Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311295
ทั่วไป:13272179
ทั้งหมด:13583474
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 47, 48, 49 ... 149, 150, 151  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2017 7:34 pm    Post subject: Reply with quote

ตร.เรียก “วิศวกร อิตาเลียนไทย” เครนถล่มทำคนงานตาย 3 ศพ เข้าให้ปากคำพรุ่งนี้
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
1 พฤษภาคม 2560 12:21 น. (แก้ไขล่าสุด 1 พฤษภาคม 2560 15:12 น.)


“วิศวกร อิตาเลียนไทย” คดีเครนถล่มทับคนงานดับ 3 ศพ นัดมอบตัวพรุ่งนี้ ตร. ยันอาจต้องเรียกผู้บริหารเข้าให้ปากคำเพิ่ม"

วันนี้ (1 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคานเหล็กก่อสร้างรางรถไฟฟ้าสายสีแดง หล่นทับคนงานเสียชีวิต 3 ราย เมื่อวันที่ 28 เมษายน เหตุเกิดบนถนนกำแพงเพชร 6 บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง แขวงและเขตดอนเมือง กทม. ว่า ล่าสุด ได้อออกหมายจับผู้ต้องหาที่เข้าข่ายกระทำการโดยประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแล้ว 3 ราย คือ นายพรชัย เบ้าทุมมา อายุ 37 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เป็นคนขับเครน นายรัฐกร จิตศรีพิทักษ์เลิศ อายุ 40 ปี เป็นวิศวกรผู้ควบคุมงาน ชาว กทม. และ นายบุญสืบ พานคำ อายุ 48 ปี ชาว จ.สระบุรี เป็นผู้ช่วยวิศวกรควบคุมงาน โดย นายพรชัย คนขับรถเครน และ นายบุญสืบ ผู้ช่วยวิศวกร เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนวิศวกรคุมงาน คือ นายรัฐกร จะเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะต้องสอบสวนและสืบสวน ขยายผลด้วยว่านอกจาก 3 คนนี้แล้ว ยังต้องมีผู้รับผิดชอบในทางอาญาอีกหรือไม่

เมื่อถามว่า ต้องเอาผิดถึงผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทยฯ ด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการสืบสวนสอบสวน ต้องดูสำนวนการสอบสวน หากจำเป็นต้องเชิญเจ้าของบริษัท หรือกรรมการผู้จัดการมาให้ปากคำก็ต้องทำ ไม่มีการละเว้นอยู่แล้ว ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริงในสำนวน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2017 7:41 pm    Post subject: Reply with quote

สปส.จ่ายค่าทดแทนให้ครอบครัว "ลูกจ้าง" สร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงเสียชีวิต 3 ราย
โดย MGR Online
1 พฤษภาคม 2560 15:54 น.

สปส.เตรียมจ่ายเงินค่าทดแทนกรณีลูกจ้างสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ถูกเครนยกแผ่นปูนหล่นทับเสียชีวิต 3 ราย รับเงินร้อยละ 60 ของค่าจ้างเป็นเวลา 8 ปี พร้องเงินบำเหน็จชราภาพ และค่าทำศพ

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือกรณีลูกจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เสียชีวิต 3 ราย จากกรณีถูกเครนยกแผ่นปูนหล่นทับ ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง บริเวณหน้าวัดดอนเมือง ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว สปส.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 ราย พบว่าเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ซึ่งลูกจ้างและทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทนตามพระราชบัญญัติ เงินทดแทน พ.ศ.2537 เป็นเงินค่าทดแทนกรณีเสียชีวิตตามมาตรา 18(4) ร้อยละ 60 ของค่าจ้างจ่ายให้ทายาทผู้เสียชีวิตเป็นระยะเวลา 8 ปี และค่าทำศพจ่ายให้ผู้จัดการศพ 100 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงิน 31,000 บาท โดยลูกจ้างที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้แก่ นายสงัด เทพสันทัด อายุ 50 ปี ทำงานในตำแหน่งช่างเชื่อม เงินเดือนรวมเบี้ยเลี้ยง เดือนละประมาณ 20,000 บาท จะได้ค่าทดแทนขั้นสูงสุดเดือนละ 12,000 บาท เป็นเงินทั้งหมด 1,152,000 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 74,659 บาท

นพ.สุรเดช กล่าวว่า ส่วนนายไมตรี สุภาศิริวัตน์ อายุ 33 ปี ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยช่างเชื่อม และนายสันติพงษ์ แซ่ว่าง อายุ 22 ปี ตำแหน่งช่างปูน ซึ่งได้ค่าจ้างขั้นต่ำ วันละ 310 บาท ยังไม่รวมเบี้ยเลี้ยง จะได้รับค่าทดแทนประมาณเดือนละ 4,836 บาท เป็นเงินทั้งหมดคนละ 464,256 บาท ทำศพ 31,000 บาท นายไมตรีได้เงินบำเหน็จชราภาพ 27,341 บาท ส่วนนายสันติพงษ์ แซ่ว่าง ได้เงินบำเหน็จชราภาพ 5,619 บาท

"สปส.ได้อำนวยความสะดวกให้กับทายาทของผู้เสียชีวิต โดยสามารถติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิตได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 หรือติดต่อสำนักงานประกันสังคมที่ท่านสะดวก ทั้งนี้ สปส. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1506 เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง" เลขาธิการ สปส. กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 02/05/2017 10:52 am    Post subject: Reply with quote

อิตาเลียนไทย เตรียมประชุมใหญ่ยกเครื่องระบบดูแลความปลอดภัย
มติชน
วันที่: 30 เมษายน 2560 เวลา: 19:30 น.

