทำด้วยความรับผิดรับชอบ สี่ทำอะไรก็ตามต้องเข้าอกเข้าใจกหัวอกของคน ห้าทำอะไรก็ตามต้องยึดเรื่องของการคุ้มทุนคุ้มค่าประหยัดทั้งเวลาของราชการและประชาชนที่มาติดต่อราชการ และสุดท้ายต้องมีการหมั่นประเมินผล เมื่อประเมินแล้วดีก็ทำให้ดียิ่งขึ้น เมื่อประเมินแล้วแย่ก็ต้องปรับปรับให้ดีขึ้น " นายวิษณุ กล่าว
ที่ปรึกษาคสช. กล่าวว่า ต้องมีกฎกติกาอะไรออกมาหลายอย่างในการติดต่อราชการด้วยความสะดวกสบายในการบริการ และให้เกิดความโปร่งใสสุจริต ซึ่ง2เดือนที่ผ่านมา ท่ามกกลางประกาศของคสช.หลายฉบับแต่มีฉบับหนึ่งระบุว่าการประชุมอะไรก็ตามถ้าไม่มีกฎหมายระบุไว้เป็นพิเศษ แทนที่จะเชิญกรรมการมาประชุมแล้วนับองค์ประชุม สุดท้ายครบหรือไม่ครบองค์ประชุมบ้างการประชุมก็ล่ม ซึ่งวันนี้การสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์นั้นสะดวกสบายมาก ทำไมเราไม่เปิดให้มีการสื่อสารทางไกลโดยใช้ระบบโทรทัศน์มีการถ่ายทอดเห็นภาพเห็นเสียงแทนแล้วก็นับองค์ประชุมได้แทนที่จะต้องมานับองค์ประชุม เว้นเสียแต่ว่าเป็นเรื่องลับที่จำเป็นต้องมาเจอกัน อย่างนี้ก็ทำให้มีมติคลี่คลายกัน คณะกรรมการที่ประชุมปีละครั้งก็อาจจะประชุมบ่อยขึ้นได้
นายวิษณุ กล่าวว่า เวลานี้มีการเตรียมกฎหมายไว้บางฉบับที่จะเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในเร็ววันนี้ที่จะเอื้อต่อการไปขอรับบริการจากทางราชการ เช่น ต้องกำหนดให้ส่วนราชการที่มีอำนาจอนุญาต อนุมัติ ท่านต้องทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด หรือระเบียบราชการที่ทำให้เยิ่นเย้อชักช้า ให้อำนาจเจ้าหน้าที่มากเกินไป และลับ ลับมากเกินไปก็จะเปลี่ยนให้มีการเปิดเผยอย่างมีเหตุผล คนที่เขาขอดูขอทราบต้องบอกเขาได้ และเป็นเพราะอะไรถึงไม่อนุญาตและไม่อนุมัติ
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า เอกสารราชการที่หลายคนมาติดต่อเรียกให้ขนมาหมด บัตรประชาชน บัตรเปลี่ยนชื่อ ทะเบียนสมรส ทะเบียนบ้าน สุดท้ายเอามาเก็บก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม วันนี้ถ้าเรายอมรับว่าเรามีระบบบัตรประจำตัวประชาชน13หลัก แต่ละอย่างสื่อความและใช้คอมพิวเตอร์ถอดออกมาได้เลยว่าผู้ที่มาติดต่อนั้นเป็นใครมาจากไหน รู้กระทั่งหมู่เลือด ศาสนา และประวัติหลายอย่าง ทำไมเราถึงไม่นำระบบนี้เข้ามาใช้ และลดภาระประชาชนในการถ่ายเอกสารมากมาย
" สมัยที่ผมเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเคยขบขันเรื่องหนึ่งส่วนราชการแห่งหนึ่งมาของบประมาณนำไปสร้างตึก ท่านนายกฯในเวลานั้นถามว่าเอาตึกไปทำอะไร ส่วนราชการตอบว่าเอาไปเก็บเอกสาร เอกสารก็มาจากคนที่เขามาติดต่อราชการแล้วมายื่นไว้ครับ ท่านนายกเลยถามว่าทำไมไม่เผาหรือว่าาทำลาย ส่วนราชการบอกว่าไม่ได้ครับต้องเก็บไว้ 50 ปีก็ต้องเก็บ เวลานี้ไม่มีที่จะเก็บจึงต้องมาของบไว้เพื่อเก็บเอกสารเหล่านั้น ถามว่าท่านมีเวลาดูไหมก็ไม่มีเวลาดู แต่ก็ไม่มีกฎหมายให้ทำลาย " นายวิษณุ กล่าว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44954
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/08/2014 2:16 pm Post subject: |
|
|
สนข.ดันตั้งกรมขนส่งทางรางควบคู่ฟื้นฟู ร.ฟ.ท.เล็งเสนอแผน คสช.ปีหน้า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2557 13:55:05 น.
