ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

ครั้งแรก "Exporail" อุตสาหกรรมระบบรางหนุนไทยเป็นฮับอาเซียน
หน้าคมนาคม-ลอจิสติกส์
สยามธุรกิจ
ฉบับที่ 1412 ประจำวันที่ 19-21 มิถุนายน พ.ศ. 2556
2013-06-19 ถึง 2013-06-21]

งานแสดงสินค้า "Exporail South East Asia Thailand 2014" ที่จะมีขึ้นในวันที่ 12-14 มีนาคม 2557 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ นั้น ถือเป็นการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับอุปกรณ์ระบบราง และรถไฟความเร็วสูง จัดโดย บริษัท แม็ก บรูกส์ เอ็กซิบิชั่นส์ ผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ประเทศอังกฤษ

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นความรู้และแนวทางการศึกษาด้านการจัดงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีทางด้านรถไฟจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ เพื่อสนับสนุนแผนงานในการปรับปรุงโครงสร้างและขยายเครือข่ายรถไฟของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่บริษัทที่มุ่งเน้นในอุตสาหกรรมการรถไฟในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีการลงทุนในส่วนของโครงการพัฒนารถไฟในแต่ละประเทศที่จะเชื่อมกับส่วนต่อขยายของรถไฟความเร็วสูงที่จะวิ่งจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน ส่งผลให้เกิดการแข่งขันและเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความมั่นใจในการที่จะร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของโลกในด้านระบบรางและการให้บริการที่ดีที่สุดในโลกด้วย

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า งานนี้เป็นงานที่เกี่ยวกับระบบรางและรถไฟฟ้าความเร็วสูงซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยและอีก 9 ประเทศสมาชิกในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนจะรวมกันเป็นตลาดขนาดใหญ่อันเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก โดยประเทศไทยถือได้ว่าอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ดี และมีตำแหน่งเป็นจุดศูนย์กลางในด้านการคมนาคมขนส่งของภูมิภาค ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพของระบบการขนส่งในด้านระบบรางเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบขนส่งนั้น จะช่วยอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการเติบโตของ เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้

"ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ทีเส็บได้พัฒนางานด้านกลยุทธ์และส่งเสริมการตลาด เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ผ่านกิจกรรมการตลาดต่างประเทศและแคมเปญต่างๆ ของทีเส็บ เพื่อดึงกลุ่ม ผู้เข้าชมงาน และการประชาสัมพันธ์งานผ่านเครือข่ายและตัวแทนของ ทีเส็บในต่างประเทศ รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดหวังว่างานนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเจรจาทางการค้าสำหรับหน่วยงานธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ที่ช่วยตอบสนองต่อความต้องการด้านการคมนาคมขนส่งระบบรางของภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดีและสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ในระดับมหภาค"

ด้านนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและลอจิสติกส์ของประเทศเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนด้านคมนาคมเพื่อช่วยในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยการรถไฟฯมีหน้าที่ในการบริหารเกี่ยวกับระบบรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ทั้งนี้ การรถไฟฯได้เริ่มสำรวจพื้นที่และเส้นทางโครงการที่กำลังจะก่อสร้าง ศึกษาผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมใกล้เคียง รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาดูงานเกี่ยวกับทางด้าน Exporail ในประเทศอื่น ทำให้ทราบถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆทางระบบราง ซึ่งการจัดงานนี้ ถือเป็นงานที่รวบรวมสินค้าด้านเทคโนโลยีรถไฟและการให้บริการทางด้านระบบรางในระดับนานาชาติ ส่งผลให้เกิดประโยชน์และโอกาสที่ดีแก่องค์กรต่างๆในอุตสาหกรรมรถไฟที่จะทราบถึงแนวโน้มของนวัตกรรม ด้านระบบรางและรถไฟความเร็วสูง รวมถึงการเข้าร่วมประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านนี้อีกด้วย

