View previous topic :: View next topic
Author
Message
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 2:44 pm Post subject:
เดินลัดเลาะมาตามไหล่เขาเพื่อหาจุดมองสันเขื่อนทีอยู่ในแนวเดียวกัน จนมาพบเข้ากับเสาคอนกรีต 2 อัน ที่ปักอยู่บนเนินนี้ ซึ่งเล็งดูแล้วเหมือนจะอยู่ในแนวเดียวกับสันเขื่อนจริงๆ
หันหลังไปมองศาลาประภาภิรมย์ ซึ่งเกือบจะตรงกับมุกด้านหลังของอาคารพอดี (ด้านหน้าอาคารจะหันออกไปยังถนนด้านทิศตะวันออก) ตรงนี้ถึงจะมืด แต่ก็มีคนมานั่งดูโทรศัพท์มือถือกัน คาดว่าคงเป็นการดูเฟสบุ๊ค ที่สามารถถ่ายปุ๊บส่งภาพให้เพื่อนๆ ได้ปั๊บเลย และช่วงนี้ต่างคนต่างไปเที่ยวในที่ต่างๆ ก็คงถ่ายมาโชว์แลกเปลี่ยนเป็นที่สนุกสนานครับ (ต่างกับผมที่ยังใช้ิวิธีเก่าๆ คือถ่ายด้วยกล้องแล้วไปลงคอมพ์ที่บ้านเพื่อปรับแต่งภาพ มาลงกระทู้อีกที เลยต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้เห็นกัน
ลองชะโงกไปดูข้างล่างอีกที จะเห็นชาวคณะ ออกมาเดินเล่นกัน น่าเสียดายที่ไม่สามารถจอดรถบนเนินนี้ได้ พวกเขาขี้เกียจเดินอ้อมเขาขึ้นมาข้างบนเหมือนผมครับ แต่มุมนี้จะเห็นสันเขื่อนที่ดูคล้ายเครื่องบิน หรือทางวิ่งของสนามบิน ได้มากที่สุดครับ
มองไปทางซ้าย ซึ่งเป็นบริเวณจัดงานปีใหม่ ตรงนี้จะเห็นว่าเป็นหน้าผาตัดลงไปข้างล่างเลย น่ากลัวมากถ้าหากไม่มีแนวพุ่มไม้เป็นกำแพงกั้นไว้ คงได้มีคนพลัดตกลงไปบ้าง เพราะค่อนข้างมืดมาก Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:15 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 3:16 pm Post subject:
มองไปตามถนนขาออกไป จะสังเกตุเห็นมีคนไปออตรงริมเขาในภาพ จึงคิดว่าน่าจะมีทางเดินลัดลงไปได้ ผมจะคิดจะเดินไปหาทางลงตรงนั้น จะได้ไ่ม่ต้องเดินอ้อมกลับไปทางเดิม
เดินอ้อมหลังศาลาประภาภิรมย์ ไปเก็บภาพน้ำตกเทียม ที่เห็นตอนแรกสักภาพดีกว่าครับ
ถัดไปเป็นบริเวณนั่งรับประทานอาหารอีกจุด ซึ่งอยู่่ท่ามกลางแสงสี ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบจนปัจจุบันว่า ต้องซื้อตั๋วเข้าไปนั่งทาน หรือได้รับบัตรเชิญกันแน่ และถ้าเป็นการเี้ลี้ยงฟรีๆ ให้กับนักท่องเที่ยว หรือ คนที่มาร่วมงาม กฝผ.เขาจะมีงบจัดให้หรือครับ
อยู่ในงานนานๆ เกิดมีคนมาไล่ หรือขอดูตั๋วร่วมงานจะหน้าแตกเปล่าๆ เลยเดินต่อไปอีกด้าน ซึ่งมีฉากอะไรสวยๆ อยู่นะครับ
มองไปทางขวา ก็คือ ป้ายจัดงานปีใหม่ ที่มีคนมาถ่ายภาพกันเยอะ ถัดไปเป็น ป้ายชื่อไฟพะเนียงที่จะจุดตอน CountDown ถัดไปอีกก็เป็น เวทีรำวงย้อนยุค ครับ เดี๋ยวผมจะเดินไปทางนั้นดู เพื่อหาทางลัดลงไปข้างล่างกัน Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:18 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 4:52 pm Post subject:
เดินลงมาที่ถนน มองไปทางซ้าย เป็นป้าย Countdown2014 จัดเป็นซุ้มให้ถ่ายภาพกันอย่างครึกครื้น มีจอทีวีของบลูสกายถ่ายทอดการชุมนุมที่กรุงเทพ อยู่ใกล้ๆด้วย ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ด้วยหรือเปล่าครับ แอบเห็นป้ายชื่อศาลาประภาภิรมย์อยู่ใกล้ๆ ด้วยครับ (ขยายให้เห็นในภาพเล็ก)
