ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Wisarut · Posted: 22/03/2024 10:24 am Post subject:

มีเพื่อนๆ สมาชิกหลายท่าน สงสัยและสอบถามกันเข้ามามากว่า ทำไม รถไฟสายใต้ ตั๋วถึงเต็มไวแต่ไม่เพิ่มตู้เสริม
ยิ่งในช่วงเทศกาลกลับไม่มีขบวนเสริม แบบสายอื่น ๆ
จะมาขออธิบายแบบคร่าว ๆ ให้เข้าใจกันง่ายยิ่งขึ้นครับ
เนื่องด้วยปัจจุบัน ตู้โดยสารของ รฟท. มีใช้งานจำกัด และไม่ได้มีการสั่งซื้อหรือนำเข้ามาเพิ่ม ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งจริงๆ ที่ซื้อมาเพิ่มก็มีแค่ร้อยกว่าคันเท่านั้น ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา
กลับกันรถโดยสารเดิม ที่ใช้งานมาหลายสิบปี ก็เริ่มมีสภาพชำรุดทรุดโทรม หมดอายุการใช้งานไปตามลำดับ รวมไปถึงอุบัติเหตุต่างๆ ทำให้จำนวนรถโดยสาร ที่มีใช้งาน และสำรองไว้แต่เดิม มีน้อยลงไปเรื่อย ๆ
ประกอบกับการซ่อมบำรุง ที่ซ่อมไม่ทันใช้งาน เนื่องมาจากปัญหาขาดแคลนพนักงาน และระบบจัดซื้อจัดจ้างเอกชนที่ล่าช้า ก็ยิ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนรถโดยสารมีน้อยลงไปอีก
โดยใจปัจจุบัน รฟท. ก็ใช้รถโดยสารทำขบวนในทุกๆวัน เกือบจะคิดเป็น 80-90% ของรถโดยสารที่มีแล้ว และเหลือสำรองอยู่เล็กน้อยไม่กี่สิบคันต่อวัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการเดินทางแม้จะมีการเสริมเพิ่มขบวนละ 2-3 ตู้ ในบางขบวน ในบางวันแล้วก็ตาม
หรืออธิบายได้ง่ายๆว่า ในระหว่างวัน ก็แทบจะเอารถโดยสารออกใช้งานจนเกือบหมดแล้ว เป็นสาเหตุให้ไม่ได้มีการเพิ่มตู้โดยสาร หรือเพิ่มมาก็น้อยมาก แม้จะขายตั๋วเต็มไปแล้ว ซึ่งก็เป็นกับทุกเส้นทาง ไม่ใช่แค่สายใต้เป็นอย่างเดียว
เรื่องที่สอง ที่คนก็สงสัยมากเช่นกัน ทำไมช่วงเทศกาล
รถไฟสายอื่นๆ กลับมีขบวนเสริม ทั้งสายเหนือ สายอีสาน
แต่สายใต้กลับแค่เพิ่มตู้อย่างเดียว หรือบางขบวนก็ไม่ได้เพิ่มตู้ และก็ไม่พอกับการเดินทางด้วย
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาจากจำนวนรถที่ไม่พอ แต่สาเหตุที่สายใต้ไม่มีขบวนรถเสริม ก็มีสาเหตุหลัก ๆ มาจาก สายใต้เป็นสายที่มีขบวนรถวิ่งมากที่สุดอยู่แล้ว และมีเส้นทางหลายปลายทาง ทั้ง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดตรัง รวมไปถึง หาดใหญ่
และใช้จำนวนรถโดยสารต่อวัน เยอะที่สุดเช่นกัน
แต่ในสายเหนือและสายอีสาน มีขบวนรถที่วิ่งต่อวันที่น้อยกว่ามาก เมื่อถึงช่วงเทศกาล จึงเลือกที่จะเพิ่มขบวนเสริมให้สายอีสานและสายเหนือแทน เพราะขบวนรถมีน้อยกว่า
ยังรวมไปถึงเรื่องความยาวและน้ำหนักของขบวนรถไฟ ที่การเพิ่มตู้ยาวๆก็ไม่สามารถทำได้ เลยต้องเพิ่มขบวนแทน
ส่วนสายใต้จะใช้วิธีเพิ่มตู้ ขบวนละ 2-5 ตู้บ้างตามความเหมาะสม เพราะเรื่องจำนวนรถที่ไม่พอจะเสริมเป็นขบวนใหม่ได้ และเรื่องความยาวและน้ำหนักด้วย
ซึ่งในช่วงเทศกาลนี้เอง รถโดยสารก็มีการออกใช้งาน เกือบจะคิดเป็น 90-100% ของที่ใช้งานได้อยู่แล้ว เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ก็ใส่มาให้หมด ออกวิ่งแทบทุกคันทุกตู้ เท่าที่จะทำได้แล้ว
แม้ว่าสายเหนือ กับสายอีสานจะมีขบวนรถเสริม แต่ก็ไม่ได้มีเยอะแบบที่หลายๆท่านคิด โดยส่วนมาก จะมีแค่ 1-2 ขบวนเท่านั้น ขบวนนึงก็ยาวแค่ 8-10 กว่าตู้นิดๆ ซึ่งก็เป็นรถสำรองไม่กี่สิบคันที่เหลืออยู่ที่กล่าวไปข้างต้น ที่พอจะเอามาเสริมได้
ทั้งหมดนี้ สรุปได้ง่ายๆว่า รถโดยสารที่ใช้ในทุกวัน ก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว จึงเสริมตู้ได้แค่ตามความเหมาะสม
ในช่วงเทศกาลเอง ก็ต้องจัดสรรค์ให้เกิดประโยชน์ที่สุด
ซึ่ง ผมว่า รฟท. เองก็ทำได้เต็มที่เท่านี้แล้วครับ จากข้อจำกัดที่มี
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานจากการที่ รัฐบาลไม่ใส่ใจระบบราง มาตลอดหลายสิบปี ทั้งๆที่ประชาชนต้องพึ่งพารถไฟอยู่ไม่น้อย ได้แต่คาดหวังว่ารัฐบาลจะใส่ใจ แล้วมีนโยบายจัดการถไฟมาเพิ่มขึ้นอีก รวมไปถึงการบรรจุพนักงานเพิ่ม
ไม่อย่างนั้น รถไฟเก่าๆ ก็จะถยอยชำรุดทรุดโทรม และหมดอายุการใช้งานไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายแล้ว ปัญหานี้จะหนักหนาสาหัสกว่าเดิม เพราะมีรถไฟน้อยลงทุกวันๆ
รถไฟสายใต้ - Thai Railway Southern Line
RoB - 21/03/2024
https://www.facebook.com/groups/rotfaisaitai/posts/3687546781524409/

