RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179872
ทั้งหมด:13491104
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 368, 369, 370 ... 471, 472, 473  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/05/2020 10:00 am    Post subject: Reply with quote

บทความทางวิชาการเคราะห์การวิบัติของรอยเชื่อมแบบ ATW.บนทางรถไฟแบบ Ballasted Track (ทางเปิด)

เขียนโดย Dr.Rails อ.สิทธิศักดิ์ พันธุ์สุระ CIS Track Team Railway Instructor
https://www.facebook.com/TNG.TRT.CIS.RMUTI/posts/1289272664609462
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 26/05/2020 9:51 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.-ขสมก. ลุยเข้าแผนฟื้นฟูฯ
หน้าเศรษฐกิจมหภาค Mega Project
อังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563 เวลา 07:34 น.

การรถไฟฯ-ขสมก.เดินหน้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ
คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย "เทียนหยด"...
อังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 น.

"คมนาคม" เตรียมดัน รฟท.-ขสมก. เข้าแผนฟื้นฟูฯ หวังแก้ปัญหาขาดทุน หลังมีหนี้สะสมเพียบ จ่อชงครม.ไฟเขียว เดือน ก.ค.นี้ ล่าสุดขสมก.ได้จัดทำรายละเอียดแผนฟื้นฟูฯเสร็จแล้ว ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก.และกระทวงคมนาคมแล้วอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

นอกจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว... หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมกำกับดูแลทั้ง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องเดินหน้าสู่แผนฟื้นฟูเช่นกัน  มีบริบทขององค์กรที่เหมือนกันคือเป็นรัฐวิสาหกิจ มีสหภาพแรงงาน และมีปัญหาหนี้สินสะสม  ขสมก.ตัวแดงโร่มีหนี้1.2แสนล้านบาท  ส่วนการรถไฟฯแบกหนี้กว่า 1.7 แสนล้านบาท

รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า สำหรับแผนฟื้นฟูฯ นั้น ขณะนี้ได้จัดทำรายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ เสร็จแล้ว ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก. และกระทรวงคมนาคมขณะเดียวกันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หากผ่านความเห็นชอบคาดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้.ทั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ขสมก.จะต้องดำเนินการตามแผนฟื้นฟู 5เรื่องที่ขสมก.ต้องดำเนินการตามแผนฟื้นฟูดังนี้

1.การลดค่าครองชีพของประชาชนโดยปรับลดอัตราค่าโดยสารให้ถูกลงจากอัตราเดิม 15-25 บาท ปรับ 3 ลักษณะ คือ- ตั๋วรายวันในราคา 30 บาทตลอดวันสามารถใช้ขึ้นรถเมล์ได้ทุกเที่ยวทุกเส้นทาง- ตั๋วรายเดือนที่ใช้ขึ้นรถเมล์ได้ทุกสายทุกเส้นทางเช่นกันแต่เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่วันละ 25 บาทเท่านั้นและ- ตั๋วที่จ่ายตามการใช้บริการจริง กรณีที่ผู้โดยสารใช้บริการในเส้นทางสั้น ๆ หรือวันละไม่เกิน 30 บาทรวมถึงมีการออกบัตรส่วนลดให้กับบุคคลกลุ่มต่าง ๆ เช่น นร. นศ. และผู้สูงอายุ เป็นต้น ทั้งนี้จากผลการศึกษาระบุว่าการปรับลดค่าโดยสารเหลือวันละ 30 บาทจะทำให้ประชาชนได้รับผลต่างค่าใช้จ่ายที่ลดลงไม่น้อยกว่า 20 บาทต่อคนต่อวัน

2. ปรับปรุงเส้นทางการเดินรถไม่ให้ทับซ้อนกัน เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนถนน ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.มีเส้นทางเดินรถเดิม 269 เส้นทางจากนี้ไปได้ปฏิรูปเส้นทางเดินรถเหลือเพียง 162 เส้นทาง แบ่งเป็นของขสมก. 108 เส้นทาง และของผู้ประกอบการเอกชนร่วมบริการผู้ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) 54 เส้นทาง โดยรูปแบบรถเมล์ที่นำมาให้บริการจะเป็นรถปรับอากาศ (แอร์) ทั้งหมด ยกเลิกรถเมล์ร้อน ซึ่งรถแอร์จะมีขนาด 10-12 เมตร มีทั้งสีฟ้า และสีขาว ภายในรถจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ เด็ก สตรี และผู้พิการคาดว่าเริ่มต้นมีรถแอร์ให้บริการได้ในเดือน มี.ค. 64 และจะส่งมอบรถได้ครบทั้งหมดภายในเดือน ก.ย. 2565

3. การลดมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยขสมก.ต้องใช้รถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การใช้รถเอ็นจีวี หรือรถไฟฟ้า (อีวี)

