Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13274501
ทั้งหมด:13585797
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - นิราศสุโขทัย ของคุณหญิงเขื่อนเพ็ชรเสนา
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

นิราศสุโขทัย ของคุณหญิงเขื่อนเพ็ชรเสนา
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/11/2012 10:00 am    Post subject: Reply with quote

ดึกสงัดรัตติกาล์นิทราตื่น อยู่ห้องพื้นสูงอย่างกลางเวหา
วิเวกว่างห่างกระทบสบวิญญาณ์ ลมอัสสาสะประสาทสะอาดดี

ดวงจิตดิ่งนิ่งนังดังวิมุตติ เป็นสุขสุดจนกระทั่งเกือบรังสี
สิ่งสมมติฉุดเบิกเลิกพิธี กลับมามีอุปาทานรำคาญเคือง

คิดอีกทีดีได้ขณะหนึ่ง ดีกว่าซึ่งหมกมุ่นจิตขุ่นเหลือง
ทั้งตาปีมีแต่เหตุกิเลสเนือง ชีวิตเปลืองเปล่าประโยชน์ล้วนโทษภัย

เสียงอธึกกึกก้องทุกห้องตื่น ลงจากพื้นภัตตาที่อาศัย
ต่างกังวลขนของปองครรไล ขึ้นรถไฟไปสวรรคโลกทันที

อากาศหนาวคราววิโยคสุดโศกซ้ำ ฝนพรูพรำชืดชาหมดราศี
นั่งระทมไม่เป็นสมประฤดี อันอินทรีย์เหมือนจะแข็งด้วยแรงเย็น

ไหนจะหนาวห่างอุ่นละมุนอก ไหนจะหนาวฝนตกฟกเหลือเข็ญ
ไหนจะหนาววายุดุลำเค็ญ ฝนกระเซ็นปิดแกลแล้วแจจัน

ต่างนั่งจ๋องมองหน้ากันตาแจ๋ว แต่มองแล้วมองเล่าเฝ้าเหหัน
ดูสิ่งใดก็ไม่เห็นเหมือนเช่นกัน ต่างนิ่งอั้นตาขยิบปริบปริบไป

บ้างโงกหงับหลับตาทีท่าขัน บ้างเอนหันพิงเก้าอี้กรนฟี้ใหญ่
บ้างง่วงหงุบฟุบผงกตื่นตกใจ เห็นใครใครเข้ายิ้มยิ่งนิ่มอาย

บ้างหาวหวอดกอดอกดังนกเจ็บ นั่งหนาวเหน็บชาพานสะท้านหลาย
เมื่อคืนนอนไม่หลับระงับกาย กระสับกระส่ายเพราะแรกแปลกที่นอน

ในรถไฟขายอาหารทั้งหวานคาว เกาเหลาข้าวแกงดีมีสลอน
กินสิ่งใดทำให้ของร้อนร้อน ไม่อาวรณ์จานหนึ่งสลึงเดียว

๕๖/ ถึงบ้านตูมฝนซาเปิดหน้าต่าง ค่อยสว่างหัวใจหมองไหม้เหี่ยว
คิดประทุมตูมแย้มแฉล้มเรียว เกสรเสียวชื่นทรวงดวงกมล

นิจจาเอ๋ยเคยชื่นระรื่นกลิ่น มาสูญสิ้นอ้างว้างอยู่กลางหน
โอ้แต่นี้ที่ไหนจะได้ยล ดวงอุบลเบิกบานตระการตา

----
ยังไม่มีสถานีบึงพระ และบ้านเตงหนาม (ปัจจุบันคือ บ้านเต็งหนาม)
โดยในบัญชีสถานีปี ๒๔๙๕ ทั้งสองสถานียังเป็นเพียงที่หยุดรถ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
umic2000
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 06/07/2006
Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.

