View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 20/08/2013 5:32 pm Post subject: |
|
|
ตรงบริเวณหัวเรือนี้ ผมหันหลังไปเห็นเป็นป้ายหินอ่อนทรงสามเหลี่ยมตั้งอยู่ด้านทิศใต้ (ถัดไปข้างหลังก็คือถนนที่ผมเข้ามาซึ่งต้องเลี้ยวขวาเลียบหาดทรายรีไปจนสุดหาดได้)
เดินเข้าไปอ่านใกล้ๆที่ป้ายนี้ เป็นประวัติที่มาของเรือลำนี้ นับเป็นความบังเอิญหรือไม่ ที่กรมหลวงชุมพร ท่านได้มาเสด็จสวรรคตที่ชุมพร ณ. หาดทรายรี บริเวณนี้ แล้วเรือหลวงที่ชื่อชุมพร หลังปลดระวางก็ได้มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือหลวงชุมพรลำนี้ คือ ต่อที่ประเทศอิตาลี ขึ้นประจำการเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2481 เดิมหัวเรือเขียนตัวเลข 31 (หมายเลขลำดับที่ของเรือตอร์ปิดโดของประเทศไทย) และที่ข้างเรือเขียนตัวอักษร ชพ.ได้ถูกลบออก เมื่อเกิดกรณีพิพาทอินโดจีน-ฝรั่งเศส ในปีพ.ศ.2484 และต่อมาก็ได้พิมพ์ตัวเลข 7 เข้าไปแทน จนปัจจุบัน มีหน้าทีหลักในการคุ้มกันการลำเลียงนาวิกโยธินขึ้นบก ลาดตระเวนชายฝั่ง กวาดทุ่นระเบิด ป้องกันการโจมตีและยกพลขึ้นบกของข้าศึก
และได้ ปลดประจำการไปเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2518 ต่อมาในปี พ.ศ.2522 กองทัพเรือจึงมอบเรือลำนี้ให้กับจังหวัดชุมพร และได้นำมาประดิษฐาน ขุดร่องน้ำให้คล้ายอู่เรือ โดยมีฐานรองรับเรือ สร้างโดย ทหารช่างจากกองทัพเรือร่วมกับ เจ้าหน้าที่จังหวัด และบริษัทอิตาเลียนไทยดีเวล็อปเมนท์คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีพิธีวางศิลามหามงคล โดยพลเรือเอก สงัด ชลอยู่
เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 เสร็จสิ้นทำพิธีรับมอบในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2523 (ข้อมูลอาจจะต่างจากที่แสดงในแผ่นป้ายหินอ่อนบ้าง)
ข้อมูลทั้งหมดสรุปจาก :
http://www.navy.mi.th/navic/document/850502a.html
http://www.navy.mi.th/nrdo/Chakri/king8.htm#1
http://www.thai-tour.com/thai-tour/south/chumporn/data/place/pic_komluang.htm
ผมเดินเลยป้ายสามเหลี่ยมออกมาดูหาดทรายรี โอ้โฮ..สวยมาก นับเป็นชายหาดที่สงบ คล้ายหาดชะอำ หรือบางแสนสมัยก่อนเลย แถมมีวิวหมู่เกาะชุมพรอยู่เป็นฉากหลังที่ขอบฟ้าด้วย
มองไปทางซ้าย (ทิศเหนือ) บ้าง เป็นต้นหาดที่มีภูเขายื่นเขาไปในทะเล มองเห็นวิวหมู่เกาะอ่างทองบางส่วนด้วย |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 20/08/2013 5:41 pm Post subject: |
|
|
ลองถ่ายภาพแบบมุมกว้างพานอรามาบ้าง จะได้เห็นเกาะครบๆ ในภาพเดียวกันเลย (แต่เนื่องจากข้อจำกัดของขนาดภาพขนาด 640 pixel เลยต้องแบ่งเ็ป็น 2 ภาพบน-ล่างนะครับ)
หาดทรายรี นี้นับว่าไม่กว้างมาก ความยาวประมาณกิโลเมตรกว่าๆ แต่มีความโค้งเว้ามาก ลองค้นข้อมูลหมู่เกาะชุมพร ทำให้พอคาดเดาได้ว่าแต่ละเกาะมีชื่ออะไรบ้าง (ถ้าผิดก็ขออภัย ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ)
เพื่อความเข้าใจถึงหมู่เกาะชุมพร ว่าเกาะแต่ละแห่งมีชื่ออะไร เลยขอนำภาพดาวเทียมมาให้ชมกัน (แสดงขอบเขตอุทยานด้วยเส้นสีเีขียว)
แทบไม่น่าเชื่อว่า อาณาบริเวณอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรนี้จะกว้างไกลขนาดนี้ ลงไปเกือบถึง อำเภอหลังสวนเลย ซึ่งสะพานรถไฟสวี ที่ผมไปเดินข้ามมาในตอนแรก ก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย
หรือจะดูแผนผังหมู่เกาะแบบง่ายๆ ด้วยแผนที่อุทยานฯ ข้างล่างนี้ก็ได้
ที่มาของภาพ
http://www.thaitripdd.คอม/webboard/index.php?topic=110.0 |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 20/08/2013 5:54 pm Post subject: |
|
|
จากหาดทรายรี จะเห็นเกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้า (ไม่ใช่เกาะใหญ่ แต่อยู่ใกล้ที่สุดเลยดูใหญ่กว่าเกาะอื่นๆ เช่นเกาะมาตรา และเกาะอีแรด) อยู่ห่างจากชายหาดเพียง 1 กิโลเมตรเดียวก็คือเกาะมะพร้าว เป็นเกาะที่ได้รับสัมปทานรังนก ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปโดยพลการได้ ต้องขออนุญาตกับ สำนักงานจังหวัดชุมพรก่อน เพื่อจะได้ประสานงานกับผู้ได้รับสัมปทาน และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้
จากภาพข้างล่างลองใช้กล้องซูมภาพดู จะเห็นเห็นหลังคาศาลาเล็กๆ ที่ใช้เป็นป้อมยาม (นิยมเรียกว่า "ขนำ") อยู่กระจายตามโขดหินรอบเกาะ เพื่อดูแลการลักลอบขึ้นเกาะไปขโมยรังนกนางแอ่น ซึ่งถือว่าเข้มงวดมาก
นอกจากนี้ตรงกลางเกาะจะมีหาดทรายเล็กอยู่ด้วย โดยมีเกาะอีแรดอยู่ข้างหลัง โผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อย
ลองซูมกล้องไปทางใต้ของหาด ตรงปลายสุดหาดที่เป็นแหลมยื่นออกมา จะเห็นเกาะเล็กๆ โผล่ออกมาให้เห็นบางส่วน คือเกาะกา
หาดนี้มีคนมาเล่นน้ำน้อยมาก อาจเป็นเพราะแดดร้อนก็ได้ มีเรือประมงจอดอยู่ด้วย ดูเป็นธรรมชาติ มากๆ ชายหาดแห่งนี้ น่าพักผ่อนกว่าหาดภราดรภาพคือมีแนวต้นไม้ใหญ่อยู่ตลอดทาง ทำให้มีร่มเงา นั่งพักผ่อนที่ชายหาดได้ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 20/08/2013 6:00 pm Post subject: |
|
|
กลับมาดูเรือกันต่อ เดินต่อไปให้ตรงหน้าเรือพอดี
ถ่ายภาพเข้าไปจะเห็นว่าบางเฉียบ แม้ว่าตัวเรือจะยาวมากๆ คงเพื่อเหตุผลความเร็วในการแล่นเรือ(ต่างจากเรือประมง และ เรือสินค้า ที่มีขนาดกว้าง อ้วนกว่านี้เยอะ)
ผมขอมาดเท่ห์ๆ แบบอยู่ในระเบียบวินัยสักภาพ กับเรือหลวง เพื่อความสมจริง แต่ชายเสื้อไม่น่าออกมานอกกางเกงเลย..ฮา
ถัดไปทางขวามือ(ทางด้านทิศเหนือของเรือ) ติดกันคือศาลกรมหลวงชุมพรฯเดิม ที่เคยเป็นสถานที่สวรรคตของพระองค์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2466 ข้างหน้ามีปืนใหญ่ รูปปั้นทหาร และ ม้าอยู่ข้างหน้า ทีแรกผมเองก็คิดว่ามีศาลอยู่ตรงนี้เท่านั้น มาทราบภายหลังว่ามีหลังใหม่(ที่ใหญ่กว่ามาก) ตั้งอยู่ที่เชิงเขาถัดไปอีก |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 20/08/2013 6:09 pm Post subject: |
|
|
มองไปทางขวา(ทิศเหนือ) ถัดไปที่เนินเขา มีถนนขึ้นไปยังศาลกรมหลวงชุมพรแห่งใหม่ ผมมาทราบตอนที่จัดเตรียมภาพ โดยการคาดคะแนจากภาพในเน็ตว่าที่เห็นในภาพคือศาลกรมหลวงชุมพรแห่งใหม่จริงๆ เช่นยอดเสาที่เห็นนั้นคือ เตาจุดประทัดดังแสดงในรูปเล็กเป็นต้น
มีภาพศาลกรมหลวงชุมพรแห่งใหม่นี้จากในเว็บท่องเที่ยว ยืนยันว่าอยู่ตรงเชิงเขา ผมเห็นทีแรกก็งง ว่าอยู่ตรงไหนของหาดทรายรี แทบไม่น่าเชื่อว่าแค่ต้นไม้สามารถบดบังสิ่งที่ยิ่งใหญ่อลังการณ์นี้ได้
ภาพซ้าย : รูปปั้นกรมหลวงชุมพรฯ ภายในศาลาหลังใหม่ จากเว็บ สยามฟรีสไตล์
http://www.siamfreestyle.com/travel-attraction/chumphon/prince-chumphon-memorial.html
ภาพขวาบน : ศาลากรมหลวงชุมพรฯ หลังใหม่ ตรงเชิงเขา จากเว็บ สยามฟรีสไตล์
ภาพขวาล่าง : หัวเรือขนาดยักษ์ จำลองเป็นเรือรบหลวงพระร่วง อันเป็นเรือรบลำแรกของประเทศไทย ในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ กรมหลวงชุมพรฯได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าหลวงพิเศษในการจัดซื้อครั้งนั้น เมื่อปี พ.ศ.2461 ซึ่งพระองค์ได้นำเข้ามาถึงประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2463 ได้ปลดระวางไปในปี พ.ศ.2502
ข้อมูลเกี่ยวกับเรือหลวงพระร่วงhttp://th.wikipedia.orghttp://th.wikipedia.org/wiki/เรือหลวงพระร่วง (ที่มาภาพจากเว็บ Emagtravel)
http://www.emagtravel.com/archive/san-komluang-chumphon.html
ภาพบน : เนื่องจากการมาหาดทรายรีครั้งนี้ ถือว่าหลงทางเข้ามาโดยบังเอิญ จึงต้องรีบออกเดินทางต่อ ถนนริมหาดนี้สั้นมาก เพียงแค่ประมาณ 600 เมตรเอง เทียบไม่ได้กับหาดภราดรภาพ ที่ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร หาดแห่งนี้จึงดูคล้ายหาดลับแล
ภาพล่าง : สุดถนนเลียบหาด ทางก็เลี้ยวออกห่างจากชายทะเล (ตามแผนที่ข้างบนแสดงด้วยเส้นสีเขียว) ตามเส้นทางหมายเลข 4098 มุ่งสู่อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ ที่มีท่าเรือไปเกาะเต่า
Last edited by mirage_II on 18/01/2018 12:52 am; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 20/08/2013 6:51 pm Post subject: |
|
|
ก่อนจบตอนนี้ ผมขอนำเกร็ดประวัติศาสตร์ของกรมหลวงชุมพรฯกับเรือหลวงชุมพรลำนี้มาให้อ่านกันนะครับ น่าสนใจมากๆ
"ในความเป็นจริงแล้ว กรมหลวงชุมพรฯ พระองค์ท่านไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรือหลวงชุมพรลำที่จอดอยู่นี้เลย หากแต่มีชื่อที่สอดคล้องกัน แต่พระองค์ และเรือ พอมีความสัมพันธ์กับจังหวัดชุมพรบ้าง คือ พระองค์เคยเสด็จมา จังหวัดชุมพรหลายครั้ง และเรือหลวงชุมพรลำนี้ ก็เคยแวะมาจอดที่จังหวัดชุมพรเป็นประจำ แต่เรือที่พระองค์ท่านมีความสัมพันธ์โดยตรงก็คือ เรือหลวงพระร่วงที่พระองค์ไปนำเข้ามาด้วยพระองค์เองจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นการเดินเรือข้ามทวีปครั้งแรกของคนไทยด้วย พอจะสรุป เวลาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรมหลวงชุมพรฯ ได้ดังต่อไปนี้"
19 ธันวาคม พ.ศ.2423 วันประสูติของกรมหลวงชุมพรฯ โดยมีพระนามว่า "พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์" พระราชโอรสองค์ที่ 28 ของ รัชกาลที่ 5 ปีเดียวกับ รัชกาลที่ 6 (ประสูติเมื่อ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2423)
