RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273451
ทั้งหมด:13584747
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข.107 ชนท้าย ข.69 ที่บ้านดอนกลาง พระนครศรีอยุธยา (26/03/58)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข.107 ชนท้าย ข.69 ที่บ้านดอนกลาง พระนครศรีอยุธยา (26/03/58)
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/03/2015 3:57 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าฯ การรถไฟฯ ชี้สาเหตุรถไฟชนกันคนขับขบวนตามหลังฝ่าสัญญาณไฟ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2558 13:25 น.

Click on the image for full size
พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ การรถไฟฯ พร้อมรอง ผบช.ภาค 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุรถไฟชนกัน เผยสาเหตุคนขับรถไฟขบวนตามหลังประมาทฝ่าสัญญาณไฟ

จากกรณีรถด่วนพิเศษขบวนที่ 69 สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ถูกรถด่วนพิเศษขบวนที่ 107 สาย กรุงเทพฯ-เด่นชัย พุ่งชนท้าย จนหัวรถจักร และตู้โดยสารของรถด่วนพิเศษสายกรุงเทพฯ-หนองคาย ตกจากราง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 52 ราย อาการสาหัส 3 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 7 ต.กระจิว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (27 มี.ค.) หลังจากวิศวกรกองช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่รถไฟกองช่างกล ชุดกู้ภัยม้าเหล็ก พร้อมอุปกรณ์เครื่องจักรหนัก และรถเครนขนาดใหญ่เข้าทำการกู้ซากขบวนรถโบกี้รถไฟที่เกิดพุ่งชนกันให้พ้นออกจากรางรถไฟ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตัดข้อพ่วงทีละพ่วง แล้วลากให้พ้นออกจากรางที่ 2 เพื่อเปิดเส้นทางการเดินรถไฟให้สามารถวิ่งสวนทางกันได้ 2 ราง นำหัวขบวนรถไฟ และโบกี้รถไฟ ทั้งหมดอยู่ในรางที่ 1 โดยพบว่า มีหมอนรองรางรถไฟ และรางรถไฟได้รับความเสียหายบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการซ่อมแซม สามารถเปิดเดินรถไฟได้ตามปกติในช่วงบ่าย

ต่อมา นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ภ.1 และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบความเสียหายของขบวนรถไฟทั้งหมด และรางรถไฟ

นายวุฒิชาติ กล่าวว่า จาการตรวจสอบแล้วพบว่า ระบบคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการเดินรถปกติ โดยขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ-หนองคาย ผ่านเสาที่ติดเซ็นเซอร์ได้ส่งสัญญาณว่ารถจะจอดขบวนรถเนื่องจากมีปัญหาระบบล้อจะทำการตรวจสอบ ซึ่งสัญญาณไฟเตือนก็อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตรได้ติดแล้ว แต่ว่ามีขบวนรถไฟจอดอยู่ แต่ขบวนรถไฟกรุงเทพฯ-เด่นชัย ได้ฝ่าสัญญาณไฟที่เตือนขึ้นมาเข้ามาชนจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ส่วนมูลค่าความเสียหายต่างๆ ยังไม่ต้องเป็นห่วง จะเร่งดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนเป็นเรื่องเร่งด่วนทางการรถไฟฯ จะดูแลในเรื่องค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทุกรายอย่างสะดวกรวดเร็ว

พล.ต.ต.ศานิตย์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภาชี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเร่งตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด ซึ่งจะต้องให้การรถไฟฯ ดำเนินการก่อน เนื่องจากทางการรถไฟฯ มีกฎมีการตั้งกรรมการสอบสวน และเมื่อตรวจสอบแล้วมีการประมาทจริง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Click on the image for full size

Click on the image for full size
Click on the image for full size

Click on the image for full size
Click on the image for full size

Click on the image for full size
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 27/03/2015 4:00 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าฯ กรุงเก่าเยี่ยมเหยื่อรถไฟชนกันที่ภาชี ช่างเครื่องประจำรถต้องตัดแขนขวา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2558 14:49 น.

พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะ เดินสายเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์รถไฟชนกันที่ภาชี ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และโรงพยาบาลภาชี ทั้งหมด 7 ราย ขณะที่ช่างเครื่องประจำรถไฟต้องทำการตัดแขนขวา เนื่องจากกระดูกแตกละเอียด

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีรถด่วนพิเศษขบวนที่ 69 สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ถูกรถด่วนพิเศษขบวนที่ 107 สายกรุงเทพฯ-เด่นชัย พุ่งชนท้าย จนหัวรถจักร และตู้โดยสารของรถด่วนพิเศษสายกรุงเทพฯ-หนองคาย ตกจากราง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 7 ต.กระจิว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่ข่าวเสนอไปอย่างต่อเนื่องนั้น