PostPosted: 28/11/2012 4:22 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
คำว่า ตำบล คงมาจากภาษาเขมรนะครับ เพราะขึ้นต้นด้วยพยางค์ ตำ- และ บล สะกดด้วย ล ลิง Rolling Eyes

คำว่า ตำบล, อำเภอ, จังหวัด เป็นคำยืมมาจากภาษาเขมรครับอาจารย์ โดยเฉพาะในช่วงสมัยอยุธยาตอนต้นที่ขนบธรรมเนียมประเพณีของราชสำนักเขมรมีอิทธิพลอย่างสูงต่อราชสำนักอโยธยา หลังจากที่กองทัพอโยธยาสามารถตีเมืองนครวัด-นครธมแตกและเทครัวชาวเขมรกลับเข้ามา คนไทยจึงใช้คำยืมเหล่านี้มานมนามจนกลืนเป็นส่วนหนึ่งของภาษาไทยไปแล้ว บางคำก็แผลงเสียงจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมของคำเลยก็มี

ส่วนคำว่า "เขตต" และ "เขตร" แท้จริงก็เป็นคำๆเดียวกันเพียงแต่ เขตฺต เขียนในรูปภาษาบาลี ส่วนคำว่า เขตฺร ถ้าเขียนในรูปภาษาสันสกฤตให้ถูกต้องจะต้องแปลง ข เป็น กฺษ แล้วเขียนว่า "เกฺษตฺร" เหมือนคำว่า "ขตฺติย" กับ "กฺษตฺริย" ครับ Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/11/2012 5:24 pm    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณมากครับคุณเอก umic2000 ที่เข้ามาแนะนำเพิ่มเติม Very Happy
ว่าไปแล้วไทยก็ยืมคำเขมรมาใช้เยอะทีเดียว (ยืมแล้วไม่คืนด้วย)

ส่วนที่เขมรยืมไทย เห็นชัด ๆ ก็ ระแทะเพลิง กระมังครับ ที่แปลว่ารถไฟ
เดี๋ยวนี้ฟังในรายการโทรทัศน์ของกัมพูชา ไม่เจอคำว่า "ระแทะเพลิง" แล้ว มีแต่ หร็อดเพลิ้ง สงสัยคำว่า "หร็อด" (รถ) จะยืมไปจากไทย ผิดถูกอย่างไร ไม่ยืนยันครับ
(ต้นกำเนิด ก็มีจากบาลีสันสกฤตนั่นแหละครับ)

ส่วนภาษาลาว ก็เห็นสะกดตั้ง 3 แบบเลยครับ ລົດໄຟ ຣົດໄຟ แล้วก็ ຣົຖໄຟ (ลดไฟ รดไฟ และ รถไฟ)

----

๕๗/ ถึงแควน้อยข้ามกระแสแลชม้อย อันแควน้อยย่อมอาศัยแควใหญ่กล้า
จึงมีน้ำนำให้ฝ่ายนาวา ได้ไปมาค้าขายสบายตัว

ถ้าป่ารกยกทำคลองถนน จะมีผลกว้างใหญ่มิใช่ชั่ว
ผู้ขัดสนได้ผงกยกครอบครัว ไปปลูกถั่วปลูกงาทำนากิน

มนุษย์เราไม่เหมือนสัตว์ในปัถวี เครื่องทิพย์มีมิต้องตรองถวิล
ไม่วิตกยกหามตามแผ่นดิน ก็เหลือกินมีเองไม่เกรงกลัว

มนุษย์เราจำเป็นต้องนุ่งห่ม ที่บังลมแดดฝนให้พ้นหัว
อาหารต้องอิ่มหนำประจำตัว จะมามัวเกี่ยงหาให้ช้าการ

เหมือนเรือใหญ่พายเดียวน้ำเชี่ยวปราด เมื่อใดอาจจะถึงยังห้วงสถาน
แม้ช่วยพายหลายแรงแข่งทะยาน มิทันนานก็จะถึงซึ่งสบาย