 
4. ขสมก.ต้องแก้ปัญหาการขาดทุนอย่างยั่งยืน โดยหากดำเนินการตามแผนฟื้นฟูภายใน 7 ปี ขสมก.จะพ้นภาวะขาดทุน ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เพราะเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง ทำให้ประสบผลการขาดทุนมาโดยตลอด ขาดสภาพคล่องทางการเงิน มีภาระหนี้สินและดอกเบี้ยสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 29 ก.พ. 63 พบว่ามีหนี้สะสมรวม 129,507.311 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีรถโดยสารที่มีอายุใช้งานมานานมากกว่า 20 ปี เกิดสภาพชำรุด ทรุดโทรม ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงรักษาสูงตามสภาพรถโดยสารเก่าและบางคันจอดเสียไม่สามารถซ่อมได้ ทำให้จำนวนรถไม่เพียงพอต่อการให้บริการอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ ขสมก.มีพนักงานทั้งหมด จำนวน 13,961 คน เบื้องต้นได้มีโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี่รีไทร์) สามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งงาน โดยเฉพาะพนักงานเก็บค่าโดยสารที่อนาคตรถโดยสารจะมีระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีทิคเก็ต) หากต้องการทำงานต่อก็สามารถฝึกทักษะเป็นพนักงานขับรถที่ขาดแคลนอยู่ได้ เพราะรถ 1 คันต้องใช้พนักงานขับรถถึง 3 คน ซึ่งล่าสุดมีพนักงานเก็บค่าตั๋วโดยสาร 5,781 คน


5. การขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐ (PSO) จำนวน 9,674 ล้านบาท จะทำให้ขสมก.เลี้ยงตนเองได้ โดยในปีต้นๆ ขสมก.อาจจะมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย แต่เมื่อครบ 7 ปีแล้วมั่นใจว่าขสมก.จะมีรายได้มากกว่ารายจ่ายแน่นอน

นอกจากนี้ยังต้องนำที่ดินอู่จอดรถ เปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนาที่ดินในระยะยาว ซึ่งบริเวณอู่รถโดยสารบางเขนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเพราะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวผ่าน สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปัจจุบันมีหนี้สินสะสมอยู่ 176,000 ล้านบาท ในแต่ละปีได้ดำเนินการกู้เงินมาใช้จำนวน 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในปี 62 ขาดทุน 21,000 ล้านบาท ทั้งนี้ตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ให้ฟื้นฟูกิจการของ รฟท. ระหว่าง พ.ศ.2561-2570 การเพิ่มขีดความสามารถ โดยรัฐบาลได้เข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ ของรฟท.


ขณะเดียวกันแผนฟื้นฟูของ การรถไฟฯ รัฐวิสาหกิจอายุ 123 ปี ปัจจุบันมีหนี้สินสะสม 176,000 ล้านบาท ต้องกู้เงินมาใช้ในการดำเนินการปีละ 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในปี 62 ขาดทุน 21,000 ล้านบาท มติคนร.ให้ฟื้นฟูกิจการของ รฟท. ปี.2561-2570  การเพิ่มขีดความสามารถ โดยรัฐบาลเข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ให้การรถไฟฯ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถไฟทางคู่สายใหม่ รถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) รถไฟเชื่อมโยงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวัอออก (EEC)

รฟท.นั้น ต้องเปิดช่องให้ขึ้นค่าโดยสารจากปัจจุบันที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2539 ที่กำหนดอัตราขั้นต่ำชั้นที่ 1 คนละ 6 บาท ชั้นที่2 คนละ 4 บาท และชั้นที่ 3 คนละ 2 บาท กรณีแรกปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารขั้นต่ำเป็น 10 บาท เฉพาะชั้น 3 ในระยะทางที่กำหนด และปรับค่าโดยสารทุกชั้นเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 จะทำให้มีรายได้ 760 ล้านบาทต่อปี

กรณีที่สองปรับอัตราเริ่มต้นคนละ 10 บาททุกชั้นและปรับโครงสร้างค่าโดยสารทุกชั้นเพิ่มอีกร้อยละ 50 ทำให้การรถไฟรายได้เพิ่ม 1,115 ล้านบาทต่อปี ด้านบุคลากรนั้นควรรับคนเพิ่มอีก 19,241 คน เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งให้ตั้งบริษัทลูก บริษัท บริหารทรัพย์สิน จำกัด เข้ามาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของการรถไฟรวม 3.9 หมื่นไร่ เช่น สถานีกลางบางซื่อพื้นที่การพัฒนา 1,100 ไร่ สถานีมักกะสันพื้นที่การพัฒนา 497 ไร่ ซึ่งสถานภาพของพนักงานของบริษัทลูกยังเป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจาก รฟท. ถือหุ้น 100% อย่างไรก็ตามหน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคมอีกหลายหน่วยงานที่มีปัญหาในการบริหารจัดการ และมีหนี้สินจำนวนมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เสนอแผนฟื้นฟูให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาแล้ว ทั้งนี้หาก ครม. เห็นชอบแผนฟื้นฟู คาดว่าภายใน 7 ปี ขสมก.จะสามารถฟื้นจากการประกอบกิจการที่ขาดทุนได้ ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส. ) นั้น อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ต่อไปหน้าแรก บทความ ข่าวทั่วไทยมุมคนเมือง
การรถไฟฯ-ขสมก.เดินหน้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ
00 ไร่ ย่านสถานีมักกะสันพื้นที่การพัฒนา 497 ไร่ ซึ่งสถานภาพของพนักงานของบริษัทลูกยังเป็นรัฐวิสาหกิจ เพราะการรถไฟฯถือหุ้น 100 %
 
“หน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคมอีกหลายหน่วยงานที่มีปัญหาในการบริหารจัดการ และมีหนี้สินจำนวนมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นขสมก. ขณะนี้กระทรวงฯเสนอแผนฟื้นฟูให้คนร.พิจารณาแล้ว หาก ครม. เห็นชอบแผนฟื้นฟู คาดว่าภายใน 7 ปี ขสมก.จะสามารถฟื้นจากการประกอบกิจการที่ขาดทุนได้ ส่วนรฟท.และบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. อยู่ระหว่างเร่งจัดทำแผนฟื้นฟูเช่นกัน คิดว่าไม่เหลือบ่าฝ่าแรงในการแก้ปัญหา” คำยืนยันจากศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  ที่มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงองค์กรรัฐวิสาหกิจ
 
มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมาหลายรัฐบาล แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งแรงต้านจากสหภาพฯ ผลกระทบจากสังคมโดยเพาะผู้มีรายได้น้อยการเก็บค่าโดยสารเพิ่มทำได้ยากยิ่ง ...แต่ถ้าซื้อเวลาไปตัวเลขขาดทุนสะสมจะไม่หยุดยั้ง
..............................
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 26/05/2020 10:11 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รฟท.-ขสมก. ลุยเข้าแผนฟื้นฟูฯ
หน้าเศรษฐกิจมหภาค Mega Project
อังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563 เวลา 07:34 น.

การรถไฟฯ-ขสมก.เดินหน้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ
คอลัมน์ : มุมคนเมือง
โดย "เทียนหยด"...
อังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 น.

รฟท.-ขสมก. ลุยเข้าแผนฟื้นฟูฯ
อังคารที่ 26 พฤษภาคม 2563 เวลา 07:34 น.

"คมนาคม" เตรียมดัน รฟท.-ขสมก. เข้าแผนฟื้นฟูฯ หวังแก้ปัญหาขาดทุน หลังมีหนี้สะสมเพียบ จ่อชงครม.ไฟเขียว เดือน ก.ค.นี้
รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า สำหรับแผนฟื้นฟูฯ นั้น ขณะนี้ได้จัดทำรายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ เสร็จแล้ว ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก. และกระทรวงคมนาคมขณะเดียวกันอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หากผ่านความเห็นชอบคาดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้.ทั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ขสมก.จะต้องดำเนินการตามแผนฟื้นฟูมีดังนี้

1.การลดค่าครองชีพของประชาชนโดยปรับลดอัตราค่าโดยสารให้ถูกลงจากอัตราเดิม 15-25 บาท ปรับ 3 ลักษณะ คือ- ตั๋วรายวันในราคา 30 บาทตลอดวันสามารถใช้ขึ้นรถเมล์ได้ทุกเที่ยวทุกเส้นทาง- ตั๋วรายเดือนที่ใช้ขึ้นรถเมล์ได้ทุกสายทุกเส้นทางเช่นกันแต่เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่วันละ 25 บาทเท่านั้นและ- ตั๋วที่จ่ายตามการใช้บริการจริง กรณีที่ผู้โดยสารใช้บริการในเส้นทางสั้น ๆ หรือวันละไม่เกิน 30 บาทรวมถึงมีการออกบัตรส่วนลดให้กับบุคคลกลุ่มต่าง ๆ เช่น นร. นศ. และผู้สูงอายุ เป็นต้น ทั้งนี้จากผลการศึกษาระบุว่าการปรับลดค่าโดยสารเหลือวันละ 30 บาทจะทำให้ประชาชนได้รับผลต่างค่าใช้จ่ายที่ลดลงไม่น้อยกว่า 20 บาทต่อคนต่อวัน