ต่อมา วันนี้ (27 มี.ค.) ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา นายอภิชาต โดตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา 6 คน คือ นายอภิเดช อรรควิทยาคม อายุ 45 ปี, นายสมพล การบัญชี อายุ 48 ปี พนักงานขับรถไฟได้รับบาดเจ็บที่ขาเกือบขาดต้องผ่าตัดใส่เหล็กแทน, นายเติมพงษ์ สิงห์ชูวงศ์ อายุ 38 ปี ช่างเครื่องประจำรถไฟ ต้องทำการตัดแขนขวา เนื่องจากกระดูกแตกละเอียด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บรอดูอาการอีก 3 ราย คือ นางสุรีพร บันลือเขตร์ อายุ 56 ปี, Mr.Lee Sangmin อายุ 27 ปี สัญชาติเกาหลี และ Mr.John Chairles HoisoppLe อายุ 52 ปี สัญชาติอเมริกา

นอกจากนี้ นายอภิชาต โดตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะ ยังเดินทางต่อไปเยี่ยมผู้บาดเจ้บที่โรงพยาบาลภาชี อีก 1 ราย ได้แก่ จ.ส.อ.วันชัย อัมระนันท์ อายุ 69 ปีด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 27/03/2015 6:15 pm    Post subject: Reply with quote

รายชื่อผู้บาดเจ็บเหตุรถไฟชนกันที่จ.อยุธยา
เนชั่นทันข่าว
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2558 เวลา 2558 เวลา 06:40 น.

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานรายชื่อผู้บาดเจ็บ จากเหตุรถไฟปรับอากาศสายเด่นชัย-กรุงเทพ ขบวน 107 จำนวน 7 โบกี้ ชนท้ายรถไฟปรับอากาศขบวน 69 สายหนองคาย-กรุงเทพ ซึ่งเป็นรถไฟขนาด 10 โบกี้ ตกรางตะแคงลงไป 3 โบกี้ท้าย เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวานนี้(26 มี.ค.2558) มีผู้โดยสารบาดเจ็บรวม 40 ราย พนักงานรถไฟเจ็บสาหัส 2 ราย ดังนี้
บาดเจ็บสาหัส
1.นายสมพล ชาญบัญชี อายุ 48 ปี พนักงานขับรถ ขบวน 107 (แขนขาด )
2.นายเติมพงษ์ สิงห์ชูวงษ์ ช่างเครื่อง ขบวน 107 (แขนขวาเกือบขาด) ส่งต่อรพ.อยุธยา

บาดเจ็บเล็กน้อย
1.นางสุลีพร บันลือเขตร์ อายุ 56 ปี
2.นายณรงค์ศักดิ์ บันลือเขตร์ อายุ 68 ปี
3.นายสุเมธ จีระพรมงคล อายุ 65 ปี
4.Mr.Lee Sangmin อายุ 27 ปี
5.คุณหญิงอัจฉรา ภูวนาถนุรักษ์ อายุ 71 ปี
6.นางทิพย์รดา จงสงวน อายุ 62 ปี
7.นางพิมพัชฌา บุทิตตานนท์ อายุ 67 ปี
8.นายธีระพงษ์ กันเต็ง อายุ 28 ปี
9.นายนิติพงษ์ อุดมพันธ์ อายุ 47 ปี
10.น.ส.ทับทิม แก้วเกิด อายุ 45 ปี
11น.ส.พิศมัย เจนสัญญายุทธ อายุ 31 ปี
12นางนภาพร อุดมพันธ์ อายุ 42 ปี
13.Mr.John Charles Holsopple อายุ 52 ปี
14.นายอภิเดช อรรควิทยาคม อายุ 45 ปี ชาวเชียงใหม่ บาดเจ็บกระดูกต้นคอหัก ส่งต่อรพ.อยุธยา
15.นายธนภูมิ กรมเมือง
16.MR.Jay W.Schmidt อายุ 63 ปี แผลถลอกแขนซ้าย
17.นางเสียง ยาสี อายุ 47 ปี ปวดต้นคอ และสะบักซ้าย
18.นางอำพร อินทรวิจิตร อายุ 50 ปี แผลฉีกขาดเท้าขวา
19.นางอุไร พึงสังวล
20.นางเสาวลักษณ์ อำไพ
21.นางสุพัตรา ทองพูนวัฒนกุล
22.นายวันชัย เฉลิมสุขศิริ
23.คอดีเย๊าะ หมินเจะเกะ
24.ไรฮาณี หะยีเหาะ
25.อำไพ ชะตาบุตร
26.ธนภรณ์ ไชยศรีวงค์
27.สุภาพ เดือนฉาย
28.สุรศักดิ์ รุ่งเรือง
29.อนุสิทธิ์ แซ่จี้
30.พิมล ปานทับ
31.ลัทธ ศุภวัฒน์
32.สุภาวรรณ บัวมาก
33.TOBIAS OBRY
รายชื่อผู้บาดเจ็บนำตัวส่งรพ.ภาชี
1.น.ส.อัจฉราพรรณ คุณคำเพ็ญ อายุ 16 ปี ชาวกทม. บาดเจ็บเข่าซ้าย ศีรษะโน
2.นายอภิเดช อรรควิทยาคม อายุ 45 ปี ชาวเชียงใหม่ บาดเจ็บกระดูกต้นคอหัก ส่งต่อรพ.อยุธยา
3.น.ส.ศิรภัสสร แสงงาม อายุ 15 ปี ชาวอุดรธานี บาดเจ็บกระดูกข้อมือซ้ายหัก
4.จ.ส.อ.วันชัย อัมระนันท์ อายุ 69 ปี ชาวเชียงใหม่ บาดเจ็บกระดูกต้นคอหัก ส่งต่อรพ.อยุธยา
5.นายพงษ์พันธ์ เชียงลา อายุ 32 ปี ชาวแพร่ อาการศีรษะแตก บริเวณกลางศีรษะ
6.ด.ต.ประมวล ธนะโสภา อายุ 65 ปี ชาวอุดรธานี อาการขาขวาหัก
7.นางแสวง ธนะโสภา อายุ 65 ปีชาวอุดรธานี บาดเจ็บ อาการขาขวาหัก
//--------------

