ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[puggi]

การขยายราง นี่เรียกว่าเป็นการตั้งโจทย์ที่ผิดมากเลย

ผมว่ารอ ดูการแถลงนโยบาย ก่อนดีกว่า ตอนนั้นคง ค่อยว่ากันอีกที

[CENTENNIAL]

แต่ถ้าถามความคิดเห็นโดยส่วนตัวของผมเองแล้ว ทำนองว่าให้ประชาชนในประเทศลงคะแนนประชามตินะครับ

ผมขอสนับสนุนโครงการเปลี่ยนรางนี้ครับ เหตุผล คือ คำว่า "สแตนดาร์ด เกจ" บ่งบอก ความชัดเจนไว้อยู่แล้ว คือ เป็นความกว้างของรางที่นิยมใช้กันมากที่สุด จึงถูกยกให้เป็นขนาดมาตรฐาน ที่ ประเทศในโลกส่วนมากใช้อยู่ โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปตะวันตก ยุโรปกลาง อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ จีน เกาหลี ญี่ปุ่นบางส่วน ออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกกลาง
ถ้ารางกว้างเป็นแบบที่นิยมใช้กันแล้ว เรามาปรับปรุงเรื่องน้ำหนักลงเพลาให้มากกว่าเดิมอีก ประมาณ 50-100 % ก็จะทำให้รถไฟเราสามารถบรรทุกสินค้าได้มากขึ้นกว่าเดิมอีก

และทำให้การจัดหารถจักร รถสินค้า และรถโดยสาร เป็นไปโดยง่าย เพราะเป็นขนาดสากล

ผมจึงคิดว่า ถ้ารัฐมีเงินมากมายพอที่จะเปลี่ยนได้จริง ก็เปลี่ยนไปเถอะครับ อย่างน้อยผมเชื่อว่า ถ้ามีการเปลี่ยนจริงๆ แล้ว คงได้มีการโละรถจักรเก่าๆ ไป และนำรถจักรใหม่ๆ เข้ามา รวมทั้งรถโดยสารใหม่ๆ อีกเยอะล่ะครับ

รวมทั้งขบวนรถจะในเวลาแล่นด้วยความเร็วแล้ว จะมีเสถียรภาพดีกว่าเดิม เนื่องจากช่วงล้อที่กว้างกว่าเดิมถึง 43.5 เซนติเมตร รถจะทำขบวนในความเร็วสูงสุดได้มากกว่าเดิม

แฮะๆ รวมถึงถ้าเกิดว่า รัฐบาลชอบรถไฟยุโรป ก็อาจได้เห็นหัวรถจักรสไตล์ยุโรปมาแล่นในบ้านเรา ถ้ารัฐบาลชอบรถจักรอเมริกา ก็อาจได้เห็นรถจักรสไตล์อเมริกา มาแล่นใน้บ้านเรา ไม่ก็รถไฟแบบจีน หรือญี่ปุ่น ถ้ารัฐบาลต้องไปกู้เงินจากจีน หรือ ญี่ปุ่น มาใช้เพื่อการนี้

หรือ ถ้ารัฐบาลชอบขายฝัน พวกเราก็จะได้ฝันกันต่อไป

ปล. เรื่องการเปลี่ยนความกว้างของรางถ้าจะยึดติดกันเอาเป็นเอาตาย ผมเชื่อว่ายังไงเถียงกันชาตินึงก็ไม่จบนะครับ ฉะนั้นแล้ว ทุกคนมีสิทธิคิดเห็นยังไงก็ว่ากันไป อย่าคิดมากครับ

[black_express]

เหมือนกับก่อตั้งระบบรถไฟไทยกันใหม่เลยนะนั่น ทั้งก่อสร้างเส้นทาง โครงสร้าง กับจัดหาล้อเลื่อนมาใช้งานใหม่

จะไหวเร้อ ?

[suraphat]

[black_express]

ขนาดญี่ปุ่นมีทางรถไฟขนาด 3 ฟุต 6 นิ้ว มานานโข ยังไม่คิดเปลี่ยนเป็นขนาดรางมาตรฐานเลย

ถ้าเป็นรถไฟความเร็วสูง เส้นทางยกระดับทั้งหมดก็ว่าไปอย่าง...

[Wisarut]

ชง 5 เส้นทางพร้อมก่อสร้าง คลังรับลูกหาเงินหนุนเต็มที่ สนข.เด้งรับ “สมัคร” ดันรถไฟฟ้า [Thairath - 6 ก.พ. 51 - 04:18]

นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเดินหน้าโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเป็นภารกิจแรกนั้น สนข.พร้อมที่จะนำเสนอแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 10 เส้นทางที่ได้ศึกษาความเหมาะสมมาแล้วก่อนหน้านี้เสนอให้กระทรวงคมนาคมและรัฐบาลพิจารณา โดยพร้อมดำเนินการก่อสร้างระยะแรกจำนวน 5 เส้นทางได้เลย ประกอบด้วยสายสีแดง 2 เส้นทาง คือช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันและช่วงบางซื่อ-รังสิต, สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่, สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค-บางซื่อ-ท่าพระ และสายสีเขียว เส้นทางอ่อนนุช-สมุทรปราการ ขณะที่เหลืออีก 5 เส้นทางยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมและแผนการก่อสร้าง

“เมื่อนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับโครงการรถไฟฟ้าก็เชื่อว่าจะเป็นตัวช่วยให้การขับเคลื่อนโครงการทำได้รวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าระยะเร่งด่วน จะเป็นการทยอยดำเนินการแม้ว่าประชาชนต้องการให้โครงการเกิดขึ้นเร็ว เนื่องจากแต่ละโครงการมีขั้นตอนมาก”

ด้านนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ สบน. จะประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), สำนักงบประมาณ และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อทำแผนระดมทุนในโครงการรถไฟฟ้า สบน.จะใช้แหล่งทุนที่หลากหลาย โดยอาจกู้ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิก) 30%, เงินกู้ในประเทศ 50% ส่วนที่เหลือเป็นเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน และกำไรของรัฐวิสาหกิจเจ้าของโครงการ สำหรับการออกพันธบัตรภายในประเทศระยะยาว 30 ปี เพื่อระดมทุนในโครงการรถไฟฟ้าก็มีความเป็นไปได้ เพราะตอนนี้ตลาดมีความต้องการสูง

ขณะที่นายนคร จันทศร รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงนโยบายของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ก่อสร้างรถไฟทางคู่มูลค่าประมาณ 300,000 ล้านบาท ว่า การก่อสร้างรถไฟทางคู่จะช่วยพัฒนาการขนส่งทางรางให้มีความสะดวก รวดเร็ว ที่ผ่านมา รฟท.ได้ศึกษารูปแบบโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั่วประเทศไว้แล้ว เพื่อเตรียมเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาอนุมัติ ก่อนดำเนินการต่อไป.

// -----------------------------------------------------
ที่แก้รางหนะ จะให้ผู้ใดขับเล่นเพื่อย้อนอดีต ก่อน ที่จะหันไปขับรถยนต์ กะ เครื่องบิน หรือ ว่าเพื่อ ตอบสนองลูกพี่ของหมอ ที่ได้ทำ FTA ไว้แล้ว

[Wisarut]

รางรถไฟกว้างแค่ไหนก็ติดระบบไฟฟ้าได้
Dailynews - 5 Feb 2008

คุณนคร จันทศร รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟฯ ยังได้เล่าเพิ่มถึงแนวคิดการพัฒนาทางรถไฟทางสายตะวันออก และไปทางมหาชัย ด้วย