ด้านนายยงสิทธ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า รฟม.มีหน้าที่ในการดูแลและให้บริการขนส่งมวลชนด้วยระบบรถไฟฟ้า และมีศักยภาพพร้อมในการเป็นตัวกลางเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางภายในประเทศในทุกภูมิภาค และยังสามารถเชื่อมเส้นทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งช่วยในการรองรับการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาคเอเชีย โดยการจัดงานนี้ถือเป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการด้านระบบรางที่ทันสมัย มีส่วนช่วยให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของระบบราง และรถไฟความเร็วสูง อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะมีโอกาสศึกษาและเลือกผู้ที่จะให้คำแนะนำดูแลในเรื่องของการสร้างและให้บริการระบบราง เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการขนส่งของประเทศ และเป็นเครื่องมือช่วยในการเสริมสร้างการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ

ขณะที่ นายไมเคิล วิลตัน ผู้อำนวยการ งานแสดงสินค้า Exporail South East Asia Thailand 2014 กล่าวว่า การจัดงานนี้เป็นการจัดงานแสดงสินค้าทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบและอุปกรณ์ทางด้านระบบรางและรถไฟความเร็วสูง รวมถึงการให้บริการทางด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยจัดงานที่ประเทศอังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส อินเดีย และรัสเซีย ซึ่งประสบความสำเร็จในการจัดงานเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศเหล่านี้เน้นการเชื่อมต่อทางด้านระบบคมนาคมในส่วนของรางและรถไฟความเร็วสูงเพื่อสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ดี การจัดงาน Exporail South East Asia Thailand 2014 ถือเป็นการจัดงานครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทางบริษัท แม็ก บรูกส์ ได้เลือกจัดงานในประเทศไทยเนื่องจาก ประเทศไทยมีศักยภาพและพร้อมในการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่จะเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย และปี 2558 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะร่วมกันเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลให้การคมนาคมระบบรางมีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เล็งเห็นถึงศักยภาพและความสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะเติบโตและกลายเป็นภูมิภาคที่มีความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต

[alderwood]

“ชัชชาติ” ขันนอต ร.ฟ.ท.จี้สรุปความคืบหน้าโปรเจกต์ใน 2 ล้านล้าน รายงาน “นายกฯ ปู”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มิถุนายน 2556 14:32 น.

“ชัชชาติ” สั่ง ร.ฟ.ท.เร่งสรุปความก้าวหน้าโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟสายใหม่ในวงเงินลงทุน 2 ล้านล้าน พร้อมเร่งรัดซื้อหัวจักรใหม่ด้วย เผยเตรียมรายงาน “ยิ่งลักษณ์” ในสัปดาห์หน้าก่อนเผยแพร่สาธารณชน ชี้แผนปรับปรุงรถไฟ 1.76 แสนล้านได้งบเพียง 4.4 หมื่นล้าน ที่เหลือรอ พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน ซึ่งล่าสุดปรับกรอบวงเงินใหม่ ทางคู่ค่าก่อสร้างขยับเพิ่ม

นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการของ ร.ฟ.ท.ภายใต้งบแผนการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. 2556-2563 วงเงิน 1.76 แสนล้านบาท พร้อมกับเร่งรัดให้ ร.ฟ.ท. สรุปข้อมูลความก้าวหน้าและรายละเอียดโครงการต่างๆ เพื่อรายงานความก้าวหน้าให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบว่าแต่ละโครงการดำเนินการถึงขั้นตอนใดในสัปดาห์หน้า

โดย รมว.คมนาคมมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) รวบรวมข้อมูลจาก ร.ฟ.ท.เพื่อคัดกรองข้อมูลให้พร้อมเพื่อนำเผยแพร่สู่สื่อมวลชนและสาธารณชนได้ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะโครงการภายใต้งบ 1.76 แสนล้านบาทนั้น เบื้องต้น ร.ฟ.ท.ได้รับงบประมาณกว่า 4.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ส่วนโครงการที่เหลือถูกจัดเข้าไปอยู่ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท นอกจากนั้น รมว.คมนาคมยังได้ติดตามโครงการจัดซื้อหัวรถจักรส่วนที่เหลือว่าจะจัดซื้อได้เมื่อใด รวมถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และทางรถไฟสายใหม่

