View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 23/09/2012 9:31 am Post subject: |
|
|
ตอนนี้โครงการสร้างทางรถไฟสายทวาย-มะริด หยุดการก่อสร้างไป เพราะปัญหาเคลียร์กับชาวบ้านไม่ได้เรื่องพื้นที่ปลูกปาล์ม ยางพารานี่แหละครับพี่สมชาย
อยากไปย่างกุ้งทางบกดูสักครั้งในชีวิตครับ อนาคตคงอีกไกล |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 27/12/2012 10:49 am Post subject: ข่าวดี |
|
|
เปิดด่านถาวรสิงขร จุดพลุค้าชายแดน
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
คอลัมน์ : ข่าวหน้า1
ออนไลน์เมื่อ วันพุธที่ 26 ธันวาคม 2012 เวลา 12:13 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,804 วันที่ 27-29 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ไทย-เมียนมาร์ เตรียมยกระดับด่านสิงขร เป็นจุดผ่านแดนถาวรต้นปีหน้า คาดเพิ่มมูลค่าทางการค้าผ่านศุลกากรจากกว่า 200 ล้านบาทพุ่งเป็นไม่ต่ำกว่า 3.6 หมื่นล้านบาทต่อปี เหตุเมียนมาร์จะย้ายฐานขนส่งและการค้าของมะริดจากชายแดนระนอง มายังประจวบ แทน เพื่อย่นระยะเวลาขนส่งสินค้าประมงเข้ามหาชัย เหลือไม่เกิน 7 ชั่วโมง ทั้งหวังเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ด้านหอการค้าระนองชี้กระทบแน่แต่ใช้เวลาอีก 3ปี
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในขณะนี้ทางรัฐบาลไทย กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเปิดด่านสิงขร(กม.332 บ้านหนองหิน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์) ซึ่งเป็นจุดที่แคบที่สุดของประเทศไทย ให้เป็นด่านผ่านแดนถาวร หลังจากขณะนี้รัฐบาลเมียนมาร์โดยนโยบายของนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดี ได้ประกาศที่จะเปิดด่านบริเวณบ้านมอต่อง เขตตะนาวศรี จ.มะริด ซึ่งติดกับด่านสิงขรของไทย ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรในเดือนมกราคม 2556
เนื่องจากรัฐบาลเมียนมาร์ มีนโยบายที่จะย้ายฐานการขนส่งและการค้าของจังหวัดมะริด ซึ่งอาชีพหลักคือการส่งออกธุรกิจประมง จากปัจจุบันที่ส่งออกผ่านไปยังจังหวัดระนอง มาอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์แทน เพื่อย่นระยะเวลาในการขนส่ง และเกิดความสะดวกในการจัดเก็บภาษี เพราะปัจจุบันการส่งออกสินค้าประมง จากมะริด โดยทางเรือผ่านไประนอง ใช้เวลากว่า 20 ชั่วโมง และสินค้าประมงกว่า 60% เป็นการขนส่งทางรถต่อไปยังมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ต้องใช้เวลาอีก 10 ชั่วโมง หรือเบ็ดเสร็จใช้เวลากว่า 27-28 ชั่วโมง แต่หากขนส่งมาทางด่านสิงขร จะใช้เวลาไม่เกิน 7 ชั่วโมง ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากการลดระยะเวลาในการขนส่งวัตถุดิบอาหารทะเลจากพม่า มายังแหล่งแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารทะเลในไทย โดยใช้เส้นทางนี้
ขณะนี้ทางหอการค้ามะริด ได้ลงทุนซ่อมแซมถนนระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร (100 กิโลเมตร จากด่านสิงขรไปตะนาวศรี และอีก 100 กิโลเมตรจากตะนาวศรีเข้าสู่มะริด) เพื่อให้สามารถใช้งานได้ ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงในการเดินทางเข้าสู่ด่านสิงขร และมีแผนจะราดยางถนนซึ่งจะใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง รวมไปถึงยังส่งผลดีต่อการขนส่งและโลจิสติกส์ ในแง่การเชื่อมโยง 2 คาบสมุทร ระหว่างอ่าวไทยและอันดามันด้วย เนื่องจากประจวบมีท่าเทียบเรือน้ำลึกอยู่ที่อำเภอบางสะพาน ขณะที่มะริดอยู่ติดทะเลอันดามัน ทำให้เกิดการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้า ทางการเกษตร ประมง