บันทึกจาก Black express

[Mongwin]

ที่หยุดรถแจมโบรีเป็นที่หยุดรถเฉพาะกิจ ผมไม่เคยเห็นการรถไฟฯ ออกประกาศ กม. ที่เป็นทางการเลยครับ (คล้าย ๆ ที่หยุดรถมาลัยแมน) เดาว่าน่าจะอยู่แถว ๆ เสาโทรเลขที่ 192/15-193/1 ยังไม่ได้ลองวัดละเอียดดูครับ

หลังจากงานชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 20 ที่ หาดยาว อำเภอสัตหีบ จังหวัด ชลบุรี ระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม 2545 - 7 มกราคม 2546 เสร็จสิ้นลงแล้ว ก็ไม่ได้ข่าวว่ามีการใช้งานที่หยุดรถแห่งนี้อีกครับ อ.พัฒนา เคยเข้าไปสำรวจเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 50 ก็รกไปด้วยดงกระถินครับ



ส่วนคำว่า "jamboree" นี้ มีที่มาของคำศัพท์อย่างไร ไม่มีใครทราบครับ เชื่อว่ามีมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19
เคยมีคนถามลอร์ด บาเดน เพาเวลล์ ผู้ให้กำเนิดลูกเสือโลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านก็บอกว่าให้ใช้ชื่องานชุมนุมลูกเสือว่า jamboree ตั้งแต่แรกแล้วครับ

บ้านเราตอนมีงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ปี 2520 มีแสดมป์ออกมาด้วยครับ ภาษาอังกฤษก็ใช้ Jamboree เช่นกัน



ตอนผมเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น เพื่อนชาวต่างชาติที่เรียนด้วยกัน เขาเอาหนังสือเชิญร่วมงานชุมนุมเข้าค่ายพักแรมมา บอกว่า There will be the Big Jamboree... ให้ผมไปร่วมงานด้วย ก็สงสัยอย่างมาก ว่าอะไรคือแจมโบรี เพื่อนเลยขยายความให้ว่า big camp with party ก็เลยพอนึกภาพออกครับ

[ksomchai]

ขอบคุณอาจารย์เอกและคุณวิศรุตมากครับ สำหรับคำตอบที่ผมสงสัยเกี่ยวกับที่มาของคำว่า แจมโบรี

ได้ยินมาว่า ครั้งหนึ่ง มีการก่อสร้าง ที่หยุดรถแสมสาร ผมก็ดีใจ คิดว่าจะมีรถเข้ามาในเส้นทางสายนี้
เวลาล่วงเลยจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีรถเข้ามาที่นี่ ป่านนี้คงผุพังหมดแล้ว เสียงบประมาณจริง ๆ
_________________

[black_express]

เสียดายเหมือนกันครับ เส้นทางใหม่ๆ คลุมด้วยต้นกระถินณรงค์

[black_express]

ปี 2536 การรถไฟฯ ได้เสนอขอตั้งงบประมาณก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟชานเมือง ช่วงสถานีรังสิต - ลพบุรี ระยะทาง 104 กม. ช่วงสถานีหัวหมาก - ฉะเชิงเทรา ระยะทาง 45 กม. ช่วงสถานีชุมทางบางซื่อ - นครปฐม ระยะทาง 41 กม.และช่วงสถานีชุมทางบ้านภาชี - มาบกะเบา ระยะทาง 44 กม.เป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,064,000,000 บาท เพื่อเพิ่มความจุของทาง และเพื่อรองรับปริมาณการขนส่งที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย

สำหรับเส้นทางคู่สายใต้ ช่วงชุมทางบางซื่อ - นครปฐม ซึ่งผ่านสะพานพระรามหกนั้น โดยรื้อช่วงสะพานรถยนต์ออก ซึ่งมีสะพานพระราม 7 ได้รองรับอยู่แล้ว และปรับปรุงความแข็งแรงของตัวสะพาน เพื่อวางรางรถไฟต่อไป