2. ปรับปรุงเส้นทางการเดินรถไม่ให้ทับซ้อนกัน เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนถนน ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.มีเส้นทางเดินรถเดิม 269 เส้นทางจากนี้ไปได้ปฏิรูปเส้นทางเดินรถเหลือเพียง 162 เส้นทาง แบ่งเป็นของขสมก. 108 เส้นทาง และของผู้ประกอบการเอกชนร่วมบริการผู้ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) 54 เส้นทาง โดยรูปแบบรถเมล์ที่นำมาให้บริการจะเป็นรถปรับอากาศ (แอร์) ทั้งหมด ยกเลิกรถเมล์ร้อน ซึ่งรถแอร์จะมีขนาด 10-12 เมตร มีทั้งสีฟ้า และสีขาว ภายในรถจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ เด็ก สตรี และผู้พิการคาดว่าเริ่มต้นมีรถแอร์ให้บริการได้ในเดือน มี.ค. 64 และจะส่งมอบรถได้ครบทั้งหมดภายในเดือน ก.ย. 2565

3. การลดมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยขสมก.ต้องใช้รถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การใช้รถเอ็นจีวี หรือรถไฟฟ้า (อีวี)

4. ขสมก.ต้องแก้ปัญหาการขาดทุนอย่างยั่งยืน โดยหากดำเนินการตามแผนฟื้นฟูภายใน 7 ปี ขสมก.จะพ้นภาวะขาดทุน ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เพราะเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง ทำให้ประสบผลการขาดทุนมาโดยตลอด ขาดสภาพคล่องทางการเงิน มีภาระหนี้สินและดอกเบี้ยสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 29 ก.พ. 63 พบว่ามีหนี้สะสมรวม 129,507.311 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีรถโดยสารที่มีอายุใช้งานมานานมากกว่า 20 ปี เกิดสภาพชำรุด ทรุดโทรม ต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงรักษาสูงตามสภาพรถโดยสารเก่าและบางคันจอดเสียไม่สามารถซ่อมได้ ทำให้จำนวนรถไม่เพียงพอต่อการให้บริการอย่างทั่วถึง


นอกจากนี้ ขสมก.มีพนักงานทั้งหมด จำนวน 13,961 คน เบื้องต้นได้มีโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี่รีไทร์) สามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งงาน โดยเฉพาะพนักงานเก็บค่าโดยสารที่อนาคตรถโดยสารจะมีระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีทิคเก็ต) หากต้องการทำงานต่อก็สามารถฝึกทักษะเป็นพนักงานขับรถที่ขาดแคลนอยู่ได้ เพราะรถ 1 คันต้องใช้พนักงานขับรถถึง 3 คน ซึ่งล่าสุดมีพนักงานเก็บค่าตั๋วโดยสาร 5,781 คน

5. การขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐ (PSO) จำนวน 9,674 ล้านบาท จะทำให้ขสมก.เลี้ยงตนเองได้ โดยในปีต้นๆ ขสมก.อาจจะมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย แต่เมื่อครบ 7 ปีแล้วมั่นใจว่าขสมก.จะมีรายได้มากกว่ารายจ่ายแน่นอน

นอกจากนี้ยังต้องนำที่ดินอู่จอดรถ เปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนาที่ดินในระยะยาว ซึ่งบริเวณอู่รถโดยสารบางเขนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเพราะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวผ่าน สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปัจจุบันมีหนี้สินสะสมอยู่ 176,000 ล้านบาท ในแต่ละปีได้ดำเนินการกู้เงินมาใช้จำนวน 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในปี 62 ขาดทุน 21,000 ล้านบาท ทั้งนี้ตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ให้ฟื้นฟูกิจการของ รฟท. ระหว่าง พ.ศ.2561-2570 การเพิ่มขีดความสามารถ โดยรัฐบาลได้เข้ามาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ ของรฟท.



ขณะเดียวกันแผนฟื้นฟูของรฟท.นั้น ต้องเปิดช่องให้ขึ้นค่าโดยสารจากปัจจุบันที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2539 ที่กำหนดอัตราขั้นต่ำชั้นที่ 1 คนละ 6 บาท ชั้นที่2 คนละ 4 บาท และชั้นที่ 3 คนละ 2 บาท กรณีแรกปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารขั้นต่ำเป็น 10 บาท เฉพาะชั้น 3 ในระยะทางที่กำหนด และปรับค่าโดยสารทุกชั้นเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 จะทำให้มีรายได้ 760 ล้านบาทต่อปี กรณีที่สองปรับอัตราเริ่มต้นคนละ 10 บาททุกชั้นและปรับโครงสร้างค่าโดยสารทุกชั้นเพิ่มอีกร้อยละ 50 ทำให้การรถไฟรายได้เพิ่ม 1,115 ล้านบาทต่อปี ด้านบุคลากรนั้นควรรับคนเพิ่มอีก 19,241 คน เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งให้ตั้งบริษัทลูก บริษัท บริหารทรัพย์สิน จำกัด เข้ามาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของการรถไฟรวม 3.9 หมื่นไร่ เช่น สถานีกลางบางซื่อพื้นที่การพัฒนา 1,100 ไร่ สถานีมักกะสันพื้นที่การพัฒนา 497 ไร่ ซึ่งสถานภาพของพนักงานของบริษัทลูกยังเป็นรัฐวิสาหกิจ เนื่องจาก รฟท. ถือหุ้น 100% อย่างไรก็ตามหน่วยงานภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคมอีกหลายหน่วยงานที่มีปัญหาในการบริหารจัดการ และมีหนี้สินจำนวนมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เสนอแผนฟื้นฟูให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณาแล้ว ทั้งนี้หาก ครม. เห็นชอบแผนฟื้นฟู คาดว่าภายใน 7 ปี ขสมก.จะสามารถฟื้นจากการประกอบกิจการที่ขาดทุนได้ ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส. ) นั้น อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 27/05/2020 12:46 am    Post subject: Reply with quote