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า การปรับลดวงเงินโครงการของ ร.ฟ.ท.ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทล่าสุดจะอยู่ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน โดยมีทั้งการปรับเพิ่มและปรับลดวงเงิน ประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง คือ 1. เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร ปรับลดจาก 17,683 ล้านบาทเหลือ 17,292 ล้านบาท 2. เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร ปรับลดจาก 20,833 ล้านบาทเหลือเพียง 19,911 ล้านบาท 3. เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร ปรับเพิ่มจาก 21,196 ล้านบาท เป็น 29,855 ล้านบาท เนื่องจากปรับการก่อสร้างเป็นอุโมงค์คู่ 4. เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 183 กิโลเมตร ปรับลดจาก 29,221 ล้านบาท เหลือ 26,007 ล้านบาท และ5. เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร ปรับเพิ่มจาก 16,215 ล้านบาท เป็น 24,842 ล้านบาท เนื่องจากกรณีก่อสร้างสะพานยกระดับทางเลี่ยงเมืองเพิ่ม

นอกจากนั้นยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กิโลเมตร ปรับเพิ่มจาก 77,275 ล้านบาท เป็น 77,485 ล้านบาท, โครงการก่อสร้างรถไฟช่วงบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 347 กิโลเมตร ปรับเพิ่มจาก 42,106 ล้านบาท เป็น 42,419 ล้านบาท และโครงการรถไฟสายบ้านภาชี-อ.นครหลวง ระยะทาง 23 กิโลเมตร ปรับลดจาก 4,546 ล้านบาท เหลือ 2,934 ล้านบาท ซึ่งทุกโครงการได้ออกแบบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการจัดทำเอกสารประกวดราคาเพื่อเตรียมเปิดประมูลเท่านั้น
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

[Wisarut]

การรถไฟฯใช้ไม้แข็งตัดโบกี้รถไฟไม่ให้สมัชชาคนจนเข้ากรุง(ชมคลิป)

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30
30 มิถุนายน 2556 20:22 น.


อุบลราชธานี-ตัวแทนชาวบ้านสมัชชาคนจนประมาณ 50 คน รวมตัวขึ้นรถไฟเที่ยวเย็นไปทวงสัญญากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ปฏิบัติตามข้อตกลงคือ ตั้งกรรมการระดับชาติขึ้นมาแก้ปัญหาให้เด็ดขาด และเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล คืนความสมดุลให้ธรรมชาติ แต่สุดท้ายการรถไฟสั่งตัดตู้โดยสารที่กลุ่มสมัชชาคนจนขึ้นนั่ง เพราะไม่ยอมซื้อตั๋ว ทำให้ต้องรอไปรถไฟฟรีในเช้าวันรุ่งขึ้นแทน

ที่สถานีรถไปอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ตัวแทนชาวบ้านสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูลประมาณ 50 คน นำโดย น.ส.สมภาร คืนดี มารวมตัวขึ้นรถไฟฟรีขบวนเวลา 16.50 น. มุ่งหน้าเข้าไปทำเนียบรัฐบาลพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ เพื่อทวงถามมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2556 ให้ยกเลิกคณะกรรมการระดับจังหวัดชุดเก่า และตั้งคณะกรรมการระดับชาติแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนเมื่อ 24 ปีก่อน แต่ปรากฏไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่เวลาได้ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว

รวมทั้งให้รัฐบาล สั่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปฏิบัติตามมติ ครม.เมื่อปี 2545 ให้เปิดประตูระบายน้ำเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึงวันที่ 1 ตุลาคมทุกปี เพื่อให้ปลาจากแม่น้ำโขงว่ายขึ้นมาวางไข่ในวังปลาของแม่น้ำมูล และปรับความสมดุลทางธรรมชาติสิ่งแวดล้อมของลุ่มน้ำ

แต่ขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยังไม่ปฏิบัติตามมติดังกล่าว ยังคงปิดประตูระบายน้ำ เพื่อปั่นกระแสไฟฟ้า ทำให้มีกอสวะผักตบชวาตกค้างอยู่ในแม่น้ำมูลจำนวนมาก รวมทั้งแม่พันธุ์สัตว์น้ำจากแม่น้ำโขงได้มารวมตัวที่บริเวณประตู เพื่อรอการขึ้นมาวางไข้ตามฤดูกาล หากไม่ปฏิบัติตามจะเกิดผลเสียต่อระบบนิเวศวิทยาของลุ่มน้ำทั้งสายน้ำด้วย

