RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311296
ทั่วไป:13273384
ทั้งหมด:13584680
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 308, 309, 310 ... 474, 475, 476  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/03/2018 11:26 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ระทึก!EODพัทลุงตรวจกระเป๋าต้องสงสัยวางในสถานีรถไฟ
INN News 7 มีนาคม 2018


ระทึกอีโอดีตรวจกระเป๋าถูกวางทิ้งหน้าสถานีรถไฟพัทลุง เปิดดูพบมีเสื้อผ้า และเอกสาร
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 7 มีนาคม 2561 19:09:
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/03/2018 11:33 am    Post subject: Reply with quote

Appleich wrote:
New locomotives and rolling stocks procurement planned:
Making trains locally 'could save B100bn'
Buy domestic for new rail projects, govt told


Thodsapol Hongtong and Om Jotikasthira | Bangkok Post | 8 Mar 2018 at 6:41

...

State Railway of Thailand (SRT) deputy governor Thanongsak Pongprasert said the country needs to procure 81 locomotives, 949 passenger carriages and 988 diesel trains to replace the old fleet that will gradually decommissioned by 2027. To do this the SRT would need to spend 65 billion baht importing them, he said.


Thai version:
แนะรัฐต่อยอดงานวิจัยการผลิตชิ้นส่วน หนุนอุตฯ ในประเทศผลิตเองลดต้นทุนระบบราง
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 17:01:
ปรับปรุง: วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 17:12:




นักวิชาการ-เอกชนไทยผนึกแนวคิดเสนอรัฐต่อยอดงานวิจัยการผลิตเครื่องมือ อุปกรณ์ก่อสร้างและซ่อมบำรุงระบบราง รองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไทยเพื่อลดต้นทุนในระยะยาว พร้อมโชว์รถตรวจทางรถไฟต้นแบบพัฒนาโดยคนไทยต้นทุนต่ำกว่านำเข้าหลายเท่าตัว ในงาน RAIL Asia Expo 2018

รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค. 2561 ซึ่งจะมีการจัดการประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการ อุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 4 และ RAIL Asia Expo 2018 (The 4th Thai Rail Industry Symposium and Exhibition (RISE) and RAIL Asia Expo 2018) หรือ The 4th RISE Symposium & RAIL Asia Expo 2018 ณ สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ มักกะสัน ซึ่งจะมีการประชุมทางวิชาการนำเสนองานวิจัย แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของงานแสดงสินค้าด้านระบบรางให้นักลงทุนระบบรางทั่วโลกได้รับทราบถึงนโยบายการพัฒนาระบบรางของรัฐบาลไทยในปัจจุบันที่มีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีหน่วยงานภาครัฐ ผู้ให้บริการเดินรถ ผู้ผลิตเทคโนโลยีระบบ อุปกรณ์ มาร่วมแสดงผลงานอย่างเต็มรูปแบบ

นายดิสพล ผดุงกุล นายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลมีแผนลงทุนพัฒนาระบบรางจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้อุตสาหกรรมของไทยที่เป็นงานต่อเนื่องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวได้มีการพัฒนาและพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งระบบรถไฟฟ้าทั้งตัวรถ และการซ่อมบำรุงที่ผ่านมายังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีต่างประเทศ แต่โครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นคาดว่าจะมีการสนับสนุนวิศวกรไทย รวมถึงอุตสาหกรรมไทยในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมมากขึ้น และจะเป็นการช่วยลดต้นทุนโครงการเพื่อจะสะท้อนไปที่อัตราค่าโดยสารของระบบรางที่ต่ำลง

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บริหารแผนงานวิจัยที่ใช้ประโยชน์ได้จริงในด้านการคมนาคมระบบรางและตรงตามความต้องการของประเทศ ซึ่งในปีนี้ได้มีการนำเสนองานวิจัยเรื่อง “การพัฒนารถยนต์รางขนาดเบาวิ่งบนรางรถไฟมิเตอร์เกจหรือถนน” ซึ่งเป็นรถตรวจสภาพทางที่สามารถวิ่งได้ทั้งถนนและรางรถไฟขนาด 1 เมตร ซึ่งปัจจุบันต้องซื้อจากต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ราคา 30-50 ล้านบาท ตามแต่อุปกรณ์และขอบเขตของการใช้งาน ซึ่งรถตัวอย่างนี้หากมีการพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ล้านบาท

สำหรับรถตรวจสภาพทางตัวอย่างพัฒนาโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิโรฏฐ์ สุคนธนกานต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น โดยนำรถปิกอัพมาติดระบบล้อขับเคลื่อนบนราง เบื้องต้นจะใช้เป็นรถขนอุปกรณ์ซ่อมทางรถไฟ สามารถวิ่งได้บนถนนและรางรถไฟ ต้นทุนเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าตัวรถ 1 ล้านบาท ค่าอุปกรณ์ 6 แสนบาท วิ่งบนรางที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ในอนาคตสามารถต่อยอดอุปกรณ์ที่จะใช้งานเพิ่มเติมเพื่อเป็นรถอเนกประสงค์ได้

