RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311376
ทั่วไป:13304398
ทั้งหมด:13615774
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 48, 49, 50 ... 64, 65, 66  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 23/02/2023 6:18 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
สวทช. จับมือกรมราง-สทร. เซ็นสัญญา อัพเกรดระบบขนส่งทางรางเพิ่ม 40%
ฐานเศรษฐกิจ 14 กุมภาพันธ์ 2566


ต้นรากข่าวอยู่นี่ครับ

กรมการขนส่งทางราง ร่วมกับ สทร. และ สวทช. ผนึกกำลังขับเคลื่อนการวิจัยพัฒนา นวัตกรรม
ด้านมาตรฐานและการทดสอบสำหรับผลิตภัณฑ์ในระบบราง เพื่อการยกระดับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้อง
กับการพัฒนาด้านระบบรางในประเทศไทย
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/496982035959597
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 24/02/2023 5:34 pm    Post subject: Reply with quote

สถิติการขนส่งสินค้าทางราง ประจำเดือนมกราคม 2566 🚂🛢️⛽
1. คอนเทนเนอร์ 73% ลดจากเดิอนธันวาคม 2565
2. น้ำมันดิบและน้ำมันกลั่น 13% เพิ่มจากเดิอนธันวาคม 2565
3. ซีเมนต์ผง 11% ลดจากเดิอนธันวาคม 2565
4. แก๊สธรรมชาติ 3% เพิ่มจากเดิอนธันวาคม 2565 ส่วนรายการอื่นๆ ลดจากเดิอนธันวาคม 2565
5. ที่น่าสนใจคือ การขนสินค้าเมื่อมกราคม 2566 ลดจากเดิอนธันวาคม 2565 ไป 5%
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/503590108632123
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 28/02/2023 3:59 pm    Post subject: Reply with quote

"กรมราง" ลุ้นครม.เคาะร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ เปิดทาง ใบอนุญาตฯ ระบบดิจิทัล
ฐานเศรษฐกิจ 28 กุมภาพันธ์ 2566

"กรมราง" เล็งออกใบอนุญาตระบบดิจิทัลออนไลน์ ลุ้น ครม.ชุดใหม่ไฟเขียว ชงร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ฉบับใหม่ ภายในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ หลังติดหล่มประชุมส.ส.ผ่านวาระ 2 คาดเสนอไม่ทันนัดสุดท้าย

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการศึกษา ออกแบบ และพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการและการออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัล (e-License R) ว่า เบื้องต้นโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างศึกษา

คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการศึกษา 7 เดือน วงเงิน 15 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมฯ จะออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางราง ผ่านระบบดิจิทัล ได้ต่อเมื่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ. … มีผลบังคับใช้

"กรมราง" ลุ้นครม.เคาะร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ เปิดทาง ใบอนุญาตฯ ระบบดิจิทัล

ขณะที่ ปัจจุบันร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 แล้ว เบื้องต้นได้รับทราบว่า วันที่ 28 กุมภาพันธ์ เป็นการประชุมสภาฯ คร้งสุดท้าย ซึ่งคาดว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวจะเสนอเข้าสภาฯ ไม่ทัน ในรัฐบาลชุดนี้ ส่งผลให้กรมฯ ต้องรอ ภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่ภายในเดือนสิงหาคม 2566 หลังจากนั้น กรมฯ จะดำเนินการเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เพื่อร้องขอให้นำร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้กลับมาพิจารณาต่ออีกครั้ง ภายใน 60 วัน หรือภายในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566

ทั้งนี้ หากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านการพิจารณาแล้ว กรมน จะดำเนินการเตรียมออกใบอนุญาต ด้านการขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัลให้ภายใน 90 วัน โดยแบ่งเป็น

1.ใบอนุญาตสำหรับผู้ประการเดินรถ โดยจะมีอายุใบอนุญาตเท่ากับอายุสัมปทานที่ผู้ประกอบการได้รับ

2.การออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประจำหน้าที่ อาทิ พนักงานขับรถ และพนักงานควบคุมรถ มีอายุ 5 ปี โดยจะเป็นใบอนุญาตพนักงานขับรถขนส่งทางราง ได้แก่ ใบอนุญาตขับรถไฟฟ้า ใบอนุญาตขับรถไฟดีเซล ใบอนุญาตขับรถไฟฟ้าความเร็วสูง ใบอนุญาตขับรถรางไฟฟ้า และใบอนุญาตประเภทอื่นๆ ตามที่อธิบดีฯ ประกาศ และ

3.การจดทะเบียนรถขนส่งทางราง โดยรถขนส่งฯ จะต้องเข้ารับการตรวจสอบคุณลักษณะทุก 8 ปี ซึ่งหากมีการตรวจพบว่าพนักงานที่ปฏิบัติงานไม่มีใบอนุญาตจะมีโทษทั้งจำและปรับ

Click on the image for full size

“การขอใบอนุญาตดังกล่าวไม่เสียค่าธรรมเนียม และเป็นประโยชน์ในการที่จะสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนมากขึ้น ขณะที่ พนักงานขับรถไฟและรถไฟฟ้าจะได้รับการรับรองว่ามีคุณสมบัติที่ดี และสามารถนำใบอนุญาตไปสมัครกับผู้ประการเดินรถรายอื่นได้ด้วย"