นายสุเมธ สุรบถโสภณ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่การประมาท เพราะโดยปกติแล้วเมื่อเครนเลื่อนไปข้างหน้าแล้วเจอสิ่งกีดขวางก็จะถอยหลัง แต่ในครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ เมื่อเจอสิ่งกีดขวางข้างหน้าแล้วเครนต้องถอยหลัง แต่พบว่าทำให้เหล็กที่ดึงอยู่หลุดหรือขาดลง ซึ่งทางบริษัทจะประชุมหามาตรการดูแลความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นอีกครั้งเมื่อเปิดทำการปกติในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าการก่อสร้างที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจริง โดยเกิดขึ้น 2-3 ครั้งติดต่อกัน ทำให้บริษัทต้องกลับมาจัดระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแต่ทางบริษัทก็ไม่ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นที่บริษัทเสียใจเป็นอย่างมาก ขณะที่ระบบดูแลความปลอดภัยของบริษัทมีถึง 3 ชั้นด้วยกันคือมาตรฐานความปลอดภัยของบริษัท หน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัย และการดูแลความปลอดภัยหน้างาน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 02/05/2017 11:24 am    Post subject: Reply with quote

"รถไฟฟ้าสีแดง"แห่งอนาคต กลายเป็นสายมรณะ!!

คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย “เทียนหยด”
เดลินิวส์
อังคารที่ 2 พฤษภาคม 2560 เวลา 08.00 น.


อย่าให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง อนาคตคนกรุงเทพฯ สร้างตำนาน “รถไฟฟ้าสายมรณะ” ด้วยเลย มันจะสยองมากกว่าสะดวกสบาย!!


เพิ่งหวาดเสียวกับโครงสร้างเหล็กอันใหญ่ ของ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-ลำลูกกา) ร่วงใส่รถยนต์นบนถนนพหลโยธินหน้าห้างเมเจอร์ เจ้าของรถเฉียดตายรถพังยับ 2 คัน ได้ไม่นาน...ก็มาเจอเหตุสะเทือนขวัญคานเหล็ก โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) หล่นทับคนงาน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาเสียชีวิตสยองถึง 3 ศพ บนถนนกำแพงเพชร 6

เกิดอะไรขึ้น?? กับมาตรฐานการก่อสร้างของบริษัทรับเหมายักษ์ใหญ่ ที่ก่อเหตุซ้ำซาก ทำให้ประชาชนต้องหวาดผวา เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การก่อสร้างที่เรียกว่า...ชุ่ย!! คงจะไม่ผิดนัก

“บริษัทต้องตอบได้ว่าทำไมเมื่อมีเหตุขัดข้องกลับปล่อยให้คนงานยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุ  หากพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากความประมาท กระทรวงแรงงานจะแจ้งความดำเนินคดีอาญา ในข้อหาฝ่าฝืนเรื่องความปลอดภัย เพื่อให้บริษัทมีความใส่ใจเรื่องความระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เคยมีความผิดพลาดของการทำงานในจุดนี้ มาแล้วถึง 6 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตรวมเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วทั้งหมด 8 ศพ”

คำพูดของ นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงานตอกย้ำตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับโครงการนี้ ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับผู้เกี่ยวข้องและยังบอกด้วยว่า...

ก่อนหน้านี้ดำเนินการเพียงการเปรียบเทียบปรับ แต่ครั้งนี้คงต้องแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 4 แสนบาท โดยจะสอบสวนเรื่องของความประมาทเป็นหลัก ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฎกระทรวงข้อ 72 เรื่องของความปลอดภัย และหากผลการตรวจสอบพบว่า...เกิดจากความประมาท กรมฯ มีอำนาจในการสั่งปรับปรุงแก้ไข หากไม่แก้ไขอย่างจริงจัง อาจพิจารณาขั้นเด็ดขาด สั่งระงับการทำงาน หรือสั่งให้บริษัทผู้รับเหมาหยุดกิจการได้


 
ส่วนสาเหตุความผิดปกติของเหตุสยองครั้งนี้ นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (วสท.) ระบุถึงสาเหตุเบื้องต้นว่า...ตรวจพบความผิดปกติของ “คานเหล็กเส้นแรงดึงสูงสำหรับคอนกรีต” หรือ “พีทีบาร์” ซึ่งเป็นตัวยึดตอม่อขาด ส่งผลให้โครงสร้างเหล็กทั้งหมดร่วงหล่นลงมา ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่า

...เส้นเหล็กขาดเพราะอะไร?? แต่ขณะนี้พบ “เส้นเหล็กพีทีบาร์” เหลือเพียง 1 เส้น จากทั้งหมด 6 เส้น เส้นที่พบมีลักษณะขาดแนวตัดขวาง จากแรงเฉือน แต่ความชัดเจน ต้องรอดูการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการก่อน

ล่าสุดตำรวจออกหมายจับวิศวกรผู้ควบคุมงาน ผู้ช่วยวิศวกรผู้ควบคุมงาน และคนขับเครนแล้ว 3 คน ในข้อหา “กระทำการโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ขณะที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ให้ผู้รับเหมาเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตเบื้องต้นรายละประมาณ 540,000 บาท...ซึ่งมันเทียบไม่ได้เลยกับชีวิตที่ต้องสูญเสีย!!    