ด้าน นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะประธานงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการฯ กล่าวว่า ปีนี้โครงการระบบรางในประเทศจะมีการประมูลและจัดซื้อจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นโอกาสในการนำเสนอแผนงานและแนวคิดต่อผู้ผลิต ผู้ให้บริการเดินรถของภาครัฐและเอกชน และคู่ค้านักลงทุนระดับภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “อนาคตระบบรางของอาเซียน” โดยไทยมีแผนลงทุนทั้งรถไฟความเร็วสูง การขนส่งในเขตเมือง ขนส่งรูปแบบใหม่ในเขตเมืองของจังหวัดขอนแก่น ภูเก็ต นครราชสีมา และเชียงใหม่ รวมถึงการลงทุนโครงการในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC มูลค่า 22,500 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย

นายเดวิด เอ็ทคิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด เปิดเผยว่า งาน The 4th Thai Rail Industry Symposium and Exhibition (RISE) and RAIL Asia Expo 2018 ในปีนี้เป็นการผนึกงาน RAIL Asia Expo ครั้งที่ 6 และงาน RISE การประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 4 สองงานใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน เป็นงานแสดงนิทรรศการเทคโนโลยีรถไฟ และรถไฟใต้ดินใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะรวบรวมผู้ผลิตเทคโนโลยีด้านรถไฟ รถไฟใต้ดิน ผู้รับเหมา ระบบราง ผู้ให้บริการระบบรถไฟ ระบบไอที การสื่อสาร อาณัติสัญญาณ อุปกรณ์ในสถานี ระบบความปลอดภัย ฯลฯ ผู้ผลิตต่างประเทศชั้นนำทั้งจากยุโรป, อเมริกา, เอเชีย มาจัดแสดงในงาน โดยมีบริษัทที่เข้าร่วมงานและตัวแทนจำหน่ายถึง 120 บริษัทจากทั่วโลก มีผู้เกี่ยวข้องผู้ผลิต ผู้ให้บริการเดินรถ ที่ปรึกษา ผู้รับเหมา นักลงทุน วิศวกร กว่า 1,000 ราย คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานถึง 3,000 คน

ในปีนี้ได้รับความสนใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่วงการขนส่งระบบรางจากทั่วโลก เช่น บอมบาร์เดีย, ชไนเดอร์, ซีเมนส์, ซีอาร์เอสซี และวอร์สทอนไพน์ มีพาวิเลียนจากสหราชอาณาจักร จีน และเกาหลี จะนำเทคโนโลยีล่าสุด นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมนี้มาแสดงรองรับเมกะโปรเจกต์ระบบรางของไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 08/03/2018 12:15 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Appleich wrote:
New locomotives and rolling stocks procurement planned:
Making trains locally 'could save B100bn'
Buy domestic for new rail projects, govt told


Thodsapol Hongtong and Om Jotikasthira | Bangkok Post | 8 Mar 2018 at 6:41

...
แนะรัฐต่อยอดงานวิจัยการผลิตชิ้นส่วน หนุนอุตฯ ในประเทศผลิตเองลดต้นทุนระบบราง
โดย: MGR Online
เผยแพร่: วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 17:01:
ปรับปรุง: วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561 17:12:


รถวิ่งได้บนรางและถนน
พฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2561 เวลา 09.27 น.
เปิดงานวิจัยพัฒนารถยนต์วิ่งบนราง-ถนน ใช้ตรวจราง ซ่อมรางรถไฟ คันละ 3-5 ล้าน ชี้หากนำเข้าจากต่างประเทศราคา 30-50 ล้านบาท สมาคมวิศวกรรมฯ เล็งดันคมนาคมอุดหนุนผลงานวิจัยคนไทย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. บริษัท เอเซีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด แถลงข่าวจัดงานประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการ อุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางไทย ครั้งที่ 4 และRAIL Asia Expo 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28-29มี.ค.61 ณ สถานีรถไฟฟ้า แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มักกะสัน โดยนายดิสพล ผดุงกุล นายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย กล่าวว่า ไฮไลท์งานนี้อยู่ที่การส่งมอบงานวิจัยเรื่อง การพัฒนารถยนต์รางขนาดเบาวิ่งบนรางรถไฟมิเตอร์เกจ หรือถนน ของ ผศ.ดร.วิโรฏฐ์ สุคนธนการนต์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

นายดิสพล กล่าวต่อว่า รถยนต์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ตรวจรางรถไฟ เพื่อนำไปสู่การซ่อมบำรุง โดยนำรถกระบะมาติดตั้งอุปกรณ์ล้อยาง สามารถวิ่งได้ทั้งบนรางรถไฟขนาด 1 เมตร และบนถนนได้ ราคาอยู่ที่คันละ 3-5 ล้านบาท หากนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาอยู่ที่คันละ 30-50 ล้านบาท วิ่งได้เฉพาะบนรางรถไฟเท่านั้น ไม่สามารถวิ่งบนถนนได้ อย่างไรก็ตามตนจะพยายามผลักดันให้กระทรวงคมนาคม จัดซื้อเทคโนโลยีจากงานวิจัยที่คนไทยผลิตขึ้นมาใช้เองภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางจำนวนมาก จึงอยากเห็นอุตสาหกรรมระบบรางพึ่งพาตัวเองได้ สามารถซ่อมบำรุงได้โดยใช้ความสามารถของคนไทย

ด้านนายบุญเลิศ ตันติวิญญูพงศ์ หัวหน้าสำนักงาน บริหารโครงการระบบรถไฟฟ้า รฟท. กล่าวว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางหยุดพัฒนาไป60 ปี เมื่อคำนวณการลงทุนทางระบบราง100 บาท ต้องเสียเงิน 60-70 ให้กับค่าซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามแม้งานนี้จะมีบริษัทจากต่างประเทศเข้ามาร่วมแสดงผลงานผ่านนิทรรศการต่างๆ แต่ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นต่างประเทศอย่างชัดเจน เช่น บริษัท บอมบาร์เดีย มีสาขาอยู่ทั่วเอเชีย มีวิศวกรไทยทำงานอยู่ประมาณ 400 คน เป็นต้น

นายเดวิท เอ็ทคิ่น กรรมการผู้จัดาร บริษัท เอเซีย เอ็กชิบิทชั่นฯ กล่าวว่า ภายในงานจะมีการจัดแสดงนิทรรศการรถไฟที่ใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งเป็นการรวมตัวผู้ผลิตเทคโนโลยีด้านรถไฟ และรถไฟใต้ดิน ผู้รับเหมา ระบบราง ผู้ให้บริการระบบรถไฟ ระบบไอที การสื่อสาร อาณัติสัญญาณ อปุกรณ์สถานี ระบบความปลอดภัย จากผู้ผลิตต่างประเทศ ทั้งจากยุโรป อเมริกา และเอเชียมาจัดแสดง รวมกว่า 120 บริษัท คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 3,000 คน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 12/03/2018 6:14 pm    Post subject: Reply with quote

นั่งรถไฟไป “ลพบุรี” เยือนราชธานีแห่งที่ 2 สมัยพระนารายณ์
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 12 มี.ค. 2561 14:19:
Facebook :Travel @ Manager


ช่วงนี้กระแสเที่ยวตามรอยละคร “บุพเพสันนิวาส” ก็ทำให้แหล่งท่องเที่ยวหลายๆ ที่คึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีหลายๆ ฉากปรากฏอยู่ในเรื่อง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใส่ชุดไทยเดินชมสถานที่ต่างๆ หลายจุด

แต่ต้องบอกเลยว่าในละครนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ที่อยุธยาเท่านั้น แต่ยังมีฉาก “เมืองละโว้” หรือ “ลพบุรี” ปรากฏอยู่ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าเพื่อความอินเทรนด์ไปกับชาวบ้านชาวเมือง เราก็ต้องมาตามรอยละครดังกันที่ “ลพบุรี” แห่งนี้ด้วย

แต่ครั้นจะให้ขับรถมาเที่ยวก็ดูจะธรรมดาไป เลยขอเลือกการนั่งรถไฟฉึกฉักจากกรุงเทพฯ ตรงมาที่ลพบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะมาถึงสถานีรถไฟลพบุรี ที่มีรูปปั้นลิงสีทองเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นให้สังเกต

ใครที่ใช้บริการรถไฟ หรือรถสาธารณะอื่นๆ มาเที่ยวที่ตัวเมืองลพบุรี ถ้ามีกำลังวังชา ก็สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ เพราะแต่ละจุดท่องเที่ยวนั้นอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก แต่ถ้ากลัวจะเหนื่อยเกินไป ก็มีรถรับจ้างให้ใช้สอยกันได้

ลงจากรถไฟแล้ว ที่อยู่ติดกับสถานีก็คือ “วัดบันไดหิน” ที่ปัจจุบันเป็นวัดร้าง หลงเหลือเพียงผนังอุโบสถอยู่เกือบครบทั้งสี่ด้าน ลักษณะของประตูหน้าต่างเป็นแบบโค้งแหลม ด้านหลังมีเจดีย์ขนาดใหญ่ โดยสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช


ใกล้กับวัดบันไดหินก็จะเป็น “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” วัดหลวงขนาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางความศักดิ์สิทธิ์ของเมือง ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่ได้มีการปฏิสังขรณ์ในหลายสมัย เช่น สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยุคกรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยุครัตนโกสินทร์ เป็นต้น

หากมองมาที่วัด จะเห็นความงามที่ยังหลงเหลืออยู่ของวิหารหลวงที่ตั้งอยู่ด้านหน้า สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และที่ด้านหลัง มีพระปรางค์ประธานองค์ใหญ่ที่สุดในลพบุรี เดิมคาดว่าจะสร้างตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ แต่มีการซ่อมแซมหลายสมัย จึงทำให้เห็นลวดลายต่างๆ ปะปนกันไป

และเมื่อมาถึงเมืองลพบุรี ก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปเยือนหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนี้ นั่นคือ “ศาลพระกาฬ” และ “พระปรางค์สามยอด”

“ศาลพระกาฬ” ตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟลพบุรีเช่นกัน โดยที่นี่เป็นเหมืองวงเวียนกลางเมือง เดินเข้าไปใกล้ๆ ก็จะได้เจอกับฝูงลิงเจ้าถิ่นที่กระจายตัวอยู่รอบๆ ใครมาที่ลพบุรีก็ต้องแวะมาสักการะเจ้าพ่อพระกาฬ สันนิษฐานว่าเป็นเทวรูปพระนารายณ์ทำด้วยศิลา มี 2 องค์ คือ องคเล็กเป็นแบบเทวรูปเก่าในประเทศไทย และองค์ใหญ่เป็นประติมากรรมแบบลพบุรี บริเวณทับหลังที่สร้างด้วยศิลาทรายสลักเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์วางติดกับผนังวิหารหลังเล็กชั้นบน

จากศาลพระกาฬ ข้ามถนนมาก็จะเป็น “พระปรางค์สามยอด” ลักษณะเป็นพระปรางค์เรียงต่อกันสามองค์ มีฉนวนทางเดินเชื่อมต่อกัน โดยองค์พระปรางค์นี้เป็นศิลปะเขมรแบบบายน สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 18 สร้างด้วยศิลาแลงและตกแต่งลวดลายปูนปั้นสวยงาม เดิมนั้นน่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวสถานของขอมในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ต่อมาดัดแปลงเป็นเทวสถาน โดยมีฐานศิวลึงค์ปรากฏอยู่ด้านในองค์พระปรางค์

จนมาถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงได้มีการบูรณะให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา แล้วสร้างพระวิหารก่อด้วยอิฐ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาผสมแบบยุโรปในส่วนของประตูและหน้าต่าง ภายในวิหารประดิษฐานพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยาตอนต้น ปัจจุบันยังคงประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง


หากมาเดินชมบริเวณพระปรางค์สามยอด ก็จะเห็นฝูงลิงกระจายตัวอยู่รอบๆ ตามบ่อน้ำบ้าง ตามพื้นหญ้าบ้าง ตามองค์พระปรางค์บ้าง ลิงที่อาศัยอยู่ที่นี่ส่วนใหญ่จะเชื่อง คุ้นเคยกับผู้คน เลยมีนักท่องเที่ยวนิยมให้อาหารลิงจ๋อเหล่านี้ ทั้งบริเวณที่ศาลพระกาฬ และบริเวณพระปรางค์สามยอด

เดินดูบ้านเมืองในลพบุรีกันพอควรแล้ว เราก็มาถึงเป้าหมายหลักในการเดินทางมาที่นี่กันบ้าง ซึ่งก็คือการมาเดินตามรอยละครชื่อดังของยุคนี้

ซึ่งละครบุพเพสันนิวาส ดำเนินเรื่องอยู่ในยุคกรุงรีอยุธยาเป็นราชธานี สมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยนอกจากจะกล่าวถึงกรุงศรีอยุธยาเป็นหลักแล้ว ก็ยังมีเนื้อเรื่องส่วนที่เชื่อมโยงมาถึงเมืองละโว้ หรือ ลพบุรีแห่งนี้ด้วย

เนื่องจากในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่ 2 โดยได้เสด็จมาประทับที่ลพบุรีทุกปี ครั้งละเป็นเวลานานหลายเดือน และในช่วงปลายรัชกาลก็เสด็จมาประทับที่ลพบุรีเกือบจะตลอดทั้งปี จนกระทั่งเสด็จสวรรคตที่นี่ด้วย

เมื่อสร้างลพบุรีให้เป็นราชธานีแห่งที่สอง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงได้ทรงโปรดให้สร้างพระราชวังขึ้นที่นี่ด้วย เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระราชวังแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง มาจนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้มีการบูรณะพระราชวังเดิม และมีการสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ และมีการพระราชทานนามพระราชวังแห่งนี้ว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์”


ปัจจุบัน พระนารายณ์ราชนิเวศน์ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ โดยยังมีพระที่นั่ง และสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหลงเหลือให้ชมอยู่ พื้นที่ภายในพระราชวังแบ่งออกเป็นสามเขต เริ่มจาก “เขตพระราชฐานชั้นนอก” มี “อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก” ที่เป็นระบบการจ่ายน้ำผ่านท่อดินเผาที่เชื่อมมาจากอ่างซับเหล็ก “สิบสองท้องพระคลัง” มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ผนังประตูและหน้าต่างเจาะเป็นช่อโค้งแหลม จำนวน 12 ห้อง เรียงกันเป็นแถวยาว 2 แถว แถวละ 6 ห้อง สันนิษฐานว่าใช้เป็นสถานที่เก็บของหรือทรัพย์สมบัติต่างๆ

“ตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง” ตั้งอยู่กลางอุทยาน ใกล้กับสิบสองท้องพระคลัง ล้อมรอบด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ 3 สระ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้พระราชทานเลี้ยงแก่คณะทูตจากประเทศฝรั่งเศส ณ ตึกแห่งนี้ “ตึกพระเจ้าเหา” สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นหอพระประจำพระราชวัง และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในตึก ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้อาจมีชื่อว่าพระเจ้าเหา จึงเป็นชื่อของตึกนี้ “โรงช้างหลวง” มีทั้งหมด 10 โรง


ต่อมาเป็น “เขตพระราชฐานชั้นกลาง” ด้านในประกอบด้วย “ทิมดาบ” เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ใช้เป็นที่ตั้งของทหารรักษาการเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมาประทับ “พระที่นั่งจันทรพิศาล” ตามบันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวไว้ว่า เป็นหอประชุมขององคมนตรี สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2401 โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นใหม่บริเวณที่เดิมเป็นพระที่นั่งสถาปัตยกรรมแบบไทยแท้ใช้เป็นท้องพระโรงด้านหน้ามีมุขเด็จสำหรับออกให้ข้าราชการเฝ้า “พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท” สร้างขึ้นสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มียอดแหลมทรงมณฑป ศิลปกรรมแบบไทยผสมฝรั่งเศส

และยังมี “หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ” ซึ่งประกอบด้วยอาคารทั้งหมด 4 หลัง ได้แก่ พระที่นั่งพิมานมงกุฎ พระที่นั่งวิสุทธิวินิจฉัย พระที่นั่งไชยศาสตรากร และ พระที่นั่งอักษรศาสตราคม ปัจจุบัน ที่พระที่นั่งจันทรพิศาลและพระที่นั่งพิมานมงกุฎ จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ใช้ชื่อว่า “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์” โดยมีการจัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุต่างๆ ที่พบในลพบุรี รวมถึงการจัดแสดงเป็นห้องบรรทมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ส่วน “เขตพระราชฐานชั้นใน” ประกอบด้วย “พระที่นั่งสุทธาสวรรย์” เป็นพระที่นั่ง2ชั้นก่ออิฐถือปูนมุงหลังคากระเบื้องเคลือบแบบจีน เป็นพระที่นั่งที่ประทับของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งองค์นี้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2231 โดยทางพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนฐานของพระที่นั่งองค์นี้ “หมู่ตึกพระประเทียบ” ตั้งอยู่ด้านหลังพระที่นั่งพิมานมงกุฎ ใช้เป็นที่พักของข้าราชการฝ่ายใน สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สำหรับใครที่สนใจจะเข้าไปเดินชมด้านในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ สามารถไปชมกันได้ทุกวัน แต่ถ้าสนใจอยากจะใส่ชุดไทยไปเดินตามรอยละคร หากสะดวกก็สามารถแต่งตัวมาจากบ้านได้เลย หรือใครหาชุดไม่ได้ ที่นี่ก็มีบริการชุดไทยให้ยืมใส่ถ่ายภาพกันด้วย


อีกจุดที่อยู่ไม่ไกลจากพระนารายณ์ราชนิเวศน์ และมีความสำคัญอย่างมากในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ก็คือ “บ้านหลวงรับราชทูต” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บ้านวิชาเยนทร์” ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อคราวรับราชทูตฝรั่งเศส โดยระหว่างที่ไม่มีคณะทูต ก็ได้โปรดให้ออกญาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) เป็นผู้ดูแลหมู่ตึกนี้ จึงทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นบ้านของออกญาวิชาเยนทร์

