Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311331
ทั่วไป:13292513
ทั้งหมด:13603844
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟแลนด์บริดจ์สายชุมพร-ระนอง
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 16, 17, 18, 19, 20  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 19/01/2024 11:47 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'ธนกร' ฟาด 4 สส.ก้าวไกล จงใจสร้างดราม่า ลาออก กมธ.แลนด์บริดจ์
ไทยโพสต์ 13 มกราคม 2567 เวลา 9:11 น.



'มนพร'สวน'ก้าวไกล'รัฐบาลศึกษาแลนด์บริดจ์ทุกมิติ-หากไม่คุ้มค่าจะทบทวน
หน้า การเมือง

18 มกราคม 2567 เวลา 11:22 น.

"มนพร" ตอบกระทู้สดกลางสภาฯ ประเด็น แลนด์บริดจ์ ชี้อยู่ระหว่างการศึกษาทุกมิติ รับฟังทุกความเห็น ย้ำหากไม่คุ้มค่าจะทบทวน ด้าน "ก้าวไกล" งงศึกษาไม่เสร็จ "นายกฯ" ไปเร่ขายทำไม หวั่นจะขายหน้า
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ วาระกระทู้ถามสด ซึ่งมีประเด็นตั้งถามเกี่ยวกับการทำโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน ซึ่งมีผู้ตั้งถาม จำนวน 2 กระทู้ จาก สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคก้าวไกล โดยรัฐบาลส่ง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เป็นผู้ชี้แจงแทน เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม มีภารกิจที่ต่างประเทศ

โดย นางมนพร ตอบกระทู้ถามสดแรก ซึ่งตั้งถามโดยสส.ของพรรคเพื่อไทย ว่า จากการโรดโชว์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง และนายสุริย จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ที่ต่างประเทศ พบว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจและเข้าร่วมหารือ ซึ่งนักลงทุนสนับสนุนเพราะต้องการช่องทางขนส่งทางเรือที่สามารถขนส่งสินค้าได้สะดวก ล่าสุดนายเศรษฐา ที่เดินทางไปยังกรุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ได้พูดคุยกับนักลงทุนใน กลุ่มสหภาพยุโรป ได้รับเสียงต่อรับ ได้รับความสนใจและตอบรับนักธุรกิจเชิงบวก ได้ขยายความคิดและโครงการให้นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งประเทศไทยต้องการโอกาสทำโครงการขนาดใหญ่เพื่อให้ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน


รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายพิเศษแก้ปัญหาปชช.
นางมนพร กล่าวด้วยว่าโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทุกโครงการต้องฟังความเห็น ออกกฎหมาย ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม เสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งตนเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการฯ ได้เชิญคนที่เห็นด้วยและเห็นต่างให้ความเห็น รวมถึงศึกษาทุกมิติ อาทิ ความมั่นคง อุตสาหกรรม ต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม และให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

“การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแลนด์บริดจ์ มีผลกกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นความท้าทายที่ต้องวางแผนเพื่อแก้ปัญหา ผลกระทบในพื้นที่ที่ รวมถึงคำนึงถึงการเวนคืนที่ดินในราคาที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจให้กับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ นอกจากนั้น กรรมาธิการฯ ได้ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน พบว่าประชาชนส่วนหนึ่งคัดค้านเพราะไม่อยากสูญเสียที่ดินทำกินดั้งเดิม สิทธิในที่อยู่อาศัย และการประมงพื้นบ้าน ซึ่งรัฐบาลไม่ละเลยเสียงคัดค้านดังกล่าวและเตรียมออกกฎหมายพิเศษในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยนำความเห็นของประชาชนมาพิจารณา ทั้งนี้ความเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีเสมอ” นางมนพร ชี้แจง


รมช.คมนาคม กล่าวตอบคำถามถึงการศึกษาโครงการและระยะเวลาสิ้นสุด หลังจากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่าจะใช้เวลาถึงปี 2573 ว่า ในการศึกษาแบ่งเป็น 3 ส่วน โดย

1. ศึกษาความเหมาะสมโครงการ การออกแบบท่าเรือ รูปแบบการลงทุน ซึ่งรับผิดชอบโดย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยใช้เวลา 1 ปี

2. งานก่อสร้างรถไฟขนส่ง ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษา วางหมุดเส้นทางและ เวนคืน พร้อมกับรับฟังความเห็นของประชาชน

และ 3. การทำอีไอเอ ในส่วนของการกก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณ ปี2567 เพื่อจ้างที่ปรึกษาออกแบบเบื้องต้น



สส.ก้าวไกล ฉะ รัฐบาลฝันใหญ่ ไร้ข้อมูลจริง
ขณะที่การตั้งกระทู้ถามของ สส.พรรคก้าวไกล โดย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ซักถามถึงรายละเอียดของผลการศึกษาบนข้อเท็จจริง เช่น สายการเดินเรือ การลดค่าใช้จ่ายในสายการเดินเรือที่มีความคุ้มค่าต่อการลงทุนระหว่าง แลนด์บริดจ์เมื่อเทียบกับช่องแคบมะละกา รวมถึงประมาณการเรือขนส่งที่จะใช้เส้นทางแลนด์บริดจ์ตามผลการศึกษาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตนฐานะฝ่ายค้าน ไม่ได้ค้านไปเรื่อย แต่จากการรับฟังข้อมูลไม่พบรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริง แต่พบเป็นข้อมูลเพื่ออวยเท่านั้น และฝันใหญ่เท่านั้น

อ้าง สภาพัฒน์ ชี้แลนด์บริดจ์ไม่คุ้มค่า
“จากผลการศึกษาพบว่ากการขนส่งจะเสียเวลา 7-10 วัน ที่จะขนย้ายสินค้าขึ้นลง และสายการเดินเรือต้องเพิ่มจำนวนเรือ 7-10 ลำ ถือว่ามีค่าใช้จ่ายและเสียเวลาที่มากกว่า ช่องแคบมะละกา และช่องทางเดินเรืออื่นๆ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีข้อมูลที่มีนัยสำคัญที่จะบอกในความคุ้มค่าของการลงทุน ทั้งนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สภาพัฒน์ฯ บอกว่าโครงการดังกล่าวไม่คุ้มค่า และเสนอให้ลดขนาดของโครงการและลงทุน รวมถึงผลระทบชุมชน ผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ขณะนี้รัฐบาลต้องการเพิ่มขนาด ข้อมูลทางธุรกิจไม่ชัดเจน แต่ไปเร่ขาย ซึ่งจะขายของหรือขายหน้าต้องรอดู” นายสุรเชษฐ์ ตั้งกระทู้

ดัน แลนด์บริดจ์ เป็นเส้นทางขนส่งสินค้า จากจีนใต้
โดย นางมนพร ชี้แจงว่าตนจะผลักดันความฝันแลนด์บริดจ์นั้นให้เป็นจริงและลงมือทำ ทั้งนี้โครงการช่องทางแลนด์บริดจ์เพื่อลดการเสียเวลาและระยะทางขนส่ง จากที่ช่องแคบมะละกามีความแออัด และมีปัญหาปล้นเรือสินค้าเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การขนส่งสินค้าจากประเทศจีนไป ออสเตรเลีย ทางเรือมีเพิ่มมากขึ้น แต่ประเทศจีนตอนใต้หลายพื้นที่ไม่ติดทะเล หากมีโครงการแลนด์บริดจ์จะทำให้มีเรือตู้สินค้ามาที่แลนด์บริดจ์เพิ่มมากขึ้น เพราะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แม้ไม่ใช่ทุกเส้นทางการเดินเรือ แต่จากการศึกษาพบว่า เส้นทางที่ขนส่งเส้นทางเรือฟีดเดอร์ที่จะประหยัด แต่ระยะยาวหากจำนวนตู้สินค้าเพิ่มมากขึ้น เรือใหญ่จะเข้ามารับตู้สินค้าจากท่าเรือระนอง จะมีเพิ่มมากขึ้น