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันไทยที่ผู้ขับรถไฟ และรถไฟฟ้า รวมถึงเจ้าที่ประจำศูนย์ควบคุมการเดินรถ (OCC) ประมาณ 2,000 ราย ในส่วนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีพนักงานขับรถไฟ ประมาณ 1,250 ราย ซึ่งยังขาดแคลนบุคคลากรอยู่ประมาณ 700 ราย ขณะที่ จำนวนตู้รถไฟ และรถไฟฟ้า มีประมาณ 1.02 หมื่นตู้

Click on the image for full size

สำหรับขั้นตอนการขอใบอนุญาต และการจดทะเบียนผ่านระบบดิจิทัล ดังนี้

1.การยืนยันตัวบุคคลกลางสำหรับการบริการภาครัฐ

2.การยื่นเอกสารและคำขอแบบออนไลน์

3.การมอบหมายงานและแจ้งเตือน ผ่านเจ้าหน้าที่โดยอัตโนมัติ

4.การตรวจสอบข้อมูลและลงรับเอกสารแบบออนไลน์

5.การรวบรวมเอกสาร สำหรับกรพิารณาก่อนเข้าอนุกรรมการ

6.ชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ และ

7.การจัดส่งใบอนุญาตรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้รายชื่ออิเล็กทรอนิกส์
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 28/02/2023 4:48 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
"กรมราง" ลุ้นครม.เคาะร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ เปิดทาง ใบอนุญาตฯ ระบบดิจิทัล
ฐานเศรษฐกิจ วันอังคาร ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

"กรมราง" เล็งออกใบอนุญาตระบบดิจิทัลออนไลน์ ลุ้น ครม.ชุดใหม่ไฟเขียว ชงร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ฉบับใหม่ ภายในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ หลังติดหล่มประชุมส.ส.ผ่านวาระ 2 คาดเสนอไม่ทันนัดสุดท้าย


พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ค้างเติ่ง! กรมรางลุ้นรัฐบาลใหม่สานต่อ เดินหน้าวางเกณฑ์ออกใบอนุญาต "ผู้เดินรถ-คนขับรถไฟ-รถไฟฟ้า"
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันอังคาร ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 16:14 น.
ปรับปรุง: วันอังคาร ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 16:14 น.


พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ค้างเติ่ง “กรมราง” รอรัฐบาลใหม่สานต่อ พร้อมเดินหน้าวางเกณฑ์จัดทำใบอนุญาตระบบรางให้ผู้ประกอบการเดินรถและคนขับ 2,000 คนผ่านระบบดิจิทัล ใบอนุญาตคนขับอายุ 5 ปี ส่วนตัวรถให้ 8 ปี เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการใช้ระบบขนส่งทางราง

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดสัมมนาโครงการศึกษาออกแบบ และพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการและการออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัล (e-License R) ว่า หลังจากร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. .... ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระ 1 โดยสมาชิกเห็นด้วย 252 เสียง งดออกเสียง 1 และไม่เห็นด้วย 1 เสียง จากนั้นได้ผ่านขั้นตอนแปรญัตติ โดยกรรมาธิการวิสามัญ แก้ไขปรับปรุง 165 มาตราเรียบร้อย มีการเสนอกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระที่ 2 แต่เนื่องจากวันที่ 28 ก.พ. 2566 กำหนดปิดการประชุมสภาแล้ว ดังนั้น ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ถือว่าไม่สามารถพิจารณาได้เรียบร้อยในสภาชุดนี้

หากเป็นรัฐธรรมนูญเก่าจะถือว่าร่างพ.ร.บ.นั้นต้องตกไป แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ใช้ในปัจจุบัน มาตรา 153 ระบุว่า สามารถส่งร่าง พ.ร.บ.ที่รอการพิจารณาค้างไว้ เสนอกลับเข้าไปเพื่อดำเนินการต่อในวาระที่ 2 โดยให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ร้องขอไปที่สภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ภายใน 60 วันนับจากวันที่มี ครม.ใหม่ แต่หากไม่ทันภายใน 60 วันจะต้องนำร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ กลับไปเริ่มต้นขั้นตอนเสนอ ครม.พิจารณา โดยคาดว่าหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือน ส.ค.-ก.ย. 2566 กรมรางฯ จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ ต่อ ครม.ต่อไป



ดังนั้น ในระหว่างรอการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางจากสภาฯ ชุดใหม่ กรมรางได้ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายลำดับรอง ประกาศ ระเบียบต่างๆ คู่ขนาน โดยการออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัลเพื่อทำให้การกำกับดูแลมีประสิทธิภาพมากขึ้นและรองรับระบบรางที่มีเพิ่มขึ้นในอนาคต ให้การบริการมีความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย โดยกรมรางได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษาใช้เวลา 7 เดือน วงเงินงบประมาณ 15 ล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จเดือน ก.ย. 2566 โดยจะมีการดำเนินการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง ออกแบบพัฒนาระบบ จัดหาครุภัณฑ์และซอฟต์แวร์ จัดทำ ปรับปรุงร่างกฎหมายลำดับรอง อบรม ประชาสัมพันธ์ และการบำรุงรักษาและรับประกัน

สำหรับผู้ประกอบกิจการขนส่งทางรางที่ต้องมีใบอนุญาต มี 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ใบอนุญาตประกอบกิจการคือผู้ให้บริการเดินรถ เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด เป็นต้น กำหนดอายุใบอนุญาตไม่เกิน 30 ปี

2. ใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ต้องได้รับใบอนุญาตผู้ประจำหน้าที่ จะเป็นกลุ่มพนักงานขับรถ พนักงานควบคุมการเดินรถ (OCC) ซึ่งใบอนุญาตจะมีประเภท รถไฟฟ้า รถไฟดีเซล รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถรางไฟฟ้า และอื่นๆ ใบอนุญาตมีอายุ 5 ปี และต่อครั้งละ 5 ปี โดยต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ทดสอบการฟัง การมองเห็น ทดสอบด้านจิตวิทยา ความรู้ความสามารถทักษะ และตรวจสารเสพติด เป็นต้น ซึ่งกรมรางจะกำหนดสถาบันทางการแพทย์ที่จะรับรองด้านสุขภาพร่างกาย

3.ืการจดทะเบียนรถขนส่งทางราง ได้แก่ รถไฟ รถไฟฟ้า รถราง รถระบบแขวน ฯลฯ โดยตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานตัวรถ วงรอบการซ่อมบำรุงต้องดำเนินการครบถ้วน จึงจะจดทะเบียนและออกหมายเลขทะเบียนรถพร้อมคู่มือ และต้องเข้ารับการตรวจสอบทุก 8 ปี ซึ่งจะทำให้รถมีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน และแก้ปัญหารถเสียบ่อย เสียกะทันหัน ส่งผลกระทบต่อการให้บริการที่ล่าช้าที่ลดน้อยลงไปด้วย



นายพิเชฐกล่าวว่า การออกใบอนุญาตครั้งแรกจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ หลังพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ มีผลบังคับใช้ ภายใน 90 วัน โดยไม่ต้องตรวจคุณลักษณะ โดยเห็นว่าผู้ให้บริการ คนขับรถที่ทำหน้าที่อยู่ขณะนี้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยตามมาตรฐาน ซึ่งได้ประสานกับผู้ให้บริการระบบรางทุกรายจัดส่งข้อมูลพื้นฐานของคนขับ เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ OCC และข้อมูลตัวรถ เพื่อทำเป็นดาตาเบส และเมื่อครบ 5 ปีจะมีการตรวจสอบคุณภาพตามประกาศ จึงจะต่อใบอนุญาตให้ในรอบต่อไป ซึ่งกรมรางได้จัดทำกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตเป็นเวลา 10 ปี เพื่อลดภาระให้ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่

ปัจจุบันมีคนขับรถไฟ รถไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมเดินรถรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,000 คน (เป็นคนขับของการรถไฟฯ ประมาณ 1,200 คน) โดยปัจจุบันรถไฟประสบปัญหาการขาดแคลนคนขับรถประมาณ 700 คน ส่วนรถทั้งตู้รถไฟ ตู้รถไฟฟ้า แคร่ขนส่งสินค้า มีประมาณ 10,200 คัน มีผู้โดยสารประมาณ 1.2 ล้านคนต่อวัน ขนส่งสินค้าประมาณ 1 ล้านตัน ต่อเดือน ซึ่งหากในอนาคตมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 และทางคู่สายใหม่แล้วเสร็จ รถไฟฟ้าเสร็จตามแผนแม่บทครบ 10 สาย ปริมาณผู้โดยสารและสินค้าจะเพิ่มขึ้น และจะมีความต้องการคนขับรถและเจ้าหน้าที่อีกไม่น้อยกว่า 30% จากปัจจุบัน

“ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้เข้าไปกำกับดูแลมาตรฐานของผู้ให้บริการระบบราง ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายได้ดำเนินการตามมาตรฐานสากล ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่งแต่ก็มีปัญหาบ้าง ซึ่งผู้ประกอบการสามารถควบคุมจัดการได้ เช่น คนขับเมาระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ก็ไล่ออก หรือมีปัญหาสายตา สุขภาพจิต เหล่านี้ เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัย ขณะที่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมากรมรางได้ขอข้อมูลและเข้าไปกำกับดูแลภายในมากขึ้น ก็ทำให้ทราบว่ามีอุบัติเหตุกี่ครั้ง ที่ไหน อย่าง ระบบเบรก ระบบประตู อาณัติสัญญาณ ระบบไฟฟ้า เสียตรงไหน กี่ครั้ง แต่อาจจะยังไม่รู้ถึงสาเหตุเพราะข้อมูลเชิงลึก แต่อนาคตจะต้องรู้ด้วย เพราะมีดาตาเบส เรื่องตัวรถ วงรอบการซ่อมบำรุง ซึ่งจังหวะเวลานี้เหมาะสม เพราะรถไฟฟ้าเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางของการให้บริการ ตัวรถมีอายุ 15-20 ปี ต้องเน้นเรื่องการซ่อมบำรุงมากขึ้น"



สำหรับการออกใบอนุญาตประกอบกิจการขนส่งทางราง และใบอนุญาตอื่นๆ ตามที่กฎหมายนี้กำหนด จะส่งผลดี ดังนี้

1. เกิดความปลอดภัยในการใช้บริการระบบรางมากยิ่งขึ้น ผ่านข้อกำหนดและมาตรฐานต่างๆ ที่กำหนดไว้
2. ผู้ใช้บริการะบบขนส่งทางรางเกิดความเชื่อมั่น และมั่นใจได้ว่าผู้ประกอบการมีศักยภาพในการดำเนินการให้บริการทั้งทางด้านเศรษฐศาสตร์และวิศวกรรม บุคลากรของผู้ประกอบกิจการขนส่งทางรางมีคุณลักษณะและความรู้ที่เหมาะสมต่อการเป็นผู้ประจำหน้าที่และรถขนส่งทางรางมีสภาพที่พร้อมที่จะให้บริการขนส่งทางราง
3. ภาครัฐสามารถกำหนดราคาที่เป็นธรรมสำหรับการใช้บริการระบบขนส่งทางราง
4. ผู้โดยสารจะได้รับการคุ้มครองจากผู้ให้บริการ เช่น มาตรการชดเชยในกรณีที่มีอุบัติเหตุหรือมีเหตุให้ล่าช้า
5. ส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ในระบบราง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันด้านราคา การบริการ เป็นทางเลือกให้ผู้ใช้บริการ
“ใบอนุญาต-ใบขับขี่รถไฟฟ้า”รอปีหน้าจากรัฐบาลใหม่
*กฎหมายให้อำนาจ “กรมราง”คลอดไม่ทันชุดนี้
*เช่นเดียวกับค่ารถไฟฟ้าจะถูกลงลุ้นรัฐบาลหน้า
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/751499699760600
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 02/03/2023 11:47 am    Post subject: Reply with quote

กรมราง-สทร.เร่งต้นแบบตู้คอนเทนเนอร์ แก้ปัญหาขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ ทดลองวิ่งรับทุเรียนใต้ปลายปี
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11:28 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11:28 น.

กรมราง ผลักดันขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ ร่วมสถาบันวิจัยระบบรางฯผลิตต้นแบบตู้คอนเทนเนอร์ ทดสอบใช้ขนส่งทุเรียนภาคใต้ปลายปีนี้ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มปริมาณส่งออก เผยผลผลิตทุเรียนพุ่งกว่า 1 ล้านบาทตัน มีมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้าน

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2566 นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่กำกับติดตามแก้ไขปัญหาอุปสรรคการขนส่งสินค้าทางรางที่จังหวัดระยอง-จันทบุรี ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (สทร.) และคณะตรวจเยี่ยมจากกรมการขนส่งทางราง สำรวจความต้องการของผู้ประกอบกิจการขนส่งทางรางแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) เพื่อส่งเสริมการเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางราง ให้มีมาตรฐานและรองรับความต้องการของตลาดโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกระดับการส่งออกของประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ



นายอธิภู กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ กรมราง สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ร่วมด้วยนายณรงค์ ชูสลับ นายสถานีรถไฟมาบตาพุด เจ้าหน้าที่จากบริษัท เก้าเจริญ เทรน ทรานสปอร์ต จำกัด และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ได้มีการหารือในเรื่องกระบวนการการขนส่งสินค้าทางราง แบบควบคุมอุณหภูมิ พร้อมรวบรวมปัญหาอุปสรรคและหาแนวทางแก้ไขในกระบวนการการขนส่งสินค้าทางรางแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการขนส่งผลไม้ผ่านระบบการขนส่งทางรางเพิ่มขึ้น

เพื่อให้เกิดการลดต้นทุนการขนส่ง ลดระยะเวลาในการขนส่ง ทำให้สินค้าเกษตร ผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น และมีคุณภาพตามมาตรฐานกำหนด



โดยเฉพาะผลผลิตทุเรียนของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดย ในปี 2565 มีปริมาณผลผลิต 1,250,000 ตัน ปริมาณการส่งออกทุเรียน 916,671 ตัน และมูลค่าการส่งออกทุเรียน 125,787 ล้านบาท ส่วนมากส่งออกทุเรียนไปจีน จำนวน 878,721 ตัน และมีมูลค่าการส่งออกทุเรียนไปจีน จำนวน 120,922 ล้านบาท ซึ่งทุเรียนสดมีปริมาณและมูลค่าการส่งออกมากที่สุด รองลงมาคือ ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง โดยสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดการณ์แนวโน้มผลผลิตทุเรียนของประเทศไทยในปี 2566 จะมีทุเรียนรวมทั้งประเทศประมาณ 1,492,819 ตัน



โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบรางอยู่ระหว่างผลิตต้นแบบตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐานให้พร้อมทดสอบใช้งานรองรับการขนส่งทุเรียนจากภาคใต้ซึ่งจะมีผลผลิตปลายปี