ภายในพื้นที่หมู่ตึกนี้ มีทั้งโบสถ์ในศาสนาคริสต์ ผังโบสถ์เป็นแบบยุโรปแต่มีซุ้มประตุหน้าต่างเป็นซุ้มเรือนแก้ว มีบัวปลายเสาเป็นรูปกลีบบัวยาว ซึ่งเป็นศิลปะแบบไทย แล้วก็ยังมีที่พักอาศัย ห้องจัดเลี้ยง โรงครัว ฯลฯ

ที่บ้านหลวงรับราชทูตแห่งนี้ ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งสามารถแต่งชุดไทยมาถ่ายภาพกันได้อย่างสวยงาม และเป็นอีกหนึ่งฉากที่ปรากฎอยู่ในเนื้อเรื่องของละครบุพเพสันนิวาส ตอนที่แม่หญิงการะเกดเดินทางมายังเมืองละโว้ และได้แวะมาเยี่ยมเยียนแม่มะลิ (มารี กีมาร์) ที่บ้านหลังนี้

ความสนุกของการมาเที่ยวตามรอยละคร นอกจากจะมาแต่งชุดไทยถ่ายรูปสวยๆ ได้มาเที่ยวในที่ที่ไม่เคยมา ยังเป็นการกระตุ้นให้เราได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้แบบไม่น่าเบื่อด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 14/03/2018 11:55 am    Post subject: Reply with quote

หัวลำโพงแทบแตก! เซเลบขึ้นรถไฟสายพิเศษ ฉลอง 5 ปี Vogue Thailand
โดย: MGR Online

เผยแพร่: 14 มีนาคม 2561 เวลา 10:44:


>>ทั้งดีไซเนอร์ ดารา คนดัง ร่วมแต่งกายสุดหรู ขึ้นขบวนรถไฟสายพิเศษ Eastern and Oriental Express เพื่อร่วมปาร์ตี้ในงาน A journey through 5 Fabulous years



โดยภาพไอจีของแขกผู้ร่วมงานที่แฮชแทค #voguefab5 นั้นดูสนุกสนานและหรูหรา แถมในงานยังมีแฟชั่นโชว์จาก 11 แบรนด์ดีไซเนอร์ไทย ที่เดินบนแคตวอล์กชานชาลาสถานีรถไฟอีกด้วย

เรียกว่างานนี้เปลี่ยนลุคหัวลำโพงและรถไฟไทยแบบบ้านๆ ที่คนไทยคุ้นเคยไปเลย

ภาพจากไอจี : voguethailand ,#voguefab5
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 16/03/2018 10:18 am    Post subject: Reply with quote

คัดเลือกรองผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ระอุ ร้องทบทวนคุณสมบัติผู้สมัครเจอติดคดีอาญา และทำผิดระเบียบ
โดย: MGR Online

เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561 05:51:


สรรหารองผู้ว่าฯร.ฟ.ท. ร้อนระอุ หลังกลุ่มสหภาพรักความเป็นธรรม ยื่น”อาคม-ไพรินทร์” ทบทวนด่วน เหตุมีผู้สมัครบางราย คุณสมบัติมีปัญหา มีพฤติกรรมทำผิดระเบียบรถไฟ และติดคดีอาญา ขณะที่ กก.สรรหาฯส่อละเว้นไม่ตรวจสอบ เข้าข่ายเอื้อประโยชน์กัน ด้าน”อานนท์”ยันทำตามระเบียบ ชงบอร์ด พิจารณาผลวันนี้ (16 มี.ค.) พร้อมทำตามมติ หวั่นยกเลิกถูกฟัองร้องได้

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เปิดรับสมัครเพื่อคัดเลือกรองผู้ว่าการฯ 2 ตำแหน่ง คือ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการซ่อมบำรุงรถจักรและล้อเลื่อน และรองผู้ว่าการกลุ่มบริหารรถไฟฟ้านั้น ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกที่มี นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการร.ฟ.ท.เป็นประธานและมีรองผู้ว่าฯที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันอีก 5 คน เป็นกรรมการ ได้เตรียมนำเสนอผลการคัดสรรต่อคณะกรรมการ(บอร์ด) ร.ฟ.ท.แล้วนั้น

ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2561 กลุ่มสหภาพรักความเป็นธรรม ได้ยื่นหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,นายไพรินทร์ ชูโชตถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้ทบทวนการสรรหารองผู้ว่าการฯ โดยระบุว่า คณะกรรมการสรรหาฯส่อสมคบร่วมกันละเว้นไม่ตรวจสอบ คุณสมบัติของผู้สมัครฯ ตามระเบียบ กพ.ที่ นร.๐๗๐๘.๑/ว๒๒ ลงวันที่ 30 ก.ย. 2550

โดยระบุว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คณะกรรมการคัดเลือกไม่ปฏิบัติในขั้นตอนการเลือกสรรกลั่นกรองหรือไม่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครบางราย

ทั้งนี้มี ผู้สมัครที่เข้าข่ายส่อไม่ผ่านคุณสมบัติ รายหนึ่ง กรณีเคยเป็นโจทย์ยื่นฟ้องคณะกรรมการตรวจสอบภายในการรถไฟฯ ซึ่งมีรายละเอียดคดีหมายเลขดำที่ อ.๑๕๒๖/๒๕๔๖ และคดีหมายเลขแดงที่ อ.๑๙๔๑ /๒๕๖๐ เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและหมิ่นประมาท ซึ่งที่สุดศาลมีคำพิพากษา เมื่อ 4 ก.ค.2560 ยกฟ้อง ซึ่งทำให้ข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการตรวจสอบการรถไฟฯ เป็นจริง และส่งผลต่อคุณสมบัติของผู้สมัครดังกล่าว

ซึ่งยังมีคณะกรรมการสรรหาฯบางคนอาจเข้าข่ายมีผลประโยชน์ร่วมกับผู้สมัครบางราย กรณีที่มีการสนับสนุนการจัดตั้งมูลนิธิรถไฟไทย ที่ส่อผิดระเบียบการรถไฟฯ เนื่องจากมีการมอบเงินจำนวน 3.8 ล้านบาทจากบัญชีโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์การรถไฟฯ ให้แก่มูลนิธิรถไฟไทย ซึ่งเป็นของเอกชน100% โดยไม่ปฏิบัติตามมติบอร์ดการรถไฟฯ ที่ให้อำนาจผู้ว่าฯรถไฟ สนับสนุนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การสาธารณกุศล หรือบุคคลอื่นวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท

นอกจากนี้ ผู้สมัครบางรายยังติดการดำเนินคดีอาญา ข้อหาความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีผลต่อคุณสมบัติ ซึ่งตามคำสั่งทั่วไปการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ บภบ.๑๓๖/๒๕๐๒ ข้อ 1 ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติงานรถไฟ ถูกสอบสวนว่ากระทำผิดวินัย(ทางปกครอง) หรือถูกสอบสวนดำเนินคดี (ทางอาญา) ให้รายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ ได้ดำเนินการตามระเบียบและนำหลักเกณฑ์การกำหนดคุณสมบัติและเกณฑ์ให้คะแนนบางส่วนมาจากการคัดสรรผู้บริหารของกระทรวงคมนาคม ระดับรองอธิบดี ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนในประเด็นที่ผู้สมัครบางรายถูกสอบสวนนั้น เบื้องต้นได้ให้ฝ่ายบุคคลของรถไฟฯ ตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา สามารถสมัครได้ อีกทั้ง เป็นขั้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่มีการชี้มูลค่าผิด และไม่ได้ถูกสอบทางวินัย จึงไม่มีผลต่อการพิจารณา ซึ่งจะนำเสนอผลการคัดเลือกพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวช้อง ต่อที่ประชุมบอร์ดร.ฟ.ท. วันนี้ (16 มี.ค.) ซึ่งขึ้นกับบอร์ดว่าจะพิจารณาอย่างไร

“ผมก็หนักใจ แต่ได้ทำตามระเบียบและมีการตรวจสอบว่าทำได้ ยอมรับว่าเรื่องคัดสรรรองผู้ว่าฯ ครั้งก่อนหน้าก็มีการฟ้องร้องกัน ครั้งนี้ได้พยายามรอบคอบที่สุด กรณีที่จะให้ยกเลิก อาจจะมีผู้สมัครบางรายฟ้องร้องได้อีก คงต้องฟังบอร์ดก่อน”นายอานนท์กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 19/03/2018 1:44 pm    Post subject: Reply with quote

อบจ.สงขลา ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรม “วางแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล (วางปะการังเทียม) บริเวณอ่าวไทย” เนื่องในวันท้องถิ่นไทย
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : สุธิดา พฤกษ์อุดม
ผู้เรียบเรียง : วสันต์พรรษ จำเริญนุสิต
แหล่งที่มา : สวท.สงขลา
17 มีนาคม พ.ศ. 2561 | (1336 ผู้เข้าชม ) | พิมพ์หน้านี้


