View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 11/02/2013 9:40 pm Post subject:
ประเสริฐหนุนลงทุนศูนย์ขนส่งทางราง ลดสัดส่วนรถบรรทุกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
11 กุมภาพันธ์ 2556 12:27 น.
เอกชนจี้กทท.เร่งโครงการศูนย์ขนส่งทางรางของแหลมฉบัง หวั่นปัญหาคอขวดรอยต่อรถไฟทางคู่ไอซีดี-แหลมฉบัง เผยปริมาณตู้สินค้าไอซีดีไปท่าเรือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านประเสริฐเผยพร้อมชงครม.ขออนุมัติงบ 2พันลบ.เร่งก่อสร้างในปีนี้ ลดสัดส่วนขนส่งทางถนนที่มีปัญหาแออัดมาก
ร.อ.สุทธินันท์ หัตถาวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง (Single Rail Transfer Operator) ว่า ได้ส่งเรื่องมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติแล้วโดยตั้งเป้าว่าจะดำเนินโครงการภายในปี 2556 นี้ เพื่อก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เข้าไปในท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 3.4 กิโลเมตรวงเงินลงทุนประมาณ 2,020 ล้านบาท เนื่องจากการขนส่งทางรถไฟจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้มากกว่าทางถนน
แม้ขณะนี้ทางรถไฟในช่วง 3 กิโลเมตรจะยังเป็นทางเดี่ยวอยู่ แต่ยังไม่มีปัญหาเรื่องคอขวดหรือแออัดมากนัก เพราะปริมาณการขนส่งทางรถไฟจากไอซีดีลาดกระบังมายังท่าเรือแหลมฉบังยังไม่ถึง 1 ล้านทีอียูต่อปี ส่วนปัญหาการจราจรติดขัดทั้งถนนเข้า-ออกท่าเรือ หน้าประตูตรวจสอบสินค้า ภายในเขนรั้วศุลกากร โดยเฉพาะวัน พุธ-เสาร์ เนื่องจากเรือแม่จะเข้าเทียบท่าเป็นจำนวนมาก ทำให้มีรถขนส่งสินค้ามากไปด้วย โดยเฉลี่ยมีรถบรรทุกเข้าออกประมาณ 5 แสนคันต่อเดือนหรือ 1.4 หมื่นคันต่อวัน ซึ่งที่ผ่านมาได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหา ระยะสั้นแบบเร่งด่วน เช่น เพิ่มประตูตรวจสอบ,จัดพื้นที่สำรองตู้สินค้า ปรับปรุงพิธีการด้านศุลกากรให้รวดเร็วขึ้น และจะเริ่มนำระบบไอทีเข้ามาช่วยในการแก้ปัญหาจราจร ซึ่งระบบสามารถติดตามรถบรรทุกตั้งแต่ก่อนเข้ามาในเขตท่าเรือเพื่อจัดเตรียมประตูทางเข้า ช่องบริการ กำหนดลานจอด สิ่งอำนวยความสะดวก ให้สอดคล้อง ไม่ต้องรอคิวเหมือนที่ผ่านมาร.อ.สุทธินันท์กล่าว
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า จะเร่งเสนอครม.พิจารณาโครงการศูนย์ขนส่งทางรางของแหลมฉบัง เพราะจะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ลงได้มาก
ด้านนายสุวิทย์ พีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิฟฟ่า ไอซีดี จำกัด ผู้รับสัมปทานบริหารสถานีขนส่งสินค้า สถานีรถไฟบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) กล่าวว่า ช่วงแรกที่เปิดไอซีดีลาดกระบัง มีปริมาณตู้สินค้ารวม 6 แสนทีอียูต่อปี โดยขนส่งทางรถไฟมาท่าเรือแหลมฉบังประมาณ 1.8 แสนทีอียูต่อปี ที่เหลือขนส่งทางถนน ปัจจุบันสินค้ารวมที่ไอซีดีเพิ่มเป็น 1.5 ล้านทีอียูต่อปีขนส่งทางรถไฟเพิ่มเป็น 4 แสนทีอียูต่อปี จึงอยากให้กทท.เร่งรัดขยายทางรถไฟจากสถานีแหลมฉบังเข้าไปยังท่าเรือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดและให้สอดคล้องกับรถไฟทางคู่ของร.ฟ.ท. ช่วงลาดกระบัง-แหลมฉบังที่เสร็จแล้ว โดยผู้ประกอบการกังวลว่า หากปริมาณตู้สินค้าเพิ่มขึ้นจะเกิดความแออัดเพราะการบริหารจัดการตู้สินค้าเข้าท่าเรือมีข้อจำกัด
สำหรับโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง กทท.ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัท เซ้าท์อี๊สท์เอเซียเทคโนโลยี จำกัด เป็นที่ปรึกษาเพื่อศึกษาวิเคราะห์โครงการและออกแบบรายละเอียดสำหรับก่อสร้างโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง วงเงิน 28,424,000 บาท โดยจะมีการก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้าในพื้นที่ Zone 4 จำนวน 600 ไร่ ติดตั้งรางรถไฟลักษณะพวงราง 6 ราง รองรับขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนละ 34 แคร่ และเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนืดเดินบนรางคร่อมรางรถไฟทั้ง 6 รางพร้อมกัน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44759
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 12/02/2013 5:59 pm Post subject:
Music On train รถไฟตู้พิเศษจากการรถไฟแห่งประเทศไทย
springnewschannel Published on Feb 12, 2013
การรถไฟทุ่มงบ 20 ล้านบาท เปลี่ยนโฉมโบกี้รถไฟให้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการโดยสารโดยแปลงเป็นห้องจัดประชุมเคลื่อนที่ สันทนาการ ห้องอาหาร และกิจกรรมเพื่อความบันเทิงเพื่อรองรับลูกค้าภาคเอกชนและราชการที่ต้องการใช้รถไฟเป็นที่จัดกิจกรรมหรือสัมมนา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44759
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/02/2013 9:18 pm Post subject:
ลูกสุเทพควงภรรยาร่วมงานจดทะเบียนสมรสยักษ์
เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 12:05 น.
แทน เทือกสุบรรณ ควงแขนภรรยาสาวสวยจดทะเบียนสมรส สถานีรถไฟบ้านดอกรัก รับใบสำคัญการสมรสขนาดยักษ์
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี นายไพศาล ตรีธัญญา นายอำเภอพุนพิน เป็นประธานนำขบวนบ่าวสาว 9 คู่ ขึ้นขบวนรถไฟสายพุนพินรักนิรันดร์ ออกจากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ปลายทางสถานีดอนรัก พื้นที่ บ้านดอนรัก หมู่ 4 ต.หัวเตย อ.พุนพิน เพื่อทำพิธีรดน้ำสังข์และจดทะเบียรสมรส โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และญาติของบ่าวสาว ร่วมขบวนด้วย โดย 1 ในคู่บ่าวสาว ที่เข้าร่วมงานแต่งครั้งนี้ มีนายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชาย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ควงแขน น.ส. ธิชากร กาญจนแก้ว ภรรยาสาว ซึ่งเข้าพิธีสมรสเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2555 เข้าร่วมกิจกรรมจดทะเบียนสมรสด้วย
ทั้งนี้นายไพศาล ในฐานะนายทะเบียน ได้ทำพิธีจดทะเบียนสมรสให้กับคู่บ่าวสาว พร้อมทั้งมอบใบสำคัญการสมรสจำลองขนาดความกว้าง 1.2 เมตร สูง 2 เมตร ให้กับคู่สมรส เป็นที่ระลึก โดยกล่าวว่า เหตุที่มอบใบสำคัญการสมรสจำลองขนาดใหญ่ให้กับคู่สมรส ก็เพื่อจะได้เป็นการเตือนสติถึงการครองคู่ ซึ่งได้เน้นย้ำกับคู่สมรสทุกคู่ว่าให้ติดตั้งไว้ในที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน หากมีปัญหาความขัดแย้งก็ขอให้มองถึงใบสำคัญการสมรสดังกล่าว ซึ่งอาจจะลดปัญหาการหย่าร้างได้.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44759
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 15/02/2013 9:10 pm Post subject:
ชัชชาติถกสหภาพฯร.ฟ.ท.ชื่นมื่น จับมือปรับปรุงรถไฟยกระดับเป็นขนส่งของอาเซียน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2556 20:33 น.
