View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 12/03/2007 9:14 am Post subject: |
|
|
หลวงเมือง เป็นชาวตลาดพลูครับ ทุกอย่างที่เล่ามานั้น เห็นภาพลักษณ์สมัยก่อนได้ชัดเจนมากๆ ล่ะ |
|
Back to top |
|
|
chairat
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2008 Posts: 1023
|
Posted: 13/06/2008 4:29 pm Post subject: |
|
|
ผมได้มีโอกาสนั่งtokyo stanlessกับniigataบ่อยๆสมัยตอนเรียน น่าเสียดายที่ปัจจุบันไม่มี
โอกาสได้นั่งอีกแล้ว |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 27/08/2009 11:13 am Post subject: บันทึกย่านตลาดพลู โดยหลวงเมือง |
|
|
ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จากความทรงจำของ หลวงเมือง คิดถึงตลาดพลู ย่านเศรษฐกิจการค้าของคนจีน ยุคต้นรัตนโกสินทร์
คอลัมน์ สุวรรณภูมิ สังคมวัฒนธรรม
มติชนรายวัน ปีที่ 32 ฉบับที่ 11492 วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552
"ข้าพเจ้าเกิดที่ตึกแถวสองชั้นตลาดพลู" หลวงเมืองเขียนบอกไว้ในหนังสือตลาดพลู พิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน วางตลาดทั่วประเทศขณะนี้แล้ว ไปซื้อมาอ่านได้เลย
คัดมาตัดทอนแล้วปรับปรุงจัดย่อหน้าใหม่ จากหนังสือ
ตลาดพลู TALAT PHLU โดย หลวงเมือง
สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2552
ราคา 140 บาท วางตลาดแล้วทั่วประเทศไทย
ข้าพเจ้าเกิดที่ตึกแถวสองชั้นตลาดพลูและอยู่มาจนอายุ 37 ปี จึงย้ายโดยไม่ได้กลับไปอีกเลย แต่บ้านหลังนั้นยังเป็นชื่อข้าพเจ้า เป็นของกองรักษาที่หลวง พระคลังข้างที่ฯ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
ฝาผนังที่ก่ออิฐถือปูนหนา 1 ฟุต แข็งแรงมากก็จริง แต่เวลารถไฟแล่นผ่านตึกจะไหวทั้งหลังแม้จะห่างราวๆ 80 เมตร ไม่ทราบว่าตึกแถวที่อยู่ริมทางรถไฟจะไหวขนาดไหน ตึกแถวเหล่านั้นคงเป็นโบราณวัตถุไปแล้วด้วยสร้างก่อนข้าพเจ้าเกิด
เมื่อเด็กๆ จำได้ว่าพนักงานเก็บค่าเช่าจะเขียนไว้ที่บานประตูว่า "ห้องว่างให้เช่า" มีพนักงานเก็บค่าเช่าเป็นรายเดือน สวมเสื้อนอกคอปิดนุ่งผ้าม่วง หิ้วกระเป๋าเอกสาร หน้าแดงก่ำ ค่าเช่าเดือนละ 5 บาท 62 สตางค์
บ้านตลาดพลูชั้นบนมีที่บูชาพระ มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งซึ่งพ่อ "สร้าง" ไว้ตั้งแต่หนุ่มๆ ซึ่งข้าพเจ้ายังไม่เกิด พี่ชายคนหัวปีที่แก่กว่าข้าพเจ้า 12 ปี ก็ยังไม่เกิด ราคา 80บาท เดี๋ยวนี้ยังอยู่ มีพระปุริสลักษณะงามมาก อยู่คงมีอายุร้อยปีแล้วเช่นกัน
