ขุดกรุ: ... "ทางแยกไปท่าข้าวที่ปากน้ำโพ"...

[box_car]

อาจาร์ยพิชครับ...
อย่าลืมเอามาลงต่อด้วยนะครับ กะลังเพลินเลยอะ...
_________________

[pitch]

[ExtendeD]

[vut_kmitnb]

รีบลงต่อเร็วๆนะครับ ทางเส้นนี้ผ่านแถวบ้านของน้าผมด้วยครับ
_________________
http://www.facebook.com/dognation666

[pitch]

ข่าวดีครับตอนนี้ผมได้เจอ CD ที่เก็บรูปชุดนี้แล้วครับเดียวจะหาเวลามาลงในเร็ววันนี้ครับ....

ปล.รูปชุดนี้เป็นรูปที่ถ่ายไว้ประมาณ 2 ปีแล้วนะครับ...เคยลงไว้ในเวปเก่า

[pak_nampho]

[Serberk]

โห....... 2 ปีแล้วถ้าเป็นปลาร้าก็ กำลังอร่อยได้ที่เลย ถ้าเป็นน้ำปลาก็น้ำปลาชั้นหนึ่ง แต่ถ้าไม่รีบ มาโชว์ แล้วใครจะรู้ว่า สุดยอดจริงป่ะ

รอชมอยู่นะครับ

[pitch]

สวัสดีครับพี่ๆน้องๆชาวรถไฟไทยทุกท่าน...
ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษทุกๆคนเป็นอันดับแรกที่ปล่อยทิ้งให้กระทู้นี้ไม่จบลงค้างคาอยู่เป็นเวลานานมาก โดยหาได้มีเจตนาจะดองเค็มอะไรหรืออย่างไร (...แบบนี้คงไม่ได้แล้วคงเป็นการปล่อยแห้งให้กลายเป็นมัมมี่...) ก็อย่างที่ทราบกันนะครับว่าในตอนแรกไฟล์งานหายไปเนื่องจากไวรัสทำให้กระทู้ไม่สามารถเขียนต่อได้เป็นครั้งแรก จากนั้นก็บังเอิญหาแผ่นสำรองที่มีไฟล์ภาพชุดนี้อยู่แล้วก็มาประกาศลงกระทู้ว่าจะกลับมาเขียนต่อจากนั้นก็หายเงียบ......ปล่อยให้หลายท่านที่คอยอยู่เสียความรู้สึก(คงด่าผมด้วยมั้ง)......
อันนี้ยอมรับครับ ตัวผมเองก็ไม่สบายใจครับที่ไม่สามารถจบกระทูนี้ลงให้ได้ เหมือนเสี้ยนไม้น้อยที่ตำนิ้ว แม้จะดูเหมือนเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกเจ็บปวด (ว่าไปนั้น...)
ที่ว่ามาทั้งหมดก็เหมือนจะแก้ตัว แต่มันก็จริง ผมขอรับผิดทั้งหมดครับไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น
เพราะคิดว่าข้อแก้ต่างทั้งหลายคงไม่ทำให้จำเลยพ้นผิดได้...ที่ผ่านมาไม่สามารถมาสานต่อได้เนื่องจากงานต่างๆที่โรงเรียนค่อนข้างเยอะ ประกอบกับความขยันสอนพิเศษทุกๆวันในช่วงเปิดเทอม(...มีคนบอกว่าเป็นความงกเสียมากกว่า...) อ้าว...ว่าจะไม่แก้ตัวแล้วน้า
และในตอนนี้ ก็ปิดเทอมแล้วงานต่างๆก็เบาขึ้นมากครับเลยรวบรวมพลังกลับมาปัดฝุ่นความคิด ที่ว่าปัดฝุ่นความคิดก็เพราะว่า รูปภาพต่างๆเหล่านี้ผมได้ไปเดินและถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2548
(30 กรกฎาคม 254) ...มันก็อาจจะมีอาการหลงๆลืมกันบ้างครับ...แต่ผมก็ว่าเหมือนกับเรื่องทั้งหมดนี้เกิดเมื่อเดือนที่แล้วเอง มาครับพอเถอะเริ่มไปต่อกันครับหลังจากหยุดมานาน



ปล. สำหรับท่านๆที่ยังงงเกี่ยวกับที่มาที่ไปของกระทู้นี้ ขอความกรุณาย้อนกลับไปอ่านหน้าที่ผ่านมาหน่อยครับบบ....

