View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42798
Location: NECTEC
|
Posted: 19/08/2014 12:12 pm Post subject: |
|
|
ไม่ทราบว่าจ่ายค่ารถที่ ค้างไว้กะสยามโบกี้แล้วหรือยังครับ
บ.สยามโบกี้โวยร.ฟ.ท.เบี้ยวค่ารถ
ข่าวสดรายวัน
ปีที่ 19 ฉบับที่ 6914
วันที่ 03 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
นายอารัมภ์ รมยานนท์ รองประธานกรรม การบริษัท สยามโบกี้ จำกัด เปิดเผยภายหลังการเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เรื่องการถูกกลั่นแกล้งว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ด้วยการถ่วงเวลาไม่ยอมจ่ายเงินค่ารถบรรทุกตู้สินค้าอีกจำนวน 5,154,078.72 ล้านบาท ว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทสยามโบกี้ได้รับสัญญาว่าจ้าง จากร.ฟ.ท. ให้ซื้อขายรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า จำนวน 112 คัน มูลค่ากว่า 214 ล้านบาท โดยมีกำหนดระยะเวลาการส่งมอบภายใน 12 เดือนนับถัดจากวันรับใบซื้อ ลงวันที่ 28 ก.ย. 50 แต่เนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยจากเหตุการณ์ที่มีพายุไซโคลน ที่ประเทศอินเดีย ทำให้บริษัทตัวแทนไม่สามารถผลิตเครื่องพ่วงได้ เพราะเกิดน้ำท่วมเป็นผลให้ต้องหยุดกระบวนการผลิตเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน บริษัทจึงได้มีหนังสือถึงร.ฟ.ท. เพื่อขอเลื่อนระยะเวลาการส่งมอบสินค้าออกไปอีก 30 วัน ตามเหตุผลดังกล่าว
นายอารัมภ์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ยื่นหนัง สือคำร้องแล้ว ในเบื้องต้นทางร.ฟ.ท.ได้ปฏิบัติตามระเบียบ โดยหักค่าปรับการส่งของล่าช้าเป็นเวลา 16 วัน เป็นเงิน 5,154,078.72 บาทไว้ก่อน ซึ่งทางบริษัทยินยอมให้หักตามระเบียบ เพื่อให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าต่อไป และได้มีการขออุทธรณ์ตามเหตุผลของการล่าช้าไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของบริษัทแต่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ซึ่งทางฝ่ายอาณาบาล ของร.ฟ.ท. ได้มีหนังสือออกมาภายหลัง ว่า ร.ฟ.ท.ไม่มีสิทธิปรับผู้ขายในการส่งมอบสิ่งของล่าช้า ตามสัญญาซื้อขาย ประกอบข้อ 83 ของระเบียบรถไฟว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2544
//------------------------------
รฟท.ล็อกสเปก (อีกแล้ว)
ผู้จัดการ 360 ํ รายสัปดาห์์ ฉบับวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ภาคเอกชนสุดทนกับพฤติกรรมฉาวๆ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่เกือบทุกครั้งของการเปิดประกวดราคา จะต้องมีเรื่องฉาวๆ เกี่ยวข้องด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่าเป็นหมื่นล้าน หรือขนาดย่อมมูลค่าไม่กี่พันล้าน รวมถึงขนาดเล็กมูลค่าหลักร้อยล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ล็อกสเปก เอื้อประโยชน์พวกพ้อง หวังเงินก้อนโตเข้ากระเป๋า โดยไม่ได้สนใจความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ และประชาชน
ล่าสุดบริษัทผู้ร่วมประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกสินค้าหลายราย รวมตัวกันขอร่วมซักค้านร่างทีโออาร์ เพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลในร่างโครงการประกวดราคาซื้อรถโบกี้บรรทุกสินค้า จำนวน 308 คัน มูลค่า 1,700 ล้านบาท
