จากประจวบคีรีขันธ์ถึงมะริด(แก้ไขกระทูู้-จากสิงขรถึงมูด่อง)

[Wisarut]

^^^
เสา 69 KV (ไม่ค่อยใช้แล้ว) 115 KV -230 KV -500 KV เป็นของ กฟผครับ นอกนั้นก็แบ่ง
http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/09/X8366207/X8366207.html
http://www.mea.or.th/menu1_2.htm
http://www.pea.co.th/peas3/1201/history.html
http://www.egat.co.th/
http://www.9engineer.com/index.php?m=webboard&a=show&topic_id=747

หวังว่าจะรวม กฟน. + กฟภ. เป็น การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย เพราะ ตอนนี้สัดส่วนไฟฟ้าจ่ายกฟน. ก็ 60% กฟภ. 40%

อยากเดินรถไฟฟ้าและรถไฟความไวสูงก็ต้อง มีไฟฟ้าสำรองไม่ต่ำกว่า 6 หมื่่นล้านเมกกะวัตต์

[nutsiwat]

อยากเดินรถไฟฟ้าและรถไฟความไวสูงก็ต้อง มีไฟฟ้าสำรองไม่ต่ำกว่า 6 หมื่่นล้านเมกกะวัตต์

กฟภ. คงจะต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพ่ิมขึ้นอีก เพื่อให้เพียงพอต่อการจ่ายไฟฟ้าให้กับรถไฟฟ้าความเร็วสูงทั่วประเทศ หากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเกิดขึ้น แล้วอย่างนี้ค่าไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านก็ต้องจ่ายเพ่ิมขึ้นด้วยไหมครับ

สถานีต่อไป สถานีรถไฟเรณูนคร

[ksomchai]

ขอตอบรวม ๆ นะครับ กรณีที่จะมีการขายไฟให้กับพม่าที่บ้านมูด่อง เป็นของหน่วยงาน กฟภ. ครับ เป็นระบบ ๒๒ เควี
เพียงแต่ขยายเขตปักเสาพาดสายเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด่านสิงขรมากานัก ก็เหมือนจ่ายใฟให้หมู่บ้านต่าง ๆ ในประเทศเรา
แต่จะติดมีเตอร์วัดไฟแรงสูง ที่จุดขายต้นทาง ส่วนผู้ใช้ไฟปลายทาง กลุ่มผู้ใช้ไฟบริเวณนั้น ติดมิเตอร์แรงต่ำเก็บจากผู้ใช้ไฟ อีกทีหนึ่ง
กฟภ.จะเรียกเก็บเงินคิดราคาจากหน่วยที่มีเตอร์แรงสูงต้นทางเท่านั้น ราคาแล้วแต่จะตกลงกัน กรณีจ่ายไฟ ให้กับ สปป.ลาว ก็เช่นเดียวกัน

เท่าที่ผมเคยเห็นก็ที่ช่องเม็ก ครับ แต่ปัจจุบัน สปป.ลาวคงใช้ไฟของประเทศเขาเองแล้ว แต่ก็ยังมีการเชื่อมต่อระบบเป็นระบบสำรอง
หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไฟฟ้าขัดข้องก็สามารถจ่ายไฟจากอีกฝ่ายหนึ่งเข้าระบบทดแทนได้ ค่าไฟฟ้าก็จะหักกลบลบหนี้กัน
ฝ่ายไหนรับไฟไปมากกว่าก็จะเป็นจ่ายเงินชดเชยกัน

ที่แม่ฮ่องสอนตามที่คุณหนุ่มนครลำปางบอกมานั้นเป็นของ กฟภ.ครับ ระบบจำหน่ายจะวางตามแนวทางหลวง เพราะต้องจ่ายให้กับชุมชนต่าง ๆ สองข้างทาง

การก่อสร้างโรงไฟฟ้าเป็นหน้าที่ ของ กฟผ.ครับ และถือเป็นต้นทุนของไฟฟ้า ดังนั้น หากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม เราต้องจ่ายค่า Ft.เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ครับ
_________________

[Mongwin]

พม่ายังไม่มีระบบไฟฟ้าแบบกริดด้วยครับ ไฟดับที่ไหนก็ดับเลย
----

Energy firms keen to feed Myanmar's power needs
JEERAWAT NA THALANG
THE NATION
Yangon January 10, 2013 1:00 am

Thai energy companies are hungry for investment opportunities in power-poor Myanmar.