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ในการพัฒนาระบบรถไฟไทยต้องทำ 2 เรื่องควบคู่กันไป คือ ฟื้นฟูกิจการรถไฟ และการจัดตั้งกรมขนส่งทางราง ซึ่งกรมรางทำหน้าที่ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมถึงกำกับดูมาตรฐานความปอดภัยและกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม โดยจะต้องมีการออกพ.ร.บ.จัดตั้ง สภาปกติจะใช้เวลา 3-4 ปี แต่ปัจจุบันคาดว่าทางกระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดนำเสนอแผนการจัดตั้งในปี 58 และนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเร่งรัดจะสามารถจัดตั้งได้ภายใน 2 ปี
"กรมรางจะช่วยฟื้นฟู ร.ฟ.ท.เนื่องจากจะแยกส่วนงานการลงทุนก่อสร้างออกมาให้กรมรางรับผิดชอบ เหมือนกรมทางหลวง (ทล.) ที่ได้รับงบประมาณในการ ลงทุนก่อสร้างถนน ส่วนการกำกำกับดูแลความปลอดภัยและกำหนดค่าโดยสารจะเป็นบทบาทเช่นเดียวกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยร.ฟ.ท.ยังคงทำหน้าที่ในการเดินรถ รวมถึงเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่ารางเพื่อเดินรถ" นายชัยวัฒน์กล่าวในการเสวนาเรื่อง"พัฒนาระบบขนส่งรางของประเทศไทย ทำอย่างไร?"
สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่นั้น สนข.จะรับผิดชอบการพัฒนาในระดับนโยบาย และการนำไปสู่การปฎิบัติ เพื่อนำเสนอขออนุมัติ คสช. โดยในระหว่างที่กรมรางยังจัดตั้งไม่แล้วเสร็จ ให้ ร.ฟ.ท. ทำหน้าที่ก่อสร้างไปก่อน และในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบรางในจังหวัดใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต โคราช สงขลา ซึ่งกรมรางจะเข้ามาทำหน้าที่ในการทำแผนและนำเสนอการลงทุน ส่วนการเดินรถจะให้องค์กรท้องถิ่นรับผิดชอบ ดังนั้น เมื่อจัดตั้งกรมรางแล้วเสร็จจะทำให้การขับเคลื่อนการพัฒนาระบบรางเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 08/08/2014 2:22 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมเร่งตั้งกรมรางคุมขยายเส้นทางทั้งระบบ -ร.ฟ.ท.-รฟม. เดินรถอย่างเดียว
มติชน
วันที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16:07:33 น.
