เรือคลองผดุงกรุงเกษม Feeder รถไฟ และ รถไฟฟ้าอย่างใหม่

[Wisarut]

กรมเจ้าท่าผนึก “ทช.-เอสซีจี” สร้างห้องน้ำทุกท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: ศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 เวลา 16.40 น.
ปรับปรุง: ศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 เวลา 16.40 น.


กรมเจ้าท่า จับมือทางหลวงชนบท และเอสซีจี ผุดโครงการห้องน้ำสุขสโมสรทุกท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา เผยเสร็จแล้ว 8 แห่ง เร่งสร้างให้ครบ 30 แห่งทั้งท่าเรือโดยสาร/ท่องเที่ยว ตั้งแต่ปากเกร็ด ถึงท่าเรือวัดราชสิงขร ยกระดับบริการ

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมฯ ให้ความสำคัญในการให้บริการสาธารณะ จึงได้จัดทำโครงการห้องน้ำสุขสโมสรเพื่อให้บริการห้องน้ำสาธารณะตามท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการยกระดับท่าเรือโดยสารในด้านการอำนวยความสะดวกต่อประชาชน ซึ่งการออกแบบจะคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก อำนวยความสะดวกทุกเพศ ทุกวัย และยังรองรับสังคมผู้สูงวัย ส่งเสริมสิทธิผู้พิการ ด้วยห้องน้ำแบบอารยสถาปัตย์ Friendly Design ตอบโจทย์การใช้งานของคนทุกรูปแบบ โดยได้รับความร่วมมือจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ในด้านพื้นที่ก่อสร้างห้องน้ำ และมูลนิธิเอสซีจี ร่วมให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ

ปัจจุบันในแม่น้ำเจ้าพระยามีท่าเรือให้บริการจำนวน 40 ท่าเรือ ได้ดำเนินการก่อสร้างห้องน้ำแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการจำนวน 8 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือสาทร ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ท่าเรือเทเวศร์ ท่าเรือสะพานพระราม 7 ท่าเรือนนทบุรี และท่าพระนั่งเกล้า

นอกจากนี้ ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอีก 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือราชินี ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือท่าเกียกกาย ท่าเรือบางโพ และท่าเรือพายัพ ซึ่งท่าเรือข้างต้นเป็นท่าเรือที่เป็นจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ จึงเร่งดำเนินการก่อสร้างก่อนเพื่อรองรับการใช้งานและการท่องเที่ยวในปัจจุบัน

นอกจากนี้ กรมเจ้าท่ายังมีแผนที่จะดำเนินการสร้างเพื่อให้มีห้องน้ำทุกท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ให้บริการโดยสารทางน้ำเพิ่มเติมอีก 17 ท่าเรือ ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ท่าเรือปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ถึงท่าเรือวัดราชสิงขร กรุงเทพมหานคร เมื่อก่อสร้างห้องน้ำแล้วเสร็จคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและผู้ใช้บริการเดินทางทางน้ำบริเวณท่าเรือโดยสาร และเป็นอีกทางเลือกในการจูงใจให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะคมนาคมเพิ่มขึ้นในการเดินทางทางน้ำ เพื่อลดปัญหาการจราจรทางบกและประหยัดเวลาในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

[Wisarut]

พนักงานเรือแสนแสบฉีดวัคซีนโควิดแล้ว
พฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2564 เวลา 12.04 น.

พนักงานเรือโดยสารแสนแสบ 250 คน ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ฉลุย สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เสริมความมั่นใจผู้โดยสาร ลั่นประมาทยังคงเข้มมาตรการห่างไกลโรคระบาด

นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเดินเรือโดยสารคลองแสนแสบ เส้นทางท่าเรือวัดศรีบุญเรือง-สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เปิดเผยว่า พนักงานบริษัทฯ จำนวน 250 คน ได้เดินทางเข้ารับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดกลางบางซื่อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29-30 พ.ค.64 ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมและกรมเจ้าท่า ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มด่านหน้าซึ่งให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ ได้เข้ารับวัคซีน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อสูง และเป็นกลุ่มที่ให้บริการผู้โดยสาร  

นายเชาวลิต กล่าวต่อว่า โดยในจำนวนที่พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ทั้งหมดพบว่า มีพนักงานบางรายที่ไม่สามารถฉีดได้ เนื่องจากความดันสูง และตั้งครรภ์ ทำให้แพทย์ประเมินแล้วไม่สามารถเข้ารับการฉีดครั้งนี้ได้ จึงแนะนำให้มาฉีดวัคซีนในลำดับต่อไปเมื่อสภาพร่างกายมีความพร้อม ขณะเดียวกันพนักงานที่ฉีดวัคซีนไปแล้วไม่พบว่ามีผลข้างเคียงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการเข้าฉีดวัคซีนของพนักงานทั้งหมดครั้งนี้จะสามารถเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบมากยิ่งขึ้น รวมทั้งในกลุ่มพนักงานเรือโดยสารแสนแสบเองที่ให้บริการด้วย ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ หลังจากนั้นพนักงานจะเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นครั้งที่ 2 ในวันและเวลาตามที่แพทย์นัดต่อไป  



นายเชาวลิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเข้มงวดมาตรการป้องกันโควิด-19 เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การตั้งจุดวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการ วางเจลแอลกอฮอล์ภายในเรือ และท่าเรือ เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งทำความสะอาดจุดที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัย ลดการติดเชื้อฯ และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการในการเดินทางมากขึ้น 

[Wisarut]

เร่งพัฒนาท่าเรือยกระดับขนส่งทางน้ำ-คุณภาพชีวิต

03 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 15:30 น.


แม้จะเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐก็ยังคงเดินหน้าต่อไป วันนี้ "อาทิตย์เอกเขนก" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ที่ยังคงเดินหน้าปฏิบัติงานตามภารกิจในการกํากับดูแล ส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำและการพาณิชยนาวี ให้มีการเชื่อมต่อกับระบบการขนส่งอื่น ๆ ทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าที่ถือว่ามีความสำคัญต่อภาคการขนส่ง ต่อภาคเศรษฐกิจของไทยเรา ที่สำคัญยังช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนในการขนส่งด้วยเมื่อเทียบกับการขนส่งทางบก


อธิบดีกล่าวว่า ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นระลอกที่ 3 กรมเจ้าท่าในฐานะเป็นหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งสาธารณะทางน้ำที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจัยสำคัญคือการคุมเข้มมาตรการการแพร่เชื้อโรค โดยที่ผ่านมาได้เน้นย้ำ กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือร่วมทำความสะอาดท่าเทียบเรือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนกลางและภูมิภาคที่อยู่ในการดูแลยึดตามหลักข้อปฏิบัติตามหลักสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัดเต็ม 100%” อธิบดีกล่าว


ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนเรื่องการให้บริการที่คลองแสนแสบ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยในการให้บริการที่คลองแสนแสบ ท่าเรือทองหล่อ รวมถึงตรวจเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นย้ำไม่ให้ผู้โดยสารยืนเบียดกันภายในเรืออย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือดำเนินตามมาตรการอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ห้ามการ์ดตก เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อโรค


กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบดำเนินการมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในการเดินทางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยการตั้งจุดคัดกรองประจำท่าเทียบเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบ ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารเรือทุกคนสวมหน้ากากอนามัยขณะโดยสารเรือ และขณะรอขึ้น-ลงเรือ และให้ยืนเว้นระยะห่างตามจุดกำหนด (Social Distancing) ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการจัดจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกำชับให้พนักงานขนส่งปประจำท่าแจ้งกำชับให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร บริเวณท่าเทียบเรือและพื้นที่ให้บริการ พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข D-M-H-T-T อย่างต่อเนื่อง


อธิบดีเล่าต่อว่า ในส่วนของการพัฒนาการให้บริการท่าเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น กรมเจ้าท่าได้เดินหน้าพัฒาท่าเรือให้เพียงพอและสามารถรองรับการใช้งานของผู้โดยสารได้อย่างสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาการเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น เช่น รถไฟฟ้า รถประจำทาง ซึ่งปัจจุบันได้จัดทำแผนการพัฒนาการให้บริการท่าเรือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน เป็นการเพิ่มศักยภาพพร้อมยกระดับการโดยสารทางน้ำในทุกมิติ รวมทั้งได้ดำเนินการติดตั้งป้ายบอกทางเพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งในรูปแบบอื่น อาทิ รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถเมล์ และแหล่งเที่ยวโดยรอบท่าเรือ


“ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งป้ายแล้วเสร็จจำนวน 10 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือสาทร ท่าเรือโอเรียนเต็ล ท่าเรือสี่พระยา ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือท่าดินแดง ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือราชินี ท่าเรือเทเวศร์ และท่าเรือนนทบุรี สำหรับท่าเรืออื่นๆ กรมเจ้าท่าจะเร่งดำเนินการติดตั้งป้ายบอกทางให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้”


ขณะเดียวกันปรับปรุงท่าเทียบเรือ ติดตั้งป้ายบอกทางเพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งรูปแบบอื่น กรมเจ้าท่าได้ให้ความสำคัญแก่ผู้มาใช้บริการภายในท่าเรือ โดยได้ทำการก่อสร้างห้องน้ำสำหรับให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปและห้องน้ำสำหรับผู้พิการในรูปแบบที่ทันสมัย สวยงาม ได้มาตรฐาน สะอาด และสะดวกสบาย เพื่อให้ประชาชน รวมถึงผู้พิการและนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกในการใช้บริการระหว่างเดินทางมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันการใช้บริการเรือโดยสารสาธารณะในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทาง เนื่องจากมีความสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งบางสถานที่ยังไม่มีห้องสุขาให้บริการ


“หลังจากเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เล็งเห็นถึงการใช้บริการท่าเรือ มองว่าห้องน้ำมีส่วนสำคัญในการให้บริการผู้โดยสาร จึงได้มีนโยบายในการสร้างห้องน้ำร่วมกับการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบท่าเรือให้เกิดความสวยงาม เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารทางเรือและทางบก ช่วยเพิ่มศักยภาพในการโดยสารเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สามารถเชื่อมต่อระบบรถ ราง เรือ ส่งผลให้ประชาชนที่ใช้บริการด้านคมนาคมได้รับความสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนา”.

[Wisarut]

กทม. “หันหน้าเข้าคลอง” มุ่งปรับปรุงภูมิทัศน์คลองแสนแสบครบทุกด้าน
อสังหาริมทรัพย์
วันที่ 5 มิถุนายน 2564 - 13:57 น.


ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ “คลองแสนแสบ” ติดตามการพัฒนาฟื้นฟูภูมิทัศน์ พร้อมบูรณาการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย

วันที่ 5 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาฟื้นฟู ปรับปรุงภูมิทัศน์คลองแสนแสบ ตามเป้าหมายของกรุงเทพมหานครในการฟื้นฟูคลองแสนแสบ พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียและระบบความปลอดภัยทางน้ำในคลองต้นแบบ รณรงค์และการปลูกจิตสำนึกให้แก่ประชาชน

รวมทั้ง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขาให้ความร่วมมือในการดูแลรักษาภูมิทัศน์ริม 2 ฝั่งคลองให้มีความสะอาด สวยงาม เพื่อสร้างภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ และคณะผู้บริหารเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูล

ล่องเรือ เดินเท้า เข้าขุมชน
การติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาฟื้นฟู ปรับปรุงภูมิทัศน์คลองแสนแสบในครั้งนี้ เริ่มจากท่าเรือป้อมมหากาฬ เขตพระนคร เดินเรือต่อเนื่องเส้นทางคลองแสนแสบเพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการปรับปรุงภูมิทัศน์ 2 ฝั่งคลอง

ผ่านพื้นที่เขตราชเทวี เขตปทุมวัน เขตห้วยขวาง เขตวัฒนา และเขตสวนหลวง พร้อมขึ้นชมทัศนียภาพทางเดินริมคลอง ณ ท่าเรือสุเหร่าบ้านดอน เขตวัฒนา

ขึ้นเรือที่ท่าเรือราม 1 เขตสวนหลวง เพื่อเยี่ยมชมสวนดอกไม้จุด Check-in คลองตัน-คลองแสนแสบ ที่สำนักงานเขตสวนหลวงพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์จากที่รกร้างให้เป็นสวนสาธารณะและที่ออกกำลังกายในพื้นที่ เดินชมทัศนียภาพทางเดินริมคลองแสนแสบสุด คลองกะจะ


เยี่ยมชมมัสยิดยามีอุ้ลอิสลาม คลองตัน พร้อมพบปะพูดคุยกับพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ถึงความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เยี่ยมชมศาลเจ้า สมาคมตระกูลหวาง (อึ้ง) แห่งประเทศไทย และศาลเจ้า สมาคมตระกูลเลี่ยว

จากนั้นเยี่ยมชมจุด Check-in คลองแสนแสบ Street art และไม้ดอกไม้ประดับตลอดเส้นทางริมคลองแสนแสบ พร้อมพบปะประชาชนในชุมชนริมคลองแสนแสบ เขตสวนหลวง

ชวนทุกภาคส่วน #หันหน้าเข้าคลอง
ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร มีเป้าหมายในการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์คลองแสนแสบในทุกด้าน ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายในสังกัดของกรุงเทพมหานคร เช่น สำนักงานเขตและสำนักต่างๆ และหน่วยงานภายนอก เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมโยธาธิการและผังเมือง

รวมถึงภาคเอกชน และภาคประชาชน ผ่านการจัดกิจกรรมรณรงค์และการปลูกจิตสำนึกให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา ไม่ให้ทิ้งขยะหรือของเสียต่าง ๆ ลงในคูคลองและแหล่งน้ำสาธารณะ

ตลอดจนการขอความร่วมมือในการดูแลรักษาภูมิทัศน์ริม 2 ฝั่งคลองให้มีความสะอาด สวยงาม เพื่อสร้างภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมที่ดี ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา ไม่ให้ทิ้งขยะหรือของเสียต่าง ๆ ลงในคูคลองและแหล่งน้ำสาธารณะ และขอความร่วมมือในการดูแลรักษาภูมิทัศน์ริม 2 ฝั่งคลองให้มีความสะอาด สวยงาม เพื่อสร้างภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมที่ดีของคลองแสนแสบ ภายใต้แนวคิด “หันหน้าเข้าคลอง”