อีกด้านก็เป็นป้ายงานปีใหม่ HAPPY NEWYEAR 2014 ครับ จัดได้อลังการดี
ลองเข้าไปดูใกล้ๆ มีเก้าอี้นั่งให้ด้วย คนรอคิวถ่ายภาพมาก ผมไม่มีเวลารอเพื่อเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้ครับ
ถัดมาทางซ้ายมือ (ยืนหันหน้าเข้าป้าย) เป็นไฟพะเนียงที่จุดเป็นตัวอักษร "สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๗" ครับ ทางซ้ายมือของภาพสังเกตุมีคนไปนั่งและเข้าๆ ออกๆ แต่มืดมาก ตอนนั้นผมไม่ทันคิดว่าจะเป็นทางลัดลงไปข้างล่างได้ จนกลับมาขึ้นรถ สมาชิกในรถจึงบอกว่าเห็นคนเดินลงมา้ข้างล่างจากตรงนั้นได้ ซึ่งตอนที่ผมอยู่ข้างบนยังเดินต่อไปเพื่อหาบันไดทางลง ซึ่งในที่สุดก็ไม่พบ Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:21 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 5:48 pm Post subject:
ตรงจุดที่คาดว่าเป็นทางลัดลงไปข้างล่างได้ เนื่องจากมีคนเดินเข้าไปยืนบ้างนั่งบ้างกันเยอะ ผมจึงลองตามเข้าไปดูบ้าง เลยได้มีโอกาสไปชะโงกดูรถตัวเองจากอีกมุมหนึ่งด้วย แต่เนื่องจากมืดมากจึงมองไม่เห็นทางลงเลย มีแต่พุ่มไม้บังตาอยู่ เลยไม่กล้าเดินดุ่มๆเข้าไป เดี๋ยวคนแถวนั้นเขาอาจคิดว่าผมจะมาแอบถ่าย หรือมายุ่มย่ามในที่ส่วนตัวเขา เพราะผมเองยังสะดุดสายเต้นท์ที่ยึดกับสมอบกเลยครับ
มองกลับออกไปตรงสนามโล่งๆ ข้างหน้าป้ายไฟพะเนียง เป็นลานกางเต้นท์ มีแสงสว่างอะไรข้างบน ซึ่งตอนนั้นก็พอจะทราบว่าเป็นพระพุทธรูป แต่ผมไม่มีเวลาขึ้นไปไหว้ เอาไว้คราวหน้าตอนกลางวัน จะได้เห็นวิวน้ำกว้างๆ ด้วย
มองมาทางขวามือ เป็นเวทีรำวงย้อนยุค(เวียนครก) ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นแบบที่มีสาวๆ รำ แล้วให้ผู้ชายที่จะรำด้วยมาซื้อบัตรเข้าไปรำด้วยเป็นคู่ๆ นะครับ
ด้วยความสงสัยเลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ มีป้ายรูปภาพตัวอย่างการซ้อมรำของสาวๆ ด้วยครับ แต่เท่าที่ดู สาวรำจริงๆ ในขณะนั้นรู้สึกจะมีแต่ผู้ใหญ่ (สาวแก่)นะครับ คงจะมาในเชิงอนุรักษ์ และเน้นการร้องมากกว่านะครับ ซึ่งการร้องคงจะคล้ายๆ เพลงอีแซว นะครับ ลองค้นข้อมูลในเน็ตดู พบว่าเป็นการรำวงพื้นบ้านเกิดในสมัยจอมพล.ป หลังเกี่ยวข้าวเสร็จ ก็เอาครก สาก มาวางไว้ตรงกลางให้คนรำได้เดินวน คล้ายเสากลางงาน ในภาคอื่นๆจะมีชื่อแรกต่างกันไป เช่นรำโทน รำแบบบท แต่ทางภาคใต้เรียกว่า รำวงเวียนครก มีคนร้องยาวๆ เหมือนแหล่ มีสาวๆ มาเป็นคู่รำ ใครที่จะร่วมรำ ก็ไปซื้อบัตรหรือพวงมาลัยไปให้สาวที่จะรำด้วย ครับ Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:23 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 7:19 pm Post subject:
เิดินต่อไปยังบริเวณด้านหลังเต้นท์ เผื่อจะมีทางเดินลงไปข้างล่างได้ ตอนนั้นผมคิดเอาเองว่า ถนนข้างล่างน่าจะวนอ้อมกลับมายังจุดเดิม แต่ในอันที่จริงไม่ใช่ ถนนเลี้ยวออกไปอีกทางเลยครับ
ระหว่างนั้น เหลือบเห็นพระพุทธสิริสัตตยราช(หรืออีกชื่อว่า หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเป็นปางนาคปรก ที่มีงูใหญ่ถึง 7 ตัวแผ่คลุมองค์พระ ในขณะที่ปางนาคปรกทั่วไปจะมีงูเพียงตัวเดียวแต่แยกเป็น 5 หัวบ้าง 7 หัวบ้าง)บนเนินชัดขึ้นเลยยกกล้องขึ้นไปถ่าย แต่ก็เห็นไม่ชัดอยู่ดีครับ เหลือบเ็ห็นเวทีอะไรข้างล่าง ทีแรกนึกว่าลิเก แต่ไม่ใช่ครับเป็น "หนังตะลุง" ชื่อ "หนังทวีพรเทพ" ลองไปค้นข้อมูลในเน็ตดู โอ..แทบไม่น่าเชื่อว่า มีคลิ๊ปการเล่น ตลอดจน เฟสบุ๊คเลย ทันสมัยจริงๆครับ
ผมเดินมาจนสุดแนวกางเต้นท์ของ กฟผ.(ที่เรียงกันเป็นระเบียบ) ถัดไปเป็นลานโล่ง และป่าทึบ ไม่เห็นทางเดิน หรือถนนใดๆ ข้างล่างแล้ว เลยหันกลับ ก็มาพบกับภาพรวมของงาน จากจุดที่ยืนตรงนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเห็นได้ครบเลยนะครับ
สุดท้ายผมก็ต้องเดินกลับไปทางเดิม เฮ้อ.. เลยเดินออกทางถนนด้านขวา หน้างานเลยดีกว่า ผ่านเต้นท์จำหน่ายอาหาร เลยเข้าไปดู ไม่เห็นว่ามีการเก็บตั๋วหรือต้องจ่ายเงินแต่อย่างใด หรือว่าเป็นประเพณีที่นี่ ที่เขาจะเลี้ยงคนที่มาร่วมงานกันฟรีๆ อ้อ..หรือว่าต้องไปลงทะเบียนว่าจะมาพักเต้นท์ ค้างคืนบนนี้ด้วยหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่ทราบเพราะไม่มีป้ายประชาสัมพันธ์ใดๆ และเวลาพอจะไปสอบถามคนในงานดูครับ Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:29 pm; edited 2 times in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 7:50 pm Post subject:
ระหว่างเดินกลับมาตามถนนด้านหน้างาน มองเข้าไปในศาลาประภาภิรมย์ ด้านหน้าอาคารที่ติดกับถนน เหลือบเห็นภาพวิวที่นำมาต่อกัน ลองแวะเข้าไปดูใกล้ๆสักหน่อยนะครับ
เป็นภาพใหญ่ตรงกลางที่ประกอบจากภาพเล็ก 9 ภาพ และภาพเล็กด้านข้างอีกข้างละ 3 ภาพ ดูแล้วเป็นภาพถ่ายในมุมสูงทั้งหมด แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ไม่มีหินสามเกลอ หรือ กุ้ยหลินเมืองไทยเลย แสดงว่านี่เป็นภาพเก่าสมัยแรกๆ ที่สร้างเขื่อน ซึ่งตอนนั้น หินสามเกลอยังไม่มีชื่อเสียง
หัวโค้งสุดท้ายก่อนลงจากเนิน มีป้ายแผนที่อยู่ 2 อัน อยู่ในสภาพเก่าสกปรก ผมเลยเอามาให้ดูสักป้าย เป็นของ dtac ที่เคยทำไว้กับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป น่าจะมีการทำใหม่ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมมามาก
ผมกลับมาถึงรถก็รีบบึ่งออกไป เพราะทุกคนก็อยู่ในสภาพหิวโหยกันมาตั้งแต่ขึ้นจากเืรือแล้ว เวลาตอนนั้นก็ใกล้จะ 2 ทุ่มแล้วด้วย (ทีแรกผมยังคิดว่าข้างบนน่าจะมีอะไรขาย แต่ดูแล้วผมเองก็ไม่กล้าเข้าไปตักกิน เลยไม่ได้กินอะไรแม้แต่น้ำครับ) Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:31 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 9:15 pm Post subject:
ระหว่างทางก็มองหาร้านอาหารแต่ก็ไม่พบ จนมาออกปากทาง อ.บ้านตาขุน ที่ตัดกับถนนสาย 401 เลี้ยวซ้ายปุ๊บก็เจอร้านนี้เข้าปั๊บ เพราะเหลือบเห็น "อาหารตามสั่ง" เลยแวะเข้าไปกัน
จากป้ายหน้าร้าน มองย้อนกลับไปอีกด้าน จะอยู่ไม่ไกลจากสามแยกเข้าเขื่อนรัชชประภา ครับ
ดูข้างนอกเหมือนร้านเล็กนิดเดียว
แต่พอเข้าไปก็กว้างพอดู และที่สำคัญคือไม่มีลูกค้าเลย มีแต่คณะทัวร์ของเราเพียง 5 คน Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:34 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 02/04/2014 9:25 pm Post subject:
เดินอ้อมเข้ามาหลังครัว มีเมนูให้เลือก ท่านผตก.ทัวร์เราก็ทำหน้าที่เลือก เพราะเราแบ่งหน้าที่กันในการออกทัวร์แต่ละครั้ง คือ เรื่องน้ำัมันกับที่พักผมจ่าย เรื่องอาหารให้เธอจ่าย
พักนึงก็ได้อาหารตามประสงค์
ชั่วแว๊บเดียวก็ทานกันหมด นับเป็นอาหารมื้ออร่อยมื้อหนึ่งเลยนะครับ ทานไปก็ได้ยินเสียงพลุปังๆ เป็น background เพราะชาวบ้านเขาเล่นกันก่อน Countdown ผมยังได้ออกไปดูพลุ แต่ถ่ายมาไม่ดี เลยไม่ได้เอามาโชว์ให้ดูครับ
กระทู้ยังไม่จบนะครับ ยังมีของแถม ขากลับที่ไปพักชุมพร แวะไหว้กรมหลวงชุมพร ได้เดินชมเรือหลวงชุมพรเ็ต็มๆ และขึ้นจุดชมวิวเขามัทรี ที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในปางที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย แต่ช่วงนี้ขอพักกระทู้ยาวว....เพราะต้องเตรียมตัวไปเที่ยวสงกรานต์ ไปตามฝันสู่ดินแดนลับแล เนินมรณะ 585-586 และแก่งหลวงยามหน้าแล้ง
ตอนนี้ขอวางคลิ๊ปวิดีโอ ช่วงตั้งแต่ผมเดินขึ้นไปบนเนินชมวิว ศาลาประภาภิรมย์ ที่มีการจัดเลี้ยงมาจนถึงร้านอาหารที่นี่ แบบเีนียนๆ ครับ
Last edited by mirage_II on 15/05/2015 12:35 pm; edited 1 time in total
Back to top
suwannate
2nd Class Pass Joined: 02/06/2010 Posts: 615
Location: ประจวบคีรีขันธ์
Posted: 05/04/2014 11:28 am Post subject:
mirage_II wrote:
ท่าน ผตก.ทัวร์ของเรา ขอสักภาพแบบใช้แฟลช เออ..ดูดีเหมือนกัน หมายถึงแสงสีข้างบนยังมองเห็นได้
เ้จ้าตัวเล็ก "น้องเค๊ก" ขอด้วยคนอีกภาพ แบบเอียงๆ (อาย)
ลองซูมภาพป้ายจัดงานปีใหม่ข้างบน ซึ่งได้ภาพตัวอักษรกลับด้าน เพราะเป็นด้านหลังป้าย
ืทีแรกก็กะจะกลับออกไปเลย เพราะคืนนี้อยากไปนอนที่ตะกั่วป่า พรุ่งนี้จะได้วิ่งลัดเลาะเขาชมวิวอันดามันจนถึงระนอง แต่ ผตก.ท่านไม่อนุญาต เพราะกลัวจะกลับกรุงเทพฯไม่ทัน ไหนๆ ก็ต้องตีรถกลับทางเดิมละ เลยตัดสินใจเิดินขึ้นไปดูงานข้างบนดีกว่า เพราะไหนๆ ก็จะต้องกลับบ้านกันแล้วละครับ จากภาพผมเดินย้อนไปตามถนนที่ลงมาจากเนินศาลาประภาภิรมย์ข้างบน เพราะดูแล้วไม่เห็นมีทางลัดขึ้นไปข้างบนเลย แต่มาทราบทีหลังตอนกลับลงมาแล้วว่า มีบันไดลัดขึ้นไปทางด้านหลัง ไปโผล่บนเนินตรงไฟพะเนียงพอดี แต่มันมืดมากเลยมองไม่เห็น ต้องเดินอ้อมขึ้นไปแทน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับ ละเอียดมากเลย เสียดายที่คุณไม่ได้เลียบชายฝั่งอันดามันจนถึงระนอง ผมเองเคยใช้เส้นทางนั้น ธรรมชาติสวยงามมากตลอดทางเลยครับ เป็นทางถนนสวนเลนที่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมตลอดทาง ถ้าลงใต้เลยตะกั่วป่าไป จะขึ้นเขาผ่านอุนยานแห่งชาติเขาหลักซึ่งเป็นถนนบนภูเขาเลียบทะเล หากขึ้นมาทางระนอง ช่วงจะออกจากเขตจังหวัดพังงาจะวิ่งผ่านชุมชน ซึ่งที่นั้นเค้าปลูกพวกเงาะ ทุเรียน มังคุด สามารถหาซื้อข้างทางได้ในราคาหน้าสวนเลยครับ ตลอดทางก็จะมีแยกเข้านำ้ตก หรือชายหาด พอถึงระนองก็จะเป็นทางภูเขาลาดชัน แต่สวยตรงที่มีน้ำตกริมถนนใหญ่บนภูเขาครับ เป็นน้ำตกปุญญาบาล หลังจากนั้นก็จะข้ามคลองที่กว้างมาก แถมวิวสวยงามมากครับ เป็นคลองละอุ่น ที่มีน้ำสีฟ้าเหมือนกับน้ำทะเล หลังจากนั้น เส้นทางก็จะเลียบกับคลองกระบุรีซึ่งเป็นจุดแบ่งเขตแดนไทยพม่า จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทางขึ้นภูเขาแต่ข้างทางลึกลงไปเป็นคลองกระบุรี ตรงนั้นจะมีที่จอดชมวิวมุมสูง ซึ่งเราสามารถมองเห็นฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน และสุดท้ายก่อนจะถึงจังหวัดชุมพร ก็จะพบกับร้านขายของริมทาง ซึ่งตั้งอยู่เรียงราย ณ บ้านทับหลี ซึ่งก็คือซาลาเปาทับหลีอันขึ้นชื่อ ต้นตำรับเค้าอยู่ที่นี่ครับ ผมไปชิมมาแล้ว อร่อยมากจริง ๆ ครับ ไว้ถ้ามีโอกาส แนะนำคุณลองไปเที่ยวเส้นทางสายระนองดูครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่ครับ
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 07/04/2014 3:14 am Post subject:
ขอบคุณ คุณsuwannate ที่เข้ามาเพิ่มเติมถึงบรรยากาศอันสวยงามบนเส้นทางเลียบอันดามัน ซึ่งในอันทีจริงผมก็เคยสัมผัสมาแล้ว แต่ไม่เต็มอิ่ม คือเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว ตอนทำงานที่ปัจจุบันใหม่ๆ ที่ทำงานจัดทัวรไป เกาะสิมิลัน-เกาะสุรินทร์ นั่งรถทัวร์เลาะเส้นทางริมเขาเส้นนี้มาแล้ว จากระนองถึง ท้ายเหมืองเลย แต่ไม่ได้ถ่ายภาพมาเลย กับอีกครั้ง เมื่อคราวไป ระนองตอนปีใหม่ 2551 อันถือเป็นทริปสุดท้ายของรถมิตซู มิราชในภาพประจำตัวผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ไทยรุ่งจนปัจจุบัน ขาไปได้ลุ้นเส้นทางพะโต๊ะตอนมืดด้วย ลุ้นกันสุดๆ เพราะเป็นเส้นทางเปลี่ยวพอดู ขากลับวิ่งตามที่คุณบอก แต่ไม่ได้ขึ้นไปชมวิวบนเขาฝาชี และแอบเห็นน้ำตกปุญญปาลด้วย
ในครั้งนี้ ทีแรกก็กะจะวิ่งกลับทางตะกั่วป่า แต่มานึกได้ว่า ทะเลจะอยู่ทางซ้าย ผมถ่ายภาพไม่สะดวก และอยากจะวิ่งให้เลยไปถึง ท้ายเหมือง ยิ่งพอดีมามืดตรง เขื่อนฯ อีก ทางผตก.ทัวร์ผมต้องการให้ไปพักในช่วงที่ตีรถกลับในวันรุ่งขึ้นได้เลย ผมจึงย้อนกลับทางเดิมมาแวะชุมพร เพื่อซ่อมทริปเก่าเมื่อ 2 ปีก่อนแทนครับ คงเอาไว้ลงใต้คราวหน้าจะวิ่งเลาะอันดามันแล้วเก็บภาพมุมสูงจากเชิงเขาลงไปในทะเลมาให้ชมกันครับ
Back to top