ที่บ้านนั้นพ่อเก็บเงินตราโบราณไว้หลายราคา มีเงินพดด้วงด้วยและมีถ้วยจานชามสังคโลก มีไหสีเขียว มีทะนานตวงข้าวสาร มีไม้ถือที่ทำจากหนังกระบือขวั้น มีโต๊ะ สีทอง และของเก่าต่างๆ ที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก รวมถึงพระเครื่องของหลวงพ่อพระครูวิหารกิจจานุการ (ปาน) วัดบางนมโค เหรียญชัยสมรภูมิของพี่ชายซึ่งมีบัตรมีลายเซ็นของ ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็หาย ส่วนถ้วยจานชามที่พี่ซื้อมาจากโกเบ ประเทศญี่ปุ่นแตกหมด
ภาพยนตร์ที่มาฉายวิกข้างบ้านเก็บค่าผ่านประตู 2 ราคา ผู้ใหญ่ 15 สตางค์ เด็ก 10 สตางค์ ที่นั่งดูหนังเป็นเก้าอี้แถวยาว เรือดชุมมหาวินาศ คนที่นุ่งกางเกงขาสั้นต้องนั่งยองๆ บนเก้าอี้เหมือนกันทั้ง 2 โรง นานๆ มีละครคณะแม่เลื่อนมาแสดง เก็บค่าดู 25 สตางค์ เป็นละครร้อง ตลาดพลูมีโรงหนัง 2 โรง จึงกลายเป็นที่ชุมนุมชนใหญ่เฉพาะกลางคืน กับวันเสาร์วันอาทิตย์
แผนที่แสดงย่านตลาดพลู ได้จากหนังสือ 3 วัดประวัติศาสตร์ ที่ระลึกในงานศพ นางสุทิน บุนปาน 7 มีนาคม 2552
น้ำฝนอาบได้ดื่มได้ เวลาฝนตกหนัก ข้าพเจ้าและพวกเด็กๆ แถวบ้านเล่นน้ำฝนกันอย่างสนุกสนาน วันหนึ่งลูกเห็บตก เด็กๆ วิ่งหลังแอ่นเข้าบ้านลูกเห็บก้อนเล็กลงมาจึงออกไปเล่นน้ำฝนกันใหม่ บางคนเก็บกินสนุกมาก
ฤดูร้อนน้ำในคลองบางหลวงมีรสกร่อยมาถึงตลาดพลู มีเรือไปบรรทุกน้ำประปามาขาย ข้าพเจ้ารู้สึกว่าน้ำประปาเป็นน้ำที่สะอาดที่สุด คนแถวบ้านข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยนอน อาบน้ำประแป้งแล้วออกมาเดินกันเกร่อ จนดึกจึงนอน ฝาผนังที่ก่ออิฐถือปูนบ้านเราในฤดูร้อน ตี 1 แล้ว ยังร้อนผ่าว ที่บ้านข้าพเจ้าไม่มีพัดลม พี่สาวต้องพัดให้จนหลับไป พระคุณหาที่สุดมิได้
ข้าพเจ้าไม่เที่ยวไกลบ้าน ไปได้ไกลแค่วัดกลางไม่กล้าข้ามไปวัดใต้ หรือวัดอินทาราม จนเรียนชั้นประถม 4 ได้ยินเรื่องเตียงของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงชวนเพื่อนๆ ไปดูกัน แต่ผู้ใหญ่คุยกันให้ข้าพเจ้าได้ยินว่า เคยมีทิด... (ข้าพเจ้าจำชื่อไม่ได้) ขึ้นไปนอนเล่นบนพระที่บรรทมของพระองค์แล้วเสียจริต เรื่องนี้เด็กแถวบ้านข้าพเจ้าทราบกันทุกคน
ตลาดพลูเป็นตำบลชนบทที่ใกล้ชิดจังหวัดพระนครเพราะมีการคมนาคมดี มีเรือไอเรือแท็กซี่และเรือจ้าง มีรถรางรถไฟผ่าน