สายไปทางด้านตะวันออก จากหัวหมากไปถึงฉะเชิงเทราสภาพปัจจุบันก็มีอยู่ 3 ราง แต่ใช้งานจริงแค่ 2 ราง ด้านนี้กำลังมีการก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งจะมีรถไฟฟ้าด่วนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะบริการเฉพาะผู้โดยสารที่เช็กอินที่ท่าอากาศยานในเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในสถานีมักกะสัน ขนสัมภาระนั่งไปลงที่สนามบินเลยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ส่วนคนทั่วไปต้องใช้รถไฟฟ้าธรรมดาจอดรับส่งระหว่างทาง 6 สถานี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ส่วนสายที่ไปทางมหาชัย ผ่านวงเวียนใหญ่นั้น สภาพปัจจุบันไปหยุดอยู่แค่แม่น้ำท่าจีน ขณะที่อีกด้านก็มาจากทางแม่น้ำแม่กลอง มหาชัยมาหยุดอยู่ตรงแม่น้ำท่าจีน ยังไม่มีสะพานข้าม มีแนวคิดที่จะเสนอให้ทำสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนและแม่กลองแล้วต่อไปจนถึงปากท่อ รถไฟที่ลงทางใต้ก็ไม่ต้องอ้อมไปทางนครปฐม ด้านนี้ถ้าเปรียบกับถนนก็จะเหมือนถนนพระรามที่ 2 ร่นระยะทางและเวลาได้อีกเยอะ

มาถึงระบบรถไฟฟ้า ถ้าเป็นรถไฟฟ้าในเมืองอย่างบีทีเอส รถไฟใต้ดินที่เรามีอยู่ในตอนนี้ สถานีจะมีระยะห่างไม่มาก เพราะจะเกี่ยวข้องกับระยะทางในการเดินของผู้โดยสาร แต่ถ้าเป็นรถทางไกล สถานีจะห่างมากขึ้น อาจ 3-5 กิโลเมตร จนถึง 15-20 กิโลเมตร หรือรถไฟฟ้าความเร็วสูงอาจเป็น 100 กิโลเมตร เพราะถ้าสถานีเยอะ จอดถี่ ก็จะถึงปลายทางช้าไปด้วย

รองฯ นคร ให้รายละเอียดผ่านเรื่องที่ท่านเขียนไว้ในรถไฟสัมพันธ์ เอกสารที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ของการรถไฟฯ ฉบับเมื่อเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2550 เกี่ยวกับความกว้างของรางกับรถไฟฟ้าไว้ว่า เรามักจะเข้าใจผิดกันว่ารถไฟสำหรับขนาดรางกว้าง 1.435 เมตรเท่านั้นที่เป็นรถไฟฟ้า ถ้ารางกว้าง 1 เมตรต้องเป็นรถดีเซลเท่านั้น เป็นความเข้าใจที่ผิด ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่ารถดีเซล รถไฟฟ้ามีหลักการทำงานอย่างไร วิวัฒนาการในการเดินรถไฟทั่วโลกจะก้าวไปทีละขั้น จากเดินรถไฟโดยใช้หัวรถจักรไอน้ำไปเป็นรถจักรดีเซลแล้วเป็นรถไฟฟ้า


// -------------------------------------------------------------------
จากรถจักรดีเซลเป็นรถไฟฟ้า
dailynews - 6 Feb 2008

คุณนคร จันทศร รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ให้รายละเอียดเพื่อชี้แจงเรื่องที่มักจะเข้าใจผิดกันว่ารถไฟสำหรับขนาดรางกว้าง 1.435 เมตรเท่านั้นที่เป็นรถไฟฟ้า ถ้ารางกว้าง 1 เมตรต้องเป็นรถดีเซลเท่านั้น ยังชี้ให้เห็นถึงวิวัฒนาการการเดินรถไฟทั่วโลกจะก้าวไปทีละขั้น จากเดินรถไฟโดยใช้หัวรถจักรไอน้ำไปเป็นรถจักรดีเซลแล้วเป็นรถไฟฟ้า

รถจักรดีเซล หลักการทำงาน คือ ใช้เครื่องยนต์ดีเซลหมุนเครื่องปั่นไฟบนรถเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าไปหมุนมอเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่หมุนเพลาล้อเป็นกำลังขับเคลื่อนรถจักร โดยลากจูงขบวนรถโดยสารและขบวนรถสินค้าที่ไม่มีเครื่องยนต์คราวละมาก ๆ และวิ่งระยะไกลจึงจะคุ้มกับต้นทุนในการวิ่งรถ แต่ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องเดินรถขบวนโดยสารสั้น ๆ ซึ่งการใช้รถจักรลากรถพ่วงเพียง 2-3 คัน นอกจากจะสิ้นเปลืองรถจักรและมีค่าใช้จ่ายต่อขบวนแพงแล้ว ขบวนรถที่ใช้รถจักรลากจะขาดความคล่องตัว เนื่องจากเมื่อถึงปลายทางแล้วจะต้องจัดขบวนรถใหม่ ซึ่งจะเสียเวลาทำการรถจักรมาก จึงมีการพัฒนาระบบรถดีเซลราง