Mongwin · Posted: 25/03/2024 5:38 am Post subject:

127ปีการรถไฟแห่งประเทศไทย
Source - เดลินิวส์
Monday, March 25, 2024 05:15

ก้าวสู่ผู้ให้บริการระบบรางดีสุดในอาเซียน

ปัจจุบันรัฐบาลได้ส่งเสริม และสนับสนุนการลงทุนพัฒนาระบบราง ให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ซึ่งตลอดระยะเวลา 127 ปีที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ผลักดัน และขับเคลื่อนภารกิจการดำเนินงานของการรถไฟฯ เพื่อให้การขนส่งทางราง เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน ตลอดจนพัฒนาขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ สอดรับกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม

การดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้ผลักดันพัฒนาโครงการต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น และประสบความสำเร็จ หลายโครงการ อาทิ การเปิดใช้ทางคู่สายใต้ในช่วงแรก ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จังหวัดชุมพร รวมระยะทาง 348 กิโลเมตร ช่วยลดเวลาในการเดินทาง เพิ่มความเร็ว และความปลอดภัยในการเดินขบวนรถ โดยมีสะพาน ทางยกระดับ ทางลอด อุโมงค์ข้ามหรือลอดทางรถไฟ เพื่อลดอุบัติเหตุอย่างถาวร และการเปิดใช้สถานีหัวหินใหม่ตาม เป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทาง และประหยัดเวลาให้กับพี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ที่สามารถเริ่มดำเนินการได้ตามแผน ตลอดจนได้ดำเนินมาตรการเก็บค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท ชำระโดยใช้บัตร EMV Contactless เชื่อมต่อการเดินทางรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วยลดค่าครองชีพในการเดินทางให้แก่พี่น้องประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม สามารถพัฒนาการให้บริการเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงเวลา เชื่อมโยงครอบคลุมทุก การเดินทาง ขณะเดียวกันยังปรับลดค่าบริการจอดรถชั้นใต้ดิน สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อลดรายจ่ายให้ประชาชน และกระตุ้นให้ผู้โดยสารหันมาใช้บริการมากขึ้นด้วย

ขณะเดียวกันยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ได้แก่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ปัจจุบันได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้ดำเนินการแล้ว ส่วนช่วงชุมทางถนน จิระ-อุบลราชธานี ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ช่วงสุราษฎร์ธานีชุมทางหาดใหญ่-สงขลา และช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดัง เบซาร์ อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล เพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูล เพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ รวมถึงจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)

พร้อมกันนี้ยังมีโครงการปรับปรุงชุดขบวนรถโดยสารให้ใช้งานเป็นรถ Power Car จำนวน 192 คัน เพื่อ ช่วยลดมลภาวะทางเสียง และสิ่งแวดล้อม ประหยัด พลังงาน การปรับปรุง ตู้โดยสารชั้น 3 ให้เป็น ตู้โดยสารปรับอากาศ การปรับปรุงห้องน้ำ ขบวนรถโดยสารให้เป็นห้องน้ำระบบปิดทั้งหมด และปรับปรุงบันไดทางขึ้น-ลง ให้สามารถรองรับชานชาลาสูง รวมถึง การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้งาน อาทิ ติดตั้งระบบ WIFI ช่องเสียบ USB ติดตั้งระบบหน้าจอ Touchscreen กับขบวนรถดีเซลราง (Daewoo) จำนวน 39 คัน ซึ่งจะเริ่ม ดำเนินการได้ประมาณปี 2567 และแล้วเสร็จในปี 2568

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้จัดงานบริการเพื่อสังคม อาทิ การจัดโครงการ Doctor Train ออกหน่วยแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ ช่วยตรวจสุขภาพให้กับพนักงาน และประชาชนตามภูมิภาคต่าง ๆ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมด้านสุขภาพอนามัยที่ดีให้กับทุกคน รวมถึงจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ กับพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรกับประชาชน โดยเน้นเปิดกว้างรับฟังความ คิดเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับ หน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน และจังหวัดต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการกระจาย รายได้สู่ท้องถิ่น ขณะเดียวกัน ยังมีการจัดขบวนรถไฟนำเที่ยวต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการนำรถไฟ KIHA183 ที่ ได้รับจากประเทศญี่ปุ่น มาปรับปรุงให้เปิดใช้ได้จนเป็นที่นิยมของประชาชน นักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุด การรถไฟฯ ได้ปรับปรุงขบวนรถท่องเที่ยวชุดใหม่ SRT ROYAL BLOSSOM ที่ดัดแปลงมาจากขบวนรถญี่ปุ่น Hamanasu โดยตั้งเป้าจะเปิดให้บริการกลางปีนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ

การรถไฟฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงข่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางของไทย ให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในทุกภูมิภาค สามารถอำนวยความสะดวกสูงสุดต่อการเดินทางของพี่น้องประชาชน การขนส่งสินค้าเชื่อมโยงทุกภูมิภาค ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของประเทศ และสามารถแข่งขันทัดเทียมกับอาณาประเทศ ตามวิสัยทัศน์ "การเป็นผู้ให้บริการระบบรางที่ดีที่สุดในอาเซียน ใน พ.ศ. 2570".

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 26 มี.ค. 2567 (กรอบบ่าย)

Mongwin · Posted: 25/03/2024 5:05 pm Post subject:

วันแรก! ไล่จับ "ลิงลพบุรี" ล็อกเป้าหัวโจก-ทำหมัน-ย้ายใส่กรง
สิ่งแวดล้อม
ThaiPBS 25 มี.ค. 67 16:35

วันแรก! ไล่จับ "ลิงลพบุรี" ล็อกเป้าหัวโจก-ตัวตึง ส่งทำหมันก่อนย้ายใส่กรงเลี้ยง ชาวบ้านร่วมชี้เป้ากลุ่มเกเร ก้าวร้าว โดยเล็งภารกิจ 3 วันแรกก่อนทยอยจับต่อเนื่อง เหตุเจ้าจ๋อฉลาดชาวบ้านเผยถ้าลอบขโมยของต้องใช้ผลไม้มาเรียกค่าไถ่

วันนี้ (25 มี.ค.2567) นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวจังหวัดลพบุรี เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญาความเดือดร้อนจากลิง หลังมีการขยายพันธุ์จำนวนเพิ่มมากขึ้น กระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชน และเศรษฐกิจในพื้นที่ ตามที่เคยมีข้อร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่ต้องการเคลื่อนย้ายลิงออกไป เพื่อลดผลกระทบ

มีผลวันแรก! เช็กเกณฑ์เยียวยาถูก "ลิงกัด" บาดเจ็บ-ตาย
พา 200 ตัวเข้า "เมืองลิง" วัดพระบาทน้ำพุ ออกแบบใช้ชีวิตชิล
โดยการประชุมในวันนี้ จะมีการขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมธนารักษ์ ปรับลดค่าเช่าที่ดินอาคารในตัวเมืองลพบุรี เนื่องจากผู้ค้าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ จากปัญหาลิงล้นเมือง

เจ้าหน้าที่วางกรงดักจับลิงแสม ในจ.ลพบุรี ย่านเมืองเก่า

จับลิงวันแรกเลือก "หัวโจก"
ขณะเดียวกันเป็นวันแรก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับเทศ บาลเมืองลพบุรี จะทำการเปิดปฏิบัติการวางกรง ดักจับลิง บริเวณหน้าโรงแรมเมืองทอง ข้างพระปรางค์สามยอด ต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณจุดเกิดเหตุที่ลิงแย่งอาหาร จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อนำไปทำหมัน

นายเกริกวิทย์ ภูมิพยัคฆ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์ กล่าวว่า เป้าหมายแรกของวันนี้ จะเป็นลิงฝูงที่เคลื่อนย้ายไปมาช่วงอาคารพาณิชย์หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) พุ่งเป้าที่ลิงนิสัยเกเร ยาวไปจนถึงโซนตลาด ติดกับถนนสุรสงคราม โซนนี้จะมีฝูงลิงตึก ถ้าสังเกตด้วยตาก็เกิน 300 ตัว

นายเกริกวิทย์ ภูมิพยัคฆ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์

ลิงที่จะจับเป็นกลุ่มแรก จะเป็นลิงเกเร ก้าวร้าว และลิงตึกประมาณ 30-40 ตัว ชาวบ้านจะชี้ตัวให้ เพราะจำได้จากตำหนิต่าง ๆ เช่น รอยสัก หางกุด หูแหว่ง หรือ รูปทรง ภารกิจจับลิงจะเกิดขึ้น 3 วันตั้งแต่ 25-27 มี.ค.นี้

โดยลิงที่จับได้จะนำไปไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 นครนายก เพื่อรอให้สวนลิง ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมืองลพบุรี ดำเนินการปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยก่อน จากนั้นจะคัดเลือกลิงที่ทำหมันแล้ว เคลื่อนย้ายมาอยู่ที่นี่

การทำหมันลิง จะควบคุมประชากรลิงเกิดใหม่ให้ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง คนกับลิงในลพบุรี และไม่กระทบกับการท่องเที่ยว
หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาสมโภชน์ บอกว่า อีกฝูงที่อยู่ในแผนจับย้าย คือ ฝูงลิงตึกโรงหนังเก่าหลังพระปรางค์สามยอด เมื่อรวมฝูงใหญ่จะย้ายถิ่นไปมากับตลาดมโนราห์ ซึ่งเป็นชุมชนย่านเศรษฐกิจสำคัญของเมืองเก่าลพบุรี แต่ถูกลิงแสม เพิ่มจำนวนเข้ารบกวนจนชาวบ้านย้ายออก จนตลาดมโนราห์มาลิงอาศัยอยู่มากกว่าคน

ลิงแสมในจ.ลพบุรี มีประชากรล้นและเริ่มกระทบกับชาวบ้านและการท่องเที่ยวมาหลายปี

ลิงฉลาดแอบย่องทรัพย์สินต้องใช้ผลไม้เรียกค่าไถ่
นายบุญมี แพจู เจ้าของร้านตัดเย็บเสื้อผ้า บริเวณดังกล่าว เล่าว่า เห็นด้วยกับการจับย้ายลิงพวกนี้ เพราะนอกจากความเกเร ปัจจุบันลิงยังเรียนรู้เรื่องพฤติกรรมการหาอาหาร มีความฉลาดมากขึ้น อย่างการหยิบจับทรัพย์สินภายในร้าน พอฉกฉวยได้ ก็ต้องหาผลไม้ไปแลกเปลี่ยน ซึ่งลิงจะหนีขึ้นตึกสูง แล้วปล่อยทรัพย์สินที่จับได้ลงมาแลกกับผลไม้

จากการสำรวจประชากรลิงในพื้นที่ จ.ลพบุรี เมื่อปี พ.ศ.2561 พบจำนวน 9,324 ตัว ส่วนปี 2566 มีจำนวน 5,709 ตัว เฉพาะบริเวณเขตเทศบาลเมืองลพบุรีมี 2,206 ตัว ขณะที่ปฏิบัติวันแรก ทยอยจับลิงไปแล้วประมาณ 20 ตัว

Mongwin · Posted: 25/03/2024 8:36 pm Post subject:

บอร์ดรถไฟฯ ตั้งกรรมการสรรหาผู้ว่าคนใหม่
Source - เว็บไซต์ไทยโพสต์
Monday, March 25, 2024 19:50

บอร์ดรถไฟฯ ตั้ง ‘อภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย’นั่งประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าคนใหม่ หลัง ‘นิรุฒ มณีพันธ์’เตรียมหมดวาระ 23 เม.ย.นี้ คาดใช้เวลาราว 2-3 เดือนแล้วเสร็จ

25 มี.ค.2567-นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท) ว่า วันนี้ (25 มี.ค.) ที่ประชุมบอร์ดมีมติแต่งตั้ง นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อยในฐานะกรรมการบอร์ด กรรมการบอร์ด เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการฯ รฟท. คนใหม่ แทนนายนิรุฒ มณีพันธ์ ที่กำหนดจะหมดวาระในวันที่ 23 เม.ย.นี้ โดยประธานคณะกรรมการสรรหาฯ จะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติในการคัดเลือกผู้เหมาะสมมารับตำแหน่งผู้ว่าการฯ รฟท.

ด้านนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการฯ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการพิจารณาต่ออายุ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการฯ นั่งดำรงตำแหน่งอีกสมัยหรือไม่ เพราะคงเป็นการพิจารณาโดยประธานบอร์ด ซึ่งตนจะทำหน้าที่ในการกำหนดคุณสมบัติของการคัดเลือกผู้ว่าการฯ รฟท.เท่านั้น และคาดว่าจะใช้เวลาในกระบวนการสรรหาผู้ว่าการฯ แล้วเสร็จภายใน 2 – 3 เดือน

ส่วนกรณีที่นายนิรุฒ จะหมดวาระผู้ว่าการฯ ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาของการคัดเลือกผู้ว่าการฯ คนใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ จะมีการพิจารณาแต่งตั้งรองผู้ว่าการฯ มารักษาการแทน เพื่อให้การบริหารงานมีความต่อเนื่อง

Mongwin · Posted: 26/03/2024 7:30 pm Post subject:

ททท.กรุงเก่านำช้างต้อนรับ รถจักรไอน้ำขบวนพิเศษ วันสถาปนาฯ 127 ปี
ผู้จัดการออนไลน์ 26 มี.ค. 2567 19:23

นายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พระนครศรีอยุธยา นายรุ่งโรจน์ พัฒนเดช นายสถานีรถไฟอยุธยา นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย ผู้จัดการวังช้างอยุธยาแลเพนียด นำช้างจากวังช้างแลเพนียดอยุธยา 2 เชือก พร้อมกลุ่มนางรำ จากชมรมส่งเสริมวัฒนธรรมกรุงเก่า และคณะกลองยาวนักเรียนจากโรงเรียนชุมชนวัดระโสม อ.ภาชี ให้การต้อนรับ นักท่องเที่ยวที่โดยสารมากับขบวนรถจักรไอน้ำขบวนพิเศษที่ทางการรถไฟฯ เปิดเดินรถกรณีพิเศษ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ 127 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มีนาคม 2567

การรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยวด้วยขบวนรถจักรไอน้ำ เส้นทางประวัติศาสตร์จากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบวันสถาปนาฯ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมกับเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางย้อนอดีต ตลอดจนร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างสถานีกรุงเทพฯ-สถานีกรุงเก่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439

Mongwin · Posted: 26/03/2024 8:31 pm Post subject:

การรถไฟฯ สถาปนาครบรอบ 127 ปี เปิดขบวนรถจักรไอน้ำเส้นทางประวัติศาสตร์
กรุงเทพธุรกิจ 26 มี.ค. 2024 เวลา 17:24 น.

การรถไฟฯ สถาปนาครบรอบ 127 ปี เปิดขบวนรถจักรไอน้ำนำเที่ยว ขบวนที่ 901 เส้นทางประวัติศาสตร์จากสถานีกรุงเทพ – อยุธยา พร้อมประกาศผลักดันการลงทุนโครงข่ายทางคู่ และนวัตกรรมเพื่อบริการผู้โดยสาร
วันนี้ (26 มี.ค. 2567) เมื่อเวลา 07.00 น. ณ ตึกบัญชาการรถไฟ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้แทนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ ครบรอบ 127 ปี โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและประธานกรรมการรถไฟฯ นายวิม รุ่งวัฒนาจินดา นายศันสนะ สุริยะโยธิน นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย นายอารีศักดิ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างการรถไฟฯ เข้าร่วมงาน

จากนั้น นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟฯ เดินทางไปสักการะบวงสรวงอนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวงที่สร้างขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงประกอบพระราชพิธีเปิดเดินรถไฟหลวงสายแรกในสยาม เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2439 เส้นทางสถานีกรุงเทพ-อยุธยา เวลาต่อมาได้เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำนำเที่ยว ขบวนที่ 901 เส้นทางประวัติศาสตร์จากสถานีกรุงเทพ - อยุธยา ซึ่งเป็นรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้

ทั้งนี้ จากการดำเนินงานในช่วงรอบปีที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้ผลักดันพัฒนาโครงการต่างๆ ให้เกิดขึ้น จนสำเร็จเป็นรูปธรรมในหลากหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางให้ประสบความสำเร็จตามแผน การขับเคลื่อนการลงทุนรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อย่างต่อเนื่องอีก 7 เส้นทาง การอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ

รวมไปถึงการพัฒนาระบบการจองตั๋วโดยสารและชำระค่าตั๋วโดยสารให้ครบวงจร การพัฒนาแอปพลิเคชันตารางเดินรถ (SRT TIMETABLE) การพัฒนาแอปพลิเคชันติดตามขบวนรถ (TRAIN TRACKING SYSTEM) การเดินรถท่องเที่ยวเพื่อให้บริการแก่พี่น้องประชาชน เพื่อต่อยอดส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ

นอกจากนี้ ยังพัฒนาพื้นที่สายทางและสถานีรถไฟทั่วประเทศให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชุมชนใกล้เคียงพื้นที่รถไฟให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เกิดความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน ชุมชน ท้องถิ่นเกิดการกระจายรายได้สู่คนในชุมชน ทำให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโต และเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตตามไปด้วยอย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังมีการดูแลทางสังคม เช่น การจัดโครงการ Doctor Train ที่เป็นการนำคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีชื่อเสียงของประเทศจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ออกหน่วยแพทย์เฉพาะทางเคลื่อนที่ทำการตรวจ รักษา ดูแลพี่น้องคนรถไฟ และพี่น้องประชาชน และรักษาอย่างต่อเนื่องผ่านระบบ Tele Med หรือ VDO Conference

ในด้านของเยาวชน การรถไฟฯ ร่วมกับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำน้องผู้พิการทางสายตาไปทัศนศึกษานอกสถานที่ การจัดโครงการนำเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทัศนศึกษาทางรถไฟ การสนับสนุนโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้โดยสนับสนุนตู้โดยสารในการเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ

และร่วมกับสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะนักเรียนผู้พิการและด้อยโอกาสนั่งรถไฟไปศึกษาประวัติศาสตร์ ผ่านแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในเส้นทางต่างๆ อาทิ กรุงเทพ – กาญจนบุรี กรุงเทพ – ฉะเชิงเทราให้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย

รวมถึงการจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ กับพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนกับการรถไฟฯ ให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตัวอย่างที่กล่าวมานี้จะเห็นว่า การรถไฟฯ มุ่งมั่นในการยกระดับพัฒนาการทำงาน และการให้บริการ ให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงของบริบทแวดล้อมภายนอก ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้เกี่ยวข้อง หรือ Stakeholders ทั้งหมดตามวิสัยทัศน์ “เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อและการขนส่งที่มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย”

ท้ายนี้ การรถไฟฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการระบบขนส่งทางรางของไทย ให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในทุกภูมิภาค สามารถอำนวยความสะดวกสูงสุดต่อการเดินทาง ตลอดจนเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับ ประชาชน และการขนส่งสินค้าเชื่อมโยงทุกภูมิภาค ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของประเทศ สามารถแข่งขันทัดเทียมกับอาณาประเทศอย่างยั่งยืน

Wisarut · Posted: 27/03/2024 10:27 am Post subject:

Wisarut · Posted: 27/03/2024 2:49 pm Post subject:

Wisarut · Posted: 28/03/2024 3:33 pm Post subject:

#พ่อเมืองคนใหม่นั่งรถไฟมาโคราช
วันพุธที่ 27 มีนาคม 67 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม หรือ "ผู้ว่าฯติ๊ก" จะเดินทางมา จ.นครราชสีมา โดยทางรถไฟ ถึงสถานีรถไฟจิระ ในเวลา 10.17 น.
.
พร้อมประกาศว่า “หากจะมอบดอกไม้แสดงความยินดี ขอเปลี่ยนเป็นปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ เพื่อนำไปทอดผ้าป่ากองทุนช่วยเหลือเพื่อผู้ยากไร้”
https://www.facebook.com/KoratForumSkyscrapercity/posts/721416370155231