Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311317
ทั่วไป:13281873
ทั้งหมด:13593190
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 417, 418, 419 ... 475, 476, 477  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/02/2022 12:06 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ตกแต่งรถนำเที่ยว เชียงใหม่ - ลำปาง แต่งานนี้โดนคนโห่ฮาป่าเข้าให้
https://twitter.com/nopstudio/status/1492489387501764609

โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา (ขบวนปฐมฤกษ์) เส้นทาง เชียงใหม่ - ลำพูน - ลำปาง ‼️ Cr. Lanna Modernization Railroad Travel
https://www.facebook.com/TrainBusAirplane/posts/491679789195607

https://www.facebook.com/hamzterzkub/posts/10221228080347549

การรถไฟฯ เปิดขบวนรถไฟสายประวัติศาสตร์ หนุนการท่องเที่ยว 3 จังหวัดล้านนา
กรุงเทพธุรกิจ 14 ก.พ. 2565 เวลา 11:30 น.

Click on the image for full size

การรถไฟฯ เปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 07.00 น. ณ สถานีรถไฟเชียงใหม่ นายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีเปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟใน 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยมีนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง รองศาสตราจารย์กิตติศักดิ์ สมุทธารักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน

จากนั้น ประธานในพิธี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ยังได้ร่วมขึ้นขบวนรถไฟรอบปฐมฤกษ์ ขบวนพิเศษ 954 Lanna Modernization ซึ่งได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ในการตกแต่งขบวนรถไฟและห้องโดยสาร ให้มีความสวยงามแสดงออกถึงอัตลักษณ์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนบน ช่วยให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศล้านนาตลอดการเดินทาง

โดยเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสถานีเชียงใหม่ไปยังสถานีรถไฟลำพูน เยี่ยมชมย่านการค้าโบราณ และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ประจำจังหวัด อาทิ กู่ช้าง-กู่ม้า วัดพระธาตุหริภุญไชย อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี คุ้มเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ ต่อด้วยสถานีลำปาง เพื่อเดินทางโดยรถม้าเยี่ยมชมวัดศรีรองเมือง วัดปงสนุก ชุมชนประตูป่อง ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนสบตุ๋ย ชุมชนรถไฟนครลำปาง และปิดท้ายที่สถานีรถไฟขุนตาน ไปที่จุดถ่ายภาพ และสะพานขามทาชมภู ก่อนเดินทางกลับถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ

นายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยว่า การเปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์สำหรับเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) ถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในโครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา

“ที่ผ่านมาการถไฟฯ ได้มีการทดสอบการเดินรถเชิงพาณิชย์และทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ไปแล้วเมื่อวัน 12 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งการเดินรถเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และหลังจากมีการนำร่องเปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ไปแล้ว การรถไฟฯ จะมีการจัดทำรายละเอียดโปรแกรมการท่องเที่ยว เพื่อเปิดให้สำหรับประชาชน นักท่องเที่ยวได้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟในภาคเหนือต่อไป”

สำหรับขบวนรถไฟท่องเที่ยวเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัดล้านนา ถืออีกเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทของการรถไฟฯ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ บนเส้นทางประวัติศาสตร์รถไฟและย่านการค้าของกลุ่มจังหวัดล้านนาตอนบน ซึ่งจะก่อให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยว กระจายรายได้ลงสู่ชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 14/02/2022 5:53 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ รถไฟขบวนพิเศษสายล้านนา
CH3ThailandNews
14 กุมภาพันธ์ 2565


โครงการ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา
Lanna Modernization Railroad Travel
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.46 น.

การท่องเที่ยวบนขบวนรถไฟรอบปฐมฤกษ์ บนเส้นทางสายประวัติศาสตร์ (จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง)
เป็นการทดสอบการเดินรถเชิงพาณิชย์และทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปางในวัน 12 กุมภาพันธ์ 2565 และเปิดรอบปฐมฤกษ์ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเส้นทางเริ่มต้นที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ด้วยรถแดงพาหนะอัตลักษณ์ของจังหวัดเพื่อเยี่ยมชมเมืองเก่าและย่านการค้าสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น ย่านสันป่าข่อย ย่านท่าแพ เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ ย่านวัดเกต ย่านแก้วนวรัฐ จากนั้นกลับมาสถานีรถไฟเชียงใหม่ เพื่อขึ้นขบวนรถไฟขบวนพิเศษมุ่งสู่สถานีรถไฟลำพูน โดยสารรถราง ชมเมืองลำพูน ย่านการค้าโบราณและย่านประวัติศาสตร์ของเมืองลำพูน เช่น กู่ช้างกู่ม้า วัดพระธาตุหริภุญชัย อนุสาวรีย์ พระนางจามเทวี คุ้มเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ และกลับเข้าสู่สถานีรถไฟลำพูน เดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟนครลำปาง นั่งรถม้าท่องเที่ยวชมเมืองลำปาง เยี่ยมชมย่านการค้าเมืองเก่าและย่านประวัติศาสตร์ของเมืองลำปาง เช่น วัดศรีรองเมือง วัดปงสนุก ชุมชนประตูป่อง ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนสบตุ๋ย และชุมชนรถไฟนครลำปาง จากนั้นเดินทางกลับโดยรถไฟ แวะชื่นชมสถานีรถไฟขุนตานสะพานขามทาชมภู และเดินทางกลับถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ

https://www.facebook.com/Ch3ThailandNews/posts/4879115112124290

การเปิดขบวนเดินรถไฟรอบปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่ม OTOP จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง ทั้ง 2 จังหวัด มีรายได้หมุนเวียนประมาณ 100,000 บาทภายใน 2 วัน (ข้อมูลจากประธาน OTOP ลำพูน) ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และรวมไปถึงผู้ประกอบการรถม้า
เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนประมาณ 100,000 บาทรวมถึง ผู้ประกอบการร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยว มียอดขายเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% อีกด้วย
การท่องเที่ยวบนขบวนรถไฟรอบปฐมฤกษ์ บนเส้นทางสายประวัติศาสตร์ (จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง)
https://www.facebook.com/lanna.modernization/posts/132226475959591


การรถไฟฯ เปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.16 น.