ตำรวจรถไฟ เราไม่ทิ้งชุมชน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เผยแพร่: 21 พฤษภาคม 2563 เวลา 13:33
ปรับปรุง: 21 พฤษภาคม 2563 เวลา 14:26


พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย รอง ผกก.1 (สอบสวน) บก.รฟ. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ สวญ.ส.รฟ.นพวงศ์ บก.รฟ. นายศุภโชค วิเชียรชัย (โดโด้) นางชุติมา การมานะ กรรมการผู้จัดการ บ.สปีด ไอเดีย จำกัด พ.ต.ท.ดร.ชนะเทพ สวนแก้ว รอง ผกก.5 บก.รฟ. มอบอาหาร พร้อมน้ำดื่ม เจลล้างมือ ยาหม่อง แก่ประชาชน บริเวณ ชุมชนวัดดวงแข (ตรงสถานีรถไฟหัวลำโพง) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงโควิด-19 ระบาด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 29/05/2020 11:54 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.ดันแอพ “ไทยชนะ” สกัดโควิด-19
หน้าเศรษฐกิจมหภาค / Mega Project
29 พฤษภาคม 2563 เวลา 15:08 น.

รฟท. เดินหน้าเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บนขบวนรถ-สถานีรถไฟ ดึงแอพ “ไทยชนะ” หวังติดตามผู้โดยสารต่อเนื่อง

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของส่วนรวมในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้บริการ โดยได้ดำเนินมาตรการในด้านต่าง ๆ ดังนี้

1. การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น โดยการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจําเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง หรือหากมีอาการต้องสงสัยเข้าข่ายโรคดังกล่าวจะดำเนินการประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว

2. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ให้มีจุดยืน / นั่ง อย่างน้อย 1 – 2 เมตร ให้ชัดเจนทั้งที่สถานีและขบวนรถ

3. จำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) การจัดเดินรถโดยสารชนิดพัดลมเพื่อให้บริการเท่านั้น และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง

4. การให้คำแนะนำปฏิบัติเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

5. อบรมการปฏิบัติงานและจัดลูกจ้างเฉพาะงานทำหน้าที่พนักงานรถนอน ช่วยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อให้มีการรักษาระยะห่างช่วงการรอและขึ้นโดยสารในขบวนรถตามป้ายหยุดรถไฟ/ที่หยุดรถไฟ และสถานีในเขตกรุงเทพและปริมาณมณฑล

6. การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง
7. ให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ
8. การทำความสะอาดพื้นที่บริเวณภายในสถานี พื้นที่โดยรอบสถานี และบนขบวนรถ พร้อมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
9. ใช้วิธีการเช็คอิน ผ่าน Application “ไทยชนะ” โดยการให้ผู้ใช้บริการสแกนคิวอาร์โค้ดที่สถานี เพื่อให้ทราบถึงความหนาแน่นของผู้โดยสารที่เข้ามารับบริการ ซึ่งจะง่ายต่อการติดตามผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อผ่านระบบได้ โดยมีการแจ้งเตือนย้อนกลับไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ และหากได้รับการแจ้งเตือนสามารถเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ข้อมูลทุกอย่างจะเป็นความลับ


ทั้งนี้ขั้นตอนวิธีการเช็คอิน ผ่าน Application ให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติดังนี้
1. เมื่อผ่านจุดคัดกรองเรียบร้อยแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อทำการเช็คอินเข้าสถานี
2. เมื่อซื้อตั๋วโดยสารเรียบร้อยแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อทำการเช็คเอ้าท์
3. เมื่อขึ้นขบวนรถโดยสารแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ตู้โดยสารเพื่อทำการเช็คอินขึ้นขบวนรถ
4. ก่อนลงจากขบวนรถ ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ตู้โดยสารเพื่อทำการเช็คเอ้าท์ลงจากขบวนรถ
5. เมื่อถึงสถานีปลายทาง ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่สถานีเพื่อทำการเช็คอิน และเช็คเอ้าท์ออกจากสถานี อย่างไรก็ตาม การใช้แอพพลิเคชั่นนี้จะทดแทนการจดบันทึก ที่เป็นการช่วยลดความยุ่งยากของประชาชน และปกป้องความเป็นส่วนตัวของประชาชนด้วย

รฟท. ขอความร่วมมือประชาชน กรุณาสวมหน้ากากอานามัย หรือหน้ากากผ้าในการเดินทางรถไฟ และทำการกรอกรายละเอียดในแบบคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ฉะนั้น จึงขอให้ผู้โดยสารมาถึงสถานีล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทาง เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 30/05/2020 11:57 am    Post subject: Reply with quote

ผู้ว่าการ รฟท.เดินสายประชุมบนโบกี้ วางผังเชื่อมเพื่อนบ้าน ปักหมุดGISชี้พิกัดที่รถไฟนำร่องลำปาง
เผยแพร่: 30 พ.ค. 2563 08:41 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ลำปาง – ผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่เดินสายเชิญอาจารย์ มน.-ม.ราชภัฎอุตรดิตถ์ ประชุมบนโบกี้เสนอผลวิจัยยุทธศาสตร์การขนส่งผ่านรางเชื่อมลาว-พม่า พร้อมปักหมุดGISนำร่องแห่งแรกที่ลำปาง หวังทวงคืนที่ดินของ รฟท.ทำประโยชน์สูงสุด

นายนิรุต มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารผู้บริหารการรถไฟฯ ได้นั่งรถไฟขบวนพิเศษโดยสารที่ 951 ออกจากสถานีกรุงเทพฯ-นครลำปาง วานนี้(29 พ.ค.) ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่บนรถไฟ ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้ร่วมหารือกับทีมงานต่างๆ เกี่ยวกับการวางยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมในระดับประเทศและภูมิภาคด้วย

โดยเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎอุตรดิตถ์ และมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่เคยนำผลงานการวิจัยการเชื่อมโยงการขนส่งคนและสินค้าการเกษตรกรรม และการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ สหภาพเมียนมา และ สปป.ลาว ผ่านจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ เสนอ ครม.สัญจร ไปก่อนหน้านี้แล้ว มาร่วมหารืออีกครั้ง พร้อมกับหยุดแวะเยี่ยมตามสถานีต่างๆที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านด้วย

ทั้งนี้เมื่อรถไฟขบวนพิเศษโดยสารที่ 951 มาถึงสถานีรถไฟนครลำปาง ในช่วงเย็น ผู้ว่าการรถไฟฯได้ทักทายและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่-พนักงานของการรถไฟฯก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมในเวลาสั้นๆ และประทับหมุดแผนที่การรถไฟ “หมุดแรก” บริเวณเสาธงหน้าสถานีฯ

หมุดดังกล่าวเมื่อใช้โทรศัพท์สแกนคิวอาร์โค้ด จะปรากฎข้อมูลแผนที่ทั้งภาพถ่ายทางอากาศและบริเวณโดยรอบแนวเขตของการรถไฟสถานีนั้นๆ ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย ระบบสารสนเทศน์ภูมิศาสตร์ GIS และถือเป็นหมุดหลักฐานแผนที่อ้างอิงของสถานีทุกแห่งได้

ซึ่งการรถไฟฯได้เริ่มปักหมุดแรกที่จังหวัดลำปาง และจะทำให้ครบทั้ง 838 หมุด ในสถานีรถไฟทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี โดยมีบริษัท ฟิกท์ แอสโซซิเอท จำกัด เป็นผู้ดำเนินงานด้วยวงเงิน 314 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.สำรวจและจัดทำฐานข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของการรถไฟฯในระบบสารสนเทศ 2.จัดทำฐานข้อมูลผู้เช่าและผู้ใช้สิทธิ์ 3.พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารทรัพย์สินและสัญญา

โครงการดังกล่าว จะทำให้การรถไฟสามารถบริหารสัญญาเช่าที่ดิน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 245,700 ไร่ และทรัพย์สินอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดตามตรวจสอบ จัดเก็บรายได้ของการรถไฟฯอย่างเป็นระบบ เกิดความรวดเร็วในการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เช่าและผู้ที่เกี่ยวข้องและเป็นข้อมูลสนับสนุนให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์ ประเมิน และตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว

นายนิรุต มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการที่เริ่มปักหมุดวันนี้ เป็นการสำรวจพื้นที่ของการรถไฟที่มีอยู่ เพื่อนำกลับมาฟื้นฟูให้มีรายได้มากขึ้นยั่งยืนมากขึ้น ส่วนที่มาเริ่มต้นปักหมุดที่ลำปาง ส่วนหนึ่งเพราะเป็นบ้านเกิดของตนและสถานีรถไฟนครลำปางถือเป็นศูนย์กลางของพนักงานและศูนย์กลางในภาคเหนือที่มีความสำคัญที่สามารถพัฒนาได้