[HID_4513]

อ่าครับ ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ชมอยู่ดี

[pitch]

มาว่ากันต่อนะครับ ขออนุญาตเท้าความกันนิหน่อย...
ในวันนั้น(30 กรกฎาคม 254)...เมื่อผมลงจากขบวน 212 ที่ผมโดยสารมาจากตะพานหินแล้วก็เดินไปติดต่อสอบถามกับนายสถานีปากน้ำโพซึ่งได้ข้อมูลเกี่ยวกับทางแยกที่ผมจะเดินเข้าไปมาบ้างว่า “ทางเส้นเดิมวางรางไม้หมอนใหม่ไม่ไกลเท่าไหร่เดินไปดูได้...” (อันนี้ไม่ต้องบอกก็แล้ว) แต่มารู้ตอนหลังว่าลุงแกเป็นพนักควบคุมการเดินรถ นั่งดูแกสั่งการให้รถขบวนนู้นขบวนนี้หลีกกันที่นั้นที่นี้ ให้บางขบวนไปแซงกันที่ไหนต่อไหนก็เพลินๆดี ดูมีพาวเวอร์อย่างไงก็ไม่รู้(...อยากเป็นๆๆ...) หลังจากนั้นก็กลํบออกมาถ่ายรูปรถสินค้าที่จอดกันเต็มย่านหน้าสถานีปากน้ำโพ และที่ลืมไม่ได้ก็เจ้าถิ่นรถปั่นจั่นทั้งสองคันที่จอดพักผ่อนอยู่ด้านหน้า...................
จากนั้นก็เริ่มงานเดินกันล่ะครับ....ทางแยกที่จะเข้าไปท่าข้าวนี้ถ้าเราๆท่านๆทั้งหลายนั่งมาจากทางสถานีนครสวรรค์รางที่อกมาจากท่าข้าวจะอย่างด้านซ้ายมือวิ่งขนานกับถนนหมายเลข (ก็ถนนที่ตัดผ่านทางรถไฟก่อนที่จะเข้าโค้งนั้นแหละครับ) แล้วทางดังกล่าวก็จะโค้งเข้ามาขนานกับเส้นทางรถไฟสายหลัก ตีคู่กันไปจนถึงเข้าไปในย่านสถานีปากน้ำโพ ถ้าจำไม่ผิด...น่าจะเชื่อมเข้ากับรางที่ 5 ของย่านสถานี ขอนอกเรื่องหน่อยล่ะกันครับเท่าที่นั่งนึกและดูรูปประกอบไปมา ในย่านสถานีปากน้ำโพมี 6 ราง อันนี้รวมทั้งรางประธานด้วย แต่ที่น่าแปลกก็คือรางประธานของสถานีนี้นู้นออกไปอยู่ทางที่ 6 (ไกลสุดจากสถานีติดกับหอประแจด้านนอกนู้น)
อย่างไงก็ให้เจ้าถิ่น หรือขาใหญ่ย่านนั้นมายืนมายันอีกทีครับ
อ้าวออกนอกเรื่องอีกแล้วกลับมากลับมาครับ...อย่างที่บอกครับ...ในรูปด้านล่างเมื่อยืนอยู่ในย่านสถานีปากน้ำโพแล้วมองไปทางด้านสถานีนครสวรรค์รางทางซ้ายมือ คือ ทางรถไฟสายเหนือที่โค้งเข้ามา ส่วนซ้ายมือนั้นแหละครับที่จะแยกไปท่าข้าวโดยตอนแรกจะขนานกันไปก่อนแล้วค่อยโค้งออกไปทางขวา...

จะเห็นว่ามีเครื่องตกรางเปิดอ้าซ่าอยู่ อย่างน้อยก็แสดว่าได้เปิดใช้งานจริง... มาเดินไปดูใกล้กันครับ

เมื่อเดินมาใกล้ๆก็พบว่าเจ้าเครื่องตกรางนี้มีความสัมพันธ์กับโคมประแจข้างๆนั้น แต่ นอกจากนั้นยังมีป้ายเตือนระบุความเร็วปักอยู่เหลืองๆ ประกาศว่า ห้ามอายุเกิน 20 ผ่าน...มะไม่ใช่ครับให้เตรียมลดความเร็ว...ไม่เกิน 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง