RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:312366
ทั่วไป:14097650
ทั้งหมด:14410016
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 484, 485, 486 ... 497, 498, 499  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/09/2024 7:31 am    Post subject: Reply with quote

'สุรพงษ์' เล็งหารือ ก.คลัง ปรับโครงสร้างหนี้การรถไฟฯ หวังหลุดขาดทุนสะสม
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
Wednesday, September 11, 2024 06:29

“สุรพงษ์” ลุยปรับโครงสร้างหนี้การรถไฟฯ หวังดันองค์กรหลุดขาดทุนสะสม 2.3 แสนล้านบาท เล็งหารือกระทรวงการคลังปิดบันทึกหนี้เสียจากบริการรถไฟเชิงสังคม คาดได้ข้อสรุปในปี 2568 พร้อมบริหารจัดการที่นั่งโดยสารใหม่ ปรับเพิ่มสัดส่วนบริการเชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยระบุว่า ปัจจุบันพบว่า ร.ฟ.ท.มีหนี้สะสมสูงระดับ 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งสาเหตุบางส่วนมาจากการวิ่งให้บริการรถไฟเชิงสังคม และข้อเท็จจริงพบว่า ภาครัฐจ่ายเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ไม่ครบตามที่กำหนด

โดยจากการบันทึกทางบัญชีของ ร.ฟ.ท.มีการระบุขอเงินอุดหนุน PSO ปีละ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี แต่ได้รับงบประมาณอุดหนุนเพียงปีละ 1,000-1,500 ล้านบาท ส่วนต่างที่เหลือจึงถูกบรรจุเป็นหนี้สะสม ซึ่งขณะนี้กระทรวงฯ มีนโยบายในการเจรจาร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สะสมจากการจัดสรรเงินอุดหนุน PSO ไม่เพียงพอ

“ตอนนี้ส่วนตัวต้องการหารือแนวทางปรับรายละเอียดทางบัญชีของการรถไฟฯ เพื่อไม่นำเอาบริการรถไฟเชิงสังคม ไปบรรจุเป็นหนี้แต่ละปีของการรถไฟฯ เพราะเรื่องนี้การรถไฟฯ ให้บริการเพื่อสังคม ซึ่งเชื่อว่าแนวทางนี้จะสามารถเป็นไปได้ ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ หากมีการหารือแล้วเสร็จ เชื่อว่าจะช่วยปลดหนี้ให้การรถไฟเป็นอิสระ โดยที่ไม่กระทบต่อการใช้บริการของผู้โดยสาร”

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของ ร.ฟ.ท.จะต้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ เพราะหากไม่แก้ไขในเรื่องนี้จะทำให้ ร.ฟ.ท.กลายเป็นจำเลย ประเด็นการบริหารธุรกิจไม่ได้จนเกิดหนี้ ทั้งที่เป็นนโยบายเพื่อสังคม ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้นั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2568

ขณะที่แนวทางในการจัดตั้งกองทุนเพื่อซื้อหนี้ ร.ฟ.ท. รวมไปถึงการยกเลิกบริการรถไฟเชิงสังคม เพื่อยกเลิกการขอรับเงินอุดหนุน PSO จากภาครัฐ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นแนวคิดที่อยากดำเนินการ เพราะไม่ต้องการเห็น ร.ฟ.ท.อยู่ในสภาพองค์กรขาดทุนต่อไป แต่จะดำเนินการอย่างไรคงต้องหาแนวทางและจัดหาพันธมิตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริการรถไฟเชิงสังคม ได้กำหนดให้มีผู้โดยสารใช้บริการ 26 ล้านที่นั่งต่อปี แต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้โดยสารมาใช้บริการเพียง 18.7 ล้านที่นั่งต่อปี โดยขณะนี้ ร.ฟ.ท.มีแนวคิดทยอยปรับรูปแบบการให้บริการ โดยบริหารจัดการที่นั่งโดยสาร จัดสรรที่นั่งรองรับบริการเชิงสังคมให้สอดคล้องต่อความต้องการที่แท้จริง และปรับที่นั่งที่เหลือราว 7.3 ล้านที่นั่งต่อปี มารองรับความต้องการของบริการเชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้

นอกจากนี้ หากร่างพระราชบัญญัติกรมการขนส่งทางราง พ.ศ. …. มีผลบังคับใช้ รวมทั้งมีการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่และโครงการระบบรางอื่นๆ เพิ่มขึ้น จะสร้างโอกาสทางการหารายได้แก่ ร.ฟ.ท.จากการปลดล็อคกฎหมายให้เอกชนเข้ามาเดินรถด้านระบบขนส่งทางราง ส่งผลให้เกิดการใช้ประโยชน์จากระบบขนส่งทางรางเพิ่มขึ้น 75-80% จากปัจจุบันที่มีการใช้ประโยชน์อยู่กว่า 20% เป็นแนวทางสร้างรายได้ให้กับ ร.ฟ.ท.เพิ่มขึ้น


"Surapong" plans to discuss with the Ministry of Finance to restructure the State Railway of Thailand's debt in hopes of clearing its accumulated losses.

Surapong Piyachote, Deputy Minister of Transport, is pushing for a debt restructuring plan for the State Railway of Thailand (SRT), aiming to address the organization's accumulated debt of 230 billion baht. He noted that part of this debt arises from providing social rail services, with the government not fully covering the Public Service Obligation (PSO) subsidies.

According to SRT's financial records, they request PSO subsidies of 5-6 billion baht annually but only receive 1-1.5 billion baht. The shortfall is recorded as debt. The Ministry of Transport is negotiating with the Ministry of Finance, the Budget Bureau, and the National Economic and Social Development Council (NESDC) to address the PSO subsidy gap.

Surapong emphasized the need to separate social rail services from SRT's yearly debt, as the railway serves a social role. He believes this adjustment could help free SRT from debt without affecting passenger services. This restructuring will be proposed to the Cabinet and is expected to be finalized by 2025.

In addition, SRT is considering revising its seating arrangements, increasing the proportion of commercial services to boost revenue, and reducing reliance on social services. Currently, SRT provides 26 million social service seats per year but only fills 18.7 million. They plan to adjust these seats and allocate the remaining 7.3 million for commercial use.

If the Draft Rail Transport Act is enacted, along with the introduction of double-track and other rail projects, it could boost SRT's revenue by allowing private sector involvement in rail operations, increasing rail system utilization from 20% to 75-80%.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/09/2024 3:06 pm    Post subject: Reply with quote

'สุริยะ' เขย่างานในมือ รมช. ดึง 'การรถไฟ' คุมเอง หวังเคลื่อนนโยบายระบบราง
กรุงเทพธุรกิจ 16 ก.ย. 2024 เวลา 14:42 น.

“สุริยะ” เขย่างานในมือ รมช.คุมหน่วยคมนาคม ดึงการรถไฟฯ มาดูเอง หวังเร่งลงทุนระบบราง ไฮสปีดไทยจีน และรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ตามเป้าหมายรัฐบาล
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งรัฐมนตรี ตามประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2567 ไปแล้วนั้นเพื่อให้การบริหารราชการของกระทรวงคมนาคมเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและให้ได้ประโยชน์สูงสุด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534

โดยหน่วยงานที่จะดูภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จำนวน 9 หน่วยงาน ประกอบด้วย

1.กรมทางหลวง (ทล.)

2.กรมทางหลวงชนบท (ทช.)

3.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)

4.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.

5. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)

6. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)

7. สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม

8.สถาบันฝึกอบรมระบบราง

9.การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)

“การแบ่งงานครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะผมได้ดึงการรถไฟฯ มาดูแลเอง เนื่องจากรัฐบาลต้องการเร่งรัดโครงการระบบราง โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย จะต้องดำเนินการให้ได้ตามแผน รวมไปถึงโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 หลายเส้นทางที่ต้องผลักดันการลงทุน เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐาน และทุกบริการของระบบรางที่ต้องเร่งจัดหา อย่างขบวนรถใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล จึงต้องนำกลับมาดูเอง”

สำหรับที่แก้ไขเพิ่มเติม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจึงมอบอำนาจในการสั่งการอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือการดำเนินการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะพึงปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือมติของคณะรัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมปฏิบัติราชการแทน ดังนี้

1.ให้นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีอำนาจในการสั่งการอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สำหรับงานของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ดังนี้

กรมเจ้าท่า (จท.)
กรมท่าอากาศยาน (ทย.)
การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)
สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.)
บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)
บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด

2.ให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีอำนาจในการสั่งการอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สำหรับงานของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ดังนี้

กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)
กรมการขนส่งทางราง (ขร.)
บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.)
บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA)
ทั้งนี้ การปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตามที่ได้รับมอบหมายในกรณีต่อไปนี้ ให้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาวินิจฉัย สั่งการ เรื่องที่มีลักษณะเป็นงานนโยบายและการบริหารงานบุคคล, เรื่องที่ต้องเสนอนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี, เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือกรรมการของรัฐวิสาหกิจ และบริษัทในสังกัดกระทรวงคมนาคมในกรณี ดังต่อไปนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือหน่วยงานเจ้าของเรื่อง แล้วแต่กรณีเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาวินิจฉัยสั่งการโดยตรง

1. การให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม

2. การดำเนินโครงการที่มีมูลค่าของโครงการเกินกว่า 3,000 ล้านบาท

3. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม

4.การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมในเขตกรุงเทพมหานครเพื่อรองรับนโยบาย “ค่าโดยสารราคาเดียว” ตลอดสาย

5. ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นว่า เรื่องใดเป็นเรื่องนโยบายที่มีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาล หรือผลประโยชน์ของประเทศชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอาจสั่งการในเรื่องนั้นได้ตามความเหมาะสม โดยจะแจ้งให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคนาคมที่รับผิดชอบดำเนินการ หรือรับทราบการดำเนินการนั้นๆ

6. ในกรณีที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมผู้ใดไม่อาจปฏิบัติราชการได้ อำนาจในการกำกับดูแล และสั่งการให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

7. บรรดาคำสั่ง ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมสั่ง หรือลงนามในฐานะผู้ปฏิบัติราชการแทน หรือผู้รักษาราชการแทน ให้นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อทราบในโอกาสแรก ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปสั่ง ณ วันที่ 16 ก.ย.2567


"Suriya" Takes Over Railway Administration Aims to Accelerate Rail System Policies

Bangkok Business, September 16, 2024, 2:42 PM

Suriya Juangroongruangkit, Deputy Prime Minister and Minister of Transport, has decided to take control of the State Railway of Thailand (SRT) himself in order to expedite investment in the rail system, including the Thai-Chinese high-speed rail project and the second phase of dual-track railways in line with the government's goals.

Suriya explained that following the royal command appointing ministers on September 3, 2024, he aims to ensure swift, efficient administration of the Ministry of Transport. Using his authority under Sections 20 and 38 of the State Administration Act of 1991, he restructured the responsibilities within the ministry.

Nine departments will now fall under his direct oversight, including:

1. Department of Highways
2. Department of Rural Roads
3. Expressway Authority of Thailand
4. Airports of Thailand PLC
5. Office of Transport and Traffic Policy and Planning
6. Civil Aviation Authority of Thailand
7. Ministry of Transport's Permanent Secretary Office
8. Rail System Training Institute
9. State Railway of Thailand (SRT)

Suriya highlighted that this reorganization is a minor adjustment, with him taking control of the SRT to push forward key rail projects, such as the second phase of the high-speed rail from Nakhon Ratchasima to Nong Khai, and multiple second-phase dual-track railway routes. These investments are crucial to enhancing infrastructure, securing new train services, and achieving the government’s strategic rail system goals.

Moreover, he delegated specific responsibilities to Deputy Ministers of Transport:

1. Ms. Manaporn Charoensri, Deputy Minister of Transport, will oversee:
- Marine Department
- Department of Airports
- Port Authority of Thailand
- Civil Aviation Training Center
- Aeronautical Radio of Thailand Co., Ltd.
- Suvarnabhumi Airport Hotel Co., Ltd.

2. Mr. Surapong Piyachote, Deputy Minister of Transport, will oversee:
- Department of Land Transport
- Department of Rail Transport
- Transport Co., Ltd.
- Bangkok Mass Transit Authority (BMTA)
- Mass Rapid Transit Authority of Thailand (MRTA)
- SRT Electric Train Co., Ltd.
- SRT Asset Co., Ltd.

In cases where policy or personnel issues arise, or projects exceeding 3 billion baht, Suriya will handle them directly. This includes matters like private sector investment in ministry projects, joint ticketing systems, and unified fare structures across Bangkok’s public transportation network, aligning with the “single fare” policy.

This new structure takes effect immediately as of September 16, 2024.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 17/09/2024 9:18 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'สุริยะ' เขย่างานในมือ รมช. ดึง 'การรถไฟ' คุมเอง หวังเคลื่อนนโยบายระบบราง
กรุงเทพธุรกิจ
วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 14:42 น.


“สุริยะ” แบ่งงานใหม่ ดึง "รฟท." จาก "สุรพงษ์" มาคุมเอง ชี้มีลงทุน "ทางคู่-ไฮสปีด" ต้องเร่งรัด จับตา ครม.พรุ่งนี้ ชงตั้ง "วีริศ" ผู้ว่าฯ คนใหม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:05 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:34 น.


“สุริยะ” แบ่งงานใหม่ “2 รมช.คมนาคม” ดึง “รฟท.” กลับมาดูเอง รัฐบาลเน้นราง-เร่งรถไฟไฮสปีด
ข่าวนวัตกรรมขนส่ง
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 14:28 น.

“สุริยะ” ลงนามคำสั่งเปลี่ยนแปลงแบ่งงาน 2 รมช.คมนาคม ดึง “รฟท.” กลับมาดูแลเอง รัฐบาลเน้นขนส่งทางราง-รถไฟไฮสปีด-เดินรถ จึงต้องเร่งติดตามใกล้ชิด พร้อมให้ “มนพร” ดูแล “ทย.-บวท.” เพิ่ม พร้อมโยก “ขสมก.” ให้ “สุรพงษ์” ดูแทน.

“สุริยะ” เซ็นแบ่งงานใหม่ ดึง "รฟท." คุมเอง ชี้มีลงทุน "ทางคู่-ไฮสปีด" ต้องเร่งรัด “สุรพงษ์” คุม 7 หน่วย "ขนส่งทางราง และทางบก ส่วน ”มนพร” ดูแลทางน้ำ และทางอากาศ โดยสลับงานเดิม ขสมก.ให้ "สุรพงษ์" จับตาชง ครม.แต่งตั้งผู้ว่าฯ รฟท.คนใหม่เพื่อเดินหน้าประมูลเมกะโปรเจกต์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2567 ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงคมนาคมที่ 1047/2567 เรื่องมอบอำนาจให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยให้นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีอำนาจในการสั่งการอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สำหรับงานของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 6 หน่วยงาน ดังนี้
1. กรมเจ้าท่า (จท.)
2. กรมท่าอากาศยาน (ทย.)
3. การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)
4. สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.)
5. บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) และ
6. บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (รทส.)

ให้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีอำนาจในการสั่งการอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สำหรับงานของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 7 หน่วยงาน ดังนี้
1. กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)
2. กรมการขนส่งทางราง (ขร.)
3. บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
4. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
5. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
6. บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. (รฟฟท.)
7. บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA)

สำหรับหน่วยงานที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ดูแลโดยตรง มีจำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย
1. สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
2. กรมทางหลวง (ทล.)
3. กรมทางหลวงชนบท (ทช.)
4. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
5. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
6. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท.
7. บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.)
8. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ
9. บจ.ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์ เอเชีย


นายสุริยะกล่าวว่า การแบ่งงานให้รัฐมนตรีช่วยฯ 2 คนใหม่เพื่อให้กำกับดูแลหน่วยงานที่เชื่อมโยงกัน เช่น รมช.มนพร ให้ดูแล หน่วยงานทางน้ำ คือ กรมเจ้าท่า การท่าเรือฯ และทางอากาศ มีกรมท่าอากาศยานและวิทยุการบินฯ เพื่อให้เชื่อมโยงทางน้ำ และทางอากาศ ส่วน รมช.สุรพงษ์ ก็ให้ดูแลงานทางบก ทั้งกรมการขนส่งฯ บขส.และ ขสมก.ในกลุ่มเดียวกัน

นายสุริยะกล่าวว่า ส่วนการรถไฟฯ ที่เดิมมอบหมายให้นายสุรพงษ์กำกับดูแล แต่ที่ตนได้ขอนำกลับมากำกับดูแลเองเพราะขณะนี้ประเทศไทยเน้นระบบรางและการรถไฟฯ มีแผนการลงทุนจำนวนมาก ซึ่งมีเรื่องเร่งด่วนคือ ต้องเร่งรัดติดตามงานก่อสร้างให้เป็นไปตามกำหนดเวลา อีกทั้ง จะมีโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 เส้นทางนครราชสีมา-หนองคาย ที่จะมีการผลักดันเร่งรัดเสนอคณะรัฐนตรี โดยรัฐบาลจะเร่งลงทุนงานโยธา ส่วนระบบและตัวรถจะใช้รูปแบบร่วมลงทุนเอกชน (PPP) ให้เอกชนเข้ามาดำเนินการจัดซื้อและให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง

อีกทั้งในปี 2568 จะครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย ซึ่งทางจีนให้ความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ เส้นทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย ดังนั้นก็ต้องมีความมั่นใจในการขับเคลื่อนโครงการให้เดินหน้าไปตามนโยบาย

@จับตา ครม.พรุ่งนี้ (17 ก.ย. 67) ชง ครม.แต่งตั้งผู้ว่าฯ รฟท.คนใหม่เพื่อเดินหน้าประมูลเมกะโปรเจกต์

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ก.ย. 67 คาดว่าอาจจะมีการเสนอผลการสรรหาผู้ว่าการรฟท.คนใหม่เข้าสู่ที่ประชุม ครม. มีนายวีริศ อัมระปาล เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯ รฟท.คนใหม่ ซึ่งนายวีริศเป็นอดีตผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในสมัยที่นายสุริยะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงถือเป็นคนคุ้นเคยที่คาดว่าเมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าฯ รฟท.คนใหม่จะรับนโยบายในการขับเคลื่อนโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ดังกล่าวให้เดินหน้าโดยเร็ว


ทั้งนี้ ในคำสั่งดังกล่าว ระบุกรณีการปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตามที่ได้รับมอบหมายในกรณีต่อไปนี้ให้เสนอรัฐมนตรีว่าการคมนาคม วินิจฉัยสั่งการ คือ เรื่องที่มีลักษณะเป็นงานนโยบาย และการบริหารงานบุคคล, เรื่องที่ต้องเสนอนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี, เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือกรรมการของรัฐวิสาหกิจ

กรณีให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือหน่วยงานเจ้าของเรื่องเสนอรัฐมนตรีว่าการฯ วินิจฉัยโดยตรง คือการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของหน่วยงาน, การดำเนินโครงการที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 ล้านบาท, การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม, การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดโครงสร้างค่าโดยสารร่วมในเขต กทม.เพื่อรองรับนโยบาย, ค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย
https://mgronline.com/business/detail/9670000086564


Last edited by Wisarut on 17/09/2024 3:44 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 17/09/2024 9:34 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'สุรพงษ์' เล็งหารือ ก.คลัง ปรับโครงสร้างหนี้การรถไฟฯ หวังหลุดขาดทุนสะสม
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันพุธ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 06:29 น.


'สุรพงษ์' เล็งมอบการบ้านผู้ว่ารฟท.คนใหม่ สางหนี้2.3แสนล้าน
วันพุธ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:49 น.

“สุรพงษ์” ปัดฝุ่นแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท. หลังหนี้ท่วม 2.3 แสนล้านบาท วางนโยบายมอบผู้ว่าฯ คนใหม่เร่งดำเนินการ พร้อมผุดแนวคิดปิดบันทึกหนี้เสีย-ตั้งกองทุนใหม่-เบรกขอเงินอุดหนุน PSO 1.5 พันล้านบาท คาดได้ข้อสรุปแก้หนี้ภายในปี 68

11 ก.ย. 2567 -นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) ว่า ตามที่นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นผู้มีคะแนนคัดเลือกสูงสุดนั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการ และคาดว่า จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ พิจารณาเห็นชอบแต่งตั้งในเร็วๆ นี้ ส่วนนโยบายที่จะมอบให้ผู้ว่าการรถไฟฯ คนใหม่เร่งดำเนินการ คือ การเดินหน้าฟื้นฟูกิจการของการรถไฟฯ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนี้สะสม ที่ในปัจจุบันมีจำนวนกว่า 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงสาเหตุส่วนใหญ่ พบว่า หนี้สะสมดังกล่าว มาจากการวิ่งให้บริการรถไฟเชิงสังคม (PSO) และไม่เคยมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร 34 ปี รฟท.เป็นองค์กรใหญ่ ซึ่งในอนาคตจะมีการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่และโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) ทำให้มีเม็ดเงินมหาศาล แต่ปัจจุบันพบว่ารฟท.กลายเป็นองค์กรที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.การรถไฟฯ ระบุว่า หากมีการขาดทุนภาครัฐต้องจ่ายเงินอุดหนุน PSO ให้แก่ รฟท. แต่ตามข้อเท็จจริงพบว่า ภาครัฐจ่ายเงินอุดหนุน PSO ไม่ครบตามที่กำหนด จากการบันทึกบัญชีของรฟท.มีการระบุในการขอเงินอุดหนุนเชิงสังคมจากภาครัฐ (PSO) จำนวน 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี แต่ได้รับงบประมาณอุดหนุนเพียง 1,000-1,500 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้รฟท.มีหนี้สะสมต่อเนื่อง โดยกระทรวงฯ ต้องการเร่งแก้ปัญหาโดยเฉพาะหนี้สะสมของรฟท.ที่มีจำนวนมากและมีหนี้เพิ่มขึ้นทุกๆปี เบื้องต้นกระทรวงจะหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง,สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาในกรณีที่แต่ละปีรฟท.ได้รับจัดสรรเงินอุดหนุน PSO ไม่เพียงพอ ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยปลดหนี้ให้รฟท.เป็นอิสระโดยที่ไม่กระทบต่อการใช้บริการของผู้โดยสารที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันงบอุดหนุน PSO บางส่วนที่รฟท.ไม่ได้ในแต่ละปีนั้น มองว่าเราไม่อยากขอเงินในส่วนนี้เพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงมีแนวคิดการบันทึกไม่เป็นหนี้ของรฟท. เชื่อว่าจะสามารถเป็นไปได้ ทั้งนี้ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ หากมีการหารือแล้วเสร็จ หลังจากนั้นจะได้แนวทางเพื่อดำเนินการ ซึ่งจะต้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป เพราะหากไม่แก้ไขในเรื่องนี้จะทำให้รฟท.กลายเป็นจำเลยเพียงเพราะบริหารไม่ได้จนเกิดหนี้ ทั้งที่เป็นนโยบายเพื่อสังคม คาดว่าจะได้ข้อสรุปการแก้หนี้รฟท.ภายในปี 2568


“ส่วนแนวทางการตั้งกองทุนเพื่อซื้อหนี้รฟท. รวมถึงแนวทางยกเลิกการขอรับเงินอุดหนุน PSO จากภาครัฐนั้น มองว่าเรื่องนี้เป็นแนวคิดที่อยากดำเนินการเช่นกัน เพราะเราคงให้รฟท.อยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรคงต้องหาพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วย” นายสุรพงษ์ กล่าว

ขณะเดียวกันการรับจัดสรรงบประมาณอุดหนุนจากภาครัฐ (PSO) ได้กำหนดให้มีผู้โดยสารใช้บริการอยู่ที่ 26 ล้านที่นั่งต่อปี แต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้โดยสารมาใช้บริการเพียง 18.7 ล้านที่นั่งต่อปี ขณะนี้รฟท.ได้ปรับรูปแบบการใช้บริการของผู้โดยสารตามจริงเพื่อให้สอดรับกับงบที่ได้รับ ส่วนการใช้บริการของผู้โดยสารที่เหลืออีก 7.3 ล้านที่นั่งต่อปี จะปรับเป็นการให้บริการเชิงพาณิชย์แทน นอกจากนี้ หากร่างพระราชบัญญัติกรมการขนส่งทางราง พ.ศ. …. มีผลบังคับใช้ รวมทั้งมีการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่และโครงการระบบรางอื่นๆ เพิ่มขึ้น จะช่วยปลดล็อคกฎหมายให้เอกชนเข้ามาเดินรถด้านระบบขนส่งทางรางได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้การใช้ประโยชน์จากระบบขนส่งทางรางเพิ่มขึ้น 75-80% จากปัจจุบันที่มีการใช้ประโยชน์จากระบบรางกว่า 20% ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า ปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติกรมการขนส่งทางราง พ.ศ. …. ถูกตีกลับมาที่กระทรวงคมนาคม เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านครม. ทำให้ต้องเสนอกลับเข้าครม.ชุดใหม่อีกครั้ง ซึ่งพ.ร.บ.ฉบับนี้จะทำให้เอกชนสามารถเข้ามาเช่าระบบรางในการเดินรถโดยสารแก่ประชาชนได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อป้องกันในกรณีที่เอกชนนำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปปรับขึ้นค่าโดยสาร ถือเป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชนที่ใช้บริการ แต่เอกชนจะถูกเรียกเก็บค่าบริการ 20 บาทต่อคันต่อกิโลเมตร (กม.) ต่อเมื่อการเช่ารถโดยสารเพื่อขนส่งสินค้า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 17/09/2024 1:55 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
'สุริยะ' เขย่างานในมือ รมช. ดึง 'การรถไฟ' คุมเอง หวังเคลื่อนนโยบายระบบราง
กรุงเทพธุรกิจ
วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 14:42 น.


“สุริยะ” แบ่งงานใหม่ ดึง "รฟท." จาก "สุรพงษ์" มาคุมเอง ชี้มีลงทุน "ทางคู่-ไฮสปีด" ต้องเร่งรัด จับตา ครม.พรุ่งนี้ ชงตั้ง "วีริศ" ผู้ว่าฯ คนใหม่
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:05 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 21:34 น.


https://mgronline.com/business/detail/9670000086564


รื้อ 4 หน่วยงาน โยน 2 รมช.คมนาคม แบ่งงานคุมอากาศ-ถนน
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:27 น.
อัพเดตล่าสุด : วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:30 น.

เปิดสาเหตุ “สุริยะ” แบ่งงานใหม่ 2 รมช.คมนาคม “มนพร” ถูกโยกคุม 2 หน่วยงานสายอากาศ ฟาก “สุรพงษ์” รับศึกหนัก ดูขสมก.-SRTA เร่งสางหนี้แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2567 หลังจากกระทรวงคมนาคมภายใต้นาย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามแบ่งงานใหม่ภายใต้รัฐบาลแพทองาร ชินวัตร นั้น พบว่า การแบ่งงานในครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนและโยกย้ายหน่วยงานที่ดูแลของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 2 คน

จากเดิมที่นางมนพร เจริญศรี ดูแลหน่วยงานทั้งหมด 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า (จท.),การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ,องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ,สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) และบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด

โดยปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจากนาย “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” มอบหมายให้นาง “มนพร เจริญศรี” เข้ามาดูแลสายอากาศเพิ่มเติมอีก 2 หน่วยงาน คือ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) โดยการมอบหมายงานในครั้งนี้ เพื่อให้การบริหารหน่วยงานต่างๆเป็นไปในทิศทางเดียวกัน



ส่วนนาย “สุรพงษ์ ปิยะโชติ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากเดิมที่ดูแล 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก (ขบ.),กรมการขนส่งทางราง (ขร.),บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ,การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.),บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.),การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ,บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)โดยปัจจุบันได้รับมอบหมายดูแลเพิ่มเติม 2 หน่วยงาน คือ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA)

ถือเป็นศึกหนักของนาย “สุรพงษ์ ปิยะโชติ” ที่การแบ่งงานใหม่ในครั้งนี้กลับถูกถอดจากการดูแล “การรถไฟแห่งประเทศไทย” หรือ รฟท. ถึงแม้เป็นหน่วยงานที่หนี้สินแสนล้านบาท แต่ยังเป็นหน่วยงานที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มูลค่าหลายแสนล้านบาทเช่นกัน อาทิ โครงการรถไฟส่วนต่อขยายสายสีแดง,โครงการรถไฟทางคู ระยะที่ 2 ,โครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่กำลังจะเข้าสู่ครม.พิจารณาและเปิดประมูลได้เร็วๆนี้



ปัจจุบัน รฟท.ถูกโยกไปอยู่ในความดูแลของนาย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ผลักดัน “ขสมก.” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหนี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งการปฏิรูปรถเมล์ที่กลายเป็นปัญหาใหญ่กระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการที่รอคอยรถโดยสารเป็นเวลานาน ถือเป็นโจทย์หินที่นาย “สุรพงษ์ ปิยะโชติ” ต้องเร่งแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้

นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) 1 ในหน่วยงานที่นาย “สุรพงษ์ ปิยะโชติ” ที่เคยดูแลกลับถูกโยกไปให้นาง “มนพร เจริญศรี” ดูแลแทน ซึ่งเป็นหน่วยงานสายอากาศเดียวที่ควบคุมจราจรทางอากาศในอาณาเขตประเทศไทยกลับถูกชวดไปเช่นกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/09/2024 8:38 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง‘วีริศ อัมระปาล’ นั่งผู้ว่ารฟท.คนใหม่ | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Tuesday, September 17, 2024 18:11

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง‘วีริศ อัมระปาล’นั่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยคนใหม่

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (17 ก.ย.) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป


Cabinet approves appointment of 'Veeris Ammarapala' as new Governor of State Railway of Thailand | Daily News
Source - Daily News website
Tuesday, September 17, 2024 18:11

The Cabinet has approved the appointment of 'Veeris Ammarapala' as the new Governor of the State Railway of Thailand.

On September 17, reporters at the Government House reported that today's Cabinet meeting (Sep 17), chaired by Prime Minister Paetongtarn Shinawatra, approved the appointment of Mr. Veeris Ammarapala to the position of Governor of the State Railway of Thailand (SRT), as proposed by the Ministry of Transport. The appointment is effective from September 17, 2024 onwards.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 18/09/2024 9:22 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง‘วีริศ อัมระปาล’ นั่งผู้ว่ารฟท.คนใหม่ | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:11 น.

ครม.ไฟเขียว”วีริศ อัมระปาล”ผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ คาดเซ็นสัญญาจ้าง 19 ก.ย.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 16:28 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 17:07 น.



“สุริยะ”เผย ครม.ไฟเขียว ตั้ง”วีริศ อัมระปาล” เป็นผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ หลังกก.สรรหาเสนอผลคัดเลือกฯ คาดเร่งเซ็นสัญญา 19 ก.ย.67 นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วันนี้ (17 ก.ย.) มีมติแต่งตั้งนายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่ ตามผลการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหา ที่มีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในฐานะกรรมการบอร์ดรฟท. เป็นประธาน เสนอ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายวีริศ อัมระปาล เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการ กนอ. เมื่อปี 2564 สมัยที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และมีชื่อว่าจะมาเป็นผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ จนกระทั่งมีการเปิดสรรหาฯ และผ่านการพิจารณาคัดเลือก ท่ามกลางกระแสข่าวว่ามีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้น จะมีการลงนามสัญญาจ้างนายวีริศ อัมระปาล เป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คนใหม่ (คนที่ 20 )​ในวันที่ 19 ก.ย. 2567 โดยมีวาระงาน 4 ปี

ครม.ไฟเขียว “วีริศ อัมระปาล” นั่งแท่นผู้ว่ารถไฟ คนใหม่
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:03 น.
อัพเดตล่าสุด : วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:08 น.

“สุริยะ” เผย “ครม.” เคาะแต่งตั้งนายวีริศ อัมระปาล นั่งผู้ว่ารถไฟ คนใหม่ หลังรฟท.เปิดสรรหาชิงตำแหน่งผู้ว่ารฟท. พร้อมเปิดประวัติการศึกษา-การทำงาน ลุยงานสายระบบรางเต็มตัว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ มีมติแต่งตั้งให้นายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่ หลังจากคณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาคัดเลือกให้นายวีริศ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ คนใหม่

สำหรับประวัตินาย “วีริศ อัมระปาล”

วันเกิด : 9 ม.ค. 2518 (อายุ 49 ปี)
การศึกษา
ปริญญาตรี

วิศวกรรมอุตสาหการ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มธ.
ปริญญาโท

Operations Research มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา
ปริญญาเอก



Industrial and Systems Engineering มหาวิทยาลัยรัทเกอร์ส สหรัฐอเมริกา
สาขาความเชี่ยวชาญ

ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support Systems)
การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
ระบบการจัดการภาคการผลิตและการขนส่ง (Production and Logistics Management)
การบริหารระบบซ่อมบำรุง (Maintenance Management)
ประวัติการทำงาน
ปี 2546

เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง สํานักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
ผู้ช่วยที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (ศ.ดร.กระแส ชนะวงศ์)
ปี 2548

อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ปี 2552

คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์
ปี 2554

ผู้ช่วยผู้อํานวยการฝ่ายกิจการนักศึกษา สธ.มธ.
ปี 2555

ที่ปรึกษากรรมาธิการการพาณิชย์ฯ รัฐสภา
ปี 2562

ที่ปรึกษานายสมศักดิ์ เทพสุทิน
ปี 2564

ผู้ว่าฯการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) คนที่ 12

ส่องประวัติ “วีริศ” อัมระปาล ข้ามห้วยนั่งผู้ว่ารฟท.คนที่ 30
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 05:00 น.

เปิดประวัติ “วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่ารฟท.คนนอก คนที่ 30 หลังข้ามห้วยผู้ว่ากนอ. เตรียมสานต่อภารกิจระบบราง-เร่งแก้หนี้รถไฟ 2.3 แสนล้านบาท
ที่ผ่านมา “การรถไฟแห่งประเทศไทย” หรือ รฟท.ได้มีการเปิดสรรหาผู้ว่รฟท.คนใหม่ แทนนายนิรุฒ มณีพันธ์ อดีตผู้ว่ารฟท.ที่ครบวาระเป็นผู้ว่ารฟท.คนนอกจนครบ 4 ปี โดย 1 ในแคนดิเดตมาแรงคงหนีไม่พ้นนาย “วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่ากนอ. หนุ่มไฟแรงที่ข้ามห้วยพร้อมเข้าชิงตำแหน่งผู้ว่ารฟท. อีกทั้งยังเป็นลูกหม้อของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่ากากระทรวงอุตสาหกรรมในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใต้รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ มีมติแต่งตั้งให้นายวีริศ อัมระปาล ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คนใหม่ หลังจากคณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาคัดเลือกให้นายวีริศ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ คนใหม่

ทั้งนี้การเข้ามารับตำแหน่งของนาย “วีริศ อัมระปาล” ถือว่าเป็นผู้ว่ารฟท.คนนอกที่ต่อจากนายนิรุฒ มณีพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ว่ารฟท.คนนอกเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นการเข้ามาบริหารรฟท.ถือเป็นความท้าทายของผู้ว่ารฟท.คนใหม่เป็นอย่างมาก

เพราะปัจจุบันรฟท.มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ภาครัฐต่างเร่งขับเคลื่อนตามนโยบายในการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางให้มากขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การแก้ปัญหาหนี้สินรฟท.ที่ถูกสะสมมานานกว่า 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโจทย์หินที่ต้องเข้ามาแก้ไขให้สำเร็จได้ตามเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่วางไว้

ตำแหน่งปัจจุบัน

ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
กรรมการ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาค ตะวันออก จำกัด
กรรมการ บริษัท โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด
อนุกรรมการในคณะอนุกรรมการการเงิน งบประมาณ และการลงทุน (กนอ.)
อนุกรรมการในคณะอนุกรรมการด้านทรัพยากรบุคคล การจัดการความรู้และนวัตกรรม (กนอ.)
ที่ปรึกษา กรรมการสมาคมการประปาแห่งประเทศไทย รุ่นที่19

ประวัติการศึกษา

ปี 2539 ปริญญาตรี วศ. บ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ สถาบันเทคโนโลยี นานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปี 2540 ปริญญาโท วท.ม. สาขา Operations Research มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปี 2545 ปริญญาเอก วศ.ด . สาขา Industrial and Systems Engineering มหาวิทยาลัยรัทเกอร์ส สหรัฐอเมริกา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 18/09/2024 10:29 am    Post subject: อาชญากรรมและการลงทัณฑ์ Reply with quote

ก.ต.สั่งพักราชการอธิบดีศาลลวนลามหญิงบนรถไฟ หลังตั้งเรื่องสอบสวนวินัยร้ายแรง
โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 17:27 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 00:43 น.

ก.ต.สั่งพักราชการอธิบดีศาลลวนลามหญิงบนรถไฟ หลังตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงเเล้ว ให้ออก พ.อาวุโส มีพฤติการณ์มัวหมองใกล้ชิดคู่ความ

วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ห้องประชุมราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 3 อาคารศาลยุติธรรม สนามหลวง นางอโนชา ชีวิตโสภณ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ครั้งที่ 24/2567

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบมีประเด็นสำคัญดังนี้

ad

โดยหัวข้อเรื่องที่ 6 มีการพิจารณากรณีพักราชการข้าราชการตุลาการ จำนวน 1 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่พักราชการผู้พิพากษานั้น เป็นกรณีอธิบดีผู้พิพากษาศาลที่ถูกกล่าวหาลวนลามผู้หญิงบนรถไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้ อธิบดีผู้พิพากษาคนดังกล่าว ถูกแขวนไว้ยังไม่พิจารณาอนุญาตให้ไปดำรงตำเเหน่งใดๆ จนกว่าผลการสอบสวนจะเสร็จสิ้น

จากเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ประธานศาลฎีกาได้เซ็นคำสั่งย้ายอธิบดีศาลที่ถูกกล่าวหาคนดังกล่าวไปช่วยราชการชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาประจำสำนักงานประธานศาลฎีกา มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 2567 หลังจากนั้น ก็มีการสอบสวนข้อเท็จจริงจนการประชุม ก.ต.ครั้งก่อนหน้านี้ภายหลังมีการสอบสวน ทาง ก.ต.ได้พิจารณามีความเห็นจากผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พิจารณาแล้วมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรง เเละมีการเสนอพักราชการ จนที่ประชุมในวันนี้มีมติให้พักราชการอธิบดีผู้พิพากษาคนดังกล่าว ภายหลังจากที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรง

ในส่วนการดำเนินคดีมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายหญิงสาวที่ถูกอธิบดีศาลยุติธรรมรายหนึ่ง พยายามลวนลามบนรถไฟ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. แล้ว และพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายรายโดยมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้เป็นการเฉพาะแล้ว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการระดับสูงและคดีอยู่ในความสนใจของประชาชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน



นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.ต.ยังพิจารณารายงานการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการตุลาการ กรณีแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษา ใช้ถ้อยคำเสียงดังอันมีลักษณะข่มขู่พยานและวิจารณ์การทำงานของหน่วยงานอื่น เป็นการไม่รักษาวินัยโดยเคร่งครัด และในเวลาพิจารณาพิพากษาคดีไม่อยู่ในมารยาทอันดีงาม เป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติ ของทางราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการตามที่ ก.ต. กำหนด ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 55 และ มาตรา 62 ประกอบประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ ข้อ 3 และข้อ 6 เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เห็นสมควรลงโทษภาคทัณฑ์

นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.ต.พิจารณารายงานผลการสอบสวนวินัยข้าราชการตุลาการ จำนวน 1 ราย ดังนี้

กรณีมีพฤติกรรมคบหาสมาคมกับคู่ความหรือบุคคลอันมีส่วนได้เสีย หรือผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับคดี หรือบุคคลซึ่งมีความประพฤติหรือมีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย และไม่ถอนตัวจากการพิจารณาและพิพากษาคดี อันอาจทำให้การพิจารณาพิพากษาคดีนั้นเสียความยุติธรรมและกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของบุคคลทั่วไป ในการประสาทความยุติธรรมของผู้พิพากษา อันเป็นการประพฤติผิดประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ ข้อ 14 และข้อ 43 และกรณีไม่ระมัดระวังการประกอบอาชีพ อื่นใดของคู่สมรส มีลักษณะเป็นการกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรมหรือเกียรติศักดิ์ของผู้พิพากษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเชื่อถือศรัทธาของบุคคลทั่วไปในการประสาทความยุติธรรรมของผู้พิพากษาอันเป็นการประพฤติผิดประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ ข้อ 40 ถือเป็นการกระทำอันมีมลทินมัวหมองหากให้รับราชการต่อไปจะเป็นการเสียหายแก่ราชการ เห็นสมควรให้ออกจากราชการ โดยมีรายงานว่าปัจจุบันผู้พิพากษาคนดังกล่าวดำรงตำเเหน่งผู้พิพากษาอาวุโสอยู่ ซึ่งเดิมเคยมีตำเเหน่งระดับบริหารในศาลยุติธรรม

ส่วนกรณีที่ปรากฏข้าราชการตุลาการรายหนึ่ง ถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง จากกรณีถูกหนึ่งในแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ทำหนังสือร้องเรียนว่ามีการเรียกรับทรัพย์สินเพื่อล้มคดี

โดยที่ผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง มีการนำเสนอให้ที่ประชุมอนุกรรมการตุลาการ (อ.ก.ต.) เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2567 เเละที่ประชุมมีมติให้ไล่ออก พร้อมให้ส่งเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น ในวันนี้เรื่องดังกล่าวที่ประชุม ก.ต.ยังไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องจากวาระการพิจารณามีจำนวนมากยังพิจารณาไม่ทัน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 48728
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/09/2024 8:16 am    Post subject: Reply with quote

ไฮสปีด – หนี้รถไฟ2.3แสนล้าน เผือกร้อนในมือ“วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่ารฟท.คนใหม่
ฐานเศรษฐกิจ
19 ก.ย. 2567 | 05:53 น.

ไฮสปีด3สนามบิน –รถไฟไทย-จีน - หนี้2.3แสนล้าน เผือกร้อนในมือ“วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการการรถไฟคนใหม่ลูกหม้อ สุริยะ หลังลงนามสัญญาจ้าง 19 ก.ย. เริ่มงานทันที 1ต.ค. 67

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดหวูด ลงทุนโครงการต้องเนื่อง มีโปรเจ็กต์ร้อนหลายรายการที่ต้องเร่งเดินหน้า และมีหลายโครงการสำคัญที่ยังติดค้าง

ที่ นาย วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)คนใหม่ ต้องสะสางให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดเวลาต่อจากผู้ว่ารฟท.คนเก่า

เริ่มจากโครงการอภิโปรเจ็กต์รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)เชื่อม3สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) มูลค่า 2.24แสนล้านบาท

ฐานะคู่สัญญา บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เครือซีพี ที่ต้องลงมือก่อสร้างภายในต้นปี 2568 ตามแผนที่ นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซีกำหนดไว้ ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี ทดสอบระบบประมาณ 1 ปี เปิดให้บริการปี 2572

ส่วนเรื่องการเจรจาแก้ไขสัญญาตกลงในหลักการได้หมดแล้ว มีความชัดเจนเรื่องหนังสือค้ำประกันเพิ่มเติม รายละเอียดการแบ่งจ่าย หลักๆ จะเป็นการจ่ายตามงวดงานที่แล้วเสร็จและมีการตรวจรับงานที่สำคัญคือ จะโอนทรัพย์สินแต่ละงวดงานที่เสร็จเป็นของรัฐทันที โดยเอกชนยังคงดูแล บำรุงรักษาและบริหารตามระยะเวลาสัญญา 50 ปี

หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การแก้ไขสัญญาไฮสปีดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ในสมัยรัฐบาลแพทองธารซึ่งมีการแต่งตั้งประธานกพอ.คนใหม่ แทน นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเดิมจะต้องนำเข้าบอร์ดภายในเดือนสิงหาคม แต่คาดว่าต้องเป็นช่วงปีงบประมาณ2568 หรือ เดือนตุลาคมหลังจากผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่เริ่มงาน

โดยเงื่อนไขใหม่ของการแก้ไขสัญญาสัมปทานของโครงการ เอกชนจะวางแบงก์การันตีเพิ่มรวมกว่า 1.7 แสนล้านบาท เพื่อลดผลกระทบจากการกู้สินเชื่อที่ได้รับผลพวงมาจากสถานการณ์โควิด

ประกอบด้วยหนังสือค้ำประกันค่าก่อสร้างวงเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท (แบ่งเป็นหนังสือค้ำประกัน 5 ใบ ใบละ 24,000 ล้านบาท) บวกกับหนังสือค้ำประกันค่างานระบบเพิ่มอีก 16,000 ล้านบาท และหากกรณีจ่ายอุดหนุนค่างานโยธา วงเงินประมาณ 1.2 แสนล้านบาท เร็วขึ้น

ประหยัดค่าดอกเบี้ยลงด้วย ซึ่งระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปี เฉลี่ยรัฐจ่ายคืนปีละ 3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ไฮสปีดเชื่อม3สนามบิน ผู้ว่ารฟท.คนใหม่อาจเข้ามารับช่วงการผลักดันการแก้ไขสัญญาระหว่างรฟท.กับเอกชนให้ลุล่วง ก่อนเข้าครม.แพทองธาร รวมถึงแก้ไขสัญญาพื้นที่ทับซ้อนรถไฟไทย-จีนสัญญา4-1 บางซื่อดอนเมืองและสัญญาแอร์พอร์ตลิงก์

ที่สาหัส คือโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน 14สัญญา มูลค่า179,412.21 ล้านบาท ปัจจุบันล่าช้า กว่าแผน 36.39% (ณ วันที่ 25 ก.ค.67) หรือ คืบหน้าอยู่ที่ 71.36% ผลงาน 34.97% ตามแผนใหม่จะเปิดให้บริการในปี 2571

จากเดิม จะเปิดให้บริการปี2570 ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ปี2560 ที่ผ่านมาติดอุปสรรคค่อนข้างมาก โดยเฉพาะผลกระทบแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาต้องส่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม(HIA) ต่อสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)เมื่อวันที่9สิงหาคม2567

อีกปัญหาใหญ่อุบัติเหตุดินถล่มภายในอุโมงค์ช่วงคลองขนานจิต ขณะกำลังขุดเจาะ เมื่อไม่นานมานี้ทำคนงาน ติดด้านในและเสียชีวิต สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนว่าจะเกิดความมั่นคงแข็งแรงหรือไม่แต่ตามหลักวิศวกรแล้วมีความมั่นคงแข็งแรงแน่นอน

หนึ่งในระบบรางเชื่อมโยงภูมิภาคและเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง ด้านขนส่ง การค้า การท่องเที่ยว เชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน และเร่งโครงการไฮสปีดไทย-จีนเฟส2 ช่วงนครราชสีมา- หนองคายระยะทาง 357.12กม.กรอบวงเงิน 3.4แสนล้านบาท

ที่จะเปิดประมูลต้นปี68 และไม่ให้ซ้ำรอยความล่าช้าเหมือนเฟสแรก ที่มีปัญหารอบด้าน อาทิจากผู้รบเหมาฟันงานเพื่อให้ได้งานรถไฟสายประวัติศาสตร์ เมื่อเกิดวิกฤตโควิดและ สงคราม ยูเครนทำให้ เกิดผลกระทบตามมา

ขณะหนี้สะสมของรฟท.ที่มีมากถึง 2.3แสนล้านบาท อีกปัญหาใหญ่ที่ผู้ว่ารฟท.คนใหม่ต้องเร่งหาทางออก โดยก่อนหน้า รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ มีนโยบายให้เร่งนำที่ดินการรถไฟฯ 4หมื่นไร่ออกพัฒนาเพื่อนำไปล้างหนี้

โดยตั้งบริษัทลูกขึ้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัว รวมทั้งปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ แต่ที่ผ่านมาที่ดินแปลงใหญ่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวยังไม่มีเอกชนเช่าพื้นที่

ที่ผ่านมานายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยที่กำกับดูแลรฟท.เคยให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงมีแผนเดินหน้าฟื้นฟูกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีการกำหนดแผนวิสาหกิจการปี 2566 – 2570

ปัจจุบันพบว่ารฟท.มีหนี้สะสม จำนวน 2.3 แสนล้านบาท เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการวิ่งให้บริการรถไฟเชิงสังคม (PSO) และไม่เคยมีการปรับขึ้นค่าโดยสาร 34 ปี

รฟท.เป็นองค์กรใหญ่ ซึ่งในอนาคตจะมีการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่และโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดไทย-จีน) ทำให้มีเม็ดเงินมหาศาล แต่ปัจจุบันพบว่ารฟท.กลายเป็นองค์กรที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว นายสุรพงษ์ กล่าว

ตามพ.ร.บ.การรถไฟฯ ระบุว่า หากมีการขาดทุนภาครัฐต้องจ่ายเงินอุดหนุน PSO ให้แก่รฟท. แต่ตามข้อเท็จจริงพบว่า ภาครัฐจ่ายเงินอุดหนุน PSO ไม่ครบตามที่กำหนด จากการบันทึกบัญชีของรฟท.มีการระบุในการขอเงินอุดหนุนเชิงสังคมจากภาครัฐ (PSO) จำนวน 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี แต่ได้รับงบประมาณอุดหนุนเพียง 1,000-1,500 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้รฟท.มีหนี้สะสมต่อเนื่อง

นี่คือเผือกร้อน สำหรับผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่หลังลงนามสัญญาจ้าง19ก.ย.


High-Speed Rail - 230 Billion Baht Debt, a Hot Potato for New SRT Governor, Veeris Ammarapala

Thansettakij
September 19, 2024 | 05:53 AM


High-Speed Rail Connecting 3 Airports, Thai-Chinese Railway - 230 Billion Baht Debt, a Hot Potato for New SRT Governor, Veeris Ammarapala, After Signing Contract on September 19th, Starts Work Immediately on October 1st, 2024

The State Railway of Thailand (SRT) is gearing up for investment projects, with several hot projects needing to be expedited and many important projects still pending.

Mr. Veeris Ammarapala, the new Governor of the State Railway of Thailand (SRT), needs to complete these projects on schedule, taking over from the previous SRT Governor.

Starting with the mega-project, the high-speed train connecting 3 airports (Don Mueang - Suvarnabhumi - U-Tapao) worth 224 billion baht.

As a contracting party, Asia Era One Co., Ltd., a CP Group company, must start construction by early 2025, according to the plan set by Mr. Chula Sukmanop, Secretary-General of the Eastern Economic Corridor Policy Committee (EEC). The construction will take 4 years, with system testing for about 1 year, and the service is expected to open in 2029.

Regarding the negotiation to amend the contract, the principles have been agreed upon. There is clarity on additional guarantees and payment details. The main principle is payment based on completed and inspected work. Importantly, each completed work phase will be transferred to the state immediately, while the private sector will continue to maintain, manage, and operate according to the 50-year contract period.

If nothing changes, the high-speed rail contract amendment will be submitted for consideration by the Eastern Economic Corridor Policy Committee (EEC) under the Paetongtarn government, which has appointed a new EEC chairman to replace Mr. Phumtham Wechayachai, Deputy Prime Minister and Minister of Commerce under the Srettha government. Originally, it was to be submitted to the board in August, but it is expected to be during the 2025 fiscal year or in October after the new SRT Governor starts work.

Under the new conditions of the amended concession agreement, the private sector will provide additional bank guarantees totaling over 170 billion baht to mitigate the impact of loan borrowing affected by the COVID-19 situation.

This includes construction guarantees of approximately 120 billion baht (divided into 5 guarantees of 24 billion baht each), plus an additional 16 billion baht guarantee for system work. If the subsidy for civil works, amounting to about 120 billion baht, is paid earlier, it will also save on interest costs. With a 4-year construction period, the government will pay back an average of 30 billion baht per year.

For the high-speed rail connecting 3 airports, the new SRT Governor may take over the responsibility of pushing for the contract amendment between SRT and the private sector to be completed before the Paetongtarn government takes office. This includes amending the contract for overlapping areas with the Thai-Chinese railway Contract 4-1 Bang Sue-Don Mueang and the Airport Rail Link.

A critical issue is the Thai-Chinese high-speed rail project with 14 contracts worth 179.41221 billion baht, which is currently 36.39% behind schedule (as of July 25, 2024) or 71.36% complete with 34.97% work done. The new plan is to open the service in 2028.

Originally, it was planned to open in 2027 and has been in progress since the Prayut government in 2017. It has faced many obstacles, particularly the impact on the World Heritage Site of Ayutthaya Historical Park. A report on the Heritage Impact Assessment (HIA) was submitted to the Office of Natural Resources and Environmental Policy and Planning (ONEP) on August 9, 2024.

Another major problem is the recent landslide accident inside the tunnel in the Khlong Khanan Chit section during drilling, trapping workers inside and resulting in fatalities. This has raised concerns among the public about the stability and strength of the project, but according to engineers, it is structurally sound.

This is one of the rail systems connecting regions and enhancing travel efficiency, transportation, trade, and tourism, linking with neighboring countries. The government also aims to accelerate the Thai-Chinese high-speed rail Phase 2 project, the Nakhon Ratchasima - Nong Khai section, with a distance of 357.12 km and a budget of 340 billion baht.

The bidding for this project will open in early 2025, and the government aims to avoid delays like those in the first phase, which faced various problems, including contractors cutting corners to win the historic railway project. The COVID-19 crisis and the Ukraine war have also caused further impacts.

Meanwhile, the SRT's accumulated debt of 230 billion baht is another major problem that the new SRT Governor needs to urgently address. Previously, the Prayut government had a policy to expedite the development of 40,000 rai of SRT land to pay off the debt.

A subsidiary company was established for greater flexibility, and land rental fees were increased. However, there has been no movement on large land plots, and no private companies have rented the land.

Previously, Mr. Surapong Piyachoti, Deputy Minister of Transport, during his time overseeing the SRT, mentioned in an interview that the ministry had a plan to rehabilitate the SRT with a corporate plan for 2023-2027.

Currently, the SRT has an accumulated debt of 230 billion baht. The main cause is the provision of social services (PSO) and the fact that fares have not been increased in 34 years.

The SRT is a large organization, and in the future, there will be investments in double-track railway projects and the Thai-Chinese high-speed rail project, resulting in a massive influx of funds. However, currently, the SRT is burdened with overwhelming debt, said Mr. Surapong.

According to the SRT Act, if there is a loss, the government must provide PSO subsidies to the SRT. However, in reality, the government does not fully pay the PSO subsidies as required. The SRT's accounting records show requests for PSO subsidies from the government amounting to 5-6 billion baht per year, but only 1-1.5 billion baht per year is received, resulting in continuous accumulated debt for the SRT.

This is a hot potato for the new SRT Governor after signing the employment contract on September 19th.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 45053
Location: NECTEC

PostPosted: 19/09/2024 9:49 am    Post subject: Reply with quote

วีริศ อัมระปาล ผู้ว่ารถไฟคนใหม่ เตรียมมอบนโยบาย ต.ค. หลังเซ็นสัญญา19ก.ย.67
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:27 น.
อัพเดตล่าสุด: วันพุธ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 19:07 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ลุยลงนามสัญญาจ้าง” วีริศ อัมระปาล “ผู้ว่ารถไฟ 19 ก.ย. ก่อนมอบนโยบายต.ค.67 สุริยะดัน ให้การรถไฟเป็นอุตสาหกรรมระบบราง


ภายหลัง คณะรัฐมนตรี(ครม.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีมติแต่งตั้งนายวีริศ อัมระปาลเป็นผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หลังคณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย เป็นประธานพิจารณาคัดเลือกให้นายวีริศ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ คนใหม่


ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย กำหนดจัดพิธีลงนามสัญญาว่าจ้าง นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมคณะกรรมการรถไฟฯ ชั้น 2 ตึกบัญชาการรถไฟฯ

อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ มีแผนมอบนโยบายในฐานะกำกับดูแลรฟท. เตรียมมอบนโยบายให้ผู้ว่ารฟท.คนใหม่เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทยให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และขยายขีดความสามารถในการขนส่งทางรางให้ทัดเทียมนานาประเทศ ตลอดจนก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเชียนและเอเชีย คาดว่าจะเข้าไปมอบนโยบายแก่รฟท. ภายในเดือนต.ค.นี้


ที่ ผู้ว่ารฟท.คนใหม่จะต้องขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า โดยมีเป้าหมายให้การรถไฟฯ กลับมาเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่สำคัญของประเทศ พร้อมทั้งจะต้องกำหนดนโยบายและทิศทางในการแก้ปัญหาให้ชัดเจน

โดยเฉพาะการไขปัญหาหนี้สะสม ที่ในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึงกว่า 2.3 แสนล้านบาทซึ่งจะต้องลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ทั้งจากการขนส่งผู้โดยสาร การขนส่งสินค้า การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ขณะปี 2568 ครบรอบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน 50 ปี ซึ่งกระทรวงคมนาคมพยายามเร่งรัดเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ไทย-จีน ระยะที่ 1ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา

และโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย เชื่อมโยงเส้นทาง One Belt One Road ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อเป็นประโยชน์ของทั้งสองประเทศในระยะยาว

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
ครม.ไฟเขียวแต่งตั้ง‘วีริศ อัมระปาล’ นั่งผู้ว่ารฟท.คนใหม่ | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:11 น.

ครม.ไฟเขียว”วีริศ อัมระปาล”ผู้ว่าฯรฟท.คนใหม่ คาดเซ็นสัญญาจ้าง 19 ก.ย.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 16:28 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 17:07 น.
ครม.ไฟเขียว “วีริศ อัมระปาล” นั่งแท่นผู้ว่ารถไฟ คนใหม่
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:03 น.
อัพเดตล่าสุด : วันอังคาร ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:08 น.
ส่องประวัติ “วีริศ” อัมระปาล ข้ามห้วยนั่งผู้ว่ารฟท.คนที่ 30
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 05:00 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 484, 485, 486 ... 497, 498, 499  Next
Page 485 of 499

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©