วันนี้ (17 มี.ค. 61) นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา ผู้อำนวยการกองช่าง และเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้รับความอนุเคราะห์จากศุลกากรภาค 4 สงขลา ในการนำเรือพาคณะลงพื้นที่อ่าวไทย บริเวณรอยต่อระหว่างอำเภอเมืองสงขลา และเขตอำเภอจะนะ บริเวณพื้นที่ตำบลนาทับ เพื่อทำกิจกรรมจัดวางแหล่งอาศัยสัตว์ทางทะเล โดยการวางปะการังเทียม (บ้านปลา) จัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นเนื่องในวันท้องถิ่นไทย เพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟู ระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลจังหวัดสงขลา พร้อมตอบสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จัดทำโครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเล เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลจังหวัดสงขลา พร้อมตอบสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จึงได้จัดโครงการจ้างเหมาขนย้ายวัสดุในการจัดสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล (ปะการังเทียม) โดยได้รับความความร่วมมือจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการมอบตู้รถไฟเก่า จำนวน 39 ตู้ และท่อกลม คสล. ที่ไม่ใช้แล้วจากกรมทางหลวงอีก จำนวน 200 ท่อ มาจัดวางเป็นแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลและเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล ให้เกิดความเหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน เพราะหากไม่มีการบริหารจัดการให้เหมาะสม ทรัพยากรทางทะเลของจังหวัดสงขลา จะมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว
https://www.facebook.com/radiosongkhla1/posts/1428429337265631
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2064432813571579
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 19/03/2018 7:59 pm    Post subject: Reply with quote

รายงานประจำปี 2560 มาแล้วครับ
http://www.railway.co.th/download/annualsrt/AnnualReport_SRT2560.pdf
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42751
Location: NECTEC

PostPosted: 22/03/2018 11:42 pm    Post subject: Reply with quote

บ.เก้าเจริญ ยื่นฟ้องการรถไฟฯ-การท่าเรือฯ ชดใช้ 100 ล.ต่อศาลปกครองระยอง
22 มีนาคม พ.ศ. 2561
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/03/2018 7:33 pm    Post subject: Reply with quote

ท่องเที่ยวหนุนเอกชนเดินรถเชื่อมเมืองรอง
กรุงเทพธุรกิจ 23 มี.ค. 61 การตลาด

ท่องเที่ยวเปิดแนวคิดหนุนภาคเอกชนเสริมระบบคมนาคมเมืองรอง เปิดสัมปทานวิสาหกิจชุมชนเดินรถระหว่างจังหวัดสร้างเส้นท่องเที่ยวใหม่ ดันบริษัทรถยนต์ผลิตตู้รถไฟสายท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ร่วมมือโตโยต้าจัดคาราวานนำร่องเที่ยวเมืองรอง

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ได้หารือกับกระทรวงคมนาคมหาแนวทมงส่งเสริมการเดินทางระหว่างเมืองรองด้วยกัน หรือเดินทางจากเมืองหลักสู่เมืองรอง โดยเตรียมเปิดสัมปทานเดินรถโดยสารสาธารณะ โดยให้ผู้ประกอบการในจังหวัดรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนเข้ามาร่วมประมูลในเส้นทางที่ไม่ทับซ้อนเส้นทางเดิม แต่เสริมโอกาสท่องเที่ยวระหว่างกัน รวมถึงการให้บริการรถขนส่งจากสถานีรถไฟไปยังแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองด้วย

ขณะเดียวกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรถยนต์หันมาผลิตตู้รถไฟเพื่อใช้ท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีสเปคต่างจากตู้รถไฟเพื่อการโดยสารทั่วไป และหากเป็นไปตามแผนจะนำร่องเส้นทางเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตกหรือไทยแลนด์ริเวียร่าได้ทันที

ในกรณีนี้ยกตัวอย่างเช่น โตโยต้าก็ผลิตรถยนต์ครบวงจร มีเทคโนโลยีที่น่าจะทำได้ หากตกลงภาครัฐก็จะช่วยสนับสนุน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยใน 55 จังหวัดเมืองรองกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพี่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองภายใต้โครงการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ Go Local เที่ยวท้องถิ่นไทยชุมชนเติบใหญ่เมืองไทยเติบโต โดยร่วมมือโฆษณาประชาสัมพันธ์ข้อมูลและกิจกรรมการท่องเที่ยวสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางการใช้สื่อของ 2 หน่วยงาน

และช่วงเดือน พ.ค.-ธ.ค.จะจัดท่องเที่ยวรูปแบบคาราวาน 5 เส้นทาง เป็นตัวอย่างเชื่อมโยงเมืองรองใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคใต้ ตรัง–สตูล, ภาคตะวันออกจันทบุรี-สระแก้ว-ปราจีนบุรี, ภาคกลาง สุพรรณบุรี-ชัยนาท-อ่างทอง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหนองคาย-บึงกาฬ, ภาคเหนือ เชียงราย-แพร่-น่าน

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้าสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยว เช่น การถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ที่หินสามวาฬแห่งป่าภูสิงห์ จ.บึงกาฬ ร่วมมือกับ ททท. จัดพิมพ์หนังสือ เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ 7 หมื่นเล่ม โดยรวบรวมแหล่งท่องเที่ยวและข้อมูลของเมืองรอง 55 จังหวัดแจกจ่ายที่สำนักงาน ททท. และโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 308, 309, 310 ... 474, 475, 476  Next
Page 309 of 476

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©