บูรณาการแก้ปัญหาน้ำเสียยั่งยืน
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายในสังกัดของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียเชิงบูรณาการ โดยการให้ความรู้และแนะนำในการติดตั้งถังดักไขมัน ติดตั้งบ่อเกรอะ บ่อซึม ถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป แก่บ้านเรือน ชุมชน และสถานประกอบการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด

ส่วนหน่วยงานภายนอก เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม หน่วยงานทหาร ภาคเอกชน และภาคประชาชน จัดกิจกรรมพัฒนาฟื้นฟูคุณภาพน้ำในคลอง การบังคับใช้กฎหมายกับสถานประกอบการให้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน และการจัดกิจกรรมรณรงค์และการปลูกจิตสำนึกให้แก่ประชาชน สนับสนุนการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาบำบัด เป็นต้น

ในส่วนของภาคเอกชน และภาคประชาชน จัดให้มีการรณรงค์ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบและคลองสาขา ไม่ให้ทิ้งขยะหรือของเสียต่าง ๆ ลงในคูคลองและแหล่งน้ำสาธารณะ ตลอดจนการขอความร่วมมือในการดูแลรักษาภูมิทัศน์ริม 2 ฝั่งคลองให้มีความสะอาด สวยงาม

เพื่อสร้างภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมที่ดีของคลองแสนแสบซึ่งผ่านพื้นที่ 21 เขตของกรุงเทพมหานครให้มีภูมิทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง เพื่อเป็นคลองต้นแบบของการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่เพื่อพัฒนาคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืนต่อไป

[Wisarut]

ปรับโฉม 3 ท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยาล่าช้า เหตุขาดแรงงาน กรมเจ้าท่าสั่งเร่งปิดจ็อบใน ก.ค.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 10:53 น.
ปรับปรุง: พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 10:53 น.

กรมเจ้าท่าสั่งเร่งสปีดปรับปรุง พัฒนา 3 ท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา "ท่าช้าง, ท่าเตียน, ท่าราชินี" หลังล่าช้าจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน คาดเสร็จใน ก.ค. เปิดบริการเต็มรูปแบบใน ส.ค. 64

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาให้มีความทันสมัย เพื่อยกระดับการให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดเชื่อมต่อรถ ราง เรือ ส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาให้เป็นมากกว่าท่าเรือโดยสาร โดยออกแบบสถาปัตยกรรมให้มีความสวยงาม มีโครงสร้างที่มั่นคง แข็งแรง เหมาะสมต่อการใช้งาน เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนที่สัญจรทางน้ำ และการเดินเรือ ซึ่งขณะนี้การพัฒนาท่าเรือทั้ง 3 ท่ามีความล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากขาดแคลนแรงงานในการก่อสร้าง ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วในบางส่วน โดยแบ่งรายละเอียดออกเป็น ดังนี้

1. ท่าเรือท่าช้าง ผลการดำเนินงานสะสม คิดเป็น 65% ช้ากว่าแผน 35%

2. ท่าเรือท่าเตียน ผลการดำเนินงานสะสม คิดเป็น 52% ช้ากว่าแผน 47%

3. ท่าเรือราชินี ผลการดำเนินงานสะสม คิดเป็น 40% ช้ากว่าแผน 20%

นายวิทยากล่าวว่า ได้กำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการจัดหาแรงงานมาเพิ่มเติม และจัดทำแผนเร่งรัดงานในส่วนที่เหลือทั้ง 3 ท่าเรือให้แล้วเสร็จตามแผนที่ได้กำหนด ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือนสิงหาคม 2564

โดยเน้นย้ำการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด และให้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันรณรงค์ในการรักษาทำความสะอาดบริเวณโดยรอบท่าเรือให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย รวมถึงเข้มงวดป้องกันการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอีกด้วย

ขาดแรงงานป่วนสร้างท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา3แห่งล่าช้า

อังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 19.42 น.
“อธิบดีเจ้าท่า” บี้งานสร้างท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา 3 แห่ง “ท่าช้าง-ราชินี-ท่าเตียน” ขาดแคลนแรงงานหนัก งานล่าช้ากว่าแผน สั่งผู้รับเหมาเร่งเพิ่มแรงงานด่วนปั่นแล้วเสร็จ ก.ค.นี้ ก่อนเปิดเต็มรูปแบบ ส.ค.64


นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 3 ท่า ได้แก่ ท่าเรือท่าช้าง, ท่าเรือราชินี และท่าเรือท่าเตียน เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 ขณะนี้พบว่าการพัฒนาท่าเรือทั้ง 3 ท่า มีความล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากขาดแคลนแรงงานในการก่อสร้าง ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วในบางส่วน โดยแบ่งรายละเอียดออกเป็น ดังนี้ 1.ท่าเรือท่าช้าง ผลการดำเนินงานสะสมคิดเป็น 65% ช้ากว่าแผน 35% 2.ท่าเรือท่าเตียน ผลการดำเนินงานสะสม 52% ช้ากว่าแผน 47% และ 3.ท่าเรือราชินี ผลการดำเนินงานสะสม 40% ช้ากว่าแผน 20%

ทั้งนี้ ได้กำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการจัดหาแรงงานมาเพิ่มเติม และจัดทำแผนเร่งรัดงานในส่วนที่เหลือทั้ง 3 ท่าเรือ ให้แล้วเสร็จตามแผนที่ได้กำหนด ภายในเดือน ก.ค.64 เพื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือน ส.ค.64 พร้อมเน้นย้ำทุกท่าเรือจะต้องมีห้องน้ำ ไว้สำหรับบริการประชาชน เพราะการพัฒนาและปรับปรุงท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อให้มีความทันสมัย



นายวิทยา กล่าวต่อว่า รวมทั้งยกระดับการให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดเชื่อมต่อ รถ ราง เรือ ส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาให้เป็นมากกว่าท่าเรือโดยสาร โดยออกแบบสถาปัตยกรรมให้มีความสวยงาม มีโครงสร้างที่มั่นคง แข็งแรง เหมาะสมต่อการใช้งาน เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนที่สัญจรทางน้ำ และการเดินเรือ

นอกจากนี้เข้มงวดการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ให้เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด และให้ประสานหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันรณรงค์ในการรักษาทำความสะอาดบริเวณโดยรอบท่าเรือให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย รวมถึงเข้มงวดป้องกันการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอีกด้วย

[Wisarut]

เร่งเปลี่ยนโฉมท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา19แห่ง
พุธที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 15.16 น.

“อธิรัฐ” รมช.คมนาคม ตามงานปรับปรุงท่าเรือโดยสารเจ้าพระยา พร้อมเปิดใช้ 19 สถานีเรือเต็มรูปแบบภายในปี 66 เร่งปรับโฉมท่าเรือท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล 5 ท่าเรือ ส.ค.นี้ พร้อมเปิดใช้ท่าเรือปากเมง-ศาลาด่านก่อน 

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่กระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบแอพพลิเคชั่นซูมร่วมกับนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) และคณะผู้บริหาร เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและท่าเรือท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาเพื่อยกระดับท่าเรือให้เป็นสถานีเรือ (Smart Pier) เชื่อมโยงระบบขนส่งอื่น โดยอธิบดีกรมเจ้าท่าได้รายงานสรุปความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงท่าเรือต่างๆ ดังนี้ 

สำหรับท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีการดำเนินการทั้งหมดรวม 19 ท่า แบ่งเป็นดำเนินการแล้วเสร็จ 3 ท่า ได้แก่ 1.ท่ากรมเจ้าท่า 2.ท่าสะพานพุทธ และ 3.ท่าน้ำนนทบุรี ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 8 ท่า ได้แก่ 1.ท่าช้าง ผลงาน 70% แล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค.64 2.ท่าเตียน ผลงาน 60% แล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค.64 3.ท่าราชินี ผลงาน 60% แล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค.64 



4.ท่าสาทร ผลงาน 40% แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค.64 5.ท่าพระราม 7 ผู้รับจ้างเตรียมดำเนินการปรับปรุง แล้วเสร็จภายใน 30 พ.ย.64 6.ท่าพายัพ ผู้รับจ้างเตรียมดำเนินการปรับปรุง แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค.64 7.ท่าเกียกกาย ผลงาน 0.5% แล้วเสร็จภายใน 31 พ.ค.65 และ 8.ท่าบางโพ ผลงาน 0.1% แล้วเสร็จภายใน 31 พ.ค.65 ทั้งนี้มีแผนดำเนินการปรับปรุงในปี 65 แล้วเสร็จในปี 66 จำนวนอีก 8 ท่า ได้แก่ 1.ท่าราชวงศ์ 2.ท่าสี่พระยา 3.ท่าพระปิ่นเกล้า 4.ท่าพระราม 5 5.ท่าเขียวไข่กา 6.ท่าสะพานกรุงธน 7.ท่าพรานนก และ 8.ท่าเทเวศร์ (ท่าข้ามฟาก) พร้อมทั้งดำเนินการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์และระบบการให้บริการบนท่าเรือทั้ง 19 ท่าให้เป็น Smart Pier 



