Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311324
ทั่วไป:13287082
ทั้งหมด:13598406
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รถไฟบรรทุกก๊าซชนกระบะที่บางละมุง (16/07/57)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รถไฟบรรทุกก๊าซชนกระบะที่บางละมุง (16/07/57)

 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44813
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/07/2014 8:47 am    Post subject: รถไฟบรรทุกก๊าซชนกระบะที่บางละมุง (16/07/57) Reply with quote

รถไฟบรรทุกก๊าซพุ่งชนกระบะพลิกหงายท้อง บาดเจ็บ 5 คน
ช่อง 7 สี 16 ก.ค 2014 เวลา 07:20 AM

เช้านี้ที่หมอชิต - รถไฟบรรทุกถังก๊าซพุ่งชนรถยนต์กระบะ กระเด็นพลิกคว่ำออกข้างทางกว่า 50 เมตร ที่ อ.บางละมุง บาดเจ็บ 5 คน นับเป็นจุดอันตรายเกิดอุบัติเหตุเป็นครั้งที่ 5 แล้ว

รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออิซูซุ สีดำ ในสภาพพังยับเยิน พลิกหงายท้องอยู่ในพงหญ้าข้างทางรถไฟ พื้นที่บ้านหนองสะเดา หมู่ 4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากจุดที่ถูกขบวนรถไฟบรรทุกถังก๊าซเปล่าพุ่งชนกว่า 50 เมตร มีผู้ที่โดยสารมาในรถกระบะได้รับบาดเจ็บ 5 คน อาการสาหัส 2 คน คือ นายวานิช บุญอุ้ม และนายณัฐพล เรียนงาม ส่วนอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้นำทั้งหมดส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางละมุง

สอบสวนนายศรชัย โพธิ์ทอง คนขับรถกระบะ บอกว่า ทั้ง 5 คนกำลังเดินทางเพื่อจะไปส่องเขียด ที่ป่าบ้านหนองมะนาว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ขณะกำลังขับข้ามทางรถไฟ ซึ่งค่อนข้างมืด ไม่มีแผงกั้นและไฟกะพริบเตือน จึงไม่ทันระวังขบวนรถไฟ จนถูกชนอย่างแรงรถกระบะหมุนพลิกคว่ำหลายตลบ

ขณะที่ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ที่มาดูอุบัติเหตุบอกว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 แล้วที่เกิดตรงจุดนี้ เพราะไม่มีแผงกั้น ไฟกระพริบเตือน ขณะที่รถที่วิ่งบนถนนซึ่งค่อนข้างมืด และเป็นเนินลงทางโค้งหักศอก ออกจากโค้งก็มาเจอทางรถไฟ จึงไม่ทันสังเกต จึงขอวอนให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตั้งสัญญาณเตือน เพื่อความปลอดภัยเราไปฟังเสียงคนในพื้นที่กันค่ะ/ครับ

ทางด้าน นายสุรินทร์ โกศล พนักงานขับรถไฟบอกว่า ขณะที่มาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มองเห็นว่ามีรถกระบะวิ่งตัดหน้าเข้ามาในระยะกระชั้นชิด ก็พยายามจะหยุดขบวนรถไฟ แต่เนื่องจากวิ่งมาด้วยความเร็ว จึงหยุดไม่ทัน จนพุ่งชนดังกล่าว

----

รถไฟบรรทุกก๊าซพุ่งชนกระบะ เจ็บ 5 ราย ที่บางละมุง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2557 09:56 น.