คอยผิดจับสับฟันกันให้ยุ่ง เหมือนตบยุงจะสูญประยูรหาย
หาการงานให้ทำประจำกาย ที่ลอยชายต้องบังคับให้จับงาน

ป้องกันให้หายอดเหมือนทดน้ำ ได้ชื่นฉ่ำอิ่มเอมเกษมสานต์
ความหิวโหยโปรยประโยชน์โทษสาธารณ์ เห็นคชสารเท่ามดหมดความกลัว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/11/2012 5:57 pm    Post subject: Reply with quote

๕๘/ บ้านกรับพวงพวงกรับตีขับร้อง แลกข้าวของกินบ้างค่อยยังชั่ว
ที่โง่โซโออนาถดังชาติวัว เห็นเพื่อนตัวไปทางไหนก็ไปตาม

จะเป็นตายร้ายดีก็มิรู้ สุดแต่กูกินได้แล้วไม่ขาม
จะตีขับจับขังก็รังความ อยู่ในนามไทยสนิทน่าคิดดู

ชาติของเราคนน้อยด้อยพละ ควรจะสะสมให้มากบากบั่นสู้
การทำลายกันเองใช่เพลงครู ต้องเชิดชูจุนค้ำให้จำเริญ


๕๙/ ถึงหนองตมตมก็เกิดต่อน้ำ ละลายทำดินแห้งที่แข็งเขิน
ให้เหลวไหลไปตามทางน้ำเดิน บังเอิญไหลไม่พ้นข้นเป็นตม

ดุจเหล็กแข็งแรงเหล็กรันต้องพลันนิ่ม ก้อนเกลือจิ้มน้ำกลายหายเค็มขม
ต้นไม้ใหญ่หักเดาะก็เพราะลม ลิ้นคนคมร้ายกาจยิ่งสาตรา

อาวุธอื่นหมื่นแสนแม้นประหาร คนนับล้านในแผ่นดินสิ้นสังขาร์
ให้พร้อมกันอันตรายวายชีวา ย่อมไม่สามารถทำสำเร็จการ

แต่ชิวหาอาวุธนี้สุดร้าย อาจทำลายล้านโกฏิอุโฆษหาร
ชีวิตมนุษย์ไม่มีที่ประมาณ อาจล้างผลาญรอบล้อมลงพร้อมกัน

ลิ้นที่ดีมีประโยชน์ล้างโทษร้าย คนทั้งหลายสิ้นทุกข์เป็นสุขสันต์
ทุกประเทศทุกถิ่นลิ้นสำคัญ ตัวของฉันกลัวจริงยิ่งสาตรา

๖๐/ ถึงบ้านบุ่งมุ่งมองยิ่งหมองอก เห็นป่ารกโออนาถสัญชาติหญ้า
เที่ยวขึ้นบุกรุกรานการไร่นา อ่อนระอากันทั่วกลัวศัตรู

ไม้ที่ดีมีผลต้องขวนขวาย ส่วนไม้ร้ายมิต้องปลูกดอกลูกหรู
เหมือนวิชาที่ดีต้องมีครู ที่ชั่วดูมิต้องนำก็ชำนาญ

----
บ้านกรับพวง ปัจจุบันคือสถานีรถไฟพรหมพิราม
ชื่อสถานีรถไฟบ้านกรับพวง ปรากฏอยู่ใน สมุดกำหนดเวลาทำการเดินรถ ร.ศ. ๑๒๘ ครับ
เปลี่ยนชื่อเป็น พรหมพิราม เมื่อใด ยังค้นไม่พบ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3293
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 28/11/2012 10:44 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:

บ้านกรับพวง ปัจจุบันคือสถานีรถไฟพรหมพิราม
ชื่อสถานีรถไฟบ้านกรับพวง ปรากฏอยู่ใน สมุดกำหนดเวลาทำการเดินรถ ร.ศ. ๑๒๘ ครับ
เปลี่ยนชื่อเป็น พรหมพิราม เมื่อใด ยังค้นไม่พบ