สหภาพฯร.ฟ.ท.ยกทีมคุยชัชชาติยันพร้อมร่วมมือปรับปรุงรถไฟตามแผนลงทุน 1.76 แสนล้านบาท ยันแนวคิดตรงกัน สาวิทย์ชี้หมดยุคแช่งแข็งรถไฟ ถึงเวลาพลิกโฉมใหม่ ยันไม่มีประท้วงเหมือนที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้เข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมโดยนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการฯ ร.ฟ.ท.เข้าร่วมด้วย โดยนายชัชชาติเปิดเผยว่า ได้หารือทำความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้การลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1.76 แสนล้านบาทภายใน 2-3 ปี สามารถแก้ไขปัญหาของรถไฟได้อย่างตรงจุด ซึ่งการปรับปรุงรถไฟจะมุ่งที่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ไปพร้อมกันด้วย ซึ่งพนักงานทุกคนจะต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยต้องยึดถึงประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก
ทั้งนี้ ในพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท นั้นมีการลงทุนในระบบรางถึง 80% ซึ่งร.ฟ.ท.ต้องถามตัวเองด้วยว่า มีความพร้อมที่จะดำเนินการตามเป้าหมายแค่ไหน โดยได้มอบหมายให้นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าฯร.ฟ.ท.เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อรับกับการทำงานที่เพิ่มขึ้น โดยต้องมีการพัฒนาความรู้ความสามารถ ส่วนรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมเน้นต่อต้านคอร์รัปชั่นในการลงทุน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งพนักงานจะต้องเข้ามาเป็นแนวร่วมช่วยกันดูแลและตรวจสอบเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและตัวพนักงานเอง โดยทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันในทุกประเด็น
นายอำพน ทองรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานร.ฟ.ท.กล่าวว่า แนวคิดและนโยบายของสหภาพฯ ร.ฟ.ท.เป็นไปในแนวทางเดียวกับผู้บริหารร.ฟ.ท.ในยุคปัจจุบัน สหภาพฯพร้อมให้ความร่วมมือในการผลักดันตามแผนลงทุน 1.76 แสนล้านบาท เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้บริการรถไฟและถือเป็นหัวใจหลักขององค์กร และเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิด AEC ที่ไทยจะต้องพัฒนาระบบรางให้ใกล้เคียงกับประเทศอื่น เพราะไทยถือเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางของอาเซียน
ด้านนายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษาสหภาพฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า สหภาพฯต้องการรับทราบนโยบายที่ชัดเจนของรมว.คมนาคม เนื่องจากที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าร.ฟ.ท.ถูกปล่อยเหมือนแช่แข็งมานาน ซึ่งขณะนี้แนวคิดส่วนใหญ่ตรงกัน ส่วนอะไรที่ยังไม่เห็นไม่ตรงกันก็สามารถพูดคุยกันได้ ในหลักการทำงานจะทำให้สามารถผลักดันให้งานเดินหน้าไปได้ โดยเฉพาะแนวทางการปรับปรุงรถไฟซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ตกต่ำสุดขีด โดยสหภาพฯยืนยันพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อฟื้นฟูรถไฟให้เป็นระบบขนส่งที่อำนวยความสะดวกของประชาชนอย่างเต็มที่
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44759
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 16/02/2013 1:08 pm Post subject:
ฟอร์จูนทาวน์ร่วมชมนิทรรศการภาพถ่ายสองข้างทางรถไฟ
PressInThai Feb 16th, 2013
คุณสมเกียรติ เรือนทองดี (คนที่ 2 นับจากซ้าย)ผู้บริหารศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ร่วมกับนิตยสาร Cameraart ,Epson, Nikon ให้การต้อนรับคุณประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท) เนื่องในโอกาสเปิดงาน นิทรรศการภาพถ่ายสองข้างทาง บอกเล่าวิถีชีวิตของสองข้างทางรถไฟในแต่ละพื้นที่ในเมืองไทย โดยมีกำหนดการจัดแสดงงาน ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 Digital Camera Zone ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 10 มี.ค.นี้
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44759
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 19/02/2013 8:46 am Post subject:
เอกชนบุรีรัมย์ค้านสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ 5 แห่ง ผลาญงบฯ พันล้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กุมภาพันธ์ 2556 18:52 น.
ประธานหอการค้าฯ-สภาอุตฯ-ชมรมท่องเที่ยวและโรงแรมบุรีรัมย์ ร่วมแถลงคัดค้านโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟของกรมทางหลวง ใน จ.บุรีรัมย์ 5 แห่ง ผลาญงบฯ กว่า 1 พันล้านบาทโดยไม่จำเป็น วันนี้ ( 18 ก.พ.)
บุรีรัมย์ - หอการค้าฯ-สภาอุตฯ-ชมรมท่องเที่ยวและโรงแรมบุรีรัมย์ ออกโรงคัดค้านการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟของกรมทางหลวงในเขตพื้นที่บุรีรัมย์ 5 แห่ง ผลาญงบฯ กว่า 1 พันล้านบาทโดยไม่จำเป็น เผยกระทบวิถีชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน และธุรกิจในจังหวัด ไม่ทำประชาพิจารณ์ความต้องการประชาชน
วันนี้ (18 ก.พ.) นายนที เจียรพันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายวสันต์ เทพนคร ประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันแถลงคัดค้านไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์จำนวน 5 แห่ง ใช้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้เข้ามาสำรวจเพื่อก่อสร้างสะพานโดยไม่มีการทำประชาพิจารณ์ถึงความต้องการของประชาชน นักธุรกิจ ร้านค้าในเขตพื้นที่จังหวัดว่ามีความต้องการหรือไม่
อีกทั้งโครงการก่อสร้างสะพานทั้ง 5 แห่งดังกล่าวไม่มีความจำเป็นเพราะไม่ใช่แหล่งชุมชนหนาแน่น การจราจรไม่มีรถติดส่งผลกระทบจนเกิดปัญหาที่จะต้องใช้สะพานสูงข้ามทางรถไฟ นอกจากนั้นยังจะทำให้บดบังภูมิทัศนียภาพของจังหวัด เพราะจังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดท่องเที่ยว หากกรมทางหลวงยังมีการเดินหน้าสำรวจและก่อสร้าง ทั้ง 3 องค์กรเอกชน รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะร่วมกันออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านจนถึงที่สุด
นายนที เจียรพันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หากกรมทางหลวงยังจะมีการสร้างสะพานข้ามทางรถไฟทั้ง 5 แห่งในเขตพื้นที่จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในย่านธุรกิจ เชื่อว่าผู้ประกอบการร้านค้าทั้งสองข้างสะพานจะได้รับผลกระทบไม่สามารถทำธุรกิจได้ และยังจะส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ของจังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว จึงขอเรียกร้องให้กรมทางหลวงได้ทบทวนถึงการศึกษา สำรวจ และก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ เพราะประชาชนส่วนมากไม่เห็นด้วย รวมทั้งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้สะพานสูงข้ามทางรถไฟดังกล่าวด้วย
กรมทางหลวงควรที่จะนำงบประมาณดังกล่าวไปซ่อมแซมหรือขยายถนนให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวก หรือนำไปก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภคที่มีความจำเป็นให้ประชาชนดีกว่า นายนทีกล่าว
hh wrote: ทำน่ะดีเเล้ว ต่อไปเป็นรถไฟรางคู่ รถไฟจะวิ่งเยอะเร็วกว่านี้
ถ้าไม่ทำตอนนี้ จะรอให้ชุมชนหนาแน่น คุณคิดว่าจะทำสะพานข้ามได้ทันทีไหมล่ะ?
tiger2332@gmail.com wrote: ค้านทำไมวะ งง
ดำ wrote: สร้างเถอะครับ อย่าเห็นแก่ตัวมากนักเลยคุณนทีคุณวสันต์ คุณไปดูหน้โรงพยาบาลบุรีรัมย์ตอนเช้า ๆ ซิ รถติดมากเลยหากมีสะพานข้ามทางรถไฟ ชาวบุรีรัมย์ยกมือท่วมหัวเลยครับ
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42784
Location: NECTEC
Posted: 21/02/2013 10:57 am Post subject:
ทาง 3 แพร่งปฏิรูป'รถไฟไทย' ปัญหาเก่า. หนี้เรื้อรังแสนล้าน กับอนาคตใหม่ลงทุนระบบราง 1.5 ล้านล้าน
ออกไลน์เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 17:28:36 น.
ตีพิมพ์ ใน ประชาชาติธุรกิจ