ย้ำหากผลศึกษา ชี้เป็นไปไม่ได้ จะทบทวน
“อย่างสินค้าเทกอง ปูนซีเมนต์ หรือไม้ ที่ขนส่งโดยตู้สินค้า หากเข้ามาที่ท่าเรือระนองจะลดต้นทุนสินค้า และเมื่อมีเรือมากขึ้นจะทำให้เกิดการตอบโต ขณะที่ความคุ้มค่าของการทำโครงการขนาดใหญ่ นั้น ยืนยันว่าบริษัทที่ปรึกษาจะศึกษาทุกมิติ และบริษัทที่จะลงทุนต้องเข้ามาศึกษาในการศึกษาของประเทศไทยในแง่ความเป็นไปได้ หากไม่คุ้มค่าเขาไม่มาลงทุน แต่เมื่อศึกษาแล้วประเด็นที่เป็นไปไม่ได้ต้องกลับมาทบทวน” นางมนพร ชี้แจง

นางมนพร กล่าวตอบคำถามถึงการขนส่งสินค้าเทกอง และการขนส่งน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมันที่อยู่ในผลการศึกษาหรือไม่ ว่า เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการไม่ได้บอกว่า จะนำสินค้าประเภทใดที่จะเข้าสู่เส้นทาง ซึ่งประเด็นการสร้างโรงกลั่นหรือท่อน้ำมัน ทางสนข.เคยตอบคำถามในกรรมาธิการฯ แล้วหากจะมีต้องมีการศึกษา ทั้งนี้ในรายละเอียดของสินค้านั้น ขอชี้แจงว่าเป็นเพียงผลการศึกษาที่ยังไม่เสร็จสิ้น หากศึกษาแล้วเสร็จจะรายงานในทุกมิติ

ก้าวไกล สงสัย ผลศึกษาไม่ชัดเจน ทำไปไปเร่ขายต่างประเทศ
นายสุรเชษฐ์ ตั้งกระทู้ถามย้ำว่า เมื่อผลศึกษายังไม่ชัดเจน ทำไมถึงไปเร่ขายต่างประเทศแล้ว ขณะที่การศึกษาอื่นๆ เช่น มอเตอร์เวย์ ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งการดำเนินการในโครงการที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลจะยกที่ให้นายทุนกี่ไร่ และนานเท่าไร นอกจากนั้นยังมีประเด็นการชักศึกเข้าบ้านในแง่นโยบายทางการเมืองด้วย ทั้งนี้ควรคำนึงถึงมิติเชิงพื้นที่มากกว่าการขายฝันโครงการใหญ่ที่พบว่าหลายโครงการไม่ประสบความสำเร็จ ประชาชนเดือดร้อน แต่ผู้รับเหมารวย ทั้งนี้ขอให้ไตร่ตรองให้ดีว่าควรทำหรือไม่ควรทำ มีความคุ้มค่าและโปร่งใส มากกว่าอยากทำหรือไม่

'มนพร'สวน'ก้าวไกล'รัฐบาลศึกษาแลนด์บริดจ์ทุกมิติ-หากไม่คุ้มค่าจะทบทวน

ชี้แลนด์บริดจ์ ก่อนคิกออฟ สภาฯ ที่ต้องเห็นชอบ
โดยนางมนพร ชี้แจงว่า ยอมรับว่าทุกโครงการมีผลกระทบ จึงใช้กลไกของสภาฯ ผ่านกรรมาธิการฯ ที่ประกอบด้วยทุกพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาศึกษา ประชุมกว่า 10 ครั้ง และลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากนั้นเมื่อศึกษาแล้วจะนำมาให้สภาฯ พิจารณาและสส.สามารถให้ความเห็นได้ หากส่วนใหญ่เห็นชอบให้รัฐบาลจะพิจารณาว่ามีสาระทำโครงการหรือไม่ หากตั้งโครงการและจะทำ ต้องมาขอความเห็นชอบจากสภาฯ ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ หากพบว่าของบสูงเกินไป สามารถอภิปรายปรับลดได้

“ทั้งนี้ก่อนทำโครงการได้มีการศึกษารายละเอียดใน 10 ส่วน ยืนยยันว่าไม่มีการหมกเม็ด ทั้งระบบโลจิสติกส์ การออกแบบ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์รูปแบบการลงทุน การออกแบบท่าเรือ 84% สถานะประเมินผลเกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อม ข้อกังวลของประชาชน ชาวประมง การขับเคลื่อนและการร่วมทุน ซึ่งกระบวนการแต่ละส่วนอยู่ระหว่างการศึกษา ทั้งนี้ในข้อห่วงใยของฝ่ายค้านจะนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาด้วย” นางมนพร กล่าว.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 19/01/2024 11:58 am    Post subject: Reply with quote

สมรภูมิแลนด์บริดจ์ ศึก 'บ้านใหญ่' ชุมพร-ระนอง
คอลัมน์ มังกรซ่อนพยัคฆ์
By ประชา บูรพาวิถี
15 มกราคม 2567 เวลา 8:01 น.

แลนด์บริดจ์การเมือง "ลูกหมี ชุมพล" รวมพลบ้านใหญ่ 2 ตระกูล ปักธงยึด อบจ.ชุมพร ประสานบ้านใหญ่ "ฮั้งเพ้ง" ทวงคืน อบจ.ระนอง

การเมืองเรื่องแลนด์บริดจ์ กำลังเป็นประเด็นร้อนในสภาฯ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล แต่ในมิติการเมืองท้องถิ่น ก็เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง ‘บ้านใหญ่’ ทั้งใน จ.ชุมพร และ จ.ระนอง

โครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ถูกพูดถึงมาเกือบ 40 ปีแล้ว ผ่านมาหลายยุค หลายรัฐบาล ก็ยังไม่ไปไม่ถึงไหน กระทั่งรัฐบาลประยุทธ์ได้บรรจุไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ทนลงมือ ยุบสภาไปเสียก่อน

แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง เมกะโปรเจกต์งบฯ ล้านล้านบาท จึงต้องมาลุ้นต่อในรัฐบาลเศรษฐา โดยเฉพาะการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.ระนองระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค.นี้ คงจะมีทั้งฝ่ายหนุนและฝ่ายต้าน ได้แสดงพลังต้อนรับนายกฯเศรษฐา



เมื่อโฟกัสการเมืองแนวรบแลนด์บริดจ์ ปรากฏว่า สส.ชุมพร และ สส.ระนอง เป็นผู้แทนฯ พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย

การเลือกตั้ง สส.ปีที่แล้ว จ.ชุมพร พรรค รทสช. สร้างปรากฏการณ์ลุงตู่แลนด์สไลด์ กวาดที่นั่ง สส.ไปได้ทั้ง 3 เขตคือ วิชัย สุดสวาสดิ์ ,สันต์ แซ่ตั้ง และสุพล จุลใส

สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้อันดับหนึ่ง 98,920 คะแนน ทิ้งห่างอันดับสอง พรรคก้าวไกล ที่ได้ 52,602 คะแนน

ส่วน จ.ระนอง คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ พรรคภูมิใจไทย ยังได้รับเลือกเป็นสมัยที่ 2 เที่ยวนี้ สส.เอ มีคะแนนทิ้งห่างพรรค รทสช.เท่าตัว

