ทริปล่องใต้ตามรอยรถไฟไปปาดังฯ

[mirage_II]

ภาพบน : ตอนนี้ผมเข้ามาเกือบจะถึงท่าเรือแล้ว รวมระยะทางจากปากทาง(สามแยก) เข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตรไม่ไกลแต่ดูลึกลับ ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย ว่าต้องมีตลาด ผู้คน รถราจอดมากมาย อย่างเช่น ท่าเรือที่ เพ จ.ระยอง หรือ พัทยาโน้น
ภาพล่าง : เกือบจะถึงแล้ว สังเกตุมีบ้านพักอยู่ด้วย มีป้ายประชาสัมพันธ์รีสอร์ทที่พักของ เอ็ม ที รีสอร์ท อยู่ข้างหน้า ต้องขออภัยที่ภาพมัวไปหน่อย เพราะถ่ายระหว่างขับรถเข้าไป


ผมขับรถเลยท่าเรือไปก่อน เพื่อจะได้เห็นบ้านพักที่นี่ สร้างดูน่ารัก คล้ายบ้านสนู๊ปปี้บนภูกระดึงสมัยก่อน ผมลองค้นข้อมูลทีพักดู พบว่าเป็นอย่างที่ผมคิดไว้ คือใช้ประโยชน์ของความที่เป็นเรือเร็วใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง ทำให้สามารถไปเที่ยวเกาะเต่าแบบไปเช้าเย็นกลับได้ นับเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมาก เนื่องจากค่าที่พักบนเกาะเต่าแพงมากกกก... โดยที่นี่เขาจัดเป็นทัวร์ดำน้ำเหมาเสร็จ ค่าเรือเล็กพาเที่ยวดำน้ำ ขึ้นเกาะนางยวนด้วย

อ้อ..นอกจากไปเกาะเต่าแล้ว ยังมีทัวร์ไปดำน้ำหมู่เกาะชุมพรอีก โดยใช้เรือลำเล็กกว่าที่ไปเกาะเต่า แต่เป็นแบบเดียวกัน คือ คาตามารัน (ท้องเรือเป็นร่องตรงกลาง วิ่งได้เร็วกว่าเรือทั่วไป)

[mirage_II]

ภาพบน : ผมกลับรถมายังท่าเรือ แต่ลืมถ่ายภาพข้างนอก เพราะดูไม่เหมือนท่าเรือนัก(ทีแรกก็ไม่คิดว่าเป็นท่าเรือด้วยซ้ำ) คือมีเต้นท์ในภาพวางอยู่ ดูไกลๆ ก็เหมือนเข้าบ้านคนมากกว่า เมื่อเดินมาที่เต้นท์ ก็จะเห็นที่นั่งผู้โดยสารรอเรือ และแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์อยู่ด้านซ้ายมือ
ภาพล่าง : หันหลังกลับไปดู ลานจอดรถ ที่เดินเข้ามา มีรถมาจอดไม่มาก คงเป็นเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาโดยรถทัวร์ และช่วงนั้นผู้คนก็เริ่มทะยอยกลับบ้านกันมากแล้ว


ภาพบน : เป็นช่องทางเดินไปลงเรือ ต่อจากบริเวณที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งจะผ่านหน้าเคาน์เตอร์ทางด้านซ้าย เหลือบเห็นตู้แสงไฟโฆษณาของการรถไฟด้วย ว่าสามารถจองตั๋วรถไฟจากที่นี่ได้ คงใช้ระบบออนไลน์ ของการรถไฟนั่นเอง
ภาพล่าง : ยืนดูแผ่นป้ายข้อมูลมากมาย บริเวณด้านหน้าเคาน์เตอร์ เล่นเอาแทบไม่รู้ว่า ช่องติดต่อกับเจ้าหน้าที่อยู่ตรงไหนเหมือนกัน ลานตาไปหมด...