สถานีบ้านกรับพวง คงจะเป็นการตั้งชื่อตามหมู่บ้านที่อยู่ตรงนั้นมาแต่เดิมซึ่งที่เป็นที่ตั้งของสถานีนะครับ
และแต่เดิมที่ว่าการอำเภอพรหมพิรามก็ไม่ได้อยู่แถวนั้นด้วย

ต่อมาเมื่อมีการย้ายที่ว่าการอำเภอพรหมพิรามมาอยู่ที่บ้านกรับพวงแล้ว
ก็ยังเรียกชื่อหมู่บ้านตรงนี้ว่าบ้านกรับพวงอยู่

ต่อมาเมื่อปี 2494 (ข้อมูลเรื่อง พ.ศ. นี้ ผมจำไม่ได้ว่าค้นมาได้จากที่ไหน Embarassed )
จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อบ้านกรับพวง หมู่ที่ 2 (บ้านกรับพวงมีหลายหมู่ครับ) เป็น "บ้านพรหมพิราม"
เพราะประชาชนสับสนเรื่องชื่อหมู่บ้านกับที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอ

^
ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง ผมก็คิดว่าชื่อสถานีรถไฟก็ไม่น่าเปลี่ยนก่อนปี 2494 นะครับ
เพราะผมไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อสถานีก่อนการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านตรงนั้น
แม้ว่าที่ว่าการอำเภอจะย้ายมาตั้งก่อนหน้าการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านระยะหนึ่งแล้วก็ตาม
คงต้องหาทางพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไปนะครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/12/2012 9:16 am    Post subject: Reply with quote

ผมพยายามค้นดูในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็ไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมเลยครับ
แต่ในบัญชีสถานีราวปี 2495-2499 นั้น ก็เปลี่ยนเป็นพรหมพิรามเรียบร้อยแล้ว

----

๖๑/ ถึงบ้านโดนโดนกันสนั่นภพ ยิ่งปรารภเรื้อรังชาติสังขาร
อยู่คนเดียวในโลกก็โศกซาน อยู่รวมกันบันดาลรำคาญเคือง

นี่ของฉันนั่นของแกมาแส่แย่ง นี่ของข้าอย่ามาแกล้งแสวงเรื่อง
อยู่ดีดีรี่มาชนเข้าป่นเปลือง เจ้ามันเงื่องไม่หลีกข้าว่ากระไร

ต่างฝ่ายต่างก็ว่าข้าไม่ผิด ไม่มีจิตปรองดองให้ผ่องใส
ถ้ารักแล้วดีทั้งนั้นชมกันไป ชังแล้วไม่มีราคาแกล้งว่าเดา

ไม่เที่ยงแท้แน่นอนพระสอนสั่ง ให้ระวังอยาตนะเขา
ทั้งระวังอยาตนะเรา กระทบเข้าจะเถกิงเป็นเพลิงกอง

เวรใดทำกรรมใดสร้างแต่ปางไหน เป็นปัจจัยแต่งทำให้ช้ำหมอง
ไม่จดจำสำนึกคิดตรึกตรอง มานั่งมองดินฟ้าระอาอาย


๖๒/ ถึงพิชัยขอให้ชัยชนะ สิ้นราคาโทสะโมหะหลาย
จงพ้นสุขทุกข์สมานสราญกาย จนวางวายชนม์ชีพถึงนิพพาน


๖๓/ ถึงไร่อ้อยอ้อยตาลยังหว่านผล ให้ฝูงชนกินน้ำชื่นฉ่ำหวาน
มนุษย์ดีกว่าอ้อยร้อยประการ มิให้ทานเงินทองของชอบใจ

เพราะตระหนี่ถี่ห่างก็ช่างเถอะ ที่เลอะเทอะปลูกเท็จเก็บเด็ดใส่
ปลูกอิจฉากาล่อนต้นบอนใบ จงถอนให้ทานเตาเผาอัคคี

