RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311328
ทั่วไป:13290320
ทั้งหมด:13601648
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 99, 100, 101 ... 476, 477, 478  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 31/07/2010 11:08 am    Post subject: Reply with quote

นครศรีฯซ้อมแผนวินาศกรรมขบวนรถไฟ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กรกฎาคม 2553 17:00 น.


วันนี้ (30 ก.ค.) ที่สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากการก่อวินาศกรรม ที่มีผลกระทบรุนแรงระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2553 ณ สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยมี นายปริญญา จาติเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และพัทลุง ให้การต้อนรับ

นายปริญญา จาติเสถียร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในบ้านเมือง ส่งผลให้ภัยจากการก่อวินาศกรรมมีแนวโน้มเกิดบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและรับมือภัยจากการก่อวินาศกรรม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยโดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสุราษฎร์ธานี ดำเนินการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากการก่อวินาศกรรมที่มีผลกระทบรุนแรง ระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี พ.ศ.2553

โดยแบ่งการฝึกซ้อมแผนเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ การฝึกซ้อมแผนรูปแบบในที่บังคับการ เพื่อประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติงานตามแผนป้องกันภัยจากการก่อวินาศกรรม และการฝึกซ้อมแผนรูปแบบปฏิบัติการจริง ณ สถานีรถไฟชุมทางเขาชุมทอง อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินจากการก่อวินาศกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในแผน ตั้งแต่การเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ การแจ้งเตือน การประสานการปฏิบัติ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ เพื่ออำนวยการและสั่งการ การเผชิญเหตุ การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ซึ่งการฝึกซ้อมแผนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระบบการป้องกันอันตรายจากการก่อวินาศกรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเผชิญเหตุภัยพิบัติและปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ภายหลังการฝึกซ้อมแผนจะมีการประเมินผล เพื่อตรวจสอบข้อบกพร่อง และนำไปแก้ไขปรับปรุงในการดำเนินงานป้องกันภัยจากการก่อวินาศกรรม ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระบบมาตรฐานความปลอดภัยของภาครัฐให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 25/06/2007
Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต

PostPosted: 31/07/2010 3:08 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. สุดอั้นขอปรับค่าโดยสารทุกชั้นเพิ่ม 10%

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=310&contentID=81977

เอื้อเฟื้อโดย นสพ.เดลินิวสฺ วันเสาร์ ที่ 31 กรกฎาคม 2553 เวลา 6:02 น

วันนี้ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงคมนาคม นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ว่า รฟท.ได้เสนอขออนุมัติปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสารรถไฟเพิ่มขึ้น 10% สำหรับรถไฟชั้น 1 ,2 ,3 แต่เพื่อไม่ให้กระทบต่อนโยบายการให้ความช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล และเพื่อไม่ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยต้องรับภาระเพิ่มขึ้น จึงมีมติให้รฟท.พิจารณาปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เท่านั้น โดยชะลอการปรับค่าโดยสารชั้น 3 ไว้ก่อน และให้รฟท.หารือกับกระทรวงการคลังว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ หากกระทรวงการคลังเห็นชอบ รฟท.จะเริ่มใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้

“ ตอนแรกรฟท.ได้เสนอขอปรับค่าโดยสารเฉพาะรถไฟชั้น 3 ซึ่งจะส่งผลให้รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ114 ล้านบาท และหากปรับราคาทุกชั้นจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 211 ล้านบาท สาเหตุที่ชะลอการปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เป็นเพราะอัตราค่าโดยสารในปัจจุบันค่อนข้างสูง หากปรับเพิ่มอาจส่งผลให้ผู้โดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 ลดลง เพราะประชาชนจะเลือกใช้บริการระบบขนส่งอื่นที่มีค่าโดยสารใกล้เคียงกันแทน โดยการปรับอัตราค่าโดยสารดังกล่าวจะส่งผลให้ค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ในระยะทาง100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.237 บาท จากเดิม 0.215 บาท แต่บอร์ดเห็นว่า หากขึ้นค่าโดยสารชั้น 3 จะกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย จึงให้ปรับราคาค่าโดยสารชั้น 1 และ 2 เท่านั้น ”

สำหรับการปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้ค่าโดยสารชั้น 1 ในระยะทาง 100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 1.025 บาท จากเดิมกม.ละ 0.932 บาท ส่วนระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. จะเพิ่มเป็นกม.ละ 0.938 บาท จากเดิม 0.853 บาท ระยะทางตั้งแต่201-300 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.864 บาท จากเดิม 0.785 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไป เพิ่มเป็นกม.ละ 0.813 บาท จากเดิมกม.ละ 0.739 บาท

ส่วนค่าโดยสารรถไฟชั้น 2 ในระยะทาง 100 กม.แรก จะเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.537 บาท จากปัจจุบันกม.ละ 0.488 บาท ระยะทางตั้งแต่101-200 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ0.462 บาท จากเดิมกม.ละ 0.420 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม.เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.413 บาท จากเดิมกม.ละ 0.375 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.370 บาท จากเดิมกม.ละ 0.336 บาท

"การเสนอขอปรับค่าโดยสารรถไฟครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2553 และข้อเสนอขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ระหว่างรฟท.และกระทรวงการคลัง ซึ่งการปรับโครงสร้างค่าโดยสารเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าว และคาดว่าการปรับค่าโดยสารดังกล่าวจะส่งผลให้ รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 97 ล้านบาท"นายยุทธนา กล่าว

อย่างไรก็ตาม อัตราค่าโดยสารรถไฟในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังคงเป็นโครงสร้างที่ใช้เมื่อปี 2528 และรฟท.ได้รับอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุดในปี 2539 โดยเป็นปรับเฉพาะค่าโดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2เท่านั้น ซึ่งในช่วงนั้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราคาลิตรละประมาณ 8 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาลิตรละ 28.79 บาท ส่งผลให้รฟท.มีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่การขนส่งทางถนนได้ปรับค่าโดยสารให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันอยู่ตลอด เวลา
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
Click on the image for full size
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
suraphat
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 12/02/2007
Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง

PostPosted: 31/07/2010 3:35 pm    Post subject: เสนอให้มีการขึ้นค่าโดยสาร Reply with quote

กระผมเห็นด้วยเลยนะครับ ที่จะให้มีการขึ้นค่าโดยสารชั้น 3 นะสิครับ โดยอยากจะให้มีการขึ้นเป็นขั้นต่ำ 5 บาทนะสิครับ(จากเดิมขั้นต่ำ2 บาท)
เช่นเมื่อมีการซื้อตั๋วโดยสารจาก กรุงเทพไปลงที่สามเสนหรือบางซื่อ ก็ให้เสียค่าโดยสาร 5 บาท(จากเดิมเสียแค่ 2 บาท)ดังนี้เป็นต้น

ซึ่งกระผมเห็นว่าควรที่จะเริ่มค่าโดยสารอัตราใหม่นี้ ภายหลังจากโครงการรถไฟฟรีนี้เสร็จสิ้นนะสิครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Kan
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/07/2010
Posts: 189
Location: กรุงเทพ - ชุมทางทุ่งสง

PostPosted: 31/07/2010 6:21 pm    Post subject: Reply with quote

อยากให้เพิ่มค่าโดยสารชั้น 3 มากกว่า และอยากให้มีการปรับโครงสร้างราคาค่าโดยสารด้วยถ้าเป็นไปได้ ส่วนจะขึ้นราคาในชั้น 1 และ 2 ไม่น่าจะดีเพราะลำพังราคาในปัจจุบันก็แทบจะแข่งขันกับบรรดารถทัวร์ยากอยู่แล้วน่ะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 31/07/2010 9:33 pm    Post subject: Reply with quote

ผมว่าไม่น่าจะเดือดร้อนเท่าไหร่นะครับ สำหรับผู้โดยสารชั้น 3

เพราะตอนนี้ก็เป็นรถไฟฟรีอยู่แล้วนี่นา Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 02/08/2010 10:00 am    Post subject: Reply with quote

แต่พอมาดูข่าวมติชน กลับบอกว่าขึ้นราคาเฉพาะ ชั้น 1- 2 - ชั้น 3 ยังตรึงไว้ - ฟังดูพิกลๆ อยู่ Rolling Eyes
//----------------------------------------------------------------------------------------------

รถไฟฯปรับค่าโดยสารชั้น1และ2 ขึ้น 10% มีผล1ต.ค.53 ส่วนชั้น3ยังไม่ขึ้น
มติชนออนไลน์ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16:06:14 น.


นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท.เมื่อวันที่30 ก.ค.มีมติให้ รฟท.ปรับขึ้นค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น10% มีผล 1ตุลาคม2553 อย่างไรก็ตามรฟท.ยังต้องมีการหารือกับกระทรวงการคลังว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ส่วนค่าโดยสารชั้น3ยังไม่มีการปรับขึ้น เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่า เพื่อไม่ให้กระทบต่อนโยบายการให้ความช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล และเพื่อไม่ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยต้องรับภาระเพิ่มขึ้น

นายยุทธนากล่าวว่า การเสนอขอปรับค่าโดยสารรถไฟครั้งนี้ เป็นไปตามข้อตกลงการให้บริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2553 และข้อเสนอขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2554 ระหว่าง รฟท. และกระทรวงการคลัง ซึ่งการปรับโครงสร้างค่าโดยสารเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าว และคาดว่าการปรับค่าโดยสารดังกล่าวจะส่งผลให้ รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ ประมาณ 97 ล้านบาท

ทั้งนี้ อัตราค่าโดยสารรถไฟในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังคงเป็นโครงสร้างที่ใช้เมื่อปี 2528 และ รฟท.ได้รับอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุดในปี 2539 โดยเป็นปรับเฉพาะค่าโดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 เท่านั้น ซึ่งในช่วงนั้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราคาลิตรละประมาณ 8 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาลิตรละ 28.79 บาท ส่งผลให้ รฟท.มีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่การขนส่งทางถนนได้ปรับค่าโดยสารให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันอยู่ตลอดเวลา

และหลังการ การปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้ค่าโดยสารชั้น 1 ในระยะทาง 100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 1.025 บาท จากเดิม กม.ละ 0.932 บาท ส่วนระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. จะเพิ่มเป็น กม.ละ 0.938 บาท จากเดิม 0.853 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.864 บาท จากเดิม 0.785 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไป เพิ่มเป็น กม.ละ 0.813 บาท จากเดิมกม.ละ 0.739 บาท

สำหรับค่าโดยสารรถไฟชั้น 2 ในระยะทาง 100 กม.แรก จะเพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.537 บาท จากปัจจุบัน กม.ละ 0.488 บาท ระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. เพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.462 บาท จากเดิม กม.ละ 0.420 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม.เพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.413 บาท จากเดิม กม.ละ 0.375 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็น กม.ละ 0.370 บาท จากเดิม กม.ละ 0.336 บาท
//---------------------------------------------------------------------------------
รฟท.ยันไม่ขึ้นค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 แน่นอน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2553 12:52 น.


นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ยืนยันว่า ยังไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารทั้งชั้น 1 2 และ 3 แต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวมาจากกรณีที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังเคยมีข้อตกลงการจัดหารายได้เพิ่ม ซึ่งรวมถึงการปรับค่าโดยสาร แต่นโยบายของรัฐบาลชัดเจนว่า จะดูแลผู้โดยสารที่รายได้น้อย ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่ปรับค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 อย่างแน่นอน
ขณะที่บอร์ดรถไฟ เห็นควรให้สอบถามไปยังกระทรวงการคลัง ว่ารถไฟชั้น 1 และ2 ควรปรับราคาหรือไม่ รวมทั้งอาจเพิ่มรายได้จากแหล่งอื่นแทน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 03/08/2010 6:46 pm    Post subject: Reply with quote

คค.ชง ครม.จัดตั้งโครงการพัฒนาศูนย์ขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 สิงหาคม 2553 12:21 น.

การประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (3 ส.ค.) มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม มีวาระที่น่าสนใจ ดังนี้ กระทรวงคมนาคม เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการดำเนินงานโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยขออนุมัติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการพัฒนาขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ใช้งบประมาณลงทุนวงเงิน 2,025 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และจัดหาเครื่องมือขนส่งหลักสำหรับใช้ในโครงการ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 03/08/2010 7:48 pm    Post subject: Reply with quote

ขาน 1 ต.ค. ดีเดย์โครงสร้างใหม่การรถไฟ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:39:35 น.

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่านับตั้งแต่ 1 ตุลาคมนี้ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยจะเข้าสู่ระบบการทำงาน ภายใต้โครงสร้างใหม่ ซึ่งจะแยกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ คือ

1.หน่วยธุรกิจด้านการเดินรถ
2.หน่วยธุรกิจซ่อมบำรุง
3.หน่วยธุกิจบริหารทรัพย์สิน และ
บริษัทลูก คือบริษัทเดินรถไฟฟ้า รฟท. จำกัด เพื่อทำหน้าที่เดินรถไฟแอร์พอร์ตลิ้งค์และรถไฟชานเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยยืนยันว่าโครงสร้างใหม่จะไม่กระทบกับพนักงานที่มีอยู่ เพราะใช้วิธีการโอนย้ายพนักงานทั้งหมดไปไว้ในกลุ่มธุรกิจต่างๆร่วมถึงไม่มีการปรับลดเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆด้วย

สำหรับเหตุผลในการปรับโครงสร้างครั้งนี้เพื่อให้การรถไฟมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นโดยเฉพาะหน่วยธุรกิจการเดินรถและบริหารทรัพย์สินที่มีโอกาสสร้างรายได้หลักเพิ่มขึ้นซึ่งมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและการนำที่ดินของการรถไฟมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มที่ ภายในเดือนสิงหาคม คณะกรรมการแต่งตั้ง ซีอีโอ ดำเนินการคัดสรรคนในการรถไฟที่มีความเหมาะสมจากการแสดงวิสัยทัศน์เพื่อทำหน้าที่ ซีอีโอ แต่ละหน่วยธุรกิจ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 04/08/2010 4:03 am    Post subject: Reply with quote

ตั๋วรถไฟชั้น1-2ขึ้น1ต.ค. สั่งเร่งทางคู่แหลมฉบัง
หน้า เศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 4 สิงหาคม 2553 - 00:00

ชาวบ้านเตรียมช้ำใจค่ารถไฟขึ้น 10%
วันอังคาร ที่ 03 สิงหาคม 2553 เวลา 20:00 น

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีนโยบายให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งศึกษาข้อมูลในการหารายได้เพิ่มเติม โดยการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะต้องใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ ซึ่งเพิ่มจากเดิม 10% หรือกิโลเมตรละ 4 สตางค์ ส่วนรถไฟชั้น 3 จะยังไม่ปรับขึ้น

วันนี้ (3ส.ค.) ที่กระทรวงคมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รมว. คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งศึกษาข้อมูลในการหารายได้เพิ่มเติม โดยการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารชั้น 1 และ ชั้น 2 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยคาดว่า ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ ซึ่งเพิ่มราคาจากเดิม 10 % หรือประมาณ กม.ละ 4 สตางค์ ส่วนค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังไม่ปรับราคา เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ต้องเดือดร้อน

สำหรับการปรับค่าโดยสารชั้น 1 และชั้น 2 เพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้
ค่าโดยสารชั้น 1 ในระยะทาง 100 กม.แรกเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 1.025 บาท จากเดิมกม.ละ 0.932 บาท ส่วนระยะทางตั้งแต่ 101-200 กม. จะเพิ่มเป็นกม.ละ 0.938 บาท จากเดิม 0.853 บาท ระยะทางตั้งแต่201-300 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.864 บาท จากเดิม 0.785 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไป เพิ่มเป็นกม.ละ 0.813 บาท จากเดิมกม.ละ 0.739 บาท

ส่วนค่าโดยสารรถไฟชั้น 2 ในระยะทาง 100 กม.แรก จะเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.537 บาท จากปัจจุบันกม.ละ 0.488 บาท ระยะทางตั้งแต่101-200 กม. เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ0.462 บาท จากเดิมกม.ละ 0.420 บาท ระยะทางตั้งแต่ 201-300 กม.เพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.413 บาท จากเดิมกม.ละ 0.375 บาท และระยะทางตั้งแต่ 301 กม.ขึ้นไปเพิ่มขึ้นเป็นกม.ละ 0.370 บาท จากเดิมกม.ละ 0.336 บาท

สำหรับอัตราค่าโดยสารรถไฟในปัจจุบันไม่สอดคล้องราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ยังคงเป็นโครงสร้างที่ใช้เมื่อปี 2528 และ รฟท.ได้รับอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารครั้งล่าสุดในปี 2539 โดยเป็นปรับเฉพาะค่าโดยสารรถไฟชั้น 1 และชั้น 2เท่านั้น ซึ่งในช่วงนั้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราคาลิตรละประมาณ 8 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาลิตรละ 28.79 บาท ส่งผลให้ รฟท.มีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นทุกปี.

นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-ศรีราชา-แหลมฉบัง ระยะทาง 78 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 5,850 ล้านบาท กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้า 69.7% ซึ่งล่าช้ากว่าแผนถึง 17%

เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้ได้ตามแผนในเดือน มี.ค.2554 จึงมอบหมายให้ รฟท.ไปเร่งรัดผู้รับเหมาในทุกส่วนเร่งมือในการก่อสร้างให้เสร็จตามแผน หากไม่สามารถดำเนินงานได้เสร็จตามกำหนด จะต้องถูกปรับวันละ 3.9 ล้านบาท


Last edited by Wisarut on 05/08/2010 12:57 am; edited 3 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42789
Location: NECTEC

PostPosted: 04/08/2010 4:20 am    Post subject: Reply with quote

ครม.สั่งศึกษาแผนลงทุนขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือ
โดยทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐออนไลน์ 3 สิงหาคม 2553, 21:00 น.
ด้านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ พัฒนาศูนย์ขนส่งตู้รถไฟประจำท่าเรือแหลมฉบังของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยใช้งบของ กทท.จำนวน 2,025 ล้านบาท โดย ครม.สั่งให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อกลั่นกรองรายละเอียดโครงการอีกครั้ง.

โดยแผนการลงทุน ทาง กทท. จะทำการก่อสร้างลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ ในพื้นที่โซน 4 อยู่ระหว่างท่าเทียบเรือชุด B และชุด C ของท่าเรือแหลมฉบังเนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ ซึ่งจะใช้ในครั้งนี้ประมาณ 370 ไร่ และสำรองไว้อีกประมาณ 230 ไร่ โดยลักษณะของลานขนถ่ายตู้สินค้าทางรถไฟ จะมีการติดตั้งรางรถไฟลักษณะเป็นพวงราง จำนวน 6 ราง โดยติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดเดินบนราง ที่สามารถทำงานคร่อมทางรถไฟได้ทั้ง 6 ราง ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะมีขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ถึง 2.0 ล้านทีอียู/ปี

ส่วนงบประมาณลงทุน แบ่งเป็น 2 ระยะ โดย

ระยะที่ 1 เป็นการพัฒนาเพื่อรองรับตู้สินค้าจนถึงระดับ 1.0 ล้านทีอียู/ปี
และพัฒนาเพิ่มเติมในระยะที่ 2 เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้ถึง 2.0 ล้านทีอียู/ปี ซึ่ง กทท.จะลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและจัดหาเฉพาะระบบเครื่องมือยกขนหลัก และเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมงานโดยเลือกจาก 2 ทางเลือก คือ

1. เอกชนจัดหาบุคลากรมาทำงานด้านการยกขนตู้สินค้า (Operation) ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องจัดหาเครื่องมือย่อยและระบบไอที สำหรับปฏิบัติการ โดย กทท. เป็นผู้จัดเก็บรายได้และควบคุมกำกับการดำเนินงานของเอกชนและควบคุมด้านการ เงิน

2. เอกชนเป็นผู้ลงทุนจัดหาเครื่องมือย่อยและระบบไอที สำหรับปฏิบัติการและดำเนินการด้านการบริหารประกอบการทั้งหมด ซึ่งการ ให้เอกชนเข้าร่วมงานจะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้ เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ซึ่ง กทท. จะเสนอครม.พิจารณาอนุมัติหลักการในภายหลังพร้อมกับการเสนอขอปรับปรุง โครงสร้างและอัตราค่าภาระขั้นต่ำ/สูงของการยกขนตู้สินค้าขึ้นลงรถไฟใหม่ให้ เหมาะสม โดยในชั้นนี้เป็นการขออนุมัติดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ จัดหาเครื่องมือยกขนหลักก่อน.


Last edited by Wisarut on 04/08/2010 9:16 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 99, 100, 101 ... 476, 477, 478  Next
Page 100 of 478

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©