รฟท.สรุปเหตุรถไฟชนท้ายกันที่อยุธยา คาด พขร.ไม่หยุดรถแม้มีสัญญาณไฟเตือน
Thai PBS
27 มีนาคม 2558 2558 - 12:00

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รับรายงานเบื้องต้นเหตุรถไฟชนท้ายกันที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าพนังงานขับรถไฟขบวน 107 กรุงเทพฯ-เด่นชัย คันที่ชนท้ายรถไฟอีกขบวน มีความประมาทไม่ยอมหยุดขบวนรถทั้งที่เห็นสัญญาณไฟให้หยุดรถ


นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถไฟชนท้ายกัน พร้อมกับเปิดเผยว่าผลสรุปที่ได้รับรายงานจากฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวคาดว่าเป็นความประมาทของพนักงานขับรถขบวน 107 กรุงเทพฯ-เด่นชัย ที่พุ่งชนรถไฟขบวน 69 กรุงเทพฯ-หนองคาย เนื่องจากไม่ยอมหยุดขบวนรถทั้งๆที่เห็นสัญญาณไฟแดงที่เป็นสัญลักษณ์ให้หยุดแล้วก็ตาม

ซึ่งตรงจุดเกิดเหตุรถไฟขบวน 69 ได้จอดรถเพราะระบบล้อมีปัญหา ซึ่งหากพนักงานขับรถขบวน 107 เห็นสัญญาณเตือนว่าไม่ให้วิ่งก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากสัญญาณไฟแจ้งหยุดรถอยู่ห่างก่อนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร แต่รถขบวน 107 ไม่ได้หยุดรอ เบื้องต้นยืนยันข้อมูลว่าเป็นความประมาท ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการประมาทนั้น ทาง รฟท.ยังไม่สรุป แต่ยืนยันว่าไม่มีกรณีหลับในหรือดื่มแอลกอฮอล์

สำหรับกฎเดินรถของ รฟท. กำหนดชัดเจนว่าหากมีรถวิ่งอยู่ข้างหน้าและยังไม่เข้าสถานีถัดไป รถไฟที่ขับตามหลังยังไม่สามารถออกจากสถานีได้เพื่อความปลอดภัย ซึ่ง รฟท.ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม มีศูนย์ควบคุมใหญ่อยู่ที่บางซื่อดูแลและบริหารระบบการเดินรถได้ทั่วประเทศ

ส่วนการดูแลประชาชนที่บาดเจ็บขณะนี้มีทั้งหมด 6 คน จากทั้งหมด 25 คน ในจำนวนนี้มีพนักงาน รฟท. 2 คน ซึ่งพนักกงานขับรถที่ประมาทจะต้องดูแลก่อนเพราะบาดเจ็บสาหัส ส่วนความผิดให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนและระเบียบ รฟท.

//-----------------

เร่งหาสาเหตุรถไฟชนกัน ที่อยุธยา
เนชั่นทันข่าว
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2558 เวลา 2558 เวลา 17:52 น.

ความคืบหน้ากรณีรถด่วนพิเศษขบวนที่ 69 สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ถูกรถด่วนพิเศษขบวนที่ 107 สาย กรุงเทพฯ-เด่นชัย พุ่งชนท้าย จนหัวรถจักร และตู้โดยสารของรถด่วนพิเศษสายกรุงเทพฯ-หนองคาย ตกจากราง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 52 ราย อาการสาหัส 3 ราย ในพื้นที่หมู่ 7 ต.กระจิว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

ล่าสุด เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำการกู้ซากขบวนรถโบกี้รถไฟที่เกิดพุ่งชนกันให้พ้นออกจากรางรถไฟ เพื่อเปิดเส้นทางการเดินรถไฟให้สามารถวิ่งสวนทางกันได้ 2 ราง โดยพบว่า มีหมอนรองรางรถไฟ และรางรถไฟได้รับความเสียหายบางส่วน ในที่สุดก็สามารถเปิดเดินรถไฟได้ตามปกติ

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย สรุปสาเหตุเบื้องต้นว่า การเกิดอุบัติเหตุรถชนไฟชนกันครั้งนี้อาจมาจากความประมาทของพนักงานขับรถไฟขบวนที่ 107 ที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟ ซึ่งเป็นสัญญาณไฟแดงให้ขบวนรถไฟหยุดรอ

ขณะที่ พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานแวดล้อม และได้เชิญนายสถานีรถไฟมาบพระจันทร์ นายสถานีรถไฟพระแก้ว คนขับรถไฟทั้งสองขบวน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาข้อยุติ คาดว่าจะใช้เวลา 2 วัน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการแจ้งข้อหากับผู้กระผิดได้

//----------------------

กู้ซากรถไฟชนกันสำเร็จ เตรียมส่งโรงซ่อมมักกะสัน
เนชั่นทันข่าว
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2558 เวลา 2558 เวลา 15:21 น.

จากกรณีรถไฟสายเด่นชัย-กรุงเทพ ขบวนที่107 พุ่งชนท้ายรถไฟสายหนองคาย-กรุงเทพ ขบวน 69 เมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณ ม .7 ต.กระจิว อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนถึงสถานีรถไฟย่อยพระแก้ว เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 52 ราย

โดยในจำนวนนี้มีพนักงานขับรถไฟและช่างเครื่องประจำรถไฟสายเด่นชัย-กรุงเทพด้วย ซึ่งหน่วยกู้ภัยและมูลนิธิได้ช่วยกันนำส่งรพ.ภาชี ขณะที่มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบไปรวมกันอยู่ที่วัดดอนกลาง ใกล้กับที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ทหารและทางอำเภอได้ใช้รถลำเลียงไปส่งที่สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี และได้จัดรถไฟนำส่งภูมิลำเนาทั้งหมด เนื่องจากยังสามารถเดินรถไฟได้ตามปกติ ในช่องทางที่เหลือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุดนายอภิชาต โตดิลกเวชช์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา และนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ รพ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งพบว่ายังมีผู้บาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ 6 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 2 ราย คือนายสมพลชาญบัญชี อายุ 48 ปีพนักงานขับรถไฟ ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาต้องใส่เหล็กดามเอาไว้ และนายเติมพงษ์ สิงห์ชูวงศ์ อายุ 38 ปี ช่างเครื่องที่ได้รับบาดเจ็บต้องตัดแขนขวา


นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติและชาวไทยที่แพทย์ให้นอนพักสังเกตอาการ และผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่วนใหญ่กลับไปภูมิลำเนาก่อนหน้าแล้ว โดยทางตำรวจได้มีการสอบถามชื่อเอาไว้ทั้งหมด เพื่อสะดวกในการติดต่อให้ความช่วยเหลือ จากนั้นนายวุฒิชาติ เดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งมีนายสุทธิพงษ์ พรมลา รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย อำนวยการกู้ซากรถ


นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่าได้ทำการกู้หัวรถจักรจำนวน 1 หัวและโบกี้ 3 ตู้เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เวลา 12.30 น. จากนั้นจะลากหัวรถจักรและโบกี้ทั้งหมดไปยังโรงซ่อมที่มักกะสัน ขณะที่นายวุฒิชาติ เปิดเผยว่าทางการรถไฟพร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่วนเรื่องการสอบสวนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนผู้เกี่ยวข้องว่ามีส่วนสัมพันธ์กันอย่างไร จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันเดียวกันนี้ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้หัวรถจักรขบวนกรุงเทพ-เด่นชัยขบวน 111 ซึ่งมี 8 โบกี้ ขณะเคลื่อนออกจากสถานีรถไฟท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเพลิงลุกไหม้ที่ด้านล่างของหัวรถ ซึ่งเป็นที่ติดตั้งแบตเตอรี่ ผู้โดยสารจำนวน 120 คนวิ่งหนีกันอลหม่าน ทางทหารและอาสาสมัครหน่วยกูภัยเข้าช่วยดับเพลิง จากนั้นได้นำหัวรถจักรไปเปลี่ยนที่สถานีรถไฟท่าเรือ และสามารถนำประชาชนเดินทางต่อไปได้ โดยสาเหตุคาดว่ามาจากกระแสไฟฟ้ารัดวงจร แต่ก็ต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
unique
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 12/09/2006
Posts: 258
Location: กทม.

PostPosted: 27/03/2015 7:47 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟท.สรุปเหตุรถไฟชนท้ายกันที่อยุธยา คาด พขร.ไม่หยุดรถแม้มีสัญญาณไฟเตือน
Thai PBS
27 มีนาคม 2558 2558 - 12:00

ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รับรายงานเบื้องต้นเหตุรถไฟชนท้ายกันที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าพนังงานขับรถไฟขบวน 107 กรุงเทพฯ-เด่นชัย คันที่ชนท้ายรถไฟอีกขบวน มีความประมาทไม่ยอมหยุดขบวนรถทั้งที่เห็นสัญญาณไฟให้หยุดรถ


นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถไฟชนท้ายกัน พร้อมกับเปิดเผยว่าผลสรุปที่ได้รับรายงานจากฝ่ายตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวคาดว่าเป็นความประมาทของพนักงานขับรถขบวน 107 กรุงเทพฯ-เด่นชัย ที่พุ่งชนรถไฟขบวน 69 กรุงเทพฯ-หนองคาย เนื่องจากไม่ยอมหยุดขบวนรถทั้งๆที่เห็นสัญญาณไฟแดงที่เป็นสัญลักษณ์ให้หยุดแล้วก็ตาม

ซึ่งตรงจุดเกิดเหตุรถไฟขบวน 69 ได้จอดรถเพราะระบบล้อมีปัญหา ซึ่งหากพนักงานขับรถขบวน 107 เห็นสัญญาณเตือนว่าไม่ให้วิ่งก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากสัญญาณไฟแจ้งหยุดรถอยู่ห่างก่อนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร แต่รถขบวน 107 ไม่ได้หยุดรอ เบื้องต้นยืนยันข้อมูลว่าเป็นความประมาท ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการประมาทนั้น ทาง รฟท.ยังไม่สรุป แต่ยืนยันว่าไม่มีกรณีหลับในหรือดื่มแอลกอฮอล์

สำหรับกฎเดินรถของ รฟท. กำหนดชัดเจนว่าหากมีรถวิ่งอยู่ข้างหน้าและยังไม่เข้าสถานีถัดไป รถไฟที่ขับตามหลังยังไม่สามารถออกจากสถานีได้เพื่อความปลอดภัย ซึ่ง รฟท.ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม มีศูนย์ควบคุมใหญ่อยู่ที่บางซื่อดูแลและบริหารระบบการเดินรถได้ทั่วประเทศ

ส่วนการดูแลประชาชนที่บาดเจ็บขณะนี้มีทั้งหมด 6 คน จากทั้งหมด 25 คน ในจำนวนนี้มีพนักงาน รฟท. 2 คน ซึ่งพนักกงานขับรถที่ประมาทจะต้องดูแลก่อนเพราะบาดเจ็บสาหัส ส่วนความผิดให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนและระเบียบ รฟท.


ประเด็นนี้จะจบง่ายครับ ถ้าพขร ผ่าสัญญาณไฟ
สมมตินะครับ แล้วถ้าพขร ปฏิบัติตามอาณัติสัญญาณ ทุกประการละครับ?
สามารถตรวจสอบได้มั้ย มีrecord ว่าใครชื่ออะไร ปล่อยสัญญานอะไรไป หางปลาเปิดทางหรือปิดทาง ไฟเขียวหรือไฟแดง ตำแหน่งไหน ตอนเวลา น เท่าไหร่ รึป่าว?
แบบบันทึกเขียนมือไม่นับนะครับ ต้องเป็นระบบการบันทึกที่ผู้ทำหน้าที่dominateไม่ได้
ถ้าไม่มีแบบที่กล่าวมา Rolling Eyes อุทานว่า"ชิปหาย"ได้เลยครับ
เป็นช่องโหวที่มีโอกาสให้คนที่ให้สัญญาณผิดพลาด เนียนว่าเป็นความผิดของ พขร ไปโดยปริยาย หรือ เป็นช่องให้"ไอ้ปื๊ด"หรือคนที่ไม่เกี่ยวข้องวางยาได้สบายๆ
ต้องมีCCTV ต้องที่หน้าจอและบริเวณทำงาน
ถ้ามีการCross checkก็ต้องดูต่อว่า มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดรึป่าว
ไฟมาร์คเกอร์ท้ายขบวน สว่างเพียงพอรึป่าว ดูกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมไปรึป่าว ต้องเปลี่ยนไปใช้เป็นหลอดLED รึไม่ ต้องเปลี่ยนตำแหน่งการติดตั้ง ต้องเปลี่ยนเป็นแบบกระพริบรึป่าว
เหตุการณ์นี้ผมว่ามีความใกล้เคียงกับเขาเต่าตอนปี 2552 แต่รอบนี้เป็นทางตรง อย่างน้อยที่สุด พขร ก็พยายามเบรคนะครับ ถึงแม้จะไม่ทันการ แต่ก็ยังดีกว่าซึ่งถ้าเทียบเหตุการเขาเต่า ทางก่อนพบประแจเป็นโค้งซ้ายเข้าสถานี รถมาเร็ว แต่ประแจอยู่ตำแหน่งทางเบี่ยงก็เลยตกรางอย่างที่เห็นครับ และอีกเคสก็ที่ประจวบเช่นกันครับ GEK vs Daewoo แต่ผมจำปีไม่ได้ครับ


แน่นอนครับ จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ต้องมีการปรับปรุงหลายอย่างครับ ภาพลักษณ์ก็สำคัญครับ แต่ความปลอดภัยมาเป็นสิ่งแรกนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
mirage_II
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/01/2011
Posts: 2591