ความเจริญมาถึงตลาดพลูอย่างกะทันหันเมื่อญี่ปุ่นบุก มีอาหารและขนมแปลกๆ มาขาย มีคนอพยพมาอยู่มาก รายได้ประชากรสูงขึ้นหลายเท่าตัว แต่ราคาสินค้ายังไม่สูง มีข่าวว่าทองขึ้นราคา คุณน้าข้างบ้านซึ่งมีทองมากประกาศว่าถ้าทองขึ้นถึงบาทละ 50 บาท จะขาย ส่วนก่อนสงครามทองร้านแม่สมบุญสะพานหันหนักบาทละ 20 บาท เพราะพี่สาวข้าพเจ้าไปซื้อ สมัยนั้นใครๆ ก็ซื้อทองร้านแม่สมบุญทั้งนั้น
ข้าพเจ้าเขียนเรื่องตลาดพลูเพราะเมื่อ 44 ปี มาแล้วนั่งรถเมล์จากฝั่งพระนครไปธุระที่ตลาดพลู ได้ยินคนแก่ๆ บนรถ 2 คนคุยกัน คนหนึ่งถามว่า "ตลาดพลูเดี๋ยวนี้ยังสนุกอยู่หรือ"
นั่นเป็นสิ่งที่ชักชวนใจของข้าพเจ้าให้คิดถึงตลาดพลูและคิดว่า ถ้ามีโอกาสจะเขียนเรื่องของตลาดพลูตามอัตภาพ ขอให้ท่านผู้อ่านมีความสุขสบายทั่วกัน และขอให้ประเทศไทยจงเจริญ เทอญ
...
วัดใต้ หรือวัดอินทาราม เดิมชื่อวัดบางยี่เรือใต้ ถัดไปทางทิศตะวันตกยังมีอีก 2 วัด คือวัดบางยี่เรือกลาง หรือวัดจันทาราม และวัดบางยี่เรือเหนือ คือวัดมอญ หรือวัดราชคฤห์
วัดเหล่านี้มีคลองเล็กที่แยกมาจากคลองบางหลวงคั่นทุกวัด จากวัดใหม่ท้องคุ้งไปวัดใต้ก็มีคลองคั่น จากวัดใต้ไปวัดกลางก็มีคลอง แต่วัดกลางกับวัดมอญติดกันมีคลองบางน้ำชนคั่นวัดมอญกับตลาดพลู
ข้าพเจ้าเริ่มรู้จักวัดอินทาราม หรือวัดใต้ ตั้งแต่เรียนประถม 4 ตามปกติจะไปได้แค่วัดกลาง เมื่อไปวัดใต้ทีแรกรู้สึกตื่นเต้น เพราะในใจข้าพเจ้ามีอิทธิพลของภาพยนตร์และนิยายประเภทลายแทงขุมทรัพย์ใต้ดินแฝงอยู่ไม่น้อย เช่น ภาพยนตร์เรื่อง "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" กับ "ผีตายซาก" และเรื่อง "สาวสองพันปี"
วัดใต้เป็นวัดที่สะอาด ไม่มีป่าช้าและการฌาปนกิจ เจ้าอาวาสคือท่านเจ้าคุณทักษิณคณิสร เขาว่าท่านดุมาก
วัดนี้ติดคลองบางหลวงและถนนเทอดไท บริเวณที่ปัจจุบันเป็นโรงเรียนนั้นเดิมเป็นลานกว้างเป็นทางเดินลัดจะไปวัดกลาง มีต้นตาล 3 ต้น ปลูกเป็นมุมสามเหลี่ยมเมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก ผู้ใหญ่สอนว่าอย่าเดินผ่านกลาง เพราะเคยเป็นที่ฝังพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
มีโบสถ์หรือวิหารขนาดไม่ใหญ่ประดิษฐานพระแท่นบรรทมแบบจีน มีเสาและมุมเสาข้างบนมีกระจกเป็นลายเขียนแบบงิ้ว รอบพระแท่นมีลูกสลักเป็นงาช้าง ยังไม่มีพระบรมรูปปั้น เพราะยังไม่ได้ปั้น
เมื่อผู้ใหญ่ได้ยินข้าพเจ้าพูดถึงเรื่องไปเที่ยววัดใต้ และเข้าไปในโบสถ์ที่มีพระแท่นบรรทมซึ่งทรงใช้ในการปฏิบัติพระกรรมฐาน ก็คุยกันว่าพระแท่นนั้นใครขึ้นไปนั่งนอนไม่ได้ เพราะนาย... เคยขึ้นไปแล้วเป็นบ้า
