ไปสัมผัสความสูงสุดเสียวของสะพานข้ามเหวขุนตานกัน

[mirage_II]

สวัสดีครับคุณ voravut : ก็พยายามประหยัดกัน เช่นพักห้องละไม่เกิน 500 บาทต่อคืน เปิดสัก 2 ห้อง ทานอาหารก็ตามร้านค้า หรือรถเข็นทั่วไป มื้อละไ่ม่เกิน 500 บาท ค่าน้ำมันก็ประมาณ 3,000 บาท สำหรับทริปปานกลางแบบนี้ แต่ถ้าทริปใหญ่ยาว ก็เกือบ 5,000 บาทเลยละครับ รวมๆ แ้ล้วทริปนี้ก็ตกทริปไม่เกินหมื่นบาทครับ ไปกันเยอะผู้ใหญ่ 8 เด็ก 2 ครับ ผมออกค่าน้ำมันกับที่พัก แฟนออกค่าอาหาร (แต่วันสุดท้ายนี้ ผมออกค่าอาหารกับลูกเอง) ตอนนี้แฟนผมบอก ปีใหม่ ไม่มีเงินเที่ยวกันแล้ว... สงสัยผมจะต้องไปคนเดียวแล้วละ

วันนี้มาต่อกัน หลังพักไปหลายวันเพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ

ผมยังมีภาพปริศนาของสถานที่อีก 2 แห่งสำหรับที่ลำปางแห่งนี้ ภาพแรกเป็นศาลเจ้าแม่กวนอิมครับ

ทีแรกผมยังคิดว่า อยู่ที่วัดพระแก้วดอนเต้าฯ แห่งนี้ แต่ไม่ใช่ อย่างที่เห็นในภาพก่อนหน้าว่ามีศาลเจ้าแม่กวนอิมด้วย แต่ไม่ใช่แบบที่เห็นครับ ผมเลยสอบถามดูกับคนพื้นที่ในวัด ได้คำตอบว่า ลองไปดูที่วัดประตูป่อง อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ตามแผนที่ข้างล่างนี้

ตามเส้นสีม่วง ออกจากหน้าวัดพระแก้วดอนเต้าฯ (ถนนพระแก้ว) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนท่ามะโอ(ตรงไปยังสะพานข้ามแม่น้ำวัง ที่ชื่อว่าเขลางคนครได้) แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนป่าไม้ ผ่านหน้าวัดประตูป่องพอดี แต่เนื่องจากผมงงๆ เส้นทางเลยรีบเลี้ยวขวาเข้าถนนวังเหนือก่อน อันเป็นถนนผ่านด้านหลังวัดประตูป่อง จึงต้องอ้อมด้านข้างวัดมาด้านหน้าวัดอีกที งงจริงๆ กับถนนที่นี่ เล็กและคดเคี้ยวมาก

[mirage_II]

ด้านหน้าทางเข้าวัดเป็นลานกว้าง มีป้ายชื่อวัดสวยๆ อยู่ริมถนน แต่ซุ้มประตูอยู่ข้างในครับ


ป้ายชื่อวัดตรงริมถนนป่าไม้ ดูคลาสสิคโบราณดีจัง


ซุ้มประตู อู้ฮู... นี่แหละคือ ประตูป่อง อันเป็นประตูเมืองโบราณของนครลำปาง

[mirage_II]

มีป้ายข้อมูลทางประวัติศาสตร์อยู่หลังประตูด้วย ลองอ่านดูจะพบว่า มีถึง 7 ประตู วัดนี้สร้างขึ้นปี พ.ศ.2409 ซุ้มประตูหน้าวัดนี้ ผมเพิ่งทราบว่า เขานิยมเรียกว่าซุ้มประตูโขง เพี้ยนมาจากคำว่า ซุ้มประตูโค้ง ที่เป็นลักษณะประตูครึ่งวงกลมของอินเดีย


ผ่านซุ้มประตูวัดเข้าไปก็เจอเข้ากับวิหารหลังงามคลาสสิค มีพระธาตุเจดีย์สีขาวอยู่้ข้างหลัง


ทางขวามือเฉียงมาทางด้านหน้า เป็นพระอุโบสถหลังเล็ก มีเสาหงษ์สวยงามเรียงรายอยู่ด้วยครับ

[mirage_II]

เนื่องจากผมไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่แต่แรก เพียงแต่ต้องการจะค้นหาศาลเจ้าแม่กวนอิมในรูป แต่ด้วยความประทับใจในความงามคลาสสิค ของโบราณสถานที่นี่ เลยอดใจไม่ถ่ายภาพมาไ้ม่ได้แล้ว แต่เวลามีน้อย เพราะต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เลยมองหาตำแหน่งศาลเจ้าแม่กวนอิมกันทันที

พอดีเจอแผนผังในวัด ศาลเ้จ้าแม่กวนอิมตั้งอยู่ติดประตูด้านหลังวัดเลย


ศาลมีประตูปิดอยู่ แต่พอใช้กล้องสอดเข้าไปถ่ายได้ สวยมาก แต่ไม่ใ่ช่อย่างที่เ็ห็นในรูปครับ
ซึ่งหลังจากกลับมาบ้าน ลองมา้ค้นดูในเว็บ กลับพบว่า ศาลเจ้าแม่กวนอิมที่ผมต้องการไปอยู่ที่วัดพระธาุตุลำปางหลวง.... คงต้องเอาไว้ทริปหน้าละกันครับ

[mirage_II]

เสร็จแล้วก็กลับออกมาตามถนนป่าไม้ ซึ่งแคบอย่างที่เห็น


สุดถนนป่าไม้ก็เข้าสู่ถนนมะโอ เลี้ยวขวาก็เป็นเชิงสะพานเขลางค์นคร ข้ามแม่น้ำวังกลับมาในเืมืองลำปางเลย


ผมยังมีภาพปริศนาอีกภาพ ที่ดูเหมือนจะง่าย เพราะมีรถม้าลำปางอยู่ แต่ไม่ใช่ที่วัดพระแก้วดอนเต้าฯ สอบถามคนแถววัดแล้วบอกว่า น่าจะอยู่ด้านหน้าศาลากลางหลังเก่า ผมเลยรีบไปตามแผนที่ข้างบนเลย แต่ไม่พบหน้าจั่วศาลากลางอย่างในรูป เพราะผมดันเลี้ยวรถเข้าไปจอดตรงลานโล่ง(ใช้สำหรับจัดตลาดนัด) ที่เป็นด้านหลังอาคารศาลากลาง เลยมีหน้ามุขที่แตกต่างจากในรูป กลับมาค้นหาในเน็ตจึงพบว่าที่นั่นแหละ... เพียงแต่เดินอ้อมอาคารศาลากลางมายังด้านหน้า คงเอาไว้คราวหน้าอีกเช่นกันที่จะตามไปดูอีกทีครับ

[mirage_II]

หมดเวลาเที่ยวที่ลำปางแล้วครับ ต่อไปเป็นการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งในครั้งนี้ได้เดินทางกลางวันเลยได้เห็นและถ่ายภาพวิวต่างๆ ซึ่งเป็นเ้ส้นทาง ลำปาง - เด่นชัย - อุตรดิตถ์ - พิษณุโลก อันเป็นธรรมชาติ ต่างจากเส้นทาง ลำปาง - เถิน - ตาก - กำแพงเพชร ซึ่งดูโล่งๆ และแห่งแล้งกว่า


จากบริเวณศาลากลางเ่ก่าที่มีคิวรถม้าเยอะ บนถนนบุญวาทย์ ผมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมิตรเกษมตัดออกมาตรงกลางเมืองลำปางพอดี มุ่งลงใต้ ผ่านถนนสนามบิน เผื่อได้เห็นเครื่องบินบ้าง
ในภาพ รถกำลังติดไฟแดงตัดกับถนนพหลโยธิน ปกติจะไปเด่นชัยต้องเลี้ยวซ้าย แต่ผมเลือกตรงไป เพราะสนามบินอยู่ข้างหน้า


ผ่านสี่แยกไฟแดงมา กลายเป็นถนนพระบาทไปซะนี่ ทางเข้าสนามบินอยู่ขวามือ ชื่อซอยสนามบิน 1 (อ้าว..กลับมาใช้ชื่อสนามบินอีก เป็นงง ) มองเข้าไปไม่เห็นอาคารสนามบินใดๆ เพราะตึกบัง แม้จะอยู่ลึกเข้าไปไม่ถึงกิโลเมตรเอง