สมรภูมิแลนด์บริดจ์ ศึก 'บ้านใหญ่' ชุมพร-ระนอง

ปี 2567 จะเป็นปีสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น เฉพาะนายก อบจ. ที่จะหมดวาระลงในช่วงปลายปีนี้ ฉะนั้น จึงเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มบ้านใหญ่ทั้ง 2 จังหวัด



รวมพลคนบ้านใหญ่

หลังปีใหม่ นายกใช้-ศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร ได้โพสต์เฟซบุ๊คเป็นภาพการพบปะสังสรรค์ของนักการเมืองทั้งระดับชาติ และท้องถิ่น ใน จ.ชุมพร

สมรภูมิแลนด์บริดจ์ ศึก 'บ้านใหญ่' ชุมพร-ระนอง

ในภาพนั้น มีทั้ง ชุมพล จุลใส อดีต สส.ชุมพร ,นพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร, ศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร, อำพัน มากอำไพ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง ,เอี่ยม มากอำไพ อดีตนายก เทศมนตรีตำบลท่ายาง พร้อมด้วยสมาชิก ส.อบจ.ชุมพร ทีมพลังชุมพร และคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองชุมพร

จะว่าไปแล้ว พวกเขาก็คือ คนการเมืองซุ้มเดียวกัน เพียงแต่การเลือกตั้ง สส.ครั้งที่ผ่านมา ต้องขับเคี่ยวกันเอง เพราะบ้านใหญ่จุลใส กับบ้านใหญ่มากอำพัน อยู่กันคนละพรรค

สมรภูมิแลนด์บริดจ์ ศึก 'บ้านใหญ่' ชุมพร-ระนอง

เมื่อ ลูกหมี-ชุมพล จุลใส ส่งมือขวา วิชัย สุดสวาสดิ์ สวมเสื้อ รทสช. ลงแข่งกับ อิสรพงษ์ มากอำไพ สีเสื้อ ปชป. ซึ่งเป็นลูกชายโกหีต-อำไพ มากอำไพ บ้านใหญ่ ต.ท่ายาง

ดังนั้น การนัดเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับปีใหม่ เหมือนการนัดล้างใจของซุ้มบ้านใหญ่ตระกูลจุลใส กับตระกูลมากอำไพ โดยมีนายกใช้- ศรีชัย วีระนรพานิช เป็นผู้ประสานงาน


โกหีต-ลูกหมี

โกหีต-อำไพ และตั๋ง-มารยาท มากอำไพ เจ้าของธุรกิจรับสัมปทานรังนก และร้านทองเพชรนพเก้า หลายสาขาใน จ.ชุมพร เป็นลมใต้ปีกของอดีตตำรวจชั้นประทวนอย่างลูกหมี-ชุมพล จุลใส ได้ผงาดในเวทีการเมืองชุมพร

การเลือกตั้งท้องถิ่นสมัยที่แล้ว ไม่ว่า นายกใช้- ศรีชัย วีระนรพานิช นายกเทศมนตรีเมืองชุมพร และนายกโต้ง-นพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ล้วนได้รับการสนับสนุนจากโกหีต บ้านใหญ่ท่ายาง

นายกโต้ง-นพพร หัวหน้าทีมพลังชุมพร เป็นน้องเขยของลูกหมี-ชุมพล จุลใส สส.ชุมพร และลูกช้าง-สุพล จุลใส สส.ชุมพร เขต 3 พรรค รทสช.

สมรภูมิแลนด์บริดจ์ ศึก 'บ้านใหญ่' ชุมพร-ระนอง

สมัยหน้า ลูกหมี-ชุมพล ยังวางใจให้นายกโต้ง นำทีม สจ.พลังชุมพร ลงสนาม อบจ.ชุมพร

การรวมพลคนบ้านใหญ่ นัดล้างใจกันระหว่างตระกูลจุลใส และตระกูลมากอำไพ ก็เพื่อการันตีชัยชนะในศึกเลือกนายก อบจ.ชุมพร

ช่วงปีใหม่ คนชุมพรจึงเห็นภาพนายกโต้ง นพพร ออกงานร่วมอดีต สส.ตาร์ท-อิสรพงษ์ มากอำไพ ลูกชายโกหีต

สงครามตัวแทน

ข้ามฝั่งมาทาง จ.ระนอง การเมืองท้องถิ่นสมัยหน้า ก็น่าจะเป็นมวยคู่เดิมคือ กลุ่มระนองก้าวหน้า(ภูมิใจไทย) กับกลุ่มระนองรวมพลัง(ผู้กองธรรมนัส)

สัปดาห์แรกของเดือน ม.ค.นี้ นายกอิทธิ์-ธนกร บริสุทธิญาณี นายก อบจ.ระนอง ได้เข้าสวัสดีปีใหม่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่กระทรวงเกษตรฯ ในฐานะสปอนเซอร์หลักของกลุ่มระนองรวมพลัง

สมรภูมิแลนด์บริดจ์ ศึก 'บ้านใหญ่' ชุมพร-ระนอง

เมื่อการเลือกตั้ง สส.ระนอง ครั้งที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ส่ง พงศกร พรหมสุวรรณ อดีต รองนายก อบจ.ระนอง แต่ได้ 12,940 คะแนน แพ้ สส.เอ-คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ภูมิใจไทย มากกว่า 3 หมื่นแต้ม

ดูจากผลคะแนนเลือกตั้ง สส.ระนองแล้ว นายกอิทธิ์-ธนกร บริสุทธิ ญาณี นายก อบจ.ระนอง คงต้องทำการบ้านอย่างหนัก หากจะต้องการรักษาแชมป์ไว้ให้อีกสมัย

เดิมที ธนกร บริสุทธิญาณี อดีต สจ.หลายสมัย และอดีตรองประธาน สภา อบจ. ก็เคยสังกัดกลุ่มระนองก้าวหน้า ของ บดินทร์ ฉัตรมาลีรัตน์ ผู้ดำเนินกิจการผลิต และจำหน่ายลูกชิ้นหมูฮั้งเพ้ง และลูกชิ้นเนื้อแชมป์ มาตั้งแต่ปี 2527

เสี่ยฮั้งเพ้ง-บดินทร์ ตั้งกลุ่มระนองก้าวหน้า ลงสนามการเมืองท้องถิ่น เป็นนายก อบจ.ระนอง 3 สมัย ก่อนส่งไม้ต่อให้ลูกชาย คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ เป็นนายก อบจ.ระนอง ปี 2555

เมื่อ สส.เอ-คงกฤษ ได้เป็น สส.ระนอง กลุ่มระนองก้าวหน้า ส่งโกชัย-ชัยพัฒน์ เศรษฐยุกานนท์ อดีตเลขานุการนายก อบจ.ระนอง สมัยนายกฯฮั้งเพ้ง เป็นตัวแทนลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.ในปี 2563

สมรภูมิแลนด์บริดจ์ ศึก 'บ้านใหญ่' ชุมพร-ระนอง

ส่วนคู่แข่งโกชัยคือ อดีต สจ.อิทธิ์-ธนากร ทายาทเจ้าของธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ที่แยกตัวจากกลุ่มระนองก้าวหน้า

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนั้น ธนกร บริสุทธิญาณี พลิกเอาชนะ ชัยภัทร เศรษฐยุกานนท์ ตัวแทนบ้านใหญ่ฮั้งเพ้ง ทำเอาคนระนองงุนงงกันเป็นแถว

เวลานี้ สส.เอ-คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง และชัยภัทร เศรษฐยุกานนท์ ปลุกกระแสโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ซื้อใจชาวบ้าน และคงหวังทวงคืนเก้าอี้นายก อบจ.ระนอง บ้านใหญ่ฮั้งเพ้ง จะแพ้แก่ทีมนายกอิทธิ์อีกไม่ได้แล้ว

อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ในสนาม อบจ.ระนองครั้งหน้านั้น เป็นสงครามตัวแทนของค่ายสีน้ำเงินกับค่ายผู้กองธรรมนัส
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 19/01/2024 12:01 pm    Post subject: Reply with quote


14 ล้านเสียง สะอึก! หลัง “ก้าวไกล” ปั่นแลนด์บริดจ์ หลอกต่างชาติ! แล้วหันมาค้านเสียเอง
https://www.youtube.com/watch?v=AA5kd7UsEvs
เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ค้านแลนด์บริดจ์ ยื่นหนังสือผู้ว่าฯชุมพร ขอพบ 'เศรษฐา'
15 มกราคม 2567 เวลา 15:41 น.

ชาวบ้านและเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ ชุมพร เป็นตัวกลางประสานพบ "เศรษฐา" นายกฯประชุมครม.ระนอง ยืนกรานปมคัดค้านอภิมหาโปรเจคแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง เชื่อถูกบิดเบือนข้อมูลใส่ร้ายชาวบ้าน
วันนี้ (15 ม.ค. 67) ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร นายสมโชค จุงจาตุรันต์ คณะทำงานเครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ เป็นตัวแทนชาวบ้านเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร โดยมี นายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน ที่มีเนื้อหาระบุ ขอให้ประสานงานให้ชาวบ้านได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กรณีโครงการแลนด์บริดจ์ ตามที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน จะนำคณะรัฐมนตรีมาประชุมสัญจรที่จังหวัดระนอง ในวันที่ 23 ม.ค. 67 นี้ ซึ่งเชื่อว่าการมาประชุมดังกล่าว มีนัยสำคัญที่ต้องการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร



อันเป็นไปตามนโยบายสำคัญที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และก่อนหน้านี้ได้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาโครงการดังกล่าวได้เดินทางมาจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนในพื้นที่ได้แสดงถึงความกังวลในมิติต่างๆ และไม่เห็นด้วย หากจะมีการการทำโครงการนี้ในพื้นที่ ประกอบกับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีคณะกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคก้าวไกลจำนวน 4 ท่าน ขอลาออกจากคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวเพราะไม่เห็นด้วยกับรายงานที่สรุปออกมา

โดยระบุว่าเป็นรายงานฉบับตัดแปะและไม่ได้ตอบข้อสงสัยที่เคยตั้งคำถามไว้ ทั้งยังเห็นว่าคณะกรรมาธิการจำนวนหนึ่งมีเจตนาที่เอนเอียง เพื่อให้ผลการศึกษา สอดคล้องไปกับแนวทางของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นเหตุผลที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมานำเสนอข่าวแบบกล่าวหาว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ทั้งหมดล้วนเป็นพวกได้รับการสนับสนุนจาก NGO และรัฐบาลสิงคโปร์ ทำให้ชาวบ้านมองว่ามีทัศนคติเอนเอียง และไม่รับฟังเหตุผลของความคิดที่แตกต่าง



ดังนั้นพวกเราจึงมีความเห็นร่วมกันว่าต้องการขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ในวันที่ 23 ม.ค. 67 นี้ ที่ท่านจะเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรจังหวัดระนอง ทั้งนี้เพื่อจะได้อธิบายถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงว่าทำไมพวก เราจึงมีความกังวลและไม่เห็นด้วยกับโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง จึงขอประสานผ่านมายังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรในฐานะพ่อเมือง ได้โปรดดำเนินการประสานงานไปยังสำนักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวนั้นให้นากยกรัฐมนตรีได้รับทราบต่อไป จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและดำเนินการ

อย่างไรก็ตามภายหลังนายธนนท์ รับหนังสือยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการนำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวนั้นให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบโดยเร็วเพื่อให้เป็นความสบายใจของประชาชนชาวจังหวัดชุมพร ในทุกฝ่าย ในการดำเนินการของโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ต่อไป


Last edited by Wisarut on 19/01/2024 12:48 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 19/01/2024 12:11 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'รบ.' แจงสภา 'แลนด์บริดจ์' อยู่ระหว่างศึกษาทุกมิติ ย้ำหากไม่คุ้มค่าจะทบทวน
กรุงเทพธุรกิจ 18 มกราคม 2567 เวลา 11:22 น.



"มนพร"แจงสภา "แลนด์บริดจ์"ฟังข้อมูลทุกมิติ หากไม่คุ้มค่าพร้อมทบทวน


ฐานเศรษฐกิจ
18 มกราคม 2567
รมช.คมนาคม แจงสภา ชี้ "แลนด์บริดจ์"เป็นประโยชน์การขนส่งทางเรือ ลดความแออัดช่องแคบมะละกา ระบุ กรรมาธิการฯ ฟังข้อมูลทุกมิติ หากศึกษาแล้วประเด็นที่เป็นไปไม่ได้ ต้องทบทวน

วันที่ 18 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบกระทู้ถาม นางสาวศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ถึงกรณีที่มีผู้ต่อต้านโครงการแลนด์บริดจ์ว่า ทุกโครงการมักมีผู้ต่อต้านในพื้นที่ ก่อนการเริ่มโครงการจะต้องศึกษา โดยสภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชนในพื้นที่ มาให้ข้อมูล มีการศึกษาทุกมิติ สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม ต่างประเทศ ความคิดเห็นภาครัฐ เอกชน กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานผ่านโครงการแลนด์บริดจ์ ย่อมกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ และประชาชนในพื้นที่ จึงจะต้องมีแผนรองรับในอนาคต รวมทั้งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยในบริเวณดังกล่าว




นางมนพร กล่าวว่า รวมทั้งจะมีการตรากฎหมายระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้(SEC) คล้ายกับกฎหมายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการเวนคืนที่ดิน รัฐบาลจะดำเนินการตามแนวทางที่ประชาชนแสดงความเห็นไว้ โดยเฉพาะกรรมสิทธิ์ที่ดิน การประมงพื้นบ้าน

ส่วนการลงพื้นที่ของกรรมาธิการนั้น ได้รับเสียงตอบรับจากภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี ข้อกังวลที่จะส่งกระทบต่อการประมงพื้นบ้านนั้น ชาวประมงในพื้นที่จริง ๆ ยืนยันว่าไม่ได้รับกระทบ ดีใจที่ความเจริญมาถึง มีโอกาสขยายธุรกิจการประมงให้มีมากขึ้น มีระบบการคมนาคมขนส่งที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางที่ถูกกดราคา


สำหรับความก้าวหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ ขณะนี้ กระบวนการศึกษายังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากยังมีกระบวนการศึกษาความเหมาะสมในการออกแบบท่าเรือ การศึกษาในการลงทุน การศึกษาสิ่งแวดล้อมทางด้านรถไฟ และการจัดสร้างมอเตอร์เวย์

โดยความก้าวหน้าได้ออกแบบท่าเรือเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบ และการออกแบบในกระบวนการอื่นๆ จนทำให้เกิดผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รัฐบาลพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้น มั่นใจว่า โครงการดังกล่าว ภูมิศาสตร์ของไทย จะเป็นโอกาสของประเทศไทย ที่มีที่ตั้งล้อมรอบด้วย 2 มหาสมุทร เป็นประโยชน์ต่อการขนส่ง