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 07.00 น. ณ สถานีรถไฟเชียงใหม่ นายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมพิธีเปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟใน 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยมีนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายสันติ รังษิรุจิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง รองศาสตราจารย์กิตติศักดิ์ สมุทธารักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
จากนั้น ประธานในพิธี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ยังได้ร่วมขึ้นขบวนรถไฟรอบปฐมฤกษ์ ขบวนพิเศษ 954 Lanna Modernization ซึ่งได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ในการตกแต่งขบวนรถไฟและห้องโดยสาร ให้มีความสวยงามแสดงออกถึงอัตลักษณ์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนบน ช่วยให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกลิ่นอายบรรยากาศล้านนาตลอดการเดินทาง โดยเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสถานีเชียงใหม่ไปยังสถานีรถไฟลำพูน เยี่ยมชมย่านการค้าโบราณ และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ประจำจังหวัด อาทิ กู่ช้าง-กู่ม้า วัดพระธาตุหริภุญไชย อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี คุ้มเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ ต่อด้วยสถานีลำปาง เพื่อเดินทางโดยรถม้าเยี่ยมชมวัดศรีรองเมือง วัดปงสนุก ชุมชนประตูป่อง ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนสบตุ๋ย ชุมชนรถไฟนครลำปาง และปิดท้ายที่สถานีรถไฟขุนตาน ไปที่จุดถ่ายภาพ และสะพานขามทาชมภู ก่อนเดินทางกลับถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ
นายสุชีพ สุขสว่าง รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยว่า การเปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์สำหรับเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) ถือเป็นการดำเนินการตามนโยบายของนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ในโครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา
“ที่ผ่านาการถไฟฯ ได้มีการทดสอบการเดินรถเชิงพาณิชย์และทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ไปแล้วเมื่อวัน 12 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งการเดินรถเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และหลังจากมีการนำร่องเปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ไปแล้ว การรถไฟฯ จะมีการจัดทำรายละเอียดโปรแกรมการท่องเที่ยว เพื่อเปิดให้สำหรับประชาชน นักท่องเที่ยวได้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟในภาคเหนือต่อไป”
สำหรับขบวนรถไฟท่องเที่ยวเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัดล้านนา ถืออีกเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงบทบาทของการรถไฟฯ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ บนเส้นทางประวัติศาสตร์รถไฟและย่านการค้าของกลุ่มจังหวัดล้านนาตอนบน ซึ่งจะก่อให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยว กระจายรายได้ลงสู่ชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 16/02/2022 4:24 am    Post subject: Reply with quote

นั่งรถไฟเที่ยวกันมั้ย? One Day Trip บนเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง
แกงโฮะ รีวิว - Kanghoh Review
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 14.43 น.

-----
ทริปนี้เรามีโอกาสได้ไปร่วมนั่งรถไฟเที่ยวชิลๆ แบบ One Day Trip 3 จังหวัด ออกจากเชียงใหม่ ไปลำพูน และลำปาง ขอบอกว่าเป็นทริปที่ดีงามมาก ได้นั่งรถไฟที่มีการปรับปรุงตกแต่งภายในใหม่หมด โดยเขาได้นำเอารถไฟสปรินเตอร์แอร์เย็นฉ่ำมาให้บริการ ตัวรถสะอาดสอ้าน มีการประดับด้วยลายไทยบนเพดาน และผ้าหุ้มเบาะ ในบรรยากาศแบบล้านนาร่วมสมัย “Lanna Modernization” แสดงอัตลักษณ์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนบน ที่พาเราย้อนกลับไปซึมซับบรรยากาศเส้นทางประวัติศาสตร์ของการเดินทางด้วยรถไฟ ขอบอกว่าทริปนี้ได้รูปสวยๆ กลับมาเพียบครับ
-----
การเดินทางเริ่มต้นที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ไปยังจังหวัดลำพูน เราได้นั่งรถรางชมสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ประจำจังหวัด ทั้งโบราณสถานกู่ช้าง กู่ม้า วัดพระธาตุหริภุญชัย อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี คุ้มเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ และย่านการค้าเก่าแก่คู่เมืองลำพูน จากนั้น ออกเดินทางไปยังจังหวัดลำปาง นั่งรถม้าสัญลักษณ์ประจำจังหวัดลำปาง เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ลำปาง เช่น วัดศรีรองเมือง วัดปงสนุกเหนือ ชุมชนประตูป่อง บ้านหลุยส์ ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนรถไฟนครลำปาง ตลาดเก๊าจาวตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี จากนั้นเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟขุนตาน ชมประวัติศาสตร์อุโมงค์ขุนตาน และปิดท้ายด้วยการชมความสวยงามของสะพานขาวทาชมภู ก่อนเดินทางกลับสถานีรถไฟเชียงใหม่
-----
อีกเรื่องที่ประทับใจแอดมินคือ ในระหว่างเดินทางมีการบริการอาหารว่าง เครื่องดื่ม และอาหารกลางวันแบบล้านนา จัดวางมาในกล่องที่มีลวดลายที่แสดงถึงเอกลักษณ์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของทั้ง 3 จังหวัด ดูไปก็ให้อารมณ์คล้ายๆ กับกล่องเบนโตะบนรถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่นเลยทีเดียว แถมรสชาติอร่อยด้วยครับ
-----
สำหรับเส้นทางนี้ เป็นเส้นทางทดลองเดินรถเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เป็นโครงการของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟใน 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสรุปผลการศึกษาวิจัยโครงการ คาดว่าจะสามารถเปิดการเดินรถต้องรับนักท่องเที่ยวได้ในเดือนตุลาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ใครที่สนใจอยากเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ก็อดใจรออีกนิด ถ้ามีความคืบหน้าแอดมินจะรีบมาบอกแฟนๆ ทันทีเลยนะครับ

Wisarut wrote:
เปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ รถไฟขบวนพิเศษสายล้านนา
CH3ThailandNews
14 กุมภาพันธ์ 2565


โครงการ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา
Lanna Modernization Railroad Travel
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.46 น.

https://www.facebook.com/Ch3ThailandNews/posts/4879115112124290

การเปิดขบวนเดินรถไฟรอบปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่ม OTOP จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง ทั้ง 2 จังหวัด มีรายได้หมุนเวียนประมาณ 100,000 บาทภายใน 2 วัน (ข้อมูลจากประธาน OTOP ลำพูน) ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และรวมไปถึงผู้ประกอบการรถม้า
เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนประมาณ 100,000 บาทรวมถึง ผู้ประกอบการร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยว มียอดขายเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% อีกด้วย
การท่องเที่ยวบนขบวนรถไฟรอบปฐมฤกษ์ บนเส้นทางสายประวัติศาสตร์ (จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง)
https://www.facebook.com/lanna.modernization/posts/132226475959591


การรถไฟฯ เปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.16 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 16/02/2022 1:50 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ รถไฟขบวนพิเศษสายล้านนา
CH3ThailandNews
14 กุมภาพันธ์ 2565


โครงการ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา
Lanna Modernization Railroad Travel
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.46 น.


https://www.facebook.com/Ch3ThailandNews/posts/4879115112124290
https://www.facebook.com/lanna.modernization/posts/132226475959591


การรถไฟฯ เปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.16 น.


ขบวนรถไฟสายล้านนาสัมผัสกลิ่นไอล้านนาท่องเที่ยวเจียงใหม่-หละปูน-ลำปาง....
เอ่อ...ตี้นั่งคนบ้านอยู่ตางใดเจ้า อันนี้ตี้นั่งตุ๊เจ้าแม่นก่อเจ้า
5555555555555 ไผออกแบบ ลากหัวมันออกมา ต๋อนนั่งรถไฟแอ่วมึงสืบจ๊ะต๋าไปตวยก่อ 5555
https://www.facebook.com/stayatchiangmai/posts/1284837215330659
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 16/02/2022 4:14 pm    Post subject: Reply with quote

สิ้นสุดการรอคอย10ปีบอร์ดไฟเขียวระบบติดตามรถไฟ
*จ้างเอกชนพัฒนา18เดือน949ล้านบริการปีหน้า
*เช็กได้ทันทีอีกกี่นาทีมาถึงเพิ่มผู้โดยสาร/รายได้
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3113004612254369
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/02/2022 6:07 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
สิ้นสุดการรอคอย10ปีบอร์ดไฟเขียวระบบติดตามรถไฟ
*จ้างเอกชนพัฒนา18เดือน949ล้านบริการปีหน้า
*เช็กได้ทันทีอีกกี่นาทีมาถึงเพิ่มผู้โดยสาร/รายได้
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3113004612254369

รฟท. ลุยติดตั้งระบบติดตามขบวนรถไฟแบบเรียลไทม์ 949 ล้าน เริ่ม พ.ค.นี้
เดลินิวส์ 16 กุมภาพันธ์ 2565 14:38 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์

บอร์ด รฟท. ไฟเขียวติดตั้งระบบติดตามขบวนรถไฟแบบเรียลไทม์ 949 ล้าน ลุยดำเนินการ 18 เดือน เริ่ม พ.ค.นี้ ให้บริการปลายปี 66 ผู้โดยสารเช็กได้ทันทีอีกกี่นาทีรถไฟมาถึงสถานี คาดผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้น 5% รายได้เพิ่มปีละ 176 ล้าน

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ซึ่งมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้า (Train Tracking and Freight Management System) ราคากลาง 949.9 ล้านบาท โดยผู้เสนอราคาต่ำสุดคือ กิจการร่วมค้าเอเอ ประกอบด้วย บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT และบริษัท แอพเวิร์คส์ จำกัด เสนอราคา 948 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1.9 ล้านบาท โดยที่ประชุมขอให้ รฟท.ไปเจรจาต่อรองราคากับกิจการร่วมค้าเอเออีกครั้ง และเสนอให้ที่ประชุมบอร์ด รฟท. รับทราบในการประชุมเดือน มี.ค.65 ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า เบื้องต้นคาดว่า รฟท. จะสามารถลงนามในสัญญากับกิจการร่วมค้าเอเอ ในเดือน เม.ย.65 และเริ่มงานติดตั้งระบบในเดือน พ.ค.65 ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 18 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 66 ทั้งนี้การติดตั้งระบบดังกล่าวจะติดตั้งที่ขบวนรถโดยสารทั้งหมดกว่า 200 ขบวน และขบวนรถสินค้ากว่า 100 ขบวน รวมทั้งติดตั้งที่สถานีขนาดใหญ่ประมาณ 200 แห่ง จากสถานีทั้งหมด 446 สถานีทั่วประเทศ เพื่อติดตามขบวนรถแบบเรียลไทม์ โดยผู้โดยสารสามารถดูผ่านแอพพลิเคชั่น และจะทราบได้ทันทีว่า ขบวนรถที่ตนเองต้องการเดินทางอยู่ที่ใด และอีกกี่นาทีจะเข้ามาถึงสถานี นอกจากนี้ที่สถานีขนาดใหญ่จะมีจอแจ้งเตือนเหมือนสถานีรถไฟฟ้า MRT ด้วย  

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ระบบนี้จะทำให้ติดตามตำแหน่งหัวรถจักร ขบวนโดยสาร และแคร่สินค้าได้แบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขนส่ง แก้ปัญหาความล่าช้า และยังอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเช็กเวลาเข้า และออกสถานีของขบวนรถได้ด้วย โดยจะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นมารองรับการใช้งานต่อไป อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวจะช่วยลดมูลค่าความเสียหายจากความล่าช้าของเที่ยววิ่งรถโดยสารได้ปีละ 311 ล้านบาท ลดมูลค่าความเสียหายเที่ยววิ่งสินค้าปีละ 97 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะที่ผู้โดยสารจะพึงพอใจกับบริการมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับการบริการ คาดว่าจะทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 5% หรือปีละ 1.75 ล้านคน จากยอดผู้โดยสารเฉลี่ยต่อปี 35.1 ล้านคน ส่งผลให้รายได้จากการโดยสารเพิ่มขึ้นปีละ 176 ล้านบาท จากรายได้ปกติปีละ 3,529 ล้านบาท ส่วนปริมาณขนส่ง คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% จากปัจจุบันที่ขนส่งอยู่ที่ปีละ 11 ล้านตัน ส่งผลให้รายได้จากการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นปีละ 44 ล้านบาท รวมทั้งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปีละ 10 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งการพัฒนา ซึ่ง รฟท. ผลักดันเรื่องนี้มาเกือบ 10 ปี กว่าจะผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด รฟท.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 17/02/2022 1:53 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
สิ้นสุดการรอคอย10ปีบอร์ดไฟเขียวระบบติดตามรถไฟ
*จ้างเอกชนพัฒนา18เดือน949ล้านบริการปีหน้า
*เช็กได้ทันทีอีกกี่นาทีมาถึงเพิ่มผู้โดยสาร/รายได้
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/3113004612254369


AIT ชนะประมูลติดGPSขบวนรถไฟ วงเงิน 948 ล. เช็คเวลาเดินทางเรียลไทม์

เศรษฐกิจ
สยามรัฐออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2565 13:46 น.


รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่าที่ประชุมบอร์ด รฟท.เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้า (Train Tracking and Freight Management System) ราคากลาง 949.9 ล้านบาท โดยผู้ชนะการประมูลคือกิจการร่วมค้าเอเอ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)( AIT) บริษัท แอพเวิร์คส์ จำกัด บริษัท อาร์มเทค เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด บริษัท เอส เจ พี อินฟอร์เมชั่นซิสเต็ม จำกัด เสนอราคาต่ำที่สุดคือ 948.5 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1.4 ล้านบาท โดยบอร์ดขอให้ รฟท.ไปเจรจาต่อรองขอลดราคากับผู้ชนะอีกครั้ง

รฟท. ลุยติดตั้งระบบติดตามขบวนรถไฟแบบเรียลไทม์ 949 ล้าน เริ่ม พ.ค.นี้
เดลินิวส์ 16 กุมภาพันธ์ 2565 14:38 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์



บอร์ด รฟท.ไฟเขียว AIT ชนะประมูลติดจีพีเอสขบวนรถโดยสาร 948 ล. -ผุดแอพเช็คเวลาเดินทางแบบเรียลไทม์
เศรษฐกิจ
ข่าวสด
16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 07:48 น.


บอร์ด รฟท. ไฟเขียว AIT ชนะประมูล งานติดตั้งจีพีเอส ขบวนรถไฟขนส่ง คน-สินค้า วงเงิน 948 ล้านบาท เตรียมผุดแอพให้ผู้โดยสารเช็คเวลาเดินทางแบบเรียลไทม์ คาดเริ่มใช้ปลายปี 66

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เปิดเผยว่าที่ประชุมบอร์ด รฟท.เมื่อวันที่ 15 ก.พ. มีมติเห็นชอบผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้า (Train Tracking and Freight Management System) ราคากลาง 949.9 ล้านบาท โดยผู้ชนะการประมูลคือกิจการร่วมค้าเอเอ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)( AIT) และ บริษัท แอพเวิร์คส์ จำกัด เสนอราคาต่ำที่สุดคือ 948 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1.9 ล้านบาท โดยบอร์ดขอให้ รฟท.ไปเจรจาต่อรองขอลดราคากับผู้ชนะอีกครั้ง


คำสารภาพหลาน ฆ่ายัดถังยายแท้ๆ อ้างเก็บกด เพื่อนบ้านเล่าขนลุก เจอมาทักหน้าห้อง
“รฟท.จะนัดต่อรองราคาอีกครั้ง และนำผลสรุปเสนอให้ บอร์ด รฟท. รับทราบอีกครั้งในการประชุมเดือน มี.ค. คาดว่าจะลงนามในสัญญากับกิจการร่วมค้าเอเอ ได้เดือนเม.ย.2565 เริ่มงานติดตั้งระบบ พ.ค.2565 ใช้ระยะเวลา 18 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2566”

รายงานข่าวแจ้งว่าโครงการดังกล่าวมีเอกชนยื่นประมูล 2 รายคือกิจการร่วมค้าเอเอ และ บริษัท สามารถคอมเทค จำกัด ซึ่งเสนอราคาที่ 949 ล้านบาท สูงกว่าราคาของกิจการร่วมค้าเอเอจึงแพ้ประมูล


ทั้งนี้รฟท.จะเร่งตัดตั้งระบบ GPS และRFID บนขบวนรถโดยสาร 200 ขบวนและขบวนตู้สินค้า 100 ตู้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจัดการขนส่งผู้โดยสาร สินค้า รวมทั้งระบบการวางแผนพนักงานประจำขบวนรถ ระบบจัดขบวนรถ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับระบบขนส่งโหมดอื่น

“ระบบนี้จะทำให้ ติดตามตำแหน่งหัวรถจักร ขบวนโดยสารและแคร่สินค้าได้แบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขนส่ง แก้ปัญหาความล่าช้า และยังอำนวยความสะดกให้ประชาชนสามารุเช็คเวลาเข้า ออกสถานีของขบวนรถได้ด้วย โดยจะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นมารองรับการใช้งานต่อไป”


รายงานข่าวแจ้งว่าระบบดังกล่าวจะลดมูลค่าความเสียหายจากความล่าช้าของเที่ยววิ่งรถโดยสารได้ ปีละ 311 ล้านบาท ลดมูลค่าความเสียหายเที่ยววิ่งสินค้าปีละ 97 ล้านบาท ขณะที่ผู้โดยสารจะพึงพอใจกับบริการมากขึ้นเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับบริการ คาดว่าจะทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 5% หรือราว ปีละ 1.75 ล้านคน จากยอดคนโดยสารเฉลี่ยต่อปี 35.1 ล้านคน ส่งผลให้รายได้จากการโดยสารเพิ่มขึ้นปีละ 176 ล้านบาท จากรายได้ปกติปีละ 3,529 ล้านบาท

ส่วนปริมาณขนส่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% จากปัจจุบันที่ขนส่งอยู่ที่ปีละ 11 ล้านตัน ส่งผลให้รายได้จากการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นปีละ 44 ล้านบาท รวมทั้งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปีละ 10 ล้านบาท

//-----------------------------------------------------------------------------------

บอร์ด รฟท.ไฟเขียวประมูลติดตั้งระบบ “GPS- RFID” บนรถไฟ 949 ล้าน
16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13:41


10 ปีที่รอคอย บอร์ด รฟท.ไฟเขียวประมูลติดตั้งระบบ “GPS-RFID” บนรถไฟโดยสาร-ตู้ขนสินค้า วงเงิน 949 ล้าน เตรียมปิดมหากาพย์ขนส่งทางรถไฟล่าช้า เตรียมใช้การติดตามตารางเดินรถแบบเรียลไทม์ จองตั๋วออนไลน์ ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายในปี 66