รถดีเซลราง มีเครื่องยนต์ขับเคลื่อนตัวเองได้เหมือนรถเมล์ทั่วไป เพียงแต่วิ่งอยู่บนรางและสามารถนำมาพ่วงต่อกันเป็นขบวนรถยาวเท่าที่ต้องการใช้งาน โดยควบคุมการทำงานจากรถคันใดคันหนึ่งในขบวน ทำให้มีความคล่องตัวสูง และการขับเคลื่อนในอัตราเร่งที่ดีกว่าขบวนรถที่ใช้หัวรถจักรลากจูง

รถไฟที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลนั้น เหมาะสำหรับการใช้งานในกรณีที่เส้นทางรถไฟเดินขบวนรถที่ไม่หนาแน่นมากนัก มีข้อด้อยในเรื่องการใช้พลังงานจากน้ำมันมีประสิทธิภาพต่ำกว่าการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งมีอัตราและความเร็วสูงกว่า ประหยัดพลังงาน และมีมลพิษทางเสียงน้อยกว่าเครื่องยนต์ดีเซล

นอกจากนี้รถไฟที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลต้องหยุดเพื่อซ่อมบำรุงบ่อยมาก ประมาณวันละ 1 ครั้ง ขณะที่รถไฟฟ้าสมัยใหม่อาจไม่ต้องหยุดซ่อมเลยในรอบ 15 วัน ปัจจุบันการรถไฟฯ ซึ่งเดินขบวนรถหนาแน่นขึ้น จึงคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนจากระบบดีเซลมาเป็นไฟฟ้า ซึ่งประหยัดพลังงานมากกว่า มีมลพิษน้อยกว่าหลายสิบเท่า เหมาะกับสภาพการเดินรถในเมือง มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย มีความเร็วสูง

รถไฟฟ้า คือรถไฟทั้งรถจักรดีเซลและดีเซลรางที่ยกเครื่องยนต์ดีเซลและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าออกไปจากตัวรถ แล้วใช้ไฟฟ้าจากสถานีจ่ายไฟมาใช้ขับเคลื่อนแทน

นอกจากรางแล้ว ระบบการจ่ายไฟฟ้าก็มีความสำคัญเช่นกัน ไว้ต่อพรุ่งนี้.

[puggi]

มาต่อนิดนึงครับ
ที่ผมว่าโจทย์ผิด คือว่า

ปัญหา รถไฟไทย ปัจจุบัน มันเกิด จาก รางเดี่ยว จุดตัดกับถนน ทางลักผ่าน

การ จะทำเป็นรางมาตรฐาน แต่ว่า ไม่แก้ปัญหาพวกนี้ ทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์ครับ

หลายคน เข้าใจว่า รางมาตรฐาน แล้วความเร็วจะสูงขึ้นกว่าเดิม ยอมรับว่าสูงขึ้นแต่ก็ไม่ใช่พวก รถไฟความเร็วสูงอยู่ดีน่ะครับ

ไหน จะต้องทิ้ง รถจักร รถโดยสาร ดีเซลราง นี่ อีกตั้งเท่าไหร่ ต้องลงทุนใหม่หมด ผมว่ามันไม่ใช่ สามแสนล้านแน่นอน

ยังยืนว่า ทำรางคู่ แก้ปัญหาจุดตัด และจัดหารถจักรใหม่ เพิ่มเติมรวมถึง ดีเซลรางและตู้โดยสารที่ดูใหม่ ก็เพียงพอ หากจะดีหน่อยก้ ใช้ระบบไฟฟ้า มาเสริม แค่นี้ก็หรูแล้วครับ