เมื่อกลุ่มชาวบ้านสมัชชาคนจนมาถึงได้เข้าประสานกับนายสงกรานต์ ดิษฐอั่ง ผู้ช่วยวารวัตรเดินรถไฟอุบลราชธานี ซึ่งได้รับการปฏิเสธไม่สามารถจัดตู้โดยสารรถไฟฟรีให้ได้ตามที่กลุ่มสมัชชาคนจนเรียกร้อง และต้องซื้อตัวใช้เดินทางคนละ 205 บาท หากไม่ซื้อตั๋วจะถูกปรับเพิ่มอีกคนละ 250 บาท รวมเป็นเงินคนละ 455 บาท

แต่กลุ่มสมัชชาคนจนยืนยันว่า ได้ทำหนังสือแจ้งให้การรถไฟทราบตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ต้องการใช้บริการรถไฟฟรีที่รัฐบาลจัดให้ประชาชน จึงรวมตัวขึ้นไปอยู่บนโบกี้โดยสารตู้ที่ 3

ต่อมาเจ้าหน้าที่การรถไฟได้มาเรียกผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในตู้ด้านหลังประมาณ 100 คน ให้มาขึ้นตู้โดยสารด้านหน้าที่ยังว่าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มาตัดตู้โดยสารที่กลุ่มสมัชชาคนจนนั่งอยู่ รวมทั้งตู้เปล่าอีก 3 ตู้ทิ้ง แล้วจึงออกรถไปในช่วงเย็นวันเดียวกัน

ส่วนกลุ่มสมัชชาคนจน ยังยืนยันจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปเรียกร้องกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งจะไปกับรถไฟฟรีเที่ยวเช้าเวลา 08.40 น.วันรุ่งขึ้น เพราะไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารคนอื่น หากเข้ายึดขบวนรถไฟที่เหลืออีก 1 ขบวนที่จะออกจากสถานีในค่ำวันเดียวกันนี้

[alderwood]

ข่าวก็นะ ขบวน 142 เที่ยวเวลา 16:50 ไม่ใช่รถไฟฟรีนะครับ เขียนไปได้ว่าฟรีเห้อ...
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

[Wisarut]

ร.ฟ.ท.จับมือกบข.จัดทริปเที่ยวทั่วไทย
มติชน
วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11:55:22 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. จัดทำ "รถโบกี้พิเศษจัดเฉพาะวีไอพี" และ "รถโบกี้ท่องเที่ยวพิเศษ" ซึ่งปรับปรุงมาจากตู้รถไฟ เจอาร์ เวสต์ ให้เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมและสัมมนา โดยเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องครัว / ห้องน้ำ / ห้องพักส่วนตัว และคาราโอเกะ เพื่อให้บริษัทเอกชน / หน่วยงานราชการ และประชาชนทั่วไป เช่าจัดกิจกรรมต่างๆระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

นายสิทธิชัย พรหมลา รองผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การจัดทำรถโบกี้พิเศษครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมให้ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ พาหนะที่ปลอดภัยและประหยัดที่สุด ซึ่งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือ ททท. แล ร.ฟ.ท. จะใช้บริการทริปแรกกับโครงการ "ทัวร์รถไฟสุขใจกับ กบข." ใน 3 เส้นทางท่องเที่ยวหลัก คือ กาญจนบุรี / หัวหิน และเชียงใหม่ เพื่อเป็นหนึ่งในสวัสดิการให้กับสมาชิก กบข.

[Wisarut]

กองถ่ายเรื่อง ฟ้าจรดทรายเช่ารถจักรไอน้ำ เข้าฉาก

[Wisarut]

นั่งรถไฟไปสิงคโปร์
โดย RosepThawichit
OK Nation
5 กรกฎาคม 2556
07:26:34 น.

รายนี้ผ่านไปทางตุมปัต ถึงยะโฮห์เซนทรัลแล้วต่อรถเข้าด่านวูดแลนด์แฮะ

[Wisarut]

ร.ฟ.ท.เร่งพัฒนา-ปรับปรุงรถไฟไทยให้แล้วเสร็จภายในปี 58
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18
18 กรกฎาคม 2556 09:14 น.

