ข่าวแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 2558-65

[Mongwin]

'ประจิน'ลงพื้นที่หนองคายประชุมรถไฟไทย-จีน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 11 มีนาคม 2558, 09:56

"พล.อ.อ.ประจิน" รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ หนองคาย ประชุม รถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 3

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้แทนฝ่ายจีน มีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อสำรวจเส้นทางการก่อสร้างโครงการรถไฟไทย-จีน พร้อมทั้งประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงการรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 3 โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บริหารจังหวัด และองค์กรส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมบุศยรินทร์ จังหวัดหนองคาย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการประชุมแล้วเสร็จ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทนฝ่ายจีน จะร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุม จากนั้นจะนำคณะทำงานทั้ง 2 ฝ่าย ลงพื้นที่เยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟแห่งใหม่ เพื่อเชื่อมทางรถไฟ ระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์

[Wisarut]

สรุปรถไฟไทย-จีนใช้รูปแบบ "อีพีซี"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
11 มีนาคม 2558 เวลา 11:00:08 น.


เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่กระทรวงคมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ว่า ที่ประชุมร่วมกันหารือถึงความร่วมมือด้านรถไฟที่แบ่งการดำเนินงานเป็น 4 ช่วง คือ ช่วงที่ 1-2 เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย และแก่งคอย-มาบตาพุด ช่วงที่ 3-4 เส้นทางแก่งคอย-นครราชสีมา และนครราชสีมา-หนองคาย โดยมีข้อสรุป คือ ยืนยันความร่วมมือในรูปแบบอีพีซี (ระบบการก่อสร้างแบบเบ็ดเสร็จ) โดยรัฐบาลไทยเป็นเจ้าของโครงการ ส่วนจีนจะออกแบบจัดหาระบบและก่อสร้าง จัดหาเครื่องมือและส่งเจ้าหน้าที่พิเศษลงพื้นที่ โดยแบ่งความรับผิดชอบให้ฝ่ายไทยดูแลเรื่องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การเวนคืนที่ดินเพื่อสนับสนุนการสำรวจของฝ่ายจีนและจุดที่ตั้งสถานี

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า สำหรับสัดส่วนการร่วมทุนจะพิจารณาจากเนื้องานเป็นหลัก หากเป็นงานด้านโครงสร้างพื้นฐานฝ่ายไทยจะรับผิดชอบ 2 ใน 3 ส่วนการวางระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณ การควบคุมเดินรถการสื่อสาร และระบบความปลอดภัย ฝ่ายจีนจะรับผิดชอบเป็นหลัก 2 ใน 3 หลังจากกำหนดเนื้องานเพื่อดูฐานเงินแล้ว แต่รายละเอียดกรอบวงเงินที่ชัดเจนจะต้องรอผลการศึกษาสำรวจเส้นทางและการออกแบบก่อน ซึ่งเบื้องต้นจะรู้ผลในเดือนสิงหาคมนี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม กล่าวว่า สำหรับรูปแบบการลงทุน ในส่วนของการก่อสร้างใช้รูปแบบอีพีซี ส่วนเดินรถจะเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างไทย-จีน ขณะที่แหล่งเงินจะระดมทุนหลายรูปแบบ แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ
1.การเวนคืนที่ดินจะใช้เงินงบประมาณ
2.การก่อสร้างจะใช้เงินกู้ภายในประเทศ
3. ระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้าไอที และเทคโนโลยีต่างๆ จะใช้เงินกู้จากจีน เพราะต้องสั่งซื้อสินค้าจากจีน และ
4.จัดตั้งบริษัทร่วมทุน สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้จากจีนนั้นฝ่ายไทยยืนยันขอดอกเบี้ยต่ำที่สุด เพราะเป็นโครงการแรกที่เป็นความร่วมมือของสองประเทศ คือ ต้องการได้ต่ำกว่าร้อยละ 2 ส่วนระยะเวลาชำระหนี้คืนทางจีนเสนอ 20 ปี และปลอดหนี้ 5-7 ปี ฝ่ายไทยต่อรองขอเป็นใช้คืน 25-30 ปี ปลอดหนี้ 7-10 ปี รวมทั้งต่อรองขอลดค่าธรรมเนียมการกู้และค่าทำสัญญาเงินกู้ จากร้อยละ 0.5 ให้ลดลงอีก ซึ่งฝ่ายจีนขอรับไปพิจารณาอีกครั้ง

[Mongwin]

“ประจิน” นำคณะหารือร่วมสร้างรถไฟไทย-จีน‏
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2558 16:24 น.)

มหาสารคาม - รมว.คมนาคมของไทยนำหารือร่วมกับคณะจีน โครงการสร้างทางรถไฟขนาดมาตรฐานสายหนองคาย-กรุงเทพฯ พร้อมดันสายหนองคาย-มาบตาพุด มั่นใจอนาคตเส้นทางรถไฟจากคุนหมิง ผ่านเวียงจันทน์ เข้าหนองคาย ทะลุมาบตาพุด เกิดแน่ รองรับการขนส่งสินค้าสู่เอเชีย ลดต้นทุนการขนส่ง พร้อมดันแผนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือสากลของเอเชียแปซิฟิก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมบุศยรินทร์ อ.เมืองหนองคาย ได้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 3 โดย พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะของไทยประชุมร่วมกับนายหวัง หมิน (Huang Min) รองกรรมการผู้จัดการบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น (Deputy General Manager China Railway Corporation) ซึ่งหลังจากร่วมประชุมคณะทั้งหมดได้ไปดูพื้นที่ก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟแห่งใหม่เพื่อเชื่อมทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก ทั้งในฝ่ายของไทย และฝ่ายจีน รวมถึงได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายที่กรุงเทพฯ จากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันเพื่อร่วมกันผลักดันสร้างทางรถไฟขนาดมาตรฐาน ความเร็ว 168 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เส้นทางที่ร่วมกันคือ หนองคาย-อุดรธานี-ขอนแก่น-นครราชสีมา-สระบุรี-กรุงเทพฯ จากนั้นจะแยกออกไป แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 870 กิโลเมตร

นับเป็นเส้นทางเชื่อมโยงภาคอีสานกับภาคกลางเข้าด้วยกัน ในอนาคตทราบว่ารัฐบาลจีนมีแผนสร้างเส้นทางรถไฟทางมาตรฐาน จากคุนหมิงมายังนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อมายังจังหวัดหนองคายได้ หลังจากการหารือร่วมในครั้งที่ 3 นี้ทั้งสองฝ่ายจะนำเข้าสู่การทำบันทึกความเข้าใจร่วมกัน

ด้านนายหวัง หมิน รองกรรมการผู้จัดการบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะบรรจุแผนพัฒนาจังหวัดหนองคายเข้าไปในแผนงานสำคัญด้านลอจิสติกส์ และอยู่ระหว่างการหารือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน การสร้างทางรถไฟหนองคาย-กรุงเทพฯ-มาบตาพุด จะมีประโยชน์ต่อประเทศไทยและกลุ่มอาเซียนเป็นอย่างมาก เส้นทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเชื่อมต่อภาคอีสาน กรุงเทพฯ และท่าเรือเข้าด้วยกันแล้ว ยังอยู่ในเส้นทางส่วนประกอบแห่งเอเชียด้วย

ทางการจีนวางแผนสร้างรถไฟจากคุนหมิง หรือยูนนาน มาเวียงจันทน์ เข้าหนองคาย สู่กรุงเทพฯ และสิ้นสุดที่ระยอง ช่องทางนี้จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต หลังจากสร้างเส้นทางรถไฟสายนี้เสร็จ ทั้งจีน ลาว และไทย 3 ประเทศนี้จะกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าทางรถยนต์ และเครื่องบินได้เป็นอย่างมาก

ในส่วนของท่าเรือของจีน ซึ่งมี 7 ท่าเรือใหญ่ระดับโลก ปริมาณสินค้าขนส่งมากกว่า 8,000 ล้านตัน หรือร้อยละ 70 นำสินค้าออกสู่ยุโรป เอเชีย และอเมริกา โดยผ่านท่าเรือเหล่านี้ เป็นผลผลิตจากทางตะวันตกของจีน ปัจจุบันภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีประชากรหลายร้อยล้านคน จีดีพีหมื่นล้านหยวน สินค้าเหล่านี้ถ้าขนผ่านท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ระยะทาง 200 กิโลเมตรขึ้นไป ถ้าผ่านทะเลใต้ของจีนจะมีอีกหลายพันกิโลเมตร

หลังจากเส้นทางนี้สร้างเสร็จอยากพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดเป็นท่าเรือสากล สินค้าจีนสามารถผ่านทางนี้ได้ จะเป็นการช่วยกระชับระยะทางและช่วยลดต้นทุน หากมีการนำสินค้าผ่านทั้งรถไฟและทางเรือร่วมกัน

ทั้งนี้ เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเชื่อมทางรถไฟจากจีน เวียงจันทน์ หนองคาย มาบตาพุดเสร็จ นำสินค้าลงเรือมาบตาพุดได้จะเป็นมิติใหม่ของเอเชียแปซิฟิก จ.ระยองจะเป็นเมืองลอจิสติกส์ที่สำคัญมากกว่าที่เป็นอยู่

[Wisarut]

รถไฟทางคู่ ไทย-จีน ใครเสียเปรียบ?
by Phakaphong Udomkalayalux
Voice TV
10 มีนาคม 2558 เวลา 18:26 น.

การก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ระหว่างไทยและจีน วงเงิน 4 แสนล้านบาท ถือเป็นโครงการลงทุนระหว่างประเทศด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ หลายฝ่ายมองว่า โครงการนี้จะทำให้ไทยเสียประโยชน์หรือไม่ เมื่อต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของจีน

//------------------------------------------------------

ไทยยันถือหุ้นเกินครึ่งบริษัทร่วมทุนเดินรถไฟไทย-จีน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
11 มีนาคม 2558 20:11 น. (แก้ไขล่าสุด 12 มีนาคม 2558 09:59 น.)


“คมนาคม” เตรียมเสนอ ครม.มี.ค.นี้ ขออนุมัติงบจ้างที่ปรึกษาลุยงานรถไฟไทย-จีน ทั้งด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประเมินค่าเวนคืน ที่ปรึกษาโครงการ “ประจิน” เผยผลหารือครั้งที่ 3 ที่ จ.หนองคาย พาคณะจีนดูพื้นที่เชื่อมลาว วางแผนตั้งบริษัทร่วมทุนเดินรถ ไทยถือหุ้นเกินครึ่งโดย ร.ฟ.ท.ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 30% ส่วนเงินลงทุนกู้หลายแหล่งเป็น Multi Finance รอคำตอบจีนยอมลดดอกเบี้ยแค่ไหน พร้อมนัดหารือครั้งที่ 4 ที่คุนหมิง 6-8 พ.ค.นี้

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับผู้แทนรัฐบาลจีน เพื่อการร่วมลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่ รางมาตรฐาน (Standard Gauge) เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 873 กม. ครั้งที่ 3 ที่ จ.หนองคาย วันนี้ (11 มี.ค.) ว่า กระทรวงคมนาคมจะรายงานผลการหารือรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 1-3 ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ พร้อมกับเสนอของบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายของสำนักงานบริหารโครงการรถไฟไทย-จีน (สบร.), งบว่าจ้างที่ปรึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ปรึกษาประเมินทรัพย์สินเพื่อจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ที่ปรึกษาบริหารโครงการ ที่ปรึกษาประเมินมูลค่าโครงการ โดยอยู่ระหว่างสรุปวงเงินรวมที่จะเสนอของบประมาณ

โดยในวันที่ 12 มีนาคมจะลงนาม MOC กับจีน ซึ่งสาระจะเป็นการสรุปผลการหารือครั้งที่ 1-3 ซึ่งมีความชัดเจนเรื่องความร่วมมือแบบ EPC โดยแบ่งงานเป็น 3 ส่วน คือ 1. งานก่อสร้างฐานราก ไทยเป็นผู้รับผิดชอบหลัก งานก่อสร้างที่ผ่านเขา อุโมงค์ และสะพาน ซึ่งใช้เทคโนโลยีสูง ฝ่ายจีนเป็นหลัก งานระบบสนับสนุน (Power Supply) ไทยเป็นหลัก 2. ระบบราง อาณัติสัญญาณ ระบบรถ จีนเป็นหลัก 3. งานเดินรถและซ่อมบำรุง จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา โดยไทยถือหุ้นมากกว่า โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 30% รวมกับบริษัทไทยอีก 30% ส่วนจีน 40% โดยการจัดตั้งบริษัทเดินรถจะมีความชัดเจนช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 58 ส่วนการบริหารจะแบ่งความรับผิดชอบเป็น 3 ช่วง โดยช่วง 1-3 ปีแรกจีนจะเป็นหลักพร้อมกับฝึกอบรมและถ่ายโอนเทคโนโลยีให้ไทย ช่วงปีที่ 4-7 ไทย-จีนจะร่วมกันบริหาร 50:50 ช่วงปีที่ 7 ขึ้นไปไทยจะรับงานเดินรถมาดำเนินการเอง โดยฝ่ายจีนจะเป็นที่ปรึกษา

ส่วนเรื่องแหล่งเงินนั้นจะใช้หลายรูปแบบ (Multi Finance) จากหลายแหล่ง โดยจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินใช้งบประมาณ, งานก่อสร้าง กู้ในประเทศหรือระดมทุน ออกพันธบัตร หรือตั้งกองทุนอินฟราฯ ภายในประเทศ, งานระบบราง รถไฟฟ้า ใช้เงินกู้จีน เงื่อนไขผ่อนปรน ซึ่งไทยเสนอขอลดดอกเบี้ยต่ำกว่า 2% และผ่อนชำระมากกว่า 20 ปี โดยทางจีนต้องการรอความชัดเจนเรื่องวงเงินลงทุนหลังสำรวจออกแบบเสร็จก่อนจึงจะสามารถให้คำตอบได้

พร้อมกันนี้ พล.อ.อ.ประจินได้พาคณะผู้แทนจีนดูพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นจุดก่อสร้างสถานีที่เชื่อมต่อกับเวียงจันทน์ ของ สปป.ลาว ที่จะเชื่อมต่อเส้นทางจากจีนลงมา และ จ.หนองคายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และจะเกิดการพัฒนาทั้งด้านท่องเที่ยว การค้าการลงทุน อุตสาหกรรมตลอดเส้นทาง และยังได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้ารับฟังข้อมูลแผนงานเพื่อนำไปสื่อสารให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการอีกด้วย เนื่องจากอาจจะต้องมีการเวนคืนพื้นที่ใหม่เพื่อก่อสร้างเป็นสถานีกรณีที่สถานีรถไฟเดิมไม่สามารถรองรับรางขนาด 1.435 เมตรได้

“หนองคายจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับลาว และมีศูนย์บริการขนส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูง (High Value) จะเกิดการพัฒนาเมือง ชุมชนโดยรอบ อีกทั้งยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเป็นศูนย์กลางในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง จะมีการเดินทางทั้งท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าเพิ่ม เป็นศูนย์กลางด้านลอจิสติกส์เชื่อมจีนผ่านลาว ไทยสู่อาเซียน” พล.อ.อ.ประจินกล่าว

สำหรับการหารือในครั้งที่ 4 กำหนดวันที่ 6-8 พฤษภาคมที่คุนหมิง ประเทศจีน โดยจะมีการติดตามความก้าวหน้าการทำงานของทั้งฝ่ายไทยและจีน ในส่วนที่แต่ละฝ่ายรับผิดชอบ พร้อมกันนี้ภายในเดือนพฤษภาคมจะมีความชัดเจน
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=UIMfcdonf38

[Wisarut]

จะสร้างทางรถไฟไปเพชรบูรณ์ให้ได้
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=v5M3CWVpMUQ

[Wisarut]

'ประจิน' ลงนามความร่วมมือรถไฟไทย-จีน
ข่าวเศรษฐกิจ
INN News
วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2558 12:20น.

รมว.คมนาคม ลงนามความร่วมมือรถไฟไทย-จีน ขณะ 6-8 พฤษภาคม ประชุมครั้งที่ 4 เมืองคุณหมิง

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 3 ร่วมกับ นายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า การลงนามในวันนี้เป็นการลงนามเพื่อสรุปผลการประชุมในวันที่ 10-11 มีนาคมที่ผ่านมา ที่มีการสรุปรูปแบบความร่วมมือการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ หรือ EPC พร้อมแบ่งหน้าที่ในการรับผิดชอบ โดยฝ่ายไทยจะรับผิดชอบในส่วนของการวางฐานราก และ Power supply ขณะที่จีนจะรับผิดชอบของเส้นทางบริเวณที่เป็นหุบเขา เนื่องจากจะต้องใช้เทคโนโลยีของจีน ส่วนด้านการเดินรถและการบำรุงรักษา จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนของ 2 ฝ่ายแบ่งการดำเนินการเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรกระยะปีที่ 1-3 จีนจะเป็นผู้ดำเนินการเดินรถ ช่วงที่ 2 ระยะปีที่ 4-7 ไทย-จีน จะเป็นการดำเนินการร่วมกัน และตั้งแต่ปีที่ 7 เป็นต้นไป ไทยจะรับเป็นผู้ดำเนินการ

ทั้งนี้ ได้กำหนดการจัดประชุมในครั้งที่ 4 เมืองคุณหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 6-8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะมีการหารือถึงความก้าวหน้าของโครงการ ข้อตกลงทางด้านการเงิน รูปแบบการร่วมทุนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน

//----------------

"บิ๊กจิน"ลงนามความร่วมมือรถไฟไทย-จีน พร้อมแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
12 มีนาคม 2558 12:46 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ร่วมลงนามกับนาย หวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน ในบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่าง ไทย-จีน ครั้งที่ 3 ภายหลังการสรุปรูปแบบการลงทุนและแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งฝ่ายไทยจะวางฐานราก และพาวเวอร์ซัพพลาย ส่วนจีนจะรับผิดชอบเส้นทางบริเวณที่เป็นหุบเขา ที่ต้องใช้เทคโนโลยีของจีน ส่วนการเดินรถการบำรุงรักษา จะจัดตั้งบริษัทร่วมลุงทุนของ 2 ฝ่าย แบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกระยะการดำเนินงานปีที่ 1-3 จีนจะเป็นผู้เดินรถ ช่วงที่ 2 ปี 4-7 ไทย และจีนจะดำเนินงานร่วมกัน และตั้งแต่ ปีที่ 7 เป็นต้นไป ไทยจะรับดำเนินการเอง

//-----------------

'ประจิน'ให้'รฟท.'เป็นแม่งานเดินรถไฟทางคู่
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 12 มีนาคม 2558, 13:42

"พล.อ.อ.ประจิน" ให้ รฟท. เป็นแม่งานเดินรถไฟทางคู่รางมาตรฐานไทย-จีน พร้อมดึงภาคเอกชนเข้าร่วม

