View previous topic :: View next topic
Author
Message
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 20/11/2014 10:11 am Post subject:
ลองใช้กล้องซูมภาพองค์พระแก้วมรกตดอนเต้าเข้ามาใกล้ๆ และปรับแสงเฉพาะซุ้มปราสาทที่ออกจะมืดเมื่อเทียบกับแสงภายในช่องกระจกที่ประดิษฐานองค์พระอยู่ครับ สังเกตุดีๆ จะเห็นว่าฐานพระพุทธรูปเอียงไปทางขวา (มองเข้าหาองค์พระตามรูป) เพื่อให้ดูองค์พระไ่ม่เอียง เลยต้องหมุนภาพซุ้มปราสาทแทนครับ สำหรับองค์พระปกติจะสีเขียวมรกต แต่ที่เห็นมีสีทองอยู่บางส่ว่น น่าจะมาจากการปิดทองของเหล่าผู้ศรัทธา นะครับ
แหงนขึ้นไปดูเพดาน ซึ่งมืดมากเมื่อเทียบกับแสงในตู้กระจก จึงต้องเลือกปรับแสงให้สว่างขึ้นเล็กน้อยเฉพาะบริเวณนอกตู้ เลยได้เห็นตะแกรงอยู่ใต้หลังคาอีกชั้น คงเพื่อความปลอดภัยนะครับ ตอนที่ไปผมเองก็ไม่ทันสังเกตุเหมือนกัน
หันหลังมาดู หน้าแท่นบูชา ที่มีคนมากราบไหว้สักการะกันมากมาย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือโครงสร้างหลังคาและหน้าจั่วที่ผมปรับแสงให้สว่างขึ้นโดยเฉพาะ ครับ นับเป็นอาคารเก่าจริงๆ
เสร็จภาระกิจภายในวิหารพระแก้วแล้ว ก็ออกมาข้างนอก หันไปมองรางสรงน้ำพระที่อยู่ด้านข้างวิหารอีกที ครับ ดูๆ ไปก็เหมือนกับอุปกรณ์แบกศาลของเจ้าจีน ที่นำแห่ในขบวนพิธีจริงๆ ครับ Last edited by mirage_II on 26/11/2014 9:44 am; edited 1 time in total
Back to top
black_express
1st Class Pass (Air) Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
Posted: 20/11/2014 10:38 am Post subject:
ขอบคุณคุณ mirage_II มากๆ เลยครับที่เก็บภาพโดยละเอียดมาให้ชมจนจุใจ
คราวที่ผมไปถ่ายรูป กล้องถ่ายรูปผม memory เต็ม ยังไม่ได้เคลียร์ภาพ เลยใช้กล้องมือถือสมัยนั้นถ่ายรูป ซูมก็ไม่ได้ แถมความชัดต่ำอีกด้วย ไม่เหมือนกล้องมือถือที่ผมใช้ในปัจจุบันนี้ครับ
คุณบอมบ์ก็เคยไป แต่เจอป้ายห้ามถ่ายรูป เลยถอยออกมา
ที่มีลูกกรงแน่นหนานั้นเพราะขโมยขโจรสมัยนี้ใจบาปกว่าที่คิดไว้มาก เผลอหน่อยเดียวพวกลักไปแล้ว ไม่เกรงกลัวนรกจะกินกบาลแม้แต่นิด คิดเพียงว่าชาตินี้ขอสบายไว้ก่อน ตายไปแล้วจะตกนรกชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ช่างหัวมัน
แต่ผมคิดว่าหากมีเรื่องมีราวเกิดขึ้นจริง คนทั้งจังหวัดลำปางคงถือมีดพร้ากระท้าขวานตามล่าตัวปานพลิกแผ่นดินเป็นแน่