PostPosted: 28/03/2015 12:33 am    Post subject: Reply with quote

ใช่ครับ ความเสียหายครั้งนี้้ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของการรถไฟมากกว่า ความเสียหายจริงๆ ทำให้คนทั่วไป หรือผู้โดยสาร รู้สึกกังวลได้ว่า รถไฟก็พลาดได้จากเหตุง่ายๆ เพียงแค่ คน 2 คนเกิดฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ซึ่งอาจด้วยไม่ทันได้สังเกตุ เพราะปกติไฟตรงนี้จะเขียวตลอด หรือมีเหตุที่ทำให้มองไม่เห็นสัญญาณไฟ ก็เกิดความหายนะได้แล้ว ซึ่ง รถไฟน่าจะมีระบบอะไรที่ป้องกันการชนได้มากกว่านี้ หรือที่เรียกว่า ระบบสำรองกรณีรถไฟวิ่งเข้ามาในตอนเดียวกัน อย่างคาดไม่ถึง Mad

สมัยก่อนตอนเด็กๆ ผมยังคิดว่า พขร. คงมีวิทยุติดต่อกับ สถานีตลอดเวลากระมัง เลยรู้ว่า จะมีรถไฟวิ่งสวนมาหรือไม่ ต่อมาจึงทราบว่าไม่มีระบบสื่อสารใดๆ ระหว่าง พขร. กับ นายสถานี โดยตรง หากแต่จะใช้อุปกรณ์ อาณัติสัญญาณ ที่ปักอยู่ ที่เรียกว่า เสาเข้า เสาออก เท่านั้น แถมไม่มีระบบเบรคอัตโนมัติกรณี รถไฟเกิดเข้ามาอยู่ในรางเดียวกัน ทั้งหมดอยู่ที่ พขร. และ ช่างเครื่องเท่านั้น ความรับผิดชอบของ คนสองคนจึงนับว่า มากมายกว่าที่คิด (ก็คล้ายกับ กัปตันเครื่องบิน หรือ ไต้ก๋งเรือนั่นแหละ) แต่ระบบรางเดี่ยวในสมัยก่อน ก็ปลอดภัยได้ด้วย เครื่องทางสะดวก จนปัจจุบันได้มีรางเพิ่มขึ้น และระบบคอมพิวเตอร์มาใช้เพิ่ม จึงอาจทำให้การปล่อยรถมีความซับซ้อนมากขึ้น เช่นรถไฟสามารถวิ่งแซงกันในระบบรางคู่ได้ (แทนที่จะวิ่งสวนกันเสมอแบบรถไฟฟ้า) คือรางทุกรางสามารถกำหนดให้วิ่งสลับสวนกันไปมาได้ แม้จะทำให้ขบวนรถมีความคล่องตัวแต่ก็เพิ่มความเสี่ยงอันตรายได้เหมือนกัน

กรณีล่าสุดที่ชนท้ายกันนี่ ถ้าหากท้ายขบวนมีไฟท้ายที่มองเห็นได้ไกลในระยะเป็นกิโลเมตร(ถ้าเป็นพวกดีเซลรางไฟจะสว่างกว่า และตอนจอดเสียก็สามารถเปิดไฟเฮดไลท์ทางด้านหลังได้ด้วย เพราะรถไฟไม่มีไฟกระพริบฉุกเฉิน) และกำหนดรางที่วิ่งขาไปขากลับแน่นอน ก็จะทำให้ พขร. มองเห็นได้ก่อนจะชน และแน่ใจว่า ขบวนรถข้างหน้าจอดอยู่รางเดียวกันแน่นอน จะได้เบรคได้ทัน แม้จะฝ่าสัญญาณไฟมาแล้ว (ส่วนเหตุที่ฝ่ามา นั้นคงต้องสอบสวนกันอีกที โชคดีที่ พขร. และช่างเครื่องยังมีสติ พูดจาให้การได้ จะได้หาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อป้องกันปัญหาแบบนี้มิให้เกิดขึ้นอีกต่อไป)
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 28/03/2015 1:32 am    Post subject: Reply with quote

สธ.เผยยังมีผู้บาดเจ็บจากเหตุรถไฟชนกันรักษาตัวใน ร.พ.อีก 7 ราย


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
27 มีนาคม 2558 16:57 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มีนาคม 2558 16:59 น.)

นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกัน ที่อำเภอภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 22.40 น.คืนที่ผ่านมา (26 มี.ค.) ว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ประสานทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน จำนวน 4 ทีม จากโรงพยาบาลท่าเรือ โรงพยาบาลอุทัย โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช และโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ออกปฏิบัติการช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยรถกู้ชีพจากหน่วยกู้ภัยในพื้นที่และพื้นที่ข้างเคียงมาสนับสนุน มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 52 ราย เป็นชาย 26 ราย หญิง 26 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล 34 ราย ได้แก่ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา 15 ราย โรงพยาบาลภาชี 12 ราย โรงพยาบาลอุทัย 5 ราย โรงพยาบาลท่าเรือ และโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช แห่งละ 1 ราย ส่วนอีก 18 รายบาดเจ็บเล็กน้อย ได้รับการปฐมพยาบาลที่สถานีรถไฟภาชีแล้วกลับบ้านได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ ยังเหลือผู้บาดเจ็บนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 7 ราย คือ ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา 6 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บกระดูกหัก มีแผลฉีกขาด ส่วนผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 2 ราย ได้รับการผ่าตัดเมื่อเช้าวันนี้จากกระดูกหัก มีแผลฉีกขาดขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ส่วนที่โรงพยาบาลภาชี 1 ราย ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน ให้นอนสังเกตอาการ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งหมดทางกระทรวงสาธารณสุขให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดี

//---------------
ผู้ว่าฯ กรุงเก่าหิ้วกระเช้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุรถไฟชนกัน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
27 มีนาคม 2558 17:11 น.

นายอภิชาติ โตดิลกเวช ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และโรงพยาบาลภาชี ซึ่งมีทั้งผู้บาดเจ็บชาวไทยและชาวต่างชาติที่โดยสารมากับขบวนรถไฟ ที่ชนกันดังกล่าว โดยได้นำกระเช้าของขวัญมอบให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ และแสดงความห่วงใย
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

//------------

ร.ฟ.ท.คาดเหตุรถไฟชนกันความเสียหายไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
27 มีนาคม 2558 16:20 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มีนาคม 2558 16:22 น.)

นายนริศ ขามรัตนะ วิศวกรกองช่างกล การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งควบคุมการกู้หัวรถจักรและโบกี้รถไฟ ที่ตกรางในเขตอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากพุ่งชนท้ายกัน เปิดเผยว่า การกู้รถไฟที่ตกรางในเบื้องต้นสำเร็จแล้ว โดยโยกหัวรถจักรและโบกี้ที่เสียหายทั้งหมด มาอยู่รางที่ 1 ส่วนรางที่ 2 และ 3 สามารถเปิดใช้งานได้แล้ว ทั้งนี้ ในภาพรวมประเมินแล้วเหตุการณ์รถไฟชนกันที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีความเสียหายไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
srinopkun
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2010
Posts: 2877
Location: นครปฐม

PostPosted: 28/03/2015 7:52 am    Post subject: Reply with quote

เห็นหลายท่านในนี้ไปมองในด้านที่ว่าขบวนหลังวิ่งไปชนขบวนหน้าได้ไง
แถมไปโน่น ไฟท้ายอะไรโน่น

โธ่ พี่ ไฟท้ายน่ะ ถ้าไม่ติดเขาแก้ตั้งแต่หัวลำโพงแล้วครับ เพราะรถ ปนอ.ป.น่่ะ มันคันสุดท้ายของขบวนซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆกับห้องผู้ช่วยนายสถานี ชนิดที่ว่าใครเดินมาก็ต้องเห็นว่ามันติดอยู่หรือดับ

มีเหรอที่จะปล่อยผ่าน เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในขบวนนี้ เห็นจุดนี้เป็นสิบๆคน

อีกอย่าง ไฟหน้า (Headlight) นั้นส่องสว่างเห็นได้ไกลมากอยู่แล้ว แต่ว่า ......
วิ่งมา 80-90 นี่ก็เบรคกันหลายร้อยเมตรอยู่นา





คอยดูกันต่อไป เรื่องนี้มีพลิกล๊อกแน่นอนครับ

อยู่ที่เขาจะ "เปิดเผย" หรือเปล่าแหละ




(ปล. ข.69 จอดแล้ว ว.บอกใครมั้ย ? ไม่ว่าสถานีข้างหน้า หรือสถานีที่ออกมาแล้วน่ะ ... ไม่เห็นมีใครไปถาม)
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 28/03/2015 10:28 am    Post subject: Reply with quote

ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ....

มันตะหงิดๆ ใจตั้งแต่มีข่าวว่า พขร.ข.107 ประมาทฝ่าไฟสัญญาณเข้าชนท้าย ข.69 แล้วครับ ถ้าเป็นมุมมองจากฝ่าย พขร.เอง คงคิดว่า นอกจากตูเกือบเสียขาขวาและ ชค.ยังเสียแขนขวา ยังโดนข้อหาขับรถไฟโดยประมาท เสียรถจักร 1 คัน และ บทอ.ป.อีก 1 คัน และก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน อีกแน่ะ

เส้นทางสายนี้ในช่วงกลางคืน นับตั้งแต่สถานีอยุธยาไปถึงชุมทางบ้านภาชี รถไฟมักใช้ความเร็วสูงตามพิกัดทางอยู่แล้ว ถึงจะมีสถานีระหว่างทางก็ตามเถอะ แต่ไม่ค่อยมีความหมายนอกจากจะรายงานไปว่าขบวนรถนั้นนี้ผ่านสถานีตามกำหนดเวลาเท่านั้น