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมจัดตั้งบริษัทเดินรถไฟฟ้าร่วมทุนระหว่างไทยและจีน เพื่อเดินรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 734 กม. และเส้นทางแก่งคอย-กรุงเทพฯ 133 กม. มีความเร็ว 180 กม./ชม โดยมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เป็นหน่วยงานหลักดูแล และเปิดให้เอกชนที่มีศักยภาพเข้าร่วมด้วย และมีฝ่ายจีนเข้าร่วมทุนด้วย โดยจะให้ รฟท.ถือหุ้น 30% เอกชนไทย 30% และฝ่ายจีนถือ 40% ซึ่งมีเงื่อนไขในช่วง 3 ปีแรกจีนจะเป็นผู้เดินรถเป็นหลัก ปีที่ 4-7 ฝ่ายไทยและจีนเดินรถร่วมกันสัดส่วน 50/50 และหลังจากปีที่ 7 ฝ่ายไทยจะเป็นผู้เดินรถ

"ได้ให้การรถไฟของไทยตั้งทีมพิเศษเพื่อเข้ามาดูแลการเดินรถเส้นทางนี้ และตั้งทีมเอกชน ร่วมกัน เรียกว่า Dream Team ก็จะเป็นการรถไฟยุคใหม่ "รมว.คมนาคมกล่าว

นอกจากนี้ จะมีการบริหารเดินรถให้เชื่อมต่อกับรถไฟในปัจจุบันที่มีขนาดราง 1 เมตร ด้วยซึ่งจะมีการติดตั้งระบบไอทีเพื่อเชื่อมโยงระหว่างระบบรถไฟปัจจุบันกับรถไฟรางมาตรฐาน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมการเดินทางทางรถไฟ จากจีน-ลาว-ไทยและมาเลเซีย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นผลจากการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีนครั้งที่ 3 เมื่อ 10-11 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่แบ่งความร่วมมือเป็น 3 กลุ่ม นอกเหหนือจากงานเดินรถแล้ว มีงานก่อสร้าง (Cilvil Work) ทางฝ่ายไทยจะรับผิดชอบเรื่องเวนคืนที่ดิน ส่วนจีนรับผิดขอบงานสำรวจและออกแบบ และงานวางระบบ ซึ่งไทยจะใช้เทคโนโลยีของจีน ทั้งระบบอาณัติสัญญาณ งานวางราง และระบบที่เกี่ยวข้อง จะนำงบแต่ละกลุ่มมาประเมินกันคาดว่าจะได้ความชัดเจนในส.ค.-ต.ค.นี้

รมว.คมนาคม กล่าวว่า แหล่งเงินลงทุนจะมาจากหลายส่วนได้แก่ งบประมาณ เงินกู้ในประเทศ อาจจะเป็นการออกพันธบัตร หรือจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และส่วนที่เหลือจะเป็นเงินกู้จากจีน ที่จะขอเงื่อนไขพิเศษ แต่หากไม่ได้ฝ่ายไทยจะหาแหล่งเงินสำรองที่อื่น ทั้งในและต่างประเทศ

//---------------------------

เบื้องหลังดีล "มหาเศรษฐีไทย" รุมเมกะโปรเจ็กต์รถไฟความเร็วสูง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2558 เวลา 08:55:13 น.


พลันที่ "บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีมีดำริดึงมหาเศรษฐีไทยลงทุนรถไฟความเร็วสูง เส้นทางเชื่อมกรุงเทพฯ กับเมืองท่องเที่ยว "หัวหิน-พัทยา" ในรูปแบบ PPP และผ่านกองทุนอินฟราฟันด์ ต่อยอดหลังจากเยือนประเทศญี่ปุ่น

"วุฒิชาติ" มือประสานสิบทิศ

คำปรารภของนายกรัฐมนตรีกลายเป็นจุดเริ่มต้นสู่แผนปฏิบัติ โดยทีมงาน "บิ๊กตู่"ประสานมายัง "บิ๊กจิน-พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" รมว.คมนาคมเจ้าของโปรเจ็กต์ ในการพบปะหารือกับบิ๊กนักธุรกิจชื่อก้องฟ้าเมืองไทย โดยมี "วุฒิชาติ กัลยาณมิตร" ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นคนกลางประสาน

ว่ากันว่าถือเป็นปฏิบัติการสายฟ้าแลบที่ "บิ๊กจิน" ตั้งตัวไม่ทัน เมื่อจู่ ๆ หัวหน้ารัฐบาลพูดถึงแผนลงทุนไฮสปีดเทรน เพราะที่ผ่านมา "คสช.-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" ไม่เคยหยิบโปรเจ็กต์รถไฟความเร็วสูง มรดกตกทอดจาก "รัฐบาลเพื่อไทย" มาบรรจุไว้ในโรดแมป คสช.

นอกจากรถไฟความเร็วปานกลาง 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่เซ็น MOU กับรัฐบาลจีนเมื่อ 19 ธันวาคม 2557 เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ 873 กิโลเมตรที่ "บิ๊กจิน" กำลังสับเกียร์เดินหน้าเต็มสูบ

"ซีพี-ไทยเบฟฯ" แบเบอร์

แต่เมื่อเป็นนโยบายทุกอย่างต้องเดินหน้า การหารือจึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 มีนาคมที่ผ่านมา เอกชนคณะแรก "กลุ่มไทยเบฟฯ" ของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี โดยหัวหน้าชุดคือเขยเล็ก "อัศวิน เตชะเจริญวิกุล" ผู้คุมบังเหียน บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์มาทีมเดียวกันกับ "วันชัย ศารทูลฑัต"อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งวันนี้เป็นผู้บริหารธุรกิจในเครือตระกูลสิริวัฒนภักดีภายใต้ "บจ.ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก"

ล่าสุดกำลังเร่งวางโครงข่ายระบบขนส่งทางราง ทางเรือ และสร้างคลังสินค้า เพื่อกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศทะลุถึงตลาดเออีซี

ขณะที่ "กลุ่มซี.พี.-บมจ.เครือเจริญโภคภัณฑ์" ธุรกิจของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ถึงแม้จะได้คิวต่อจากกลุ่มไทยเบฟฯ ช้าไป 1 วัน แต่จุดหมายปลายทางไม่ต่างกัน มี "ภัคพล งามลักษณ์" ประธานคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการเป็นผู้นำทีม

อย่าลืมว่า โปรไฟล์ "ภัคพล" ไม่ธรรมดา นอกจากรั้งเก้าอี้ผู้บริหาร ซี.พี. ยังมีดีกรีเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่ คสช.เซ็นแต่งตั้งปฏิบัติการดึงเศรษฐีไทยร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูงจึงสร้างความคึกคักขึ้นทันตาเห็น เครือข่ายธุรกิจของ "เจ้าสัวธนินท์" เป็นกลุ่มทุนเกษตร สื่อสาร ค้าปลีก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่แตกต่างจาก "เจ้าสัวเจริญ" มีทั้งธุรกิจแอลกอฮอล์-น็อนแอลกอฮอล์ อสังหาฯ รับเหมาก่อสร้าง ฯลฯ