ศูนย์ข่าวศรีราชา - รถไฟบรรทุกก๊าซพุ่งชนกระบะตกข้างทางหงายท้องล้อชี้ฟ้า ที่บริเวณถนนข้ามทางรถไฟ บ้านหนองสะเดา บางละมุง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย

วันนี้ (16 ก.ค.) พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนรถยนต์กระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบริเวณถนนข้ามทางรถไฟ บ้านหนองสะเดา ม.4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียน ผพ 5169 ชลบุรี สภาพถูกขบวนรถไฟที่บรรทุกถังบรรจุก๊าซ ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่มุ่งหน้าเข้าสถานีบรรจุก๊าซ บ้านโรงโป๊ะ ชนจนกระเด็นไปไกลกว่า 50 เมตร จนตกอยู่ในพงหญ้าริมทางรถไฟ สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า

ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 5 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา นำส่ง รพ.บางละมุง โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัส จำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ นายวานิช บุญอุ้ม อายุ 30 ปี และนายณัฐพล เรียนงาม อายุ 20 ปี ส่วนอีก 3 ราย มีอาการบาดเจ็บเล็กฟกช้ำตามร่างกาย

สอบสวน นายศรชัย โพธิ์ทอง อายุ 29 ปี คนขับรถกระบะ ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพวกรวมจำนวน 5 คน ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อไปส่องเขียดที่ป่าบ้านหนองมะนาว จนมาถึงที่เกิดเหตุขณะกำลังขับข้ามทางรถไฟ โดยไม่มีไฟกะพริบเตือน และไม่มีแผงกั้น ซึ่งค่อนข้างมืดไม่มีแสงส่องสว่าง ทำให้ไม่ทันระวังจึงถูกขบวนรถไฟที่บรรทุกถังบรรจุก๊าซเปล่าชนอย่างแรงจนรถกระบะหมุนหลายตลบพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า และมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว

ด้านนายสุรินทร์ โกศล อายุ 54 ปี พนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าว ให้การว่า ได้ขับรถไฟบรรทุกถังก๊าซเปล่ามาจากฉะเชิงเทรา เพื่อที่จะไปบรรจุก๊าซที่สถานีก๊าซบ้านโรงโป๊ะ อ.บางละมุง นำส่งต่อไปยัง จ.ขอนแก่น เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถกระบะวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้ตนเองหยุดขบวนรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วไม่ทันจึงพุ่งเข้าชนรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ทำให้ผู้มีบาดเจ็บจำนวนมาก
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2014 11:20 am    Post subject: Reply with quote

ขบวนรถไฟบรรทุกก๊าซชนกระบะเจ็บ5ราย
ข่าวทั่วไป - อาชญากรรม
คมชัดลึก
วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2557

ขบวนรถไฟบรรทุกก๊าซชนกระบะกระเด็นตกข้างพงหญ้าริมทางรถไฟ สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า เจ็บ5ราย

วันที่ 16 ก.ค.57 พ.ต.อ.ธรรมนูญ มั่นคง ผกก. สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 15 ก.ค. ว่ามีอุบัติเหตุรถไฟชนรถปิกอัพมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยจุดเหตุเกิดบริเวณถนนข้ามทางรถไฟ บ้านหนองสะเดา หมู่4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ ออนิว สีดำ ทะเบียน ผพ 5169 ชลบุรี ถูกขบวนรถไฟ ที่บรรทุกถังบรรจุก๊าซเปล่า ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่มุ่งหน้าเข้าสถานีบรรจุก๊าซ บ้านโรงโป๊ะ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชนจนกระเด็นไปตกอยู่ในพงหญ้าริมทางรถไฟ ในสภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า ห่างจากจุดชนประมาณ 50 เมตร

ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวน 5 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา นำส่ง รพ.บางละมุง โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือนายวานิช บุญอุ้ม อายุ 30 ปี และนายณัฐพล เรียนงาม อายุ 20 ปี ส่วนอีกจำนวน 3 รายที่เหลือ มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยฟอกซ้ำตามร่างกาย

นายศรชัย โพธิ์ทอง อายุ 29 ปี คนขับรถกระบะ ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพวกรวมจำนวน 5 คน ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าว เพื่อไปส่องเขียดที่ป่าบ้านหนองมะนาว จนมาถึงที่เกิดเหตุขณะกำลังขับข้ามทางรถไฟ โดยไม่มีไฟกะพริบเตือน และไม่มีแผงกั้น ซึ่งค่อนข้างมืด ทำให้ไม่ทันระวัง ถูกขบวนรถไฟที่บรรทุกถังบรรจุก๊าซเปล่า ชนรถกระบะหมุนหลายตลบจนล้อชี้ฟ้าและมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว

ด้าน นายสุรินทร์ โกศล อายุ 54 ปี พนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าว ให้การว่า ตนเองได้ขับรถไฟบรรทุกถังก๊าซเปล่าจากฉะเชิงเทรา เพื่อที่จะไปบรรจุก๊าซที่สถานีก๊าซบ้านโรงโป๊ะ อ.บางละมุง นำส่งต่อไปยัง จ.ขอนแก่น เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีรถกระบะวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้ตนเองหยุดขบวนรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วไม่ทัน จึงพุ่งเข้าชนรถยนต์กระบะคันดังกล่าว และทำให้มีบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว

ขณะที่ กลุ่มชาวบ้านละแวกดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โดยเหตุการณ์ครั้งนี้นับได้ว่าเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 5 แล้ว เนื่องจากจุดข้ามทางรถไฟบ้านหนองสะเดา ไม่มีไฟกะพริบเตือน และไม่มีแผงกั้น เพื่อให้รถที่สัญจรผ่านไปมาหยุดให้รถไฟผ่านไปก่อน จึงวิงวอนให้เจ้าหน้าที่รถไฟ ดำเนินการติดตั้งสัญญาณดังกล่าวให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44813
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/07/2014 1:17 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.แจง อยากติดเครื่องกั้น รถไฟ ทุกแยกแต่ขึ้นกับงบ
พัทยาเดลินิวส์ 17 กรกฎาคม 2557 :: 07:07:08 น.

Click on the image for full size

จากกรณีรถกระบะถูกขบวน รถไฟ ที่บรรทุกถังบรรจุก๊าซเปล่า ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) พุ่งชนจนมีผู้บาดเจ็บ โดยเหตุที่เกิดขึ้นพบว่าจุดทาง รถไฟ ดังกล่าว ไม่มีไฟกระพริบเตือน และไม่มีเครื่องกั้น เรื่องข้างตนนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ถูกพบเห็นบ่อยครั้งบนหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งประเด็นที่ว่า เครื่องกั้น หายไปไหน และทำไมสัญญาณไฟกระพริบถึงไม่มีจึงน่าจะเป็นเรื่องที่ประชาชนคงอยากจะทราบ

พัทยา-วานนี้ (16 ก.ค. 57) ผู้สื่อข่าวพัทยาเดลินิวส์จึงลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการดูแลความปลอดภัยของการ รถไฟ แห่งประเทศไทย พบว่าซอยชุมชนต่างๆ ตลอดถนนเลียบทาง รถไฟ มีเครื่องกั้นถนนติดตั้งไว้ทุกจุดที่เป็นซอยใหญ่ โดยพบว่ามีจุดตัดบริเวณหลังวัดธรรมสามัคคีเครื่องกั้นไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากราวเหล็กสำหรับใช้กั้นรถไม่มี ส่งผลให้ในบริเวณดังกล่าว ประชาชนต้องอาศัยความระมัดระวังมากขึ้นในการขับขี่ ซึ่งมีเพียงสัญลักษณ์ไฟสีเหลืองกระพริบคอยเตือนให้ประชาชนได้รู้ว่าบริเวณดังกล่าวมีทาง รถไฟ ตัดผ่าน

เครื่องกั้นถนนมาตรการดูแลความปลอดภัยประชาชน

จากการลงพื้นที่สอบถามข้อมูลนายสถานีพัทยาถึงภาระหน้าที่ และพื้นที่ที่รับผิดชอบ ตลอดถนนเลียบทาง รถไฟ คลอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ซอยชัยพฤกษ์ 2 ถึงกระทิงลาย ซึ่งมีระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ทางการ รถไฟ แห่งประเทศไทยได้ติดตั้งเครื่องกั้นถนนไว้ทั้งสิ้น 12 จุด แบ่งประเภทของเครื่องกั้นออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องกั้นอัตโนมัติ, เครื่องกั้นที่มีพนักงานควบคุม และเครื่องกั้นแบบแทร็ค ซึ่งเครื่องกั้นชนิดแรกจะถูกควบคุมจากนายสถานี ดังเช่นสถานีพัทยาจะเป็นผู้ควบคุมการใช้เครื่องกั้นถนน 3 จุดในระยะที่ไม่ไกลจากสถานี ประกอบด้วย จุดตัดทาง รถไฟ บริเวณซอยโรงบำบัดน้ำเสีย, ซอยสยามคันทรีคลับ และซอยเขาน้อย การทำงานของเครื่องกั้นดังกล่าว ก่อนที่ รถไฟ จะแล่นถึงเครื่องกั้นนายสถานีจะเป็นผู้เปิดสัญญาณเสียง และไฟสีเหลืองเตือนเป็นอันดับแรกประมาณ 1 นาที จากนั้นจึงกดปุ่มนำเครื่องกั้นลดระดับลง ก่อน รถไฟ จะแล่นผ่านประมาณ 500 เมตร เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ขณะที่เครื่องกั้นที่มีพนักงานควบคุมมีอยู่ 4 จุดได้แก่ จุดตัดทาง รถไฟ ซอยหนองเกตุใหญ่, ซอยโรงน้ำแข็ง หนองปรือ, ซอยตาลหมัน และซอยชัยพฤกษ์ 2 เมื่อพนักงานประจำเครื่องกั้นได้รับการแจ้งจากสถานีหลักว่า รถไฟ กำลังจะผ่านจุดที่ตนเองประจำอยู่ พนักงานจะเป็นผู้กดปุ่มนำเครื่องกั้นลงด้วยตนเอง ก่อน รถไฟ จะแล่นมาถึง 800 เมตร พร้อมมีสัญญาณเสียง และไฟสีเหลืองเตือนให้ประชาชนรับทราบ เพื่อให้หยุดรถหลังแนวเครื่องกั้น

ส่วนเครื่องกั้นแบบแทร็ค เป็นเครื่องกั้นชนิดสุดท้ายที่ทางการ รถไฟ แห่งประเทศไทยนำมาติดตั้งใช้ในพื้นที่เมืองพัทยาทั้งสิ้น 5 จุด ประกอบด้วยจุดตัดทาง รถไฟ กิโลเมตรที่ 103, หลังวัดธรรมสามัคคี, เขาตาโล, หลังโรงเรียนเมืองพัทยา 7 และหนองกระบอก ซึ่งเครื่องกั้นชนิดนี้จะไม่มีพนักงานควบคุม และไม่สามารถควบคุมได้จากสถานีหลัก เนื่องจากตั้งอยู่ห่างไกล จึงอาศัยการแล่นผ่านของ รถไฟ เป็นตัวกำหนดการลดระดับลงของเครื่องกั้น โดยที่ราง รถไฟ จะมีแทร็คติดตั้งอยู่ห่างจากจุดตัดทาง รถไฟ ประมาณ 500 เมตร เมื่อล้อ รถไฟ สัมผัสลงบนแทร็ค เครื่องกั้นจะทำงานลดระดับลงเรื่อยๆ ทันที กั้นให้ประชาชนอยู่ห่างจากทางวิ่งของ รถไฟ ประมาณ 5 เมตร ประชาชนต้องหยุดรอจนกว่าเครื่องกั้นจะเปิดทางให้สัญจรผ่านไปได้