ส่วนท่าเรือท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลที่อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 5 ท่า ได้แก่ 1.ท่าเรือปากเมง จ.ตรัง ผลงาน 73% จะแล้วเสร็จภายใน ก.ค.64 พร้อมเปิดให้บริการ ส.ค.64 2.ท่าเรือศาลาด่าน จ.กระบี่ ผลงาน 70% จะแล้วเสร็จภายใน ก.ค.64 พร้อมเปิดให้บริการ ส.ค.64 3.ท่าเรือท้องศาลา และท่าเรือหาดริ้น อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ผลงาน 8.6% กำหนดแล้วเสร็จ 5 ธ.ค.65 4.ท่าเรือปากคลองจิหลาด จ.กระบี่ ผลงาน 10.12% กำหนดแล้วเสร็จ 19 ม.ค.65 

และ 5.ท่าเรือเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี (ขั้นตอนการอนุมัติจ้าง) คาดว่าจะดำเนินการปรับปรุงแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค.66 นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการกรมเจ้าท่า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องปฏิบัติงานดูแลพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการเรือโดยสาร ผู้ให้บริการ ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบทุกคน เพื่อเป็นการป้องกันทั้งในส่วนของผู้ปฏิบัติงานเองและผู้โดยสาร 

[Wisarut]

"เรือแสนแสบ" พร้อมรับมือวิ่งหน้าฝนปลอดภัย
อังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 10.10 น.

“เรือคลองแสนแสบ” เตรียมพร้อมเดินทางช่วงหน้าฝน ผู้โดยสาร 6,000-7,000 คน ปลอดภัย ย้ำมาตรการขับช้า จอดเทียบท่าสนิทก่อนขึ้น-ลง พร้อมพ่นทรายกันลื่น ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  


นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเดินเรือโดยสารคลองแสนแสบ เส้นทางท่าเรือวัดศรีบุญเรือง-สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงเข้าสู่หน้าฝน ทำให้บริเวณท่าเรือทั้ง 27 ท่า เรือมีความเปียกแฉะ และเสี่ยงต่อการลื่นล้ม เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ประกอบกับมีสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโควิด-19 ระบาดระลอก 3 ทำให้ผู้โดยสารใช้บริการจำนวนไม่มากนัก แบ่งเป็นช่วงวันทำงานปกติ วันจันทร์-ศุกร์ อยู่ที่ 6,000-7,000 คน และ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ 2,000 กว่าคน ในจำนวนเรือที่ให้บริการ 50 ลำ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางช่วงหน้าฝน บริษัทฯ จึงเตรียมดำเนินการฉีดพ่นทรายบริเวณท่าเรือคลองแสนแสบทุกท่าเรือ เพื่อป้องกันการลื่นของผู้โดยสารที่มาใช้บริการเรือแสนแสบ

นายเชาวลิต กล่าวต่อว่า รวมทั้งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงหลังคาที่ท่ายืนรอเรือ เตรียมเสื้อชูชีพให้พร้อมใช้งาน ตรวจสภาพเรือให้พร้อมใช้งาน เช่น เหล็กข้างเรือ และผ้าใบกันน้ำ หากพบว่าบกพร่อง ชำรุดต้องหยุดให้บริการและนำมาซ่อมแซมทันที นอกจากนี้ได้กำชับให้พนักงานขับเรือใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือมากขึ้น ใช้ความเร็วในการเดินเรือไม่เกิน 30 กม.ต่อ ชม. ส่วนพนักงานเก็บค่าโดยสารให้คอยสอดส่องดูแลผู้โดยสารขณะขึ้น-ลงเรือ ต้องรอให้เรือจอดสนิทเทียบท่าเรือก่อนขึ้น-ลงได้ ห้ามไม่ให้ผู้โดยสารยืนกราบเรือ พร้อมทั้งภายในเรือโดยสารทำให้สะอาดอยู่เสมอ พยายามไม่ให้พื้นเรือเปียก 

นายเชาวลิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่าคอยอำนวยความสะดวกและความความปลอดภัยของผู้โดยสารที่ใช้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบในบริเวณท่าเรือที่มีการใช้บริการหนาแน่น เช่น ท่าเรือประตูน้ำ ท่าโบ๊เบ๊ ท่าอโศก  และ ท่าเดอะมอลล์บางกะปิ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น ตลอดจนติดตามสถานการณ์จากประกาศกรมอุตินิยมวิทยาอยู่เสมอ หากพายุเข้าหรือฝนตกต้องเตรียมความพร้อมประสานกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อดูปริมาณน้ำในคลอง หากมีน้ำสะสมเพิ่มสูงขึ้นและระบายน้ำไม่ทันไม่สามารถเดินเรือได้ต้องประชาสัมพันธ์หยุดเดินเรือชั่วคราวประมาณ 1 ชม. ก่อนเพื่อให้น้ำลด จากนั้นจึงกลับมาให้บริการตามปกติต่อไป อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ระมัดระวังตนเองในการใช้บริการทุกครั้ง รวมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างคร่งครัดด้วย  

[Wisarut]

สกลธี ภัททิยกุล
14 มิถุนายน 2564 เวลา 11:24 น.
สิ้นสุดการรอคอยละครับ ⛴⛴⛴ เช้านี้ผมไปทำพิธีบวงสรวงแม่ย่านางเรือไฟฟ้าใหม่หมาดๆ ของกรุงเทพมหานครจำนวน 12 ลำตั้งชื่อตาม 12 ราศี โดยเรือไฟฟ้าทั้ง 12 ลำจะใช้วิ่งให้บริการพี่น้องประชาชนในคลองแสนแสบในส่วนที่เรือของเอกชนไม่ได้ให้บริการตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนและเป็นการเชื่อมต่อการขนส่งสาธารณะตามนโยบาย “ล้อ ราง เรือ” ครับ
เรือทั้ง 12 ลำมี 40 ที่นั่ง ที่จอดรถเข็น 2 ที่ ที่จอดจักรยาน 2 คัน เดินเครื่องด้วยระบบไฟฟ้า 2 เครื่องยนต์พร้อม แผ่นพลังงานแสงอาทิตย์สำรองครับ มี GPS ประจำเรือและกล้อง cctv ทุกลำครับ ลักษณะจะคล้ายๆ เรือไฟฟ้าของกรุงเทพมหานครที่เดินให้บริการอยู่ที่คลองผดุงกรุงเกษมครับ (ดูรายละเอียดตามรูปแนบครับ)
ระยะทางทั้งหมด 10.5 กม. โดยจะเดินเรือผ่านกลุ่มเขตกรุงเทพฯ ตะวันออก คือ บางกะปิ สะพานสูง บึงกุ่ม คันนายาว มีนบุรี รวม 5 เขตครับ พร้อมกันนี้ทางกรุงเทพมหานครได้สร้างท่าเรือใหม่ขึ้น 8 ท่าคือ ท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี ==> ท่าเรือตลาดมีนบุรี ==> ท่าเรือชุมชนหลอแหลใหญ่ ==> ท่าเรือสุเหร่าแดง ==> ท่าเรือหมู่บ้านร่มไทร ==> ท่าเรือคลองระหัส ==> ท่าเรือเสรีไทย 26 ==> ท่าเรือ ร.ร.พร้อมมิตร โดยจะไปเชื่อมกับท่าเรือวัดศรีบุญเรืองของเอกชนครับ (ดูรายละเอียดตามรูปแนบครับ)
โดยกรุงเทพมหานครจะเริ่มเปิดทดลองวิ่งให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประมาณปลายเดือน ส.ค.นี้ครับ ช่วงแรกจะยังไม่เก็บค่าบริการครับ และถ้าโครงการประสบความสำเร็จจะได้ต่อยอดความเป็นไปได้ในการเพิ่มจำนวนเรือและเดินเรือในคลองแสนแสบทั้งเส้นถึงกรุงเทพฯ ชั้นในต่อไปครับ…รอติดตามข่าวสารจากกรุงเทพมหานครต่อไปนะครับ 👍🏻👍🏻👍🏻 #ล้อรางเรือ 🚌🚝⛴ #กรุงเทพฯจะดีได้ถ้าเราช่วยกันครับ #เรือไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม

—————————
รายละเอียดเรือไฟฟ้าคลองแสนแสบ
เรือมีขนาด 12.50 x 3.20 เมตร ซึ่งใหญ่กว่าคลองผดุงซึ่งมีขนาด 9.90 x 2.98 เมตร เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความสูงสะพานและขนาดคลองน้อยกว่า
รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 40 คน(นั่งทั้งหมด) ซึ่งคลองผดุงรับได้แค่ 30 คน
รองรับรถเข็นคนพิการ 2 ที
รองรับจักรยาน 2 คัน
ความเร็วสูงสุด 17 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ให้บริการจริง 10-15 กิโลเมตร/ชั่วโมง)
เครื่องยนต์ Torqeedo 10 kW x 2 ชุด (จากเยอรมัน)
แบตเตอรี่ 48 V 5 kW x 4 ชุด
แผง Solar cell สำหรับไฟใช้ในเรือ 170w x 8 ชุด
การชาร์จแบตเตอรี่จะใช้รูปแบบการเปลี่ยน Module ยกออก แล้วสลับแบตเตอรี่ใหม่เข้าแทน (ไม่แน่ใจว่าใช้อะไรยก แล้วเชื่อมต่อง่ายขนาดไหน ต้องตามไปดูตอนให้บริการอีกที)
ใช้เวลาชาร์จ 90-120 นาที/รอบ สามารถให้บริการได้ 2-3 ชั่วโมง
วัสดุตัวเรือเป็น Fiberglass
ตัวเรือออกแบบภายใต้มาตรฐาน ISO12215-5
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในเรือ
- กล้อง CCTV เพื่อความปลอดภัย 3 ชุด
- ราวสแตนเลสกันตก
- ถังดับเพลิง
- สปอร์ทไลท์นำทาง
- สัญญาณไฟเรือ
—————————
หวังว่าบ้านเราจะมีหน่วยงานท้องถิ่นนำเรือเหล่านี้ไปเพิ่มและขยายผลต่อไปนะครับ โดยเฉพาะ “เทศบาลรังสิต” ไปเดินเรือคลองรังสิตซักที!!!!

https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/1211432829295194

[Wisarut]

วันนี้!! เรือแสนแสบหยุดวิ่งพนักงานไปฉีดวัคซีนเข็มสอง
หน้า ข่าว เศรษฐกิจ-โลจิสติกส์
เดลินิวส์
เสาร์ที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา 09.35 น.

เรือคลองแสนแสบหยุดวิ่ง 19-20 มิ.ย.64 พาพนักงานกว่า 250 คน เข้าฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มสอง ที่สถานีกลางบางซื่อ หวังสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เสริมความมั่นใจผู้ใช้บริการ พร้อมกลับมาวิ่งปกติ 21 มิ.ย.นี้

นายเชาวลิต เมธยะประภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเดินเรือคลองแสนแสบ เปิดเผยว่า วันที่ 19-20 มิ.ย.64 บริษัทฯ ได้หยุดให้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบ เนื่องจากพนักงานที่มี 250 กว่าคนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อฯ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้บริการต่อไป จากนั้นในวันที่ 21 มิ.ย.64 จะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29-30 พ.ค.64 บริษัทฯ ได้ประกาศหยุดให้บริการเรือโดยสารคลองแสนแสบมาแล้ว 1 ครั้ง เนื่องจากพนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีนครั้งที่ 1 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเช่นเดียวกัน.

[Wisarut]

"เรือด่วนเจ้าพระยา"ฉีดวัคซีนครบ2เข็มเพิ่มมั่นใจบริการ
จันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 11.58 น.

พนักงาน “เรือด่วนเจ้าพระยา” ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 270 คน เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ พร้อมยังคุมเข้มมาตราการป้องกันโควิด-19


นาวาตรีเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา แจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ พนักงานเรือด่วนเจ้าพระยา  พนักงานขายบัตรโดยสาร เจ้าหน้าที่คนขับเรือ จำนวน 270 คน ได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครบทั้ง 2 โดสเรียบร้อยแล้ว ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิดกลางบางซื่อ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม และกรมเจ้าท่า ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มด่านหน้า ซึ่งให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทในเขตกรุงเทพฯ ได้เข้ารับวัคซีน เพื่อสร้างความมั่นใจในการให้บริการผู้โดยสาร และเตรียมพร้อมรับสัญญาณที่ดีในการที่จะเปิดประเทศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยพนักงานขายตั๋วโดยสาร และพนักงานบริการที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดส จะมีเข็มกลัดแสดงสัญลักษณ์ ติดไว้ที่บริเวณหน้าอก เป็นข้อความว่า “ฉีดวัคซีนแล้ว  I GOT MY COVID-19 VACCINE!” 

นาวาตรีเจริญพร กล่าวต่อว่า ถึงแม้พนักงาน เจ้าหน้าที่ทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่บริษัทฯ ยังคงเข้มงวดกับมาตรการป้องกันโควิด-19 เหมือนเดิม อาทิ การตั้งจุดวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการ วางเจลแอลกอฮอล์บริเวณจุดจำหน่ายตั๋วโดยสาร และทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ และเพื่อเป็นการเตรียมรับการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวใหม่อีกครั้ง ของประชาชนคนไทย และชาวต่างชาติ



ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พนักงาน บริษัทฯ จึงได้จัดกรมธรรม์ประกันภัยการติดเชื้อโควิด-19 กับ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย วงเงินความคุ้มครองประกันภัย 100,000 บาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ได้ร่วมกันฝ่าฟันวิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ มาเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ต้นปี 63 ที่เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ดังคำกล่าวของ คุณสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ประธานกรรมการบริษัทฯ ที่ระบุว่า “พนักงานทุกคน คือทรัพยากรที่สำคัญ และเป็นกำลังสำคัญของบริษัทฯ เปรียบเสมือนคนในครอบครัว”

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณผู้โดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา ที่พร้อมอยู่เคียงข้างใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เราจะพยายามทำทุกวิถีทางให้ก้าวข้ามผ่านเหตุการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกันสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ : Chao Phraya Express Boat-เรือด่วนเจ้าพระยา หรือ Line@: @cpxcare..