อารัม รมยานนท์ รองกรรมการบริหาร บริษัท สยามโบกี้ จำกัด หนึ่งในผู้ร่วมซักค้าน บอกว่า เงื่อนไขของทีโออาร์ของ รฟท.ไม่เป็นธรรมต่อผู้ร่วมประมูลหลายราย และการซักค้านครั้งนี้ คณะกรรมการยกร่างไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดให้ผู้ร่วมประมูลหายสงสัยได้ สยามโบกี้จึงจะยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอคุ้มครองการประกวดราคาโครงการดังกล่าวไว้ก่อน และจะนำรายละเอียดของทีโออาร์เป็นหลักฐาน เพราะมีข้อเท็จจริงว่า รฟท.กำหนดเงื่อนไขในลักษณะล็อกสเปก และขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ ในการกำหนดเงื่อนไขด้านเทคนิค โดยในร่างทีโออาร์กำหนดยี่ห้อ ซึ่งถือเป็นการล็อกสเปก เข้าข่ายการกระทำผิดตาม พรบ.อาญา มาตรา157 ว่าด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจหน้าที่ปฏิบัติมิชอบ อารัมบอกอีกว่า รฟท.กำหนดเงื่อนไขด้านเทคนิค และอะไหล่เครื่องพ่วงให้กับ 3 ยี่ห้อ คือ ซูมิโตโม ประเทศญี่ปุ่น Amsted อเมริกา และ Keystone อเมริกา ซึ่ง 2 ยี่ห้อหลังปัจจุบันได้ควบรวมกิจการกันแล้ว จึงเหลือเพียง 2 ยี่ห้อ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการปิดกั้นบริษัทที่เสนอยี่ห้อ Besco ซึ่ง ยี่ห้อ Besco เป็นยี่ห้อที่ผ่านการทดสอบว่าใช้งานได้ดี และ รฟท.เองก็ใช้ยี่ห้อดังกล่าวเป็นเครื่องพ่วงรถ 112 คันที่เพิ่งรับมอบในเดือน ต.ค. 2551 อีกทั้งก่อนหน้านี้ รฟท.ก็ใช้เครื่องพ่วงยี่ห้อนี้แล้ว 1,800 ตัว และไม่เคยเกิดปัญหาใดๆ ในประสิทธิภาพของเครื่องพ่วง
นอกจากกำหนดยี่ห้อแล้ว รฟท.ยังกำหนดให้บริษัทที่เข้าร่วมประมูลต้องมีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท ชำระเต็ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้กำหนด ซึ่งถือเป็นการกำหนดเงื่อนไข เพื่อกีดกั้นอีกทางหนึ่ง
ถูกรุมซักค้านจนหาคำตอบไม่ได้ และภาคเอกชนถึงขั้นต้องพึ่งศาลปกครองแล้ว งานนี้ รฟท.ช่วยตอบสังคมให้หายสงสัยซะทีว่า เหตุใดไม่เปิดกว้างผู้ร่วมประมูล
//--------------
หึ่งอีกแล้ว ! ประมูลซื้อหัวรถจักรโชยกลิ่นฉาวหักหัวคิว30%
ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 21:36:41 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบงานประมูลของการรถไฟฯ พบว่า ภายใน 30 กรกฎาคมนี้ จะเปิดให้ยื่นซองประมูลจัดซื้อรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า 308 คัน วงเงิน 770 ล้านบาท มีผู้มาซื้อเอกสาร 21 บริษัท ได้แก่
1)บริษัท China CNR Corporation
2)บริษัท สยามโบกี้ จำกัด
3)บริษัท CSR MEISHAN
4) บริษัท China Shipbuilding&Offshore International (CSOC)
5)กลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท CSR YANGTZE และบริษัท Siam Mechanical Engineering
6)บริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด
7)บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด
8)หจก.พี.เอส.สแปร์พาร์ท
9)บริษัท อิตาเลียนไทยฯ
10)บริษัท BAOJI CSR TIMES ENGINEERING MACHINERY จำกัด
11)บริษัท CETC INTERNATION จำกัด และบริษัท UGL RAIL SERVICEPTY จำกัด
12)กิจการร่วมค้าเอสพีเค
13)บริษัท EIC ZHONGGHE จอยต์เวนเจอร์
14)บริษัท ซันยู คิโย จำกัด
15)บริษัท TITAGARHWAGONS จำกัด
16)บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี่ จำกัด
17)บริษัท CSR YANGTZE จำกัด
18)บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์โซลูชั่น จำกัด
19)บริษัท KORAIL- SUNGSHIN RST CONSORTIUM
20)บริษัท CHINA RAILWAY BAOJI MACHINERT จำกัด และ
21)บริษัท เอเชียเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
//-----------
บอร์ดรถไฟฯ สั่งทบทวนซื้อ โบกี้ 308 คัน 770 ล้าน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
11 สิงหาคม 2557 เวลา 21:24:43 น.