การส่งเสริมการเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิผ่านการขนส่งทางราง จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้ง งานวิจัยและโครงการความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐดังกล่าว ถือเป็นจุดสำคัญในการการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาใช้การขนส่งทางรางมากขึ้น ก่อให้เกิดการสร้างศักยภาพทั้งการเดินทางการขนส่งทางราง ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานทางรางได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 02/03/2023 8:02 pm    Post subject: Reply with quote

DRT NEWS รวมข่าวเด่นประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ดาวน์โหลดเพื่อติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ https://anyflip.com/isges/xioe/
ติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมการขนส่งทางรางที่น่าสนใจผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Youtube : กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม
Website : drt.go.th
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/506210928370041
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/03/2023 8:28 am    Post subject: Reply with quote

'แผนพัฒนาคน'เติมขนส่งระบบรางดีมานด์โต30%ตามโปรเจกต์รถไฟฟ้าจบ
Source - กรุงเทพธุรกิจ
Friday, March 03, 2023 04:08
วรรณิกา จิตตินรากร

ระบบขนส่งทางราง นับเป็นอีกหนึ่งพระเอกของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากงบประมาณการลงทุนที่กระทรวงคมนาคมตั้งไว้ในปี 2566 มูลค่ารวม 124,839 ล้านบาท พบว่าจัดสรรเพื่อพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางรางสูงสุดด้วยมูลค่า 83,147 ล้านบาท คิดเป็น 66.6% ของวงเงินการลงทุนทั้งหมด ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวเพื่อผลักดันให้ระบบขนส่งทางราง กลายเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ เพิ่มสัดส่วนให้ถึง เป้าหมาย 30%

พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ฉายภาพถึงการเติบโตของระบบขนส่งทางรางว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างเร่งรัดการลงทุนเพิ่มโครงข่ายระบบรางทั้งในส่วนของรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 และรถไฟทางคู่สายใหม่ รวม 17 เส้นทาง เพื่อเพิ่มระยะทาง ครอบคลุมทั่วประเทศ 2,932 กิโลเมตร การพัฒนารถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) รวมทั้งสิ้น 1,673 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกหลายเส้นทาง

อย่างไรก็ดี จากการเติบโตของระบบขนส่งทางรางที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าเมื่อโครงการระบบ ขนส่งทางรางที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนก่อสร้างเริ่มทยอยแล้วเสร็จ จะส่งผลให้เกิดปัญหาบุคลากรขาดแคลน โตไม่ทันต่อโครงข่าย

ระบบรางและอุตสาหกรรมที่กำลังจะเปิดให้บริการ โดยกรมฯ ประเมินว่า อุตสาหกรรมระบบรางในไทยจะต้องการ บุคลากรในส่วนของพนักงานขับรถไฟ

และรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นราว 30% จากปัจจุบัน ที่มีอยู่ประมาณ 2 พันคน

ขณะที่สถานการณ์ภาพรวมขนส่งทางรางในประเทศไทยปี 2565 พบว่าเริ่มเผชิญปัญหาบุคลากรพนักงานขับรถไฟและรถไฟฟ้าเริ่มขาดแคลนแล้ว เพราะมีจำนวนขบวนรถในระบบรางอยู่ที่ 10,266 คัน แบ่งเป็นรถไฟโดยสารระหว่างเมือง 1,805 คัน รถไฟขนส่งสินค้า 7,677 คัน และรถไฟฟ้า 784 ตู้ ในขณะที่ จำนวนพนักงานขับรถไฟและรถไฟฟ้ามีอยู่เพียง 2 พันคน ซึ่งเฉพาะการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระบุว่า ปัจจุบันยังขาดแคลนพนักงานขับรถไฟราว 700 คน

พิเชฐ เผยด้วยว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตของขนส่งทางราง ยกระดับให้มีมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อกำกับดูแลนำไปสู่ความปลอดภัยของ ผู้โดยสาร ปัจจุบันกรมฯ อยู่ระหว่างศึกษา ออกแบบ และพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการและการออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางรางผ่านระบบดิจิทัล (e-License R) เพื่อเปิดให้พนักงานขับรถไฟและรถไฟฟ้าได้มาสอบเพื่อออกใบอนุญาตขับรถไฟและรถไฟฟ้า

อีกทั้งเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพนักงานในระบบ เนื่องจากพนักงานที่มี ใบอนุญาตนี้จะสามารถไปสมัครกับผู้ประกอบการเดินรถรายอื่นได้ด้วย นับเป็นการเพิ่มโอกาสการทำงานให้กับพนักงานขับรถไฟและรถไฟฟ้า โดย กรมฯ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการศึกษา 7 เดือนแล้วเสร็จ ดำเนินการควบคู่ไปกับขั้นตอนการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ.... ที่ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้

Click on the image for full size

สำหรับการออกใบอนุญาตด้านการขนส่งทางรางนั้น จะแบ่งเป็น 1.ใบอนุญาตสำหรับผู้ประการเดินรถ จะมีอายุใบอนุญาตเท่ากับอายุสัมปทาน ที่ผู้ประกอบการได้รับ 2.การออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประจำหน้าที่ อาทิ พนักงานขับรถ และพนักงานควบคุมรถ