ด้านเจ้าของโครงการฉาว นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการ รฟท. บอกว่า ได้สั่งผู้รับเหมาหยุดงานวางคานไว้ก่อน  รอผลสอบของ วสท. เพื่อเรียกบริษัท อิตาเลี่ยนไทยฯ และผู้เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ไขและมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก !! พร้อมให้ใบเหลือง บริษัท อิตาเลียนไทยฯ เป็นการเตือนไว้ก่อน และพิจารณากำหนดบทลงโทษให้หนักขึ้น จากเดิมเมื่อเกิดเหตุแค่ตักเตือน รวมถึงให้บริษัทเสนอแผนความปลอดภัยในการก่อสร้างใหม่  

ทั้งหมดเป็นคำพูดและเหตุผลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอ่ยมาหลังเกิดเหตุ แต่เมื่อถูกถามถึงมาตรการล้อมคอกไม่ให้เกิดเหตุสลดขึ้นอีก และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง  ไม่ใช่พอจบข่าวหรือไฟไหม้ฟาง ก็ประมาทเลินเล่อกันอีก??

รักษาการผู้ว่ารถไฟฯ ฉายภาพให้เห็นถึงสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปว่า... จะเรียกฝ่ายกฎหมายและผู้เกี่ยวข้องประชุมหารือมาตรการในอนาคต เช่น การปรับเงินผู้รับหมา และพิจารณาว่าจะขึ้นบัญชีดำ(แบล็กลิสท์)ห้ามประมูลงานหรือไม่  หรือเกิดอุบัติเหตุกี่ครั้งจะไม่มีสิทธิเข้าร่วมประมูล เพราะชีวิตคนและความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด



สำหรับ โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง หรือ “รถไฟฟ้าสายสีแดง” ช่วงบางซื่อ-รังสิต แบ่งเป็น 3สัญญา  ได้แก่ สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ อาคารซ่อมบำรุง และสถานีจตุจักร มีกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสยู (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง มูลค่างาน 34,141 ล้านบาท    

สัญญาที่ 2 งานทางวิ่งรถไฟยกระดับและระดับดิน พร้อมอาคารสถานี 6 สถานี ได้แก่ บางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ การเคหะ ดอนเมือง และรังสิต มี บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เป็นผู้ก่อสร้าง มูลค่างาน 24,587 ล้านบาท และ สัญญาที่ 3 งานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลรวมรถไฟฟ้า เซ็นสัญญากับกลุ่ม MHSC (มิตซูบิชิเฮฟวี่-ฮิตาชิ-สุมิโตโม) ผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว  

รฟท.มีแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายนี้ในปี 63 โดยมุ่งหวังให้เป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชน   ด้วยการลดใช้รถยนต์ส่วนตัวมาใช้รถไฟฟ้า เพื่อแบ่งเบาปัญหาการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตและถนนพหลโยธิน เสริมโครงข่ายการเดินทางด้านเหนือของกรุงเทพฯ

กระทรวงคมนาคมต้องเร่งสังคายนามาตรการความปลอดภัยการก่อสร้าง เพราะรถไฟฟ้าหลากสีกำลังลงพื้นที่ก่อสร้างทั่วกรุงเทพฯ แค่โครงการเดียวมีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 8 ศพ และต้องใช้เวลาก่อสร้างอีก 3 ปี

...อย่าให้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง อนาคตคนกรุงเทพฯ  สร้างตำนาน “รถไฟฟ้าสายมรณะ” ด้วยเลย มันจะสยองมากกว่าสะดวกสบาย!!   
……………………….
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 02/05/2017 7:55 pm    Post subject: Reply with quote

มอบตัวกลางดึกวิศวกรเครนมรณะ 3 ศพ บ.อิตาเลียนไทย ประกันตัว 1.5 แสน สั่งสอบผู้บริหารเพิ่ม
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
2 พฤษภาคม 2560 14:28 น.

MGR Online - วิศวกรคุมเครนมรณะ บ.อิตาเลียนไทย ดอดมอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง กลางดึก ตำรวจแจ้งข้อหาฐานประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ก่อนยื่นประกันตัวในวงเงิน 150,000 บาท สั่งสอบต่อผู้บริหารเกี่ยวข้องหรือไม่

จากกรณีเกิดเหตุอุปกรณ์ก่อสร้างคานเหล็กของรถไฟฟ้าสายสีแดง หล่นลงมาบนถนนกำแพงเพชร 6 บริเวณหน้าโรงเรียนวัดดอนเมือง แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ จนทำให้คนงานที่ทำงานอยู่ด้านบนตกลงมาพร้อมชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้าง เสียชีวิต 3 รายเมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 เม.ย. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ สน.ดอนเมือง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ โดยระบุว่า นายรัฐกร จิตศรีพิทักษ์เลิศ อายุ 40 ปี วิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับได้เข้ามอบตัวในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 150,000 บาท ก่อนปล่อยตัวกลับ ทั้งนี้ ในส่วนของคดีขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารหลักฐานจากบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด และการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่ามีผู้บริหารในระดับสูงกว่าวิศวกรเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าวอีกหรือไม่ หากพบก็ให้ดำเนินคดีไปตามขั้นตอน เนื่องจากที่ผ่านมามีเหตุลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นหลายครั้งมีผู้เสียชีวิตถึง 8 รายด้วยกัน

ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง เปิดเผยความคืบหน้าว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. (2 พ.ค.) วิศวกรผู้ควบคุมงาน ที่ถูกออกหมายจับได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วที่ สน.ดอนเมือง และทนายความได้ขอประกันตัวในวงเงิน 150,000 บาท โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากระทำการประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เบื้องต้นนายรัฐกรได้ให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ในส่วนนี้ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมหรือไม่นั้น กำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงจะมีการออกหมายจับใครเพิ่มหรือไม่นั้นต้องรอพยานหลักฐานซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลักฐานเอกสาร และได้ทำหนังสือส่งไปยังกรรมการผู้จัดการบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง การรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าของโครงการ และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูหลักฐานความเชื่อมโยงว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้อง และต้องรับผิดชอบในครั้งนี้บ้าง โดยกำหนดกรอบระยะเวลาในการรับมอบเอกสารทั้งหมดในวันที่ 8 พ.ค.นี้

มีรายงานข่าวว่า สำหรับการเรียกขอเอกสารไปยังกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นการเรียกขอเอกสารเกี่ยวกับการว่าจ้างคนงาน และมีบริษัทอื่นมารับช่วงต่อหรือไม่ ในส่วนของการรถไฟเป็นการเรียกเอกสารการทำสัญญาว่าจ้างกับบริษัท อิตาเลียนไทย และกระทรวงพาณิชย์เป็นการขอเอกสารการจดทะเบียนบริษัทของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 02/05/2017 8:08 pm    Post subject: Reply with quote

งานนี้ เจ้าสัว อิตาเลียนไทย ต้องมาคุมงานเอง เพื่อความปลอดภัย
https://manager.co.th/Pjkkuan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000044239
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 04/05/2017 12:13 pm    Post subject: Reply with quote

“อิตาเลียนไทย” ผวา! รฟท. ล้มสัญญาจ้าง
4 พฤษภาคม 2560



“อิตาเลียนไทย” อ่วม คมนาคม-ร.ฟ.ท. เล็งทบทวนระเบียบ จ้างงานผู้รับเหมา และสัญญาก่อสร้าง หลังเกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าซํ้าซาก ด้านไจก้า รอผลการตรวจสอบก่อนตัด สินใจจะขึ้นบัญชีดำหรือไม่ ส่วน รฟม.เปิดข้อมูลอุบัติเหตุ 3 บริษัทก่อสร้างยักษ์ เปิดพอร์ตงานก่อสร้างทางรถไฟ “อิตาเลียนไทย” โกย 5 โครง การเฉียด 6 หมื่นล้าน

อุบัติเหตุ ระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) บริเวณหน้าวัดดอนเมือง เป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิต 3 คน เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 6 และรวมแล้วมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ ITD บริษัทก่อสร้างชั้นนำของไทย ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างช่วงทางดังกล่าวซึ่งมีมูลค่า 2.12 หมื่นล้านบาท โดยตรง

ร.ฟ.ท.รื้อเกณฑ์ประมูลงาน

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ซํ้าซาก ทำให้ร.ฟ.ท.ต้องทบทวนมาตรการที่เกี่ยวกับระเบียบการว่าจ้างงานผู้รับเหมาทั้งหมดในอนาคต โดยจะหยิบอุบัติเหตุครั้งนี้ มาเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาสัญญา เช่น การบอกเลิกสัญญา หรือขึ้นบัญชีดำ (Blacklist)เป็นต้น ล่าสุดเตรียมหารือกับฝ่ายกฎหมายของร.ฟ.ท.และฝ่ายกฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเป็นระเบียบใหม่ต่อไป

“ร.ฟ.ท.ได้สั่งพักงาน อิตาเลียนไทยในพื้นที่ที่เกิดเหตุชั่วคราว จนกว่าบริษัทจะหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมารายงาน รวมทั้งผลการสอบสวน ซึ่งร.ฟ.ท.จะให้ความเป็นธรรมกับบริษัทแต่ไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้และที่ผ่านมาบริษัทได้ทำงานให้ร.ฟ.ท.เป็นมูลค่ากว่า 4,000-5,000 ล้านบาทแล้ว”

สอดคล้องกับนายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม ให้ความเห็นในเรื่องเดียวกันว่า ได้สั่งให้หน่วยงานเจ้าของโครงการไปดูรายละเอียดในสัญญาซึ่งอาจต้องกลับไปพิจารณาใช้วิธีให้คะแนนผู้รับเหมา โดยจัดลำดับความปลอดภัยของผู้รับเหมาแต่ละราย เพื่อประกอบเป็นข้อมูลในการพิจารณาเข้าร่วมงานในอนาคตต่อไป
29-4-2560 11-42-59