[mirage_II]

ลองศึกษาแผ่นตารางบอกเวลา และค่าโดยสารของเรือ ที่ติดอยู่กับเพดาน เหนือเคาน์เตอร์ก่อน มีหลายช่องดูแล้วเวียนหัวเหมือนกัน แบ่งเป็น 4 ตาราง

ภาพบน : มี 2 ตาราง
ตารางซ้าย = บอกเวลาและค่าโดยสารเรือจากที่นี่ไปยัง เกาะเต่า เกาะพงัน และเกาะสมุย สังเกตุว่าทั้ง 3 ช่องเวลาเรือออกตรงกัน คือ 7 โมงเช้ากับ บ่ายโมงตรง นั่นก็คือเรือลำเดียวกัน เพียงแต่ แยกแสดงเวลาเรือถึงปลายทางกับค่าโดยสารที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง อีกช่องล่างสุดก็คือ ค่าทัวร์ดำน้ำที่เกาะเต่า-เกาะนางยวนแบบเหมาะในระยะเวลา 1 วัน ซึ่งมีราคาคนไทยกับคนต่างชาติแยกกัน

ตารางขวา = เป็นตารางของเรือ จากเกาะเต่าไปยัง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยแยกเวลา และค่าโดยสาร ระหว่าง ท่าเรือดอนสัก เมืองสุราษฎร์ฯ สถานีรถไฟสุราษฎร์ฯ และ สนามบินสุราษฎร์ โดยต่อรถบัสอีกที แต่ดูแล้วรู้สึกงงๆ กับตัวอักษรสีแดงที่ระบุ ให้ต่อรถที่ชุมพร โดยตารางทั้ง 3 ช่อง เรือออกตรงกัน คือ 9:30 น. กับ 10:15 น.(คงเป็นเรือลำเดียวกับที่มาจาก ที่นี่ตอน 7 โมงเช้าและบ่ายโมงตรงนั่นเอง)

ภาพล่างซ้าย : เป็นตารางของเรือจากเกาะเต่าไป จังหวัดนครศรีธรรมราช กับ หาดใหญ่ ก็คงเป็นลำเดียวกับข้างต้น เพราะเรือออกเวลา 9:30 น.ตรงกัน เพียงแต่มีรถบัสต่อไปคนละที่

ภาพล่างขวา : ก็เช่นเดียวกันคือเรือจากเกาะเต่าไป ทะเลฝั่งอันดามัน ที่ห่างไกลออกไปมาก คงเหมาะสำหรับชาวต่างชาติที่จะไปเที่ยวทะเลต่อจากฝั่งอ่าวไทย (เพราะคนไทยอย่างเราคงอิ่มพอแล้ว สำหรับการมาเกาะเต่า)

[mirage_II]

ตรงกระจกหน้าเคาน์เตอร์ มีแผ่นป้ายข้อมูลเพิ่มเติมนอกจากอัตราค่าโดยสารแล้ว ก็เป็นกฏระเบียบต่างๆ ดูแล้วลานตา พาลจะเป็นลม ตามชื่อบริษัทเรือแห่งนี้..

อ้อ..จากแผ่นป้ายนี้ ผมเพิ่งทราบกว่า การไปเกาะนางยวนนี้ ห้ามนำ Fin หรือตีนกบเข้าไป แสดงว่า ห้ามดำน้ำแบบสกูบ้า (ใช้แท้งค์น้ำ) สำหรับทริปนี้ไปโดยปริยาย คงกลัวตีนกบไปตีประการังเสียหายกระมังครับ

ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ดู เพราะเห็นเงียบๆ ไม่มีผู้คนมารอขึ้นเรือกันเลย เธอบอกว่าเรือที่ไปเกาะเต่ารอบบ่ายออกไปแล้ว (ออกตอนบ่ายโมง ในขณะที่ผมอยู่ตรงนั้นเวลา บ่ายสองโมงแล้ว) เรือที่จอดอยู่ตรงท่าไม่ใช่ แต่เป็นเรือเล็ก ที่ไปหมู่เกาะชุมพร เธอจึงได้ให้แผ่นโบว์ชัวร์เล็กๆ ที่มีรูปเรือไปเกาะเต่ามาให้ผมดู

เป็นภาพโครงข่ายการโดยสาร ที่ต่อเชื่อมระหว่าง เรือ กับ รถบัส สอดคล้องกับตารางเหนือเคาน์เตอร์ ที่ผมได้อธิบายไปแล้ว (อูย..งง ขนาดดูแล้วยังต้องตีความเพิ่มเติมกัน)

[mirage_II]

ข้างหลังโบว์ชัวร์แ่ผ่นนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีก คือเป็นตารางเดินเรือและรถผสมกัน

ส่วนบนเป็นตารางสรุปเวลาเรือเร็วออกจากที่นี่ ซึ่งมี 2 เที่ยวต่อวัน แสดงเฉพาะขาไป ไม่มีขากลับจากเกาะเต่ามาชุมพร

ส่วนล่างเป็นตารางเวลา(TIME TABLE) ในแบบเส้นทาง(Route) แบ่งเป็น 3 ตารางคือ
ตารางแรก เป็นเวลาเรือจากเกาะเต่าไป ท่าเรือดอนสัก แล้วย้อนกลับมาเกาะเต่า แต่ดูดีๆ (งงอีกแล้ว... ) เป็นการวนเรือเริ่มจากเกาะพงันไป สมุย ดอนสัก แล้วกลับมา สมุย พงัน เลยไปจอดค้างคืนที่เกาะเต่า อีกวันก็ออกจากเกาะเต่า ไปพงัน สมุย ดอนสัก แล้วกลับมา สมุย จอดค้างคืนที่ เกาะพงัน คิดว่าคงมีเรือ 2 ลำวิ่งวนสลับกัน ตารางนี้จะไม่เกี่ยวกับท่าเรือชุมพรแห่งนี้เลย ไม่ต้องดูก็ได้(หลวมตัวดูแล้ว) ในอันที่จริง ถ้าเรือจอดที่เกาะเต่าก็ไม่งงแล้ว แค่ไปสิ้นสุดเส้นทางที่ดอนสัก แล้ววนกลับมาก็เท่านั้นเอง

ตารางสองถัดลงมา เป็นเวลาเรือจากเกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า และท่าเรือแห่งนี้(ชุมพร) ต่อด้วยรถบัส เข้ากรุงเทพฯ มี 2 เวลาคือ 8:00 น. กับ 12:30 น. ซึ่งจะมาถึงท่าเรือนี้เวลา 11:45 น. กับ 16:15 น. ซึ่งรถบัสที่จอดอยู่ด้านนอกจะรอรับกลับไปกรุงเทพฯ เวลา 13:00 น. และ 17:00 น. (ซึ่งคงเป็นคันที่สวนทางกับผมตอนเข้ามานั่นแหละครับ) แต่ที่น่าสนใจคือเวลาเรือออกจากเกาะเต่าทั้งสองเที่ยว คือ 10:15 น. กับ 14:45 น. เมื่อนำมาเทียบกับเวลาเรือรอบเช้าจากที่นี่ไปเกาะเต่าซึ่งถึงเกาะเต่าเวลา 8:45 น. ก็เท่ากับมีเวลาเที่ยวอยู่บนเกาะเต่าประมาณ 6 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาในรอบบ่าย ครับ

ตารางสามล่างสุด เป็นการเดินทางย้อนกลับจากตารางที่สอง โดยเริ่มจากกรุงเทพฯ โดยรถบัส ลงเรือที่นี่ ไปเกาะเต่า ยาวไปสิ้นสุดที่เกาะสมุย มี 2 เวลา คือ 6:00 กับ 21:00 น. สรุปคือ รอบเช้า กับ รอบค่ำ มาถึงชุมพรสอดคล้องกับเวลาเรือออกปกติ 2 รอบต่อวันพอดี น่าแปลกที่เอาตารางนี้ไว้สุดท้าย ทั้งๆ ที่น่าจะไว้ลำดับที่สอง เพราะนักท่องเที่ยวปกติก็มักจะมาจากกรุงเทพฯ

[mirage_II]

เอาล่ะ..หลังจากปวดหัว (เมื่อยตาด้วย) เรื่องตารางเวลาเรือกับรถแล้ว ก็มาดูภาพวิวสวยๆ กันดีกว่าครับ

ภาพบน : เดินผ่านเคาน์เตอร์บริการมาทางด้านหลัง ก็เป็นท่าเรือ มีสะพานเทียบเรือยาวไปไกลลิบ ตอนนี้มีเรือจอดอยู่ลำหนึ่ง แต่...ไม่ใช่เรือที่ไปเกาะเต่านะครับ ลำเล็กกว่า คาดว่าไปแค่หมู่เกาะชุมพรแถวนี้ (ถ้าต้องการเห็นเรือ คงต้องรอเรือเที่ยวบ่ายกลับมาจากเกาะเต่าประมาณ 5 โมงเย็นโน่น เพราะเรือต้องจอดค้างคืนที่นี่จน 7 โมงเช้าถึงจะไปเกาะเต่าอีก สลับกับเรืออีกลำจะไปค้างคืนที่เกาะสมุยเวลา 16:40 น. และกลับมาเวลา 8:00 น.)

สังเกตุเห็นป้าย "ไม่อนุญาตให้เข้ามาใช้หลัง 18:30 น." คงกลัวพวกตกปลา มาใช้ตอนกลางคืนกระมังครับ

ภาพล่าง : ไปยืนตรงป้ายไม่อนุญาตฯ แล้วมองไปทางซ้ายเป็นเคาน์เตอร์ตรวจคนลงเรือด้วย เจ้าหน้าที่ข้างในคงแปลกใจว่าผมมาถ่ายรูปอะไร เรือก็ออกไปแล้ว..


มองออกไปที่สะพานยาวที่ทอดลงไปในทะเลดีกว่า เรือที่เห็นไม่ใช่ลำที่ไปเกาะเต่า น่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่ได้เห็น หลานผมบอกว่า ตอนที่ขับรถเลียบทะเลไปอ่าวทุ่งมะขามใหญ่ตอนแรกนั้น แอบเห็นเรือลำใหญ่กำลังออกจากท่าเรือด้วย ผมขับรถอยู่เลยไม่ทันได้เห็น เวลาช่วงนั้นประมาณบ่ายโมงครึ่ง แสดงว่าเรือออกล่าช้าจากกำหนดเวลาปกติ บ่ายโมงตรงครับ

[mirage_II]

มองไปทางซ้ายของสะพานเป็นหาดทรายโค้งไม่ไกลนัก ตรงปลายหาดเป็นภูเขายื่นลงไปในทะเล ด้านหลังภูเขานี้ก็คือหาดทรายรี ที่ผมเพิ่งไปมานั่นเอง


ฝั่งขวาของสะพานเป็นอ่าวทุ่งมะขามซึ่งแบ่งเป็นทุ่งมะขามใหญ่(หรือทุ่งมะขามนอก)ด้านทิศใต้ กับ ทุ่งมะขามเล็ก(หรือทุ่งมะขามใน)ทางด้านเหนือ โดยแหลมเล็กๆ ชื่อว่า "แหลมหิน" ที่ยื่นเข้าไปในทะเล วิวนี้ผมชอบมาก เพราะเห็นภูเขาอยู่ไกลๆในทะเล แท้จริงก็คือแหลมอำเภอสวีทางใต้ของจังหวัดชุมพร ที่โอบล้อมอ่าวทุ่งคา ที่เป็นป่าชายเลนของอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพร (ให้ดูแผนที่ข้างบนประกอบความเข้าใจ)


ลองเก็บภาพมุมกว้างแบบพานอรามาบ้าง มองเห็นเกาะสำคัญของหมู่เกาะชุมพรอยู่ 2 เกาะ คือเกาะลังกาจิว กับเกาะทองหลาง สำหรับเกาะลังกาจิวนี้สวยมาก แต่เป็นเกาะอีกแห่งที่มีสัปทานรังนก ถ้าต้องการขึ้นเกาะต้องไปขออนุญาตกับทางบริษัทรังนกแหลมทองที่อยู่ในตัวเมืองชุมพรก่อน (เบอร์โทร. 077-501645) แต่ปกติคนจะนิยมไปดำน้ำตื้นแบบสนอร์คเกอร์กันเท่านั้น(ไม่ได้ขึ้นเกาะ) เกาะนี้ รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาประพาสด้วย
กับอีกเกาะ คือเกาะทองหลาง อยู่ใกล้อ่าวทุ่งมะขามมากที่สุด คำนวณโดย GPS Map คือประมาณ 4 กิโลเมตร...

นอกจากนี้ ยังเห็นแนวภูเขาเป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเล ของอำเภอสวี ที่โอบล้อมอ่าวทุ่งคาอยู่ โดยมีเกาะกุลา อยู่ตรงปลาย และมีเกาะเล็กๆ อยู่ในอ่าวอีก (จากรูป ยากที่จะระบุชื่อ เพราะเห็นเล็กมาก)

[mirage_II]

ออกจากท่าเรือไปเกาะเต่า ออกมาถึงปากซอยเลี้ยวซ้ายวิ่งเลียบอ่าวทุ่งมะขามใหญ่ไปเรื่อยๆ มีบ้านคนปลูกอยู่เป็นระยะๆ หลายแห่งได้ประกาศขาย ซึ่งได้ลองโทรถามแล้วราคาจัดว่าแพงทีเดียว

ภาพซ้ายบน : ในที่สุดถนนเส้นนี้ก็ตรงเข้ามาในวัด..... ไหงเป็นงี้ไปได้...
ภาพขวา : ระหว่างทางในวัดมีพระพุทธรูปสวยอยู่องค์หนึ่ง (พระพุทธบารมีศรีชุมพร) กับ หอระฆังที่งดงามมาก
ภาพซ้ายล่าง : แล้วถนนก็เลี้ยวซ้ายมาเลียบทะเลอีกครั้ง งานนี้ได้ทั้งวิวและบุญ

ถนนอยู่สูงกว่าหาดมากพอสมควร ผมต้องใช้ความพยายามหาช่องทางปีนลงไปให้ได้ เพราะวิวทะเลตรงนี้ถือว่าสุดยอด... ผมจึงถ่ายภาพมุมกว้างพาโนรามาเก็บภาพชายหาดเต็มๆ มาให้ดูกัน แต่เนื่องจากข้อจำกัดความกว้างของภาพเลยต้องใช้วิธีแบ่งภาพเป็น 2 ส่วนอย่างที่เห็นครับ

ชายหาดนี้มีความเป็นธรรมชาติมาก เพราะไร้ผู้คน หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ มาบดบัง ถือเป็นหาดลับแลอีกแห่งของเมืองชุมพร สามารถมองเห็นเกาะในทะเลที่อยู่บนเส้นขอบฟ้าพอดี ผมลองค้นหาข้อมูลในแผนที่ GPS Map กับภาพถ่ายดาวเทียมกูเกิ้ล และแผนที่เกาะในอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรมา ประมวลร่วมกัน ได้ดังในภาพครับ (ถ้าไม่ถูกต้องก็ช่วยแย้งด้วยนะครับ เพราะผมเองก็มาที่นี่เป็นครั้งแรก และยังไม่ได้เคยนั่งเรือไปเกาะใดๆ ที่นี่เลย)

[mirage_II]

หันไปดูชายหาดทางซ้ายมือ ด้านทิศตะวันออก (ให้ดูภาพแผนที่ประกอบ จะได้ไม่งง เพราะหาดที่ผมยืนอยู่นี้หันหน้าเฉียงลงมาทางใต้) เป็นหาดทุ่งมะขามน้อย ที่มีท่าเรือไปเกาะเต่า ที่ผมเพิ่งไปมา ชาย หาดนี้ มีข้อเสียอยู่เหมือนกันคือ ทรายไม่สะอาด มีเศษไม้เยอะ


มองไปทางขวา ด้านทิศใต้ เป็นสุดหาดซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก มีภูเขายื่นลงไปในทะเล คล้ายกับที่หาดแหลมศาลา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แสงแดดจ้ามาก ถ้าจะให้เห็นเชิงเขาภาพทะเลก็จะขาวโพลน หรือถ้าเอาทะเลเชิงเขาก็จะมืดเลยต้องใช้วิธีถ่าย 2 ภาพมาต่อกันดังในรูปครับ