แถมเส้นทางช่วงนี้อยู่ในระบบ CTC จึงเป็นคนละเคสกับกรณีที่ อ.ตะพานหิน เพราะน่าจะมีความพร้อมมากกว่า จากการสัญจรที่หนาแน่น และเป็นทางสามอีกด้วย

คราวนี้ก็มีเหตุไม่คาดฝัน เมื่อ ข.69 ซึ่งเป็นขบวนรถด่วน เกิดขัดข้องกลางตอน และขบวนรถที่ติดตามมาเป็นขบวนรถเร็วซึ่งไม่แวะจอดรายทางช่วงดังกล่าวอยู่แล้ว เกิดแล่นผ่านโดยที่ศูนย์ CTC ไม่ทันแจ้งเหตุ และให้สัญญาณเตือน เสยท้ายเข้าให้

ทางศูนย์ CTC อาจอ้างว่าได้ให้สัญญาณหยุดขบวนรถ เพราะดูจากแผงควบคุมกลางก็แสดงเห็นชัดอยู่ แต่ด้วยระยะทางไกลถึงบางซื่อ จะไปเห็นเหตุการณ์จริงได้อย่างไร ? และขบวนรถแล่นเลยเข้าไปอยู่ในตอนแล้ว หายนะก็บังเกิด

แน่นอนละ ข้อระเบียบฯ เกี่ยวกับการเดินรถมันจำอยู่ในหัวของ พขร.และ ชค.ทุกคนอยู่แล้ว แถมทำขบวนออกจากต้นทางได้ไม่ไกลนัก ไม่มีอาการง่วงนอนหรือเสพของมึนเมาแน่ นอกจากจะมีอาการบ้ากำเริบกระทันหันแบบนักบินผู้ช่วยสายการบินเยอรมันที่บังคับเครื่องพุ่งขนเขาเมื่อหมาดๆ มานี้ สายตาตั้งสองคู่ คงไม่พลาดที่จะมองดูสองข้างทางขณะทำขบวนอยู่แล้ว ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า

1. ข.69 ที่ขัดข้องภายในตอน มีการแจ้งเหตุโดยทันทีไปยังผู้เกี่ยวข้องหรือยัง ?
2. ถ้าเกิดเหตุเช่นนี้ สมมุติว่าพนักงานประจำรถไม่มี ว.ติดตัว หรือมีแต่ชำรุด มีระบบสำรองแจ้งเหตุหรือไม่ ? และมีการซักซ้อมระหว่างกันแล้วหรือยัง ?
3. สมมุติว่า ข.107 แล่นผ่านเสาสัญญาณก่อนที่ศูนย์ CTC จะให้สัญญาณและระหว่างทางก็ไม่มีเสาสัญญาณอีกจนกว่าจะถึงสถานีถัดไป ขบวนรถที่แล่นตลอดด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 90 กม./ชม. และพนักงานประจำขบวนรถไม่ทราบเหตุ จะแก้ไขช่องโหว่ในการสื่อสารฉุกเฉินนี้ได้อย่างไร ?
4. ในฐานะผู้โดยสารบนขบวนรถ จะมีความมั่นใจเช่นไรในระบบการสื่อสารและระวังเหตุตลอดระยะการเดินทางแบบนี้ มิใช่ไปแค่โรงพยาบาลหรือวัดเท่านั้น

ฝากประเด็นให้ช่วยกันคิดด้วยครับ มิใช่เกิดเหตุก็โยนความผิดกันไปมาให้นายได้รับทราบ แต่ปัญหาที่ระบบยังไม่ได้แก้ไขแต่อย่างใด
Back to top
View user's profile Send private message
kob100
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 07/06/2012
Posts: 5

PostPosted: 28/03/2015 4:10 pm    Post subject: Reply with quote

Shocked นั่งรถไฟผ่านแถวนี้ตั้งนานนึกมันมีระบบinterlockอยู่แล้ว ถ้ามีรถอยู่ ข้างหน้าจะขึ้นไฟแดงอยู่แล้ว เหมือนสายแปดริ้ว ไม่ได้ขึ้นกับส่วนกลาง หรือว่่าไม่ระบบที่ว่า ชักเสียวละ อุตสาห์ไว้ใจระบบ คิดว่าอย่างไงก็ไม่ชน เพราะ วิ่งในเมือง
Back to top
View user's profile Send private message
casanotoey
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 03/07/2006
Posts: 412

PostPosted: 28/03/2015 9:15 pm    Post subject: Reply with quote

อันที่จริงไม่ควรให้วิ่งตามหลังกันมา บนทางเส้นเดียวกันเพราะมีถึง 3 ทาง ข 69 เมือออกจาก อย ควรให้วิ่งทางตอนกลางเพราะต้องไปภาคอิสานส่วน ข 107 ควรวื่งทางขึ้นเดิม ถึงแม้ว่าไม่มีเหตุการณ์รถจักรชำรุด แต่ก็มีโอกาสสูงมากที่ ข 107 จะวิ่งตามมาทันช่วงพระแก้วหรือภาชีแล้วแยกกันไปคนละเส้นทางอยู่แล้ว
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4  Next
Page 2 of 4

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©