ฉบับวันที่ 21- 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิดกับภารกิจปฏิรูปองค์กรอายุ 116 ปีอย่าง "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า มีทั้งรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง
ภายใต้เม็ดเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท ที่ "รัฐบาลเพื่อไทย" กำลังเร่งผลักดันผันเงินสู่ระบบรางร่วม ๆ 1.5 ล้านล้านบาท หวังพลิกโฉมของประเทศใหม่
จะว่าไปแล้ว ปฎิบัติการ "ยกเครื่อง" องค์กรม้าเหล็กเริ่มเป็นจริงเป็นจังยุค "รัฐบาลประชาธิปัตย์" ในปี 2553 ที่อนุมัติโครงสร้างใหม่ แยกธุรกิจออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ (Business Unit : BU)
ประกอบด้วย หน่วยเดินรถ หน่วยซ่อมบำรุง และหน่วยบริหารทรัพย์สิน พ่วงบริษัทลูก "บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด" มาบริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมอนุมัติเงินลงทุน 176,000 ล้านบาท สำหรับปรับโครงสร้างกิจการใหม่ระยะเร่งด่วน 5 ปี (2553-2557)
แต่ทว่าในทางปฏิบัติจนถึงขณะนี้ยังไปไม่ถึงที่หมาย ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างทำให้ภารกิจปลดแอกหนี้ที่มีอยู่ร่วม 1 แสนล้านบาท จำต้องสะดุดไปโดยปริยาย
เมื่อ "สตง.-สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน" ไม่รับรองบัญชีของ ร.ฟ.ท.มาหลายปี ทำให้ "ร.ฟ.ท." ต้องสาละวนเคลียร์แยกบัญชีและทรัพย์สินที่มีอยู่ให้ชัดเจน ท่ามกลางปัญหาใหม่ที่ผุดไม่หยุด นั่นก็คือโฉนดที่ดินทั่วประเทศกว่า 2.3 แสนไร่นั้น...อยู่บริเวณไหนบ้าง
ม.เกษตรฯศึกษา 10 ปีใช้หนี้ได้
เพื่อให้โครงสร้างใหม่เดินหน้า "ร.ฟ.ท." ทุ่ม 40 ล้านบาท จ้าง "ม.เกษตรศาสตร์" วางกรอบขับเคลื่อนองค์กร โดยภาพรวมที่ออกมาทุกอย่างยังคงอยู่ภายใต้ปีก ร.ฟ.ท. แต่อาจจะเขย่าโครงสร้างธุรกิจ 3 หน่วยให้ชัดเจน เพิ่มอำนาจหัวหน้าแต่ละหน่วยให้เท่าเทียมกับผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เพื่อให้งานคล่องตัวมากขึ้น
ส่วนการปลดเปลื้องภาระหนี้แสนล้านบาท มีข้อเสนอให้พลิกหน้าดินในมือที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศมาสร้างรายได้เพิ่ม โดยเฉพาะแปลงเด็ด ๆ ใจกลางเมือง 3 แปลงใหญ่ มูลค่าที่ดินเฉียดแสนล้านบาท ไม่ว่าย่านมักกะสันกว่า 512 ไร่, ย่านพหลโยธิน 1,070 ไร่ และย่านสถานีแม่น้ำกว่า 277 ไร่
หากเดินไปตามผลศึกษาของ ม.เกษตรฯ อีก 10 ปีข้างหน้าหรือในปี 2563 คาดว่า "ร.ฟ.ท." รายได้จะเพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ โดยเฉพาะหนี้จากค่าบำนาญที่ ร.ฟ.ท.รับภาระเฉลี่ยปีละ 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ข้อมูลเปรียบเทียบพบว่า ปี 2563 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว อยู่ที่ 17,746 ล้านบาท เทียบจากปี 2554 อยู่ที่ 7,148 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากการขนส่งเชิงพาณิชย์ 38% อยู่ที่ 6,671 ล้านบาท จากปี 2554 มีสัดส่วน 47% หรือ 3,456 ล้านบาท, รายได้จากภาคขนส่งสินค้า 38% หรือ 6,842 ล้านบาท จากปี 2554 มีสัดส่วน 25% อยู่ที่ 1,662 ล้านบาท และรายได้จากการบริหารทรัพย์สิน 20% หรือ 3,377 ล้านบาท จากปี 2554 สัดส่วนอยู่ที่ 21% หรือ 1,530 ล้านบาท
"เอดีบี-สนข." คิดต่าง