ด้านนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถาม เปรียบเทียบระยะทางการลดระยะทาง และค่าใช้จ่าย จากจีนตะวันออก ไปยุโรป ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ในกรณีที่มีแลนดจ์บริดจ์ กับการใช้ช่องแคบมะละกา ในกรณีที่ไม่มีโครงการ

นางมนพร ชี้แจงว่า โครงการแลนด์บริดจ์ ได้ถูกออกแบบ เพื่อลดระยะเวลา ต้นทุนการขนส่ง เนื่องจาก ปัจจุบันมีปัญหาความคับคั่งในการขนส่งทางเรือ บริเวณช่องแคบมะละกา เรือต้องลดความเร็วในการเข้าจอด และยังมีปัญหาเรือสินค้าถูกปล้นในช่องแคบมะละกา เส้นทางการขนส่งพื้นที่เอเชียตะวันออก-ออสเตรเลีย ปัจจุบัน มีการขนส่งสินค้าจากจีน ไปยังออสเตรเลียทางเรือ ประเทศจีนมีขนาดใหญ่ ภาคใต้ของประเทศจีนไม่ติดทะเล ต้องขนส่งผ่านบังคลาเทศ สปป.ลาว ก่อนเชื่อมเข้ามาประเทศไทย

เชื่อว่า แลนด์บริดจ์ จะช่วยลดเวลาการขนส่งจากจีนตอนใต้ โดยสามารถขนส่งทางเรือจากท่าเรือจีนอื่น ๆ มาเข้าฝั่งที่ท่าเรือฝั่งระนอง และชุมพร ทำให้สามารถประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย มั่นใจว่า ในระยะยาวโอกาสที่เรือขนาดใหญ่จะเข้าฝั่งระนอง จะมีโอกาสเป็นไปได้ เพราะระนองอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางเดินเรือปัจจุบัน

แลนด์บริดจ์รองรับสินค้าเทกอง และจะมีท่อน้ำมัน หรือโรงกลั่นน้ำมันหรือไม่นั้น นางมนพร ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่งเริ่มต้น ยังไม่ได้ระบุถึงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน หรือจะนำสินค้าประเภทใดเข้าสู่แลนด์บริดจ์ เพราะเป็นขั้นตอนปลายทาง เพียงแต่ตอนนี้ ยังศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ยืนยันว่าบริษัทที่ปรึกษา จะศึกษาทุกมิติ และบริษัทที่จะลงทุน จะต้องเข้ามาศึกษาในแง่ความเป็นไปได้ หากไม่คุ้มค่า นักลงทุนก็จะไม่มาลงทุน ดังนั้นเมื่อศึกษาแล้วประเด็นที่เป็นไปไม่ได้ ต้องกลับมาทบทวน

ขณะที่นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า รายละเอียดโครงการต่างๆ ยังไม่มีความชัดเจน แต่รัฐบาลกลับวางแผนสร้างโครงการต่างๆ ขนาดใหญ่ มีการกำหนดตัวเลขต่างๆ ที่สูงเกินจริง ในหลายโครงการ ขอให้รัฐบาลไตร่ตรองให้ดีว่า แลนด์บริดจ์ ควรทำหรือไม่ทำ เพราะแม้จะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ แต่ก็มีการเสียต้นทุนที่เกิดขึ้น ทั้งประชาชนสูญเสียที่ดิน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น มลพิษทางชายฝั่งทะเลที่กระทบชาวประมง และการท่องเที่ยว รวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ ขอให้รัฐบาล เปิดเผยข้อมูลให้ตกผลึกก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะไปเร่ขายฝัน และควรนำแนวคิดการพัฒนาพื้นที่เป็นตัวตั้ง มากกว่าการสร้างโครงสร้างคมนาคมขนาดใหญ่ สุดท้ายไม่มีนักลงทุนเข้ามา เพราะในอดีตมีตัวอย่างความล้มเหลวโครงการขายฝันขนาดใหญ่ในภาคใต้มาแล้ว ทั้งแลนด์บริดจ์กระบี่-ขนอม หรือแม้แต่ด่านสะเดา ที่ไม่มีผู้ใช้งาน รวมถึงท่าเรือระนอง ที่ผู้รับเหมารวยไปแล้วบนความทุกข์ร้อนของประชาชน ขอให้รัฐบาลไตร่ตรองให้ดี

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า จากผลการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ พบว่า การขนส่งจะเสียเวลา 7-10 วัน ในการขนย้ายสินค้าขึ้น-ลง และสายการเดินเรือ ต้องเพิ่มจำนวนเรือ 7-10 ลำ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เสียเวลาที่มากกว่าการใช้ช่องแคบมะละกา และช่องทางการเดินเรืออื่นๆ

รัฐบาลต้องมีข้อมูลที่มีนัยสำคัญในการชี้แจงความคุ้มค่าของการลงทุน เพราะเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สภาพัฒน์ฯ ระบุว่า โครงการดังกล่าวไม่คุ้มค่า และเสนอให้ลดขนาดของโครงการและลงทุนลง รวมถึงยังมีผลระทบชุมชน และสิ่งแวดล้อม แต่รัฐบาล กลับต้องการเพิ่มขนาด และข้อมูลทางธุรกิจไม่ชัดเจน แต่กลับนำไปเร่ขาย กังวลว่า จะเป็นการขายหน้ามากกว่าขายของ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/01/2024 12:20 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
"มนพร"แจงสภา "แลนด์บริดจ์"ฟังข้อมูลทุกมิติ หากไม่คุ้มค่าพร้อมทบทวน
ฐานเศรษฐกิจ
18 มกราคม 2567

รัฐ-เอกชนระนอง ตอกย้ำจุดแข็ง“แลนด์บริดจ์”สร้างงาน-ฮับขนส่งภูมิภาค
ฐานเศรษฐกิจ
19 มกราคม 2567

จังหวัดระนอง เตรียมเสนอโครงการปรับปรุงถนน “จัดสรรพัฒนา” วงเงิน 50 ล้านบาท ให้ครม.สัญจรพิจารณา 23 ม.ค. นี้ ขณะประธานหอการค้าระนอง ชี้ผลดี “แลนด์บริดจ์” สร้างงานสร้างอาชีพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และฮับขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ณ จังหวัดระนอง ระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2567 นั้น

ในส่วนของจังหวัดระนองในฐานะจังหวัดเจ้าภาพ เจ้าของสถานที่ ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับโครงการที่จังหวัดเสนอเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ในวงเงิน 50 ล้านบาท คือโครงการปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภคพร้อมปรับภูมิทัศน์ถนน “จัดสรรพัฒนา” ตั้งแต่ปากซอย 15 ไปจนถึงสี่แยกประปา จาก 2 เลน เป็น 4 เลน ระยะทาง ประมาณ 750 เมตร

ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวอีกว่า สำหรับถนน“จัดสรรพัฒนา”เส้นนี้มีการก่อสร้างและใช้งานมานานไม่น้อยกว่า 30 ปีแล้ว อยู่ในเขตเทศบาลเมืองบางริ้น เชื่อมต่อกับเทศบาลเมืองระนอง โดยจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์สองข้างทางให้สวยงาม พร้อมระบบไฟฟ้าส่องสว่าง มีกำแพงกันดินให้เรียบร้อย ถนนเส้นนี้เปรียบเหมือนหน้าบ้านของจังหวัดระนอง เป็นถนนที่เชื่อมต่อจากถนนเพชรเกษมเข้า-ออกตัวเมืองระนองชั้นใน และเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมทั้งท่าเทียบเรือสะพานปลาหรือท่าเทียบเรือระนอง-เกาะสองที่ไปเมียนมาด้วย

รวมทั้งจังหวัดระนอง จะได้เสนอโครงการเพื่อให้คณะรัฐมนตรีผลักดันและสนับสนุนในโอกาสต่อไปอีก 1 โครงการ คือ โครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เนื่องจากท่าเรือดังกล่าว เป็นท่าเรือข้ามฟากระหว่างจังหวัดระนองกับจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา และเป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้าด้วย

รัฐ-เอกชนระนอง ตอกย้ำจุดแข็ง“แลนด์บริดจ์”สร้างงาน-ฮับขนส่งภูมิภาค

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เสนอให้คณะรัฐมนตรีช่วยเร่งรัดดำเนินการอีก 3 โครงการ คือ

1.โครงการถนนเพชรเกษม จากระนองไปพังงา ที่บางช่วงยังเป็น 2 เลนอยู่ให้เป็น 4 เลนตลอดสาย

2.โครงการถนนสายราชกรูด-ชุมพร(หลังสวน) ซึ่งเป็นถนนที่มีความสำคัญต่อจังหวัดระนองอีกเส้นหนึ่งเช่นเดียวกัน ปัจจุบันมีรถใช้สัญจรไปมามาก แต่ยังเป็นถนน 2 เลนที่วิ่งสวนทางกันอยู่ ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้เร่งรัดเช่นเดียวกัน เพื่อรองรับการเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนอง

และ3.โครงการก่อสร้างฝายน้ำล้นคลองบางริ้น วงเงิน 90 ล้านบาท เพื่อทดแทนฝายเดิมที่ได้ชำรุดเสียหายเมื่อปี 2565 ซึ่งมีความสำคัญเนื่องจากเป็นแหล่งกักเก็บน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาของจังหวัดระนองด้วย

นายพรศักดิ์ แก้วถาวร ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร – ระนอง ที่กำลังจะมีการดำเนินการอยู่นั้นโดยตั้งแต่เริ่มนั้นทางภาคเอกชนสภาภาคอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง ต้องการเส้นทางรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างจ.ชุมพร มายัง จ.ระนอง เพื่อส่งเสริมสินค้าไปยังชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น

โดยได้ทำการศึกษาเส้นทางรถไฟดังกล่าวตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2560 ซึ่งขณะนั้นมีการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ภูเก็ต และทางจังหวัดระนองได้งบประมาณมาทำการศึกษาโครงการดังกล่าวจนแล้วเสร็จ

กระทั่งรัฐบาลได้มีการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.ชุมพร ทางรัฐบาลได้อนุมัติโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ Southern Economic Corridor ( SEC ) ซึ่งมีการอนุมัติโครงการที่เกี่ยวกับจังหวัดระนองหนึ่งโครงการคือ โครงการประตูการค้าด้านตะวันตก ที่จะเชื่อมโยงฝั่งอันดามัน เข้ากับ ฝั่งอ่าวไทย จึงเป็นที่มาของโครงการแลนด์บริดจ์ที่กำลังดำเนินการในปัจจุบัน

ประกอบด้วยการสร้างท่าเรือทั้งสองฝั่ง ทางรถไฟ และถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งในด้านเชิงบวกจะส่งผลให้ทางจังหวัดระนองมีผลิตภัณฑ์มวลรวมด้านรายได้ของจังหวัดมากขึ้นกว่าเดิม ในปัจจุบันมีประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปี ได้จากภาคประมงการค้าชายแดน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจภาครวมของจังหวัดเติบโตไปมากกว่านี้ได้ ถ้าไม่มีรายได้จากภาคส่วนด้านอื่นเข้ามาเสริม

ดังนั้นการเข้ามาของโครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะสร้างงานสร้างอาชีพมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นผลให้เกิดการจ้างงานและการหมุนเวียนทางด้านเศรษฐกิจในทุกๆด้านมากกว่าเดิม รวมถึงการเพิ่มการส่งออกสินค้าจากชายแดนจะเปลี่ยนไปเป็นระหว่างประเทศ

ในส่วนที่มีการคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ มองว่าทุกโครงการย่อมมีด้านลบมีผลกระทบโดยเฉพาะกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ต้องได้รับผลกระทบมากที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องมีมาตรการรองรับกลุ่มประมงเหล่านั้นให้มีอาชีพ รวมถึงการที่ให้บุตรหลานของกลุ่มประมงได้มีอาชีพมีพื้นที่ทำกินสามารถดำรงชีพได้อย่างต่อไปได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/01/2024 12:23 pm    Post subject: Reply with quote

จุดขาย! แลนด์บริดจ์
ถ้าตู้สินค้า-น้ำมันดิบที่เคยผ่านช่องแคบมะละกา เพียงแค่ 25% ย้ายมาใช้แลนด์บริดจ์ รวมทั้งการขนน้ำมันดิบเข้าไทยไม่ต้องอ้อมสิงคโปร์อีกต่อไป จะเกิดอะไรขึ้น?
เดลินิวส์ 19 มกราคม 2567 11:00 น.

https://www.dailynews.co.th/articles/3095004/
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/01/2024 12:47 pm    Post subject: Reply with quote

เร่งกฎหมาย บูม"แลนด์บริดจ์" โอกาสไทยฮับขนส่งโลก
ฐานเศรษฐกิจ
19 มกราคม 2567

เปิดผลศึกษา กมธ. แลนด์บริดจ์ ผลักดัน รัฐบาลเสนอญัตติด่วน ร่าง พ.ร.บ. SEC ต่อสภาฯ คลุม 4 จังหวัด “มนพร” ลงพื้นที่เร่งอภิโปรเจ็กต์ให้เกิดเป็นรูปธรรม ชี้โอกาสไทยสู่ฮับขนส่งระดับโลก เศรษฐา นำทัพ ครม.ลงระนอง 22-23 ม.ค. 67 ถกเอกชน-ประชาชน
โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) มูลค่า 1 ล้านล้านบาท อภิมหาโปรเจ็กต์ สำคัญที่รัฐบาลเศรษฐา มีหมุดหมาย เปลี่ยนเส้นทางการเดินเรือ ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งระดับโลก ซึ่งปัจจุบัน มีนักลงทุน จากหลายประเทศให้ความสนใจหลังจากมีการเดินสายโรดโชว์

ขณะเดียวกันมีความคืบหน้า กรณีผลศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามันหรือแลนด์บริดจ์ ได้ข้อสรุปพร้อมข้อเสนอแนะรัฐบาลให้ดำเนินโครงการ สอดคล้องกับ บริบทการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ทางทะเล โดยเฉพาะชุมชนที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนสามารถอยู่ร่วมกันได้

เดินหน้าลุยแลนด์บริดจ์

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกมธ.โครงการ แลนด์บริดจ์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ ผลศึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์ ได้ข้อสรุปและจะเร่งผลักดันตามผลศึกษาโครงการให้เกิดขึ้นตามแผนตามนโยบายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นได้ ลงพื้นที่ทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเวนคืน ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม สวนผลไม้ ส่วนใหญ่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ ประเภทโฉนด อย่างไรก็ตามเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนให้พัฒนาโครงการมีเพียง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร และระนองบางส่วนที่มีกระแสคัดค้าน

อย่างไรก็ตามจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2567 และจะรับข้อเสนอจากภาคเอกชนและประชาชนเพื่อนำไปพิจารณาปรับปรุงให้สอดรับกับความต้องการในพื้นที่อีกครั้ง

มองว่าโครงการแลนด์บริดจ์มีประโยชน์และสร้างโอกาสสำหรับการเป็นศูนย์กลางขนส่งระดับระดับภูมิภาค และการลงทุนให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ ล่าสุด กมธ.โครงการแลนด์บริดจ์ ได้สรุปการศึกษาเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ในลักษณะเดียวกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กำกับดูแลโครงการต่อไป


เปิดสูตร กมธ.แลนด์บริดจ์

สำหรับผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การศึกษาโครงการโครงการแลนด์บริดจ์ของกมธ.วิสามัญฯ เบื้องต้น กมธ.ขอให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอแนะในผลการศึกษาของ กมธ.เนื่องจากแลนด์บริดจ์เป็นโครงการขนาดใหญ่จะต้องมีกฎหมายเฉพาะในการดำเนินการ จึงจำเป็นต้องออกพ.ร.บ.ที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดการดำเนินการที่เป็นไปตามกฎหมายเพื่อความคล่องตัว

ทั้งนี้ควรมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการอย่างชัดเจนเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างแท้จริง โดยครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น ควรร่างเป็นพ.ร.บ.ที่คล้ายคลึงกับ พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และให้มีความยืดหยุ่นเหมาะสมกับบริบทของภาคใต้

ขณะเดียวกัน การดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์จะเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับและเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เช่น การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางด้านสุขภาพ, พ.ร.บ.การเวนคืนที่ดิน (ถ้ามี) ดังนั้นอาจจะตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา คิดวิเคราะห์แนวทางในการดำเนินการ ตลอดจนทางออกในประเด็นอุปสรรคที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ตามข้อเสนอแนะของกมธ.ระบุว่ารัฐบาลควรเสนอญัตติด่วนเรื่องการเสนอร่าง พ.ร.บ.ระเบียงพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทำให้การดำเนินการสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น รวมทั้งศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ไปพร้อมๆ กัน จึงจะประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน ดังนั้น การดำเนินการโครงการนี้ควรอยู่ภายใต้กฎหมายพิเศษที่มีวัตถุประสงค์สอดคล้องกับหลักการของโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อขจัดอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

“ขอความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสกพอ.ให้ถอดบทเรียนและอุปสรรคจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.อีอีซีนับตั้งแต่ประกาศใช้โดยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิ ภาพภายใต้กฎหมายดังกล่าวเพียงฉบับเดียวหรือไม่ หรือยังพบอุปสรรคจากกฎหมายฉบับอื่น มีปัญหาอุปสรรคใดและมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและกำหนดแนวทางการวางผังเมืองอย่างไรเพื่อเป็นต้นแบบให้กับร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงการแลนด์บริดจ์ที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป”

แนะปรับผลศึกษาสศช.-สนข.ให้สอดคล้องกัน

ขณะเดียวกันควรมีการปรับแนวทางการศึกษาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสนข.ให้สอดคล้องและตรงกันในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ รายละเอียดตัวเลขของการประหยัดค่าใช้จ่าย หากใช้เส้นทางในโครงการแลนด์บริดจ์ และจะดึงดูดนักลงทุนอย่างไร ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน,รายละเอียดเป้าหมายในการพัฒนา,พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือ,รายละเอียดการจัดทำพื้นที่ในเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์,รายละเอียดของรูปแบบธุรกิจ,รายละเอียดตัวเลข EIR (Effective Interest Rate) และ FRR (Rejection Rate) ว่าได้มีการนำมาคิดคำนวณด้วยหรือไม่ รวมถึงตัวเลขที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ,รายละเอียดตัวเลขค่าการก่อสร้างตัวเลขต้นทุนค่าเสียโอกาส ทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ตัวเลขการท่องเที่ยว, รายละเอียดประเด็นของ Demand Phase Development สมมุติฐานในแต่ละเฟส เป็นต้น

โดยหน่วยงานทั้ง 2แห่งควรมีวัตถุประสงค์การศึกษาที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และมีข้อมูลรายละเอียดที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันด้วย อาทิ ความเร็วของเรือ ไซส์เรือ เป้าหมายที่เรือไป รวมทั้งการถ่ายสินค้าเป็นระบบอัตโนมัติ หรือไม่ อีกทั้งควรให้ข้อมูลที่มีความชัดเจนทั้งในเรื่องของการเวนคืนที่ดิน รูปแบบการลงทุน วิธีการร่วมทุน ผลตอบแทนพิเศษต่าง ๆ มีวิธีการ และรูปแบบในการประมาณการตัวเลข เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนในการโรดโชว์ของนายกรัฐมนตรี ดังนั้น หน่วยงานต่าง ๆ จึงต้องมีการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล

ส่วนการประมาณการณ์จำนวนปริมาณผู้โดยสารรถไฟในโครงการแลนด์บริดจ์ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง โดยเฉพาะในมิติที่ตั้งของสถานีตามรายทาง นื่องจากพบว่าสถานีราชกรูดที่เป็นหนึ่งในสถานีรายทางของเส้นทางนี้ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองระนองมากกว่า 30 กิโลเมตร ดังนั้นในกรณีถ้ามีผู้โดยสารจะลงที่สถานีราชกรูด อาจไม่ทำให้เกิดแรงจูงใจให้คนทั่วไปโดยสารทางรถไฟ เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางต่อเข้าไปยังเมืองระนอง และขอให้นำเสนอโครงการแลนด์บริดจ์ที่ยังไม่แสดงภาพตัดของโครงสร้างอุโมงค์ทางรถไฟและมอเตอร์เวย์ที่ต้องลอดผ่านพื้นที่เชิงเขาเพิ่มเติม

ต้องรอบคอบพื้นที่อุทยาน 7 แสนไร่

สำหรับการก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดระนองโดยเฉพาะบริเวณรอยต่อเชื่อมโยงกับท่าเรือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชุ่มนํ้าแรมซาร์ไซต์ (Ramsar Site) ที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) หรืออนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มนํ้า มีเนื้อที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่อุทยานแห่งชาติแหลมสน ถึงอุทยานแห่งชาติลำนํ้ากระบุรี เนื้อที่ประมาณ 7 แสนไร่ จึงควรพิจารณาให้รอบคอบและหาทางออกเพื่อให้ดำเนินการตามแผนได้

ประเมินเวนคืนต้องเหมาะสม

ขณะที่การประเมินราคาที่ดินเพื่อนำไปสู่การเวนคืนนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบการก่อสร้างควรกำหนดราคาให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ควรยึดตามราคาประเมินของกรมธนารักษ์เป็นสำคัญและควรวางแนวทางและขั้นตอนให้ชัดเจนว่าจะกำหนดแนวเวนคืนที่ดินที่ใดบ้าง ตลอดจนการพัฒนาแหล่งนํ้าให้เพียงพอกับการอุปโภคและบริโภคของคนในพื้นที่และการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนและอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นจากนิคมอุตสาหกรรม

ด้านการก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์นั้น หน่วยงานภาครัฐควรพิจารณาถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจในมิติเชิงจุลภาค โดยเฉพาะการสร้างงานให้กับประชาชนและการเพิ่มศักยภาพให้กับแรงงาน โดยไม่ควรคำนึงถึงเฉพาะปริมาณเรือและสินค้าที่จะผ่านเข้าออกตามเส้นทางเท่านั้น เพราะควรคิดคำนวณในเชิงจุลภาคเข้าไปด้วย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต

เอกชนขอความชัดเจนโครงการ

สำหรับความคิดเห็นของเอกชนที่เกี่ยวกับเดินเรือและการขนส่งสินค้านั้น ยังมีความกังวลกับความชัดเจนของโครงการ อย่างไรก็ตามหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่โครงการแลนด์บริดจ์ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะมีโครงการใหญ่ดังเช่นโครงการแลนด์บริดจ์แม้จะมีกลุ่มประชาชนส่วนน้อยไม่เห็นด้วยก็ตามโดยเฉพาะทั้ง 5 จังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่เห็นด้วยกับโครงการแลนด์บริดจ์เพราะจะเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้

ให้เกิดการเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ให้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าทางการเกษตรในภาคใต้ทั้งยางพารา มังคุด ทุเรียน ปาล์ม เป็นต้น ไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ยุโรป เป็นต้น ตลอดจนให้เป็นศูนย์สนับสนุนการส่งออกอย่างครบวงจร ส่งเสริมให้เป็นเมืองแห่งสุขภาพ การท่องเที่ยวครบวงจร ส่งเสริมให้เป็นเกษตรที่ทันสมัยและยั่งยืน

หากมีโครงการนี้ก็จะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับประชาชนในภาคใต้ และการมีท่าเรือจะสร้างการค้าการลงทุนระหว่างประเทศที่จะทำให้เศรษฐกิจภาคใต้ดีขึ้นแน่นอน และภาคเอกชนมองในระดับประเทศว่าประเทศไทยจะเป็นดาวดวงใหม่ในการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างไรก็ตามยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนการเวนคืนที่ดินของประชาชนที่รัฐบาลจะเป็นอย่างยิ่ง

ที่จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันให้ประชาชนพอใจ และควรเตรียมแผนพัฒนาแรงงานในพื้นที่เพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ตลอดจนควรเตรียมวางแผนฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การประมงพื้นบ้านและผลกระทบอื่นๆ

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/01/2024 5:04 pm    Post subject: Reply with quote

ครม.สัญจร ระนอง จัดหนักดันถนน-ท่าเรือ นายกฯ ลงพื้นที่เช็ค “แลนด์บริดจ์”
ฐานเศรษฐกิจ
19 มกราคม 2567

ภารกิจนายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” ยกคณะลงพื้นที่ ประชุม ครม.สัญจร จังหวัดระนอง วันที่ 22 - 23 มกราคม 2567 คิวแน่นตลอด 2 วัน โดยเตรียมผลักดันการท่องเที่ยว แก้ปัญหาภาคการประมง ติดตามโครงการสำคัญของรัฐบาล
จับตา นายกฯ พร้อมคณะ มีคิวเดินทางลงพื้นที่ โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย – อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ มูลค่านับล้านล้านบาท ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอกระเปอร์ จังหวัดระนอง

ไฮไลท์วันประชุม ครม.สัญจร เตรียมรับข้อเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยว พร้อมโครงการก่อสร้างถนนเพชรเกษม จากระนอง - พังงา และโครงการก่อสร้างถนนสายราชกรูด - หลังสวน

วันนี้ (19 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 22 - 23 มกราคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) และเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จังหวัดระนอง ถือเป็นครั้งที่สองของรัฐบาล

สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดระนองครั้งนี้ มีเป้าหมายในการตรวจราชการที่สำคัญหลายมิติ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมง การติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยกำหนดการวันที่ 22 - 23 มกราคม 2567 มีดังนี้

วันที่ 22 มกราคม 2567

นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ติดตามโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง – เกาะสอง อำเภอเมืองระนอง และพูดคุยประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง ซึ่งท่าเรือระนอง - เกาะสอง ตำบลปากน้ำ เป็นจุดผ่านแดนที่ใช้รองรับการเดินทางระหว่างประเทศไทยและเมียนมา โดยเป็นท่าเรือข้ามฟาก ขนส่งและท่องเที่ยว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะรับฟังการบรรยายสรุปข้อมูลการพัฒนาท่าเรือระนอง - เกาะสอง ข้อมูลการค้าผ่านแดนระหว่าง 2 ประเทศ แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะพบปะประชาชนกลุ่มประมงและกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี จะได้ติดตามความคืบหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย – อันดามัน (Landbridge ชุมพร-ระนอง) ณ อุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอกระเปอร์ จังหวัดระนอง โครงการแลนด์บริดจ์เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคม โดยการเชื่อมโยง 2 ท่าเรือในฝั่งทะเลอันดามัน และฝั่งอ่าวไทยให้เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

โดยมีการพัฒนาท่าเรือบริเวณแหลมอ่าวอ่าง อำเภอเมืองระนอง ในรูปแบบการพัฒนาโครงการเป็นการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership : PPP) หากโครงการนี้เสร็จจะช่วยสร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน


ทั้งนี้รัฐบาลมีความตั้งใจจะมีแผนงานเร่งรัดพัฒนาศักยภาพทางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างเงินการลงทุน และการใช้จ่ายเข้าสู่ประเทศได้ด้วยความรวดเร็ว ตามศักยภาพของพื้นที่ต่าง ๆ

อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยจะเยี่ยมชมการบริหารจัดการบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ณ บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน อำเภอเมืองระนอง ซึ่งมีบ่อน้ำแร่ร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดที่มีการชูอัตลักษณ์ชุมชน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างรายได้ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยรัฐบาลจะผลักดันจังหวัดระนองสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลก (Wellness City) ต่อยอดพัฒนาการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน สร้างจุดแข็ง นำรายได้เข้าประเทศ

วันที่ 23 มกราคม 2567

นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ณ หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง โดยจังหวัดระนองเตรียมนำเสนอโครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยวและสัญจร เป็นโครงการปรับปรุงทางเข้าท่าเรือและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากท่าเรือดังกล่าว เป็นท่าเรือข้ามฟากระหว่างจังหวัดระนองกับจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา

รวมทั้งเตรียมเสนอโครงการก่อสร้างถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) จากจังหวัดระนอง-จังหวัดพังงา และโครงการก่อสร้างถนนสายราชกรูด-หลังสวน (ทางหลวงหมายเลข 4006) ขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร จากอำเภอเมืองระนอง ไปยังจังหวัดพังงา เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองระนอง

นายชัย กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดระนองครั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) ซึ่งแต่ละจังหวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกให้เอื้อกับการเดินทางและเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้จะเห็นว่ารัฐบาลเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เช่น การวางโครงข่ายการคมนาคม สร้างระบบรางรถไฟที่พาดผ่านเมืองรอง และการพัฒนาสนามบินในภูมิภาคการท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสร้างรายได้และมีการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายคณะรัฐมนตรีร่วมลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ด้วย
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42796
Location: NECTEC

PostPosted: 19/01/2024 5:09 pm    Post subject: Reply with quote

ข้อมูลรถไฟสาย แหลมริ้ว (หลังสวน - ชุมพร) - อ่าวอ่าง (ระนอง) ระยะทาง 89.30 กิโลเมตร

https://www.facebook.com/Thailand.Infra/posts/703214775287446
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44916
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 21/01/2024 12:32 pm    Post subject: Reply with quote

"แลนด์บริดจ์" ความหวังพลิกเศรษฐกิจ - เปลี่ยนวิถีชีวิตคน | Thai PBS News
Thai PBS News
Jan 21, 2024

"แลนด์บริดจ์" โปรเจกต์ใหญ่ที่รัฐบาลคาดหวังว่าจะผลักดันให้ GDP ของประเทศไทยเติมโตถึงร้อยละ 5 แต่จนถึงวันนี้ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่างทั้งภาคการเมืองและภาคประชาชน


https://www.youtube.com/watch?v=HwIzIx0tZXk
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 16, 17, 18, 19, 20  Next
Page 17 of 20

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©