ด้านนายมนัส เล็กคูณา นายสถานีพัทยา เผยว่า “เครื่องกั้นส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ดี โดยเฉพาะเครื่องกั้นอัตโนมัติ ซึ่งเราจะมีกล้องซีซีทีวีติดตั้งอยู่บริเวณนั้น เพื่อตรวจสอบความคับคั่งของรถ และเหตุการณ์ความเรียบร้อยขณะ รถไฟ แล่นผ่าน รวมทั้งตรวจสอบการทำงานของเครื่องกั้นว่าสามารถทำงานได้ปกติหรือไม่ ซึ่งบางจุดเราเองต้องยอมรับว่าจุดตัดที่เป็นถนนสายเล็ก หรือบางจุดประชาชนใช้เป็นเส้นทางลัดผ่าน การ รถไฟ ไม่สามารถนำเครื่องกั้นไปติดตั้งได้หมดทุกจุด เนื่องจากข้อจำกัดของงบประมาณ บุคลากรของเราที่มีไม่เพียงพอ แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ บางจุดเราได้มีการนำป้ายเตือนที่มีข้อความว่า ระวังรถไฟ ไปติดตั้ง เพื่อใช้เป้นสัญลักษณ์เตือนประชาชนก่อนถึงราง รถไฟ ตามระยะ ได้แก่ 300, 200, 100 เมตร และก่อนจะถึงราง รถไฟ ประมาณ 5 เมตร เราได้ติดตั้งป้ายข้อความว่า หยุด บนพื้นสีแดงให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจน”

รู้หรือไม่ชนเครื่องกั้น ชน รถไฟ ใครผิด???

ทั้งนี้จำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองพัทยาจากการเปิดเผยของนายสถานี พบว่าไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงแต่อย่างใด จะมีเพียงกรณีตัวอย่างที่ประชาชนขับรถเชี่ยวชนกับเครื่องกั้น โดยไม่หยุดรถรอรีบขับรถผ่านไป ขณะที่เครื่องกั้นกำลังลดระดับลง แต่ขับไปไม่พ้นจึงทำให้หลังคารถเกิดเชี่ยวชนกับเครื่องกั้นเกิดความเสียหาย ซึ่งได้มีการเดินทางมาเรียกค่าเสียหายให้ รฟท. เป็นผู้รับผิดชอบ

รวมทั้งกรณีที่ได้มีการยกมาให้เห็นข้างตน ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๕๒ ตามมาตรา ๖๓ ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าในทางเดินรถตอนใดที่มีทาง รถไฟ ผ่าน ไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวัง รถไฟ หรือไม่ ถ้าทาง รถไฟ นั้นไม่มีสัญญาณระวัง รถไฟ หรือ สิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถ และหยุดรถห่างจากทาง รถไฟ ในระยะไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงขับรถผ่านไปได้ โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท จากกฎหมายฉบับนี้คงจะชี้แจงได้อย่างชัดเจนว่าประชาชนควรที่จะปฏิบัติตนอย่างใด หากผู้ขับขี่ยวดยานไม่เคารพกฎกติกา ยังทำตัวขาดจิตสำนึกต่อผู้ใช้ทางร่วมกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่สามารถคร่าชีวิต และทำให้ทรัพย์สินเสียหายคงยังจะมีให้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ร่ำไป

ด้านนายวิโรจน์ ยีสมัน อายุ 45 ปี ชาวบ้านภายในซอยเนินพลับหวาน กล่าวว่า “ตนพอทราบกฎหมายบ้างในกรณีที่มีการขับขี่ชนเครื่องกั้นถนน หรือมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับ รถไฟ ฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดตามที่กฎหมายได้ระบุไว้ ซึ่งตนอยากให้การ รถไฟ มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ฐานความผิดว่ามีอะไรบ้างที่ประชาชนจะทำไปโดยความไม่รู้กฎหมาย อยากให้มีการนำไปติดตั้งประชาสัมพันธ์ไว้ ณ สถานีต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรู้ และเข้าใจกฎหมายมากขึ้น แต่ในส่วนของเครื่องกั้นถนนในจุดที่ไม่มี ตนก็อยากฝากให้การ รถไฟ พิจารณานำไปติดตั้ง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน”

ทั้งนี้การสร้างวินัย และใส่ใจมีความรู้ติดตัวไว้สักนิด เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อประชาชน เนื่องจาก พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นพรบ.ที่ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะที่เข้าสอบ เพื่อขอใบอนุญาตขับรถต่างต้องผ่านตามาบ้างทั้งนั้น การยังปิดตาไม่รับรู้ และไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมาย เอาความสะดวก เห็นแก่ความสบายของตน ผลที่ตามมานั้นจะได้ไม่คุ้มเสีย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Page 1 of 1

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©