----
ผมสันนิษฐานว่าคุณหญิงเขื่อนเพ็ชรเสนาคงบันทึกชื่อสถานีบ้านโคน ผิด เป็น บ้านโดน จึงทำให้ประพันธ์กลอนโดยอิงคำว่า โดน
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/12/2012 6:45 pm    Post subject: Reply with quote

๖๔/ ข้ามสะพานแม่น้ำน่านสำราญรื่น พลางขึ้นยืนเยี่ยมแกลแลวิถี
ดูเวิ้งว้างกว้างใหญ่สายวารี หาดทรายมีเรียบราบดังปราบทำ

เป็นแหลมคุ้งวุ้งเว้าล้วนเหล่าทราย น่าสบายสนุกทุกฉนำ
น่าตั้งบ้านเรือนดูอยู่ประจำ เสียแรงธรรมชาติสร้างสำอางดี

ที่เปล่าว่างอย่างถูกมิปลูกอยู่ ที่อุดอู้ยัดเยียดเบียดเสียดสี
อากาศอับสับสนพนธุลี ไม่หน่ายหนีอดทนอยู่จนตาย


๖๕/ ถึงตำบลบ้านดาราสถานี อันเป็นที่ทางแยกดูแปลกหลาย
ต้องรีบลงจากรถรันทดกาย จะขึ้นสายสวรรคโลกครรไล

ต้องกรำฝนวนวิ่งขนสิ่งของ ลงมากองกลางหาวหนาวถึงไส้
เห็นร่มกระดาษขายมีค่อยดีใจ ซื้อมาได้ห้าคันกั้นกายา

รถเก่าไปลำปางต่างแลเหลียว หัวใจเสียวหวนไห้อาลัยหา
ผู้รู้จักกันเมื่อนั่งร่วมทางมา ต่างอำลาแยกทางกันต่างจร

พอรถไฟสายพายัพกลับมาหยุด อุตลุดเซ็งแซ่แลสลอน
บ้างขึ้นลงส่งของประคองกร ต้องเปียกปอนกลัวกันไม่ทันรถ

พวกเราขึ้นรถใหม่สายสั้นหน่อย พอเรียบร้อยพวกอื่นขึ้นกันหมด
รถล่องลงแลหลามช่างงามงด สายเราบทจรหลังแยกทางกัน


Last edited by Mongwin on 04/12/2012 7:25 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 04/12/2012 7:02 pm    Post subject: Reply with quote

Laughing แสดงว่าพอรถไฟถึง ชท.บ้านดารา ก็มีรถขบวนใหม่ต่อไป สวรรคโลก ไม่ต้องรอคอยนาน

บรรยากาศที่สถานี ชท.บ้านดาราสมัยนั้น คงคึกคักมากนะ ครับ

ส่วนร่มกระดาษผมไม่เคยเห็นนานแล้ว ร่มกระดาษใหม่ ๆ กางแล้วถูกฝนสีตกใส่เสื้อด้วย ^^
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 04/12/2012 8:21 pm    Post subject: Reply with quote

ร่มกระดาษ สมัยผมเด็ก ๆ เคยใช้ครับ เป็นร่มกระดาษเคลือบน้ำมัน สีน้ำตาล เขียนลวดลายแบบจีน เข้าใจว่ามาจากเมืองจีน ไปซื้อมาจากฝั่งปาดังเบซาร์ครับ ส่วนอื่น ๆ เป็นไม้ทั้งหมด กันฝนได้ดีมาก

เดี๋ยวนี้พอพูดถึงร่มกระดาษก็นึกถึงร่มบ่อสร้าง เชียงใหม่ครับ แต่ไม่เคยเห็นใครเอามากันฝนสักที กันแดดน่าจะพอได้

ตอนนี้อยากได้ร่มพะสิม พม่าครับ Very Happy
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44656
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/12/2012 9:55 pm    Post subject: Reply with quote

