เรือคลองผดุงกรุงเกษม Feeder รถไฟ และ รถไฟฟ้าอย่างใหม่

[Wisarut]

1 เม.ย. จ่ายค่า “เรือด่วนเจ้าพระยา” ด้วยบัตรแรบบิทลด 2 บาท
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 10:57 น.

เรือด่วนฯ ต่อโปรฯ ใช้บัตรแรบบิทจ่ายค่าโดยสารลด 2 บาทต่อเที่ยว เริ่ม 1 เม.ย.นี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 12:12 น.
ปรับปรุง: วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 เวลา 12:12 น.


เรือด่วนเจ้าพระยาต่อเวลาโปรโมชันสุดพิเศษ เมื่อชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิทรับทันทีส่วนลด 2 บาทต่อเที่ยว โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 66 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด

“เรือด่วนเจ้าพระยา” ต่อเวลาโปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิทรับทันทีส่วนลด 2 บาทต่อเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 พ.ค. 66 หรือจนกว่าสิทธิจะหมด เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

นาวาตรีเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาในเส้นทางปากเกร็ดถึงวัดราชสิงขร เปิดเผยว่า เนื่องจากโปรโมชั่นลดค่าโดยสารสำหรับผู้ที่ถือบัตรแรบบิทได้รับความสนใจและมีผู้มาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก ทางเรือด่วนเจ้าพระยาและบัตรแรบบิทจึงได้ทำการต่อระยะเวลาโปรโมชั่นดังกล่าวออกไป โดยมีเงื่อนไขคือ เพียงแค่ชำระค่าโดยสารด้วยบัตรแรบบิทจะได้รับส่วนลดทันที 2 บาท ทุกธง ทุกเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 66 จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 66 หรือจนกว่าจะสิทธิจะหมด

อัตราค่าโดยสารเมื่อชำระด้วยบัตรแรบบิท มีรายละเอียดดังนี้
อัตราค่าโดยสารเมื่อชำระด้วยบัตรแรบบิท
• เรือธงส้ม 16 บาท ลดเหลือ 14 บาท
• เรือธงเหลือง 21 บาท ลดเหลือ 19 บาท
• เรือธงเขียวเหลือง
- ปากเกร็ด-นนทบุรี 14 บาท ลดเหลือ 12 บาท
- ปากเกร็ด-สาทร 33 บาท ลดเหลือ 31 บาท
- นนทบุรี-สาทร 21 บาท ลดเหลือ 19 บาท
• เรือปรับอากาศธงแดง 30 บาท ลดเหลือ 28 บาท

นาวาตรีเจริญพร กล่าวต่อว่า สำหรับผู้โดยสารที่มีบัตรแรบบิทอยู่แล้ว สามารถนำบัตรที่มีอยู่มาใช้ได้จ่ายค่าโดยสารได้เลยโดยไม่ต้องซื้อบัตรใหม่ แต่เงินที่สามารถใช้ได้จะต้องอยู่ในกระเป๋าเงินแรบบิทเท่านั้น หากมีเงินอยู่ในกระเป๋าแรบบิท ไลน์ เพย์ (Rabbit LINE Pay) จะต้องทำการเติมเงินเข้ากระเป๋าแรบบิทก่อน โดยสามารถเติมเงินได้ที่จุดขายตั๋วเรือด่วนเจ้าพระยาบนท่าเรือต่าง ๆ ตู้เติมสบาย หรือที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยแจ้งความประสงค์ให้เติมเงินเข้ากระเป๋าแรบบิท

ส่วนผู้โดยสารที่ยังไม่มีบัตรแรบบิทหรือต้องการบัตรเพิ่ม ทางเรือด่วนเจ้าพระยาแจกบัตรแรบบิทให้ฟรี โดยที่ไม่ต้องเสียค่าบัตร เพียงเติมเงินเข้าบัตรจำนวน 100 บาท และลงทะเบียนยืนยันตัวตนโดยใช้บัตรประชาชนที่มีชิปการ์ดตามจุดให้บริการรับบัตรแรบบิทตามรายละเอียดด้านล่างนี้