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างเร่งพิจารณาการก่อตั้งกรมการขนส่งทางราง(กรมราง) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เพื่อให้การพัฒนาระบบรางมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการทำงานของกรมรางจะมีลักษณะคล้ายกับกรมการขนส่งทางบก รวมกับกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท(ทช.) ทำหน้าที่ขยายโครงสร้างพื้นฐานทางราง ซึ่งภายหลังพิจารณาแล้วเสร็จจะนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พิจารณาต่อไป
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การก่อตั้งกรมราง จะช่วยให้การก่อสร้างทางรถไฟดำเนินการได้รวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มีมาตรการกำกับดูแลด้านการบริการ ความปลอดภัย และอื่นๆที่เป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลในเรื่องนี้โดยตรงจึงส่งผลให้การดำเนินโครงการต่างๆล่าช้า คาดว่าในปี 2558 จะเห็นการจัดตั้งเป็นรูปเป็นร่าง หาก คสช.เห็นชอบให้ดำเนินการ รวมกระบวนการตั้งกรมรางจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งเร็วกว่าปกติที่ใช้เวลาประมาณ 3-4 ปีจึงจะก่อตั้งได้สำเร็จ
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในอนาคตกรมรางต้องไปพิจารณาขยายระบบรางเข้าไปยังเมืองใหญ่เพื่ออำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาการจราจรด้วย เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าที่เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และหาดใหญ่ เป็นต้น โดยจะต้องมีการจัดเตรียมแผนดำเนินการไว้ล่วงหน้า โดยกรมรางอาจจะลงทุนก่อสร้าง และให้ท้องถิ่นเป็นผู้ให้บริการเดินรถเองก็ได้ เป็นต้น
สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) จะยังอยู่เหมือนเดิมแต่จะเปลี่ยนบทบาทใหม่ไปเป็นผู้ให้บริการอย่างเดียว ส่วนการขยายเส้นทางเป็นหน้าที่ของกรมราง ส่วนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ก็จะทำหน้าที่คล้ายกับ ร.ฟ.ท.โดยเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า ยกเว้นกรมรางจะมีนโยบายให้ก่อสร้างรถไฟฟ้าในบางเส้นทางที่จะกำหนดขึ้นในอนาคต โดยการจัดตั้งกรมรางเป็นแผนเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูรถไฟเพื่อลดภาระหนี้ด้วย
//--------------
สนข.ดันตั้ง"กรมราง"แยกลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยฟื้นฟูร.ฟ.ท.ยั่งยืน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 สิงหาคม 2557 14:15 น.
สนข.ดันตั้ง"กรมขนส่งทางราง"ควบคู่ แผนฟื้นฟูรถไฟ เพื่อลดภาระลงทุน แยกส่วนก่อสร้างออกจากเดินรถคาด "คมนาคม" เร่งชงคสช.ในปีหน้า ดันตั้งได้ใน 2 ปี พร้อมเดินหน้าพัฒนาระบบรางในเมืองใหญ่ โดยให้กรมรางเป็นแกนลงทุนก่อสร้าง
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังการบรรยาย "แผนการพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศไทย"ในการเสวนาเรื่อง พัฒนาระบบขนส่งรางของประเทศไทย ทำอย่างไร? วันนี้ (8 ส.ค.) ว่า การพัฒนาระบบรถไฟไทยต้องทำ2 เรื่องควบคู่กันไป คือการฟื้นฟูกิจการรถไฟ และการจัดตั้งกรมขนส่งทางราง ซึ่งกรมรางทำหน้าที่ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมถึงกำกับดู
มาตรฐานความปลอดภัยและกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม โดยการจัดตั้ง
จะต้องมีการออกพระราชบัญญัติเพื่อจัดตั้ง กรมขนส่งทางราง ซึ่งหากมีสภาปกติจะใช้เวลา3-4 ปี แต่ปัจจุบันคาดว่าทางกระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดนำเสนอแผนการจัดตั้งในปี 2558 และประสานกับหน่วยงานที่เก่ยวข้องเช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และนำเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเร่งรัดจะสามารถจัดตั้งได้ภายใน 2 ปี