ระหว่างประจวบและมะริดได้อีกเส้นทางหนึ่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังกล่าวอีกว่า การเปิดด่านถาวรยังได้ประโยชน์ในการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวร่วมกันด้วย โดยเฉพาะการสร้างให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ทั้งในแง่ของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในเส้นทางจากด่านสิงขร เชื่อมไปยังตะนาวศรี และมะริด ทั้งเชื่อมโยงจุดขายด้านทะเลของอ่าวไทย และหมู่เกาะมะริด ที่มีหมู่เกาะกว่า 800 เกาะ และเป็นหมู่เกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและมะริดยังติดอันดับ 1 ใน 10 แหล่งดำน้ำที่สวยงามที่สุดในโลกด้วย ซึ่งจะเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของประจวบให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก ขณะนี้ผู้ประกอบการธุรกิจประมงไทย ห้องเย็น และท่องเที่ยว ก็พร้อมที่จะขยายการลงทุนทั้งในฝั่งไทยและเมียนมาร์ ทันทีที่มีการเปิดด่านถาวร เพราะถือเป็นการเปิดประตูการค้าสู่เมียนมาร์แห่งใหม่
"แม้เมียนมาร์จะมีนโยบายย้ายฐานการขนส่งและการค้าของจังหวัดมะริด จากระนองมายังประจวบเชื่อว่าทางระนองจะไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะการขนส่งสินค้าประมง ในเขตรัศมีระนอง ก็ยังครอบคลุมในเมืองของเมียนมาร์ โดยเฉพาะที่เกาะสอง"
นอกจากนี้การเปิดด่านถาวรที่จะเกิดขึ้น จะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของมูลค่าทางการค้าผ่านพิธีศุลกากร ของด่านสิงขรเพิ่มจากกว่า 200 ล้านบาทต่อปีในปัจจุบัน เป็นไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาทต่อเดือนหรือปีละไม่ต่ำกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการเปลี่ยนฐานการขนส่งและการค้าของมะริด ทำให้เกิดการขยายตัวทางการค้าเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเป็นเพียงการค้าขายเล็กๆ น้อย ๆ ของ 2 ชุมชน คือ ชุมชนในฝั่งไทย และชุมชนมูด่อง เมียนมาร์เท่านั้น
ทั้งนี้การยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขรเป็นจุดผ่านแดนถาวร ครม.ได้อนุมัติในหลักการมานานแล้วและทางอนุกรรมการพิจารณาเปิดจุดผ่านแดนถาวร ก็มีมติเห็นชอบการยกระดับด่านสิงขรเป็นด่านผ่านแดนมาตั้งแต่ปี 2553 และคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้า(JTC)ไทย-พม่า ก็เห็นด้วยตั้งแต่ปี 2553 ขณะนี้เมียนมาร์อยู่ระหว่างสร้างสำนักงานการค้าชายแดนที่บ้านมอต่อง เพื่อใช้เป็นที่ทำการศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง คาดจะเปิดในเดือนมกราคม 2556 ส่วนฝั่งไทยทางกระทรวงการต่างประเทศและมหาดไทยจะส่งเจ้าหน้าที่มาเช็กเรื่องเขตแดนไทยในวันที่ 7 มกราคม 2556 หากพร้อมก็สามารถเปิดเป็นด่านถาวรได้ โดยออกเป็นประกาศของกระทรวงมหาดไทย และรายงานให้ครม.รับทราบเท่านั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวทิ้งท้าย
ต่อเรื่องนี้นางสาวพสิษฐ์ตา อินทร์พันธ์ ผอ.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท.เผยว่า การเปิดด่านสิงขรจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวของประจวบมาก จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศได้เพิ่มขึ้น เป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างยุโรป ที่จะมีการเชื่อมโยงระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น ต่อไปนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประจวบสามารถเดินทางต่อไปเที่ยวเมืองตะนาวศรี หรือมะริด ได้หรือเที่ยวพม่าก็มาเที่ยวประจวบได้สะดวกขึ้นและพม่ายังผลักดันให้เกิดการลงทุนด้านท่องเที่ยว โดยเฉพาะโรงแรมในฝั่งพม่า ก็จะเป็นโอกาสการขยายการลงทุนของไทยไปยังต่างประเทศด้วย
ด้านนางนฤมล ขรภูมิ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดระนอง เผยว่า การเปิดด่านสิงขรถาวรด่านชายแดนด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง มีผลกระทบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าจากเดิมที่มีการขนสินค้าจากภาคกลางมายังจังหวัดระนองก็จะหันไปใช้เส้นทางด่านสิงขรแทน แต่จุดนี้ต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปีกว่าเส้นทางในพม่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่จุดแข็งของระนอง คือ เรื่องประมงที่ส่วนใหญ่จะเป็นการร่วมทุนระหว่างไทยกับพม่าก็ยังมาขึ้นที่นี่ โดยระนองจะยังคงเป็นศูนย์กลางด้านประมงต่อไป นอกจากนี้จะมีจุดแข็งเพิ่มเข้ามาอีกด้านหลังการเปิดเออีซี ที่พม่ากำลังพัฒนาจังหวัดเกาะสองในการเป็นประตูเชื่อมโยงการเดินทาง การท่องเที่ยวสู่พม่า ซึ่งระนองจะเป็นจังหวัดที่มีบทบาทต่อการเปิดประตูสู่พม่าในเส้นทางตอนใต้ในอนาคต |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/12/2012 5:03 pm Post subject: |
|
|
ถ้าเปิดด่านถาวรได้จริง ต้องอัพเกรดถนนให้รถบรรทุกหนักวิ่งผ่านได้ด้วยครับ (ตามข่าวบอกว่าอีก 3 ปีถึงจะเสร็จ)
นี่ถ้าสร้างทางรถไฟเชื่อมทวาย-มะริด-ประจวบคีรีขันธ์ และปากท่อ-ท่าฉลอมได้จริงก็เยี่ยมครับ แต่รอดูทางรถไฟสายมรณะก่อนดีกว่า ว่าจะฟื้นคืนชีพได้เมื่อไหร่
แต่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ืำทำให้โครงการแลนด์บริดจ์ภาคใต้ตอนล่าง และท่าเรือระนอง ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากครับ (ปัจจุบันไทย-พม่า มีด่านถาวรอยู่ 3 แห่งคือ ระนอง-เกาะสอง แม่สอด-เมียวดี และแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก แต่ยังไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเดินทางทางบกเข้าสู่พม่าส่วนกลาง) |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 27/12/2012 7:01 pm Post subject: |
|
|
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีวันหยุด ๔ วัน เพื่อน ๆ ท่านใดที่มีแผนไปเที่ยวเมืองประจวบคีรีขันธ์
ลองขึ้นไปเที่ยวด่านสิงขร นะ ครับ ห่างจากเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพียง ๑๐ ก.ม.เท่านั้นเอง ทางไปสะดวกมาก
ถ้าโชคดีอาจได้ข้ามไปเที่ยวบ้านมูด่องหากทางการเปิดด่านชั่วคราวช่วงปีใหม่
ส่วนผมตั้งใจจะไปวันที่ ๑ มกราคม ครับ ถ้าโชคดีเราอาจข้ามไปเที่ยวพม่าด้วยกัน _________________
|
|
Back to top |
|
|
heerchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/07/2006 Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
|
Posted: 27/12/2012 7:47 pm Post subject: |
|
|
ประจวบเหมาะพอดี ผมไปพักผ่อนหย่อนใจที่ บ้านกรูด บางสะพานใหญ่ ในวันปีใหม่ ตั้งใจว่าจะไปด่านสิงขรอีกรอบ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/12/2012 7:54 pm Post subject: |
|
|
ผมเคยไปครั้งเดียว เมื่อหลายปีมาแล้วครับ ได้ธนบัตรพม่ากลับมาเป็นที่ระลึก
----
ภาพถ่ายดาวเทียม WorldView-2 วันที่ 17 ธ.ค. 55 บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครับ
มองเห็นบริเวณด่านสิงขร ว่าเป็นช่องทางเข้าสู่พม่าได้อย่างชัดเจนครับ
บริเวณอื่น ๆ เป็นภูเขาและป่าไม้ ยากต่อการฝ่าเข้าไปได้
(ด่านล่างสุดของภาพ จรดบางสะพานและเกาะทะลุ)
http://www.songkhlaline.com/image/mawdaung17dec2012.jpg |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
|
Posted: 08/01/2013 10:19 pm Post subject: |
|
|
ก.บัวแก้ว-มท.ลงพื้นที่ดูแนวเขต "ช่องสิงขร"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มกราคม 2556 19:57 น.