ภาพบน : ได้ยินเสียงอะไรข้างหลัง หันหลังกลับไปดู ท่านผบ.บ้าน ยืนอยู่ริมถนนข้างบนโน้น ชี้มือชี้ไม้อะไรอยู่ แหม.. เห็นขอบถนน และดินที่ทรุดพังลงมาแล้วรู้สึกเสียวถนนทรุดทำให้รถที่จอดอยู่บนถนนจะไหลลงมาด้วยจัง
ภาพล่าง : ผมหันหน้าไปทางทะเลต่อ เธอคงหมายถึง ให้ถ่ายภาพวิวให้มากที่สุด เพราะด้วยความประหลาดใจที่ได้มาเจอสิ่งที่สวยงามแบบนี้โดยไม่รู้มาก่อน ผมเลยนั่งลงถ่ายภาพทรายที่พื้นนี้มาประกอบในภาพด้วย

[mirage_II]

ผมลองใช้กล้องซูมดูเกาะต่างๆในทะเลดูบ้าง

เริ่มจาก เกาะที่อยู่ตรงหน้าในทะเลไกลๆ เป็นเกาะทองหลาง ที่อยู่ใกล้อ่าวนี้มากที่สุด คำนวณโดย GPS Map ก็ห่างประมาณ 5 กิโลเมตร

จากภาพซูมนี้ มองทางซ้ายของเกาะจะเห็นช่องลอดคล้ายอุโมงค์ อยู่ทางซ้ายมือ (ทิศเหนือ) มีหาดอยู่ตรงกลางเกาะไม่กว้างนัก ดูดีๆ จะเห็นเกาะลังกาจิว อยู่ข้างหลัง โผล่ยอดเขาให้เห็น 2 ยอดเล็กๆ ด้วย

แหม..เปรียบเทียบกับภาพถ่ายก่อนหน้านี้ ช่างแตกต่างกันลิบลับเลย อานุภาพการซูมของกล้องคอมแพ็คเล็กๆ นี้ก็ไม่เบาเหมือนกัน เทียบได้กับการใช้กล้องส่องทางไกลดูเลยนะครับ (แม้จะไม่คมชัดนัก)


ภาพบน : ลองซูมไปที่เกาะกา ทางซ้ายมือ (ดูตำแหน่งในทะเลจาก ภาพมุมกว้าง และภาพถ่ายดาวเทียม ประกอบ) เกาะนี้จะมองไม่เห็นจากท่าเรือไปเกาะเต่า เพราะภูเขาตรงสุดหาดด้านเหนือของท่าเรือบังอยู่ เกาะนี้ดูไม่มีหาด แต่เป็นหินปูน ดูสวยดี ครับ
ภาพล่าง : ซูมกล้องไปทางทิศใต้ จะเห็นเกาะเตี้ยๆ มีหาดทรายค่อนข้างกว้าง คือเกาะแกลบ อยู่ตรงกลางอ่าวทุ่งคา แต่ดูเหมือนอยู่ท่ามกลางเกาะใหญ่น้อยแถวๆ แหลมอำเภอสวี (ให้สังเกตุสีของเกาะ ถ้าเข้มแสดงว่าอยู่ใกล้)


ภาพบน : ลองซูมภาพเ้ข้ามาที่เชิงเขาสุดหาดด้านใต้อีกที ไม่มีเวลาเดินไปดูใกล้ๆ ขอใช้กล้องซูมภาพมาแทนก็แล้วกัน หาดที่นี่ดูเป็นธรรมชาติมาก เหมือนอยู่บนเกาะกลางทะเล
ภาพล่าง : สังเกตุก้อนหินที่ชายหาดมีรูปร่างโค้งมน พร้อมลวดลายสวยมาก แต่ด้วยคอนเซ็ป "ไม่นำกลับมา แค่ถ่ายภาพก็เพียงพอแล้ว" จึงได้ภาพมาโชว์ให้เพื่อนๆ ดูอย่างที่เห็นนี้ครับ การนำสิ่งของจากธรรมชาติกลับมาบ้าน สิ่งนั้นจะไม่สวยอย่างที่ที่มันอยู่ คล้ายกับเสื้อห้าง สินค้าในห้างที่จัดวางสวยๆ เมื่อนำมาอยู่บ้าน ก็งั้นๆ นะครับ แถมยังทำให้ความงามในธรรมชาติถูกทำลาย สูญหายไปอีก