ปี 2547 การรถไฟฯ ได้ดำเนินการเปลี่ยนสะพานไม้และสะพานแม่แคร่รางเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานบนเส้นทางสายต่างๆ เป็นสะพานหรือช่องน้ำถาวร จำนวน 55 แห่ง เพื่อความปลอดภัยในการเดินรถและเป็นมาตรฐานเดียวกันครับ

ในภาพ น่าจะเป็นเส้นทางรถไฟสายใต้ ช่วงเส้นทางคู่ ระหว่างชุมทางบางซื่อ - นครปฐม



อีกสักภาพก่อนเข้านอนครับ

เป็นขบวนรถ บทค.ขนน้ำมันดิบและน้ำมันใส ระหว่างคลังน้ำมันดิบที่สถานีบึงพระ ไปยังโรงกลั่นที่บางจากและแหลมฉบัง และจากโรงกลั่นน้ำมัน ไปยังคลังต่างๆ ทั่วประเทศ ยกเว้นภาคใต้ ซึ่งใช้การขนส่งทางเรือครับ

เป็นขบวนรถสินค้าที่ทำเงินลำดับต้นๆ ให้กับการรถไฟฯ ทีเดียว

[Wisarut]

[black_express]

หวนมาที่การให้บริการขบวนรถไฟชานเมืองอีกครั้งหนึ่งครับ แต่เป็นเส้นทางสายเหนือ ซึ่งจอดให้ผู้โดยสารขึ้นลงตรงที่หยุดรถยมราช

จากภาพ จะมีผู้ใช้บริการมากมายที่เดียว จนกระทั่งเป็นขบวนรถไฟฟรีเพื่อประชาชน โดยทางรัฐช่วยค่าโดยสารไปแล้ว และได้ข่าวว่า รมต.คมนาคมคนปัจจุบันนี้ ได้มีนโยบายให้เพิ่มขบวนรถอีก ไม่ทราบว่า การรถไฟฯ จะสนองนโยบายได้มากหรือน้อยเพียงใด ?



มาทางด้านเส้นทางรถไฟสายใหม่ ที่ตัดเชื่อมระหว่างสายตะวันออกเฉียงเหนือจากชุมทางแก่งคอย มายังสายตะวันออกที่ชุมทางคลองสิบเก้า และไปยังท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ซึ่งการรถไฟฯ ได้แถลงผลงานเกี่ยวกับงานก่อสร้างทางรถไฟ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ พ.ศ.2535 - 2539 ดังนี้ครับ

โครงการก่อสร้างทางรถไฟในแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก โดยก่อสร้างทางรถไฟสายคลองสิบเก้า - แก่งคอย ระยะทาง 82.6 กม. ซึ่งเชื่อมระหว่าเส้นทางสายตะวันออกกับเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อย่นระยะทางการขนส่งระหว่างภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกและอรัญประเทศ โดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพมหานคร ทำให้ลดระยะเวลาการเดินทาง และช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งใช้งบประมาณโครงการ 3,993.80 ล้านบาท เริ่มงานก่อสร้างด้านวิศวกรรมโยธาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2536 เป็นต้นมา จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2536 ได้ก่อสร้างถมคันทาง สะพาน/ช่องน้ำ อุโมงค์ อาคารและเตรียมการจัดหาวัสดุทางแล้วบางส่วน คิดเป็นผลงานประมาณร้อยละ 21.6 คาดว่างานด้านวิศวกรรมโยธาจะแล้วเสร็จในเดือน พฤษภาคม 2538

ส่วนงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม จะเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคม 2539