“ไจก้า”รอผลศึกษา

ด้านนายมาซาโตะ โคอินูมะ ผู้แทนอาวุโส องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้าประจำประเทศไทย กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” หลังผู้บริหาร ร.ฟ.ท. ออกมาให้ข่าวว่าไจก้าในฐานะผู้สนับสนุนโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคหลายแห่งจะทบทวนการรับงานของ บมจ.อิตาเลียนไทยว่า ยังไม่มีแผนขึ้นบัญชีดำ (อิตาเลียนไทย) จนกว่าจะได้รับรายงานอย่างเป็นทางการจาก ร.ฟ.ท. หรือกระทรวงคมนาคมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดีหากได้รับรายงานอย่างเป็นทางการแล้ว ทางไจก้า สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย ตลอดจนไจก้าที่ญี่ปุ่น ก็จะพิจารณาเนื้อหาในรายงานดังกล่าวอย่างถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

“ทางไจก้าไม่ได้มีวัตถุ ประสงค์ที่จะแบล็กลิสต์ใคร แต่หากในกรณีที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่สามารถทำได้ตามเงื่อนไขด้านความปลอดภัย ก็อาจจะได้รับบทลงโทษ อาทิเช่น อาจไม่สามารถยื่นขอประมูลโครงการใหม่ๆ ได้ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด เป็นต้น ซึ่งเป็นเพียงการลงโทษลักษณะหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงหรือความเสียหายของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น” นายมาซาโตะกล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลอุบัติเหตุ รฟม.

ทางด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วย ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประ เทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่) ซึ่งบมจ.อิตาเลียนไทย เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างว่าที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุครั้งเดียวบริเวณรัชโยธิน ที่โซ่ขาดเหล็กตกใส่รถนิสสันมาร์ช เนื่องจากอุปกรณ์เก่า โดยการก่อสร้างบริเวณดังกล่าวเป็นเขตเมืองการจราจรหน้าแน่นจึงกันพื้นที่สำหรับก่อสร้างแคบ
29-4-2560 11-58-23



อย่างไรก็ดีหากเทียบสัดส่วนชั่วโมงการทำงานของบริษัท ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในปีนี้ จากสถิติพบว่า บมจ. อิตาเลียนไทย 6.5 ล้านชั่วโมง เกิดอุบัติเหตุต่อทรัพย์สิน 13 ครั้ง บมจ.ยูนิค เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เกิดอุบัติเหตุระหว่างก่อสร้างช่วง ร.พ.ภูมิพล ปูนหล่นใส่รถยนต์ 5คัน หรือ คิดเป็น ชั่วโมงทำงาน 2.2 ล้านชั่วโมง เกิดอุบัติเหตุ 6 ครั้ง ส่วนเหตุเสียชีวิตเคยเกิดขึ้นในปี 2554 ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน โดยบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม.กล่าวต่อว่าไจก้ามีสิทธิทบทวนการก่อสร้างงานรถไฟฟ้าเพราะเป็นผู้ปล่อยกู้ 100%

ทั้งนี้สถิติอุบัติเหตุในช่วง 5 ปีที่เกิดขึ้นอาทิ ปลายเดือนเม.ย. 2556 โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-สะพานพระนั่งเกล้า) เกิดเหตุกำแพงคอนกรีต หล่นใส่รถยนต์บริเวณแยกเตาปูน โครงการนี้มีกิจการร้านค้าซีเคทีซี เป็นผู้ดำเนินการ, เดือนมิถุนายน 2556 โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ช่วงสถานีเตาปูน แท่งเหล็กเส้นขนาด 4 คูณ 4 นิ้วยาว 10 เมตร หล่นลงมาทับรถแท็กซี่และรถยนต์รวม 4 คันมีผู้บาดเจ็บหญิง 1 คน, วันที่ 17 มี.ค. 2560 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โครงการของอิตาเลียนไทย หล่นทับรถยนต์บริเวณปากซอยพหลโยธิน 35 และล่าสุดเหตุเกิดเมื่อคํ่าวันที่ 28 เม.ย. ดังที่กล่าวข้างต้น
29-4-2560 17-29-12



เปิดพอร์ตงานรถไฟฟ้าITD6หมื่นล.

ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2559 ระบุว่า บมจ.อิตาเลียนไทย (มีนายเปรมชัย กรรณสูต ถือหุ้น ใหญ่สัดส่วน 14.88%) ได้รับงานก่อสร้างทางรถไฟฟ้าทั้งสิ้น 5 โครงการ รวมมูลค่า ราว 5.9 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

1. งานวางรางรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญา 6 มูลค่า 3.39 พันล้านบาท การก่อสร้างแล้วเสร็จ

2.สายสีนํ้าเงิน สัญญาที่ 1 (หัวลำโพง-สนามชัย) มูลค่า 1.069 หมื่นล้านบาท การก่อสร้างคืบหน้า 88%

3. สายสีแดง สัญญาที่ 2 (บางซื่อ-รังสิต) มูลค่า 2.33 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดอุบัติเหตุและร.ฟ.ท.สั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราว ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้า 78 %

4. รถไฟฟ้าสายสีเขียว สัญญาที่ 1 (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) มูลค่า 1.42 หมื่นล้านบาท

5. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม สัญญาที่ 3 (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) มูลค่า 1.85 หมื่นล้านบาท

อนึ่ง ปี 2559 รายได้จากกลุ่มงานสร้างทางหลวงแผ่นดิน ทางรถไฟ และระบบขนส่งมวลชนของ บมจ.อิตาเลียนไทย มีมูลค่า 1.459 หมื่นล้านบาท หรือ 28.82% ของรายได้รวมบริษัท 4.83 หมื่นล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น ITD ปรับตัวลงแรงทันทีที่เปิดตลาดวันที่ 2 พฤษภาคม และลงไปตํ่าสุดที่ 4.22 บาทก่อนกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 4.34 บาท รูดลง 0.16 บาทหรือ 3.56% โดยนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์กสิกรไทยฯ ยังคงแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 5 บาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44631
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/05/2017 6:19 pm    Post subject: Reply with quote

สรุปแล้ว เหตุเครนสายสีแดงถล่ม วสท.ชี้ ประมาท
เดลินิวส์ พฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2560 เวลา 15.56 น.

วสท.สรุปผล เหตุเครนสายสีแดงถล่ม เกิดจาก วิศวกรควบคุมงาน “ประมาท" พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งมาตรการสร้างความปลอดภัย ก่อสร้างรถไฟฟ้า

เมื่อเวลา10.30น.วันที่4 พ.ค.60 ที่ อาคารวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ดร.ธเนศ วีระศิริ  นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ นายสุวิทยา จันทวงค์  รองอธิบดี กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นายชัยธนา ไชยมงคล  สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) นายกำพล บุญชม  รองวิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษ และผู้อำนวยโครงการระบบรถไฟชาน เมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) การรถไฟแห่งประเทศไทย นางสาวบุษกร แสนสุข ประธานคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมความปลอดภัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ  ร่วมจัดงานแถลงสรุปกรณีฐานเกิดเหตุเครนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง บริเวณวัดดอนเมือง ถล่มลงมา และมีคนงานผู้เสียชีวิต 3 คน เมื่อวันที่28เม.ย.ที่ผ่านมา

ดร.ธเนศ กล่าวว่าจากสาเหตุสลดดังกล่าว เกิดจากความประมาทของวิศวกรควบคุมงานขณะนั้น เนื่องจากเครื่องจักรหรือเครนที่อยู่ระหว่างการทำงานเกิดผิดปกติ จึงต้องเปลี่ยนเป็นระบบใช้คนในบังคัเครื่องจักรแทน ทำให้ไม่รู้น้ำหนักที่เครนสามารถรับได้ มีการฝืนบังคับยกน้ำหนักที่เกินความจำเป็น ส่งผลให้ตัวเครนไปดึงเหล็ก ที่ใช้ยึดฐานรองรับกับเสาตอม่อขาด ทำให้ฐานรองรับแท่นเครนทั้งหมดหล่นลงมา พร้อมคนงาน 3 คนที่ยืนทำงานอยู่ในจุดเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่วสท.ได้ส่งชนิดเหล็กตัวรับน้ำหนักไปตรวจสอบแล้วขณะนี้ยังรอผลสรุปเพื่อประกอบกับสาเหตุซึ่งคาดว่าจะได้ผลทดสอบเหล็ก1-2อาทิตย์

ดร.ธเนศกล่าวต่อว่านอกจากนี้วสท.ได้ออกมาตรการความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างสำหรับโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยได้เสนอมาตรการความปลอดภัยในการทำงานก่อสร้างทางสำหรับรถไฟฟ้า เป็นข้อเสนอแนะที่ได้จากการร่วมปรึกษาหารือระหว่างตัวแทนบริษัทผู้รับเหมา, ผู้ควบคุมงาน, การรถไฟแห่งประเทศไทย กับผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นข้อปฏิบัติเพิ่มเติมจากที่เคยมีอยู่เดิม ทั้งนี้เพื่อให้มีความมั่นใจในความปลอดภัยในการทำงาน และความปลอดภัยสาธารณะต่อประชาชน เช่นเพื่อความแข็งแรงของการยึด ชุดล้อเลื่อน คานเหล็ก และขายึดเหล็ก ให้ติดกับเสาตอม่อให้แข็งแรงขึ้น    ให้สามารถรับแรงแนวราบทั้งเดินหน้า และถอยหลังได้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 ของน้ำหนัก โครงเหล็ก (36 ตัน) และไม่น้อยกว่า ร้อยละ 3 ของน้ำหนัก โครงเหล็ก และน้ำหนักชิ้นส่วนคานคอนกรีต (129 ตัน) ด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่นเพิ่มคานเหล็กและ PT Bar รัดขาเหล็กให้ติดกับเสา โดยมี Safety Factor ที่เหมาะสม ,ติดตั้ง Limit Switch เพื่อจำกัด แรงดัน และแรงดึงที่ควบคุมการ เดินหน้า และถอยหลัง โครงเหล็ก ให้มีค่าแรงไม่เกิน แรงที่ใช้ออกแบบ ,ทำการอบรม พนักงาน ช่างเทคนิค และคนงานที่ทำงานการติดตั้งน้ำหนักชิ้นส่วนคานคอนกรีต ให้เข้าใจ ขั้นตอนที่ถูกต้อง และขีดจำกัด ของอุปกรณ์ ,จัดให้มีวิศวกรหรือช่างเทคนิค ให้มีหน้าที่ตรวจสอบขั้นตอนการทำงานอย่างเข้มงวด หากพบการทำงานผิดขั้นตอน หรือลัดขั้นตอนให้ถือว่า พนักงานหรือคนงานจงใจกระทำผิดเพื่อการบ่อนทำลายให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานก่อสร้าง ความผิดเทียบเท่าการกระทำผิดวินัยขั้นร้ายแรง ให้ลงโทษขั้นสูงสุด