วันนี้ (16 ก.พ.2565) รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟท.มีมติเห็นชอบผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้า (Train Tracking and Freight Management System) ราคากลาง 949.9 ล้านบาท โดยผู้ชนะการประมูลคือกิจการร่วมค้าเอเอ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)( AIT) บริษัท แอพเวิร์คส์ จำกัด บริษัท อาร์มเทค เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด บริษัท เอส เจ พี อินฟอร์เมชั่นซิสเต็ม จำกัด เสนอราคาต่ำที่สุดคือ 948 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1.4 ล้านบาท



จากนี้ บอร์ดขอให้ รฟท.ไปเจรจาต่อรองขอลดราคากับผู้ชนะอีกครั้ง โดยจะนำผลสรุปที่ได้ไปเสนอให้ บอร์ด รฟท.รับทราบอีกครั้งในการประชุมเดือน มี.ค.นี้ คาดว่าจะลงนามในสัญญาได้เดือน เม.ย.2565 โดยระบบติดตาม GPS จะนำไปติดตั้งตำแหน่งหัวรถจักร ส่วน RFID จะนำไปติดตั้งที่ขบวนรถโดยสาร ซึ่งจะเริ่มติดตั้งบนขบวนรถโดยสาร 200 ขบวนและขบวนตู้สินค้า 100 ตู้

ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มงานติดตั้งระบบได้ภายใน พ.ค.2565 และเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2566 ถือเป็นครั้งแรกที่ รฟท.นำระบบมาใช้หลังจากที่ดำเนินการมากว่า 10 ปี โดยระบบดังกล่าวติดตามตำแหน่งหัวรถจักร ขบวนโดยสารและแคร่สินค้าได้แบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขนส่ง แก้ปัญหาความล่าช้า และยังอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเช็กเวลาเข้า-ออก สถานีของขบวนรถได้ด้วย โดยจะมีการพัฒนาแอปพลิเคชันมารองรับการใช้งานต่อไป

สำหรับระบบ GPS และ RFID สามารถเช็กติดตามการขนส่งแบบเรียลไทม์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจัดการติดตามขนวนรถไฟและจัดการงานขนส่งของ รฟท.ให้มีประสิทธิภาะมากยิ่งขึ้น ทำให้ รฟท.สามารถเช็กตู้หมายเลขนั้น ๆ ขนส่งจากไปไหน นำหนักเท่าใด สินค้าเป็นของใคร ทำให้รู้เรื่องของการหมุนเวียนรถ รถตกค้างจุดไหน เพื่อที่จะนำกลับมาหมุนเวียนหารายได้



ในส่วนผู้ประกอบการ สามารถติดตามเช็กสถานนะได้ทันที พร้อมทั้งยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการและประชาชนทั่วไปในการเข้าถึงข้อมูลการเดินทางและบริการ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการทำงานได้อย่างทันท่วงที และยังช่วยปรับปรุงกระบวนงานและวิเคราะห์ออกแบบระบบสารสนเทศกลุ่มธุรกิจการเดินรถอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งการนำระบบดังกล่าวมาใช้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของ รฟท.อีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการดังกล่าวมีเอกชนยื่นประมูลจำนวน 2 ราย คือ กิจการร่วมค้าเอเอ และ บริษัท สามารถคอมเทค จำกัด ซึ่งเสนอราคาที่ 949 ล้านบาท สูงกว่าราคาของกิจการร่วมค้าเอเอจึงแพ้ประมูล ถือว่าต่างกันไม่มากแต่เป็นการให้คะแนนด้านเทคนิคด้วย เนื่องจากที่ประชุมบอร์ด มีโจทย์สำคัญเป็นข้อห่วงใยในเรื่องการเชื่อมกับระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องใน รฟท.รวมถึงนอกองค์กร ซึ่งในตัว TOR ได้ระบุเป็นเงื่อนไขอยู่แล้วว่าเอกชนที่จะเข้ามาพัฒนาระบบนี้จะต้องมีการเชื่อมกับระบบอื่นได้ด้วย

//-------------------------------------------------------
รฟท.ลุยนำระบบ ‘GPS- RFID’ มาใช้ ประชาชนเช็คตารางเดินรถแบบเรียลไทม์
16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 13:43 น.

10 ปีที่รอคอย บอร์ด รฟท.ไฟเขียวประมูลติดตั้งระบบ “GPS- RFID”บนรถไฟโดยสาร-ตู้ขนสินค้า วงเงิน 949 ล้าน เตรียมปิดมหากาพย์ขนส่งทางรถไฟล่าช้า เตรียมใช้การติดตามตารางเดินรถแบบเรียลไทม์ จองตั๋วแบบออนไลน์ คาดเริ่มติดตั้งระบบภายใน พ.ค.นี้ ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายในปี66

16 ก.พ.2565-รายงานข่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่าที่ประชุมบอร์ด รฟท. มีมติเห็นชอบผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้า (Train Tracking and Freight Management System) ราคากลาง 949 ล้านบาท โดยผู้ชนะการประมูลคือกิจการร่วมค้าเอเอ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)( AIT) บริษัท แอพเวิร์คส์ จำกัด บริษัท อาร์มเทค เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด บริษัท เอส เจ พี อินฟอร์เมชั่นซิสเต็ม จำกัด เสนอราคาต่ำที่สุดคือ 948 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1.4 ล้านบาท

อย่างไรตามหลังจากนี้บอร์ดขอให้ รฟท.ไปเจรจาต่อรองขอลดราคากับผู้ชนะอีกครั้ง โดยจะนำผลสรุปที่ได้ไปเสนอให้ บอร์ด รฟท. รับทราบในการประชุมครั้งหน้าเดือน มี.ค. นี้ คาดว่าจะลงนามในสัญญากับกิจการร่วมค้าเอเอ ได้เดือนเม.ย.2565 โดยระบบติดตาม GPS จะนำไปติดตั้งตำแหน่งหัวรถจักร ส่วน RFID จะนำไปติดตั้งที่ขบวนรถโดยสาร โดยจะเริ่มติดตั้งบนขบวนรถโดยสาร 200 ขบวนและขบวนตู้สินค้า 100 ตู้

ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มงานติดตั้งระบบได้ภายใน พ.ค.2565 จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2566 ถือเป็นครั้งแรกที่ รฟท.นำระบบมาใช้หลังจากที่ดำเนินการมาใช้เวลากว่า 10 ปี โดยระบบดังกล่าวติดตามตำแหน่งหัวรถจักร ขบวนโดยสารและแคร่สินค้าได้แบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขนส่ง แก้ปัญหาความล่าช้า และยังอำนวยความสะดกให้ประชาชนสามารุเช็คเวลาเข้า ออกสถานีของขบวนรถได้ด้วย โดยจะมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นมารองรับการใช้งานต่อไป

“ระบบ GPS และ RFID สามารถเช็คติดตามการขนส่งแบบเรียลไทม์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจัดการติดตามขนวนรถไฟและจัดการงานขนส่งของ รฟท.ให้มีประสิทธิภาะมากยิ่งขึ้น ทำให้รฟท.สามารถเช็คตู้หมายเลขนั้นๆขนส่งจากไปไหน นำหนักเท่าไร ของสินค้าของใคร ทำให้รู้เรื่องของการหมุนเวียนรถ รถตกค้างจุดไหน เพื่อที่จะนำกลับมาหมุนเวียนหารายได้ ในส่วนผู้ประกอบการ สามารถติดตามเช็คสถานนะได้ทันที พร้อมทั้งยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการและประชาชนทั่วไปในการเข้าถึงข้อมูลการเดินทางและบริการ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการทำงานได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันยังช่วยปรับปรุงกระบวนงานและวิเคราะห์ออกแบบระบบสารสนเทศกลุ่มธุรกิจการเดินรถอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งการนำระบบดังกล่าวมาใช้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของ รฟท.อีกด้วย”

รายงานข่าวแจ้งว่าโครงการดังกล่าวมีเอกชนยื่นประมูลจำนวน 2 รายคือกิจการร่วมค้าเอเอ และ บริษัท สามารถคอมเทค จำกัด ซึ่งเสนอราคาที่ 949 ล้านบาท สูงกว่าราคาของกิจการร่วมค้าเอเอจึงแพ้ประมูล ถือว่าต่างกันไม่มากแต่เป็นการให้คะแนนด้านเทคนิคด้วย เมื่อใช้หลักเกณฑ์การประมูลต้องมีในส่วนของด้านราคาและด้านเทคนิคด้วย เนื่องจากที่ประชุมบอร์ด มีโจทย์สำคัญเป็นข้อห่วงใยในเรื่องการเชื่อมกับระบบอื่นๆที่เกี่ยวข้องใน รฟท.ร่วมทั้งข้างนอกองค์กรด้วย ซึ่งแน่นอนว่าในตัว TOR ได้ระบุเป็นเงื่อนไขอยู่แล้วว่าเอกชนที่จะเข้ามาพัฒนาระบบนี้จะต้องมีการเชื่อมกับระบบอื่นได้ด้วย
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44763
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/02/2022 10:36 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
เปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ รถไฟขบวนพิเศษสายล้านนา
CH3ThailandNews
14 กุมภาพันธ์ 2565

คอลัมน์ สบายๆสไตล์ไมตรี: ทางรถไฟสายประวัติศาสตร์
Source - เดลินิวส์
Saturday, February 19, 2022 06:20
ไมตรี ลิมปิชาติ

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมมีโอกาสได้ร่วมงานพิธีเปิดรถไฟสายประวัติศาสตร์ ระหว่างเชียงใหม่ลำพูน ถึงลำปาง
ผมไม่ได้ไปร่วมพิธีเปิดเท่านั้น ยังได้นั่งรถไฟไปกับคนอื่น ๆ ด้วย

รถไฟสายนี้ การรถไฟตั้งเป้าให้เป็นสายท่องเที่ยวมากกว่าขนส่งสินค้าหรือขนคน
ก็คงเหมือนกับรถไฟสายมรณะที่เปิดหวูดแล่นจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองกาญจน์นั่นเหละ
ขณะเดินทาง ผมได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องในงานนี้หลายคน

ผศ.สุภาวดี โพธิยะราช ผู้เกี่ยวข้องท่านหนึ่ง บอกที่ไปที่มาให้ผมฟังว่า ที่มีวันนี้เกิดขึ้นได้ ก็เพราะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ(บพข.) และกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ร่วมสนับสนุนทุนวิจัยให้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

คนส่วนใหญ่ เวลานั่งรถไฟอาจจะชอบรถไฟความเร็วสูง แต่ผมกลับชอบรถไฟความเร็วต่ำ

การได้นั่งรถไฟแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ผมได้นั่งสบายทั้งกายและตา เพราะผมชอบดูทิวทัศน์สองข้างทางรถไฟนั่นเอง
รถไฟสายนี้จึงถูกใจผมมาก ๆ แค่ได้เห็นทิวทัศน์สองข้างทางก็เพลิดเพลินและมีความสุขแล้ว

จากสถานีเชียงใหม่ รถไฟได้พาเราไปแวะที่สถานีรถไฟลำพูน เมืองสงบ สุดน่ารักเพื่อนั่งรถรางชมเมืองผ่านย่านการค้าและย่านประวัติศาสตร์ เช่น กู่ช้างกู่ม้า วัดพระธาตุหริภุญชัย อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี คุ้มเจ้าหลวงจักรดำขจรศักดิ์ ก่อนกลับมาขึ้นรถไฟ เดินทางต่อไปยังนครลำปาง
ที่ลำปาง ทุกคนได้นั่งรถม้าท่องเที่ยวชมเมือง เยี่ยมชมทั้งเมืองใหม่และย่านประวัติศาสตร์ เช่น วัดศรีรองเมือง ชุมชนประตูป่อง ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนสบตุ๋ย และชุมชนรถไฟนครลำปาง

ได้เที่ยวทั้งลำพูนและลำปาง ทำให้ได้บรรยากาศแบบไทยภาคเหนือที่มีความร่มเย็นเป็นสุข
อีกทั้งยังมีอาหารพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะให้ลิ้มรสที่ถูกลิ้นอีกต่างหาก
ขากลับ รถไฟได้พาเราแวะสถานีรถไฟขุนตานด้วย

ทั้งขาไปและขากลับสิ่งที่ทุกคนได้ตื่นเต้น (ถ้าเคยมาครั้งแรก) ก็คือ ได้นั่งรถไฟ เข้าถ้ำขุนตาน ที่มีความยาวถึง 1,362 เมตร

ไม่น่าเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้ใช้เวลาสร้างถึง 10 ปีทีเดียว เพราะสมัยนั้น ก็เมื่อ 115 ปีมาแล้ว การขุดเจาะถ้ำต้องใช้แรงงานคนอย่างเดียว ไม่มีเครื่องจักรทันสมัยให้ใช้

ทว่าในปัจจุบัน เจาะถ้ำยาวขนาดนี้และ มีช่องให้รถไฟแล่นเข้า ไปได้ ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

จากสถานีรถไฟขุนตาน รถไฟได้พาทุกคนมาแวะที่สะพานขาวทาชมภู
มีชื่ออย่างนี้ ไม่ได้เป็นสะพานที่ทาด้วยสีชมพู แต่ทาด้วยสีขาว
เป็นสะพานที่ไม่ได้ทาด้วยสีขาวอย่างเดียว ยังเป็นสะพานคอนกรีตด้วย จึงทำให้เป็นจุดเด่นน่าสนใจมากขึ้น เพราะสะพานรถไฟทั่วไปจะใช้เหล็ก

วันนั้น เรากลับถึงเชียงใหม่ด้วยสวัสดิภาพและไม่เสียสุขภาพ

จากการได้นั่งรถไฟสายประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ทำให้ผมมั่นใจว่า ตั้งแต่วันนี้ รถไฟสายนี้จะต้องได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปอย่างแน่นอน.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 20 ก.พ. 2565 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 20/02/2022 11:19 pm    Post subject: Reply with quote

คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ส่งเสริมท่องเที่ยวแบบ Low Carbon 'ท่องเที่ยวรถไฟสายล้านนา'
เขียนโดย : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธารีทิพย์ ทากิ อาจารย์ประจำคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU)
วันอาทิตย์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 21.10 น.


ทริปการท่องเที่ยวเมืองเหนือ 3 จังหวัดครั้งนี้ เริ่มต้นจากการเชิญชวนของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ แอทต้า (ATTA) ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ที่ทางคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เป็นสมาชิกอยู่ ทั้ง 2 สมาคมได้ร่วมกันจัดให้สมาชิกร่วมสำรวจเส้นทาง เปิดประสบการณ์ “ท่องเที่ยวรถไฟสายล้านนา” และมีโอกาสพบผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมทั้งร่วม “ทดสอบและประเมิน” การปล่อยขบวนรถไฟดีเซลรางปฐมฤกษ์ด้วยการจัดรถไฟท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับระหว่างจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และ ลำปาง เป็นครั้งแรก

เส้นทางปฐมฤกษ์เริ่มต้นทริปด้วยการนั่งรถแดงกินลมเย็นๆ ควบคู่ไปกับการชมวิวรอบเมืองเชียงใหม่ และมาจบรอบที่สถานีรถไฟ จ.เชียงใหม่ แว้บแรกที่เห็นสถานี ก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลากลับไปสู่บรรยากาศวัยเยาว์ เพราะนับนิ้วไม่ถูกเลยว่าเคยขึ้นรถไฟท้องถิ่นไปเที่ยวครั้งสุดท้ายเมื่อเมื่อไหร่ หน้าสถานีรถไฟจะมีหัวรถจักรไอน้ำตั้งตระหง่านต้อนรับทุกคนอยู่หน้าสถานี ภายในจะเป็นสถาปัตยกรรมไม้โบราณ มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงริเริ่มการสร้างทางรถไฟในประเทศสยามประดับเด่นชัด ป้ายสถานีบ่งบอกความเก่าแก่แต่คลาสสิคเอาไว้ให้รำลึกถึง ส่วนขบวน

รถไฟที่นำมาทดลองเป็นขบวนที่ได้รับมอบจากประเทศเกาหลีใต้ ภายนอกสีส้มสดใสตัดกับสีน้ำเงินสร้างความโดดเด่นง่ายต่อการจดจำ







ภายในห้องโดยสารต้อนรับคณะด้วยแอร์เย็นสบาย มีการตกแต่งเพดาน เก้าอี้ และพื้นด้วยสีเหลือง ฟ้า และแดง ภายใต้ด้วยธีม Lanna Renaissance โดยทุกสิ่งจะแฝงไว้ด้วยที่มาและความหมาย อาทิ คานบนเพดานลายรูปหงษ์ทองจากวัดหริภุญชัย ถุงผ้าม่านลายยกดอกลำพูน ลายตุงพญายอหรือตุงไส้หมูบริเวณที่วางสัมภาระที่หมายถึง การมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนที่รัก นอกจากนั้นยังมีบริการอาหารกล่องเสิร์ฟมาในบรรจุภัณฑ์ลาย “สถานีรถไฟนครลำปาง” เนื่องจากรถไฟขบวนนี้ไม่มีตู้เสบียงบริการอาหาร

ในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ขบวนรถแล่นออกจากสถานีรถไฟเชียงใหม่มาถึงสถานีรถไฟลำพูน คณะแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองลำพูนด้วยรถราง ผ่านย่านการค้าโบราณและย่านประวัติศาสตร์ อาทิ กู่ช้างกู่ม้า วัดพระธาตุหริภุญไชย อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี คุ้มเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ และเดินทางต่อไปยังสถานีนครลำปาง ระหว่างทางได้รับเสิร์ฟอาหารกลางวันแบบกล่องอีกครั้งด้วยภาพเส้นทางรถไฟล้านนาตั้งแต่การขึ้นรถแดง จ.เชียงใหม่ – รถราง จ.ลำพูน – รถม้า จ.ลำปาง ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วโดยสาร ภาพและเสียงการตัดตั๋ว “กลิ๊บๆ” ทำให้ยิ่งคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ในอดีตเสียเหลือเกิน ทานข้าวไป ฟังเพลงบรรเลงล้านนาที่ทางผู้วิจัยสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะไป เผลอแป้บเดียวก็ถึงสถานีรถไฟนครลำปางพอดี







เปลี่ยนจากรถไฟมาขึ้น “รถม้า” สัญลักษณ์และชื่อเล่นของเมืองลำปางที่พาคณะท่องเที่ยวผ่านย่านการค้า เมืองเก่า และย่านประวัติศาสตร์ อาทิ วัดศรีรองเมือง วัดปงสนุก ชุมชนประตูป่อง ชุมชนท่ามะโอ ชุมชนสบตุ๋ย บ้านหลุยส์ และชุมชนรถไฟนครลำปาง ทำให้เห็นบรรยากาศและสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองลำปางที่มีอายุกว่า 1,300 ปี

ขากลับจากนครลำปาง มีบริการอาหารว่างชุดเล็กๆ คือ ข้าวแต๋น ของฝากขึ้นชื่อของลำปาง และ น้ำผักเชียงดา ผักพื้นเมืองทางเหนือที่มีสรรพคุณมากมาย จากนั้น ทันทีที่ขบวนรถไฟแล่นผ่านอุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดและเป็นสถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย ขยับไปอีกนิดก็เป็นเส้นทางรถไฟที่ถือว่าสวยมากอีกจุดหนึ่ง คือ บริเวณสะพานสีขาวที่ชื่อ “สะพานทาชมภู” อ.แม่ทา จ.ลำพูน ไกด์แจ้งว่าคณะเราได้สิทธิพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันเส้นทางนี้จะวิ่งตรงไม่จอดแวะให้ลงระหว่างทาง หลายๆ ภาพที่ถ่ายมา จึงมีความสำคัญ ถือเป็นหลักฐานการมาเยือนสถานที่แห่งความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ครั้งอดีตสมัยปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามตัวเลขที่ปรากฏใต้ “ครุฑแดง” เหนืออุโมงค์ ที่หมายถึงปีที่อุโมงค์ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน







คณะเดินทางกลับถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ ถือเป็นจุดสิ้นสุดการเดินทางในครั้งนี้ และจบทริปเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์รอบทดลองด้วยการทำแบบประเมินเส้นทาง ในมุมมองของนักวิชาการจากคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม การเดินทางทางรางวันนี้ อาจารย์ได้สัมผัสถึงคุณประโยชน์มากมายจากการเดินทางท่องเที่ยวทางราง ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (low carbon) เบียดเบียนธรรมชาติน้อยมากเมื่อเทียบกับการเดินทางอื่น ราคาตั๋วไม่แพง มีความปลอดภัย ได้ใกล้ชิดกับชาวบ้านที่ค้าขายข้างทางรถไฟ เป็นการกระจายรายได้สู่ภูมิภาค และปราศจากข้อจำกัดต่างๆ มากมาย เช่น หมดห่วงเรื่องปริมาณสัมภาระ ปริมาณของเหลว จำนวนวัตต์ของ power bank หรือการปิดสัญญานมือถือ ระหว่างเดินทางก็เดินสนุกลุกนั่งสบาย วิวข้างทางก็แปลกใหม่ ฯลฯ จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมบุกเบิกเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวทางรางให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอีกครั้ง ให้สอดคล้องกับการลงทุนมหาศาลที่ภาครัฐกำลังพยายามพัฒนาเส้นทางทางรางสร้างประเทศให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งของอาเซียน

ท้ายนี้ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ขอสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางราง เพื่อช่วยลดลดคาร์บอนและความอย่างยั่งยืนของการท่องเที่ยวไทย ใครยังไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ ต้องไม่พลาดไปลองเส้นทางท่องเที่ยวทางรางกัน. -008









Wisarut wrote:
เปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ รถไฟขบวนพิเศษสายล้านนา
CH3ThailandNews
14 กุมภาพันธ์ 2565


โครงการ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา
Lanna Modernization Railroad Travel
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.46 น.

https://www.facebook.com/Ch3ThailandNews/posts/4879115112124290


https://www.facebook.com/lanna.modernization/posts/132226475959591


การรถไฟฯ เปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.16 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42784
Location: NECTEC

PostPosted: 23/02/2022 2:10 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟขบวนพิเศษ 954 Lanna Modernization
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 06.30 น.

สายประวัติศาสตร์ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟใน 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ด้วยการทำงานร่วมกันของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง การรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยทุนด้านวิจัย” เพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวทางรถไฟและกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับชุมชน ซึ่งใช้เวลาประสานและเตรียมงานจนทำให้เกิดรถไฟขบวนพิเศษนี้กว่า 1 ปี โดยในรอบปฐมฤกษ์เมื่อ 12-13 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการได้ทดลองให้เห็นถึงศักยภาพของเส้นทางท่องเที่ยวนี้ที่สามารถทำได้จริง รวมไปถึงอัตลักษณ์ของความเป็นล้านนา ผ่านการตกแต่งภายในขบวนรถไฟ การนำเสนอความงดงามในเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด(เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง) ผูกผสานเข้ากับศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่นและงดงาม บนเส้นทางรถไฟนี้ ทำให้เห็นความเป็นไปได้ของการส่งเสริมให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม
..
ถึงแม้รถไฟขบวนปฐมฤกษ์นี้ได้ทำหน้าที่จบไปอย่างสมบูรณ์แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่ต้องได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ถึงแม้จะไม่อาจยืนยันได้ว่าจะมีรถไฟขบวนพิเศษตามโครงการนี้ต่อไปหรือไม่ แต่ทั้งหมดได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมทริปเดินทางไม่น้อย รวมถึงได้กระตุ้นความต้องการท่องเที่ยวทางรถไฟให้เกิดขึ้น หวังว่าปลายปี 2565 นี้จะโชคดีมีรถไฟขบวนพิเศษอย่างนี้กลับมาให้บริการตามแผนฯ อีกครั้ง



Wisarut wrote:
เปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ รถไฟขบวนพิเศษสายล้านนา
CH3ThailandNews
14 กุมภาพันธ์ 2565


โครงการ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์โดยรถไฟบนเส้นทางยุคสมัยแห่งล้านนา
Lanna Modernization Railroad Travel
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.46 น.


https://www.facebook.com/Ch3ThailandNews/posts/4879115112124290
https://www.facebook.com/lanna.modernization/posts/132226475959591


การรถไฟฯ เปิดเดินรถขบวนปฐมฤกษ์ เส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ 3 จังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง (Lanna Modernization) เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ 3 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.16 น.

ขบวนรถไฟสายล้านนาสัมผัสกลิ่นไอล้านนาท่องเที่ยวเจียงใหม่-หละปูน-ลำปาง....
เอ่อ...ตี้นั่งคนบ้านอยู่ตางใดเจ้า อันนี้ตี้นั่งตุ๊เจ้าแม่นก่อเจ้า
5555555555555 ไผออกแบบ ลากหัวมันออกมา ต๋อนนั่งรถไฟแอ่วมึงสืบจ๊ะต๋าไปตวยก่อ 5555
https://www.facebook.com/stayatchiangmai/posts/1284837215330659
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 417, 418, 419 ... 475, 476, 477  Next
Page 418 of 477

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©