ทั้งนี้ กรมรางจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟู ร.ฟ.ท.เนื่องจากจะแยกส่วนงานการลงทุนก่อสร้างออกมาให้กรมรางรับผิดชอบ เหมือนกรมทางหลวงทางหลวง (ทล.) ที่ได้รับงบประมาณในการลงทุนก่อสร้างถนน ส่วนการกำกำกับดูแลความปลอดภัยและกำหนดค่าโดยสารจะเป็นบทบาทเช่นเดียวกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยร.ฟ.ท.ยังคงทำหน้าที่ในการเดินรถ รวมถึงเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่ารางเพื่อเดินรถ
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่นั้น สนข.จะรับผิดชอบการพัฒนาในระดับนโยบาย และการนำไปสู่การปฎิบัติ เพื่อนำเสนอขออนุมัติ คสช. โดยในระหว่างที่กรมรางยังจัดตั้งไม่แล้วเสร็จ จะให้ ร.ฟ.ท. ทำหน้าที่ก่อสร้างไปก่อนและในอนาคต จะมีการพัฒนาระบบรางในจังหวัดใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต โคราช สงขลา ซึ่งกรมรางจะเข้ามาทำหน้าที่ในการทำแผนและนำเสนอการลงทุน ส่วนการเดินรถจะให้องค์กรท้องถิ่นรับผิดชอบ ดังนั้นเมื่อจัดตั้งกรมรางแล้วเสร็จจะทำให้การขับเคลื่อนการพัฒนาระบบรางเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น
ปัจจุบันปัญหาอุปสรรคของการขนส่งทางราง คือ ปัญหาการบริหารจัดการภายในของร.ฟ.ท. การขนส่งสินค้าไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากความไม่แน่นอนในการจัดส่งสินค้า ปัญหาความไม่สมบูรณ์ของโครงข่าย เป็นต้น นอกจากนี้ รถไฟยังมีปัญหาตกรางบ่อย รถทำความเร็วไม่ได้ เนื่องจากทางและขบวนรถเก่า เสียเวลาในการรอสับหลีก ระบบควบคุมการเดินรถยังใช้แรงงานคน (Manual) ปัญหาความสะอาดและคุณภาพ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
|
Posted: 09/08/2014 11:13 am Post subject: |
|
|
คมนาคมชง คสช.ตั้งกรมขนส่งทางราง แยกส่วนก่อสร้างออกจากเดินรถ คาดตั้งได้ใน 2 ปี
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 2557 เวลา 16:35:22 น.
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย ว่า การพัฒนาระบบรถไฟให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานของไทยทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้า จะต้องทำ 2 เรื่องควบคู่กันไป คือ การฟื้นฟูกิจการรถไฟ และการจัดตั้งกรมขนส่งทางราง โดยกระทรวงยกร่างโครงสร้างเสร็จแล้ว คาดว่าจะเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเป็นนโยบายเร่งด่วนของปลัดกระทรวงคมนาคมจะให้แล้วเสร็จในปี 2558
ซึ่งกรมรางทำหน้าที่ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานแทนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมถึงกำกับดูมาตรฐานความปลอดภัยและกำหนดอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม โดยจะต้องมีการออกพระราชบัญญัติจัดตั้ง กรมขนส่งทางราง จะใช้เวลา 3-4 ปี แต่หากเร่งรัดจริง สามารถจัดตั้งได้ภายใน 2 ปี
ทั้งนี้ กรมรางจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟู ร.ฟ.ท.เนื่องจากจะแยกส่วนงานการลงทุนก่อสร้างออกมาให้กรมรางรับผิดชอบโดยใช้งบประมาณเหมือนกรมทางหลวงลงทุนก่อสร้างถนน ส่วนการกำกับดูแลความปลอดภัยและกำหนดค่าโดยสารจะเป็นบทบาทเช่นเดียวกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดย ร.ฟ.ท.ยังคงทำหน้าที่ในการเดินรถ รวมถึงเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่ารางเพื่อเดินรถ
"ในระหว่างที่กรมการขนส่งทางรางยังจัดตั้งไม่แล้วเสร็จ จะให้ ร.ฟ.ท.ทำหน้าที่ก่อสร้างไปก่อนในส่วนของรถไฟทางคู่ 6 สายเร่งด่วน"
นอกจากนี้ ในอนาคตกรมการขนส่งทางรางจะมีบทบาทกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบรางในจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต โคราช สงขลา โดยจะเข้ามาทำหน้าที่ในการทำแผนและนำเสนอการลงทุน ส่วนการเดินรถจะให้องค์กรท้องถิ่นรับผิดชอบ ดังนั้นเมื่อจัดตั้งกรมรางแล้วเสร็จจะทำให้การขับเคลื่อนการพัฒนาระบบรางเป็นรูปธรรมได้มากขึ้น
Last edited by Wisarut on 10/08/2014 3:49 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
|