ไม่เห็นมีบ้านช่องมองเปล่าเปลี่ยว เหมือนมาเดี่ยวเศร้าในหัวใจฉัน
ดูภูมิพื้นกว้างใหญ่เสียดายครัน เมื่อไรนั่นชาวไทยจะไพบูลย์

ไปที่ใดได้พบคนมีล้นหลาม ล้วนตึกงามคับคั่งดังไอศูรย์
เทียมหน้าอย่างต่างภาษาไม่อาดูร จรัสจรูญเจริญเพลิดเพลินทรวง

อันดินแดนของเราว่างเปล่ามาก ทิ้งให้ตากแดดเล่นมิเป็นห่วง
เอาแต่เที่ยวเอาแต่เล่นกันเป็นพวง นอนจนดวงตะวันขึ้นไม่ตื่นตา

เสียประโยชน์หาทรัพย์สำหรับร่าง ไม่เอาอย่างผู้อื่นดื่นภาษา
เขาพากันข้ามทะเลเฮกันมา ขนเงินตราเมืองเราเอาสบาย

บ้างตั้งห้างสร้างตู้ชูสิ่งของ ทั้งเพชรทองวางเย้ยเฉลยขาย
เพราะพวกเราไม่กังวลจะจนตาย จะทนอายให้เขาหยามไม่งามตา

เมื่อตัวเธอยากจนทนอายได้ ประเทศไซร้ต้องสมัครกันรักษา
อย่างให้ยากจนได้ขายพักตรา แก่นานาประเทศเขาเราเป็นไทย

เป็นขี้ข้าตัวเองอย่าเกรงเหนื่อย เราป่วยเมื่อยนึกจะพักก็พักได้
ถ้ามีนายใช้ทำกระหน่ำไป หยุดไม่ได้เขาหาเอื้ออาทร

๖๖/ ถึงคลองละมุงมองเห็นคลองน้อย ไร่นาจ้อยมีแต่ไพรไม้สลอน
เต็งรังลิ่วงิ้วชะง้ำเงื้อมอัมพร พะยอมดอนกระแบกกระเบาเหล่าเพกา

มะกอกมะเกลือระดะต้นตะโก เทพทาโรมะไฟไม้มะค่า
ต้นยางยูงสูงเยี่ยมเทียมเมฆา กิ่งสาขาเชิดยอดทอดระทวย

พระพายพัดกวัดไกววิไลล้ำ ดังระบำกรีดกรอ่อนสลวย
ทุกก้านใบไหวจังหวะอันจรวย เหล่าใบชวยเชิดช้อยชม้อยเมียง

ลมพัดหวนป่วนปั่นเลื่อนลั่นเปราะ ไม้ไผ่เสนาะเอนเบียดออดเอียดเสียง
ดุจดนตรีตีรับศัพท์สำเนียง เป็นคู่เคียงสำหรับจับระบำ

อันพรรณะเหล่าไม้ใส่ใจคิด เห็นงามพิศดารกว่าเลขาขำ
งามสิ่งอื่นฝืนฝืดจืดประจำ พ่ายแพ้ธรรมชาติประหลาดงาม

งามจืดเจียนเปลี่ยนความงามเพริศพริ้ง ผลิดอกกิ่งออกใหม่ยอดใบหลาม
พอแก่เก่าเล่าก็เวียนแลกเปลี่ยนความ แตกใบตามยอดระย้าทั้งตาปี

ฝูงวิหคผกผินลงบินเกาะ ส่งเสียงเพราะวังเวงดังเพลงปี่
กระรอกไต่ไม้ชะแง้กระแตมี หมู่ชะนีเหนี่ยวไม้โหนไปมา

ลิงทโมนโจนจ้องมองเขม้น บ้างโผนเผ่นเลิกคิ้วทำนิ่วหน้า
เขาว่าคนซนเหมือนลิงจริงวาจา หรือยิ่งกว่าลิงร้ายกี่ก่ายกอง
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  Next
Page 6 of 10

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©