ส่วนเรื่องการบุกรุกที่ของการรถไฟนั้น ที่ผ่านมาที่ดินของการรถไฟมีจำนวนมาก แต่ถูกบุกรุกมานานทั้งที่ไม่ถูกต้องและที่ประชาชนเข้ามาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือโดยสถานการณ์บางอย่างบังคับ ดังนั้นการดำเนินการกับการบุกรุกจะเริ่มจาก กรณีการบุกรุกพื้นที่ที่ส่งผลต่อการเดินรถ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อพนักงาน ประชาชนและผู้โดยสาร กรณีนี้จะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด ชัดเจนเด็ดขาด และบางกรณีคือการนำพื้นที่ของการรถไฟให้ไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการก่ออาชกรรม รวมทั้งการกระทำผิดกฏหมายต่างๆ ส่วนนี้ก็จะไม่ยอมเช่นกัน

“วันที่กรุงเทพมหานคร ฝนตกบางจุดน้ำจะท่วม ซึ่งจะมีบางส่วนที่มีการบุกรุกพื้นที่การรถไฟฯและไปกีดขวางทางเดินน้ำ ซึ่งต้องพูดคุยกับผู้ที่บุกรุก ต้องขอพื้นที่คืนให้ได้ก่อนที่ฝนจะตกลงมาและเกิดปัญหา ส่วนการบุกรุกอย่างอื่นที่ประชาชนอาจจะเข้าไปอยู่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือโดยเหตุอื่นๆนั้น ก็จะใช้การเจรจาและหาทางแก้ไขให้ได้โดยเร็ว”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 03/06/2020 10:02 pm    Post subject: Reply with quote

ดราม่า!ช่างภาพดักถ่าย'รถไฟ' หวั่นถึงความปลอดภัย
พุธที่ 3 มิถุนายน 2563 เวลา 12.59 น.
วิจารณ์สนั่น..ช่างภาพตั้งกล้องคร่อมราง แห่ถ่ายภาพรถไฟ ชาวเน็ตลั่นอยากเท่ อยากคูล แต่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ซ้ำรบกวนการทำงานเจ้าหน้าที่

'ช่างภาพ'ชี้อย่าด่าเหมารวม ใช้เลนส์ซูมคร่อมรางถ่ายรถไฟ
พุธที่ 3 มิถุนายน 2563 เวลา 16.49 น.
ช่างภาพแจงปมตั้งกล้องคร่อมรางถ่ายภาพหน้าตรงรถไฟ ยันทำตามกฏระเบียบ วิธีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุและไม่ให้เจ้าหน้าที่เดือดร้อน ย้ำมีเพียงส่วนน้อยที่ทำเสียชื่อ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 04/06/2020 8:40 pm    Post subject: Reply with quote

“สจล.จับมือการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมยกระดับวิศวกรรมรถไฟ ขึ้นแท่นสุดยอดอาเซียนให้ได้”
1 มิถุนายน 2563 เวลา 7:28 PM ·

พี่เอ้ พร้อมด้วยผู้บริหาร สจล. ต้อนรับ คุณนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหารการรถไฟ เพื่อ กดปุ่มความร่วมมือ ครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่าง รฟท. กับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ และคณะอื่นๆของสจล.

เพื่อพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องคน เทคโนโลยี นวัตกรรม รองรับการขยายตัวของเมือง และโลกในอนาคต

พี่เอ้ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์ท่านผู้ว่าการรถไฟ สร้างคน พร้อมสร้างราง สร้างอนาคตการขนส่งยุคใหม่ของไทย ขึ้นเบอร์ 1 อาเซียน เราต้องกล้าฝัน กล้าเปลี่ยนแปลง ถึงจะสำเร็จ

ความร่วมมืออันดับแรก คือ การยกระดับโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ เป็นวิทยาลัยวิศวกรรมรถไฟ ที่เปิดสอนหลักสูตร ทั้ง วิศวกรรมขนส่งทางราง วิศวกรรมไฟฟ้า เครื่องกล โยธา อาณัติสัญญาณ และการบริหารโลจิสติกส์ โดยมีวิศวลาดกระบัง และหลักสูตรวิศวกรรมขนส่งทางราง เป็นเจ้าภาพหลัก

ความร่วมมือ พัฒนานวัตกรรมระบบขนส่งทางราง ซึ่งมีหลักสูตรโลจิสติกส์ วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินเป็นเจ้าภาพ พร้อมด้วยคณะบริหารธุรกิจ และคณะวิทยาศาสตร์

หมอลาดกระบังจะทำโบกี้แพทย์อัจฉริยะ ใช้ระบบ AI ปัญญาประดิษฐ์ ในการแนะนำผู้ป่วย เป็นครั้งแรก ในประเทศไทย ว้าววว!!!