จุดให้บริการรับบัตรแรบบิท เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ ประกอบด้วย ท่านนทบุรี ตั้งแต่เวลา 06.00-08.30 น., ท่าพรานนก ตั้งแต่เวลา 06.30-18.00 น. และ ท่าสาทร ตั้งแต่เวลา 14.00-18.00 น. ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารตารางเวลาให้บริการและเส้นทางที่อัปเดตจากทางเรือด่วนเจ้าพระยาผ่านช่องทางเพจเฟซบุ๊ก Chao Phraya Express Boat-เรือด่วนเจ้าพระยาหรือที่LINE: @cpxcare : https://www.dailynews.co.th/news/2162873/

[Mongwin]

เปลี่ยนโฉมท่าเรือ48แห่งทั่วไทย สร้างตำนานบทใหม่ทางน้ำ...
Source - เดลินิวส์
Tuesday, April 11, 2023 07:01
ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์

เทศกาลสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ไทย ขอลดอุณหภูมิความร้อนด้วยโครงการทางน้ำของกรมเจ้าท่า (จท.) ที่มีแผนพัฒนาก่อสร้างและปรับปรุงท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 29 แห่ง รวมทั้งท่าเรือชายฝั่งทะเลอันดามันและชายฝั่งทะเลอ่าวไทย 19 แห่ง ทั้งหมด 48 แห่ง งบประมาณ 3,602.9 ล้านบาท ไม่ใช่แค่แผนพัฒนาท่าเรือแบบธรรมดา ๆ แต่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมท่าเรือกันเลยทีเดียว

ในส่วนของท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 29 แห่ง ได้ออกแบบเป็นท่าเรือโดยสารอัจฉริยะ (Smart Pier) ต้อนรับเรือโดยสารใช้พลังงานไฟฟ้า และเชื่อมโยงการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ทั้งล้อ-ราง-เรือ อย่างไร้รอยต่อ ด้วยรูปลักษณ์ทันสมัยสวยงามแบบแจ่มว้าว...แต่คงเอกลักษณ์สะท้อนความเป็นไทย และใช้หลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) เพื่อประโยชน์ในการใช้งานของทุกคนรวมทั้งผู้พิการและผู้สูงอายุ

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยี และระบบให้ บริการอันทันสมัย อาทิ นำระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เข้ามาใช้ เพื่อควบคุมระบบสถานี ติดตั้งกล้องวงจรปิด รักษาความปลอดภัย มีระบบบอกเวลาเรือเข้า-ออกท่าเรือ แบบ Real Time รองรับระบบตั๋วร่วม และการจ่ายค่าโดยสารแบบเงินดิจิทัลผ่านโทรศัพท์มือถือ มีระบบแนะนำเส้นทางการเชื่อมต่อรถโดยสาร สถานที่สำคัญ ๆ และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง จุดบริการชาร์จ แบตเตอรี่โทรศัพท์และฟรี Wi-Fi

แผนดำเนินการปี 2562-2569 วงเงิน 866.98 ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือ 29 แห่ง 690.98 ล้านบาท และติดตั้งระบบบริหารจัดการอัจฉริยะ 176 ล้านบาท

เปิดบริการไปแล้ว 8 ท่า ได้แก่ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือราชินี ท่าเรือพายัพ และท่าเรือบางโพ อยู่ระหว่างก่อสร้าง 6 ท่า

ท่าเรือพระราม 7 และท่าเรือท่าเตียน จะแล้วเสร็จกลางปี 2566 เหลือ 4 ท่า ท่าเรือเกียกกาย ท่าเรือพระราม 5 ท่าเรือพระปิ่นเกล้า และท่าเรือปากเกร็ด จะแล้วเสร็จปี 2567

ปีหน้า (2567) จะก่อสร้างเพิ่ม 6 ท่า ท่าเรือสี่พระยา ท่าเรือเขียวไข่กา สะพานกรุงธน (ซังฮี้) ท่าเรือพรานนก ท่าเรือเทเวศร์ และท่าเรือโอเรียนเต็ล ปี 2568 อีก 9 ท่า ท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 และ 2 ท่าเรือวัดตึก ท่าเรือวัดเขมา ท่าเรือวัดสร้อยทอง ท่าเรือวัดเทพากร ท่าเรือวัดเทพนารี และท่าเรือรถไฟ

ยกระดับความสะดวกสบายและปลอดภัย เพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้คนกรุงเทพฯและปริมณฑลจากปัญหาการจราจรบนท้องถนน ด้วยจุดเด่นเรื่องค่าโดยสารราคาประหยัด กำหนดระยะเวลาเดินทางได้แน่นอน ผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และยังช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวทางน้ำสร้างรายได้ให้ประเทศด้วย

ด้านชายฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีแผนพัฒนาท่าเรือปี 2560-2569 จำนวน 19 แห่ง วงเงินรวม 2,735.92 ล้านบาท ระยะแรกพัฒนาท่าเรือชายฝั่งอันดามัน 13 แห่ง 1,962.86 ล้านบาท แล้วเสร็จ 6 แห่ง ท่าเรือสุระกุล จ.พังงา ท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ ท่าเรือศาลาด่าน เกาะลันตาน้อย ท่าเรือท่าเล และท่าเรือสวนสาธารณะธารา จ.กระบี่ ท่าเรือปากเมง จ.ตรัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1 แห่ง ท่าเรือปากคลองจิหลาด จ.กระบี่ จะแล้วเสร็จภายในปี 2566

พร้อมพัฒนาท่าเรือเพื่อสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง จ.กระบี่-พังงา-ภูเก็ต หรือท่าเรือวงแหวนแห่งอันดามัน ปี 2567-2569 จำนวน 4 แห่ง ท่าเรือเฟอร์รี่ท่าเลน จ.กระบี่ ท่าเรือเฟอร์รี่ อ่าวปอ จ.ภูเก็ต ท่าเรือมาเนาะห์ ต.เกาะยาวน้อย และท่าเรือช่องหลาด ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา บรรเทาปัญหาการจราจรทางถนนและความแออัดของสนามบินภูเก็ต ลดเวลาเดินทางให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาทางเรือเพียง 1 ชม. จากทางบกกระบี่ไปภูเก็ต 2-3 ชม. นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาท่าเรือ ใน จ.กระบี่ ปี 2568-2570 จำนวน 2 แห่ง ท่าเรืออ่าวน้ำเมาและท่าเรือเกาะพีพี ด้วย

สำหรับแผนพัฒนาท่าเรือชายฝั่งอ่าวไทยปี 2563-2569 จำนวน 6 แห่ง 773.06 ล้านบาท เสร็จแล้ว 3 แห่ง ท่าเรือตำบลปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ท่าเรือท้องศาลาและท่าเรือหาดริ้น อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 แห่ง ท่าเรือเกาะสมุย บริเวณบ้านหน้าทอน จ.สุราษฎร์ธานี และท่าเรืออ่าวมะขามป้อม จ.ระยอง จะแล้วเสร็จปลายปี 2566 กำลังเสนอของบฯก่อสร้างปี 2567 จำนวน 1 แห่ง ท่าเรือเกาะล้าน (ท่าเรือหน้าบ้าน) จ.ชลบุรี เริ่มก่อสร้างปี 2568 เปิดบริการ 2570

ท่าเรือในภูมิภาคทั้ง 19 แห่ง เปลี่ยนเป็นท่าเทียบเรือที่สวยงาม ทันสมัย แข็งแรง เติมพื้นที่และประโยชน์ใช้สอยให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว สร้างตำนานบทใหม่ให้การเดินทางทางน้ำของประเทศไทย...สุขสันต์วันสงกรานต์ ขอให้ทุกท่านสุขกาย สุขใจ.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 12 เม.ย. 2566 (กรอบบ่าย)

[Wisarut]

กรุงเทพธนาคม จับมือ มจธ. เพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะ "เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าคลองผดุงฯ " ภายใน 6-8 เดือน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ที่ 28 เมษายน เวลา 09:15 น.

ตามที่กรุงเทพมหานครได้มีนโยบายกลับมาเปิดให้บริการเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV) ในคลองผดุงกรุงเกษมอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา หลังจากเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อกลางปี 2563 และได้หยุดให้บริการไปเมื่อช่วงปลายปี 2565 โดยมอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ แต่เนื่องจากเรือเดิมมีการใช้งานมาสักระยะหนึ่ง เมื่อมีนโยบายให้บริการเรือไฟฟ้าในคลองผดุงกรุงเกษมอีกครั้ง บริษัทจึงได้ทำการสำรวจเรือเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการ พร้อมทั้งทำการซ่อมบำรุงให้เรืออยู่ในสภาพสมบูรณ์ และพร้อมให้บริการ โดยเบื้องต้นได้ขอรับคำปรึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าระบบกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่ของเรือนั้นเสื่อมสภาพ ไม่สามารถอัดประจุและจ่ายพลังงานไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนเรือได้ และจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ชุดใหม่เข้ามาทดแทน


ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความรอบคอบ คุ้มค่า และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะให้แก่เรือ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการศึกษา ค้นคว้าและวิจัยทางวิศวกรรม เพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมในการใช้งาน ดูแลรักษาและในการซ่อมบำรุงเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบขับเคลื่อนและระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (แบตเตอรี่) ของเรือ รวมทั้งแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเพื่อการให้บริการที่ยั่งยืนต่อไป

เป็นที่มาของพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการศึกษา ค้นคว้าและวิจัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะของเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ขึ้น เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ณ ห้อง X01 อาคาร KX ถนนกรุงธนบุรี โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประแสง มงคลศิริ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท, รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี และรองศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ ธนิตย์ธีรพันธ์ คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมในการลงนามครั้งนี้

(จากซ้าย) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประแสง มงคลศิริ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท , ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด , รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. และ รศ. ดร.ธเนศ ธนิตย์ธีรพันธ์ คณบดีคณะครุศาสตร์ฯ มจธ.
(จากซ้าย) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประแสง มงคลศิริ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท , ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด , รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. และ รศ. ดร.ธเนศ ธนิตย์ธีรพันธ์ คณบดีคณะครุศาสตร์ฯ มจธ.

ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ปัจจุบันเรือโดยสารไฟฟ้ายังคงให้บริการประชาชน โดยใช้งบประมาณการเดินเรือของ กทม. มีเรือที่เปิดให้บริการอยู่จำนวน 7 ลำ ระยะทาง 5.5 กม. จำนวน 11 ท่า เส้นทางจากท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ถึงท่าเรือตลาดเทวราช โดยยังไม่มีการจัดเก็บค่าโดยสาร ซึ่งกทม. มีนโยบายลดต้นทุนด้านงบประมาณ จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของบริษัทที่จะต้องยกระดับการเดินทางของประชาชนควบคู่กับการลดงบประมาณการบริหารจัดการ ซึ่งในปัจจุบันต้นทุนของแบตเตอรี่มีแนวโน้มที่ลดลง ประกอบกับแม้มีผู้ผลิตและผู้พัฒนาแบตเตอรี่ในประเทศไทย แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มของการแข่งขันด้านราคาและการตลาด

ทางบริษัทจึงได้ขอคำปรึกษาทางด้านเทคนิค และแนวทางการปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการเดินเรือไฟฟ้าจาก มจธ.ในฐานะที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ผลิตบัณฑิตด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ แล้ว ยังมีความโดดเด่นด้านการวิจัยและการบริการวิชาการแก่ภาครัฐและภาคเอกชนในการศึกษา ค้นคว้า และวิจัยเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบแบตเตอรี่มาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อให้การเดินเรือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการให้บริการ สมรรถนะของเรือ และวิธีการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าขับเคลื่อนและระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงร่วมมือกันเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และได้จัดทำบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น และถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายนับจากนี้ไป

รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. กล่าวว่า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มจธ. มีผู้เชี่ยวชาญและผลงานการวิจัยอย่างต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงงานทดสอบและวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ มีความร่วมมือกับภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีเครื่องมือและอุปกรณ์รองรับการเรียนการสอน การทดสอบ การทดลองได้อย่างเพียงพอ ประกอบกับการมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการศึกษา ค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงานในรูปแบบแบตเตอรี่มาอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยฯ จึงมีศักยภาพทั้งในแง่ของบุคลากรและสิ่งจำเป็นต่างๆ ที่จะสามารถดำเนินการในด้านการศึกษา ค้นคว้าและวิจัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสมรรถนะของเรือไฟฟ้าโดยสารดังกล่าวของกรุงเทพมหานครได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับแนวทางการดำเนินงานระยะแรก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มานนท์ สุขละมัย อาจารย์ประจำสาขาวิชาครุศาสตร์เครื่องกล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มจธ. กล่าวว่า เบื้องต้นมหาวิทยาลัยจะทำการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ชุดใหม่ที่ทางบริษัทฯ ได้จัดซื้อมาใช้ทดแทนแบตเตอรี่เดิมที่เสื่อมสภาพ โดยจะเน้นการบริหารจัดการเรื่องการใช้พลังงาน หาวิธีในการควบคุมอุณหภูมิที่สูงภายในห้องเก็บแบตเตอรี่ และการดูแลบำรุงรักษา ทำอย่างไรที่จะยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น โดยยังมีนักวิจัยท่านอื่นๆ ร่วมทีม อาทิ ผศ.ดร.ดนัย เผ่าหฤหรรษ์ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผศ.ดร.สุจินต์ จิระชีวะนันท์ และนายจักรพันธุ์ มีอาษา จากคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

โดยภายใน 6-8 เดือนนี้ คณะวิจัยจะทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัย เพื่อหาพารามิเตอร์ที่เหมาะสมของแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออน (Li-ion) ที่ใช้กับเรือพลังงานไฟฟ้านี้ รวมถึงข้อมูลทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวกับชุดต้นกำลังแบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินเรือ และวิเคราะห์หาวิธีการปรับปรุงเรือที่เหมาะสมสำหรับการยืดอายุการใช้งานหรือการดูแลรักษาแบตเตอรี่ นอกจากนี้จะทำการศึกษา วิเคราะห์และกำหนดวิธีการหรือแนวทางในการใช้งานและการดูแลรักษาหรือซ่อมบำรุงที่เหมาะสมสำหรับเรือไฟฟ้าโดยสารในคลองผดุงกรุงเกษมนี้ต่อไป

“เพื่อยกระดับการบริการด้านการขนส่งที่จะอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนริมคลองผดุงกรุงเกษมและบริเวณใกล้เคียง ที่จะเป็นตัวอย่างของการสัญจรทางน้ำที่มิได้ก่อให้เกิดมลพิษแก่กรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางสิ่งแวดล้อมหรือทางเสียงไปพร้อมกัน”

[Wisarut]

ท่าเรือบางโพ ปรับปรุงเสร็จกลายเป็นท่าเรือร้างทันที??
ท่าเรือบางโพจุดเชื่อมต่อรางเรือที่เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าบางโพ
ความหวังจุดเชื่อมต่อของคนย่านนี้ในการเข้าเมืองทางเรือ
ตอนนี้ได้เป็นจุดเชื่อมต่อที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาตินั่งเรือเพื่อเชื่อมต่อรถไฟฟ้าไปสถานีจตุจักรเที่ยวตลาดสวนจตุจักรเป็นจำนวนมาก เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงท่าเรือสิ่งที่แปลกใจคือทำไมตัวอาคารถึงยังไม่มีการเปิดใช้
นักท่องเที่ยวหลายๆคนที่มานั่งรอเรือบริเวณนี้ต้องการจะใช้ห้องน้ำ ก็ได้แต่ด้อมๆมองๆเข้าไปในตัวอาคารที่ปิดประตูสนิทไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปใช้ตัวอาคารทั้งที่เสร็จแล้วมาเนิ่นนาน เป็นสิ่งที่ต้องถามดังๆไปยังกรมเจ้าท่าว่าท่าเรือที่สร้างเสร็จแล้วควรจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการเพื่อประโยชน์และความสะดวกสูงสุดของประชาชนไม่ใช่หรือ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=167299266315843&id=100091073118020

[Wisarut]

สุภัทราข้ามฟากแจงเหตุระทึก ”เรือโคลงเคลงสู้ชีวิต”
*ถูกเรือโดยสารไฟฟ้าแล่นผ่านทำให้เกิดคลื่นยักษ์
*นายท้ายเรือทำสุดความสามารถทุกคนปลอดภัย
*กรมเจ้าท่าช่วยควบคุมเรือใหญ่ลดความเร็วด้วย
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/819063153004254

[Mongwin]

[Wisarut]

เรือด่วนฯ จัดทริปท่องเที่ยวริมแม่น้ำต้อนรับวันหยุดยาว 30 ก.ค. และ 12 ส.ค.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 25 กรกฎาคม 2566 เวลา 18:14 น.
ปรับปรุง: 25 กรกฎาคม 2566 เวลา 18:14 น.