มีอายุ 5 ปี ได้แก่ ใบอนุญาตขับรถไฟฟ้า ใบอนุญาตขับรถไฟดีเซล ใบอนุญาตขับรถไฟฟ้าความเร็วสูง ใบอนุญาตขับรถรางไฟฟ้า และใบอนุญาตประเภทอื่นๆ ตามที่อธิบดีฯ ประกาศ

และ 3.การจดทะเบียนรถขนส่งทางราง โดยรถขนส่งฯ จะต้องเข้ารับการตรวจสอบคุณลักษณะทุก 8 ปี ซึ่งหากมีการตรวจพบว่า พนักงานที่ปฏิบัติงานไม่มีใบอนุญาตจะมีโทษ ทั้งจำและปรับ โดยการขอใบอนุญาตทั้งหมดนี้จะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ เป็นการยกระดับมาตรฐานของระบบขนส่งทางราง ขณะที่พนักงานขับรถไฟและรถไฟฟ้าจะได้รับการรับรองว่ามีคุณสมบัติที่ดี และสามารถนำใบอนุญาตไปสมัครกับผู้ประการเดินรถรายอื่นได้ด้วย สำหรับขั้นตอนการขอใบอนุญาตและการจดทะเบียนผ่านระบบดิจิทัล ดังนี้ 1.การยืนยันตัวบุคคลกลางสำหรับการบริการภาครัฐ 2.การยื่นเอกสารและคำขอแบบออนไลน์ 3.การมอบหมายงานและแจ้งเตือน ผ่านเจ้าหน้าที่โดยอัตโนมัติ 4.การตรวจสอบข้อมูลและลงรับเอกสารแบบออนไลน์ 5.การรวบรวมเอกสาร สำหรับการพิจารณาก่อนเข้าอนุกรรมการ 6.ชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ และ 7.การจัดส่งใบอนุญาตรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้รายชื่ออิเล็กทรอนิกส์

พิเชฐ ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางราง พ.ศ.... ด้วยว่า ปัจจุบัน พ.ร.บ.การขนส่ง ทางราง พ.ศ.... ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 แล้ว แต่ไม่สามารถ เสนอพิจารณาทันการประชุมสภาครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ จำเป็นต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาครั้งใหม่ภายใต้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งตามข้อมูลคาดว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ในเดือน ส.ค.2566

ทั้งนี้ หาก พ.ร.บ.กรมรางฯ มีผลบังคับใช้ นอกจากการกำกับดูแลเรื่องของการออก ใบอนุญาตผู้ประกอบการ พนักงานขับรถไฟและรถไฟฟ้าแล้ว ยังจะมีการควบคุมในส่วนของเพดานราคาค่าโดยสารรถไฟและรถไฟฟ้าให้เป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ อีกทั้งจะส่งผลให้ระบบขนส่ง ทางรางยกระดับมาตรฐานให้สอดคล้องกับ การขยายตัวที่เกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ที่มา: นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 3 มี.ค. 2566
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 45059
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 07/03/2023 7:31 am    Post subject: Reply with quote

จัดรถไฟปรับอากาศ184คัน1.4หมื่นล.
Source - เดลินิวส์
Tuesday, March 07, 2023 05:45

ขร.แนะรฟท.ลุยเพื่อประชาชน

รถเก่าเสียบ่อย-จบปัญหาดีเลย์

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ ขร. จะลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์อีกรอบ ตามข้อเสนอแนะของ ขร. ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อยู่ระหว่างแก้ไข รวมถึงข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่ ขร. ตรวจพบภายหลังเปิดให้บริการรถไฟทางไกล กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว สายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ที่สถานีกลางฯ ครบ 1 เดือน

ปัญหาที่แก้ไขแล้ว มีดังนี้
1.ติดตั้งจอแสดงข้อมูลสถานะขบวนรถ บริเวณพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร ทั้งแบบจอติดตั้งบนฝ้าเพดาน และติดตั้งระดับพื้นแสดงข้อมูลขบวนรถไฟ ชานชาลา และเวลาที่ขบวนรถไฟออกจากสถานีตามเวลาจริง (Real time)
2. ปรับปรุงจอแสดงข้อมูลตารางเวลาเดินรถบริเวณประตู 4 (จอใหญ่) มีข้อมูลตารางเวลาเดินรถภาษาไทย สลับภาษาอังกฤษ
3. เปิดให้ผู้โดยสารขึ้นชานชาลาได้จากบริเวณทิศใต้ของสถานีอำนวยความสะดวกผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเชื่อมต่อการเดินทาง
4.แก้ไขป้ายด้านข้างขบวนรถไฟ ซึ่งสะกดชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ผิด
5.ปรับปรุงป้ายให้ข้อมูลการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงบริเวณภายในสถานีบางซื่อของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
6.เพิ่มเก้าอี้พักคอยบริเวณที่นั่งพักคอยบนชั้น 1 รองรับผู้โดยสารได้เพียงพอ และ
7.รถไฟเข้าชานชาลาตรงเวลามากขึ้น ทำให้ไม่มีการสะสมของผู้โดยสารบริเวณชั้นพักคอย และทำให้การสะสมของควันในชั้นชานชาลาน้อยลง ทั้งนี้การตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และ PM 10 ภายในสถานีกลางฯ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (ไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร)