ปี พ.ศ.2436 ทรงได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ กับ รัชกาลที่ 6 (ตอนนั้นดำรงพระอิสรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ)
ปี พ.ศ.2439 ได้ส่งศึกษาต่อที่โรงเรียนนายเรืออังกฤษ
ปี พ.ศ.2443 ได้เสด็จกลับประเทศไทย ได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น กรมหมื่นชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ สิงหนาม เสด็จมาประทับที่ วังนางเลิ้งที่ปัจจุบันเป็นสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร(ชื่อเดิม พาณิชย์พระนคร) ถนนพิษณุโลก ติดกับทำเนียบรัฐบาล (คนละฝั่งคลองเปรมประชากร และปัจจุบันวังนี้ได้ถูกรื้อเพื่อสร้างอาคารเรียนไปหมดแล้ว คงเหลือแต่ประตูวัง บริเวณหลังศาลกรมหลวงชุมพรฯ เท่านั้น)
วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2449 ได้ทรงขอพระราชทาน พระราชวังเดิม เพื่อสร้างโรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2451 พระชายา (พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทิพยสัมพันธ์) ได้ปลงชีพพระองค์เองด้วยยาพิษ เพราะน้อยพระทัยพระองค์
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2453 รัชกาลที่ 6 ได้ขึ้นครองราชย์
ปี พ.ศ.2454 พระองค์ได้ถูกให้ออกราชการ เพราะมีปัญหาข่าวลือ(ใส่ร้าย) ว่าพระองค์จะก่อกบฎ กับ พระเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระองค์จึงหันไปศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ รักษาประชาชนให้ฟรีๆ ในนาม "หมอพร" จนคนจีนยกย่องเรียกท่านว่า "เสด็จเตี่ย" ซึ่งหมายถึงพ่อ
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2460 ไทยได้เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดเกล้าให้ กรมหมื่นชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ กลับเข้ารับราชการในตำแหน่งกรมจเรทหารเรือ
ปี พ.ศ.2462 ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงพิเศษไปจัดซื้อเรือจากประเทศอังกฤษ เรือลำนี้ได้รับพระราชทานนามว่า "เรือหลวงพระร่วง"
ปี พ.ศ.2463 ทรงได้นำเรือหลวงพระร่วงกลับถึงประเทศไทยด้วยพระองค์เอง ทรงได้รับการเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็น กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สิงหนาม ทรงศักดินา ๑๕๐๐๐ ฯลฯ พร้อมเปลี่ยนคำเชื่อม "เขตร์" เป็น "เขต" ด้วย)
ปี พ.ศ.2465 ได้ทรงขอพระราชทานที่ดินอำเภอสัตหีบ มาสร้างฐานทัพเรือ
ปี พ.ศ.2466 ทรงได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ต่อจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ที่ย้ายไปเป็นเสนาบดีทหารบก และผบ.กรมทหารมหาดเล็ก ไม่กี่วัน พระองค์ก็ลาออกจากราชการ เพราะสุขภาพไม่ดี ประชวรด้วยโรคภายใน ทางกระทรวงทหารเรือได้ถวายเรือหลวงเจนทะเล มาส่งที่หาดทรายรีแห่งนี้ สถานที่พระองค์ได้เคยจองไว้ทำสวน ซึ่งขณะที่ประทับอยู่ก็ได้ประชวรเป็นไข้หวัดใหญ่ 3 วัน ก็สิ้นพระชนม์ ในวันที่ 19 พฤษภาคม ปีเดียวกันนั้นเอง
ซึ่งพระศพได้เคลื่อนจากหาดทรายรี เข้ากรุงเทพฯ โดยเรือหลวงเจนทะเล ถึงบางนา ได้อัญเชิญขึ้นเรือหลวงพระร่วง แล่นขึ้นตามลำน้ำเจ้าพระยา มาถึงวัดราชาธิวาส(ติดกับท่าวาสุกรี ไม่ไกลจากเทเวศน์) และอัญเชิญขึ้นรถพยาบาลมายังวังนางเลิ้ง
วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2466 ได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ.พระเมรุสนามหลวง
ต่อมา....วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2481 เรือหลวงชุมพรได้เข้าประจำการ
ปี พ.ศ.2502 เรือหลวงพระร่วงได้ปลดประจำการ
วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2518 เรือหลวงชุมพรได้ปลดประจำการ
ปี พ.ศ.2523 เรือหลวงชุมพรได้ถูกนำมาประดิษฐานที่หาดทรายรี
ข้อมูลช่วงท้ายทำให้ได้ข้อสรุปว่า "กรมหลวงชุมพรฯ ได้เสด็จสวรรคตไป 15 ปี เรือหลวงชุมพรถึงได้เข้าประจำการ และในขณะนั้นเรือหลวงพระร่วงยังคงประจำการอยู่ (ใช้งานในประเทศไทยมาแล้ว 18 ปี) จนถึงปี พ.ศ.2502 ถึงได้ปลดประจำการไป ด้วยอายุการใช้งานในไทยนานถึง 39 ปี และถ้านับเวลาที่ร่วมประจำการกับเรือหลวงชุมพรถึง 21 ปี(ถ้าเป็นคนก็ถือว่าได้อยู่ร่วมสมัยกันเลย) และเรือหลวงชุมพรก็ได้ปลดประจำการไปในปี พ.ศ.2518 รวมเวลาใช้งานถึง 37 ปี ใกล้เคียงกับเรือหลวงพระร่วง ครับ
ปี พ.ศ.2536 กองทัพเรือได้ขนานนามพระองค์ว่าเป็น "พระบิดาของกองทัพเรือไทย"
ปี พ.ศ.2544 กองทัพเรือได้แก้ไขเป็น "องค์บิดา ของทหารเรือไทย" |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42789
Location: NECTEC
|
Posted: 20/08/2013 8:25 pm Post subject: |
|
|
บรรดาผู้คุ้มกันเกาะรังนกหนะต้องมีอย่างน้อยก็ปืนอาก้า กะเอ็ม 16 แต่จะมี เครื่องยิงจรวด RPG เพื่อจมเรือที่มาลักเอารังนกด้วยหรือเปล่าหนอ |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 22/08/2013 6:12 pm Post subject: |
|
|
สวัสดีครับ คุณWisarut : โอ.. ขนาดนั้นเลยหรือครับ น่ากลัวมากๆ แค่ปืน M16 ก็คืออาวุธสงครามแล้ว ความจริงไม่น่าจะอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนขนาดนั้น แค่ .38 หรือลูกซอง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว โทษลักทรัพย์ไม่ถึงกับฆ่ากันเลย วางยามดีๆ กั้นรั้วด้วยลวดดีด ก็ปัองกันได้ในระดับหนึ่ง ถ้าใครตัดลวดเข้ามา ค่อยจัดการอีกที ดูแล้วเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างไรชอบกล สำหรับผมคิดว่าไม่น่าทำเป็นสัมปทาน น่าจะปล่อยเสรีโดยมี จนท.เก็บเงินชาวบ้านค่าเข้าไปเก็บรังนก เป็นรายๆ ตามจำนวนที่เก็บได้ แล้วเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชม หรือร่วมเก็บได้ด้วยจะดูดีกว่า
วันนี้มาต่อกันในตอนสุดท้ายของทริปนี้(ซะที )
กระทู้ตอนจบนี้ มาเป็นตอนที่ 16 ทำลายสถิติของกระทู้ผมในอดีตไปทั้งหมด นับว่าเป็นของแถมในช่วงท้ายของทริปที่คุ้มค่ามากๆ เป้าหมายที่นี่ได้ถูกคิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ในคืนที่แวะพัก คือ การค้นหาท่าเรือไปเกาะเต่า กับ หาดทุ่งวัวแล่น แต่พอออกเดินทางก็ต้องมีอันยาววว... กันอีก เพราะได้แวะหาดทรายรี อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ และปากน้ำชุมพร เพิ่มเข้ามา ในอันที่จริงถ้าผมมีเวลา จะแวะแหลมหัวโม่ง หรือแหลมคอกกวาง ไปด้วย
