View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 03/06/2009 11:18 pm Post subject: |
|
|
อืม...
ลองดู...ลองดู...ไม่ลองก็ไม่รู้... |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 03/06/2009 11:32 pm Post subject: |
|
|
ผิดคาดแฮะ ที่ถูกตีกลับให้พิจารณาทบทวน 1 เดือน กลายเป็นเรื่องรถเมล์เช่า 4,000 คันของ ขสมก.ไปเสียนี่
เอาล่ะครับ คราวนี้เราจะรอดูก้าวใหม่บริษัทลูกของการรถไฟฯ กันเสียที |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/06/2009 7:16 am Post subject: |
|
|
อยากรอดูรถท่องเที่ยวตลาดร่มหุบ แม่กลองครับ
คงต้องรบกวนพี่ช.โกวิท นำภาพมาให้ชมครับ
เอ...แล้วจะรับผู้โดยสารจากบ้านแหลมหรือเปล่านะครับ
หรือวิ่งอยู่แค่แถวๆ นั้นแบบรถแฟร์มองต์สะพานแควใหญ่
หมายเหตุ ฝันเห็นรถท่องเที่ยวพระปฐมเจดีย์-วัดป่าเลไลยก์-หอคอยบรรหารครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 04/06/2009 10:28 am Post subject: |
|
|
ครม.อนุมัติแผนฟื้นฟูรฟท. ตั้งบ.ลูก/ของบล้างหนี้สะสม
มติชนรายวัน ปีที่ 32 ฉบับที่ 11408 วันที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2552
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01eco06040652§ionid=0103&day=2009-06-04
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 มิถุนายน ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยสาระสำคัญของแผนดังกล่าว แบ่งเป็นการปรับปรุงโครงสร้างบริหารจัดการ โดยจัดตั้งบริษัทเดินรถเพื่อบริหารการเดินรถโดยสาร รถขนส่งสินค้าและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยในช่วงเริ่มต้นจะมีการจ้างเหมาพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถ จากการรถไฟบริษัทบริหารทรัพย์สิน เพื่อบริหารจัดการที่ดินของ ร.ฟ.ท.
ส่วนแผนปรับโครงสร้างการเงิน นายโสภณกล่าวว่า จะเริ่มจากแก้ไขปัญหาหนี้และขาดทุนสะสมในอดีต 72,850 ล้านบาท แบ่งเป็น
1. หนี้จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ระบบอาณัติสัญญาณในอดีต 66,241 ล้านบาท และ
2. หนี้จากการลงทุนในระบบล้อเลื่อน (Rolling Stock) อีกประมาณ 19,000 ล้านบาท
รวมทั้งได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาภาระเงินบำนาญของพนักงาน ร.ฟ.ท. จำนวน 25,749 คน ทั้งส่วนพนักงานในอดีตและที่ยังไม่เกษียณ วงเงิน 156,000 ล้านบาท นอกจากนี้มีการเสนอให้จัดตั้งกองทุน วงเงิน 58,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยภาระเงินบำนาญ รวมทั้งบริการสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อย คาดว่ารัฐควรเข้ามารับภาระแทน วงเงินประมาณ 2,355 ล้านบาทต่อปี
"ครม.ได้ติงเรื่องการบริหารที่ดินของ ร.ฟ.ท.ทั่วประเทศที่มีจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ ร.ฟ.ท.ที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นรายได้ให้ ร.ฟ.ท. แต่การดำเนินงานไม่มีประสิทธิภาพส่งผลให้กลายเป็นจุดด้อย ดังนั้น กระทรวงจะตั้งคณะกรรมการเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินรถไฟทั้งหมด และจะมีการจำแนกประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดินออกเป็นส่วนๆ ทั้งที่ดินในเมืองที่เหมาะสำหรับใช้เชิงพาณิชย์ ที่ดินสำหรับการเกษตร และที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด |
|
Back to top |
|
|
Schnellzug
3rd Class Pass
Joined: 03/07/2006 Posts: 170
Location: ศาลายา
|
Posted: 04/06/2009 1:16 pm Post subject: |
|
|
ขณะนี้ขบวนรถด่วนที่ 67/68 ไม่มีการพ่วงรถนั่งชั้นสามแล้วครับ
มีการพ่วงแต่รถนอนพัดลมและรถนอนปรับอากาศรวมถึงพ่วงชุดรถบลูเทรน 3 คัน _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44640
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/06/2009 1:19 pm Post subject: "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร" หนุนรัฐเร่งพัฒนาโลจิสติกส์ |
|
|
"ม.ร.ว.ปรีดิยาธร" หนุนรัฐเร่งพัฒนาโลจิสติกส์สร้างความสามารถการแข่งขัน
กรุงเทพฯ 4 มิ.ย.52 - ในการสัมมนา ฝ่าวิกฤติต้นทุนโลจิสติกส์ไทย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษ การบริหารต้นทุนโลจิสติกส์กับการแข่งขันของประเทศ โดยสนับสนุนแนวทางที่รัฐบาลควรเร่งลงทุนและพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งหรือโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งทางน้ำในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ซึ่งจะมีการสร้างท่าเรือและปรับปรุงท่าเรือให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางน้ำที่ถือว่ามีต้นทุนต่ำ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร สนับสนุนให้ภาครัฐเร่งรัดการลงทุนในระบบรางด้วยการเร่งขยายการลงทุนในโครงการรถไฟทางคู่ตามแผนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่จะเพิ่มอีก 800 กิโลเมตรทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินการ ควรมีการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนเข้ามาร่วมให้บริการขนส่งทางราง โดยภาครัฐสามารถเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่ารางและนำหัวรถจักรมาวิ่งขนส่งสินค้าให้บริการ ทำให้การขนส่งทางรางคล่องตัวมากกว่าปัจจุบัน ขณะเดียวกันต้องเร่งขยายพื้นที่จัดวางสินค้าหรือคอนเทนเนอร์ยาร์ดที่อยู่ในพื้นที่ของสถานีรถไฟขนาดใหญ่ โดยควรเร่งดำเนินการในหลายจังหวัด เช่น ขอนแก่น ที่มีการขนส่งสินค้าทางรางจำนวนมาก นอกจากนี้ ภาครัฐควรเข้ามาสนับสนุนให้มีการก่อสร้างและพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ ซึ่งแนวทางทั้งหมดจะช่วยให้ภาคการขนส่งหรือโลจิสติกส์ของไทยสามารถลดต้นทุนลงได้จากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ปัจจุบันต้นทุนโลจิสติกส์ของไทยมีสัดส่วนร้อยละ 18.25 ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.35 ภายในร้อยละ 21.38 ในปี 2557 หากรัฐบาลไม่เร่งรัดการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งปัจจัยราคาน้ำมันดีเซลและแอลพีจีในประเทศก็จะส่งผลกระทบต่อ ต้นทุนขนส่งสินค้าและการบริหารคลังสินค้าในปัจจุบันและอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะมีต้นทุนสูงขึ้นหลังทิศทางราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ประเทศในภูมิภาคที่เป็นคู่แข่งสำคัญของไทยต่างก็มีต้นทุนโลจิสติกส์ต่ำกว่าไทย ทั้งสิ้น จึงเป็นภารกิจสำคัญของภาครัฐที่ควรจะเร่งลงทุนในการพัฒนาขนส่งทางน้ำและระบบราง ซึ่งการเร่งรัด ก่อสร้างรถไฟทางคู่อีก 800 กิโลเมตรถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีไทยรวมตัวกันเพื่อให้การผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าและมี ต้นทุนลดลง
นายอัทธ์ เชื่อว่าการที่รัฐบาลสามารถเดินหน้า พ.ร.ก.การให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ระบบเศรษฐกิจของไทยปีนี้ โดยเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะส่งผลให้จีดีพีของไทยกลับมาเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ปีนี้.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-04 12:11:57
**
----------------------------------------
**
นายกฯ ไม่ขานรับข้อเสนอ 40 ส.ว.กรณีรถเมล์ 4,000 คัน