เข้าใจว่าที่ห้ามถ่ายรูปนั้น เกรงว่ารูปถ่ายอาจไปกระตู้นต่อมความอยากได้ของคนใจบาปบางคน อาจมีใบสั่งให้มาขโมยก็ได้
สลุงหลวงถึงจะใหญ่ปานนั้น คงมีคนโยนเหรียญไม่ลงก็มี อาจเป็นเพราะตั้งใจไม่มั่นขณะโยนเหรียญก็ได้
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 20/11/2014 3:12 pm Post subject:
ขอบคุณพี่ตึ๋งที่เข้ามาเพิ่มเติมให้ครับ จะว่านอกเรื่องรถไฟไปไกลเหมือนกันนะครับ แต่ถือว่าเป็นของแถมจากการเดินทางก็ได้ เรื่องของเก่าๆ แบบนี้ สำหรับชาวนิยมของไฮเทคสมัยใหม่นี้ดูเฉยๆ ไม่เคยคิดอยากจะได้ เพียงแต่สนใจข้อมูลในเชิงประวัิติศาสตร์เท่านั้น ซึ่งถ้ามีสิ่งของอ้างอิงก็ดูสมบูรณ์ไปด้วยเท่านั้น ยิ่งความงดงามของสถาปัตยกรรมนี้ ต้องมีค่าใช้จ่ายครับ คือในการบำรุงรักษา ถ้าหากไม่ทำความสะอาด ทาสี ซ่อมบำรุง ไม่นานก็ทรุดโทรม มีฝุ่น ตะไคร่น้ำ คราบดำ รอยแตกร้าว ฯลฯ การที่วัดเขาสามารถบูรณะจนดูได้ดี ก็ถือว่าใช้ความสามารถมาก พระเณรและมัคคทายกวัด ต่างก็ต้องทำงานหนัก จะมานั่งๆ นอน ไม่ได้เลยครับ
ออกจากวิหารพระแก้ว แล้วก็นึกสงสัยว่า ถ้าเดินไปจนถึงหลังวัดแล้วจะเป็นอย่างไร เพราะวัดในต่างจังหวัดหลายแห่่ง มักจะอยู่ติดแม่น้ำ ไม่หน้าวัดก็หลังวัด เลยเดินต่อไปทางทิศตะวันตก ก็ได้พบกับกุฎิหรูอีกหลัง อ่านป้ายในภาพเล็กแล้ว พบว่าเป็น "กุฎิรับรองพระมหาเถระ" เรียกได้ว่าเป็น พระที่มีสมณศักดิ์ นะครับ
ถัดไปเป็นลานจอดรถเล็กๆ ที่มีร่มต้นไม้ นึกสงสัยเหมือนกันว่าเขาเข้ามาทางไหนกัน คาดว่าคงจะผ่านโรงเรียนวัดนะครับ ซึ่งดูจากภาพถ่ายดาวเทียมกูเกิ้ล แล้วก็ไม่เห็นชัดนัก คงเป็นเพราะมีร่มต้นไม้บังอยู่นั่นเอง และอาจเป็นถนนเล็กๆ ที่คนแถวนั้น หรือคนที่มาหาพระสงฆ์บ่อยๆ จึงจะทราบครับ
มองไปข้างหน้า อีกไม่ไกลแล้วครับ สุดถนนไปยังกำแพงด้านหลังวัด ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ก็เดินต่อไปให้สุดๆ ไปเลย ตามสไตล์นายมิราชช
ถึงแล้วครับ ปลายทางสุดถนนด้านหลังวัด ก็เป็นบันไดทางขวามือลงไปยังพื้นข้างล่าง สาเหตุที่สร้างสูงขนาดนี้คงกลัวเรื่องน้ำท่วมด้วยนะครับ มีประตูพร้อมสรรพ
มองตามบันไดลงไปข้างล่าง จะเห็นมีถนนที่วิ่งอ้อมหลังวัดอยู่ด้วย มีทางแยกอยู่ตรงกับแนวทางลาดที่ต่อไปจากบันไดนี้ ที่ตรงไปยังบ่อน้ำเลี้ยงพระนางจามเทวีด้วยครับ ส่วนทางขวาก็ไปออกหน้าวัดทางด้านเหนือ ที่จะผ่านบันไดนาคด้านเหนือด้วยครับ
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 20/11/2014 3:42 pm Post subject:
มองข้ามกำแพงวัดไปยังถนนด้านหลัง ซึ่งสังเกตุมีหมู่บ้านคนอยู่ มีป้ายในวงกลมสีม่วงขยายให้ดูในภาพเล็กว่า "บ้านลำปางหลวงใต้ หมู่ที่ ๒" และมีทางแยกเข้าไปยังอบต.ลำปางหลวง ซึ่งถนนเส้นนี้ ไปดูในแผนที่กูเกิ้ลพบว่าไปได้ไกล ถึงถนนที่วิ่งจาก อ.เกาะคา ไป กาดทุ่งเกวียนเลย อ.ห้างฉัตรไปอีก ส่วนถนนทางซ้ายมือก็วนอ้อมหลังโรงเรียนวัดพระธาตุลำปางหลวงไปออกถนนหน้าวัดนั่นเองครับ
รีบเดินกลับไปยังเขตพุทธาวาส ดีกว่า ผมมาไกลมากแล้ว ชาวคณะคงรอกันอยู่แถวๆ วิหารหลวงนั่นแหละ (ตอนหลังมาทราบว่าเขาไปรอแถวๆ รถยนต์ และบางคนก็ไปซื้อของฝากของกินแถวลานจอดรถอยู่) ระหว่างเดินกลับ ก็เห็นศาลเล็กๆ เรียงรายกัน คงสำหรับใส่อัฐิ นะครับ
ที่น่าสนใจคือ ศาลทางขวาที่สร้างด้วยไม้ หลังคามุงกระเบื้องอย่างดี
มีแผ่นป้ายข้อมูลสีเีขียวระบุว่าเป็นสถูปที่ใส่อัฐิของ เจ้านางศรีอโนชา พระอัครชายาในสมเด็จกรมพระราชวังมหาสุรสิงห์นาท(บุญมา พระอนุชารัชกาลที่ 1) และทรงเป็นหลาน พระยาสุละวะฤาไชยสงคราม (พ่อเ้จ้าทิพย์ช้าง ที่กอบกู้เมืองลำปางตอนเป็นชาวบ้านธรรมดาชื่อ "หนานทิพย์ช้าง") ด้วยครับ
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 20/11/2014 6:54 pm Post subject:
เดินกลับเข้าไปในเขตพุทธาวาสของวัด ทางด้านข้าง สังเกตุว่ามีแผ่นกระดานแผนผังวัดอยู่ทางขวามือ (ในภาพ พอดีมีคนเดินออกมาบังพอดีครับ)
เป็นแผนผังที่ดูเก่าพอสมควร ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ คนเดินมาจากช่องกำแพงที่ผ่านข้างศาลจีน จะมองเห็นชัดเจนครับ ตอนผมเดินออกมาก็ไม่ทันสังเกตุ
ขยายภาพให้ดูเฉพาะแผนผังครับ วาดกันแบบง่ายๆ แต่พอคาดเดารูปร่างอาคารได้ ซึ่งผมได้ใ่ส่ชื่อสถานที่ไว้ให้เลย และเพิ่มเข้าไปอีก เท่าที่ทราบครับ
และนี่ก็เป็นรายละเอียดของสถานที่สำคัญต่างๆ ตามหมายเลขที่ระบุไว้ในแผนผังข้างบนครับ ซึ่งผมได้ขีดเส้นใต้ในสาระสำคัญให้เลือกอ่านได้แบบย่อๆ เพราะดูแล้วรู้สึกตาลายเหมือนกันครับ Last edited by mirage_II on 26/11/2014 9:54 am; edited 2 times in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 20/11/2014 7:59 pm Post subject:
ก้าวผ่านประตูด้านข้างวัด (ทิศใต้) เข้ามา ก็จะเห็นวิหารลายคำ กับวิหารหลวงทอดยาวอยู่ข้างหน้า จนดูเหมือนต่อเชื่อมกันเป็นวิหารเดียว ถ้าเลี้ยวขวากลับไปยังไปประตูโขงที่เข้ามาตอนแรก แต่เราจะเลี้ยวซ้ายไปชมพระอุโบสถกัน
เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าเต้นท์เขียนชื่อลงบนไม้ค้ำโพธิ์ ที่ผมพาเข้าไปชมตอนขาออกไปแล้ว ก็จะเห็นพระอุโบสถอยู่ตรงหน้าในสภาพเอียงขวา กับซุ้มรอยพระพุทธบาทอยู่ถัดไปทางขวา (หลังวิหารลายคำ) ครับ
เนื่องจากพระอุโบสถปิดอยู่ จึงดูได้แค่ข้างนอก ซึ่งเห็นแล้วนึกแปลกใจว่า ปกติวัดทั่วไป พระอุโบสถจะยิ่งใหญ่อลังการมากกว่าวิหาร แต่ที่นี่ มีขนาดเล็ก และไม่น่าสนใจ คงเป็นเพราะต้องการอนุรักษ์หลังเก่าไว้ และใช้ในการประกอบพิธีของสงฆ์ เท่านั้น ในขณะที่วิหารอื่นๆ นั้นล้วนมีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก ดูน่าน้อยใจแทนพระอุโบสถจริงๆ ขนาดใบเสมายังไ่ม่มีเลย คงแต่ร่องรอยการฝังลูกนิมิตไว้รอบๆ เท่านั้น ในภาพเป็นการมองมุมเฉียงด้านซ้าย(ยืนหันหน้าเข้า)ก่อน ซึ่งเห็นไม่ครบเพราะมีต้นไม้บังอยู่บางส่วน
ตามด้วยมุมเฉียงด้านขวาบ้าง ก็พอเห็นดีขึ้นบ้างแต่ก็มีต้นไม้บังอยู่อีกเช่นกัน แต่ภาพนี้จะเห็นหลังคาพระอุโบสถเป็นแบบเชิงซ้อนเล่นระดับ 4 ชั้นเลยครับ แหม..ผมเพิ่งสังเกตุเห็นช่องรูปกากะบาทด้านหน้า ที่ใช้ระบายอากาศ อาจใช้กล้องส่องเข้าไปดูข้างในได้นะครับ ลืมไปทดลองส่องดูว่าข้างในมีอะไรบ้าง ผมหมายถึงพระประธานเป็นอย่างไรนะครับ ไม่ต้องคิดมาก Last edited by mirage_II on 27/11/2014 1:47 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 21/11/2014 9:29 am Post subject:
เดินต่อมาทางขวามือ ก็ถึงซุ้มพระพุทธบาท ที่สร้างครอบรอยพระพุทธบาทที่สูงกว่าพื้นประมาณ 2 เมตร โดยมีศาลเล็กๆ อยู่ข้างหน้าครับ ผมเพิ่งสังเกตุเห็นป้ายชื่อทางขวามือเมื่อกี้นี้เอง เลยขยายมาให้ดูในภาพเล็ก เป็นข้อมูลผู้สร้างซุ้มครอบรอยพระพุทธบาท โดยเจ้าเืมืองหาญแต้ห้อง เมื่อปีพ.ศ.1992
สังเกตุเห็นมีป้ายข้อความอยู่หลายอัน แต่มีอันหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ห้ามผู้หญิงขึ้น คงอาจเป็นเพราะว่า ตั้งอยู่สูงกว่าพื้นพระธาตุเจดีย์นะครับ เลยดูไม่เหมาะสม
ขึ้นมาแล้วเห็นประตูปิดอยู่ ผมก็คิดว่าทางเข้าคงอยู่ข้างหลังกระมัง เลยเดินอ้อมไปข้างหลัง ก็ไม่มีทางเข้าใดๆ แดดก็ร้อน มันอย่างไงกันแน่ หรือเขาปิดไม่ให้ชมช่วงนี้กระมัง
ระหว่างนั้น มองขึ้นไปเหนือประตู เห็นมีรู ตรงไม้สลักอยู่ นึกสงสัยเหมือนกันว่าจะใช้ จุดที่ทำให้เกิดภาพพระธาตุเจดีย์กลับหัวหรือเปล่า Last edited by mirage_II on 21/11/2014 9:58 am; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 21/11/2014 9:38 am Post subject:
สักพักก็มีคนเปิดประตูออกมา ทางเข้าก็มีทางนี้ทางเดียวนี่แหละ แต่เขาต้องปิดไม่ให้แสงข้างนอกเข้า จนกว่าคนที่เข้าไปก่อนหน้าเราจะพอใจแล้วออกมา เราถึงได้เข้าไป ตามภาพที่เห็นครับ
เข้ามาแล้ว พื้นที่ข้างในแคบมาก ยืนได้ไม่ถึง 5 คน ยิ่งจะถ่ายภาพอีกก็ยาก ต้องใช้ความพยายามกันหน่อย ไหนแสงจะน้อยอีก ซึ่งรูที่ผมสงสัยเหนือประตูนั่นแหละ คือรูที่ให้แสงลอดเข้ามาข้างในได้ แล้วเขาก็มีจอรับภาพอย่างดี คือใช้ฉากโปรเจคเตอร์เลย จะได้เห็นชัดๆ แต่ก่อนคงเป็นแค่ผ้าขาว เท่าันั้น ขึงไ่ม่ตึงภาพออกมาก็ไม่ดี เ็ป็นคลื่น พอมีทุนหน่อย เลยเปลี่ยนครับ
หามุมเหมาะๆ หน่อย พยายามเก็บภาพที่อยู่บนฉากรับภาพให้ได้มากที่สุด เป็นพระธาตุเจดีย์กับ ด้านหลังของวิหารลายคำครับ
หันไปดูทางประตูที่เข้ามา เขาพยายามปิดมิให้แสงลอดเ้ข้ามาด้วยผ้าเหลืองเก่าๆ ซึ่งผมเห็นทีแรกยังนึกว่า ไม่ใช่ทางเข้า เป็นเหมือนประตูเลิกใช้แล้วด้วยซ้ำ ส่วนช่องแสงที่ลอดเข้ามา มองแล้วเหมือนเรามองเข้าไปที่ เลนส์เครื่องฉายภาพยนต์ ที่ผมชอบมองก่อนหนังเริ่มทุกครั้ง มันดูสวยดี ยามที่มีฝุ่น จะเป็นลำแสงที่หักเหรวมกันแ้ล้วกระจายออกไป แถมเปลี่ยนแปลงเหมือนแสงเลเซอร์ในดิสโก้เทคเลยละครับ
ผมได้บันทึกเป็นคลิ๊ปวิดีโอไว้ด้วยครับ
Last edited by mirage_II on 21/11/2014 11:39 am; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 21/11/2014 9:52 am Post subject:
ลองแหงนดูเพดานข้างบน ที่เป็นไม้ซี่ตีขนานกัน และมีช่องเล็กๆ ให้โผล่ขึ้นไปดูอะไรบนนั้นได้ จะเห็นชัดว่า ฉากจะแขวนแบบเฉียงๆ กับห้อง นั่นเป็นเพราะภาพที่เกิดขึ้นนั้นต้องตั้งฉากกับแสงที่ลอดเข้ามาพอดี ไม่งั้นจะมัวตรงขอบ เหมือนกรณีสายตาเอียง
ก้มดูส่วนล่างของฉากบ้าง จะเห็นรอยพระพุทธบาทที่เป็นปูน ตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยไม่คนสนใจไปครับ มีกล่องรับเงินบริจาคและป้ายเล็กๆ ซึ่งผมขยายให้ดู เป็นวิธีดูเงาพระธาตุ ซึ่งยังระบุว่าให้ดูที่ผ้าขาว ซึ่งแสดงว่าแต่ก่อนยังไม่ได้ใช้ฉากแบบนี้ครับ
เมื่อมีคนมาเปิดประตูแสงจะเข้ามามาก จนมองเห็นฉากสีขาวโพลนไปหมด แ่ต่ก็จะเห็นบริเวณด้านหลังฉาก ว่ามีรูปปั้นเกจิอาจารย์ 2 องค์เล็กๆ ตั้งอยู่บนโครงเหล็ก
ผมมายังด้านหลังของฉาก เพื่อดูรอยพระพุทธบาท แต่ก็ถ่ายได้ไม่ครบเพราะความแคบของพื้นที่บังคับไว้ (ตรงนั้นมีโครงเหล็ก ตั้งอยู่ด้วย ดังภาพข้างบนครับ) Last edited by mirage_II on 27/11/2014 5:37 pm; edited 1 time in total
Back to top
mirage_II
1st Class Pass (Air) Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
Posted: 21/11/2014 10:40 am Post subject:
ได้เวลากลับออกไปแล้วละครับ ผมใช้เวลาตั้งแต่เข้าวัดมานี่ชั่วโมงกว่าแล้ว ตอนแรกยังคิดว่าสักครึ่งชั่วโมงก็พอ เพราะ้ต้องรีบไปต่อที่ โค้งทางรถไฟเหนือสถานีหนองหล่ม, บ้านเพื่อนที่ป่าซาง และสะพานทาชมภู ด้วย เวลาตอนนั้นก็ใกล้ 5 โมงเช้าด้วยครับ จากภาพที่เห็นก็คือ ตรงกับด้านหลังวิหารลายคำพอดี มีคนมานั่งหลบแดดอยู่หลายคน ส่วนทางฝั่งผมถือว่า โดนแดดเต็มๆ โดยไม่สามารถสวมรองเท้า
ออกมาหน้าซุ้มพระพุทธบาท มองไปทางซ้ายเล็กน้อยก็คือ องค์พระธาตุเจดีย์ครับ อย่างที่ผมบอกว่า เราอยู่สูงกว่าพื้นพระธาตุเจดีย์ เลยอาจไม่เหมาะถ้ามีผู้หญิงมายืนตรงนี้ครับ แต่ถ้ารอยพระพุทธบาทอยู่ที่ระดับพื้นดินข้างล่าง เขาก็น่าจะอนุญาตให้ผู้หญิงเ้ข้ามาได้นะครับ เพราะเห็นที่อื่นก็ไม่มีใครห้ามผู้หญิงเข้ามาตรงรอยพระพุทธบาทเลยครับ ส่วนในภาพจะเห็นคนมาเดินเวียนรอบพระธาตุเจดีย์กันมาก ต้องใช้ความอดทนไม่น้อยนะครับ เพราะเขาห้ามสวมรองเท้าเดิน ในขณะที่แดดจ้าขนาดนั้น ถือเ็ป็นการทดสอบจิตใจและสร้างสมาธิได้ระดับหนึ่งด้วยครับ
ลงไปข้างล่าง แล้วมองไปทางซ้ายมือ ก็จะเห็นวิหารพระเจ้าศิลา เป็นเรือนไม้สีออกจะแดงๆ เหมือนหินศิลา มีแผ่นป้ายข้อมูลติดอยู่ตรงคอสอง ขยายภาพดู เป็นข้อมูลเกี่ยวกับพระนาคปรก ที่เป็นพระประธานในวิหารแห่งนี้ บังเอิญผมก็ไม่ทันได้เห็นป้ายนี้ตอนถ่ายภาพ เลยไม่ได้เ้ข้าไปถ่ายใกล้ๆ ภาพเลยเบลอ อ่านไม่ได้อย่างที่เห็นครับ
เดินมาข้างหน้าวิหารพระเจ้าศิลา ซึ่งจะเห็นหน้าบันแบบไม้สลักโบราณฝังกระจกสีไว้ด้วย แต่เนื่องจากอยู่ใกล้กับองค์พระธาตุมาก จึงไม่สามารถเก็บภาพด้านหน้าวิหารได้ถึงพื้นครับ Last edited by mirage_II on 30/11/2014 4:42 pm; edited 2 times in total
Back to top