Wandee Khunchornyakong, chairwoman of solar producer SPCG, said yesterday that Myanmar had only 2.5 gigawatts of capacity to serve more than 56 million people, while Thailand had 32GW for 67 million.

Energy demand has spiked after the isolated country opened up last year and foreign businesses began pouring in, she said.

SPCG it sounding out a group of major investors about starting up a solar-farm business. The joint venture is expected to be finalised by year-end.

Two 1-megawatt solar farms are expected to be located in Yangon and Mandalay, each covering at least 30 rai (4.8 hectares). The investment should be about Bt70 million for each solar farm.

"Solar farms are suitable for Myanmar because the country has an off-grid system. Solar farms can be easily connected without having to rely on electricity poles. It is suitable for the community and environmentally friendly," she said while attending the opening of Kasikornbank's representative office in Yangon.

The cost of generating electricity by solar cells is half the cost of using diesel.

...
...

[Wisarut]

[Mongwin]

ด่านไทย-พม่า ที่เป็นด่านถาวรแล้ว ก็เดินทางทางบกเข้าไปได้ไม่ถึงตอนกลางประเทศพม่าครับ เช่น ด่านแม่สายก็ไปได้แค่เชียงตุง เมืองลา ด่านแม่สอดก็ไปได้แค่เมียวดี

ถ้าด่านสิงขรเปิดแล้ว เดินทางไปได้ถึงเมืองมะริดและทวายก็คงดีนะครับ

[ksomchai]

รอฟังข่่าวดีอยู่นะ ครับ ถ้าถนนหนทางดี ๆ เหมือนบ้านเราสามารถเดินทางไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับก็ได้นะ ครับ
โดยเฉพาะเมืองตะนาวศรีอยู่ตรงข้ามกับอำเภอกุยบุรี แค่นี้เอง ครับ
_________________

[Wisarut]

นี่ครับ รายละเอียดเพิ่มเติม

ด่านสิงขรเปิดถาวรเม.ย.ยันพม่าไฟเขียวแล้ว
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
คอลัมน์ : ท่องเที่ยว&บริการ -
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2013 เวลา 16:05 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,825 วันที่ 10 - 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

พ่อเมืองประจวบฯ คาดไทย-เมียนมาร์ พร้อมเปิดด่านสิงขรเป็นด่านผ่านแดนถาวรได้ในราวกลางเดือนเมษายนนี้ หลังล่าสุดรัฐบาลเมียนมาร์ไฟเขียวเปิดด่านแล้ว และจะยื่นหนังสือแจ้งความจำนงเปิดด่านมายังรัฐบาลไทย ทั้งเตรียมชง ครม. ของบพันล้านบาท ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านนักธุรกิจไทยเล็งเข้าไปลงทุนด้านไฟฟ้าและประมงและโรงแรมรองรับการเปิดด่าน

นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ความคืบหน้าของการเปิดจุดผ่อนปรนด่านสิงขร (กม.332 บ้านหนองหิน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์)ให้เป็นด่านถาวร ในขณะนี้คือทางรัฐบาลของประเทศเมียนมาร์ได้อนุมัติเปิดเป็นด่านถาวรแล้ว โดยผู้ที่รับผิดชอบได้เข้าไปตรวจงานเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมทำหนังสือแจ้งความจำนงในการเปิดด่านยื่นมายังรัฐบาลไทย ซึ่งหากรัฐบาลไทยตอบตกลงและกระทรวงมหาดไทยประกาศเป็นจุดผ่านแดนถาวรก็สามารถทำการเปิดด่านได้ทันที โดยคาดว่าจะสามารถเปิดเป็นด่านถาวรได้ไม่เกินกลางเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้ในขณะนี้เมียนมาร์ได้สร้างถนนจากหมู่บ้านมูด่องไปยังตะนาวศรี ประเทศพม่า เป็นระยะทางยาว 100 กิโลเมตร และจากตะนาวศรีไปยังมะริดอีกราว 100 กิโลเมตร รวมทั้งสร้างศูนย์ราชการเสร็จเรียบร้อย สำหรับประเทศไทยในวันที่ 28 มีนาคมนี้ได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาตรวจด่านสิงขรเพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งไทยและเมียนมาร์สามารถทำการเปิดด่านได้ทันที หลังการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่าง 2 ประเทศ เพราะเรื่องผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว สำหรับเรื่องเขตแดนก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดด่าน

อย่างไรก็ดี เมื่อมีการเปิดเป็นด่านถาวรแล้ว ประเทศไทยจะต้องมีการลงทุนใหม่ทั้งหมด เช่น การลงทุนสร้างศูนย์ราชการ การสร้างด่านใหม่ การขยายถนน การทำระบบน้ำประปา โทรศัพท์ และด่านกักกันสัตว์ เป็นต้น โดยอยู่ระหว่างเตรียมทำโครงการและปรับพื้นที่ ทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมโดยคณะรัฐมนตรีหรือ ครม. ได้อนุมัติงบกลางให้ราว 15 ล้านบาท สำหรับการสำรวจออกแบบ

ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดเป็นด่านถาวรแล้วจึงจะมีการลงทุนสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณราว 1-1.2 พันล้านบาท โดยจะมีการนำเสนอ ครม.อีกครั้ง นับว่าเป็นการใช้งบในการลงทุนน้อยมาก เพราะสินค้าจากเมียนมาร์ที่จะเข้ามาในช่วงเวลาหนึ่งปีก็คุ้มค่าแล้ว ประกอบกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เองก็มีการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดด่านถาวร โดยมีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น การปรับปรุงตลาด ถนน และที่จอดรถ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ทันทีที่มีการเปิดด่านถาวร เมียนมาร์ก็จะมีการนำสินค้าประมงจากเมืองมะริดเข้ามาในไทยทันที โดยเมียนมาร์สามารถผลิตได้ราว 2.5 ตัน แต่มีการนำเข้ามาในไทยราว 60% หรือราว 1.5 พันตัน นอกนั้นจะเป็นการขนส่งไปที่มาเลเซีย แทนการขนส่งในเส้นทางเดิม ที่มีการขนส่งทางเรือไปที่ระนอง และใช้เวลาราว 20 ชั่วโมงในการขนส่งมาที่อำเภอมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทางมะริดต้องการให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นทางผ่านในการส่งสินค้าไปที่อำเภอมหาชัย เพราะจะใช้เวลาราว 6 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ สิ่งที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์คือได้ค่าภาษีจากการขนส่งสินค้ากว่า 1.5 พันตัน นับว่าได้ประโยชน์ทั้งการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงเมียนมาร์ก็จะเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคกลับไป อีกทั้งจะมีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นที่ฝั่งพม่า เนื่องจากพม่ามีแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะการลงทุนในส่วนของอุตสาหกรรมการประมง ห้องเย็น รวมถึงการแปรรูปสินค้าประมง ซึ่งประเทศไทยไม่เพียงพอและต้องการสินค้าจากมะริดเข้ามา ทั้งยังจะมีนักลงทุนเตรียมลงทุนดิวตี้ฟรีทั้งฝั่งไทยและเมียนมาร์ด้วย โดยการลงทุนส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในพม่า เนื่องจากประเทศไทยยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