เวลาเดียวกัน กระทรวงการคลังในฐานะผู้อนุมัติการกู้เงินจากแหล่งต่าง ๆ ให้ ร.ฟ.ท. ก็จ้าง "เอดีบี-ธนาคารพัฒนาเอเชีย" มาปรับปรุงโครงสร้างใหม่เช่นกัน โดยผลการศึกษาของเอดีบีแตกต่างออกไป ด้วยข้อเสนอให้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังรับภาระหนี้ ร.ฟ.ท.ทั้งหมด แต่ต้องแลกด้วยที่ดินเพื่อเป็นการชดเชย
ส่วนกระทรวงคมนาคม มีเจ้าภาพคือ "สนข.-สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร" โดย "จุฬา สุขมานพ" ผู้อำนวยการ สนข. ระบุว่า ร.ฟ.ท.ต้องปฏิรูปองค์กรให้กลับมาเป็นกรมรถไฟเหมือนก่อนหน้านี้ พร้อมกับโอนทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดให้รัฐรับภาระ ส่วนหน้าที่ของกรมรถไฟทำหน้าที่ลงทุนโครงการใหม่ เหมือนกรมทางหลวง (ทล.) ที่สร้างถนนอย่างเดียว ส่วนการเดินรถให้เอกชนเข้ามาเช่าราง เพื่อสร้างรายได้
ทางรอดเดียวโละหนี้ให้รัฐ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเมินจากผลศึกษา 3 สำนัก พบว่ามีไอเดียที่เป็นจุดร่วมเดียวกันคือ โยนภาระหนี้ 1 แสนล้านบาทที่เกิดจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้รัฐบาลรับภาระ เหมือนกับในต่างประเทศ และให้ ร.ฟ.ท.มุ่งทำหน้าที่ด้านบริการให้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ปัญหาขององค์กร ร.ฟ.ท. ในมุมมองของ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ยังไม่กล้าการันตีว่าจะได้เห็นโฉมใหม่ได้ปีไหน
อย่างไรก็ตาม "ชัชชาติ" บอกว่า หนี้แสนล้านบาทของ ร.ฟ.ท.ไม่น่าห่วง เพราะมีแอสเซตสามารถสร้างรายได้ชดเชยได้
"ทุกอย่างยังไม่ตกผลึก อาจจะผสมผสานกันระหว่างแนวคิดของ ม.เกษตรฯและเอดีบี ในเรื่อง...คน กฎระเบียบเดิมยังอยู่ แต่อาจจะพัฒนาศักยภาพเขาให้เข้มแข็งขึ้น ทันสมัยขึ้น ผมถึงบอกว่าการล้างหนี้ล้างไปอาจจะไม่แก้ปัญหารถไฟนะ อาจจะกลับมามีหนี้เหมือนเดิมก็ได้ ถ้าไม่แก้พฤติกรรมภายใน จะต้องไปแก้ที่ต้นเหตุด้วย ปัญหาอยู่ตรงไหน อยู่ที่คนหรือระเบียบ สิ่งสำคัญรถไฟต้องค้นหาตัวเองให้เจอ" รมว.คมนาคมกล่าวย้ำ
พร้อมกับบอกว่า...การเตรียมความพร้อมการลงทุน 2 ล้านล้านของ ร.ฟ.ท. มี 2 แบบคือ ลงทุนการก่อสร้างในช่วงแรก ฝ่ายก่อสร้างจะต้องปรับปรุงการทำงานทันทีเพื่อเปิดประมูล แต่ฝ่ายโอเปอเรชั่นยังมีเวลาเตรียมตัวกว่างานก่อสร้างจะเสร็จ
ประภัสร์แย้งตัดแบ่งทรัพย์สิน
กลับมาดูบทบาทผู้นำแห่งความหวัง "ประภัสร์ จงสงวน" ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ที่มาจากคนนอก เวลานี้ดูเหมือนจะเอนเอียงมาทางแนวคิดของ ม.เกษตรฯ ที่ให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้ปีก "ร.ฟ.ท." เหมือนเดิม แต่อาจจะต้องเขย่า 3 หน่วยธุรกิจใหม่ให้กระชับและคล่องตัวขึ้น
จึงไม่แปลกที่จะออกโรงโต้ข้อเสนอของเอดีบีว่า...เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ดูจากข้อเสนอให้แบ่งแยกทรัพย์สินและที่ดิน
"แนวคิดของผม รัฐต้องรับภาระหนี้ทั้งหมดอยู่แล้ว และเริ่มนับหนึ่งใหม่ ส่วนที่ดินรถไฟต้องดูแลเองและทำแบบเอกชนจริง ๆ อย่างในญี่ปุ่นนำที่ดินตลอดแนวเส้นทางรถไฟมาพัฒนาเพื่อสร้างเส้นทางใหม่ สร้างรายได้มหาศาล ไม่ใช่ยกให้กระทรวงการคลัง ยกให้กรมธนารักษ์ทำ ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหน สิ่งที่จะทำได้เร็วที่สุดคือลดค่าใช้จ่าย"
โครงสร้างใหม่สะดุด "คน-เงิน"
ตามแนวทางของ "ประภัสร์" ทำให้ต้องกลับมาเหลียวดูโครงสร้างใหม่ภายใต้ 3 หน่วยธุรกิจ เจ้าตัวบอกว่า ตลอด 2 ปียังไม่มีความคืบหน้าเพราะติดล็อกเรื่องคนและเงิน ซึ่งมติ ครม.เมื่อปี 2542 ห้ามเพิ่มคน เพราะฉะนั้นปี 2556 หากอยากแก้ปัญหาก็ต้องหาทางยกเลิกมติ ครม.เดิมก่อน แต่ผลกระทบคือปัจจุบันนี้ ร.ฟ.ท.ต้องบริหารจัดการภายใต้โครงสร้าง (ปัญหาเดิม ๆ) ไปก่อน
เพียงแต่ "ปัจจัยกดดัน" คือ ร.ฟ.ท.ถูกกำหนดให้เป็นเจ้าภาพรองรับแผนลงทุนระบบรางกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลเพื่อไทยจัดสรรไว้ให้ภายใต้เวลาที่จำกัด จึงถือได้ว่าผู้นำองค์กรอยู่บนทางสองแพร่ง ต้องชั่งน้ำหนักว่าอะไร...สำคัญกว่ากัน ระหว่างการแก้ปัญหาโครงสร้างรถไฟที่เรื้อรังมาร่วม 100 ปี กับภารกิจเร่งใช้เงินเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และระบบเศรษฐกิจของประเทศ
สิ่งที่ "ผู้ว่าการคนนอก" เรียกร้องจากคนในองค์กรคือ พนักงาน ร.ฟ.ท.ทุกระดับต้องสร้างความเชื่อมั่นให้คนภายนอกได้เห็นว่ามีศักยภาพและจะกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง ใช้ความรู้และความสามารถที่มีอยู่ให้ไปสู่เป้าหมายกลับมาเป็นองค์กรที่เคยเป็นที่ภาคภูมิใจอย่างในอดีต ต้องยืนอยู่ได้ด้วยขาของตัวเอง พร้อมกับสร้างมิติใหม่
ต้องจับตาดูว่า "เวลา" หรือ "ความพยายามของคนรถไฟ" อะไรจะเดินเร็วกว่ากัน
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44759
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 25/02/2013 8:57 pm Post subject:
รวบ 2 หนุ่มใต้คารถไฟ ลอบขนยาเกือบ10 ล้าน
เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 19:59 น.
จากการสืบทราบของ พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ ผบก.รฟ. ว่าจะมีพ่อค้าลักลอบนำยาเสพติดจากกรุงเทพลงสู่ภาคใต้มากับขบวนรถเร็ว ขบวนที่ 171 วิ่งระหว่างกรุงเทพ-สุไหงโกลก จนกระทั่งเวลา 19.00 น.วันที่ 25 ก.พ. จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วุฒิเทพ เพ็ญแสง สว.ส.รฟ.หัวหิน และ ร.ต.ต.ปรัชญา เศรษฐ์พงศ์กร รอง สว.ส.รฟ.หัวหิน นำกำลังเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมขณะรถไฟขบวนดังกล่าววิ่งเข้าชานชลาสถานีรถไฟหัวหิน จนมาถึงตู้นอนโบกี้ที่ 13 จึงเคาะห้องเรียก พบชาย 2 คน เมื่อเปิดประตูเห็นตำรวจถึงกลับหน้าซีดก่อนค้นภายในกระเป๋าสะพายถึงกลับตะลึง พบยาบ้าเม็ดสีส้มจำนวน 10 มัด ๆ ละ 2,000 เม็ด รวม 2 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ซุกซ่อนในถุงชาจีน 1 ถุง น้ำหนัก 1 กก. รวมมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท
จึงควบคุมตัวมาสอบสวนทราบชื่อว่า นายรัตนพลหรือบอล ศรียาภัย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/1 ม.3 ตงบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร และ นายสงัด เพ็งสว่าง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.3 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร โดยทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านั้นพากันไปเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ และรู้จักกับ นายนก ไม่ทราบนามสกุล โดยก่อนกลับ นายนกได้ฝากกระเป๋าสะพายให้บอกว่าจะตามไปรับที่ จ.ชุมพร โดยที่ตนไม่ทราบว่าภายในกระเป๋ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่จนกระทั่งถูกจับกุม อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อและคาดว่าทั้งคู่น่าจะเป็นแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ทำเป็นขบวนการ ซึ่งจะได้สืบหาตัวพรรคพวกที่เหลือต่อไป.