ขานโพย "บีทีเอส-ช.การช่าง"

สีสันที่เข้มข้นขึ้นไปอีกยังมาจาก 2 ตระกูลดัง "กาญจนพาสน์-ตรีวิศวเวทย์" ที่ทำธุรกิจเดินรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟลอยฟ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

โดยเฉพาะเจ้าพ่อบีทีเอส "คีรี กาญจนพาสน์" ที่ประกาศความมั่นใจสุดขีด ตอนนี้มีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท เป็นอาวุธนำทางที่จะเข้าร่วมลงทุนได้อย่างสบาย

ก่อนหน้านี้เพิ่งจะผนึกกับอสังหาฯ แบรนด์เนมค่าย "แสนสิริ" ของเสี่ยเศรษฐา ทวีสิน เป็นการเติมความครบเครื่องเพราะมีทั้งธุรกิจรถไฟฟ้าและอสังหาริมทรัพย์

ส่วนบิ๊กยักษ์รับเหมา ช.การช่างของ "เสี่ยปลิว ตรีวิศวเวทย์" ล่าสุดจัดทัพโครงสร้างใหม่ นำ 2 บริษัทลูก "บีอีซีแอล-บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ" ผู้รับสัมปทานทางด่วน กับ "บีเอ็มซีแอล-บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ" รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้า ควบรวมกันให้กลายเป็นบริษัทใหญ่ด้วยทุน 15,285 ล้านบาท

อ่านเกมธุรกิจได้ว่าปรับโครงสร้างเพื่อเสริมแกร่งการเงินและธุรกิจให้ครบวงจรทั้งรับเหมาและบริหารโครงการ รองรับโอกาสในการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ

ถึงแม้ยังไม่ประกาศตัวชัดเจน แต่เชื่อว่า "ช.การช่าง" ไม่ยอมตกขบวนแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์อย่างแน่นอน

[Wisarut]

Financial Times เกิดอาการตาตื่นเรื่องโครงการรถไฟ ไทย - จีน และ ไทย - ญ่ปุ่น
http://blogs.ft.com/beyond-brics/2015/03/03/china-and-japan-vie-for-influence-with-thai-rail-projects/

บีทีเอสพร้อมลุยไฮสปีดเทรน
เดลินิวส์
วันพฤหัสบดี 12 มีนาคม 2558 เวลา 19:00 น.

บีทีเอส พร้อมเข้าร่วมโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง
โดย เมธา สกาวรัตน์
ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2015 เวลา 19:23 น.

บีทีเอส โวพร้อมลุยไฮสปีดเทรน ยันหน้าตักหนา พอลงทุนแน่ พร้อมสนใจเดินรถไฟฟ้าสีชมพู และไลท์เรลไปสุวรรณภูมิ


นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการสายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมเข้าร่วมโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ของรัฐบาลอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดเงื่อนไข(ทีโออาร์)โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่ชัดเจนจากรัฐบาลก่อนว่า จะให้ดำเนินโครงการในเส้นทางไหนบ้าง และรูปแบบการดำเนินโครงการเป็นอย่างไร เพื่อนำมาพิจารณาเข้าร่วมดำเนินโครงการ

"ตอนนี้บริษัทได้มีการศึกษารถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลไปด้วยว่า แต่ละเส้นทางที่รัฐบาลจะก่อสร้างมีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนที่จะดำเนินการ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการ ซึ่งอาจจะเลือกเส้นทางระยะสั้นก่อน เพราะหากทำทุกเส้นทางคงไม่ไหว และคงต้องร่วมมือกันเข้าไปดำเนินโครงการ เพราะบริษัทจะถนัดเรื่องของการเดินรถมากว่า ส่วนโครงการรถไฟไทย-จีน บริษัทก็สนใจที่จะเข้าไปร่วมเดินรถในบริษัทร่วมทุนที่จะเปิดให้บริษัทเอกชนที่เชี่ยวชาญด้านการเดินรถเข้าไปร่วมเช่นเดียวกัน”

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีเงินเหลือจากการระดมทุนครั้งที่แล้วประมาณ 3 หมื่นล้านบาท สามารถนำเงินในส่วนนี้ไปลงทุนได้ ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอถึงแม้โครงการจะมีมูลค่าถึงแสนล้านบาท เพราะไม่ได้ลงทุนคนเดียวทั้งหมดแต่จะร่วมกับบริษัทอื่นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้หารือร่วมกับหลายบริษัทเพื่อลงทุนร่วมกันมาบ้างแล้ว สำหรับโครงการรถไฟฟ้าเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล สนใจเข้าไปเดินรถรถไฟฟ้าสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เพราะสามารถเชื่อมต่อกับสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตได้ และคาดว่ามีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทั้งจากย่านรามอินทรา ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี และศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ รวมถึงยังสนใจเข้าไปเป็นผู้เดินรถโครงการรถไฟฟ้าขนาดเบา (ไลท์เรล) ช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) อีกด้วย

[Wisarut]

บูมหนองคายเขตศก.พิเศษ-เมืองใหม่ไฮสปีด "บิ๊กจิน"ถกลาวผุดสะพานข้ามโขงเพิ่ม1แห่งเชื่อมรถไฟไทย-จีน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันพฤหัสบดี 12 มีนาคม 2558 เวลา 00:55:10 น.


"ประจิน" ควงรัฐบาลจีนลงพื้นที่หนองคาย ดูจุดเชื่อมรถไฟ 3 ประเทศ "ไทย-ลาว-จีน" เล็งสร้างสะพานข้ามโขงแห่งใหม่ รัศมีห่างสะพานมิตรภาพเดิม 1 กม. รับรางไฮสปีดเทรนจากคุนหมิง บูม "สถานีนาทา" ศูนย์กระจายสินค้าอาเซียน-เร่งพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษรองรับ คลุมพื้นที่ 3 อำเภอ "โพนพิสัย-ท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่" เป็นฮับการค้า-โลจิสติกส์

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 11 มีนาคม 2558 มีการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีนครั้งที่ 3 ที่ จ.หนองคาย พร้อมกับลงพื้นที่ดูจุดก่อสร้างสถานีหนองคายซึ่งในอนาคตจะเป็นจุดเชื่อมรถไฟจีน-ลาวที่เวียงจันทน์ โดยรัฐบาลจีนกับรัฐบาลลาวกำลังจะเซ็นสัญญาในปีนี้ คาดเริ่มก่อสร้างปี 2559 พร้อมกับรถไฟไทย-จีน เส้นทางนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทาง 873 กิโลเมตร



หนองคายเชื่อม 3 ประเทศ

"แผนลงทุนสร้างทางรถไฟ 3 ประเทศคือ ไทย ลาว จีน ในอนาคตจะเกิดโครงการ 3 เส้นทางที่เชื่อมถึงกันคือ รถไฟไทย-จีน รถไฟไทย-ลาว และรถไฟลาว-จีน ขณะนี้รัฐบาลลาว-จีนรอให้ไทยมีความชัดเจนเรื่องรูปแบบการลงทุน รวมถึงรัฐบาลลาวก็รอความชัดเจนจากรัฐบาลจีนบางประเด็น เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เมื่อได้ข้อสรุปทั้ง 3 ประเทศจะทำให้เส้นทางทั้งหมดเชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ และเป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่นในอาเซียน" รมว.คมนาคมกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จุดเชื่อมต่อรถไฟไทย-จีน กับรถไฟลาว-จีนที่หนองคายและเวียงจันทน์ จะต้องสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่เพื่อรองรับกับโครงสร้างทางวิ่งราง 1.435 เมตรของรถไฟจีน-ลาวที่จะวิ่งมาจากคุนหมิง ลงมาทางเวียงจันทน์ มาเชื่อมกันที่สถานีหนองคาย ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งสถานียังไม่มีข้อสรุปชัดเจน

ผุดสะพานข้ามโขงเพิ่ม

ในเบื้องต้นคาดว่าจุดที่ตั้งสะพานข้ามโขงแห่งใหม่จะสร้างคู่ขนานไปกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) โดยอยู่ห่างจากสะพานเดิมไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1 กิโลเมตร (มุ่งหน้าเวียงจันทน์จะอยู่ขวามือ) หรืออยู่ด้านตะวันออกของท่านาแล้ง ทางฝั่ง สปป.ลาว ส่วนฝั่งไทยจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟหนองคายเดิม

"เหตุผลที่เลือกบริเวณนี้เพราะเป็นแนวตัดตรง ไม่ต้องอ้อมไปทางท่านาแล้ง โดยสถานีรถไฟหนองคายจะสร้างอยู่ที่เดิมบนเขตทางของการรถไฟฯ ที่มีพื้นที่เหลือจำนวนมาก สามารถสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงหรือความเร็วปานกลาง รวมทั้งพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบได้"

แหล่งข่าวกล่าวว่า แนวเส้นทางยังต้องหารือรัฐบาล 3 ประเทศ เนื่องจากจุดเชื่อมจะต้องหารือให้ได้ข้อยุติร่วมกัน ทาง สปป.ลาวอาจจะมีประเด็นติดขัดในเรื่องการเวนคืนที่ดินอยู่พอสมควร ล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือถึงกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาวเพื่อขอความชัดเจนการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมทางบก ทั้งถนนและรถไฟ แต่ยังไม่มีคำตอบจากรัฐบาลลาวในเรื่องนี้

ฮับโลจิสติกส์ "สถานีนาทา"

สำหรับการเชื่อมต่อกับรถไฟลาว-จีน ออกแบบการผ่านแดนไว้ 2 รูปแบบ คือ 1.ใช้โมเดลประเทศยุโรป โดยไม่ต้องมีการก่อสร้างจุดผ่านแดน ผู้โดยสารสามารถนั่งรถขบวนเดียวกันวิ่งจากคุนหมิงข้ามทะลุมายังฝั่งไทย เพื่อรองรับ dki เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) เนื่องจากรางรถไฟจีน-ลาว-ไทยใช้ขนาดเดียวกัน 1.435 เมตร เพียงแค่เปลี่ยนหัวรถจักรและคนขับรถที่เป็นคนไทย 2.ออกแบบให้มีจุดผ่อนปรนที่เป็นวันสต็อป เซอร์วิส หรือจุดบริการเบ็ดเสร็จ ตรวจเฉพาะขาเข้าเหมือนกับด่านสะเดา-ปาดังเบซาร์ ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันจะกำหนดให้สถานีรถไฟนาทา ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีที่ดินประมาณ 290 ไร่ ทำเป็นศูนย์รวบรวมสินค้าระบบตู้คอนเทนเนอร์ (CY) รองรับการขนส่งสินค้าจากจีนตอนใต้ มณฑลยูนนาน ผ่านลาว เข้ามาชายแดนไทยที่สถานีหนองคาย ขนส่งต่อมายังท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง โดยออกแบบรถไฟรางมาตรฐาน 1.435 เมตรเข้าไปรองรับภายในสถานีด้วย จุดที่ตั้งอยู่ไม่ไกลเพียง 10 กิโลเมตรจากสถานีหนองคาย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคมและเลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เพื่อรองรับโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน รัฐบาลมีนโยบายยกระดับเขตเศรษฐกิจพิเศษพื้นที่หนองคายขึ้นมาอยู่ในแผนลงทุนระยะเร่งด่วน จาก 5 พื้นที่เดิมเป็น 6 พื้นที่ ได้แก่ ตาก ตราด มุกดาหาร สระแก้ว สงขลา และหนองคาย

บูมโพนพิสัย-ท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่

สำหรับพื้นที่หนองคาย จุดกำหนดพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษมี 3 อำเภอ คือ อ.โพนพิสัย อ.ท่าบ่อ และ อ.ศรีเชียงใหม่ เป็นบริเวณที่อยู่ถนนสายหลักและเส้นทางรถไฟ ทั้งรถไฟราง 1 เมตร กับรางมาตรฐาน 1.435 เมตร รวมถึงด่านหนองคายที่มีชายแดนติดเวียงจันทน์ สปป.ลาว แนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพื้นที่หนองคาย จะเน้นการค้ากับโลจิสติกส์เชื่อมระหว่างภาคและระหว่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคายได้มีการกำหนดพื้นที่อยู่ในเขต อ.เมืองหนองคาย กับ อ.สระใคร ทางตอนใต้ของเมืองหนองคาย จำนวน 3,300 ไร่ โดยในแผนเดิมกำหนดให้ อ.สระใครเป็นพื้นที่พัฒนาเมืองใหม่รองรับโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ล่าสุด รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศพื้นที่ใหม่เพิ่มเติมอีก 3 อำเภอ

//----------------------

ถามตอบเรื่องรถไฟ จากนครราชสีมา ไปหนองคาย รวมถึง สถานีขนส่งสินค้า ที่บ้านเกาะ (ขนข้าว) บัวใหญ่ (ขนน้ำตาลและมันสำปะหลัง) ท่าพระ (ขนน้ำตาลและมันสำปะหลัง) และนาทา (ขนยางพารา)
http://www.thaihispeedtrain.com/khorat-nongkhai/Q&A.php

//-----------
คมนาคมลงนามความร่วมมือรถไฟไทย-จีน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันพฤหัสบดี 12 มีนาคม 2558 เวลา 14:13:59 น.


12 มี.ค. กระทรวงคมนาคมลงนามความร่วมมือรถไฟไทย-จีน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ลงนามความร่วมมือซื้อขายสินค้าเกษตรทั้งข้าวและยางพารา

พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมกับนายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อร่วมลงนามบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟ ระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 3 ภายหลังการสรุปรูปแบบความร่วมมือการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ หรือ EPC พร้อมแบ่งหน้าที่ในการรับผิดชอบ โดยฝ่ายไทยจะรับผิดชอบในส่วนของการวางฐานราก และ Power supply ขณะที่จีนจะรับผิดชอบของเส้นทางบริเวณที่เป็นหุบเขา เนื่องจากจะต้องใช้เทคโนโลยีของจีน ส่วนด้านการเดินรถและการบำรุงรักษา จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนของ 2 ฝ่ายแบ่งการดำเนินการเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรกระยะปีที่ 1-3 จีนจะเป็นผู้ดำเนินการเดินรถช่วง 2 ระยะปีที่ 4-7 ไทย-จีน จะเป็นการดำเนินการร่วมกัน และตั้งแต่ปีที่ 7 เป็นต้นไป ไทยจะรับเป็นผู้ดำเนินการ

ขณะเดียวกัน พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมพิธีปิดการประชุมคณะกรรมการบริหารร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้า สินค้าเกษตรระหว่างไทยจีนครั้งที่ 1 พร้อมลงนาม agreed minutes โดยรัฐบาลจีนตกลงจะซื้อข้าวจากไทย 2 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวใหม่ 1 ล้านตัน และข้าวในสตอกของรัฐบาลไทยอีก 1 ล้านตัน ระหว่างปี 2558-2559 ราคาตลาด และตกลงในหลักการที่จะซื้อยางพาราจากไทย 200,000 ตันราคานำตลาด

[Wisarut]

‘เพชรบูรณ์’ ขอรถไฟทางคู่ เชื่อมการค้าอินโดจีน
โพสต์ทูเดย์
13 มีนาคม 2558 เวลา 09:49 น.

โดย...สุนทร คงวรารม เพชรบูรณ์อาจเป็นจังหวัดที่ถูกมองข้าม ในภาวะที่การส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนกำลังพัฒนาอย่างเร่งด่วน ขณะที่จังหวัดใกล้เคียงอย่างพิษณุโลก ซึ่งเสมือนศูนย์กลางจุดเชื่อมโยงอินโดจีนนั้นมีการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ พร้อมรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจในยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีไว้พร้อมแล้วการคมนาคมนั้นเป็นสิ่งที่คนเพชรบูรณ์เรียกร้องกันมานาน ทั้งการขนส่งทางอากาศ และระบบราง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เพชรบูรณ์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของที่ตั้งคลังสินค้าขนาดใหญ่ รองรับการค้าข้ามแดนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยด้านหนึ่งใกล้ชิดกับชายแดนประเทศลาว ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็พร้อมเป็นฐานสำหรับการมุ่งสู่ตะวันตกด้านประเทศพม่า ซึ่งทำให้เพชรบูรณ์เป็นหนึ่งในจังหวัดตามแนวเส้นทางเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก หรือ EWECก่อนหน้านี้ บัณฑิต เทวีวิรักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำข้อมูลเพื่อสนับสนุนการศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สาย “ลำนารายณ์-เพชรบูรณ์-เลย-หนองบัวลำภู” ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา เพื่อศึกษาความเหมาะสม ซึ่งในเบื้องต้นได้กำหนดเส้นทางไว้เป็นทางเลือก 2 แนวคือ จัตุรัส ชัยภูมิ เลย หนองบัวลำภู หรือลำนารายณ์-เพชรบูรณ์-เลย-หนองบัวลำภูคณะทำงานดังกล่าวประกอบด้วย รองผวจ.เพชรบูรณ์ ที่รับผิดชอบกลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจเป็นหัวหน้าคณะทำงานนอกจากนี้ยังมีหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในจังหวัด รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรภาคเอกชนต่างร่วมเป็นคณะทำงานโดยให้มีภารกิจอำนวยการสนับสนุนและจัดทำข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อโครงการ รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวอย่างไรก็ตาม แนวทางการศึกษาความเหมาะสมช่วงเส้นทางผ่าน จ.เพชรบูรณ์ ตาม ที่ รฟท.กำหนดนั้น มีการระบุถึงแนวทางเลือกร่างตำแหน่งของสถานีรถไฟและย่านสินค้าที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจของ จ.เพชรบูรณ์ล่าสุด เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ในฐานะประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ประชุมคณะกรรมการสันนิบาต เพื่อหารือถึงแนวทางการผลักดันเรื่องเส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์ โดยที่ประชุมมีมติเห็นพ้องให้สันนิบาตเทศบาลจังหวัด เป็นแกนสำคัญในการขับเคลื่อนผลักดันร่วมกับองค์กรภาคประชาชนในจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีการเคลื่อนไหวผลักดันเช่นกัน “จะมีการรวบรวมข้อมูลนำเสนอทั้งบริษัทที่ปรึกษาและทาง รฟท.ให้เห็นศักยภาพของจังหวัด การกระจายโอกาส รวมทั้งความคุ้มค่าในการลงทุน โดยเทศบาลในจังหวัดซึ่งมี 25 แห่งและเครือข่ายองค์กรอื่นๆ จะช่วยกันรณรงค์หาข้อมูลเพื่อสนับสนุน โดยในวันที่ 16 มี.ค.นี้ สันนิบาตฯ จะร่วมประชุมกับองค์กรภาคเอกชนต่างๆอาทิ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด ฯลฯ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ต้องการให้เส้นทางรถไฟผ่านเพชรบูรณ์” เสกสรร กล่าว....

[Wisarut]

จีนห่วงเวนคืนที่สร้างรถไฟล่าช้า บีทีเอสตุน 3 หมื่นล. ทำไฮสปีดเทรนเส้นสั้น
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
13 มีนาคม 2558 เวลา 11:15:46 น.


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงนามบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 3 ร่วมกับนายหวัง เสี่ยวเทา รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า หลังจากนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ โดยการสำรวจและออกแบบ ช่วงที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย และช่วงที่ 2 เส้นทางแก่งคอย-มาบตาพุด จะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2558 ส่วนช่วงที่ 3 เส้นทางแก่งคอย-นครราชสีมา และช่วงที่ 4 เส้นทางนครราชสีมา-หนองคาย จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2558 ขณะเดียวกันจะตั้งสำนักงานดูแลการก่อสร้างในพื้นที่หรือไซต์งานในเดือนมีนาคม

"ทางการจีนแสดงความเป็นห่วงเรื่องความล่าช้าการเวนคืนที่ดิน ซึ่งไทยได้อธิบายว่าจะออกกฎหมายเวนคืนที่ดินให้แล้วเสร็จ และมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2558 จากนั้นจะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้ทางการจีนตามกรอบเวลาที่วางไว้ และในอนาคตจะเจรจาตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง ศูนย์ผลิตชิ้นส่วน และศูนย์ควบคุมการเดินรถอาเซียน" พล.อ.อ.ประจินกล่าว

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าววว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอพิจารณารายละเอียดเงื่อนไข (ทีโออาร์) โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะดำเนินโครงการในเส้นทางไหนบ้าง และรูปแบบการดำเนินโครงการจะเป็นอย่างไร เพื่อนำมาพิจารณาเข้าร่วมดำเนินโครงการ โดยอาจจะเลือกเส้นทางระยะสั้นเท่านั้นและคงต้องร่วมมือพันธมิตรเนื่องจากบริษัทถนัดเรื่องการเดินรถ

นอกจากนี้สนใจที่จะเข้าไปร่วมเดินรถโครงการรถไฟไทย-จีนด้วย โดยบริษัทมีเงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสนใจที่จะเข้าไปเดินรถโครงการไฟฟ้าสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เพราะเชื่อมต่อกับสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าขนาดเบาหรือไลท์เรล ช่วงบางนา-สุวรรณภูมิ ของกรุงเทพมหานคร (กทม.)

//-----------------
ช.การช่างพร้อมลงทุนไฮสปีดเทรน ดีเดย์พ.ค.เปิดประมูล9.8หมื่นล้าน"กทม.-หัวหิน"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
12 มีนาคม 2558 เวลา 14:08:45 น.


ไฮสปีดเทรนสายเจ้าสัวเนื้อหอม ยักษ์รับเหมา "ช.การช่าง" กระโดดร่วมวงชิงเค้กสู้ "ไทยเบฟฯ-บีทีเอส-ซี.พี." ชี้สถานะการเงินแข็งแกร่ง เข้าบิดได้สบาย "บิ๊กตู่-บิ๊กจิน" ดันสุดลิ่ม ดีเดย์ พ.ค.นี้ ชง ครม.เคาะประมูลสายแรก "กทม.-หัวหิน" วงเงิน 9.8 หมื่นล้าน

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทสนใจเข้าร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูง ตามนโยบายของรัฐบาล หลังบริษัทได้ควบรวมกิจการ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ ผู้รับสัมปทานทางด่วน และ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้กลุ่ม ช.การช่าง มีความพร้อมจะเข้าประมูลโครงการใหญ่ภาครัฐได้อย่างสบายและครบวงจร เป็นทั้งผู้ก่อสร้างและบริหารจัดการโครงการ

"จริง ๆ เป้าหมายบริษัททั้งกลุ่มที่ควบรวมทางด่วนกับรถไฟฟ้า ทำให้บริษัทแข็งแรงขึ้น บริษัทใหม่จะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง มาร่วมลงทุนกับ ช.การช่าง เข้าร่วมประมูลงานโครงการใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า รวมถึงการเดินหน้าลงทุนรถไฟความเร็วสูง"

ปัจจุบันบริษัทเตรียมพร้อมจะเข้าประมูลรถไฟฟ้าทุกเส้น ทั้งในรูปแบบรับจ้างก่อสร้างหรือลงทุนแบบ PPP รวมไปถึงรถไฟทางคู่ที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปในการร่วมลงทุนกับ ประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทสามารถใช้ศักยภาพของ ช.การช่าง เป็นทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ลงทุนได้ด้วย และพร้อมเปิดกว้างจะรับพันธมิตรจากประเทศจีนและญี่ปุ่น ในกรณีที่ต้องเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างสองประเทศ มั่นใจว่าจะเห็นความชัดเจนไตรมาสที่ 1 นี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเจรจากับเอกชนไทย ทั้ง บมจ.เจริญโภคภัณฑ์หรือกลุ่ม ซี.พี. และ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ และ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอส ที่สนใจลงทุนรถไฟความเร็วสูง ในเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-พัทยา

"เอกชนจะไปกู้เงิน ก้อนใหญ่มาก่อสร้างให้ จะร่วมกันหลายบริษัทเป็นลักษณะโฮลดิ้ง อาจจะกู้เงินต่างประเทศและในประเทศ จากนั้นจะมาร่วมกับรัฐบาล เจรจาว่าจะลงทุนในสัดส่วนเท่าไหร่ เช่น 70:30 หรือ 50:50 หรือรับสัมปทาน แบ่งปันผลประโยชน์ เงินก่อสร้างเป็นแสนล้าน เขากำลังตัดสินใจกันหาข้อเสนอให้เหมาะสม จะเร่งสรุปในปีนี้"

พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รมว.กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เดือนพฤษภาคมนี้ กระทรวงจะเสนอรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ หลังได้ข้อสรุป

รูปแบบการลงทุนจะเป็น PPP แบบไหน และทำร่างทีโออาร์ประกวดราคาเสร็จในเดือนเมษายนนี้ โดยจะใช้ข้อมูลเดิมที่ศึกษาไว้ คาดว่าจะประมูลสายกรุงเทพฯ-หัวหินเป็นสายแรก มีระยะทาง 211 กม. เงินลงทุน 98,399 ล้านบาท จะเร่งประมูลให้ได้ก่อนเลือกตั้ง

"ทั้งไทยเบฟฯ ซี.พี. และบีทีเอส จะเป็นผู้รับงานหลัก และหาผู้ร่วมทุนแต่ละส่วนเข้าร่วม เช่น ผู้รับเหมา หรือถ้าเป็นไปได้ ทั้ง 3 กลุ่มจะจับมือร่วมกันทำโครงการเพื่อประเทศไทยก็ยิ่งดี การเจรจาจะเหมือนรถไฟไทย-จีน" รมว.คมนาคมกล่าวย้ำ