และ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ Smart City ซึ่งมีสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ หรือ Scira ของสจล. เป็นหัวหอกนำร่อง ทำงานร่วมกับการรถไฟ

การร่วมมือกันของสุดยอด คนเจ๋งๆแบบนี้สนุกแน่ครับ พี่เอ้เชื่อมั่นว่าในอนาคตอันใกล้ประเทศไทยจะพัฒนาไปอีกไกล และเราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆจากมันสมองและฝีมือคนไทยแน่นอน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 05/06/2020 7:35 am    Post subject: Reply with quote

ศูนย์ฝึกอบรมการรถไฟ ประสานความร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เพื่อยกระดับศูนย์ฝึกอบรมการรถไฟและโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ มุ่งสู่ "สถาบันฝึกอบรมระบบราง"

วันที่ 4 มิถุนายน 2563 เวลา 14.00 น. คุณกานต์รวี ทองพูล หัวหน้าสำนักงานศูนย์ฝึกอบรมการรถไฟ พร้อมผู้บริหารศูนย์ฝึกอบรมการรถไฟ ได้ประชุมหารือร่วมกับคณะผู้บริหารและคณาจารย์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นำโดย รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผศ.ดร.สุดาพร สาวม่วง คณบดีคณะบริหารธุรกิจ ถึงแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาและผลิตบุคลากรในเชิงธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการระบบการขนส่งทางรางที่หลากหลายในอนาคตของประเทศ


https://www.facebook.com/srt.trainingcenter/posts/1632046960287688
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 05/06/2020 12:45 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.เข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 บนขบวนรถและสถานี
เผยแพร่: 5 มิ.ย. 2563 11:46 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า รฟท.ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของส่วนรวมในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้บริการ โดยได้ดำเนินมาตรการในด้านต่าง ๆ ดังนี้

1. การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น โดยการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจําเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง หรือหากมีอาการต้องสงสัยเข้าข่ายโรคดังกล่าวจะดำเนินการประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว

2. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน / นั่ง อย่างน้อย 1 – 2 เมตร ให้ชัดเจนทั้งที่สถานีและขบวนรถ

3. จำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) การจัดเดินรถโดยสารชนิดพัดลมเพื่อให้บริการเท่านั้น และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง

4. การให้คำแนะนำปฏิบัติเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

5. อบรมการปฏิบัติงานและจัดลูกจ้างเฉพาะงานทำหน้าที่พนักงานรถนอน ช่วยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ ตามมาตรการ Social Distancing เพื่อให้มีการรักษาระยะห่างช่วงการรอและขึ้นโดยสารในขบวนรถตามป้ายหยุดรถไฟ/ที่หยุดรถไฟ และสถานีในเขตกรุงเทพและปริมาณมณฑล

6. การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง

7. ให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ

8. การทำความสะอาดพื้นที่บริเวณภายในสถานี พื้นที่โดยรอบสถานี และบนขบวนรถ พร้อมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

9.ใช้วิธีการเช็คอิน ผ่าน Application “ไทยชนะ” โดยการให้ผู้ใช้บริการสแกนคิวอาร์โค้ดที่สถานี เพื่อให้ทราบถึงความหนาแน่นของผู้โดยสารที่เข้ามารับบริการ ซึ่งจะง่ายต่อการติดตามผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อผ่านระบบได้ โดยมีการแจ้งเตือนย้อนกลับไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ และหากได้รับการแจ้งเตือนสามารถเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ข้อมูลทุกอย่างจะเป็นความลับ สำหรับขั้นตอนวิธีการเช็คอิน ผ่าน Application ให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติดังนี้

1. เมื่อผ่านจุดคัดกรองเรียบร้อยแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อทำการเช็คอินเข้าสถานี

2 เมื่อซื้อตั๋วโดยสารเรียบร้อยแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อทำการเช็กเอาท์

3 เมื่อขึ้นขบวนรถโดยสารแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ตู้โดยสารเพื่อทำการเช็คอินขึ้นขบวนรถ

4 ก่อนลงจากขบวนรถ ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ตู้โดยสารเพื่อทำการเช็กเอาท์ลงจากขบวนรถ

5 เมื่อถึงสถานีปลายทาง ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่สถานีเพื่อทำการเช็กอิน และเช็กเอาท์ออกจากสถานี

อย่างไรก็ตาม การใช้แอปพลิเคชั่นนี้จะทดแทนการจดบันทึก ที่เป็นการช่วยลดความยุ่งยากของประชาชน และปกป้องความเป็นส่วนตัวของประชาชนด้วย การรถไฟฯ ขอความร่วมมือประชาชน กรุณาสวมหน้ากากอานามัย หรือหน้ากากผ้าในการเดินทางรถไฟ และทำการกรอกรายละเอียดในแบบคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ฉะนั้น จึงขอให้ผู้โดยสารมาถึงสถานีล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทาง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่างๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สถานีรถไฟ หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 368, 369, 370 ... 471, 472, 473  Next
Page 369 of 473

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©