View previous topic :: View next topic
Author
Message
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
Posted: 27/07/2022 10:24 am Post subject:
แจ้งเกิด! รถไฟไทยทำ ตู้โดยสารต้นแบบ 32 ล้าน ใช้ชิ้นส่วนผลิตในไทย
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 08:34 น.
รฟท. แจ้งเกิด รถไฟไทยทำ รถไฟโดยสารต้นแบบใช้ชิ้นส่วนในไทย 32 ล้าน 25 ที่นั่ง ยึดโมเดลเฟิร์สคลาสของสายการบิน จัดเต็มนวัตกรรมในตัวรถ คาดแล้วเสร็จต้นปี 66 ช่วยเซฟเงิน ถูกกว่านำเข้าไม่น้อยกว่า 30%
นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) จัดทำโครงการวิจัยรถไฟไทยทำ หรือการพัฒนารถไฟโดยสารต้นแบบ ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมในโครงการ ไทยเฟิร์ส ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ (Local Content) และลดนำเข้าเทคโนโลยี โดยใช้งบประมาณในการวิจัยตัวรถ รวมแคร่ และงานระบบ ประมาณ 32 ล้านบาท ได้รับสนับสนุนทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) 25 ล้านบาท และบริษัท กิจการร่วมค้าไซโนเจน-ปิ่นเพชร จำกัด 7 ล้านบาท
นายศิริพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการพัฒนารถไฟโดยสารต้นแบบดังกล่าว เป็นการพัฒนาตู้รถไฟโดยสาร 25 ที่นั่ง โดยได้นำโมเดลการให้บริการของ First Class และ Business Class ของสายการบินมาเป็นต้นแบบ ประกอบด้วย Super Luxury Class จำนวน 8 ที่นั่ง และ Luxury Class จำนวน 17 ที่นั่ง คาดว่าการพัฒนารถไฟโดยสารฯ ครั้งนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในต้นปี 66 จากนั้นจะทำการทดสอบร่วมกับ รฟท. อีกประมาณ 6 เดือน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานด้านความปลอดภัย ก่อนส่งมอบให้กับ รฟท. เพื่อนำไปให้บริการประชาชนได้ภายในปลายปี 66
นายศิริพงศ์ กล่าวอีกว่า การดำเนินโครงการวิจัยฯ แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย การออกแบบและกำหนดคุณลักษณะ การผลิต และการทดสอบใช้งานจริง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการผลิต โดยโครงสร้างตัวรถและองค์ประกอบหลักได้จัดทำแล้วเสร็จ และผ่านการทดสอบตามมาตรฐานระดับสากลแล้ว อยู่ระหว่างการผลิตชิ้นส่วนเพื่อนำมาติดตั้ง ทั้งนี้ชิ้นส่วนหลักได้ดำเนินการโดยผู้ประกอบการในประเทศเป็นหลัก ซึ่งคณะนักวิจัยได้ทำการคำนวณออกแบบ และทดสอบ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และข้อกำหนดของ รฟท. โดยรถโดยสารต้นแบบนี้ จะสามารถนำไปทำขบวนได้กับรถไฟในริ้วขบวนของ รฟท. ได้หลากหลายรูปแบบ
นายศิริพงศ์ กล่าวด้วยว่า จากผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน พบว่า ปริมาณมูลค่าชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 40% ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม อย่างไรก็ตามสำหรับชิ้นส่วนที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และไม่มีผู้ประกอบการในประเทศ ได้เกิดความร่วมมือกับเจ้าของเทคโนโลยีในต่างประเทศ ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีผ่านกระบวนการออกแบบ และทดสอบร่วมกันกับนักวิจัยไทย
นายศิริพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรถไฟโดยสารต้นแบบ คณะนักวิจัยยังได้ทำการสร้างนวัตกรรมเพื่อใช้งานในตัวรถด้วย อาทิ ระบบฝังตัวอัตโนมัติในตัวรถ ระบบ Smart Infotainment ด้วยเทคโนโลยี 5G ระบบฟอกอากาศด้วย UVC เป็นต้น ทั้งนี้เบื้องต้นจากการประเมินค่าใช้จ่ายในการพัฒนารถไฟโดยสารต้นแบบ พบว่า มีราคาถูกกว่าการนำเข้าไม่น้อยกว่า 30% ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อ รฟท. และประเทศชาติอย่างแท้จริง. ...
เปิดวาร์ปรถไฟไทยทำตู้แรก32ล้านถูกกว่านำเข้า30%
*ต้นแบบโครงการไทยเฟิร์สผลิตเองประหยัดเงิน
*ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี-สร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า
*เสร็จปีหน้ารฟท.ชูโมเดลบริการเหมือนสายการบิน
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/601697088074196
สุดปัง! เผยโฉมต้นแบบ รถไฟไทยทำ คาดให้บริการคนไทยได้ปลายปี 66
27 กรกฎาคม : การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมมือกับ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิจัยพัฒนาต้นแบบ รถไฟไทยทำ ตามโครงการไทยเฟิร์ส
นายศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ รองผู้ว่าฯ รฟท. ระบุสเปครถไฟที่กำลังเตรียมผลิตออกมา มีต้นแบบมาจากการให้บริการบนเครื่องบิน ทั้งเฟิร์สคลาส และบิซิเนสคลาส ตัวรถจะมีทั้งหมด 25 ที่นั่ง มูลค่าตู้ละ 32 ล้านบาท โดยเป็นการผลิตในประเทศทั้งหมด และจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30%
เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 ก่อนจะนำมาทดสอบอีกอย่างน้อยครึ่งปี และคาดว่าจะออกวิ่งเพื่อให้บริการได้ช่วงปลายปีดังกล่าว
https://www.facebook.com/thairath/posts/10161598686407439
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 27/07/2022 8:30 pm Post subject:
รฟท.เปิดตัวรถไฟตู้ขบวนรถไฟฝีมือคนไทย
Jul 27, 2022
สํานักข่าวไทย TNAMCOT
พาไปยลโฉม รถไฟไทยทำ รถไฟโดยสารต้นแบบใช้ชิ้นส่วนในไทยตู้แรก ยึดโมเดลเฟิร์สคลาสของสายการบิน มีนวัตกรรมใหม่ คาดแล้วเสร็จต้นปี 2566
https://www.youtube.com/watch?v=2cBvd3T72Rc
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 29/07/2022 6:54 am Post subject:
บอร์ดรฟท.เคาะจ้างบ.ลูกบริหารทรัพย์สิน180ล./ปี
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Friday, July 29, 2022 06:16
บอร์ด รฟท.เคาะค่าจ้างบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินปีละ180ล. ไฟเขียวเซ็นที่ปรึกษาคุมสร้างทางคู่เด่นชัย-บ้านไผ่
ผู้จัดการรายวัน360 - บอร์ด รฟท. เคาะจัดจ้าง บริษัทลูก "เอสอาร์ที แอสเสท" แบบเฉพาะเจาะจงบริหารทรัพย์สินและสัญญาเช่า ตั้งกรอบค่าใช้จ่าย 4.5% หรือเฉลี่ย 180 ล้านบาท/ปี สั่งเร่งทำทีโออาร์และไทม์ไลน์การโอน พร้อมไฟเขียวจ้างที่ปรึกษาคุมก่อสร้างทางคู่ 2 สายใหม่วงเงินรวมกว่า 2.7 พันล้านบาท
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2565 ได้มีมติเห็นชอบ หลักการดำเนินการจ้าง บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ รฟท. บริหารสัญญาเช่าของ รฟท.โดยวิธีเฉพาะเจาะจง พร้อมทั้งเห็นชอบ กำหนดอัตราผลตอบแทนให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท ที่ 4.5% โดยประเมินจากกรอบ ค่าบริหารจัดการด้านการบริหารทรัพย์สินของ รฟท.ในปัจจุบัน ในขณะที่คาดการณ์ว่าการบริหารจัดการโดยบริษัทลูกฯ จะทำให้มีประสิทธิภาพและรายได้เพิ่มมากขึ้นจาก2,000 -3,000 ล้านบาท ต่อปี เป็น 5,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วงแรก
หลังจากนี้ จะเป็นการดำเนินการตาม กระบว นการ ของ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ โดย จะต้องมีการเจรจาต่างๆ ทั้งเรื่องค่าจ้าง กระบวนการและระยะเวลาในการถ่ายโอนสัญญา ให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน และจัดทำรายละเอียดไว้ในเงื่อนไข ทีโออาร์คาดว่า จะสามารถนำเสนอบอร์ด รฟท.เห็นชอบการลงนามสัญญาจ้างได้ภายในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 2565 หรือ ในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2566
"หลักการ รฟท.จะโอนสัญญาที่มีและทรัพย์สินที่จะนำมาพัฒนาหารายได้ทั้งหมดให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท บริหารจัดการแทน ซึ่งปัจจุบัน รฟท.มีสัญญาเช่าที่พร้อมโอนประมาณ 4,000 สัญญา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. สัญญาเช่าที่อยู่ภายใต้ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน 2.สัญญาที่อยู่ภายใต้ฝ่ายเดินรถ (สัญญาเช่าพื้นที่ย่านสถานี) ซึ่งมีจำนวนสัญญามากที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่แปลงย่อย 3. พื้นที่เปลงใหญ่ ที่อยู่ในแผนที่จะมีการพัฒนาในอนาคต"
อย่างไรก็ตาม ประเมินมูลค่าทรัพย์สินและสัญญาเช่ากว่า 4,000 สัญญา ที่ รฟท.จะถ่ายโอนให้ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท มีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นค่าจ้างที่บริษัท เอสอาร์ที แอสเสทจะได้รับประมาณ 180 ล้านบาทต่อปี
ลุยสร้างทางคู่ 2 สายใหม่ ไฟเขียวจ้างที่ปรึกษาคุมก่อสร้าง วงเงินรวมกว่า 2.7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ด รฟท. ยังได้อนุมัติ สั่งจ้างบริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 สาย ได้แก่ โครง การก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงรายเชียงของ และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหารนครพนม โดยใช้วิธีคัดเลือกตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ฯ
โดยสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ตกลงว่าจ้างกิจการค้าร่วม (Consortium) ประกอบด้วย บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่งคอนซัลแต้นส์ จำกัด (Lead Firm) บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็ม เอ เอคอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) บริษัท วิสิทธิ์ เอ็นจิเนียริ่งคอนซัลแตนส์ จำกัดบริษัท พี แอนด์ ซี แมเนจเมนท์ จำกัด บริษัท เอ็มเอชพีเอ็มจำกัด เป็นผู้รับจ้างควบคุมงานก่อสร้าง วงเงิน 1,603.6 ล้านบาท (ค่าจ้างรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 แล้ว) ระยะเวลาดำเนินการควบคุมงานก่อสร้าง 71 เดือน และงานช่วงประกันความชำรุดบกพร่อง 24 เดือน
โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ตกลงว่าจ้างกิจการค้าร่วม (Consortium) ประกอบด้วยบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์จำกัด บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด บริษัทโชติจินดา คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท สแปน จำกัด บริษัทไวสุ โปรเจ็ค คอน ซัลติ้ง จำกัด บริษัท เอ็มเอซพีเอ็ม จำกัด เป็นผู้รับจ้างควบคุมงานก่อสร้าง วงเงิน 1,129.65 ล้านบาท (ค่าจ้างรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 แล้ว) ระยะเวลาดำเนินการควบคุมงานก่อสร้าง 47 เดือน และงานช่วงประกันความชำรุดบกพร่อง 24 เดือน
โดยวันที่ 29 ธ.ค. 2564 รฟท.ได้ลงนามสัญญกับผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของระยะทาง 323 กม. วงเงิน 72,920 ล้านบาท จำนวน 3 สัญญาและโครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงินรวม 55,458 ล้านบาท จำนวน 2 สัญญา โดยอยู่ระหว่างการเวนคืนที่ดิน และทยอย ส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างก่อสร้าง ซึ่งเมื่อเดือน ก.พ. 2565 ผู้รับจ้าง สายเด่นชัย-เชียงรายเชียงของ ได้เริ่มเข้าพื้นที่แล้ว โดยใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี.
ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 29 ก.ค. 2565
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 01/08/2022 8:54 am Post subject:
โครงการ "รถไฟไทยทำ" ตั้งเป้าผลิตป้อนระบบรถไฟทางคู่ทั่วประเทศ l EEC จุดเปลี่ยนประเทศไทย 1 ส.ค.65
Aug 1, 2022
TNN Online
จากความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ได้ทำโครงการ "รถไฟไทยทำ" ปักธงตั้งฐานการผลิตในอีอีซี เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตรถไฟได้เอง และใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศให้ได้มากที่สุด ซึ่ง รฟท. จะนำไปวิ่งให้บริการประชาชนได้จริงภายในปีหน้านี้
https://www.youtube.com/watch?v=F0PmfC1HZ2s
Back to top
Wisarut
1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 42796
Location: NECTEC
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 08/08/2022 7:17 am Post subject:
ปรับโฉมรถไฟไทยลดการนำเข้า
Aug 7, 2022
Thai PBS News
คุณผู้ชมคะ ถ้านับๆดูแล้วจะเหลือเวลาอีก 6 เดือน ที่เราจะได้เห็นรถไฟไทยทางเลือก ที่ปรับรูปแบบที่นั่งเทียบเท่ากับเครื่องบินเฟิร์สคลาส
โดยการคิดค้นและผลิตจากฝีมือคนไทย
https://www.youtube.com/watch?v=pefNuIVJheI
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 11/08/2022 7:48 am Post subject:
สร้างปีหน้า! ศูนย์ขนส่งสินค้านครพนม 1.3 พันล้าน
เดลินิวส์ 11 สิงหาคม 2565 7:04 น.
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
"กรมขนส่ง" เตรียมเซ็นต์สัญญากับเอกชนร่วมลงทุนศูนย์ขนส่งสินค้านครพนม 1.3 พันล้านบาท ภายในปีนี้ เริ่มสร้างปี 66 เสร็จปี 68 เล็งศึกษาเพิ่มอีก 3 จังหวัด หนองคาย-สุราษฎร์ธานี-มุกดาหาร คาดแล้วเสร็จปี 65 ก่อนลุยต่อครอบคลุมทุกภูมิภาคเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า จ.นครพนม วงเงินรวม 1,361 ล้านบาท พื้นที่ 121 ไร่ หลังจากที่ ขบ. ได้ออกประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุน (PPP Net cross) เมื่อปี 64 แล้วมีเอกชนซื้อซองประมูลทั้งหมด 6 ราย ประกอบด้วย 1.บริษัท ชาญนครวิศวกรรม จํากัด 2.บริษัท วีอาร์ไพล์ จำกัด 3.บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด 4.บริษัท ไพโอเนียร์ โกลบอล ซัพพลาย จำกัด 5.บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด และ 6.บริษัท สินธนโชติ จำกัด โดยในจำนวนนี้มีบริษัทที่ยื่นข้อเสนอโครงการฯ แค่ 1 ราย คือ บริษัท สินธนโชติ จำกัด จากนั้น ขบ. ดำเนินตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอน
ปัจจุบันได้จัดทำร่างสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนผู้ผ่านการยื่นข้อเสนอและส่งร่างสัญญาต่อสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบแล้วเสร็จ ปัจจุบันสำนักงานอัยการสูงสุดมีความคิดเห็นให้ปรับข้อมูลเล็กน้อย คาดว่าจะดำเนินการให้เรียบร้อยเร็วๆ นี้ โดยจะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และกระทรวงการคลัง ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ ภายในเดือน ก.ย.65 จากนั้นคาดว่าจะลงนามสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชนได้ภายในปี 65
นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า หากลงนามสัญญากับเอกชนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะดำเนินการเวนคืนที่ดิน เพื่อก่อสร้างโครงการฯ ระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยภาครัฐจะเป็นผู้เริ่มดำเนินการเตรียมพื้นที่เวนคืนที่ดินและระบบสาธารณูปโภค วงเงิน 685 ล้านบาท เพื่อเริ่มก่อสร้างภายในปี 66 ก่อนภาคเอกชนจะเข้ามาดำเนินการลงทุนก่อสร้างโครงการฯ เพิ่มเติม วงเงิน 676 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้า อุปกรณ์เครื่องมือการใช้งาน รวมทั้งการก่อสร้างอาคารที่ก่อให้เกิดรายได้ในพื้นที่ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 68