นายพิเชฐ กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาที่อยู่ระหว่างแก้ไข ได้แก่
1.วินรถจักรยานยนต์ไม่มีราคาแสดงให้ชัดเจน
2.ป้ายสายรถประจำทาง ยังเป็นป้ายชั่วคราวที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก
3.ขาดการประชาสัมพันธ์เรื่องรถ shuttle bus รับ-ส่ง
4. ขาดเก้าอี้พักคอยบริเวณรอรถโดยสารประจำทาง และ
5.บริเวณร้านอาหาร มีโต๊ะ และเก้าอี้ไม่เพียงพอสำหรับผู้มาทานอาหาร

ส่วนข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากการที่ ขร. ลงพื้นที่ติดตามเมื่อครบ 1 เดือน มีดังนี้
1.ควรติดตั้งราวกันตกเพื่อป้องกันผู้ใช้ทางเท้าพลัดตกอุโมงค์ทางลอด เข้าที่จอดรถยนต์สถานีกลางฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่างระดับ และมีความสูงหลายเมตร
2. ติดตั้งเครื่องตรวจตั๋วโดยสารบริเวณพื้นที่พักคอย เพื่อตรวจตั๋วโดยสารได้รวดเร็วขึ้น และ
3.แก้ไขหมายเลขป้ายประตูสถานี ไม่ถูกต้อง

ในส่วนของปัญหาขบวนล่าช้ากว่ากำหนด (ดีเลย์) พบว่า มีสถิติที่ดีขึ้นต่อเนื่อง บางวันไม่มีปัญหาดีเลย์เลย ขร. ให้ข้อคิดเห็นเรื่องการแก้ปัญหาว่าปัจจุบันรถจักร และรถไฟในความรับผิดชอบของ รฟท. มีอายุการใช้งานมานาน ส่งผลให้มีรถไฟขัดข้องบ่อยครั้ง ประกอบกับ รฟท. มีรถหมุนเวียนไม่เพียงพอ ทำให้รถไฟเกิดความล่าช้า จึงขอให้ รฟท. เร่งจัดหารถโดยสารปรับอากาศ เพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์ 184 คัน โดยปรับปรุงข้อมูลตามความเห็นสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้เป็นปัจจุบัน และเสนอกระทรวงคมนาคมอีกครั้งตามขั้นตอนก่อน

นำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป รวมถึงจัดหารถโดยสารอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อแก้ปัญหารถไฟหมุนเวียนไม่เพียงพอ และรองรับรถไฟทางคู่ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากนี้ควรบำรุงรักษารถจักร และรถไฟที่มีอยู่ตามรอบการซ่อมบำรุง ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน หากบุคลากรซ่อมบำรุงไม่เพียงพอ ควรรับบุคลากรเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับจำนวนรถ หรือพิจารณาจ้างเหมาซ่อมบำรุงจากภายนอก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงานของเจ้าหน้าที่ การจ้างเหมาซ่อมบำรุง ให้รับประกันผลงานซ่อม

รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการจัดหารถโดยสารดีเซลรางปรับอากาศ 184 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท รฟท. ยังจัดให้เป็นรถที่ใช้พลังงาน 2 ระบบทั้งเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล และไฟฟ้า (Bi-Mode Multiple Unit : BMU) ส่วนนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่มุ่งเน้นให้จัดซื้อรถโดยสารดีเซลรางใหม่ในรูปแบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (EV on Train) จากการพิจารณาเบื้องต้นพบว่า ควรรอดูความชัดเจนในการให้บริการเชิงพาณิชย์รถไฟ EV ของต่างประเทศก่อนจึงพิจารณานำมาใช้ในประเทศไทย เนื่องจากรถไฟไฟฟ้าใช้งบลงทุนสูง.

ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 8 มี.ค. 2566 (กรอบบ่าย)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 13/03/2023 6:10 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง ร่วมหารือแนวทางการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางรางของประเทศไทย
วันจันทร์ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17:39 น.

“กรมราง” หารือ ESCAP ตั้งเป้าหนุนใช้ไฟฟ้า-แบตเตอรี่ ลดคาร์บอนในขนส่งระบบราง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 19:37 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 19:37 น.


กรมรางหารือ ESCAP เผยแนวทางสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ตั้งเป้าลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางรางของประเทศไทย

วันที่ 13 มี.ค. 2566 นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เป็นประธานการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) เพื่อหารือแนวทางการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางรางของประเทศไทย

นายอธิภูกล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อหาแนวทางการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางรางของประเทศไทย เชื่อว่าการประชุมครั้งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและพัฒนานวัตกรรมใหม่สำหรับการลดคาร์บอนในระบบรางของประเทศไทย และเป็นก้าวสำคัญที่จะพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับภาคการขนส่งทางรางในประเทศไทย


การประชุม มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณารายงานแนวทางการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางรางของประเทศไทยที่อยู่ระหว่างดำเนินการโดย ESCAP เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งตระหนักถึงบทบาทสำคัญของการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางรางซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่มุ่งมั่นที่จะลดรอยเท้าคาร์บอน (Carbon footprint) ของรูปแบบการขนส่งทางราง

โดยการสนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่และพลังงานเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนในการขยายโครงข่ายระบบรางให้เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารให้มากขึ้น พร้อมไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินรถการซ่อมบำรุงและการก่อสร้าง

ทั้งนี้ ได้มีการนำเสนอแนวทางการลดคาร์บอนในภาคการขนส่งทางรางของประเทศไทย พร้อมทั้งข้อเสนอแนะซึ่งจะเป็นพื้นฐานในอนาคตที่ยั่งยืนของระบบรางในประเทศไทยโดย Mr. Marcelo Blumenfeld ผู้เชี่ยวชาญจาก Center for Railway Research and Education University of Birmingham
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/513364197654714
https://www.thailandplus.tv/archives/680635
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42828
Location: NECTEC

PostPosted: 30/03/2023 4:48 pm    Post subject: Reply with quote

กรมการขนส่งทางราง ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับ ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการด้านคมนาคมระหว่างไทยสหรัฐอเมริกา
วันอังคาร ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11:29 น.

วันนี้ (28 มี.ค. 66) นายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ขร. เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับ(Workshop on Grade Crossing Safety) ภายใต้ความช่วยเหลือด้านวิชาการระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา ภายใต้กรอบความร่วมมือหุ้นส่วนลุ่มน้ำโขง – สหรัฐฯ (Mekong – U.S Partnership : MUSP) โดยได้รับเกียรติจากนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้แทนแทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 30 มีนาคม 2566 ณ โรงแรม The Westin Grande Sukhumvit ถนนสุขุมวิท
สำหรับการประชุมปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีที่ใช้และมาตรการในการปรับปรุงความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับของประเทศไทย ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานการรถไฟกลาง (Federal Railroad Administration) กระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา รวมทั้งจะมีการลงพื้นที่จริง เพื่อถอดบทเรียนอุบัติเหตุ ณ จุดตัดทางรถไฟจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดราชบุรี
ทั้งนี้ ภายใต้ความช่วยเหลือด้านวิชาการระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา จะมีการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างความตระหนักรู้และแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนต่อไป



กรมการขนส่งทางราง และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงคมนาคม
สหรัฐอเมริกา ลงพื้นที่จุดตัดทางรถไฟและโครงการก่อสร้างรถไฟของไทย เพื่อสร้างมาตรฐานการเดินทางระบบรางให้มีความปลอดภัยระดับสากล

วันพฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 16:31 น.

กรมการขนส่งทางราง พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับ (Workshop on Grade Crossing Safety) ภายใต้ความช่วยเหลือด้านวิชาการระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา ภายใต้กรอบความร่วมมือหุ้นส่วนลุ่มน้ำโขง – สหรัฐฯ (Mekong – U.S Partnership : MUSP) ระหว่างวันที่ 28 – 30 มีนาคม 2566 ณ โรงแรม The Westin Grande Sukhumvit ถนนสุขุมวิท เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินทางระบบรางของไทยให้เทียบเท่าระดับสากล
นอกจากการประชุมดังกล่าวแล้ว คณะกระทรวงคมนาคมไทยและกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ยังได้ร่วมลงพื้นที่จุดทางรถไฟจังหวัดสมุทรสาคร บริเวณสถานีมหาชัยถึงที่หยุดรถบ้านขอม ซึ่งมีทางลักผ่านจำนวนมาก รวมทั้งโครงก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน ณ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่มีการก่อสร้างชานชาลาสูง และก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟต่างระดับ ทั้งนี้ ทางคณะกระคมนาคมสหรัฐฯ ได้มีข้อแนะนำ อาทิเช่น สถานีบ้านโป่ง ควรมีการบริหารจัดการการเดินข้ามชานชาลาของผู้โดยสาร ควรมีการป้องกัน ไม่ให้เดินข้ามราง เมื่อมีจุดข้ามที่เป็นสะพานลอยอยู่แล้วตรงกลางสถานี และจุดตัดเดิมบริเวณสถานีโพธาราม ควรจะปิดไปอย่างถาวร เนื่องจากมีสะพาน U-turn อยู่แล้ว รวมทั้งควรเพิ่มทางเดินของคน และทางของจักรยานยนต์และจักรยานที่สะพาน u- turn เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เป็นต้น ซึ่ง ขร. และหน่วยงานในสังกัดจะนำความรู้ที่ได้ทั้งจากการประชุมเชิงปฏิบัติการและการลงพื้นที่ มาประยุกต์ร่วมกับโครงการศึกษาเพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ ที่ ขร. ได้ดำเนินการแล้ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการป้องกันอุบัติเหตุ และมีความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนของประเทศเทียบเท่าระดับสากลต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 48, 49, 50 ... 64, 65, 66  Next
Page 49 of 66

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©