ไ่ม่มีเวลาแวะอีกแล้ว ตรงไปอีก ข้ามคลองชลประทาน ข้างหน้ามีป้าย "วัดพระบาท" ชวนให้คิดถึงวัดพระพุทธบาทสระบุรี หรือไม่ก็วัดพระบาทน้ำพุ ลพบุรี เป็นสามแยกตัววาย ให้เลี้ยวซ้ายออกไปถนนใหญ่ สายวชิรวุธดำเนิน มุ่งไป อ.เด่นชัยครับ

[mirage_II]

วิ่งมาได้ไม่กี่กิโล ก็ผ่านสามแยก ขวามือเป็นถนนอ้อมเมืองลำปางด้านใต้ ที่จะลัดไปออกตรงหลักกิโลยักษ์ ซึ่งไป อ.เถิน หรือ ขึ้นเชียงใหม่ ก็ได้


ความงามของเส้นทางเริ่มแล้ว เป็นช่วงลงเนิน คว้ากล้องมาถ่ายแทบไม่ทัน


มาถึงสามแยก ซ้ายมือเข้าอ.แม่เมาะ โรงผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ และเป็นทางเข้าไปยัง สถานีรถไฟปางป๋วย ที่ผมอยากจะไปสำรวจเนินมรณะ 588 ด้วย


โอ..วิว โค้งคู่ระยะไกลก่อนขึ้นเนินข้างหน้า

[voravut]

ขอบคุณมากครับพี่ ที่ตอบคำถาม แต่ทริปนี้สนุกจริงๆครับเหมือนได้ไปด้วยเลย ชอบครับ

[mirage_II]

ข้างหน้าเป็นโค้งตัวเอส แบบเส้นคู่


มาถึงจุดเปลี่ยนถนน 4 เลนเป็น 2 เลนสวนกันแล้ว ทางแคบลงไปรวมกัน เห็นมีถนนคู่ขนานที่ก่อสร้างเกือบเสร็จอยู่ทางขวามือ ซึ่งเมื่อดูจาก กูเกิ้ลสตรีทแมป ที่ระบุ เดือนมิย.ปีที่แล้ว ยังเป็นดินลูกรังอยู่เลย ตรงนี้พอดีมีป้ายบอกระยะทางถึงกรุงเทพฯ อีก 600 กิโลเมตร


โอ..ถนนฝั่งขวาสร้างเสร็จแล้วนี่ แต่ยังไม่เปิดให้ใช้ สังเกตุป้ายทางซ้ายกำหนดให้รถวิ่งสวนทางกันในฝั่งซ้ายนี้ อีกไม่นานคงได้วิ่งกันสบายๆ


ถนนกว้างก็เลยดูคล้ายกับเส้นทาง ลำปาง-เถิน แต่อย่าเพลินรถวิ่งสวนนะครับ เส้นกลางถนนก็มีสีเหลืองแสดงว่าอีกเลนเป็นรถวิ่งสวนทางกัน

[mirage_II]

คุณ voravut : ด้วยความยินดีครับ การถ่ายภาพนิ่งที่ต่อเนื่องในระหว่างการเดินทางทำให้ ดูเหมือนมีหน้าต่างโลกบานเล็กๆ อยู่ในกระทู้ ซึ่งทำให้คนอื่นที่จะติดตามไป หรือแ้ม้แต่ตัวผมเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ก็จะได้ย้อนกลับมาที่แห่งนี้ได้อีก แถมระหว่างการทำริวิวนี้ ผมกลับรู้สึกว่าได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่ไปมา ได้ชัดเจนกว่าตอนที่ไปซะอีก (เพราะตาคนเรามองอะไรได้ไม่ครอบคลุม กับเวลาที่่จำกัดทำให้ต้องรีบๆ เดินทางผ่านไปไม่ทันได้เก็บรายละเอียด อารมณ์ต่อสถานที่แห่งนั้นได้เพียงพอครับ)


ตอนนี้ชาวคณะให้ผมแวะซื้อของข้างทางซะแล้ว


ลงไปเลือกซื้อแล้ว อ้าว.. ฟักทอง ซื้อไปทำไมนะ แถมซื้อเยอะด้วย เอาขึ้นหลังคาให้หมด


ระหว่างนั้นสังเกตุเห็นอะไรห้อยโตงเตงอยู่มากมาย ดูแล้วคล้ายกระดูกขาวๆ แต่เขาบอกว่าเป็น "เห็ด"


ตรงหน้าร้านนี้ มองไปข้างหน้าแบบซูมๆ จะเห็นภูเขากั้นขวางอยู่ นี่แหละรสชาติของการเดินทางละ