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44759
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/02/2013 4:47 pm Post subject:
ครม.อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย กู้เงินประจำปี 2556 จำนวน 58,000 ล้านบาท
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ 27 กุมภาพันธ์ 2556
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย กู้เงินประจำปี 2556 จำนวน 58,000 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน และพิจารณาวิธีการกู้ตามเงื่อนไขที่เหมาะสม
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งต่อที่ประชุม ขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนที่ได้ดำเนินการประหยัดพลังงาน จะเห็นได้จากการทำแผนต่าง ๆ และกำหนดมาตรการต่าง ๆ บ้างแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เกี่ยวกับความยั่งยืนของการใช้พลังงาน จึงขอให้ดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยต้องทำแผนและมาตรการระยะยาว การกำหนดแนวทางการใช้ไฟฟ้าอย่างเหมาะสม การรณรงค์ให้หน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจเห็นความสำคัญกับเรื่องนี้ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการใช้ผ้าไทยที่สอดรับกับการประหยัดพลังงาน ได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม พิจารณานำผ้าไทยมาออกแบบเป็นเครื่องแต่งกายให้กับรัฐมนตรี
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเล่าถึงการเยือนสาธารณรัฐเกาหลี ที่มีการหารือกับมาดามปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดี โดยเห็นพ้องกันที่จะเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุน ซึ่งประธานาธิบดีให้ความสนใจเรื่องการพัฒนาเด็ก สตรี และผู้สูงอายุ ทั้งนี้อาจเชิญประธานาธิบดีมาเยือนไทย ในเดือนพฤษภาคมนี้ จึงมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามลำดับต่อไป
ส่วนการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งยังเน้นการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งสนใจที่จะแลกเปลี่ยนกันด้านวิชาการ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของไทย พืชเกษตร นอกจากข้าวแล้วยังมีผลไม้ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และจากการเยี่ยมชมฮ่องกงสเตชั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงคมนาคมเหมือนกับแอร์พอร์ตลิ้งของไทย พบว่าสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางอย่างมาก ทั้งการเชื่อมต่อรถบัส รถไฟ สายการบิน รวมถึงความหลากหลายของร้านค้า ที่ต่างจากประเทศไทย จึงได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ไปจัดการศึกษาออกแบบการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะการเชื่อมต่อการเดินทางต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับแอร์พอร์ตลิ้งของไทย
ทั้งนี้จากการพบปะกับผู้แทนสมาคมนักท่องเที่ยวในฮ่องกง ได้ขอให้แก้ไขปัญหาการจราจรให้กับไทย โดยเฉพาะเมืองใหญ่ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทิศทางการรองรับตลาดนักท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ในอนาคต เพื่อให้เชื่อมโยงกับแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานว่าจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตได้อย่างไร มอบให้กระทรวงการต่างประเทศประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป สำหรับวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.56) นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีการหารือถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย และเรื่องการค้าการลงทุนด้วย
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยอนุมัติให้กรมคุมประพฤติ เช่ารถยนต์แบบรถตู้ปรับอากาศ เป็นจำนวนเงิน 33,900 บาทต่อคัน เป็นเวลา 5 ปี จำนวน 93 คัน ทั้งนี้เพื่อใช้นำตัวผู้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในระบบบังคับบำบัด ไปส่งยังสถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด จึงขออนุมัติเพิ่มอีก 4 ปี คือ ปี 2557 - 2560 รวมงบประมาณกว่า 37 ล้านบาท
กระทรวงการต่างประเทศ เสนอเกี่ยวกับการให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ซัมมิท ครั้งที่ 2 เป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องในปี 2558 ซึ่งจะจัดประชุมขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 12 มีนาคมนี้ โดยจะมีการประชุมระดับผู้นำในวันที่ 12 มีนาคม และให้ตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ประกอบด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อเตรียมพร้อมในการจัดประชุม ACD ครั้งที่ 2 และการประชุมที่เกี่ยวข้องในปี 2558
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ยังเห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนฉลองกรุง โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่แขวงลำผักชี เขตหนองจอก และแขลงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ที่ประชุม ยังพิจารณาตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติการกู้เงิน ประจำปีงบประมาณ 2556 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 58,000 ล้านบาท ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 มาตรา 39 วรรค 4 โดยให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกัน และพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดตามความเหมาะสม พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ รฟท. โดยมีสาระสำคัญในการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาลเพื่อให้ รฟท. กู้ต่อ 12,000 ล้านบาท คือ ระบบขนส่งมวลชนทางราง ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล สายสีแดง คือ บางซื่อ-หลักสี่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลอง 9-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง โครงการปรับปรุงทางที่ไม่ปลอดภัย 8 สาย โครงการติดตั้งรั้ว 2 ข้างทางตามแนวเขตรางรถไฟ และเงินกู้เพื่อใช้ดำเนินการตามระบบขนส่งรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตเรียลลิ้ง) จำนวน 1,280 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนเงินกู้ทั่วไป เช่น แก้ไขการขาดสภาพคล่อง หรือเงินกู้เพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ เช่น รถไฟ รถเมล์ฟรี รวมทั้งแผนปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 17,000 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณเห็นควรที่จะอนุมัติผ่านคณะรัฐมนตรี จำนวน 45,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 13,000 ล้านบาท จะได้รับการชำระเงินที่กู้กลับเข้ามา จึงจะนำเงินส่วนดังกล่าวไปเพิ่มเติมเพื่อให้ครบตามจำนวนที่ รฟท.เสนอเข้ามา
Back to top