เรือด่วนเจ้าพระยาจัดทริปท่องเที่ยวริมแม่น้ำ "ล่องเรือไหว้พระ" ต้อนรับวันหยุดยาว 30 ก.ค. และ 12 ส.ค. 66

บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางปากเกร็ด-วัดราชสิงขร จัดทริปท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาต้อนรับวันหยุดยาว เอาใจนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติในราคาสุดคุ้มต้อนรับช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้ โดยมีทั้งทริปล่องเรือไหว้พระ 5 วัดรอบกรุง วันอาทิตย์ที่ 30 ก.ค. 66 และทริปเกาะเกร็ดเที่ยวเอง วันเสาร์ที่ 12 ส.ค. 66 นี้ เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและธุรกิจท้องถิ่น

ทริปรับทรัพย์ (Rup Sup) ล่องเรือไหว้พระ 5 วัดรอบกรุง เดินทางวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ค. 66
ทริปสุดพิเศษที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ให้ทุกท่านได้มีโอกาสไหว้พระทำบุญที่ 5 วัดดังริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ วัดประยุรวงศาวาส วัดอรุณราชวราราม วัดระฆังโฆสิตาราม วัดแก้วฟ้าจุฬามณี วัดเทวราชกุญชร เพื่อขอพรเสริมสิริมงคลให้ชีวิตรุ่งโรจน์ตลอดครึ่งปีหลัง ให้บริการด้วยเรือปรับอากาศ 2 ชั้น Riva Express ลงเรือจากท่าสาทร (เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีสะพานตากสิน) เวลา 10.00 น. และกลับมาถึงท่าสาทร เวลา 17.00 น. โดยประมาณราคา 499 บาท/ท่าน (ราคาปกติ 699 บาท)



เกาะเกร็ดเที่ยวเอง เดินทางวันเสาร์ที่ 12 ส.ค. 66
วันแม่นี้ ชวนเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไม่ต้องเสียเวลาขับรถนานๆ ด้วยการพาคุณแม่และครอบครัวนั่งเรือไปเที่ยวเกาะเกร็ดในราคาประหยัด กับทริปเกาะเกร็ดเที่ยวเองแบบไปเช้าเย็นกลับ ที่คุณสามารถเลือกเที่ยวและเลือกทำกิจกรรมบนเกาะได้อย่างอิสระ อยากเที่ยวจุดไหนเป็นพิเศษสามารถวางแผนทริปเองได้เลย

เรือจะออกจากท่าสาทร (เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีสะพานตากสิน) เวลา 10.30 น. ไปยังเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ขากลับ เรือจะออกจากท่าวัดปรมัยยิกาวาส เวลา 15.00 น.
- ตั๋วไป-กลับ ราคาพิเศษ 180 บาท เฉพาะผู้ที่ซื้อล่วงหน้าเท่านั้น (ปกติ 230 บาท)
- ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 100 บาท

[Wisarut]

“สนข.” จ่อชงรัฐบาลใหม่ลุยแผนพัฒนาทางน้ำ 9.3 พันล้านสู่การปฏิบัติ
เศรษฐกิจ-ยานยนต์
8 สิงหาคม 2566 เวลา 08:39 น.

“สนข.” เตรียมชงรัฐบาลใหม่ แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล วงเงิน 9.3 พันล้านบาท เพิ่มโครงข่ายขนส่งทางน้ำครบ 196.6 กม. นำร่องเฟสแรก 4 เส้นทาง ทยอยเปิดบริการปี 68 เพิ่มทางเลือกการเดินทางให้ประชาชน แก้ปัญหาการจราจร


นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สนข.ได้ศึกษาแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือ W-MAP (ปี 66-75) เน้นให้เกิดเส้นทางในการเดินทางทางน้ำจาก 131.2 กิโลเมตร (กม.) เป็น 196.6 กม. เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางของประชาชน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ขณะนี้ได้ศึกษาแล้วเสร็จเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณา โดยตามแผนพัฒนาดังกล่าว คาดว่าจะจัดใช้งบลงทุนรวม 9,322.10 ล้านบาท ประกอบด้วย เส้นทางเดิมในปัจจุบัน จำนวน 4 เส้นทาง ระยะทาง 65.4 กม. คาดใช้งบประมาณลงทุน 1,321.05 ล้านบาท อาทิ เส้นทางเดินเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม และเส้นทางคลองประเวศบุรีรมย์ จะมีการพัฒนาบริการจุดเชื่อมต่อล้อ ราง เรือ ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาท่าเรือต่างๆ ให้มีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับผู้โดยสาร



ขณะที่เส้นทางพัฒนาใหม่ในแผนระยะสั้น (ระหว่างปี 66-70) จำนวน 4 เส้นทาง ระยะทาง 74.3 กม. คาดใช้งบประมาณลงทุน 5,305.07 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.เส้นทางเดินเรือในคลองลาดพร้าว ช่วงสายไหมถึงพระโขนง (S1) วงเงินลงทุน 1,446.21 ล้านบาท ระยะทาง 25.7 กม. จำนวน 23 ท่าเรือ คาดพร้อมเปิดให้บริการในปี 69
2.เส้นทางเดินเรือในคลองแสนแสบ (S2) วงเงินลงทุน 3,240.70 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ช่วงวัดศรีบุญเรืองถึงถนนสุวินทวงศ์ 12 กม. 16 ท่าเรือ, ช่วงสะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงวัดศรีบุญเรือง 17.3 กม. 28 ท่าเรือ และช่วงป้อมพระสุเมรุถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ หรือคลองบางลำพู 1.5 กม. 3 ท่าเรือ คาดพร้อมเปิดให้บริการในปี 69

3.เส้นทางเดินเรือในคลองขุดมหาสวัสดิ์-คลองบางกอกน้อย ช่วงประตูน้ำฉิมพลีถึงศิริราช (S3) วงเงินลงทุน 397.53 ล้านบาท 17.1 กม. 18 ท่าเรือ คาดเปิดให้บริการในปี 68 และ
4.เส้นทางเดินเรือในคลองขุดมหาสวัสดิ์ ช่วงประตูน้ำมหาสวัสดิ์ถึงวัดชัยพฤกษมาลา (S4) วงเงินลงทุน 219.93 ล้านบาท 28 กม. 13 ท่าเรือ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 68


นายปัญญา กล่าวต่อว่า ภายใต้แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำกรุงเทพฯ และปริมณฑล สนข. ได้ศึกษาเส้นทางที่จะพัฒนาในระยะยาว (ระหว่างปี 71-75) จำนวน 3 เส้นทาง 56.9 กม. คาดใช้งบประมาณรวม 2,695.98 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยเปิดบริการในปี 72 ประกอบด้วย
1.เส้นทางเดินเรือในคลองเปรมประชากร ช่วงวัดรังสิตถึงบางซื่อ
2.เส้นทางเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนต่อขยาย ช่วงปากเกร็ดถึงที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี และ
3.เส้นทางเดินเรือในคลองประเวศบุรีรมย์ส่วนต่อขยาย ช่วงตลาดเอี่ยมสมบัติถึงวัดสังฆราชา


แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำนี้ สนข. รับหน้าที่ในการศึกษาความเป็นไปได้ และจัดลำดับเส้นทางที่มีความสำคัญเร่งด่วน เพื่อนำเสนอแผนดังกล่าวให้กับกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อบรรจุเป็นวาระการพัฒนาโครงข่ายขนส่ง พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ดูแลเส้นทางทางน้ำต่างๆ ไปพัฒนา อาทิ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมเจ้าท่า (จท.) เป็นต้น


นายปัญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะได้รับการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคม เสนอเข้าสู่ที่ประชุม คจร. และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในปี 66 หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะผลักดันแผนดังกล่าวสู่การปฏิบัติ เนื่องจากเป็นแผนการลงทุนที่เหมาะสม สามารถแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนในการเดินทางเชื่อมกรุงเทพฯ และปริมณฑล

สำหรับรูปแบบการลงทุน เบื้องต้นศึกษาความเหมาะสมเป็นการเปิดประกวดราคาจัดหาเอกชนเข้ามาให้บริการเดินเรือในเส้นทางต่างๆ ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลเส้นทางน้ำจะเป็นผู้เปิดประกวดราคาเอง อย่างไรก็ตามภายหลังพัฒนาเส้นทางเดินทางทางน้ำที่กำหนดไว้แล้วเสร็จจะสร้างความสะดวกในคมนาคมทางน้ำ เพิ่มท่าเรือบริการจาก 103 แห่ง เป็น 200 แห่ง และคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการในปี 70 เพิ่มเป็น 66,060 คนต่อวัน ก่อนขยายต่อเนื่องในปี 75 เป็นจำนวน 83,484 คนต่อวัน...

[Mongwin]

เปิดเดินเรือคลองบางลำพู
Source - ไทยรัฐ
Monday, August 14, 2023 06:03

*กทม.ทดลองวิ่ง-เตรียมเปิดวิ่งจริงกันยายนนี้

รายงานข่าวจากบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด(เคที)แจ้งว่า เคทีได้ดำเนินการฝึกซ้อมการเดินเรือเสมือนจริงในคลองบางลำพู จากท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง(คลองผดุงกรุงเกษม) ไปยังท่าเรือป้อมพระสุเมรุ(คลองบางลำพู)ระยะทาง 4.3 กม. ในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-19.00 น. โดยไม่รับ-ส่ง ผู้โดยสารตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.เป็นต้นมา เพื่อเตรียมเปิดให้บริการในช่วงเดือน ก.ย. 2566 นี้

รายงานข่าวแจ้งว่า การให้บริการเดินเรือในเส้นทางคลองบางลำพู เป็นเส้นทางต่อเนื่องจากคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้สัญญาว่าจ้างการเดินเรือที่บริษัทได้รับจาก กทม.โดยสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) ซึ่งเป็นโครงการตามนโยบาย "เดินทางดี" ของผู้ว่าฯกทม.ที่ชุมชนย่านคลองบางลำพู เป็นชุมชนที่มีศักยภาพมากในการพัฒนาเส้นทางการเดินเรือ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์และมีสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินที่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง และเชื่อมต่อไปยังเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือพระอาทิตย์ที่ท่าเรือป้อมพระสุเมรุได้ ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดให้บริการจริง จะเปิดให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และทางบริษัทจะแจ้งข่าวให้ทราบอีกครั้ง

ด้านนายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผอ.สำนักการระบายน้ำ(สนน.) กทม.กล่าวว่า สนน.ได้จัดเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะและวัชพืชเพื่อเตรียมพร้อมรองรับปริมาณ

น้ำจากสถานการณ์ฝนตก และเปิดทางไหลของน้ำเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคูคลองและแหล่งน้ำต่างๆ อาทิ คลองห้วยขวาง เขตดินแดง คลองลำนกแขวก ช่วงวัดลำนกแขวก เขตมีนบุรี คลองเปรมประชากร ช่วงวัดดอนเมืองเขตดอนเมือง คลองเปรมประชากร ช่วงวัดดอนเมืองเขตดอนเมือง คลองเป้ง ช่วงสถานีสูบน้ำวัดภาษีเขตวัฒนา และคลองสนามชัย ช่วงสถานีสูบน้ำคลองพระยาราชมนตรี เขตบางขุนเทียน นอกจากนั้นยังได้เร่งรัดแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องต่อไป.

ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 14 ส.ค. 2566

[Mongwin]

สวยแทบจำไม่ได้!!! #โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม ช่วงสะพานเทเวศรนฤมิตร ถึง ท่าเรือเทเวศร์
nanny official
Aug 26, 2023

#โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม ช่วงสะพานเทเวศรนฤมิตร ถึง แม่น้ำเจ้าพระยา (ท่าเรือเทเวศร์)
-งานปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม ช่วงสะพานเทเวศรนฤมิตร ถึง แม่น้ำเจ้าพระยา (ท่าเรือเทเวศร์) เป็นช่วงสุดท้ายของโครงการค่ะ งบประมาณ 76,900,000 บาทถ้วน


https://www.youtube.com/watch?v=HiDT_hDQy1Y