ทั้งนี้เอกชนที่เข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าวจะต้องรับผิดชอบลงทุนค่าก่อสร้างในองค์ประกอบอาคารที่ก่อให้เกิดรายได้และเครื่องมือและอุปกรณ์ และเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการ (O&M) ในส่วนอาคารที่อยู่ในความรับผิดชอบของเอกชนและโครงสร้างพื้นฐานส่วนกลาง รวมทั้งเป็นผู้รับความเสี่ยงทางด้านรายได้ ตามรูปแบบการร่วมลงทุนแบบ PPP Net Cost ตลอดระยะเวลาโครงการ 30 ปีนับจากปีเปิดให้บริการ
นายจิรุตม์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีแผนจะดำเนินโครงการศึกษาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเพิ่มเติมอีก 3 จังหวัด ได้แก่ จ.หนองคาย สุราษฎร์ธานี และ มุกดาหาร เบื้องต้นโครงการศึกษาศูนย์ขนส่งสินค้า จ.หนองคาย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ให้ ขบ. ช่วยพิจารณาโครงการฯ เพราะเป็นศูนย์ขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุด โดย ขบ. มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อดำเนินการเวนคืนที่ดินให้น้อยที่สุด เนื่องจาก รฟท. มีโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายขนส่งสินค้าบริเวณสถานีรถไฟนาทา ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสินค้าและรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รวมทั้งโครงการรถไฟลาว-จีน ในอนาคต
ขณะที่โครงการศึกษาศูนย์ขนส่งสินค้า จ.สุราษฎร์ธานี และมุกดาหาร สนข. อยู่ระหว่างทบทวนผลศึกษารายละเอียดความเหมาะสมของโครงการฯ ใหม่ ควบคู่กับการศึกษาในการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) เนื่องจากผลการศึกษาเดิมเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ตอบโจทย์ในการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งทางราง ทำให้ต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้โครงการฯ อยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงระบบขนส่งทางรางมากที่สุด
สาเหตุที่เลือกศึกษาพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางการผลิตและแหล่งวัตถุดิบในการขนส่งสินค้าทางภาคใต้ ซึ่งจากการประเมินถือเป็นแหล่งที่เหมาะสมที่สุดและเป็นศูนย์การขนส่งที่ใกล้จังหวัดอื่นๆ ด้วย ส่วน จ.มุกดาหารเป็นจังหวัดที่เชื่อมต่อกับแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว และเชื่อมต่อประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเร่งรัดศึกษาทั้ง 2 โครงการฯ ให้แล้วเสร็จภายในปี 65 จากนั้นจะได้วางแนวทางดำเนินการต่อไป
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 11/08/2022 9:30 am Post subject:
กต. นำคณะทูต 40 ประเทศนั่งรถไฟ หวังส่งเสริมภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย
Aug 10, 2022
สํานักข่าวไทย TNAMCOT
กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมพิธีการทูต นำคณะทูตจากกว่า 40 ประเทศ เข้าร่วมโครงการทัศนศึกษา ที่ จ.ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา หวังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทย และใช้ต่อยอดเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยว
https://www.youtube.com/watch?v=F5qlV9-cmO0
Back to top
Mongwin
1st Class Pass (Air) Joined: 24/09/2007 Posts: 44931
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
Posted: 14/08/2022 9:18 pm Post subject:
คนไทยผลิตรถไฟขบวนแรก เตรียมให้บริการปี 66 | TNNข่าวเที่ยง | 14-8-65
Aug 14, 2022
TNN Online
สอวช. และ ภาคเอกชน ได้ให้ทุนทำวิจัยโครงการรถไฟไทยทำ กว่า 30 ล้าน แก่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2566 ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมนำมาวิ่งให้บริการในเส้นทางระยะกลาง
https://www.youtube.com/watch?v=gnRgsDBMvuo
Back to top