ก่อนอื่นขอแสดงภาพแผนที่เดินทางในภาพรวม ของทริปนี้ เส้นลูกศรแสดงการเดินทางได้ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น ดังแสดงข้างล่างแล้ว
การเดินทางในวันนี้ จะเป็นของวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2555 ทั้งหมด โดยต่อจากตอนที่แล้ว ที่หาดทรายรี ตอนบ่ายโมงครึ่ง ล่องใต้ต่อเพื่อค้นหาท่าเรือไปเกาะเต่าที่อ่าวทุ่งมะขามใหญ่ แล้วย้อนกลับขึ้นเหนือไปหาดทุ่งวัวแล่น ผ่านปากน้ำชุมพร ได้เห็นทะเลแหวกอย่างคาดไม่ถึง จนเสร็จภาระกิจทั้งหมดเกือบห้าโมงเย็น จึงออกมายังถนนเพชรเกษม ทาง อ.ท่าแซะ โดยไม่ย้อนกลับไปเมืองชุมพรอีก รถติดมากมายอย่างคาดไม่ถึง กว่าจะถึงบ้านก็ประมาณเที่ยงคืนกันเลย |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 22/08/2013 6:27 pm Post subject: |
|
|
ขอแสดงแผนที่ ภาพถ่ายดาวเทียม บริเวณปฏิบัติการของผมก่อน ซึ่งจะแทนเส้นการเดินทางด้วยสีต่างๆ ตามลำดับของสถานที่แวะเที่ยว คือเริ่มด้วยเส้นสีน้ำเงินจากหาดทรายรีมายังท่าเรือไปเกาะเต่า ต่อด้วยเส้นสีน้ำตาลไปอ่าวทุ่งมะขามใหญ่ ต่อด้วยเส้นสีฟ้ากลับมาปากน้ำชุมพร(ผ่านหาดภราดรภาพอีกครั้ง) ต่อด้วยเส้นสีเหลืองมายังหาดทุ่งวัวแล่น
จากรูปจะเห็นว่ายังมีอีกแหลม ที่ผมไม่ได้แวะเข้าไปอยู่ระหว่างหาดทุ่งวัวแล่นกับปากน้ำชุมพร ก็คือ แหลมหัวโม่งหรือแหลมคอกกวาง เพราะดูเวลาแล้วไม่น่าจะทันเส้นทางเข้าไปก็วกวน เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าอดแวะหาดทุ่งวัวแล่นไป เอาไว้คราวหน้าค่อยแวะ
นอกจากนี้ผมยังได้รวบรวมข้อมูลตำแหน่งเกาะต่างๆ ของหมู่เกาะชุมพรมาด้วย เพื่อประกอบความเข้าใจ เมื่อไปยืนที่หาดต่างๆ มิฉะนั้นจะงง เพราะหาดแต่ละแห่งจะมีมุมมองเกาะในทะเลแตกต่างกัน บางหาดก็เห็นเกาะ บางหาดก็ไม่เห็น ถูกเกาะอื่นบดบัง หรือ แหลมบนแผ่นดินบังไว้ แทบไม่น่าเชื่อว่า หมู่เกาะชุมพร มีเกาะมากมายจริงๆ แถมยังเป็นหาดที่ดูสวย(ก็เพราะมีเกาะอยู่ตรงขอบฟ้า) เป็นธรรมชาติมากด้วย ไม่แพ้ฝั่งอันดามันเลย |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 22/08/2013 6:38 pm Post subject: |
|
|
มาเริ่มเดินทางต่อกันโดยภาพ(นิ่ง) กันเลยนะครับ
จากหาดทรายรี ถนนสาย 4098 ที่เลียบหาดทรายรีไปทางใต้ จะเลี้ยวเบนออกจากชายฝั่งทะเลเข้ามาทางทิศตะวันตก แล้วเลี้ยวโค้งซ้ายลงใต้ ไปอ่าวทุ่งมะขามใหญ่ (ภาพ 1 และภาพ 2) นับเป็นเส้นทางที่เงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวพอสมควร จนมาเห็นรถทัวร์ของบริษัทท่าเรือไปเกาะเต่าวิ่งสวนมาจึงพอแน่ใจว่าไม่หลงทางแน่นอน(ภาพ 3) อีกนิดเดียวก็ถึงทางเลี้ยวขวาหักศอกไปทางทิศตะวันตก(เพื่อไปยังอ่าวทุ่งมะขามใหญ่) ดังแสดงในภาพ 4 ทางเข้าท่าเรือจะเป็นซอยเล็กๆ ตรงหัวโค้งพอดี คล้ายกับสายแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนั้นทันที
เส้นทางเข้าไปยังท่าเรือไปเกาะเต่านี้ ดูเล็กลึกลับ เหมือนเข้าอุทยานแห่งชาติเลย ถ้ามาตอนมืดๆ คงมีเสียวแน่นอน ระหว่างทางที่เข้าไป บางช่วงจะเห็นชายหาดของอ่าวทุ่งมะขามใหญ่ด้วย(ภาพ 4) |
|
Back to top |
|
|
|