"ทั้งนักธุรกิจในสองฝั่งเริ่มมีการเจรจาธุรกิจกันแล้ว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมการและรอการเปิดด่านถาวร นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวว่ามีบริษัทไฟฟ้าจากไทยเข้าไปลงทุนในมะริด เนื่องจากที่นั่นมีปัญหาการผลิตไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอ และต้องมีการปั่นไฟเอง ดังนั้น จึงเห็นคนไทยเตรียมลงทุนด้านไฟฟ้าและอุตสาหกรรมประมง

ประกอบกับในด้านการท่องเที่ยว คนมะริดและคนไทยเองก็จะมีการท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งมะริดมีเกาะอยู่ราวกว่า 700 เกาะ และยังไม่มีการลงทุนด้านการท่องเที่ยวมากนัก มีเพียงโรงแรมขนาดเล็ก ดังนั้น จึงเป็นโอกาสทองของนักลงทุน ทั้งในขณะนี้มีข้อมูลว่ามีนักลงทุนไทยไปลงทุนโรงแรมในมะริดราว 500 ล้านบาท แต่ยังสร้างไม่เสร็จ อีกทั้งในส่วนของชายแดนบ้านมูด่องและประเทศไทยก็มีการค้าขายกันอยู่แล้ว จากที่บ้านมู่ด่องมีประชากรราว 1 พันคน ตอนนี้อพยพมาอาศัยอยู่ราว 5 พันคนแล้ว

ทั้งความเคลื่อนไหวของการลงทุนดังกล่าว ส่งผลให้ราคาที่ดินเพิ่มสูงมากขึ้น โดยที่ดินตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์จนถึงบริเวณด่านสิงขรเริ่มมีการซื้อขายกันแล้ว แต่ยังมีการเปลี่ยนมือได้ไม่มาก เนื่องจากเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งไม่สามารถซื้อขายได้ ซึ่งต่อไปชาวบ้านอาจจะให้เช่าหรือชาวบ้านอาจจะร่วมลงทุนด้วย

อย่างไรก็ดี เมื่อมีการเปิดด่านถาวรจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของมูลค่าเศรษฐกิจทางการค้าผ่านพิธีศุลกากรของด่านสิงขรเพิ่มจากกว่า 200 ล้านบาทต่อปีในปัจจุบัน เป็นไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาทต่อเดือนหรือปีละไม่ต่ำกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท จากการขนส่งสินค้าประมง 1.5 พันตัน และการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งการที่ไทยจะลงทุนราวกว่า 1 พันล้านบาทนับว่าภายใน 1 ปีก็สามารถคืนทุนได้แล้ว และประเด็นสำคัญคือนับเป็นผลประโยชน์อันมหาศาลของประเทศ โดยในปัจจุบันคนเมียนมาร์ยังได้เดินทางเข้ามาซื้อสินค้าและค้าขายบริเวณชายแดนราววันละกว่า 500 คนถึง 1 พันคน นายวีระ กล่าวในที่สุด

[Mongwin]

น่าเสียดายที่ตอนนี้ทางรถไฟสายทวาย-มะริด หยุดการก่อสร้างไป เนื่องจากมีปัญหาการเวนคืนที่ดินสวนปาล์ม ยางพาราจากชาวบ้านนะครับ

[ksomchai]

ดูระยะทางแล้ว จากมูด่องไปตะนาวศรี ๑๐๐ ก.ม.ระยะใกล้เคียงกับ จากเมืองประจวบฯ ถึงบางสะพาน ครับ ไม่ไกลเลย
จากมูด่องถึงมะริด ประมาณ ๒๐๐ ก.ม.ยังไม่เท่าความยาวของ จ.ประจวบคีรีขันธ์นะครับ อย่างนี้
ถ้าเปิดด่านสิงขรเป็นด่านถาวร สินค้าจากพม่า เข้ามาไทยใกล้กว่า อนาคต จ.ระนองคงจะซบเซาเป็นแน่แท้
_________________