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวถึงแนวทางการพัฒนารถไฟไทยภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายเริ่มมองเห็นความสำคัญและความจำเป็นของการบำรุงรักษาตัวรถไฟและรางรถไฟ โดยทุกรัฐบาลที่ผ่านมาได้สนับสนุนเงินงบประมาณในการเปลี่ยนหมองรางรถไฟ รวมทั้งรางรถไฟทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2558 ที่สำคัญคือ หากได้รับงบประมาณจาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็จะสามารถเดินหน้าสร้างรถไฟรางคู่ได้ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้การเดินรถไม่ประสบกับปัญหา หากเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกราง
นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมที่จะซื้อหัวรถจักรใหม่ รวมทั้งสิ้นกว่า 70 หัวรถจักร รวมทั้งยังสั่งซื้อตู้โดยสารอีก 115 ตู้ และการสั่งซื้อแคร่บรรทุกสินค้าอีก 300 กว่าแคร่ เพื่อพัฒนารถไฟไทยให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต

[Wisarut]

หยุดยาวเข้าพรรษา รถไฟสายใต้แน่นทุกขบวน (ชมคลิป)

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20
20 กรกฎาคม 2556 13:57 น.

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รถไฟสายใต้แน่นประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษา

วันนี้ (20 ก.ค.) บรรยากาศที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และออกไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ในช่วงวันหยุดยาว 4 วันเทศกาลเข้าพรรษา นายประเมิน เสรีรักษ์ หัวหน้าหน่วยบริหารขายตั๋วหาดใหญ่ เปิดเผยว่า รถไฟสายใต้เส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งขาไป และขากลับถูกจองเต็มตั้งแต่วันที่ 20-23 กรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินทางหนาแน่นมากที่สุด

โดยเฉพาะรถนอนชั้น 1 ถูกจองเต็มล่วงหน้ามากว่าสัปดาห์ เช่นเดียวกับขบวนรถท้องถิ่นในภาคใต้ที่ออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ ไปยังภาคใต้ตอนบน และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีประชาชนใช้บริการแน่นทุกขบวน เพื่อเดินทางกลับบ้านไปร่วมทำบุญในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา แต่ไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างแต่อย่างใด

[Wisarut]

คัดผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะถูก ดี รัฐได้ประโยชน์
เดลินิวส์
วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2556 เวลา 19:50 น.

คมนาคมเตรียมคัดเลือกผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะมีคุณภาพ-ค่าบริการราคาถูก รัฐได้ประโยชน์สูงสุด โครงการแรกนำร่องบริการขนถ่ายสินค้าในสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับรูปแบบการคัดเลือกผู้ประกอบการที่จะให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะ เช่น ผู้ประกอบการท่าเรือ จะต้องคัดเลือกจากผู้ยื่นข้อเสนอราคาที่เสนอจัดเก็บค่าบริการต่ำที่สุด จากเดิมที่คัดเลือกจากผู้ยื่นข้อเสนอที่เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้รัฐสูงสุด เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการใช้บริการท่าเรือ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับข้อเสนอของภาคเอกชน

สำหรับโครงการแรกที่น่าจะใช้รูปแบบการคัดเลือกนี้คือ การคัดเลือกผู้ใช้บริการขนถ่ายสินค้าในสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมของจำนวนผู้ประกอบการว่าควรมีจำนวนเท่าใด เนื่องจากเดิมมี 6 ราย อาจจะให้มี 6 รายเท่าเดิม หรือลดจำนวนลง เพื่อให้การบริการมีประโยชน์สูงสุด

“หากมี 6 ราย จะมีประโยชน์ในเรื่องการแข่งขันให้บริการ แต่จะมีปัญหาเรื่องการลงทุนที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการบริหารงานที่ไม่เป็นอันหนึ่งเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเร่งรัดตัดสินใจให้ชัดเจน เพราะถือว่าเป็นปัญหาล่าช้ามานาน”

ส่วนการขนส่งทางรางไปยังไอซีดีลาดกระบังนั้น จะเชื่อมโยงกับโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟภายในท่าเรือแหลมฉบัง วงเงินประมาณ 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้การขนส่งทางรางมีความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น เบื้องต้นการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จะเป็นผู้ลงทุนบริหารจัดการโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟภายในท่าเรือแหลมฉบังเอง