ข้าพเจ้าได้ฟังก็กลัวไม่กล้าแตะต้องสิ่งเหล่านี้ รวมทั้งสิ่งที่พระมหากษัตริย์ในปางก่อนเคยทรงใช้สอย ซึ่งมีอยู่ในพิพิธภัณฑสถานด้วย
ที่ข้าพเจ้าว่าเตียงนั้นเป็นพระแท่นบรรทม เพราะเห็นเช่นนั้นจริงๆ แต่คงจะมีพระราชศรัทธาให้อัญเชิญไปไว้ที่วัดใต้เพื่อทรงปฏิบัติพระกรรมฐาน ส่วนพระแท่นบรรทมนั้นประดิษฐานอยู่ที่วัดอรุณราชวราราม ใครที่ไปบวชวัดนั้นจะต้องนำดอกไม้ธูปเทียนไปถวายบังคม เป็นเตียงใหญ่แต่ใช้ไม้กระดานแผ่นเดียว
ตรงข้ามโบสถ์เป็นวิหาร และพระปรางค์เก่าปรักหักพัง แต่ยังทรงรูปเดิมอยู่บ้าง มีใบเสมาขนาดใหญ่จารึกอักษรภาษาอะไรอ่านไม่ออก บางคนบอกว่าเป็นหนังสือขอม แต่พวกข้าพเจ้าพยายามเชื่อว่าเป็นลายแทง
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นพระมหาบุรุษผู้ประเสริฐทรงพระมหากรุณาธิคุณแก่ชนชาติไทย เช่น สมเด็จพระมหาราชเจ้าทุกพระองค์ ทรงใฝ่พระราชหฤทัยในการปฏิบัติพระกรรมฐานเพื่อความพ้นทุกข์ จนเป็นเหตุให้พระยาสรรค์กับพวกคิด มิชอบก่อการกบฏขึ้นโดยอ้างว่าพระสติฟั่นเฟือน
สมัยนี้หนุ่มสาวที่ใฝ่ใจในทางธรรมมักถูกสงสัยว่าผิดปกติ การไม่ทรงปรารถนาราชสมบัติ ผู้บรรลุธรรมชั้นสูงในพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่จะเข้าใจ
ทางด้านริมคลองบางหลวงมีพระเจดีย์คู่หนึ่ง ผู้ใหญ่ชี้ให้ดูว่าองค์หนึ่งบรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ อีกองค์หนึ่งของพระมเหสี
เมื่อตอนที่ยังไม่ได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ เวลาที่มีงานเฉลิมวันชาติและงานฉลองรัฐธรรมนูญ มีอนุสาวรีย์เล็กๆ เป็นพระบรมรูปในพระราชอิริยาบถต่างๆ ให้ประชาชนหยอดเหรียญลงตู้ประจำพระราชาอนุสาวรีย์นั้น รูปที่ได้เงินมากแสดงว่าประชามติให้สร้างพระบรมรูปนั้น ปรากฏว่ารูปทรงม้าผงาดยกสองเท้าหน้า และทรงเงื้อพระแสงดาบได้เงินมากที่สุด
หลังสงครามจึงสร้างเสร็จ ได้เชิญม้าพระราชพาหนะมาก่อนโดยชะลอขึ้นไปบนฐาน ยกเสร็จยังไม่ทันอัญเชิญพระบรมรูป ปรากฏว่าฝนตกที่วงเวียนใหญ่และตลาดพลู 3 คืนติดต่อกัน จนชาวบ้านพูดกันว่าท่านอาบน้ำให้ม้าของท่าน
หน้า 20 |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44620
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 27/08/2009 11:54 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณคุณวิศรุตที่นำหนังสือมารีวิวให้อ่านกันครับ
ซื้อมาแล้วเหมือนกัน ยังไม่ได้เริ่มอ่านเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
kraisorn
3rd Class Pass
Joined: 10/04/2009 Posts: 36
|
Posted: 20/09/2009 6:54 am Post subject: |
|
|
ทันขึ้นรถ 2 คันนี้ครับ
Teikoku --- ตอนนี้ จอดเป็นสุสานที่ มหาชัยครับ แถวๆก่อนถึง สถานีมหาัชัย
รถไฟสายนี้ ค่อนข้างผูกพันธ์กับผมเหมือนกันเพราะ อยู่แถวบ้าน และขึ้นมาตั้งแต่เด็ก และลุงผมก็เคยขับรถไฟสายนี้ จนตอนนี้แกเกษียณ์ มา 10 กว่าปีแล้ว ตอนเด็กๆ ไปบ้านญาติไปซื้ออาหารทะเลที่มหาชัย ก็ขึ้นรถสายนี้ พอได้อาหารทะเลมาแล้ว ก็ต้องนั่งสาย 3 ไปทำกินกันที่บ้านลุง ที่บ้านพักรถไฟ กม 11 อีก
และจำได้ สมัยเด็กๆ รถไฟสายนี้ ไม่ยอมจอดที่ การเคหะฯ
แต่พอจอด สถานีเคหะ คนใช้บริการค่อนข้างมาก
สมัยก่อนผมอยู่การเคหะอีกฝ่งทีต้องข้ามถนน มาเดินขึ้นรถไฟ แต่ตอนนี้ย้ายฝั่งมาอยู่ฝั่งรถไฟ
ขนาดบ้านอยู่ไกลสถานีเคหะ แต่ ก็ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ กับเสียงเร่งเครื่อง บ่อยๆ |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 20/09/2009 8:41 pm Post subject: |
|
|
อาคารชุดของการเคหะฯ ย่านบางบอน สมัยปี 2513-15 ยังไม่ได้สร้างครับ ถนนพระรามที่ 2 เพิ่งจะถมแกลบดำรองพื้นเท่านั้นเอง
ถึงแม้จะมีรถเมล์ไปถึงภายหลัง แต่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่อาคารฯ การเคหะ จะนิยมเดินข้ามคลองมาขึ้นรถไฟที่ผ่านใกล้ๆ สะดวกกว่า |
|
Back to top |
|
|
tong_sanam
1st Class Pass (Air)
Joined: 15/05/2007 Posts: 1550
Location: พิกัดที่ 385.593
|
Posted: 06/03/2010 1:44 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: |
ทางเข้าสถานี.....มีตู้ เอ.ที.เอ็ม ตั้งเป็นสง่าปลายเส้นทางพอดี
|
ตอนที่ พี่ตึ๋งถ่ายไว้มันเป็นธนาคารกรุงศรีอยุธยา แต่ล่าสุดเมื่อเดือนมกรา 53 ผมไปกดมันเป็นของ ธ.กรุงเทพไปแล้วครับ _________________
"ที่นี่สถานีชุมทางสนามชัยเขต
ท่านที่จะเดินทางไป จันทบุรี ตราด
โปรดข้ามไปรอการโดยสารในชานชาลาที่ 2"
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 07/03/2010 12:04 am Post subject: |
|
|
อ้าว...เปลี่ยนธนาคารไปแล้วหรือ ? ขอบคุณที่แจ้งข่าวล่าสุดได้ทราบครับ |
|
Back to top |
|
|
kikoo
1st Class Pass (Air)
Joined: 01/02/2010 Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง
|
Posted: 10/03/2010 9:47 pm Post subject: |
|
|
ชักอยากไปเที่ยววงเวียนใหญ่-มหาชัยแล้วสิ |
|
Back to top |
|
|
|