สำหรับผู้ที่มีโอกาสเดินทางผ่านเส้นทางสายนี้โดยขบวนรถไฟพิเศษ และขบวนรถไฟที่เปลี่ยนเส้นทางช่วงน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 คงจะประทับใจกับความราบเรียบของเส้นทางที่มีจุดตัดน้อยแห่ง ความยาวของอุโมงค์พระพุทธฉาย สะพานต่างๆ บนเส้นทางซึ่งเป็น คสล. และจะไม่มีเสาโทรเลขให้เห็นริมทางรถไฟเลยครับ เพราะลงเคเบิลใยแก้วนำแสงฝังอยู่ในร่องเฉพาะข้างรางรถไฟนั่นแหละ



ยังต่อเนื่องเรื่องราวของเส้นทางรถไฟสายอีสเทอร์นซีบอร์ดอีกสักนิดครับ...

ซึ่งการรถไฟฯ ได้แถลงผลงานเกี่ยวกับงานก่อสร้างทางรถไฟ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ พ.ศ.2535 - 2539 ว่า

โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายสัตหีบ - มาบตาพุด ใช้เป็นเส้นทางขนส่งวัตถุดิบและพืชผลอุตสาหกรรม ระหว่างท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กับภูมิภาคอื่นๆ โดยก่อสร้างทางรถไฟแยกจากทางรถไฟสายฉะเชิงเทรา - สัตหีบ ที่สถานีเขาชีจรรย์ เข้าไปยังท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ระยะทาง 24.07 กม.งบประมาณ 1,608.068 ล้านบาท เริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2535 เป็นต้นมา ในปีงบประมาณ 2536 ได้ดำเนินการก่อสร้างดินคันทาง ถนน ย่านสถานี สะพาน/ช่องน้ำ อาคารสาธารณูปโภค งานวางรางและงานด้านระบบอาณัติสัญญาณและคมนาคม ได้ร้อยละ 48.3 รวมผลงานสะสมตั้งแต่เริ่มงานถึงสิ้นปีงบประมาณ 2536 เท่ากับร้อยละ 60.7

งานก่อสร้างด้านวิศวกรรมโยธาจะแล้วเสร็จประมาณเดือน มีนาคม 2537 ส่วนงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม จะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2537

ผมยังทันเห็นงานก่อสร้างช่วงสุดท้าย เมื่อปี 2537 โดยมีการก่อสร้างสะพานลอยบนถนนสุขุมวิทข้ามทางรถไฟที่ อ.บ้านฉาง และไปเยี่ยมชมสถานีมาบตาพุดช่วงกลางคืน พลางจินตนาการว่าเมื่อไหร่รถไฟจะมาถึงระยองน้อ ?

อีกนานเกือบยี่สิบปี ถึงมีโอกาสนั่งรถไฟไปถึงสถานีมาบตาพุดได้สมใจอยาก แต่ดงกระถินยักษ์ที่ขึ้นรกตามเส้นทางนี่สิครับ เบื่อหน่ายสุดจะทนจริงๆ

[Nakhonlampang]

^
หลังคาอุโมงค์พระพุทธฉายส่วนที่อยู่ใกล้ปากอุโมงค์ซึ่งเวลาลอดอุโมงค์จะเห็นเป็นผนังตอนกรีตเรียบๆครับ
จะเห็นว่าอุโมงค์ส่วนนี้ไม่ได้เป็นการเจาะภูเขาเป็นอุโมงค์ แต่เป็นการหล่อโครงสร้างคอนกรีตครอบแนวเส้นทางรถไฟต่อออกมาจากอุโมงค์ส่วนที่เป็นการขุดเจาะจริงๆ ก่อนจะนำดินมากลบทับ

[black_express]

ผมว่าคงมีจุดประสงค์มิให้หินหล่นปิดทางเข้าอุโมงค์กระมัง ?

[black_express]

คราวไปเยือนสถานีบ้านพลูตาหลวงครั้งแรกเมื่อปี 2549 กับคุณบอมบ์ (civilspice)

โห...หลายปีแล้วแฮะ



สภาพสองข้างทางแยกไปมาบตาพุดในปี 2553 ครับ

[ksomchai]