ประจวบคีรีขันธ์ - รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กรมสนธิสัญญา ตลอดจนนักกฎหมาย นักการทูต จนท.กระทรวงการต่างประเทศ กรมแผนที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ มท.พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพภูมิประเทศเพื่อประกอบการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขร เป็นจุดผ่านแดนถาวร ที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะประสานไปยังสถานกงศุลไทยที่เมืองย่างกุ้ง ให้ประสานทางการเมียมาร์ ส่ง จนท.ร่วมสำรวจเขตแดนกับฝ่ายไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นอีกขั้นตอนก่อนที่จะมีการประกาศเป็นด่านถาวรในอนาคต
วันนี้ (8 ม.ค.56) นายพิชย์พันธุ์ ชาญภูมิดล รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก นายดามพ์ บุญธรรม ผู้อำนวยการกองเขตแดน กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย, น.ส.ใจไทย อุปการนิติเกษตร นักการทูตชำนาญการ กรมเอเชียตะวันออก จากกระทรวงการต่างประเทศ พ.อ.กิตติ ตาดเงิน กรมแผนที่ทหาร และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเข้าร่วมการตรวจสอบสภาพภูมิประเทศเพื่อประกอบการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขร เป็นจุดผ่านแดนถาวร มีนายสุทธิพงษ์ เทิดรัตนพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนายสิริวุฒิ เหมทัต ปลัดจังหวัด นายปรีดา สุขใจ ป้องกันจังหวัด นายด่านศุลกากร ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด นายก อบต.คลองวาฬ กำนันตำบลคลองวาฬ ประธานหอการค้า นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งในที่ประชุมตัวแทนของจังหวัดได้บรรยายสรุปถึงการดำเนินการขั้นตอนในการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขร เป็นด่านถาวร เพราะจะเป็นการเปิดประตูการค้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ และจะส่งผลดีต่อด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้านตานโยบายของรัฐบาล
หลังจากนั้นนายสุทธิพงษ์ เทิดรัตนพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมคณะได้นำรองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมสื่อมวลชนเดินทางไปยังจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขร ดูความพร้อมของพื้นที่ ซึ่งจะมีการขยายหน่วยงานราชการเพื่อรองรับการเปิดด่าน พร้อมกันนั้นเดินทางเข้าไปยังบริเวณด่านของพม่า โดยมีเจ้าหน้าที่หอการค้าบ้านมูด่องของพม่า นำคณะเข้าไปดูพื้นที่จุดสร้างหน่วยงานราชการของฝั่งพม่า ที่จะมีการรองรับในการเปิดเป็นด่านถาวรในอนาคต ซึ่งการก่อสร้างมีความคืบหน้ามากกว่า 50% รวมทั้งเส้นทางถนนจากบ้านมูด่อง-เมืองตะนาวศรี ระยะทางประมาณ 120 กม.คาดว่าการปรับปรุงเส้นทางดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ โดยภาคเอกชนฝั่งไทยเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนที่เหลือไปถึงเมืองมะริด ฝั่งพม่าจะเป็นผู้ดำเนินการ
นายพิชย์พันธุ์ ชาญภูมิดล รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กล่าวว่า วันนี้หลังจากกลับไปแล้วทางกระทรวงการต่างประเทศ จะประสานไปยังสถานกงศุลไทยในกรุงย่างกุ้ง ให้ทางการของเมียนมาร์ตอบรับพร้อมที่จะมาร่วมสำรวจเขตแดนกับทางการของไทยร่วมกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการที่จะประกาศเปิดเป็นด่านถาวรต่อไป ทั้งนี้ คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเพราะเมื่อสำรวจเขตแดนร่วมกันแล้ว ต้องดูทั้งเรื่องพื้นที่สันปันน้ำเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ ซึ่งหากทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบร่วมกันไม่มีปัญหา ก็ทำรายงานในการร่วมสำรวจพื้นที่ เพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุมัติการเปิดเป็นด่านถาวรต่อไป อย่างไรก็ตาม กรณีบ้านพุน้ำร้อนนั้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลากว่า 2 ปีถึงจะดำเนินการแล้วเสร็จ ถึงจะประกาศ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่าใหญ่มากน้อยขนาดไหน
รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ที่ผ่านมาได้มีการผ่านความเห็นชอบของสภาความมั่นคงแห่งชาติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การมีความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาความเจริญทั้งของประเทศไทย และเมียนมาร์ ที่ผ่านมาทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพลเอกเต็งเส่ง ประธานาธิบดีของเมียนมาร์ ก็ได้เห็นชอบในการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขร เป็นด่านถาวร แล้ว นอกจากนั้นในที่ประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทยพม่า หรือเจบีซี ที่เมืองเนปิดอวร์ เมียนมาร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ก็เห็นชอบให้มีการสำรวจเขตแดนร่วมกัน |
|
Back to top |
|
|
ksomchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2009 Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู
|
Posted: 09/01/2013 6:41 pm Post subject: |
|
|
ได้ข่าวแว่ว ๆ มาว่าทางการพม่า จะขอใช้ไฟฟ้าจากฝั่งประจวบคีรีขันธ์ จ่ายไฟให้ บ้านมูด่องฝั่งพม่าด้วย ครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44808
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 09/01/2013 6:56 pm Post subject: |
|
|
พม่า ขาดแคลนไฟฟ้าขนาดนี้ ยังจะสร้างท่าเรือน้ำลึกทวายอีก โรงไฟฟ้าก็สร้างเพิ่มไม่ได้เพราะชาวบ้านต่อต้าน
ถ้าไทยหมดสัญญานำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่าเมื่อไหร่ เดือดร้อนแน่ ๆ ครับ เพราะตอนนี้พม่าต้องการนำก๊าซธรรมชาติไปใช้พัฒนาประเทศตัวเอง ไม่ต้องการส่งออกไปต่างประเทศมาก
ถ้าพม่าไม่ยอมส่งก๊าซธรรมชาติมาให้เราใช้ พี่สมชายสับเบรกเกอร์ลง ตัดไฟฟ้าที่ส่งไปพม่าเลยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 09/01/2013 9:36 pm Post subject: |
|
|
^
กรณีพม่าจะขอใช้ไฟฟ้าจากฝั่งประจวบคีรีขันธ์ จ่ายไฟให้บ้านมูด่องของพม่า คงไม่ใช่ประเด็นเรื่องการขาดแคลนไฟฟ้าในภาพรวมครับ
แต่น่าจะเป็นเรื่องของความสะดวกและประหยัดมากกว่า
คือทางฝั่งบ้านมูด่องดูแล้วมีแนวโน้มที่จะเจริญขึ้นจากการเป็นจุดผ่านแดนค้าขายกับไทย
ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นตามไปด้วย
แต่การลงทุนด้านสายส่งไฟฟ้าเข้ามา ณ จุดนี้ของฝั่งพม่าอาจจะมีลำดับความสำคัญน้อยกว่า
อาจจะยังไม่คุ้มค่านักกับการลงทุนในเวลานี้
ปกติทางออกในกรณีนี้ก็คือการตั้งโรงผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก อาจจะเป็นโรงไฟฟ้าดีเซล
แต่ก็จะมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่สูงกว่าโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่
บังเอิญว่าบ้านมูด่องนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา การขอซื้อไฟฟ้าจากบ้านเราไปใช้
จึงน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมและคุ้มค่าในเวลานี้ครับ
หากในอนาคตระบบสายส่งทางฝั่งบ้านเขาขยายมาถึงในบริเวณนี้เมื่อใด
เขาก็อาจจะเลิกซื้อไฟฟ้าจากบ้านเราไปใช้ก็ได้ครับ
กรณีซื้อไฟฟ้าข้ามประเทศนี้ เราก็ทำกับ สปป.ลาวมานานแล้วครับ (ไม่ทราบว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร)
คือบ้านเราซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำงึมมาใช้ทางอิสานตอนบน
ในขณะที่ไฟฟ้าจากเขื่อนอุบลรัตน์บางส่วนก็ส่งขายให้ สปป.ลาวผ่านไปทางสะหวันนะเขต
ทำให้ประหยัดการสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าไปได้มาก เพราะในอดีตนั้นปริมาณการใช้ไฟฟ้าไม่สูง
การสงทุนระบบสายส่งไกลๆจะทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงเกินไปครับ
จะเรียกว่าแลกไฟฟ้ากันใช้ก็น่าจะได้นะครับ
กรณี สปป.ลาวนั้น ถ้าจำไม่ผิดเราซื้อขายโดย กฟผ. เป็นผู้ดำเนินการ
แต่กรณีบ้านมูด่องนี้ ถ้ามีการดำเนินการ เข้าใจว่า กฟภ. น่าจะรับผิดชอบ (หรือเปล่าครับ)
เพราะปริมาณและแรงดันไฟฟ้าไม่น่าจะสูงมากนัก
เพิ่มเติมกรณีพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่เห็นได้ชัดในบ้านเราก็คือที่แม่ฮ่องสอน
เนื่องจากการสร้างสายส่งไฟฟ้าเข้าไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอนนั้นในอดีตทำได้ลำบาก และมีต้นทุนสูง
ที่ผ่านมาที่แม่ฮ่องสอนใช้เครื่องยนต์ดีเซลผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ ซึ่งก็จะมีต้นทุนที่สูง
แต่เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ตอนที่ขับรถจากปายไปแม่ฮ่องสอน
ก็เห็นกำลังมีการติดตั้งเสาไฟฟ้าตามแนวถนนลงไปทางแม่ฮ่องสอนอยู่
แต่ดูแล้วเข้าใจว่าน่าจะเป็นเสาของ กฟภ. ไม่น่าจะเป็นของ กฟผ. นะครับ
ไม่แน่ใจว่าพี่สมชายพอจะสืบสวนข้อมูลตรงนี้ได้หรือไม่ครับ |
|
Back to top |
|
|
|