ทำเนียบฯ 4 มิ.ย.52-นายกรัฐมนตรีไม่ขานรับข้อเสนอ 40 ส.ว.ที่อยากให้หน่วยงานอื่น ร่วมศึกษากรณีเช่ารถเมล์ NGV 4,000 คัน ชี้ คณะกรรมการ สศช. มีบุคคลหลากหลาย ยืนยันไม่ว่าตัดสินใจอย่างไรต้องโปร่งใส มั่นใจโครงการนี้ไม่ก่อปัญหากับพรรคภูมิใจไทย ไม่ต้องเคลียร์นอกรอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาณ์ กรณี 40 ส.ว.ต้องการให้ยืดระยะเวลาศึกษาการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน ออกไปเป็นเวลา 3 เดือน และต้องการให้หน่วยงานอื่นเข้ามาศึกษาด้วย ว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่คณะรัฐมนตรีให้ไปศึกษาเรื่องนี้ มีทั้งผู้มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และน่าจะมีเครือข่าย และถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องดึงฝ่ายอื่น ๆ เข้าไปช่วย ก็สามารถรายงานมาได้ ซึ่งรัฐบาลยินดี
ส่วนข้อเสนอเรื่องการทำประชาพิจารณ์นั้น นายกรัฐมนตรี เห็นว่า การปรับปรุงรถเมล์ เพื่อให้ได้รถใหม่ สะอาด และบริการที่ดี มีระบบที่สะดวก เชื่อมโยงกับขนส่งมวลชนอื่นได้ในอนาคต คงไม่มีความจำเป็นต้องมาตั้งคำถามว่า ควรทำหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญที่ให้คณะกรรมการ สศช. ไปพิจารณา คือ การเช่าหรือการซื้อ ตรงไหนคุ้มค่าที่สุด และเมื่อตัดสินใจแล้ว จะต้องมีกระบวนดำเนินการที่โปร่งใสด้วย
นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า การให้คณะกรรมการ สศช. ไปศึกษาเรื่องดังกล่าว จะไม่ทำให้มีปัญหากับพรรคภูมิใจไทย และไม่จำเป็นต้องเคลียร์กันนอกรอบ เพราะทุกอย่างมีเหตุผลชัดเจนอยู่แล้ว และในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (3 มิ.ย.) ทุกคนดูเข้าใจดี ไม่มีข้อโต้แย้งอะไร
เวลานี้ไม่ใช่เรื่องนักการเมือง ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ที่จะตอบได้ว่า เช่าหรือซื้อ ดีกว่ากัน เวลาที่เขาศึกษามาก่อนหน้านี้ ก็ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า วิธีไหนดีกว่ากัน แต่ขอย้ำว่า ผมทำในสิ่งที่คิดว่า ควรจะได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน ขสมก.จะต้องฟื้นขึ้นมาให้ได้ และมีบริการรถเมล์ที่ดี นั่นคือเป้าหมายสำคัญที่สุด นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการดึงเรื่องรถเมล์ไปทำเอง เพื่อเป็นผลงานของพรรค นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึงตรงนั้น และว่า ความจริง เรื่องการจะโอนให้ กทม. ถึงขั้นที่เคยมีมติ ครม.ไปแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่ค้างอยู่
ขอยืนยันว่า การทำครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการเปลี่ยนรถอย่างเดียว ต้องเป็นการเปลี่ยนระบบของตัวบริการด้วย เหมือนกับที่ ครม. มีมติเรื่องรถไฟว่า ต่อไปนี้ การรถไฟฯ ที่เป็นตัวแม่ ทำเรื่องของราง ส่วนการเดินรถ ต้องแยกองค์กรออกมา การบริหารเรื่องทรัพย์สิน ที่ดิน ก็ต้องแยกออกมา เชื่อว่าจะทำให้การขาดทุนลดลงได้มาก นายกรัฐมนตรี กล่าว. -สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-04 12:44:55 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 04/06/2009 2:07 pm Post subject: |
|
|
Schnellzug wrote: | ขณะนี้ขบวนรถด่วนที่ 67/68 ไม่มีการพ่วงรถนั่งชั้นสามแล้วครับ
มีการพ่วงแต่รถนอนพัดลมและรถนอนปรับอากาศรวมถึงพ่วงชุดรถบลูเทรน 3 คัน |
ทีนี้ก็เหลือแต่เวลาเท่านั้น ที่จะเปลี่ยนสถานะ ด. 67/68 เป็น ดพ. 67/68 และ ด. 69/70 อย่างไรเสียก็คงไม่พ้นที่จะเป็น ดพ. 69/70 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42751
Location: NECTEC
|
Posted: 04/06/2009 9:54 pm Post subject: ตูละเบื่อยก 2 |
|
|
ครม.ไฟเขียว6แนวทางฟื้นรสก.
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 4 มิถุนายน 2552 12:50 น.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000062758
ASTVผู้จัดการรายวัน - ครม.เห็นชอบ 6 แแนวทางพลิกฟื้น-บริหารรัฐวิสาหกิจที่ กนร.เสนอ โดยเร่งรัดการสรรหาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจยังขาดอยู่ รวมถึงเร่งรับการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าทั้งการนำส่งรายได้และเบิกจ่าย เงินลงทุน รวมถึงแผนฟื้นฟูการรถไฟให้ จัดตั้งบ.ลูกภายใน 30 วัน-เปิดดำเนินการภายใน 180 วัน ให้ภาครัฐรับภาระค่าใช้จ่ายด้านเงินทุนก่อน และจะชำระคืนเงินต้น-ดอกเบี้ยภายหลัง
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ(กนร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบหลักการตามที่คณะกรรมการ กนร. เสนอมา ทั้ง 6 เรื่อง [ในที่นี่จะยกเฉพาะ เรื่องที่ 6 ที่เกี่ยวกับ รฟท. โดยตรง]
เรื่องการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะทางการเงินการรถไฟ แห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการเพิ่มการขนส่งทางราง ซึ่งมีต้นทุนการขนส่งที่ต่ำกว่าการขนส่งทางอื่น จึงได้เห็นชอบให้ร.ฟ.ท.ปรับโครงสร้างโดยให้ ร.ฟ.ท. จัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมา 2 บริษัท คือ
1. บริษัทเดินรถและ
2. บริษัทบริหารทรัพย์สินแยกจาก รฟท. โดยให้ รฟท.ถือหุ้น 100%
และดำเนินการจัดตั้งบริษัททั้ง 2 ภายใน 30 วัน นับแต่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ และให้เริ่มดำเนินการได้ภายใน 180 วัน โดยให้บริษัทบริหารสินทรัพย์เป็นเพียงผู้จัดหาเอกชนเข้าพัฒนาที่ดินและ บริหารสัญญาเท่านั้น
นอกจากนี้ ให้ภาครัฐรับภาระการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และพิจารณาในการแก้ไขภาระหนี้สิน โดยใช้รายได้ของ ร.ฟ.ท. และบริษัทลูกที่จะหาได้ในอนาคตจ่ายคืนและดอกเบี้ยที่กระทรวงการคลังช่วย เหลือ รวมถึงการเพิ่มบทบาทให้กับเอกชนในกิจการของ ร.ฟ.ท. ซึ่งผลที่จะได้จากการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ภายใน 6 ปี จำนวนขบวนรถที่วิ่งบนรางเพิ่มขึ้น 100% ปริมาณในการขนส่งโดยสารเพิ่ม 25% และการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 100% พร้อมทั้งจะมีรายได้จากการบริหารสินทรัพย์เพิ่มขึ้นประมาณ 11,000 ล้านบาท ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า
//-----------------------------------------------------------------
สร.รฟท.แถลงการณ์ค้านมติ ครม.เข้าแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มิถุนายน 2552 17:25 น.
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000062993
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สร.รฟท.ออกแถลงการณ์คัดค้านแผนฟื้นฟูองค์กรของการรถไฟแห่ง ประเทศไทย ล้มฝัน “โสภณ ซารัมย์” ชี้ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2550 และการตั้งบริษัทลูก ทำให้นิติสัมพันธ์ระหว่างการรถไฟฯ และบริษัทที่เกิดขึ้นใหม่ขาดจากกัน จวกเรื่องสางทุจริตกลับไม่แก้ไข
ภายหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูองค์กรของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดย นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้เสนอของบประมาณการตั้งบริษัทลูกเพื่อขอเงินมาลงทุนหมุนเวียนวงเงิน 560 ล้านบาทนั้น
วันนี้ (4 มิ.ย.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ร่วมปกป้องรักษาผลประโยชน์ของการรถไฟฯ ภายหลังจากที่ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2552 เรื่องขอให้ระงับแผนฟื้นฟูการรถไฟฯ เข้าพิจารณาในการประชุม ครม.
แถลงการณ์ได้ตอกย้ำว่า แผนดังกล่าวไม่มีความชัดเจนในการส่งเสริมการขนส่งทางรางตามนโยบายแห่งรัฐ ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2550 และไม่เป็นไปตามข้อตกลงสภาพการจ้างระหว่างการรถไฟฯ กับสหภาพ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2550 ข้อ 18 ความว่า “ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรของการรถไฟฯ ต้องทำความตกลงกับสหภาพแรงงานรถไฟฯ ก่อนทุกกรณี” ประกอบกับการดำเนินงานดังกล่าวมีลักษณะเร่งรีบไม่โปร่งใส โดยเฉพาะการตั้งบริษัทลูก ซึ่งจะทำให้นิติสัมพันธ์ระหว่างการรถไฟฯ และบริษัทที่เกิดขึ้นใหม่ขาดจากกัน มีผลกระทบต่อประเทศชาติ ประชาชน และพนักงานในที่สุด
มติดังกล่าว สวนทางกับที่ สร.รฟท.ได้เคยนำเสนอแนวทางต่อรัฐบาลทุกสมัยมาตลอดในการแก้ไขปัญหาการรถไฟฯ ไว้โดยสิ้นเชิง ทั้งการให้สร้างรางคู่ทั่วประเทศ ให้จัดหารถจักร รถโดยสาร รถสินค้าให้เพียงพอ เพิ่มการจัดเก็บรายได้จากที่ดินทั่วประเทศ ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้โปร่งใสและรวดเร็ว ยกเลิกมติ ครม.เมื่อ 28 กรกฎาคม 2541 เรื่องจำกัดอัตรากำลังของการรถไฟฯ และให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยการบริการทางสังคม (PSO) ที่รัฐบาลค้างการรถไฟฯ อยู่ 26,000 ล้านบาท เป็นต้น
ทว่า รัฐบาลกลับต้องการที่จะเปลี่ยนกิจการซึ่งเป็นของรัฐ ของประชาชนให้เป็นบริษัทเอกชนมาตลอด ล่าสุดในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 ครม.ได้มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูฯ (เป็นบริษัท) ตามที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ นำเสนอ
สถานการณ์เช่นนี้จึงไม่เป็นที่น่าว่างใจว่าแผนฟื้นฟูฯ ดังกล่าว ผลประโยชน์จะตกเป็นของนายทุนกลุ่มใด มีหลายกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กรณีการต่อสัญญาเช่าที่ดินบริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธินกับเซ็นทรัล กรณีการขยายสัญญาโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ กรณีไม่ดำเนินการทวงคืนที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์
ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของการรถไฟฯ ขอให้สมาชิกและคนรถไฟทั่วประเทศรอฟังสัญญาณจาก สร.รฟท.ต่อไป |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 04/06/2009 10:47 pm Post subject: |
|
|
เฮ้อ...เจ้าเก่า มาบทเดิมๆ อีกแล้ว
ก็บริษัทลูกที่ว่า การรถไฟฯ ถือหุ้น 100 % ไม่ใช่หรือ ? จะเอานายทุนที่ไหนมาถือหุ้นร่วมล่ะ ? ตัวอย่างบริษัทแบบนี้ก็มี บริษัท ไปรษณีย์ไทย เจ้าหนึ่งล่ะ
Last edited by black_express on 04/06/2009 10:53 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 04/06/2009 10:51 pm Post subject: |
|
|
I don't have anything to comment.
แต่ขอหน่อย
ถ้าว่ากันตามกฎหมาย ก็จะเห็นว่า รัฐวิสาหกิจไม่จำเป็นต้องมีคำว่า "การ" หรือ คำว่า "องค์การ" นำหน้าเสมอไป รัฐวิสาหกิจหลายแห่งนั้น ก็มีรูปแบบ "บริษัท" เช่น บริษัท การบินไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย บริษัท กสท.โทรคมนาคม บริษัท ทศท.คอปอเรชั่น และอีกมากมายจะพรรณา แต่ที่แน่ๆคือ หน่วยงานเหล่านี้ รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ทั้งหมด |
|
Back to top |
|
|
|