ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

Mongwin · Posted: 01/05/2024 11:36 am Post subject:

สู้แดดไม่ไหว! เหล็กรางรถไฟร้อนจัดโก่งตัว เสี่ยงเกิดอันตราย | ข่าวอรุณอมรินทร์ | 1/5/67
AMARINTV : อมรินทร์ทีวี
May 1, 2024

https://www.youtube.com/watch?v=yBnjYZ5KSeE

Very high temperatures can make railroad tracks buckle.

Mongwin · Posted: 01/05/2024 2:05 pm Post subject:

ประกาศหยุดเดินรถ ! อากาศร้อนจัดทำรางรถไฟพิบูลย์โก่งงอ | ห้องข่าวภาคเที่ยง
Ch7HDNews
May 1, 2024

https://www.youtube.com/watch?v=FOWhqEl8_sI

ห้องข่าวภาคเที่ยง - อากาศที่ร้อนจัด ทำให้รางรถไฟที่อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โก่งงอจนต้องประกาศหยุดเดินรถชั่วคราว ให้เจ้าหน้าที่นำน้ำแข็งและน้ำมาฉีดคลายความร้อน

เจ้าหน้าที่รถไฟ และหน่วยกู้ภัยสยามร่อนพิบูลย์ ช่วยกันนำน้ำจากสวนผลไม้ของชาวบ้าน ฉีดไปบริเวณรางรถไฟที่ถูกความร้อนจากแสงแดดเผา ทำให้รางโก่งช่วงสถานีรถไฟร่อนพิบูลย์ ไปยังสถานีเขาชุมทอง ประมาณ 1 กิโลเมตร ในพื้นที่หมู่ 5 และหมู่ 6 อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช จนต้องหยุดเดินรถชั่วคราว เพื่อฉีดน้ำและนำก้อนน้ำแข็งมาไว้ข้าง ๆ รางคลายร้อน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง รางเริ่มหดตัวกลับมาเปิดเดินรถได้

นายธัญวัฒน์ เพชรสุวรรณ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ซึ่งเป็นคนโพสต์คลิปนี้ ระบุว่า ระหว่างที่มีขบวนรถไฟวิ่งมาถึงจุดนี้ คนขับเห็นรางโก่งงอจึงได้หยุดรถ แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

เบื้องต้นพบว่าสาเหตุเกิดจากความร้อนจากสภาพอากาศ ทำให้หมอนคอนกรีต รองรางรถไฟร้อนจัด ส่งผลมายังรางโก่งงอตามไปด้วย จึงต้องใช้น้ำฉีด และนำน้ำแข็งมาวางประคบข้าง ๆ ให้คลายความร้อน

เจ้าหน้าที่ ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มีแล้วครั้งหนึ่ง แต่ขณะนั้นหมอนรองรถไฟยังเป็นไม้อยู่

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รถไฟได้สำรวจบริเวณรางรถไฟตลอดเส้นทาง เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร เบื้องต้นไม่พบจุดอื่นมีปัญหาเหมือนจุดนี้

ทีมข่าวสอบถามการรถไฟแห่งประเทศไทย เผยว่า ตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับรางรถไฟโก่งตัวในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งปกติฝ่ายการช่างโยธาจะมีการตรวจโดยรถตรวจสภาพทางรถไฟ ก่อนรถวิ่งทุกวันอยู่แล้ว หากเกิดปัญหาที่กระทบต่อเวลาการเดินรถ ทางการรถไฟฯ ก็จะมีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเพื่อเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารไปยังขบวนอื่น หรือหากใช้ระยะเวลาในการแก้ไขไม่นาน ก็จะให้ขบวนรถหยุดรอก่อน

Announcement of Train Stoppage! Hot Weather Causes Ron Phibun Railway Tracks to Bend | Noon News Room Ch7HDNews May 1, 2024

In the noon newsroom, it was reported that the very hot weather caused the railway tracks in Ron Phibun District, Nakhon Si Thammarat Province, to bend severely, necessitating a temporary cessation of operations. Staff were dispatched to bring ice and water to spray onto the tracks to alleviate the heat.

Railway officials and the Siam Ron Phibun Rescue Unit enlisted the help of villagers to bring water from nearby orchards to spray onto the train tracks, which had become warped due to the scorching sun. This occurred at Ron Phibun Railway Station, approximately 1 kilometer from Khao Chum Thong Station, within the vicinity of Village No. 5 and Village No. 6, Ron Phibun District, Nakhon Si Thammarat Province. Operations were temporarily halted to spray water and place ice blocks alongside the tracks to cool them down. It took more than an hour for the tracks to begin to contract and become usable again.

Mr. Thanyawat Phetsuwan, a rescue worker who posted a video clip of the incident, stated that a train approaching this point noticed the bent rails and came to a stop. Officials were then notified to conduct an inspection.

Upon initial investigation, it was determined that the excessive heat had caused the concrete sleepers beneath the railway tracks to become very hot, resulting in the bending of the rails. Therefore, water was used to spray onto the tracks, and ice was placed alongside to mitigate the heat.

Officials also mentioned that a similar incident had occurred previously when the railway sleepers were still made of wood.

Following the incident, railway officials conducted a thorough inspection of the tracks along the route to ensure passenger safety. Initially, no other points were found to have similar issues.

The State Railway of Thailand's news team disclosed that there are currently no reports of buckled train tracks in other areas, which are typically inspected by the Civil Engineering Department using railroad inspection vehicles before daily operations commence. In the event of any issues affecting train operation times, the railway authority will provide advance notice to transfer passengers to other trains. If the issue can be resolved quickly, the train may be temporarily halted and passengers asked to wait.

Mongwin · Posted: 01/05/2024 6:32 pm Post subject:

#หาดใหญ่#มันภูมิใจ..น้ำตาไหล!!ส่งทหารใหม่ขึ้นรถไฟ..ไปรับใช้ชาติ
ตัวพ่อ Lifestyleสงขลา
May 1, 2024

https://www.youtube.com/watch?v=ua2dtqUhaX4

หาดใหญ่#สีสันส่งทหารเกณฑ์ผลัด1ของกองทัพเรือขึ้นรถไฟไปยังศูนย์ฝึกทหารใหม่ของกองทัพเรือที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ญาติพี่น้องมาส่งด้วยความอบอุ่น ทันทีที่รถไฟออกจากสถานีน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวโบกมืออำลาจนรถไฟหายลับไปกับตาภูมิใจที่ลูกหลานได้รับใช้ชาติ
----------------------------------------------
Hat Yai #Colorful sends 1st shift conscripts of the Navy on a train to the Navy's new soldier training center in Sattahip District, Chonburi Province. They are sent warmly by relatives. As soon as the train left the station, tears flowed without realizing it, waving goodbye until the train disappeared behind the eyes, proud of our children and grandchildren for serving the country.

Wisarut · Posted: 01/05/2024 7:07 pm Post subject:

รฟท.เปิดรับสมัครผู้ว่าฯ คนใหม่แล้ว ถึง 28 พ.ค. 67 วางสเปกเชี่ยวชาญงานขนส่ง พัฒนาสินทรัพย์-โครงสร้างองค์กรยุคใหม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 10:58 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:08 น.

รฟท.ประกาศรับสมัครผู้ว่าการคนใหม่แล้ว ยื่นได้ตั้งแต่ 29 เม.ย.-28 พ.ค. 67 คุณสมบัติ ตำแหน่งระดับไม่ตํ่ากว่ารองผู้บริหารระดับสูงสุดเอกชนที่มีรายได้ไม่ตํ่ากว่า 7,000 ล้านบาท/ปี หรือรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท/ปี มีความรู้ด้านรถไฟ ขนส่ง มีแนวคิดพัฒนารถไฟ และบริหารสินทรัพย์ จัดโครงสร้างองค์กรยุคใหม่ให้ปฏิบัติงานตอบสนองนโยบายรัฐบาล

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามในประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 1/2567 เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-28 พ.ค. 2567 มีรายละเอียดดังนี้

ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทยมีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

โดยผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยมีอำนาจและหน้าที่บริหารกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เป็นไปตามนโยบายที่คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนดภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และการควบคุมของรัฐบาล และมีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกตำแหน่ง นอกจากนี้ยังต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการจัดการและดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องและให้เป็นไปตามสัญญาจ้างผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดยคุณสมบัติของผู้ว่าฯ มีดังนี้

คุณสมบัติทั่วไป

1. มีสัญชาติไทย

2. มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัคร

3. สามารถทำงานให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เต็มเวลา

4. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟ้่นเฟือนไม่สมประกอบ

5. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

6. ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

7. ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะรํ่ารวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

8. ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น

9. ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง

10. ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่

11. ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการหรือมีส่วนได้เสียในนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าวโดยการมอบหมายของการรถไฟแห่งประเทศไทย

12. ไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือเป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นกรรมการของบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ประกอบกิจการอันมืสภาพอย่างเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์ผู้อื่น หรือมีส่วนได้เสียในสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือในกิจการที่กระทำให้แก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เว้นแต่เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วน หรือเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทเช่นว่านั้นโดยสุจริต และได้แจ้งให้คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยทราบก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย

13. ไม่เป็นกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย เว้นแต่เป็นผู้บริหารซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

1. มีคุณวุฒิการศึกษาไม่ตํ่ากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าจากสถานศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง

2. เป็นผู้ที่มีความรอบรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ดังนี้

- กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดของหน่วยงานที่มีรายไดไม่ตํ่ากว่า 7,000 ล้านบาท/ปี

- กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐต้องดำรงตำแหน่งไม่ตํ่ากว่ารองอธิบดี หรือรองหัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่เทียบเท่ารองอธิบดี

- กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กร ที่มีรายได้ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท/ปี

3. มีความรู้และจัดเจนเกี่ยวกับการรถไฟ การขนส่ง วิศวกรรม พาณิชยกรรม การเศรษฐกิจ หรือการเงิน

4. มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนากิจการรถไฟ และการบริหารสินทรัพย์ให้เจริญก้าวหน้า มีความทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการขนส่งระบบรางทั้งภายในและระหว่างประเทศเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก ตรงต่อเวลา และปลอดภัย รวมถึงมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร

5. มีแนวคิดในการจัดโครงสร้างองค์กรยุคใหม่ให้สามารถปฏิบัติงานตอบสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดประสิทธิผล มีคุณธรรม และจริยธรรมของนักบริหาร และมีประสบการณ์และแนวคิดในการบริหารบุคลากรในองค์กรขนาดใหญ่

6. มีบุคลิกภาพดี มีภาวะผู้นำ มีความรอบรู้ ไหวพริบ ปฏิภาณและมีความสามารถสูงในการตัดสินใจ สั่งการ และบริหารตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ มีมนุษยสัมพันธ์อันดี สามารถติดต่อประสานงานได้ดีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

สำหรับตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟท. มีวาระการดำรงตำแหน่งตามสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 4 ปี และอยู่ในวาระได้ไม่เกินอายุ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน ระหว่างดำรงตำแหน่งจะมีการประเมินผลการทำงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง ทั้งนี้ ผลการประเมินการทำงานของผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกครั้งถือเป็นเด็ดขาด

ทั้งนี้ หากผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯ รฟท.ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารหรือพนักงานของรัฐวิสาหกิจ หรือผู้บริหารภาคเอกชน หรือเป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐผู้นั้นต้องลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายใน 14 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากการรถไฟแห่งประเทศไทย มิฉะนั้นจะถือว่าผู้นั้นสละสิทธึ๋ในการทำสัญญาจ้างกับการรถไฟแห่งประเทศไทย

ผู้สมัครสามารถ Download แบบฟอร์มใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติของตนเองและหนังสือยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคได้ที่ www.railway.co.th หรือติดต่อขอรับแบบฟอร์มใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติของตนเอง และหนังสือยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคล หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองการบุคคล ฝ่ายทรัพยากรบุคคล การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ 1 ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทร.สายตรง 08-9427-4764

ยื่นใบสมัคร ใบรับรองคุณสมบัติ เอกสารหลักฐานอื่นๆ ในการสมัคร จำนวน 6 ชุด แบ่งเป็นด้นฉบับ 1 ชุด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 4 ชุด) และหนังสือให้ความยินยอมการตรวจสอบประวัติบุคคลพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประซาซน จำนวน 4 ชุด ใส่ในซองต้นฉบับ ให้ครบถ้วน โดยมาสมัครด้วยตนเองหรือจัดส่งเอกสารการสมัครทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS โดยใส่ซองปิดผนึกและลงซื่อกำกับด้วย ถึงประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-28 พ.ค. 2567 ในวันและเวลาราชการระหว่างเวลา 08.30-16.30 น

Mongwin · Posted: 01/05/2024 7:59 pm Post subject:

ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
1 พ.ค. 67 18:16 น.

การรถไฟฯ ชี้แจงเหตุรางรถไฟระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์ – สถานีชุมทางเขาชุมทอง
มีลักษณะคดงอ เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด สามารถแก้ไขและเดินขบวนรถได้ตามปกติ
ตามที่มีภาพและข้อความปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับรางรถไฟระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์ – สถานีชุมทางเขาชุมทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะคดงอ ซึ่งต้องหยุดเดินขบวนรถชั่วคราวเพื่อฉีดน้ำคลายความร้อน ให้รางรถไฟคืนสภาพ และสามารถเดินขบวนรถได้ตามปกตินั้น

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวว่า ภาพที่ปรากฏดังกล่าวเป็นภาพที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ได้ตรวจพบรางรถไฟในเส้นทางดังกล่าวเกิดการคดงอ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ส่งผลกระทบให้หมอนคอนกรีต รองรางรถไฟ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่โล่งแจ้ง เกิดการขยายตัวและเกิดแรงเค้น(stress) ภายในรางสูงมากขึ้น เป็นเหตุให้แนวรางรถไฟมีลักษณะคดงอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธา การรถไฟฯ ร่วมกับมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ ได้นำน้ำและน้ำแข็ง มาฉีดบรรเทาความร้อน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง รางรถไฟจึงกลับคืนสภาพตามปกติ

ขณะเดียวกันได้ทำการตรวจสอบสภาพทางตลอดแนวเส้นทางรถไฟ และจะทำการเพิ่มหินโรยทางในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรักษาแนวรางรถไฟให้อยู่ในสภาพมั่งคงและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม จากสภาพอากาศที่ร้อนในปัจจุบัน ทำให้เหล็กรางรถไฟ เกิดการยืดตัวตามหลักวิศวกรรม ซึ่งสามารถแก้ไขได้ โดยการรถไฟฯ มีการตรวจสภาพทางโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายการช่างโยธาเป็นประจำทุกวัน

นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบนโยบายให้ ฝ่ายการช่างโยธา เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบสภาพทางรถไฟทั่วประเทศ ทั้งเรื่องของรางรถไฟที่เกิดจากความร้อน และอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่กลางแจ้งสองข้างทางรถไฟ รวมถึงให้นายสถานีทุกพื้นที่อำนวยความสะดวกและดูแลการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกสบาย พร้อมรับมือกับสภาวะอากาศร้อนที่เกิดขึ้น ตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาภายในช่วงนี้

ท้ายนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอให้ประชาชนมั่นใจถึงความปลอดภัยในการเดินขบวนรถ ซึ่งการรถไฟฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

https://www.facebook.com/pr.railway/posts/843830924441567

State Railway of Thailand Announcement: Train Track Distortion Incident

May 1, 2024

The State Railway of Thailand (SRT) would like to address images circulating on social media depicting distorted railway tracks between Ron Phibun Station and Khao Chum Thong Junction Station in the Ron Phibun District of Nakhon Si Thammarat Province.

Explanation

The incident occurred on April 30, 2024, at 2:20 PM. SRT officials discovered that unusually high temperatures had caused the railway tracks to bend. This heat-induced expansion primarily affected the concrete sleepers in exposed areas, leading to increased stress within the rails. SRT personnel, in collaboration with the Siam Ruamjai Pu In Foundation, immediately applied water and ice to cool the tracks, successfully restoring them to their normal shape within approximately one hour.

Safety Measures

The SRT has inspected the railway route and will reinforce the affected area with ballast to ensure track stability and safety. In response to the ongoing heatwave, SRT engineers will increase the frequency of inspections along all railway lines. This proactive approach aims to identify and address any potential heat-related track distortions and potential equipment failures. Station masters have also been instructed to facilitate comfortable travel and address passenger needs arising from the hot weather as per the Meteorological Department's forecasts.

Commitment to Passenger Safety

The State Railway of Thailand remains committed to ensuring the safety of train operations. We are dedicated to the continuous improvement of our services for the benefit of our passengers. For further information, please contact our Customer Relations Center at 1690 (available 24 hours a day) or visit the State Railway of Thailand PR Team Facebook page.

Mongwin · Posted: 02/05/2024 7:44 am Post subject:

"สุริยะ"เร่งงบ"คมนาคม"ปี67กว่า2.28แสนล. "ทล.-ทช."กุมงบ70%ลุยจัดซื้อจัดจ้าง5เดือน
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
Thursday, May 02, 2024 04:54

ผู้จัดการรายวัน360 - "สุริยะ" นั่ง หัวโต๊ะเร่งรัดเบิกจ่ายงบ "คมนาคม" ปี 67 วงเงินกว่า 2.28 แสนล้านบาท ผล เม.ย. 67 ทำได้ 26.42% ขณะที่เป้ารัฐบาลอยู่ที่ 44% สั่ง "ทล.-ทช." ที่มีงบรวมกันกว่า 70% ลุยจัดซื้อจัดจ้าง สปีดเบิกจ่ายช่วง พ.ค.-ก.ย.ให้ทันเป้า พร้อมสั่ง ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมชี้แจง งบประมาณปี 68

วันที่ 1 พ.ค. 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ของกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ภาพรวมการเบิกจ่ายเป็นไปตามแผน พร้อมกับเร่งทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมสำหรับการชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ต่อรัฐสภา โดยมี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม และผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุม

นายสุริยะ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2567 จำนวน 228,803.59 ล้านบาท โดยพบว่า กระทรวงคมนาคมมีผลการเบิกจ่ายงบประมาณฯ ภาพรวมสะสม ณ เดือน เม.ย. 2567 อยู่ที่ 60,451.18 ล้านบาท หรือ 26.42% จากแผนเบิกจ่ายจำนวน 62,980.19 ล้านบาท หรือ 27.53% ขณะที่เป้าหมายรัฐบาลอยู่ที่ 44%

ขณะที่ส่วนของงบลงทุน ที่ได้รับปี 2567 จำนวน 199,530.66 ล้านบาท ผลการเบิกจ่ายสะสม ณ วันที่ 26 เมษายน 2567 อยู่ที่ 45,920.82 ล้านบาทหรือ 23.01% จากแผนเบิกจ่าย จำนวน 48,342.41 ล้านบาท หรือ 24.23% สูงกว่าเป้าหมายรัฐบาลที่ 17%

โดยคาดการณ์ว่าในระยะเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่เหลือ 5 เดือน (พฤษภาคม กันยายน 2567) ทุกหน่วยงานจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณฯ ได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลและกระทรวงฯ ตั้งไว้

ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานวางแผนการดำเนินงาน เพื่อให้การ เบิกจ่ายงบประมาณฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ได้รับ งบประมาณมากกว่า 70% จาก งบประมาณทั้งหมด พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มรายละเอียดเรื่องความปลอดภัยลงไปในสัญญาจ้าง ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการก่อสร้าง และให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นสำคัญ

โดย ทล. มีผลการเบิกจ่ายสะสมมากกว่า 96% คิดเป็น 29,121.39 ล้านบาท จากแผน 30,245.37 ล้านบาท สำหรับ ทช. ได้ผู้รับจ้างดำเนินงานแล้ว 1,418 รายการ จากแผน 3,572 รายการ คิดเป็นวงเงิน 5,448.04 ล้านบาท จากแผน 34,381.99 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ผู้รับจ้างครบตามแผนภายในเดือนมิถุนายนนี้

นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นการจัดทำงบประมาณประจำปี 2568 ของหน่วยงาน ซึ่งคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรได้ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2567 จึงได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการชี้แจงต่อรัฐสภาด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า กระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2567 จำนวน 228,803.59 ล้านบาท โดยกรมทางหลวงได้รับมากสุด จำนวน 121,695.25 ล้านบาท รองลงมาคือ กรมทางหลวงชนบทได้รับ จำนวน 47.908.36 ล้านบาท การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 21,017.28 ล้านบาท การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำนวน 19,845.03 ล้านบาท กรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวน 4,623.18 ล้านบาท.

ที่มา: นสพ.ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 2 พ.ค. 2567

"Suriya" accelerated the transportation budget in 2024 by more than 228 billion baht. "Department of Highways and Department of Rural Roads" held 70% of the budget for procurement for 5 months.

Source: Daily Manager 360 Degrees, Thursday, May 02, 2024, 04:54.

In a meeting chaired by Mr. Suriya Jungrungruangkit, Deputy Prime Minister and Minister of Transport, held on May 1, 2024, the aim was to expedite the disbursement of the 2024 annual budget of the Ministry of Transport. The meeting focused on ensuring that the overall disbursement progressed according to plan, urging all agencies under its jurisdiction to prepare for presenting the fiscal year 2025 budget expenditures to Parliament. Mrs. Monporn Charoensri, Deputy Minister of Transport, along with senior executives of the Ministry of Transport and representatives from agencies under the Ministry of Transport, attended the meeting.

Mr. Suriya reported that the Ministry of Transport was allocated a budget of 228,803.59 million baht for the year 2024. As of April 2024, the cumulative overall budget disbursement reached 60,451.18 million baht, which is 26.42% of the planned disbursement. The government's target is 44%.

The investment budget received in 2024 amounted to 199,530.66 million baht. As of April 26, 2024, the cumulative disbursement reached 45,920.82 million baht, which is 23.01% of the planned disbursement. This exceeds the government target of 17%.

It is expected that in the remaining 5 months of budget disbursement for the year 2024 (May to September 2024), every agency will be able to achieve the goals set by the government and the ministry.

Emphasis has been placed on all departments planning their operations to ensure efficient budget disbursement, especially the Department of Highways and the Department of Rural Roads, which receive more than 70% of the total budget. Mr. Suriya also urged agencies with large investment projects to include safety details in employment contracts before, during, and after construction and to prioritize listening to public opinions.

Department of Highways has achieved a disbursement rate of more than 96%, accounting for 29,121.39 million baht out of a planned 30,245.37 million baht. As for Department of Rural Roads, it has contracted 1,418 items out of a planned 3,572 items, representing an amount of 5,448.04 million baht out of a planned 34,381.99 million baht. It is expected that all contractors will be engaged as planned by June.

Mr. Suriya mentioned that the Budget Office is currently gathering opinions on the agency's preparation of the fiscal year 2025 budget. The Cabinet will consider and approve the draft Budget Act for the fiscal year 2025 for presentation to the House of Representatives around mid-May 2024. Therefore, he emphasized that all agencies must prepare information for clarification to Parliament.

News reports stated that the Ministry of Transport has been allocated an annual budget of 228,803.59 million baht, with the Department of Highways receiving the most at 121,695.25 million baht, followed by the Department of Rural Roads with 47,908.36 million baht, the State Railway of Thailand (SRT) with 21,017.28 million baht, the Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA) with 19,845.03 million baht, and the Department of Airports (TAI) with 4,623.18 million baht.

Source: Daily Manager 360 Degree newspaper, issue dated May 2, 2024.

Mongwin · Posted: 02/05/2024 11:41 am Post subject:

LEO ไฟแรง! ลุยจับมือพันธมิตรตั้งบ.ย่อยใหม่ 2 แห่ง ต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร อัพรายได้มากกว่า 200 ลบ./ปี
2 พฤษภาคม 2024

‘ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ฯ ไฟแรง! ผนึกกำลังพันธมิตร “ศรีตรังโลจิสติกส์ – อภิศศิโฮลดิ้ง” เปิดบริษัทใหม่ ลุยให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั้งในและต่างประเทศแบบครบวงจร รวมถึงร่วมลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศด้วยระบบไปรษณีย์ (Global Mail Solutions) และการขนส่งสินค้าผ่านแดน (Cross Border Transport) คาดจะเพิ่มรายได้อย่างน้อย 200 ล้านบาทต่อปี ฟาก “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” มั่นใจสามารถต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์แบบครบวงจร และนำพาบริษัทให้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างแน่นอน

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะผู้บริหารบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟครอบคลุมภายในประเทศไทยและผ่านแดนไปยังประเทศมาเลเซีย มีประสบการณ์ในการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั่วประเทศมานานมากกว่า 7 ปี จัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ “บริษัท ศรีตรัง ลีโอ มัลติโมเดิล ลอจิสติกส์ จำกัด” มีทุนจดทะเบียน จำนวน 50,000,000 บาท โดยบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ลงทุน 25,000,000 บาท คิดเป็น 50% และบริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด (ไม่เข้าข่ายเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ) ลงทุน 25,000,000 บาท คิดเป็น 50% เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจในด้านการขนส่งสินค้าทางรถไฟทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการขึ้น-ลงสินค้าที่บริเวณสถานีรถไฟ การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ การดำเนินพิธีการกรมศุลกากร และธุรกิจเสริมอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง

พร้อมกันนี้ ได้อนุมัติให้บริษัทฯ ร่วมมือกับ บริษัท อภิศศิโฮลดิ้ง จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ “บริษัท ลีโอ โกลบอล เมล โซลูชันส์ จำกัด” มีทุนจดทะเบียนร่วมกัน 5,000,000 บาท สัดส่วนการลงทุน บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) 3,500,000 บาท คิดเป็น 70% และบริษัท อภิศศิโฮลดิ้ง จำกัด (ไม่เข้าข่ายเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทฯ) ลงทุน 1,500,000 บาท คิดเป็น 30% เพื่อให้บริการโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศด้วยระบบไปรษณีย์ (Global Mail Solutions) และการขนส่งสินค้าผ่านแดน (Cross Border Transport)

“LEO มองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอยู่เสมอ จึงมองหาพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาช่วยต่อยอดและขยายการให้บริการโลจิสติกส์ให้ครบวงจรในทุกๆ ส่วน สามารถขยายฐานลูกค้าและพื้นที่ในการให้บริการได้รวดเร็ว ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ในส่วนของ บริษัท ศรีตรัง ลีโอ มัลติโมเดิล ลอจิสติกส์ จำกัด คาดว่าจะมีรายได้ปีละประมาณ 200 ล้านบาท และในส่วนของ บริษัท ลีโอ โกลบอล เมล โซลูชันส์ จำกัด เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรอการลงทุนร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ เพื่อการขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าด้วยระบบไปรษณีย์เพื่อการขยายการให้บริการสำหรับกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ ทั้ง 2 บริษัท ที่ทาง LEO ได้เข้าร่วมลงทุนนี้ เป็นไปตามแผนขยายธุรกิจที่ทางคณะผู้บริหารได้วางแผนงานไว้ ประกอบกับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจของ LEO ที่มุ่งเน้นไปสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์แบบครงวงจร โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการให้บริการลูกค้า สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าและระบบโลจิสติกส์ของโลกในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถขยายธุรกิจของบริษัทฯ ร่วมกับพันธมิตรให้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แข็งแกร่งและยั่งยืน ส่งผลให้บริษัทฯ มีความสามารถในการสร้างยอดขายและกำไรให้เติบโต อีกทั้งยังสามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ต่อเนื่องและยั่งยืน” นายเกตติวิทย์ กล่าว

LEO จับมือพันธมิตรขยาย “โลจิสติกส์” ครบวงจร ปั้นรายได้ปีละ 200 ล้านบาท LEO จับมือพันธมิตรตั้ง “ศรีตรัง ลีโอ มัลติโมเดิล ลอจิสติกส์” รุกขยายธุรกิจโลจิส

https://www.kaohoon.com/news/670742
https://www.prachachat.net/public-relations/news-1554921

LEO Global Logistics Expands Integrated Services with New Partnerships

Bangkok, Thailand – May 2, 2024 – LEO Global Logistics Public Company Limited (LEO) announces two strategic partnerships to expand its logistics operations:

Sri Trang Leo Multi-Model Logistics: Established with Sri Trang Logistics Company Limited, this joint venture will focus on domestic and international rail freight transportation, including associated pickup, drop-off, customs, and multimodal services.

Leo Global Mail Solutions: Founded with Apisasi Holding Company Limited, this venture will provide domestic and international logistics using the postal system (Global Mail Solutions) and cross-border transportation services.
These partnerships target an annual revenue growth of at least 200 million baht for LEO.

"LEO is committed to developing our business through strategic partnerships that expand our integrated logistics capabilities,” said Mr. Kettiwit Sittisunthornwong, Chief Executive Officer of Leo Global Logistics Public Company Limited. “These investments demonstrate our focus on becoming a technology-driven leader in the logistics industry, enabling us to achieve rapid, sustainable growth and better serve our customers."

Mongwin · Posted: 02/05/2024 7:29 pm Post subject:

สคร.โชว์รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายคึก7.7หมื่นล. ฟุ้งเมกะโปรเจกต์คืบสุดฤทธิ์ เกาะติดใช้งบดันเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 15:38 น.

สคร. โชว์ผลงานรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายกระหึ่ม 7.72 หมื่นล้านบาท ชมเปาะ “รฟท.-รฟม.-ปตท.-กฟผ.” เบิกจ่ายคึก ฟุ้งเมกะโปรเจกต์คืบสุดฤทธิ์ พร้อมติดตามเร่งรัดเบิกจ่ายต่อเนื่องช่วยหนุนเศรษฐกิจขยายตัว

2 พ.ค. 2567 – นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่ารัฐวิสาหกิจที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงและมีการเบิกจ่ายงบลงทุนมีจำนวน 43 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) และรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน) โดยในปี 2567 รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบลงทุนจนถึงเดือน มี.ค. 2567 จำนวน 77,289 ล้านบาท หรือคิดเป็น 113% ของแผนการเบิกจ่าย ประกอบด้วยการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ต.ค.66 – มี.ค.67) 34 แห่ง จำนวน 52,794ล้านบาท หรือคิดเป็น 107% ของแผนการเบิกจ่าย และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (เดือน ม.ค.- มี.ค.67) 9 แห่ง จำนวน 24,495 ล้านบาท หรือคิดเป็น 131% ของแผนการเบิกจ่าย

ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่าย และมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เบิกจ่ายได้ 17,691 ล้านบาท หรือคิดเป็น 100% ของแผนการเบิกจ่าย, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เบิกจ่ายได้ 12,137 ล้านบาท หรือคิดเป็น 101% ของแผนการเบิกจ่าย และการประปานครหลวง (กปน.) เบิกจ่ายได้ 7,685 ล้านบาท คิดเป็น 211% ของแผนการเบิกจ่าย และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 95% ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

“การเบิกจ่ายงบลงทุนครึ่งปีงบประมาณ 2567 (ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2567) โดยเป็นผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 6 เดือน คิดเป็น 45% ของกรอบงบลงทุนทั้งปี และผลการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 3 เดือน คิดเป็น 20% ของกรอบงบลงทุนทั้งปี โดยรัฐวิสาหกิจได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ทำให้ในภาพรวมมีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนกว่า7 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 32% ของกรอบงบลงทุน” นายธิบดี กล่าว

ทั้งนี้ สคร. จะกำกับติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป

นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สคร. กล่าวว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน อาทิ
○ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะของ รฟม. เบิกจ่ายได้ 11,352 ล้านบาท คิดเป็น 101% ของแผนการเบิกจ่าย
○ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา) ของ รฟท. เบิกจ่ายได้ 6,125 ล้านบาท คิดเป็น 100% ของแผนการเบิกจ่าย,
○ โครงการก่อสร้างรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ของ รฟท. เบิกจ่ายได้ 4,103 ล้านบาท คิดเป็น 100% ของแผนการเบิกจ่าย,
○ โครงการก่อสร้างรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของ รฟท. เบิกจ่ายได้ 3,730 ล้านบาท คิดเป็น 100% ของแผนการเบิกจ่าย
○ โครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เบิกจ่ายได้ 3,342 ล้านบาท คิดเป็น 127% ของแผนการเบิกจ่าย

State Enterprises Disburse 77 Billion Baht, Mega Projects Advance

The State Enterprise Policy Committee Office (SEPO) reports impressive progress in state enterprise investment. Disbursements totaling 77.2 billion baht exceed targets, driven by strong performances from SRT, MRTA, PTT, and EGAT. SEPO pledges continued oversight to fuel economic expansion.

SEPO Director Thibodi Wattanakul reveals a total investment disbursement of 77,289 million baht by state enterprises through March 2024. This represents a 113% achievement against the disbursement plan.

State enterprises operating on a fiscal year basis disbursed 52,794 million baht (107% of the plan), while those on a calendar year basis disbursed 24,495 million baht (131% of the plan).

Top performers include the State Railway of Thailand (SRT), Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA), PTT Public Company Limited (PTT), and the Electricity Generating Authority of Thailand (EGAT).

"This accelerated disbursement underscores the significant progress of mega projects," notes Mr. Wattanakul. "SEPO will maintain close monitoring to ensure targets are met and to bolster national economic growth."

State enterprise development consultant Piyawan Lamkitcha highlights specific project successes, including the MRTA Purple Line, Thailand-China High-Speed Rail (Phase 1), and railway line expansions.

Ms. Piyawan Lamkijja, State Enterprise Development Advisor, SEPO, said that important large investment projects can disburse higher than planned, such as

Mongwin · Posted: 04/05/2024 3:39 pm Post subject:

การรถไฟปรับเปลี่ยนการเดินรถ ส่งผลกระทบกับการเดินทาง จะฟ้องร้องได้หรือไม่ ? : 4 พ.ค. 67
FM91 Trafficpro

https://www.youtube.com/watch?v=i_kQ25fGJbA

Railway changes in train operations affecting travel. Can I sue or not? (May 4, 2024)

Mongwin · Posted: 05/05/2024 6:52 am Post subject:

'นิรุฒ'โนคัมแบ๊กการรถไฟ
Source - เดลินิวส์
Sunday, May 05, 2024 06:41

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบทและกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการรฟท. ได้ลงนามประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. ถึงวันที่ 28 พ.ค.67 มีวาระตามสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 4 ปี และอยู่ในวาระได้ไม่เกินอายุ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน

สำหรับคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้สมัคร อาทิ มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันที่ยื่นใบสมัคร ไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตาม พ.ร.บ.การรถไฟฯ พ.ศ. 2494 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีคุณวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าจากสถานศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รับรอง มีความรู้และมีความจัดเจนเพียงพอเกี่ยวกับการรถไฟฯ การขนส่ง วิศวกรรม พาณิชยกรรม การเศรษฐกิจ หรือการเงิน มีแนวคิดเชิงกลยุทธ์ มีความรู้ความสามารถในด้านการจัดโครงสร้างองค์กรยุคใหม่ให้สามารถปฏิบัติงานตอบสนองนโยบายของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดประสิทธิผลมีคุณธรรม และจริยธรรมของนักบริหาร และมีประสบการณ์และแนวคิดในการบริหารบุคลากรในองค์กรขนาดใหญ่

มีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในด้านการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ ในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารของภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี ภาคราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองอธิบดี หรือตำแหน่งเทียบเท่ารัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี

มีวิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนากิจการรถไฟ และการบริหารสินทรัพย์ให้เจริญก้าวหน้า มีความทันสมัย สามารถตอบสนองความต้องการขนส่งระบบรางทั้งภายในและระหว่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก ตรงต่อเวลา และปลอดภัย รวมถึงมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการ และกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายนิรุฒ มณีพันธ์ อดีตผู้ว่าการ รฟท.มีแนวโน้มไม่สมัคร เนื่องจากไม่มีการต่อวาระให้ทำงานต่อเหมือนกรณีผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อย่างไรก็ตามยังมีเวลาตัดสินใจที่ชัดเจนและขึ้นอยู่กับผู้สนับสนุน.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 6 พ.ค. 2567 (กรอบบ่าย)

Nirut May Not Return as SRT Governor
Byline: Daily News Staff
Date: Sunday, May 5, 2024

State Railway of Thailand Opens Governor Position

The State Railway of Thailand (SRT) is seeking a new governor. Mr. Apirat Chaiwongnoi, Director-General of the Department of Rural Roads and SRT Board Member, heads the search committee. The announcement will remain open until May 28, 2024.

Qualifications

- Thai nationality.
- Under 58 years old on the application date.
- Bachelor's degree or equivalent from an institution certified by the Office of the Civil Service Commission (OCSC).
- Experience in railways, transportation, engineering, commerce, economics, or finance.
- Strategic mindset, knowledge of modern organizational structures, and strong ethics.
- Personnel management experience in large organizations.
- Demonstrated experience managing large organizations with at least 7,000 million baht annual income (private, government, or state enterprise sectors).
- Vision for railway development and asset management, including the delivery of convenient, punctual, safe, and modern rail services to the public.

Nirut Maneepan Unlikely to Apply

News reports indicate that former SRT governor Nirut Maneepan is unlikely to apply for the position. Unlike the case of the Governor of the Expressway Authority of Thailand (EXAT), no term extensions appear available. However, Mr. Maneepan may change his mind depending on potential sponsors.

Source: Daily News newspaper, issue dated May 6, 2024 (afternoon)