แต่ เรื่องของเรื่อง ผมก็แค่การตีปี้บ ไม่มีอะไรใหม่หรอกครับ กลัวว่าเอามาแค่พอเป็นกระแสฮื่อฮา แล้วก็เงียบไปกับสายลม พรรคนี้เค้าถนัด สร้างกระแส การตลาดอยู่แล้วนี่ครับ

[black_express]

^
^
ว่าแล้วไง ?...พอรัฐบาลเข้ามาทราบข้อเท็จจริงแล้วก็ถอยฉากออกมาเป็นแถว แก้ตัวไปตามเรื่องตามราวต่อไป

[Wisarut]

รถไฟค้าน'สมัคร'ดัน'ทางคู่'ซัดฝันเฟื่อง

ไทยโพสต์ 7 กุมภาพันธ์ 2551 กองบรรณาธิการ

ร.ฟ.ท.โยนไม้หมอนรถไฟใส่ "สมัคร" ระบุเปลี่ยนเป็นทางคู่ทั่วไทย รางกว้าง 1.435 เมตร เพ้อฝัน ไม่ได้ช่วยให้รถวิ่งเร็ว ผลาญงบสูงถึง 4.3 ล้านล้าน

คลังนัดถก สศช.สรุปเมกะโปรเจ็กต์ 5 แสนล้านชงรัฐบาลใหม่

นายนคร จันทศร รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวถึงกรณี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายจะปรับรางรถไฟทั่วประเทศเป็นทางคู่ และใช้รางขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ทั้งหมด วงเงิน 3 แสนล้านบาท ว่า เป็นไปได้ยากมาก เพราะการปรับเปลี่ยนในลักษณะดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนสูงกว่า 4.3 ล้านล้านบาท และยังเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด

เนื่องจากรัฐบาลที่มาใหม่มักเห็นว่าการปรับปรุงขนาดรางกว้างมากขึ้นจะช่วยเพิ่มความเร็วรถไฟ แต่อุปสรรคความเร็วที่แท้จริง คือ จุดตัดทางรถไฟที่มีทุก 2 กิโลเมตร มากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา แม้จะเพิ่มขนาดความกว้างของราง รถไฟก็ไม่สามารถทำความเร็วได้สม่ำเสมอ เพราะต้องหยุดขบวนรถตลอดเวลา

"พอมีรัฐบาลใหม่ ก็จะประกาศทำ Standard Gauge ทุกครั้ง เพราะการที่มีจุดตัดทุก 2 กิโลเมตร ต่อให้ใช้รางกว้าง 5 เมตร ก็เร็วกว่านี้ไม่ได้หรอก แล้วการเปลี่ยนขนาดรางก็ต้องเปลี่ยนอาณัติสัญญาณด้วย ถ้าเอามาตรฐานตามแอร์พอร์ตลิงค์ คิดราคาคร่าวๆ 28 กิโลเมตร 30,000 ล้าน ถ้าเปลี่ยนรางทั่วประเทศ 4,000 กว่ากิโลเมตร ก็ประมาณ 4.3 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมขบวนรถที่ต้องจัดซื้อใหม่" นายนครกล่าว

นายนครกล่าวว่า อาจเป็นไปได้ที่นายสมัครประกาศนโยบายโดยไม่ได้สอบถามหรือปรึกษากับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงก่อน ทำให้ไม่ทราบปัญหาและอุปสรรคที่แท้จริง และประเด็นสำคัญคือ อายุการทำงานของรัฐบาลชุดนายสมัคร เพราะถ้าอยู่ไม่ถึง 20 ปี ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะสานต่อนโยบายดังกล่าวให้เป็นจริง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า วันที่ 11 ก.พ. สบน. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการขนส่งมวลชนระบบราง จะหารือข้อสรุปการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย ภายใต้นโยบายรัฐบาลชุดเดิม ซึ่งคาดว่าจะมีการหยิบยกงานเร่งด่วนของรัฐบาลชุดใหม่ คือ รถไฟฟ้า 9 สาย มูลค่า 5 แสนล้านบาท ขึ้นหารือด้วย โดยผลสรุปจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณา.