Rotfaithai.Com :: View topic - ภาพความคืบหน้าการปรับปรุงทางรถไฟสายอรัญประเทศ-ปอยเปต-พนมเปญ
View previous topic :: View next topic
Author
Message
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air) Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
Posted: 06/08/2023 3:19 pm Post subject:
รถเพลิงเขมร VS รถไฟไทย บนรางเหล็กสายประวัติศาสตร์ I ประวัติศาสตร์นอกตำรา EP.201
ประวัติศาสตร์ นอกตำรา
Aug 6, 2023
รถเพลิงกัมพูชา เกิดขึ้นในช่วงภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส โดยมีการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ หรือรถเพลิงสายตะวันตกจากพนมเปญถึงพระตะบอง เปิดเดินรถครั้งแรกในปี พ.ศ.2475
ในปี พ.ศ. 2484 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการสนับสนุนของญี่ปุ่น ครั้งนั้นไทยได้ดินแดนเสียมราฐ พระตะบอง และศรีโสภณคืนจากฝรั่งเศส ทำให้ วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 ไทยได้เปิดเดินรถไฟจากสถานีอรัญประเทศ ผ่านปอยเปตไปถึงเมืองมงคลบุรี ระยะทาง 61 กิโลเมตร บรรจบกับทางรถไฟที่มาจากพนมเปญ เพื่อให้ญี่ปุ่นใช้ลำเลียงอาวุธและกำลังพลเข้าไปในเขตกัมพูชา และต่อมาในวันที่ 10 เมษายน 2485 ไทยเริ่มเปิดการเดินรถจากกรุงเทพ ถึงพระตะบองเป็นครั้งแรก
หลังญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามในปี พ.ศ. 2489 รัฐบาลไทยในฐานะพันธมิตรญี่ปุ่น ต้องคืนดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณให้แก่ฝรั่งเศส พร้อมกับเส้นทางรถไฟที่เคยสร้างไว้ ทำให้รถไฟที่วิ่งอยู่ในช่วงอรัญประเทศถึงพระตะบองจึงถูกระงับไปโดยปริยาย
ภายหลังกัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสแล้ว ทั้งสองประเทศได้ตกลงร่วมกันที่จะกลับมาเดินรถไฟในเส้นทางสายอรัญประเทศ ปอยเปต พระตะบองอีกครั้ง ในวันที่ 22 เมษายน 2498 นับเป็นการเกิดขึ้นของการเดินรถไฟระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการของทั้งสองราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก
หลังเดินรถได้เพียง 4 ปีเศษ ไทย และกัมพูชาเริ่มเกิดปัญหาความขัดแย้งในกรณีปราสาทพระวิหาร
กระทั่ง 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2501 รัฐบาลสมเด็จพระนโรดม สีหนุของกัมพูชาได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย การเดินรถไฟจึงต้องหยุดลง
แม้ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 ทั้งสองประเทศจะสถาปนาความสัมพันธ์กลับคืนมา และเปิดเดินรถไฟระหว่างกันอีกครั้ง แต่ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2504 กัมพูชาได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับประเทศไทยอีกเป็นครั้งที่ 2 จากกรณีปราสาทพระวิหาร การเดินรถจึงต้องหยุดไปนานถึง 11 ปี
ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลนายพลลอนนอลของกัมพูชา กับรัฐบาลจอมพลถนอมของไทย ทำให้การรถไฟไทยเปิดเดินขบวนรถข้ามแดนไปจากหัวลำโพงไปถึงพระตะบองอีกครั้ง ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513
อย่างไรก็ตาม การเดินรถไฟระหว่าง 2 ประเทศดำเนินไปได้อีกเพียง 3 ปีเศษ กัมพูชาก็เข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมือง ทำให้การเดินรถไฟต้องยุติลงตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2517 จนถึงกระทั่งปัจจุบันนับเป็นระยะเวลายาวนานถึง 50 ปี
หลังสงครามกลางเมือง และความพยายามฟื้นนฟูรถเพลิง วันนี้ระบบรางของกัมพูชาได้รับการปรับปรุงแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว ทั้งเส้นทางสายตะวันตกจากพนมเปญถึงปอยเปต และสายใต้จากพนมเปญถึงสีหนุวิลล์
ปัจจุบัน แม้รถเพลิงกัมพูชาจะยังไม่ให้บริการในช่วงปอยเปต ถึงพระตะบอง แต่อย่างน้อยเส้นทางรถไฟของไทยได้ก่อสร้างเชื่อมต่อกับระบบรางของกัมพูาเรียบร้อยแล้ว
ทั้งหมดรอเพียงวันเวลาที่รถไฟไทย และรถเพลิงกัมพูชา จะกลับมาโลดแล่นบนรางเหล็ก เส้นทางสายสายประวัติศาสตร์ของพวกมันอีกครั้งในอนาคต
https://www.youtube.com/watch?v=3WORSosztzs
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44650
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 06/08/2023 6:25 pm Post subject:
Production เยี่ยมเหมือนเช่นเคยครับรายการนี้ น่าจะเป็นรายการแรกที่ถ่ายทำรถไฟกัมพูชาตลอดสาย แต่เจอน้ำท่วมจนได้
มีพลาดบ้าง เรื่องรถไฟไปสนามบินที่พนมเปญ ที่ยกเลิกไปแล้ว
เห็นกรุงพระสีหนุแล้วหดหู่ครับ มีแต่ตึกร้าง
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44650
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 25/09/2023 2:37 pm Post subject:
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดสระแก้ว
25 ก.ย. 2566
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว มีนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วให้การต้อนรับ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รับฟังรายงานสถานการณ์การค้าชายแดน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน จากนั้นลงพื้นที่สำรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และสถานีรถไฟพรมแดนบ้านคลองลึก สำรวจพื้นที่ตลาดโรงเกลือและพบปะผู้ประกอบการรายย่อย
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีฯ เดินทางไปยังสะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท เยี่ยมชมพื้นที่ปฏิบัติงานชั่วคราว เยี่ยมชมความก้าวหน้าการก่อสร้างอาคาร CIO จุดแผนแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน และสุดท้ายเดินทางไปเยี่ยมชมด่านศุลกากรอรัญประเทศ และรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการเก็บกู้ระเบิดที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ บ้านป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ
ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้ว มีมูลค่าการค้าชายแดน ในปี 2566 ( ต.ค.65 - ส.ค.66) มูลค่ารวม 103,683 ล้านบาท เป็นการส่งออก 79,619 ล้านบาท การเดินทางเข้า-ออกที่มีหนังสือเดินทาง บัตรผ่านแดนและแรงงาน MOU ในปี 2566 (ม.ค. - ก.ย.66) จำนวน 9,472,610 คน เป็นการเดินทางเข้า 4,764,251 คน เดินทางออก 4,708,359 คน จังหวัดสระแก้ว ได้เสนอปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ต่อรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้ ผลักดันการจัดตั้งสถานกงสุลไทย ณ ประเทศกัมพูชา เพื่อให้บริการประชาชน ดูแล คุ้มครองผลประโยชน์ของคนไทย เสนอการจัดตั้งสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวที่อำเภออรัญประเทศ ผลักดันให้มีการขนส่งทั้งคนและสินค้าทางรถไฟ ซึ่งได้มีการลงนาม MOU ระหว่างการรถไฟของทั้ง 2 ประเทศไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 ปัจจุบันยังไม่มีการเดินรถระหว่างประเทศ ผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์อาคารด่านศุลกากรป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ ซึ่งกรมศุลกากรได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีการใช้ประโยชน์ ส่วนการเสนอขอเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 หากดำเนินการแล้วเสร็จจังหวัดจะได้ขอเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรต่อไป
อย่างไรก็ตามขณะนี้ มีการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หนองเอี่ยน-สตึงบท สำหรับนาเข้า-ส่งออกสินค้าเป็นการชั่วคราวก่อน ภายหลัง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รับฟังรายงานสถานการณ์ ข้อมูลของจังหวัดทั้งภาครัฐและเอกชน จะนำเสนอให้รัฐบาลได้รับทราบเพื่อผลักดันให้เป็นรูปธรรม ต่อไป
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ประจัก สารการ
ผู้เรียบเรียง : วรรณวิไล สนิทผล
แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว
Back to top
You cannot post new topics in this forum You cannot reply to topics in this forum You cannot edit your posts in this forum You cannot delete your posts in this forum You cannot vote in polls in this forum
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group