วันที่ 11 ส.ค. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด)การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่าที่ประชุมได้สั่งให้ทบทวนคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างพิจารณาโครงการ จัดหาโบกี้ขนสินค้า (แคร่) 308 คัน พร้อมอะไหล่ 9 รายการ วงเงิน 770 ล้านบาทอีกครั้ง หลังจากได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีข้อสงสัย 2 ประเด็นคือ
1) ความน่าเชื่อถือของบริษัทสยามโบกี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้ผ่านการยื่นซอง 12 ราย และ
2) คำนิยามของสัญญาว่าจ้างเกี่ยวกับสเป็กของโบกี้ นั้นหมายความว่าอย่างไร และให้สรุปข้อมูลทั้งหมดเสนอที่ประชุมบอร์ดรถไฟฯครั้งต่อไป ในวันที่ 19 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้บริษัท ซิโน-กลอรี่ รีสอร์ท เช่ารางรถไฟสำหรับใช้ขนส่งสินค้า ตั้งแต่สถานีท่านาแล้ง-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 719กม. โดยมีสัมปทาน 25 ปี เริ่มต้นปี 58 ซึ่งร.ฟ.ท.จะมีรายได้จากค่าเช่าเฉลี่ยปีละ 603 ล้านบาท สำหรับแผนการซ่อมใหญ่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ของบริษัทรถไฟฟ้าร.ฟ.ท.จำกัด ขณะนี้บริษัทฯยังไม่ได้ส่งมา แต่เพื่อความปลอดภัยในการให้บริการแก่ผู้โดยสารจะต้องมีการลดความเร็วลงใน ช่วงที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อการให้บริการแต่อย่างใด
//--------
nathapong wrote: | Wisarut wrote: | ^^^
หวยจะออกสยามโบกี้อีกเป็นคำรบ 2 หรือเปล่าหละหว่า |
หวยที่ออก คือ มีคดีไปศาลปกครองอีกรอบเหรอ เฮีย |
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42798
Location: NECTEC
|
Posted: 20/08/2014 11:19 am Post subject: |
|
|
บอร์ด ร.ฟ.ท. ไฟเขียวซื้อโบกี้ใหม่- เร่งทำทีโออาร์ซ่อมแอร์พอร์ตลิงค์
โดย ปาจารีย์ พวงศรี
ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2014 เวลา 08:23 น.
บอร์ดรฟท. ไฟเขียวจัดซื้อโบกี้ขนสินค้า 308 คัน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ส.ค. 2557 09:39
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. ได้เห็นชอบการจัดซื้อโบกี้ขนสินค้า (แคร่) 308 คัน พร้อมอะไหล่ 9 รายการ วงเงิน 770 ล้านบาท พร้อมทั้งอนุมัติให้เซ็นสัญญากับกิจการร่วมค้าบีบีซี ประกอบด้วย บริษัทเขาหลักแบมบู ออคิด , บริษัทร่วมมิตรเหมืองแร่ และบริษัทไชน่า เรียลเวย์ คอนสตรัคชั่น ผู้ชนะประมูลโครงการจัดหารถรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์(รถโดยสาร) จำนวน 115 คัน มูลค่า4,981 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จัดทำร่างทีโออาร์ประกวดราคาหาผู้ดำเนินการซ่อมระบบรถไฟฟ้าด้วยระบบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีอ๊อคชั่น) โดยจะต้องดำเนินการจัดจ้างให้ได้เอกชนผู้เข้ามาดำเนินงานภายใน 100 วัน ซ่อมระบบทั้งสิ้น 15 ระบบ บวกอีก 2 ระบบคือ ระบบเบรก และระบบ V-Mount วงเงินรวมทั้งสิ้น 385.94 ล้านบาท
ส่วนการสรรหา ผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่นั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานสรรหา โดยคาดว่าจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 26 ส.ค.-11 ก.ย. 2557 และได้ผู้สมัคร จากนั้นจะใช้เวลาคัดเลือก และได้ตัวผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่ แทนนายประภัสร์ จงสงวน ในเดือนต.ค.นี้
//----------------------------- |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42798
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44978
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/08/2014 8:27 pm Post subject: |
|
|
บอร์ดรถไฟ ปรับแผนซื้อรถจักรดีเซล 30 คัน ค่า 3.36 พัน ล. แทนการซ่อม
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 27 ส.ค. 2557 20:02
บอร์ดรถไฟ ไฟเขียวจัดซื้อรถจักรดีเซลไฟฟ้า 16 ตันเพลา พร้อมอะไหล่ 30 คัน มูลค่า 3.36 พันล้าน หลังล่าช้ากว่า 3 ปี เห็นชอบใบแอลซีจ่ายค่าหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า 20 ตันเพลา คาดจีนส่งมอบ 2 คันแรก ต.ค.นี้...
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟท.มีมติอนุมัติให้ รฟท.ดำเนินโครงการจัดซื้อจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนัก 16 ตันเพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 30 คัน แทนโครงการจ้างซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตอม (Alsthom) จำนวน 56 คัน ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 3,360 ล้านบาทเท่าเดิม หลังคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ (คตร.) และ รฟท.ได้ชี้แจงข้อมูลเห็นตรงกันว่า การซ่อมบูรณะรถจักรอัลสตอม 56 คันไม่คุ้มค่า เนื่องจากรถเดิมมีสภาพเก่ามาก โดยให้ รฟท.เร่งปรับปรุงรายละเอียดด้านเทคนิคและจัดทำร่างทีโออาร์ประกวดราคา เพื่อนำเสนอให้ คตร.ตรวจสอบ ก่อนเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป เนื่องจากโครงการล่าช้ามากว่า 3 ปีแล้ว
นอกจากนี้ บอร์ด รฟท.ยังเห็นชอบการออกหนังสือค้ำประกันระหว่างประเทศ (L/C:Letters of Credit) กับธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) ในการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ขนาด 20 ตันเพลา จำนวน 20 คัน พร้อมอะไหล่มูลค่า 3,300 ล้านบาท โดยมีค่าธรรมเนียม 0.1% ของวงเงินโครงการ และให้ปรับเงื่อนไขสัญญาเดิมที่ให้จ่ายเงินผ่านผู้ขายเป็นจ่ายตรงกับผู้ผลิต คือ โรงงาน Qishuyuan ประเทศจีน ซึ่งคาดว่ารถจักร 2 คันแรกจะส่งมอบภายในเดือนตุลาคม 57 ล่าช้ากว่าเดิมที่จะส่งมอบในเดือนสิงหาคม 57
ขณะเดียวกันบอร์ด รฟท.ยังรับทราบการแก้ไขเปลี่ยนแปลง การสั่งซื้ออะไหล่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ในส่วนอะไหล่ปฏิบัติการหลัก จำนวน 4 รายการ จำนวน 492 รายการ มูลค่า 109.48 ล้านบาท เนื่องจากเขียนตัวเลขกำกับรายการอะไหล่ผิด และอนุมัติให้ รฟท.เสนอโครงการขอติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมวงเงิน 2,200 ล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคม และ ครม.เห็นชอบ ซึ่งเป็นโครงการเดิมตามแผนลงทุน 1.7 แสนล้านบาท. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42798
Location: NECTEC
|
Posted: 28/08/2014 12:52 am Post subject: |
|
|
บอร์ด ร.ฟ.ท.ไฟเขียวซื้อรถจักร30 คัน แทนโครงการซ่อมอัลสตอม 56 คันเหตุไม่คุ้มค่า
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2557 18:19 น.
บอร์ดร.ฟ.ท.อนุมัติเปลี่ยนโครงการซ่อมหัวรถจักรอัสตอม56 คันเป็นซื้อ เหลือ 30 คัน วงเงิน 3,360 ล.เท่าเดิมเหตุซ่อมไม่คุ้ม
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดร.ฟ.ท.วานนี้ (27 ส.ค.) มีมติอนุมัติให้ ร.ฟ.ทดำเนินโครงการจัดซื้อจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้า น้ำหนักกดเพลา 16 ตันเพลา พร้อมอะไหล่จำนวน 30 คัน แทนโครงการจ้างซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตอม (Alsthom) จำนวน 56 คัน ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 3,360 ล้านบาทเท่าเดิมซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนตามข้อสังเกตุหลังคณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ (คตร.) และร.ฟ.ท.ได้ชี้แจงข้อมูลเห็นตรงกันว่า การซ่อมบูรณะรถจักรอัลสตอม 56 คันไม่คุ้มค่าเนื่องจากรถเดิมมีสภาพเก่ามาก โดยให้ร.ฟ.ท.เร่งปรับปรุงรายละเอียดด้านเทคนิคและจัดทำร่างทีโออาร์ประกวดราคาเพื่อนำเสนอให้คตร.ตรวจสอบก่อนเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป เนื่องจากโครงการ่าช้ามาว่า 3 ปี
นอกจากหนี้บอร์ดยังเห็นชอบการออกหนังสือค้ำประกันระหว่างประเทศ ( L/C :(Letters of Credit) กับธนาคาร ธนชาติ จำกัด (มหาชน) ในการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ขนาด 20 ตันเพลา จำนวน 20 คัน พร้อมอะไหล่มูลค่า 3,300 ล้านบาท โดยมีค่าธรรใเนียม 0.1% ของวงเงินโครงการ และให้ปรับเงื่อนไขสัญญาเดิมที่ให้จ่ายเงินผ่านผู้ขายเป็นจ่ายตรงกับผู้ผลิตคือ โรงงาน Qishuyuan ประเทศจีน ซึ่งคาดว่ารถจักร 2 คันแรกจะส่งมอบภายในเดือนตุลาคม 57 ล่าช้ากว่าเดิมที่จะส่งมอบในเดือนสิงหาคม ประมาณ 2 เดือน
นายออมสินกล่าวว่า บอร์ดยังรับทราบการแก้ไขเปลี่ยนแปลงการสั่งซื้ออะไหล่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ในส่วนอะไหล่ปฎิบัติการหลัก จำนวน 4 รายการ จำนวน 492 รายการ มูลค่า 109.48 ล้าบาทเนื่องจากเขียนตัวเลขกำกับรายการอะไหล่ผิดและอนุมัติให้ร.ฟ.ท. เสนอโครงการขอติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม วงเงิน 2,200 ล้านบาทให้ กระทรวงคมนาคมและครมเห็นชอบ ซึ่งเป็นโครงการเดิมตามแผนลงทุน1.7 แสนล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
unique
3rd Class Pass (Air)
Joined: 12/09/2006 Posts: 258
Location: กทม.
|
Posted: 28/08/2014 4:03 am Post subject: |
|
|
ไม่คุ้มเพราะสภาพเก่ามาก ถ้าตอบว่ามีอัตราการใช้เชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า น่าจะฟังเข้าท่ามากกว่า หรือว่าอีกสักระยะจะให้ข่าวใหม่ตามคำพูดของผมก็ไม่รู้ซินะ จะพูดลอยๆใครที่ไหนก็พูดได้ครับแต่ถ้ามีFact sheetที่ไม่Fakeประกอบด้วยก็จะยอดเยี่ยมมาก แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าอัลสตอมเป็นรถจักรที่ช่างแทบจะปิดตาซ่อมได้ รู้ข้อดีข้อเสียมากกว่าไฝบนหลังของเมียซะอีก อย่างไรก็ตามเห็นขบวนรถไฟฟรี บางขบวนมีไม่เกิน 5 โบกี้ แต่รถจักรที่ใช้เท่าที่เหลือรถก็เป็นรถจักรใหญ่ๆเกือบทั้งนั้น รถจักรดีเซลไฮดรอลิกขนาดกลางๆแทบไม่เหลือ คุ้มค่ามั้ย? จะบริหารจัดการอย่างไรให้คุ้มค่า? คิดถึงจุดนี้กันบางรึป่าว จะทำไงให้ต้นทุนในการดำเนินงานที่ต่ำกว่า? ผมไม่เห็นSenseของผู้บริหารในเรื่องเหล่านี้เลย เห็นแต่เรื่องสร้างEventชงโครงการซื้อกันอย่างเดียว ถ้าจะมารูปแบบนี้กันจริงๆผมจะแนะนำให้จ้างผู้บริหารคนนึงจากแดนปลาดิบ เค้าคือ Mr. Tsuda ครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42798
Location: NECTEC
|
Posted: 28/08/2014 9:37 am Post subject: |
|
|
^^^
รถจักรอายุเกิน 25 ปีถือว่าต้องปลดเกษียนแล้ว เคยคุยกะคน KTMB เขาพากันตะลึงว่เราใช้รถจักรยีอี กันตั้ง 50 ปี รถจักรอัลสตอมกันเกือบ 40 ปีได้อย่างไร |
|
Back to top |
|
|
casanotoey
3rd Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 412
|
Posted: 28/08/2014 1:31 pm Post subject: |
|
|
ยังมีอีกครับ โบกี้ปั้นจั่นกล ของเราบางแขวง ยังเป็นไอน้ำอยู่เลย ยังใช้งานได้ดีจนทุกวันนี้ |
|
Back to top |
|
|
Tohoku_Line
3rd Class Pass
Joined: 08/04/2010 Posts: 193
Location: Bangkok/Ubonratchathani
|
Posted: 29/08/2014 1:42 am Post subject: |
|
|
^
^
แบบนี้แสดงว่าถ้าเป็นไปตามนี้จริงเราจะมีรถจักรใหม่ 3 ชุดด้วยกันสินะครับ
1. รถจักร 20 ตัน 20 คัน
2. รถจักร 16 ตัน 50 คัน ที่ชะลอการประมูลเพื่อการตรวจสอบอยู่
3. รถจักร 16 ตัน 30 คัน (ทดแทนโครงการซ่อมรถจักร Alsthom 56 คัน)
คิดภาพตามแล้วดูดีจังนะครับ จะมีรถจักรใหม่ตั้ง 100 คัน แต่คงดีกว่านี้ถ้ารถจักร 16 ตัน 80 คันไม่ใช่รถจักรจีน
น่าจะลองเอาโอกาสนี้เจรจากับผู้ผลิตทางญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรปเผื่อจะสนใจเสนอราคาที่พอสู้กับทางจีนได้
คุยดีๆลองชวนมาตั้งโรงงานประกอบรถจักรในเมืองไทยเพื่อเป็นฐานส่งขายย่านนี้ก็ยังได้เลย
Wisarut wrote: | ^^^
คงจะมีปัญหาเรื่องการจ่ายค่า Shipping เลย ต้องรอหน่อยแต่ได้ยินว่าปลายสิงหาคมศกนี้หละมาแน่นอน 2 หลังแรก |
เห็นว่าล่าช้าออกไปตั้ง 3 เดือน กว่าจะส่งมอบได้ก็เดือนตุลาคม
ชะรอยว่างานนี้จะไม่ใช่ปัญหาเรื่อง shipping แต่น่าจะเป็นเพราะผลิตไม่ทันตามกำหนดเสียมากกว่าล่ะมั้งครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42798
Location: NECTEC
|
Posted: 29/08/2014 1:55 am Post subject: |
|
|
Tohoku_Line wrote: |
เห็นว่าล่าช้าออกไปตั้ง 3 เดือน กว่าจะส่งมอบได้ก็เดือนตุลาคม
ชะรอยว่างานนี้จะไม่ใช่ปัญหาเรื่อง shipping แต่น่าจะเป็นเพราะผลิตไม่ทันตามกำหนดเสียมากกว่าล่ะมั้งครับ |
ล่าสุด บอร์ดรถไฟ เพิ่งอนุมัติ Letter of Credit มูลค่า 3300 ล้านบาท ของธนาคารธนชาตที่จ่ายตรงให้ CSR Qishuyan เมื่อวานนี้เอง แสดงว่าที่ล่าช้ามา 3 เดือนก็เพราะ ปัญหา เงินขลุกขลักเลย ไม่มีเงินจะจ่ายค่า shipping รถจักรอย่างไม่ต้องสงสัยเลยเชียวหละ
//--------------------------------------------------------------
คมนาคมสั่งจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า 6 พันล้าน
โดย ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์
ข่าวเศรษฐกิจ
สปริงนิวส์
28 สิงหาคม 2557 เวลา 17:40 น.
กระทรวงคมนาคมสั่งการรถไฟฯ เร่งดำเนินการจัดทำเอกสารประกวดราคา โครงการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าแทนหัวรถจักรจีอี 50 คัน มูลค่าโครงการ 6,600 ล้านบาท
นายชาญชัย สุวิสุทธะกุล รองปลัดกระทรวงคมนาคม เผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด ร.ฟ.ท. ได้อนุมัติออกหนังสือค้ำประกันระหว่างประเทศหรือแอลซีผ่านทางธนาคารธนชาติ ในการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลาจำนวน 20 คัน พร้อมอะไหล่มูลค่า 3,300 ล้านบาท รวมถึงอนุมัติเห็นชอบให้ซื้อหัวรถจักรน้ำหนักกดเพลา 16 ตันต่อเพลาจำนวน 30 คัน พร้อมอะไหล่วงเงิน 3,360 ล้านบาท แทนการซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลรถไฟฟ้าอัลสตรอมจำนวน 56 คัน
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงานทางกระทรวงคมนาคมจึงสั่งการให้ ร.ฟ.ท. เร่งดำเนินการโครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ทดแทนหัวรถจักรจีอีจำนวน 50 คัน รวมมูลค่าโครงการประมาณ 6,600 ล้านบาทตามมติของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบ การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่สั่งให้กลับมาแก้ไขเรื่องการจัดทำราคากลางและทำร่างเอกสารการประกวดราคา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขของคณะกรรมการร่างขอบเขตงาน เพื่อเสนอให้บอร์ด ร.ฟ.ท.พิจารณาในเดือนตุลาคม 2557 และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการประกวดราคาได้ในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ เชื่อว่าหากการพัฒนาระบบรางเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จะทำให้การขนส่งและเดินทางด้วยระบบรางในอีก 5 ปีข้างหน้ามีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 1.5 โดยเฉพาะการพัฒนารถไฟทางคู่ระยะทาง 887 กิโลเมตรคิดเป็นวงเงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท น่าจะทำให้ความเจริญกระจายไปสู่ต่างจังหวัด ซึ่งจะเป็นการยกระดับรายได้ให้กับชุมชนในประเทศ |
|
Back to top |
|
|
|