ด้านนายสุวิทยา จันทวงศ์ รองอธิบดี กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ได้เชิญนายจ้าง ของพนักงานที่เสียชีวิต3 คน มาพบด้วย เพื่อตรวจสอบว่า นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงานหรือไม่ หากพบว่านายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีระวางโทษ จำคุก และปรับ ขณะนี้ อยู่ระหว่างนายจ้างส่งหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานและหากพบว่านายจ้างผิด จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับความปลอดภัยในการทำงาน ภายใต้พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554มีกฎหมายเกี่ยวข้องที่สำคัญ ดังนี้ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และมีกฎกระทรวงเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง เกี่ยวกับเครื่องจักร และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการ เพื่อให้นายจ้างได้มีการดำเนินการด้านความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ มีบทกำหนดโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 05/05/2017 12:26 pm    Post subject: Reply with quote

สรุปเหตุเครนสายสีแดงถล่มดับ 3 ศพ วิศวกรบกพร่อง
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
4 พฤษภาคม 2560 14:32 น. (แก้ไขล่าสุด 4 พฤษภาคม 2560 14:41 น.)

MGR Online - วิศวกรรมสถานฯ สรุปเหตุฐานรองรับแท่นเครนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงถล่มหน้าวัดดอนเมือง ดับ 3 ศพ ถือเป็นความผิดพลาด ของวิศวกรผู้ควบคุมงาน พร้อมเสนอมาตรการความปลอดภัยเพิ่ม 10 ข้อ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี

วันนี้ (4 พ.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมอาคารวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นายธเนศ วีระศิริ นายก วสท. แถลงข่าวกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมาเกิดเหตุฐานเครนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ถล่มลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดดอนเมือง ว่าจากการตรวจสอบภายหลังเกิดเหตุดังกล่าวซึ่งสาเหตุที่ทำให้ฐานรองรับแท่นเครนร่วงลวมานั้นเกิดจากตัวยึดระหว่างฐานเครนกับตอม่อที่เรียกว่าเหล็กพีทีบาร์ หรือเหล็กรับแรงดึงสูง เกิดขาดทำให้ฐานเครนร่วงลงมา ส่วนสาเหตุที่ทำให้เหล็กพีทีบาร์ขาดนั้นเกิดจากขณะดำเนินการเคลื่อน Truss (ทรัส) หรือโครงถักเพื่อจะเลื่อนไปยังตอม่อตัวถัดไป แต่ในระหว่างเคลื่อนโครงถักเกิดการติดขัดไม่สามารถเคลื่อนต่อไปได้ อาจเป็นเพราะชุดล้อเลื่อนไม่ตรงตามไกด์วิว อีกทั้งตอม่อตัวถัดไปต่ำกว่าทำให้การเคลื่อนตัวของโครงถักไม่สามารถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ตรงตามไกด์วิว และพอจะเคลื่อนถอยหลังกลับก็ไม่ได้ ประกอบกับการทำงานของเครื่องจักรที่ต้องใช้แรงเคลื่อนโครงถักเกิดการฉุดกระชากจนเป็นเหตุให้เหล็กพีทีบาร์ซึ่งเป็นตัวยึดเกิดขาดก่อนฐานรองรับแท่นเครนจะร่วงลงมา

นายธเนศยังกล่าวอีกว่า กรณีการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นการตัดสินใจในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่ไม่ทราบว่าเป็นการตัดสินใจของใครและมีวิศวกรผู้ควบคุมงานในขณะนั้นหรือไม่ นอกจากนี้ วสท.ได้เสนอมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างทางสำหรับรถไฟฟ้า หลังจากที่มีการหารือร่วมกับตัวแทนบริษัทผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน และการรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อนจะสรุปเป็นมาตรการ 10 ข้อ ประกอบด้วย

1. เพื่อความแข็งแรงของการยึดชุดล้อเลื่อน คานเหล็ก และขายึด ให้ติดกับเสาตอม่อให้แข็งแรงขึ้น ให้สามารถรับแรงแนวราบทั้งเดินหน้า และถอยหลังได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของน้ำหนักโครงเหล็ก ด้วยวิธีที่เหมาะสม 2. ติดตั้ง Limit Switch เพื่อจำกัดแรงดันและแรงดึงที่ควบคุมการเดินหน้าและถอยหลัง 3. ทำการอบรมพนักาน ช่างเทคนิค และคนงานที่ทำการติดตั้งน้ำหนักชิ้นส่วนคอนกรีตให้เข้าใจถูกต้อง 4. จัดให้มีวิศวกรหรือช่างเทคนิค ตรวจสอบการทำงานอย่างเข้มงวด

5. ให้มีการรัดหัวเสาเหล็กโดยรอบทุกตัว 6. ในกรณีระหว่างการปฏิบัติงาน หากเครื่องจักรเกิดขัดข้องต้องหยุดทันที แล้วแจ้งต่อวิศวกร 7. กั้นพื้นที่ไม่อนุญาตให้คนทำงานอยู่บริเวณเสาตัวแรกของการยกอุปกรณ์ 8. กั้นพื้นที่ไม่ให้มีรถสัญจรไปมาขณะยกแท่นเหล็ก 9. ติดตั้งวัสดุทึบป้องกันวัสดุตกหล่นจากที่สูง 10. ต้องทำการตรวจ Lunching Truss ทุกตัว

ด้านนายสุวิทยา จันทวงศ์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลและคุ้มครองแรงงานเพื่อให้เกิดควมปลอดภัยในการทำงาน ภายใต้พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และมีกฎกระทรวงเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้าง เกี่ยวกับเครื่องจักร และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการ เพื่อให้นายจ้างได้มีการดำเนินการด้านความปลอดภัยอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มีบทกำหนดโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

//----------------------------------------

วสท.สรุปเหตุแท่นเครนรถไฟฟ้าหล่นทับคนงาน เกิดจากตัวยึดมีปัญหา
โดย MGR Online
4 พฤษภาคม 2560 12:51 น.

นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย หรือ วสท. แถลงกรณีฐานเครนก่อสร้างรถไฟฟ้าล้ม:สาเหตุและมาตรการป้องกัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ว่ากรณีฐานรองรับเครนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง หล่นทับคนงานเสียชีวิต 3 ราย เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอุปกรณ์ตัวยึดระหว่างคอนกรีตหัวเสากับอุปกรณ์เสาชุดรองรับคานขาด เนื่องจากการเคลื่อนตัวของคานที่ใช้ยกทางวิ่งระบบราง ไม่เข้าตำแหน่งที่กำหนด โดยผู้ปฏิบัติงานได้ขยับโดยการถอยหลัง และเดินหน้าไปมา ด้วยความประมาท จึงทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

นายธเนศ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยขณะปฏิบัติหน้าที่และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนจึงกำหนดมาตรการ สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าคือเพิ่มความแข็งแรงของการยึดชุดล้อ เลื่อน คานเหล็ก ขายึดเหล็ก ที่ติดกับเสาตอม่อ ถอยหลังได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ20 ของน้ำหนักโครงเหล็ก 36 ตัน และไม่น้อยกว่าร้อยละ3 ของน้ำหนักโครงเหล็กรวมกับน้ำหนักชิ้นส่วนคานคอนกรีต 129 ตัน ติดตั้งลิมิตสวิทซ์ เพื่อจำกัดแรงดัน ควบคุมการเดินหน้า ถอยหลัง หากเกิดเหตุขัดข้อง ขณะปฏิบัติหน้าที่ต้องหยุดทันที และแจ้งวิศวกรควบคุม หรือหัวหน้าโครงการ พร้อมติดตั้งวัสดุทึบ ที่ไม่ใช่สแลน ป้องกันวัสดุตกจากที่สูง ทั้งนี้ทุกโครงการที่ดำเนินงานก่อสร้างต้องมีวิศวกร หรือช่างเทคนิค ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวดตามหลักวิชาชีพวิศรกร

ด้านนายกำพล บุญชม ผู้อำนวยการโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.มีมาตรการควบคุมความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง ตรวจงานทุกสัปดาห์อย่างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยลงพื้นที่ทุก 3เดือน เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากความไม่ระมัดระวัง ขณะปฏิบัติงาน ได้แจ้งไปยังบริษัทอิตาเลียนไทย และผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นมากกว่านี้ หลังจากนี้ ร.ฟ.ท.พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอย่างเข้มงวด พร้อมเอาผิดหากพบโครงการใดละเลย ประมาท ไม่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44631
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/05/2017 9:31 am    Post subject: Reply with quote

ก.แรงงานเอาผิด"อิตาเลียนไทย" ปมทำคนงานดับ3ศพ
เดลินิวส์ ศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม 2560 เวลา 16.46 น.

กระทรวงแรงงานเอาผิด “อิตาเลียนไทย” เหตุทำผิดกฎหมาย 3 ประเด็น ปมอุบัติเหตุสร้างทางรถไฟสายสีแดง ทำคนงานดับ 3 ศพ

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าจากการสอบข้อเท็จจริงจากผู้แทนนายจ้างและพยานหลักฐานกรณีชิ้นส่วนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงหล่นเป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิต 3 รายเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่านายจ้างปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายความปลอดภัยฯ 3 ประเด็น คือ 1. ปล่อยให้ลูกจ้างที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ทำงานบนโครงเหล็กชุดรับน้ำหนักด้านหน้าซึ่งเป็นอุปกรณ์เครื่องจักรกลที่เคลื่อนที่ ซึ่งตามกฎหมายความปลอดภัยฯ กำหนดให้นายจ้างมีหน้าที่ควบคุมดูแลมิให้ผู้ใดเกาะ ยืน หรือโดยสาร ไปกับเครื่องจักรดังกล่าว ซึ่งความผิดในฐานนี้มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า 2.นายจ้างไม่ได้จัดลูกจ้างที่ทำงานกับปั้นจั่นได้รับการอบรมตามที่กฎหมายกำหนด มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและ 3.นายจ้างไม่ได้แต่งตั้งและขึ้นทะเบียนเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานให้ครบถ้วนถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ล่าสุดพนักงานตรวจความปลอดภัยได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) นายจ้าง ต่อพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง แล้ว นอกจากนี้พนักงานตรวจความปลอดภัยจะมีคำสั่งให้นายจ้างตรวจสอบและแก้ไขเครื่องจักรมีความปลอดภัยต่อการปฏิบัติงานภายใน 30 วันด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 47, 48, 49 ... 149, 150, 151  Next
Page 48 of 151

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©